Share

บทที่ 11

Author: พิณเคล้าสายฝน
น้ำในอ่างอาบน้ำร้อนเกินไป ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกไม่สบายมาก

เขาลุกขึ้นจากในถัง สวมเสื้อคลุมแบบลวกๆแล้วไปที่ห้องสะอาดเพื่ออาบน้ำเย็น

ความเร่าร้อนที่อยู่ในร่างกายก็หายไปในที่สุด

พอกลับมาที่ห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับ

สายตาก็เหลือบไปเห็นรอยขีดข่วนบนบานประตู โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

ภาพเหตุการณ์วันนั้นผุดขึ้นมาอยู่ในสมองไม่หยุด

นางถูกเขากดเข้ากับบานประตูอย่างแรง ร่างกายสั่นสะท้านอย่างควบไม่ได้ขณะที่เขย่าเป็นจังหวะ รอยขีดข่วนบนบานประตูคือร่องรอยนางทิ้งเอาไว้ตอนที่นางทนไม่ไหว

เดิมที เขามีสติที่เลือนลาง และมองเห็นรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไม่ชัดเจน ดังนั้นพอคิดย้อนกลับไปมันจึงคลุมเครืออยู่เสมอ จึงรู้สึกว่ามันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น

ตอนนี้ เขารู้แล้วว่าคนๆนั้นคือหลินซวงเอ๋อร์ แพอพานางไปอยู่ในภาพเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง ความรู้สึกกลับรุนแรงมากขึ้น จนทำให้เขาควบคุมตนเองไม่ได้

เขารู้สึกหงุดหงิดสุดขีด

เขาไม่ใช่คนที่ใคร่ในอิสตรี และก็ไม่เคยได้ลิ้มรสความรักระหว่างชายหญิงเลยด้วยซ้ำ

แต่มีประสบการณ์เพียงแค่ครั้งเดียว เหตุใดทำให้เขาลมอยากขนาดนี้...

ยาเสน่ห์ จะต้องเป็นผลข้างเคียงของยาเสน่ห์ที่หลงเหลือแน่ๆ!

เขาหลับตาลง พยายามกำจัดความคิดที่ยุ่งวุ่นวายในสมองเหล่านั้น

เขาคิดว่า เขาเก็บนางเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด!

หลินซวงเอ๋อร์วิ่งเหยาะๆกลับไปที่ห้องของตนเอง นางซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่มอย่างตัวสั่นเทา

นางรู้ว่า นางไม่สามารถรับใช้เยี่ยเป่ยเฉิงได้ แม้ว่านางจะระมัดระวังมากแล้ว แต่เนางก็ไม่สามารถควบคุมจิตใจของนางได้ ทุกครั้งที่นางต้องเผชิญหน้ากับเยี่ยเป่ยเฉิง นางก็จะรู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่รู้ตัว

นางคิดว่า พรุ่งนี้นางจะขอให้ท่านป้าจ้าว ให้โยกย้ายนางไปปัดกวาดลานหลังจวนอีกครั้ง

ตอนที่ตงเหมยมาหานาง นางก็กำลังขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ตงเหมยเรียกนางอย่างเงียบๆจากด้านนอกประตู นางถึงลุกขึ้นขึ้นเปิดประตูให้นาง

ตงเหมยเข้าไปในห้อง และมองดูห้องที่ใหญ่กว่าห้องตนเองเป็นสองเท่า แล้วเผยสายตาที่อิจฉาเป็นอย่างยิ่งออกมา

เดิมที ห้องของหลินซวงเอ๋อร์ใกล้กับห้องเก็บฟืนโกโรโกโสมาก หลังจากให้นางมารับใช้อยู่ข้างกายเยี่ยเป่ยเฉิง นางจึงย้ายเข้ามาอยู่ห้องเดิมของเสวี่ยหยวน

ห้องนี้สว่างโล่งมาก ห่างจากห้องของเยี่ยเป่ยเฉิงแค่กำแพงเดียวเท่านั้น ทำให้สะดวกในการเรียกใช้สอยได้ทุกเมื่อ

“เจ้าว่าเลือกไปเลือกมา ทำไมท่านอ๋องถึงเลือกเจ้า?” ตงเหมยพินิจมองหลินซวงเอ๋อร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า บีบหน้าของนางเอาไว้ แล้วพูดด้วยความอิจฉาว่า: “หลินซวงเอ๋ยหลินซวง เหตุใดผู้ชายคนหนึ่งอย่างเจ้าถึงได้เกิดมามีหน้าตาแบบนี้? ในจวนมีสาวใช้เยอะขนาดนี้ยังสู้เจ้าไม่ได้?”

หลินซวงเอ๋อร์ก้มศีรษะลงอย่างหงอยเหงาซึมเซา นางรู้ว่าตงเหมยมาที่นี่เพื่อหยอกล้อนาง

ตงเหมยทำเสียงจึ๊จึ๊สองครั้ง ลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า "ช่วงนี้ใครๆก็บอกว่าท่านอ๋องไม่ใคร่ในอิสตรี บางที่อาจจะคลั่งไคล้ในเรื่องนั้น"

หลินซวงเอ๋อร์ตอบสนองไม่ได้สักครู่: "คลั่งไคล้อะไร?"

ตงเหมยโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของนาง แล้วกระซิบว่า: "ทุกคนกำลังแพร่ข่าวว่า ท่านอ๋องรักร่วมเพศ"

หลินซวงเอ๋อร์ตกตะลึง: "เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ? พูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ได้อย่างไร? หากได้ยินไปถึงหูท่านอ๋อง เจ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่ไหม?"

ทันใดนั้น หลินซวงเอ๋อร์ก็พึมพำ ด้วยเสียงที่เบามากว่า: "อีกอย่าง... อีกอย่าง ท่านอ๋องไม่ใช่คนประเภทนั้น"

ตงเหมยกล่าวว่า "เจ้ารู้ได้อย่างไร?หรือว่าเจ้าเห็นท่านอ๋องเคยสัมผัสผู้หญิง?"

หน้าของหลินซวงเอ๋อร์เปลี่ยนไปเป็นสีแดง

นางเคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นกับนางเอง...

ตงเหมยถอนหายใจ: "เจ้าว่า ท่านอ๋องเป็นคนที่แข็งแกร่ง แกล้วกล้าห้าวหาญ ไม่เคยแพ้สงคราม ผู้ชายที่ยืนอยู่บนแท่นสูงเช่นนั้น ไม่รู้ว่าเรื่องอย่างว่าจะเก่งหรือไม่"

ตงเหมยเป็นคนที่พูดจาไม่รู้จักกาละเทศะมาโดยตลอด โดยเฉพาะตอนที่อยู่ต่อหน้าหลินซวงเอ๋อร์ ยิ่งตรงไปตรงมามากขึ้น

สีหน้าของหลินซวงเอ๋อร์แดงยิ่งขึ้น ขาที่ซุกอยู่ในผ้าห่มสั่นเล็กน้อย

นอกจากจะเก่งแล้ว ยังน่ากลัวอีกด้วย...

หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าปล่อยให้ตงเหมยพูดต่อ จึงรีบปิดปากนางเอาไว้

ตงเหมยสะบัดมือของนางออก ด้วยสีหน้าที่ไม่เกรงกลัว: "คนอื่นพูด ไม่ใช่ข้าพูดเสียหน่อย"

หลินซวงเอ๋อร์ยังคงหวาดกลัว หน้าอันเรียวเล็กของนางซีดเซียว เพราะกลัวว่าจะมีคำพูดไม่ดีออกมาจากปากของตงเหมย

ตงเหมยกล่าวว่า: "ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ท่านอ๋องเลือกเจ้า ข้าก็เลยเชื่อนิดหน่อย"

หลินซวงเอ๋อร์รีบขัดจังหวะ: "หยุดพูดได้แล้วท่านอ๋องเป็นคนเช่นนั้นได้อย่างไร!"

นางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นอีกครั้ง คืนนั้น เขาหลับนอนกับนางอย่างบ้าคลั่งตลอดทั้งคืน แล้วเยี่ยเป่ยเฉิงคนนี้จะไม่ใคร่ในสตรีได้อย่างไร

ตงเหมยกล่าวว่า: "เช่นนั้นเจ้าก้บอกข้ามา ปีนี้ท่านอ๋องอายุยี่สิบสี่แล้ว เหตุใดถึงยังไม่เลือกพระชายาอีกเล่า? แม้แต่อนุภรรยาก็ไม่มีเสียด้วยซ้ำ"

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "บางที บางทีความต้องการของท่านอ๋องอาจไม่อยู่ที่นี่"

เรื่องนี้นางก็แปลกใจเช่นกัน แต่เรื่องของนายท่าน นางไม่กล้าคาดเดา

ตงเหมยลดเสียงลงอีกครั้ง และถามอย่างลึกลับว่า: "วันนี้เจ้าเป็นคนปรนนิบัติท่านอ๋องอาบน้ำใช่ไหม?"

หลินซวงเอ๋อร์กลืนน้ำลาย และพยักหน้าอย่างขี้อาย ไม่รู้ว่าตงเหมยต้องการจะถามอะไรอีก

ตงเหมยหัวเราะเบา ๆ: "เช่นนั้นเจ้าก็บอกข้ามา รูปร่างของท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่มีโรคอะไรซ่อนเร้นใช่ไหม?"

“ห๊า?”

“ห๊าะ อะไรกัน ?เจ้าบอกมา ข้าเดิมพันกับชุ่ยชุ่ยและคนอื่นๆเอาไว้ ถ้าข้าแพ้ ข้าจะต้องจ่ายยี่สิบเหรียญทองแดง!”

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "เจ้ากล้าเดิมพันเรื่องของท่านอ๋องได้อย่างไร เจ้าม่กลัวว่าท่านป้าจ้าวจะหักมือเจ้าหักหรือ"

ตงเหมยไม่เกรงกลัว: "เจ้าอย่าไปสนใจเลย เจ้าตอบคำถามข้ามาก่อนค่อยว่ากัน"

หลินซวงเอ๋อร์กระอึกกระอัก ผ่านไปสักพักถึงพูดว่า: "ท่านอ๋องเขา... รูปร่างดีมาก"

ตงเหมยพูดอย่างเบิกบานใจว่า: "เจ้าเดาว่าเรื่องอย่างว่าเป็นอย่างไร?"

หลินซวงเอ๋อร์ขี้อายทั้งวิตกกังวล ผ้าห่มบนตัวนางถูกดึงจนเป็นริ้วรอย ในสมองของนางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งใหญ่โตอันนั้น

“เก่ง……เก่งมาก”

ตงเหมยกล่าวด้วยรอยยิ้ม: "ข้ารู้ว่า ข้าจะต้องเอาเหรียญทองแดงยี่สิบเหรียญนี้ออกมาจากกระเป๋าของชุ่ยชุ่ยได้!"

ก่อนจะจากไป ตงเหมยกล่าวเตือนนางว่า: "ช่วงนี้เจ้าต้องระวังชิวจวี๋ไว้หน่อยนะ ตอนนี้นางเกลียดเจ้าเข้ากระดูกดำ ท่านอ๋องเลือกเจ้าไม่เลือกนาง สองวันมานี้นางโกรธจนกินข้าวปลาไม่ลง ระวังนางจะปองร้ายเจ้า แอบแก้แค้นเจ้านะ"

ด้วยเหตุนี้ตงเหมยจึงมาที่นี่เพื่อเตือนนาง และหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย

ตงเหมยไม่มีพ่อแม่เหมือนกับนาง และถูกขายตัวเข้าจวนตั้งแต่เด็กๆ เพียงแต่ว่าตงเหมยคนนี้ร่าเริงกว่านาง จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนในจวน

หลินซวงเอ๋อร์อายุน้อยกว่านางสามปี นับตั้งแต่ที่หลินซวงเอ๋อร์เข้ามาในจวน ตงเหมยก็ดูแลนางเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

เมื่อส่งตงเหมยออกไปแล้ว หลินซวงเอ๋อร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อนึกถึงคำพูดของ ตงเหมย นางพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ

คิดไม่ถึงเลยว่า เยี่ยเป่ยเฉิงจะได้ยินทุกคำที่พวกนางพูด

เดิมทีห้องของทั้งสองคนกั้นแค่ผนังเดียวเท่านั้น อีกอย่างเยี่ยเป่ยเฉิงมีทักษะการฟังที่ยอดเยี่ยมมาก เขาสามารถแยกแยะตำแหน่งได้จากการฟังเสียงลมในสนามรบ นับประสาอะไรกับอยู่ที่จวน

มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวของเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างต่อเนื่อง

“เก่งมาก”

อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นอีกครั้ง เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นอีกครั้งแล้วเดินไปที่ห้องสะอาด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
RICHWEE Richrich99
ชอบๆดีมากค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status