 LOGIN
LOGIN[ร้านอาหารญี่ปุ่น...ช่วงเวลายามบ่าย]
“เตยจะบอกข้าวว่า เตยไม่รู้ว่างานที่เตยไปสมัครนั้นเป็นบริษัทของท่านชายคินน์งั้นเหรอ สาบานนะว่าไม่รู้จริงๆ”
“อือ ไม่รู้ แต่ไม่สาบานนะ”
“สรุปคือรู้ใช่มั้ย”
“อือ...ทำไมล่ะข้าว ไปทำงานนี่นั่นก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เตยไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีประเด็นอะไรกับท่านชายคินน์ซะหน่อย ก็ปกตินะ”
“ก็ไม่ได้มีอะไรหรอก ข้าวแค่แปลกใจก็เท่านั้นเอง ก็ไม่ได้คิดที่จะต่อว่าเตยเลย และข้าวยิ่งรู้มาว่าคุณธนนท์เป็นรองประธานบริษัทด้วยแล้ว ข้าวก็เลิกสงสัยแล้วแหละ”
“ข้าวรู้มั้ยว่าพี่นนท์เขายังโสดนะ หืม หล่อขึ้นเป็นกองเลยนะ เตยเห็นตรงบอร์ดผู้บริหารตอนไปสัมภาษณ์งาน พี่นนท์ดูเป็นผู้ใหญ่มาก ตอนนี้พี่เขาก็น่าจะอายุ 29 แล้วแหละ เตยสนใจแค่พี่นนท์เขายังโสดนี่แหละ พี่นนท์คือแรงจูงใจอย่างหนึ่งนะ ที่ทำให้เตยทำข้อสอบตอนสมัครงานผ่านน่ะ”
“เตย...คุณนนท์เขาเจ้าชู้มากเลยนะ ข้าวว่าเอาเวลาที่เตยไปคลั่งไคล้คุณนนท์เนี่ย ไปจีบหนุ่มคนอื่นดีกว่า เตยทั้งสวยและน่ารักออกอย่างนี้ ข้าวเชื่อว่าหาได้หล่อกว่าคุณนนท์ซะอีก”
“แต่เตยชอบพี่นนท์คนเดียวนี่ ไม่ได้อยากชอบคนอื่น อืม แต่ถ้าตอนนี้พี่นนท์เห็นข้าวล่ะก็ พี่นนท์ต้องกลับมาชอบข้าวแน่ๆ เลยว่ามะ...”
“มองข้ามข้าวไปได้เลยเตย กับคุณนนท์ข้าวไม่ได้คิดจะชอบตั้งแต่แรกแล้ว สบายใจได้”
“ถึงข้าวจะชอบพี่นนท์ก็ไม่เป็นไรนะ เตยไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วเพราะพี่นนท์เขาชอบข้าวมาตั้งแต่แรกแล้วนี่...เอ่อ...แล้วสรุปข้าวพักอยู่บ้านพี่นนท์ใช่มั้ย แล้วจะมาสมัครงานที่บริษัทนี่ด้วยหรือเปล่าล่ะ”
“อือ ก็คงจะประมาณนั้นแหละ ข้าวตัดสินใจตอบท่านชายคินน์ไปแล้ว อย่างน้อยก็ช่วงเวลาที่รอภัทรเรียนจบ มีที่ซุกหัวนอน มีงานทำ มีเงิน ก็โอเคนะ ไม่รู้ว่าข้าวจะต้องหยิ่งไปทำไม”
ขวัญข้าวสรุปให้ตัวเองเสร็จสรรพ เธอไม่ได้เป็นคนที่คิดซับซ้อนอะไรมาก ตอนนี้เธอเป็นคนใหม่ ที่ใครก็ไม่สามารถมารังแกเธอได้อีกแล้ว แม้กระทั่งท่านชายอคิราห์เอง ขวัญข้าวก็ไม่หวั่น
“อุ้ย! ดีจังเลยข้าว ที่ข้าวคิดได้แบบนี้ คุณลุงของข้าวที่จากไปท่านก็อยากให้ข้าวทำแบบนี้แน่นอนเลย ไม่งั้นเขาจะมอบสมบัติให้กับข้าวทำไม เตยว่ารับความหวังดีพวกนี้ไว้เถอะ สมัยนี้ มีเงินจะปลอดภัยจากทุกสิ่งนะ แม้กระทั่งความรัก”
“หมายความว่าไงความรัก”
“ก็หมายความว่า ถ้าให้เตยเลือกระหว่างเงินกับความรัก เตยก็จะเลือกเงินไงข้าว โอ้ย สมัยนี้แล้ว ความรักกินไม่ได้หรอก เงินต่างหากที่บันดาลทุกสิ่ง เงินเท่านั้นที่ knock everything ธนบัตรเท่านั้น ที่ทำให้เราได้โบยบิน ^<>^”
“แหม ข้าวคิดว่าเตยจะเป็นผู้มั่นคงในรักซะอีก ที่ไหนได้”
“นั่นมันในนิยายจ้า ความรักพระเอกนางเอกที่มั่นคงต่อกัน โดยไม่สนใจว่าจะมีกินหรือเปล่านั่นเหรอ เตยไม่เอาหรอก สำหรับพี่นนท์ เตยก็ได้แต่ชอบแอบปลื้มเท่านั้นแหละ แต่ถ้าได้ก็ดีนะ ^<>^ ”
“แหม เพื่อนข้าวนี่ไม่เบาเลยนะ”
“ใช่ดิ พี่นนท์น่ะโอปป้าเลยนะ เอ่อ แล้วข้าวรู้หรือเปล่า ว่าท่านประธานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์ยังโสดนะ อายุ 36 แล้วก็ยังไม่มีใครเลย ไม่แต่งงาน ไม่มีแฟนเลย อืม หรือว่าท่านชายคินน์จะเป็นเกย์นะ”
“นี่ขนาดเตยยังไม่ได้เข้าไปทำงานนะ เตยยังรู้เรื่องขนาดนี้ สงสัยเอาเวลาว่างไปส่องคนอื่นแน่นอน”
“ข้าวไม่รู้เหรอ ว่าท่านชายคินน์น่ะฮอทขนาดไหน ในกลุ่มหนุ่มไฮโซที่ทั้งหล่อ และรวยเป็นหมื่นล้าน และยังติดหนึ่งในหนุ่มหล่อรวยผู้มั่งคั่งของนิตยสารดังของต่างประเทศด้วยนะ ข้าวนี่สงสัยไม่เคยเสพข่าวเลยงั้นสิ อยู่ตั้งอเมริกา”
“ข้าวไม่ได้สนใจท่านชายอคิราห์อยู่แล้วนี่ อีกอย่างเรื่องของท่านชาย ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับข้าวเลย ทำไมข้าวจะต้องไปติดตามด้วยเล่า ข้าวไม่ได้เหมือนเตยนะ ที่จะต้องตามติดหรือตามส่องหนุ่มๆ จนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว”
“อุ้ย! เทศนาซะยาวเลย เตยเกือบจะบรรลุนิพพานแล้วเนี่ยข้าว ฮ่า ฮ่า”
“ทำเป็นหัวเราะไป ระวังเหอะ มาๆ กินกันเถอะ วันนี้ข้าวเป็นเจ้ามือเลี้ยงเตยเอง ฉลองงานใหม่นะ”
“จริงๆ ต้องเป็นเตยมากกว่านะที่ต้องเลี้ยงต้อนรับข้าวน่ะ แต่เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน อืม หรือว่าจะรอเงินเดือน เดือนแรกดีกว่านะ ดีมั้ยข้าว”
“จะวันไหนก็ตามใจเตยเถอะ ข้าวว่าเรากินกันเถอะ เร็ว”
......................
[คฤหาสน์วรารักษ์เมธานนท์...เวลายามเย็น]
ขวัญข้าวกำลังเดินเข้ามายังภายในคฤหาสน์หลังจากที่เธอกับชมพูนุทอิ่มจากการฉลองของพวกเธอมาแล้ว ขวัญข้าวเดินผ่านห้องโถงเพื่อที่จะไปยังห้องของเธอ
“ขวัญข้าว”
“...” เสียงทุ้มของผู้ชายทำให้ขวัญข้าวหันไปยังเสียงเรียกนั้นทันที แต่ภาพที่เธอเห็นนั้นก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อย ชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีสไตล์โอปป้าของเพื่อนเธอกำลังร้องเรียกเธอนั่นเอง
“สวัสดีค่ะคุณนนท์” ขวัญข้าวยกมือไหว้ชายหนุ่มที่เคยจะจัดการเธออยู่หลายครั้งเมื่อในอดีต
“พี่ได้ยินมาว่า ข้าวกลับมาแล้ว วันนี้ก็เลยมาดักรอข้าวที่นี่ เป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือเปล่า พี่แทบจำข้าวไม่ได้เลยนะ”
“อ่อ ค่ะ” ขวัญข้าวสะดุดสรรพนามแทนตัวเองของธนนท์ เมื่อก่อนเขาไม่ได้แทนตัวเองแบบนี้นี่ อืม ก็คงจะเปลี่ยนไปแหละ ผ่านมาตั้ง 7 ปีแล้ว ขนาดขวัญข้าว คนอื่นยังบอกว่าเปลี่ยนเลย
“นั่งคุยกับพี่ก่อนสิ”
“ค่ะคุณนนท์”
“ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณหรอกขวัญข้าว ยังไงเราก็อยู่บ้านเดียวกัน และเห็นกันมาตั้งแต่เด็กเลยนะ ไปเรียนต่ออเมริกาทั้งที ไม่เคยจะบอกกล่าวพี่เลยนะ”
ธนนท์กวาดมองดวงหน้าสวยรูปไข่ ขวัญข้าวเปลี่ยนไปจนธนนท์จำไม่ได้เลย จากที่เคยสวยน่ารักอยู่แล้ว กลับเพิ่มขึ้นไปอีก
“ตอนนี้ ข้าวเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องไปไกลขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ท่านชายคินน์ให้ข้าวกับน้องไป ก็เลยไม่อยากขัดใจท่านชายคินน์ค่ะ”
ธนนท์ในวันนี้ดูแปลกตาไปเหมือนกันนะ เขาสวมแว่นตาราวกับคุณหมอหนุ่ม ผิวขาว สไตล์โอปป้าอย่างที่เพื่อนของเธอไม่มีผิด ขวัญข้าวก็พึ่งสังเกตเขาใกล้ๆ ก็วันนี้แหละ
“ขวัญข้าว...พี่มีเรื่องจะคุยกับข้าวน่ะ”
ธนนท์ครุ่นคิดทั้งวันถึงเรื่องการขอโทษเธอ เมื่อก่อนเขายังเป็นวัยรุ่นอายุแค่ 22 อาจจะทำหยาบคายกับเธอไปบ้าง วันนี้เขาก็เลยอยากจะขอโทษ เพื่อจะได้ไม่มีเรื่องติดค้างในใจของเขาอีกต่อไป
 ทรายแมว
ทรายแมวกดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ ทรายแมว : เขียน

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย่า
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที่








