 LOGIN
LOGIN“ต๊าย! แก นังขวัญข้าว แกกล้าขัดใจชายคินน์เลยเหรอ นี่แกไม่รู้หรือแกล้งโง่กันแน่ ในอนาคตท่านชายคินน์ก็ต้องเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แล้ว แกช่างกล้านะ”
“ไม่เป็นไร ถ้าอยากจะอยู่ต่อล่ะก็ ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของเธอ อยากอยู่ก็แล้วแต่เธอล่ะกัน”
ใบหน้าคมกระตุกยิ้มราวกับมีบางอย่างอยู่ในใจ ความเจ็บปวดมักจะตามด้วยการแก้แค้นเสมอ ‘เธอรู้จักนายอคิราห์คนนี้น้อยไป’
[เวลาต่อมา...]
“พี่ข้าวจะอยู่ห้องนี้จริงๆ เหรอครับ”
“อืม...ก็ต้องอยู่ห้องนี้แหละ จะให้พี่ย้ายไปอยู่ห้องไหนกันล่ะ...ถ้าจะให้พี่ไป คุณลุงท่านต้องเป็นคนจัดการนะภัทร พี่ตัดสินใจเองไม่ได้หรอก”
บทสนทนาเมื่อครู่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนเหล่านั้นมาก พวกเขาช่างเป็นคนใจร้ายใจดำเหลือเกิน เธอในฐานะที่ไม่ได้รู้เห็นอะไรเลยกับเหตุการณ์ของความเกลียดชังนั้น แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่แยกแยะกันนะ
“พี่ข้าวไม่กลัวว่าท่านชายคินน์จะเล่นงานพี่เหรอครับ ภัทรว่าพี่ข้าวย้ายมาอยู่ห้องภัทรก็ได้นะครับ ห้องกว้างมากๆ”
ณภัทรเป็นห่วงพี่สาวเป็นอย่างมาก เขาเห็นแววตาของพวกคนใจร้ายนั้นแสดงความโกรธไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
“พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดนะภัทร ถ้าท่านชายคินน์อยากให้พี่ย้าย ท่านชายก็ต้องไปบอกคุณลุงสิ อย่าลืมนะว่าตอนนี้ คุณลุงเป็นเจ้าของบ้าน ภัทรจำไม่ได้เหรอ ว่าคุณลุงบอกเราสองคนว่าไง”
“จำได้ครับ...แต่ภัทรกลัวว่าท่านชายคินน์จะมาทำร้ายพี่ข้าวครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกภัทร ท่านชายคินน์ก็แค่โกรธเท่านั้นแหละ”
ขวัญข้าวรู้ว่าเขาไม่ใช่แค่โกรธอย่างที่เธอบอกน้องแน่นอนระยะเวลาที่ขวัญข้าวอยู่ที่นี่หกเดือนนั้น เธอรู้ว่าหม่อมราชวงศ์อคิราห์นั้นหมายหัวแม่ของเธอเอาไว้ แต่ทว่าแม่ของเธอมาด่วนจากไปเสียก่อน เพราะฉะนั้นคนต่อไปก็ต้องเป็นเธอกับน้องอย่างแน่นอน
ปึ่ง! ปึ่ง! เสียงทุบประตูห้องดังสนั่น
แกร๊ก! ประตูถูกเปิดโดยพลการในเวลาต่อมา
ปึก! เอกสารจำนวนหนึ่งถูกโยนลงพื้นตรงหน้าคนทั้งสอง
“คุณท่านให้ฉันเอาตารางการทำงานมาให้แกสองคน ฉันมอบหมายงานในแต่ละวันให้แกแล้ว ส่วนอีกอันหนึ่งคือตารางเข้าออกตึกนี้ คุณท่านบอกว่า ถึงแม้คุณท่านนวพลจะอนุญาตให้แกอยู่ในตึกนี้ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าแกสองคนจะเที่ยวเดินเข้าออกตามใจ เพราะฉะนั้นอ่านรายละเอียด และปฏิบัติทุกอย่างให้เคร่งครัดด้วย”
“ค่ะคุณป้า”
“นี่! ใครเป็นป้าแกยะ...ฉันอายุ 45 เองนะ อย่ามาเรียกฉันแบบนี้ และอีกอย่างฉันก็ไม่ใช่ญาติของแกด้วย”
“แล้วจะให้หนูเรียกว่าอะไรล่ะคะ”
“คุณอบเชย”
“ค่ะคุณอบเชย”
“ดี! บอกน้องแกด้วย มีอะไรข้องใจก็ถามฉันได้ อย่าเที่ยวไปเสนอหน้าในเขตหวงห้ามเด็ดขาด ไม่งั้น คุณท่านไม่เอาแกสองคนไว้แน่! เข้าใจมั้ย!”
“เข้าใจค่ะคุณอบเชย”
“ฮึ่ม...ดี!!! เข้าใจง่ายๆ ไม่ดื้อไม่แข็งข้อ แบบนี้แกถึงจะอยู่บ้านหลังนี้ได้...แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานหรือเปล่านะ แล้วแต่เวรแต่กรรมของแกล่ะกัน”
[โรงเรียนรัฐแห่งหนึ่ง...กรุงเทพมหานคร]
“พี่นนท์เขาน่ารักมากๆ เลยนะข้าว ตอนนี้ยิ่งเตยรู้ว่าข้าวอยู่บ้านเดียวกับพี่เขาแล้ว ตื่นเต้นสุดๆ เลยอ่ะ เตยไปเที่ยวหาข้าวได้มั้ย...คือเตยอยากเจอพี่นนท์น่ะ”
“คุณนนท์ไม่ได้เป็นอย่างที่เตยเห็นนะ ข้าวว่าเตยอย่าไปชอบพี่เขาเลยนะ”
ขวัญข้าวรีบเตือน‘ชมพูนุท’ หรือ ‘ใบเตย’ เพื่อนรักตั้งแต่สมัยอนุบาลของเธอทันที ขวัญข้าวรู้ว่าชายที่เพื่อนเธอชอบนั้น ไม่ธรรมดา ขวัญข้าวไม่ได้ปิดกั้นเพื่อนของเธอเลยนะ แต่เธอรู้มาว่า คุณธนนท์หรือพี่นนท์ที่เพื่อนเธอชอบน่ะ ไม่ได้เป็นอย่างที่เพื่อนเธอเพ้อฝันเลยสักนิด
“เตยรู้...เตยไปส่องไอจีพี่เขาแล้วนะ พี่เขาเปลี่ยนสาวๆ ไม่ซ้ำหน้าเลยนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เขาหล่อขนาดนั้น จะไม่มีคนชอบได้ยังไงล่ะ”
ชมพูนุทรู้ทุกอย่างที่เพื่อนเธอบอก แต่จะให้เธอทำยังไงล่ะ ในเมื่อเธอชอบพี่เขาไปแล้ว จุดเริ่มต้นเกิดจากที่พี่เขาติดตามขวัญข้าวเพื่อนของเธอในไอจี หลังจากนั้นชมพูนุทก็ได้เข้าไปส่องในไอจีเขาอยู่บ่อยๆ จนเกิดเป็นความชอบและคลั่งไคล้หนักขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งมารู้ว่าเพื่อนเธออยู่บ้านเดียวกับเขาอีก
“เตย...ข้าวเตือนเตยแล้วนะ ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของข้าวคือคนของบ้านวรารักษ์เมธานนท์ ซึ่งก็รวมพี่เขาด้วยนะ”
“อืม...สรุปคุณลุงรู้เรื่องนี้หรือยังข้าว”
“จะรู้ได้ยังไง...ข้าวไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะเข้าใกล้คุณลุงเลยด้วยซ้ำ ก็ได้แต่โทรบ้าง แต่ข้าวก็ไม่อยากเอาเรื่องนี้ไปรบกวนคุณลุงเลยนะเตย”
“แล้วตอนนี้...คนพวกนั้นทำอะไรข้าวบ้างล่ะ พี่นนท์ไม่ได้เข้ามา...เอ่อ...แกล้งข้าวด้วยใช่มั้ย”
“คุณนนท์ไม่ได้เป็นอย่างที่เตยเห็นนะ...ข้าวจะบอกเตยยังไงดีล่ะ...เอาเป็นว่าเตยเลิกชอบพี่เขาเถอะ”
แค่เธอเห็นแววตาของเขาที่มองมาที่เธอ ขวัญข้าวก็รู้ได้ในทันทีว่า ธนนท์ไม่ได้มีจุดประสงค์ดีต่อเธอเลย เขาไม่ได้จะทำร้ายเธอหรอกนะ แต่เขามักจะพูดจาในเชิงชู้สาวกับเธอ เพื่อหวังบางอย่างจากเธอมากว่า
“พี่เขาจีบข้าวใช่มั้ย หรือพี่เขาชอบข้าว อืม เตยรู้หมดแหละว่าพี่เขาเป็นยังไง แต่เตยชอบพี่เขาไปแล้วอ่ะ จะให้ทำยังไงข้าว รู้ว่าพี่เขาไม่โอเคนะ แต่เตยก็ยังชอบพี่เขา เตยเข้าใจความหวังดีของข้าวนะ คนมันชอบไปแล้วอ่ะ จะให้ทำยังไงล่ะ”
“อือ งั้นก็แล้วแต่เตยแล้วกันนะ ส่วนเรื่องที่จะไปหาข้าวที่บ้านล่ะก็ ตอนนี้ข้าวยังไม่สะดวกหรอกนะ ข้าวยังลำบากอยู่เลย ข้าวกับภัทรต้องทำงานทุกวัน เวลานอนก็แทบจะไม่มีเลยนะ”
ตารางงานที่หัวหน้าแม่บ้านเอาให้เธอกับน้องนั้น มันแน่นเอี๊ยดเลยทีเดียว กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักล้าง เก็บขยะ ทำสวน ทุกอย่างในคฤหาสน์หลังใหญ่ เธอเหนื่อยสายตัวแทบขาด ขวัญข้าวสงสารน้องของเธอเหลือเกิน บางงานเธอยังต้องทำแทนน้องด้วย ณภัทรอายุยังน้อย
“ทำไมคนบ้านวรารักษ์เมธานนท์ถึงได้ใจร้ายขนาดนั้นนะ ทั้งที่น้ามุกดาก็ไม่ได้ทำอะไรให้เลย ยิ่งข้าวกับน้องด้วยแล้ว ก็ยิ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องอดีตนั่น ทำไมเขาถึงไม่แยกแยะกันนะ”
“นั่นสิเตย...บ้านวรารักษ์เมธานนท์มีแค่คุณลุงเท่านั้นที่ไม่เกลียดข้าวกับน้อง ที่เหลือก็...แม้กระทั่งคนรับใช้ก็ยังเกลียดเลย”
“เฮ้อ สงสารข้าวกับภัทรจริงๆ ถ้าบ้านเตยร่ำรวยล่ะก็ เตยก็จะขอให้พ่อกับแม่เตยรับข้าวกับภัทรมาอยู่ด้วยแล้วนะ”
“ขอบใจมากนะเตย ไม่ว่ายังไงข้าวก็จะอดทนต่อไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ยังมีคุณลุงที่ดีกับข้าวอยู่”
กำลังใจในการสู้ต่อของเธอนั้นคือความฝันที่จะมีชีวิตที่ดี และเป็นอิสระ มีบ้านเป็นของตัวเอง และมีงานทำสามารถเลี้ยงตัวเองและน้องได้ อีกนานแค่ไหนกันนะ ที่เธอจะไปให้ถึงฝันนั้น อายุเธอพึ่งจะ 16 เองนะ...

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที








