Mag-log inวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว...
ความเศร้าเมื่อครั้งเก่าก่อนค่อย ๆ เลือนหาย หลงเหลือเพียงความทรงจำที่ดีเอาไว้ให้เหมยลี่ได้หวนคิดถึงพ่อแม่ผู้จากไป เด็กสาวอายุสิบแปดปีเติบโตมาท่ามกลางผู้คนที่ให้ความรักความเอ็นดูเธอเหมือนอย่างที่พ่อเคยบอกเอาไว้ไม่มีผิด เห็นทีพ่อกับแม่คงวางเส้นทางอนาคตไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้วละมั้ง
เฉียนเปาและภาวินีน่าจะมั่นใจว่าครอบครัวของรุ่นพี่คนสนิทจะดูแลลูกสาวให้อย่างดี ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หัสดินและเยาวมาศไม่เพียงแต่มอบที่อยู่อาศัยและความอบอุ่น ทั้งสองยังส่งเสียเหมยลี่ให้เรียนหนังสือ จนกระทั่งเด็กสาวใกล้จะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
แน่นอนว่าต่อให้ได้รับการส่งเสริมเรื่องการเงินอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เหมยลี่ก็ไม่ลำพองตน เธอตั้งใจเรียนให้สมกับที่ท่านทั้งสองให้ความเมตตา จนในที่สุดก็สามารถสอบเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ในที่สุด
ตอนนี้เหลือเพียงสอบวิชาสุดท้าย ชีวิตวัยมัธยมของเธอก็จะจบลงอย่างสวยงาม
ทุกอย่างเหมือนกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี จะมีก็แต่เยาวมาศที่พักหลังมานี้สุขภาพร่างกายเริ่มไม่ค่อยแข็งแรงนัก หญิงวัยกลางคนมีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันสูง ยิ่งนานวันอาการยิ่งหนักและมีโรคแทรกซ้อนจนไม่สามารถลงมาเดินชมสวนดอกไม้หน้าบ้านเธอได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเหมยลี่ก็ไม่ปล่อยให้คุณป้านอนเหงาอยู่ในห้องลำพัง
หลังเลิกเรียนเหมยลี่จะทำหน้าที่ดูแลเยาวมาศอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตั้งแต่พาคุณป้าเดินเข้าห้องน้ำ อ่านหนังสือให้ฟัง นำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟ รอจนกว่าหัสดินและเหมราชจะสะสางงานเสร็จกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเยาวมาศ
การดูแลเยาวมาศจึงตกเป็นหน้าที่สำคัญที่เหมยลี่ยินดีและเต็มใจจะทำ แต่หากมีความจำเป็นอย่างต้องอ่านหนังสือสอบ เด็กรับใช้คนอื่น ๆ ในบ้านก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนเยาวมาศแทน
“เหมย มานั่งตรงนี้สิจ๊ะ” เยาวมาศนั่งพิงพนักหัวเตียงกวักมือเรียกเด็กสาวให้เดินเข้าไปหา
เหมยลี่เข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงอย่างกระตือรือร้น “คุณป้าอยากได้อะไรหรือเปล่าคะเดี๋ยวหนูไปเอามาให้ หรือว่าคุณป้าอยากลงไปเดินเล่นสูดอากาศข้างล่างคะ”
“ไม่จ้ะ ป้าแค่อยากคุยกับหนูเฉย ๆ” หญิงวัยกลางคนคลี่ยิ้มอ่อนโยน
“คะ? มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
“เดี๋ยวเราก็จะเรียนจบแล้วนะ เหมยคิดหรือยังว่าอยากทำงานอะไร”
“โธ่ คุณป้าคะ เหมยเพิ่งเรียนจบม.ปลายเอง ยังไม่ทันคิดเลยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เหมยจะรีบค้นหาตัวเองให้เจอแน่ ๆ” คนเป็นหลานตอบตามความจริง
“ป้ารู้จ้ะ ป้ารู้มาตลอดว่าเหมยตั้งใจเรียนและไม่มีวันทำให้ป้าผิดหวัง แต่ป้าแค่เป็นห่วง ถ้าเป็นไปได้ป้าก็อยากให้เหมยช่วยงานเหมที่บริษัท ถ้าได้เป็นเลขาของพี่เขาน่าจะดีที่สุดนะ ยังไงก็คนกันเองทั้งนั้น”
รอยยิ้มของเหมยลี่หุบลงทันทีเมื่อคิดถึงคนที่เยาวมาศเอ่ยถึง
“คุณป้าพูดเหมือนเค้าจะอยากให้หนูไปทำงานด้วย...” เด็กสาวแอบทำหน้ามุ่ยนิดหน่อย
ตั้งแต่วันนั้น...วันที่เหมราชไปหาเธอที่บ้านเล็ก เหมยลี่ก็รู้ว่าควรจะวางตัวอย่างไรไม่ให้เขาต้องอึดอัด จริงอยู่ว่าเหมราชไม่ได้เกลียดเธอ แต่ชายหนุ่มทำเหมือนเธอเป็นเพียงอากาศธาตุ หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ เขาแทบไม่เคยเอ่ยถามหรือพูดอะไรกับเธอเลย
จะมีก็แต่เธอ...ที่เผลอไผลนึกถึงถ้อยคำและการกระทำอ่อนโยนของเขาแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวไม่เลิกรา
แค่ครั้งเดียวที่เขามอบความใจดีให้ แต่มันกลับฝังลึกสลักแน่นอยู่ในความทรงจำของเด็กคนหนึ่งที่กำลังหลงทางอย่างเธอ จนผ่านมานานหลายปีแล้วก็ยังไม่เลือนรางไป
“เหมไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้นหรอก ป้ารู้นะว่าเหมยชอบเกร็งเวลาโดนพี่เขาทำหน้ายักษ์ใส่ แต่ความจริงแล้วเหมน่ะเป็นห่วงเหมยมากนะ เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเหมย พี่เขาก็เป็นคนขอรับผิดชอบเองทั้งหมด”
“คุณเหมคงไม่อยากให้คุณลุงคุณป้าต้องเหนื่อยน่ะสิคะ”
“เรานี่จริง ๆ เลย เอาเถอะ เหมยไม่ต้องกังวลนะลูก ยังไงเหมยก็เป็นคนในครอบครัวของป้า พวกเรารักเหมยมากนะ” เยาวมาศลูบศีรษะหลานรักที่เมื่อก่อนเคยมองด้วยความเอ็นดูอย่างไร วันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเก่า
“หนูก็รักคุณลุงคุณป้าเหมือนกันค่ะ” เด็กสาวตอบด้วยรอยยิ้ม
ติ๊ด ๆ ๆ
“เอ่อ หนูขอไปรับสายก่อนนะคะ” คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นมาดู ปรากฏว่าคนโทรเข้ามาคือ ‘แพรวา’ เพื่อนสนิทของเธอเอง
“ว่าไงจ๊ะแพร”
“เหมยยยย วันมะรืนมีสอบภาษาอังกฤษใช่ไหม คือว่าเค้าอยากให้เหมยมาช่วยติวหน่อยได้หรือเปล่า”
“ได้สิ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเค้าไปหาที่บ้านนะ”
“ไม่ ๆ คืองี้ พอดีว่าพรุ่งนี้ที่บ้านเค้าจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัด เค้าก็เลยเครียดอยู่ว่าจะไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ถ้าเหมยไม่ติดอะไร คืนนี้ออกมาหาเค้าได้ไหม...น้าาา นะ ๆ เค้าขอเวลาไม่นานแค่สักสองชั่วโมงแค่นั้นพอ”
เหมยลี่นิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตากลมโตเหลือบมองนาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาทุ่มตรง ซึ่งมันเป็นเวลาที่เธอจะต้องอยู่ดูแลเยาวมาศจนกว่าสามีและลูกชายของคุณป้าจะกลับมา
“ไม่ได้หรอกแพร เค้าต้องอยู่ดูแลคุณป้าน่ะ” น้ำเสียงเหมยลี่เต็มไปด้วยความลำบากใจ
“แป๊บเดียวจริง ๆ ถ้าเหมยไม่ช่วยเค้า เค้าก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว”
“แต่ว่า...”
“ไปเถอะเหมย ป้าไม่ว่าอะไรหรอก”
ทันใดนั้นเสียงเยาวมาศก็ดังขึ้นแทรก เหมยลี่หันไปเห็นคุณป้าที่เคารพรักแย้มยิ้มนุ่มนวลก็ยิ่งลำบากใจเข้าไปใหญ่ แต่สุดท้ายเธอก็ทนลูกตื๊อของแพรวาไม่ไหว
“โอเค ๆ ก็ได้ เดี๋ยวเค้ารีบออกไป เจอกันที่บ้านแพรนะ”
“เดี๋ยวนะ เอ่อ คือว่าเค้าไม่ได้อยู่บ้านน่ะ ตอนนี้เค้านัดเพื่อน ๆ ห้องสองมาติวกันที่ห้องของมินตรา เหมยจำมินตราได้ไหม”
“อื้ม จำได้แต่เค้าไม่เคยไปหอมินตรานะ” เหมยลี่พอจะจำได้ว่ามินตราเป็นเพื่อนต่างห้อง ด้วยความที่แพรวาเป็นสาวสังคมจ๋า เธอจึงมีเพื่อนต่างห้องหลายคนและก็ขยันพาเธอไปเจอเพื่อนใหม่เสมอ
“เค้าส่งโลฯ ให้ในไลน์แล้วน้า เหมยเรียกรถแล้วมาตามที่อยู่นี้เลยนะ ขอบใจมากน้าเหมยเพื่อนรัก จุ๊บ ๆ”
ทันทีที่แพรวาวางสาย เหมยลี่ก็ถอนหายใจยาว ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากช่วยเพื่อนแต่เธอรู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องทิ้งเยาวมาศให้อยู่คนเดียว
“เดี๋ยวหนูบอกพี่แก้วตาให้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณป้าจนกว่าคุณเหมกับคุณลุงจะกลับนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่กี่ชั่วโมงตาเหมก็กลับมาแล้ว เหมยไปหาเพื่อนเถอะจ้ะ ว่าแต่เพื่อนคนไหนโทรมาจ๊ะ”
“แพรวาน่ะค่ะ แพรอยากให้ช่วยติววิชาภาษาอังกฤษที่จะสอบวันมะรืน ที่ต้องออกไปตอนนี้เพราะว่าพรุ่งนี้บ้านแพรวาต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ก็เลยไม่มีเวลาแล้ว...”
สัปดาห์ต่อมางานแต่งระหว่างเหมยลี่กับเหมราชถูกจัดขึ้นในสวนหน้าบ้านใหญ่ ทั้งคู่เชิญเฉพาะคนที่สนิทกันจริงเท่านั้น เพราะเหมยลี่ไม่ได้มีญาติที่ไหน คนเดียวที่เธอนับถือเหมือนญาติก็คือหัสดิน ส่วนเหมราชเองก็เชิญเฉพาะเพื่อนสนิทและคู่ค้าที่คุ้นหน้ากันเท่านั้น ด้วยไม่อยากเอาเวลาไปสนใจแขกเสียจนลืมดูแลคนใกล้ชิดจริง ๆ“ยินดีด้วยนะเหมย” เสียงอบอุ่นที่คุ้นเคยอวยพร“พี่ไตร!” เหมยลี่ส่งยิ้มให้ไตรฉัตรพร้อมเรียกเขามาถ่ายรูปด้วยกัน“ยินดีด้วยนะครับคุณเหม” นายตำรวจหนุ่มหันไปยิ้มให้เจ้าบ่าวของเธอ ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากจนเขาตั้งตัวไม่ทัน แต่ถึงอย่างนั้นไตรฉัตรก็ยินดีกับเหมยลี่และเหมราชจากใจจริงส่วนหัวใจของเขาน่ะหรือ…คงต้องให้เวลาเยียวยาต่อไปอีกนาน“ขอบคุณที่มาครับ” เหมราชยิ้มเล็กน้อย ยอมถ่ายรูปร่วมกับอีกฝ่ายโดยไม่อิดออดอย่างที่บอก เขาเป็นคนเคลียร์แล้วจบ จบคือจบ แม้จะเห็นสายตาไตรฉัตรที่มองเหมยลี่ด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับที่เขารู้สึก ในเมื่อไม่สามารถบังคับใจใครได้เหมราชก็ไม่อยากเก็บเอามาเป็นเรื่องจุกจิกกวนใจไม่แปลกเลยที่ไตรฉัตรจะรักเหมยลี่ แต่ต้องขอบคุณที่ตำรวจหนุ่มเลือกถอยไปแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นอะไร ๆ ก็อาจ
หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายผ่านไป เหมราชก็ออดอ้อนให้เหมยลี่กลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน โชคดีที่หญิงสาวยอมตกลงแต่โดยดี และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เหมยลี่กลับมาที่บ้านหลังใหญ่หัสดินและทุกคนในบ้านรอต้อนรับหญิงสาวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เหมยลี่มองทุกคนด้วยความซาบซึ้งใจ ไม่มีที่ไหนจะทำให้เธออบอุ่นใจได้เท่ากับบ้านหลังนี้แล้วจริง ๆ“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะเหมย” หัสดินออกมาต้อนรับหลานสาวด้วยตัวเอง สายตาหลุบมองมือลูกชายที่กอดเอวบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนเขาต้องกระแอมเสียงดังปรามมันบ้าง ถึงอย่างไรทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจตบแต่งกันเสียหน่อย เบา ๆ หน่อยก็ได้มั้ง“แฮ่ม ห่างน้องหน่อยก็ได้ เหม”“ห่างทำไม อยู่ใกล้แบบนี้แหละเหมยชอบ” เหมราชยักไหล่ไม่สนใจ“ไม่ต้องมาโยนให้เหมยเลยค่ะ ปล่อยได้แล้ว” คนถูกกอดเขินอายไปหมดกับสายตาหัสดินและคนอื่น ๆ ที่มองมา ก็จะไม่ให้เธออายได้อย่างไร แต่ไหนแต่ไรเธอกับเหมราชไม่ลงรอยกัน ทั้งบ้านรู้กันทั่วว่าเขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร แต่ตอนนี้ดันมาทำตัวคลั่งรักได้ไม่อายตัวเองในอดีตเลยนะ“มา ๆ เข้าบ้านกัน” คนเป็นพ่อและลุงเดินนำสองหนุ่มสาวเข้าห้องรับแขก ตั้งใจจะพูดคุยเรื่องจริงจังใช่ว่าหัสด
เห็นเธออยู่ในท่านี้ เงยหน้ามองเขาแบบนี้ เหมราชคิดดีไม่ได้เลยจริง ๆ“ไม่ชอบเหรอคะ” คนขี้ยั่วรู้ว่าชายหนุ่มน่าจะชอบมากเลยละสิไม่ว่า ก็เลยจัดการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สองมือเล็กโอบประคองเต้าอวบทั้งสองข้างให้บีบชิดเข้าหากัน จนโนมเนื้อเต่งตึงบีบรัดลำเอ็นของชายหนุ่มเอาไว้ตรงกลาง ก่อนจะรูดเต้านมขึ้นลงเป็นจังหวะไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป“อาาา เหมย เหมย” เหมราชนั่งตัวตรงมองดูการกระทำแสนเซ็กซี่ของคนรัก เหมยลี่อวบอิ่มไปทั้งตัวโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจนั่น ยิ่งเธอเห็นว่าเขาเสียวมากก็ยิ่งส่งแรงบีบเต้านมแน่นขึ้น สาวรูดขึ้นลงรัวเร็วจนเหมราชใจคอไม่ดีช่วงหลัง ๆ ตั้งแต่มีปัญหากัน ชายหนุ่มก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น รวมถึงเรื่องอย่างว่าด้วย พูดง่าย ๆ ว่าเหมราชไม่ได้ปลดปล่อยมานาน พอโดนรุกเร้าหนักจากผู้หญิงที่รัก มีหรือที่มันจะไม่…“เหมย พะพอก่อนพี่จะแตกแล้ว” เขารีบร้องห้ามเสียงหลง“ก็แตกเลยสิคะ” นั่นแหละที่เธอต้องการ สายตาหวานเชื่อมมองคนรักที่เวลานี้สูดปากครางไม่หยุด อาศัยเต้าอวบที่เขาหลงใหลขยับปรนเปรอเร็วขึ้น จนสามารถรีดน้ำกามเขาออกมาได้สำเร็จ“อะ อ่า!” แก่นกายชายหนุ่มกระตุกถี่ยิบ มันเสียวมาก อาจจะไม่เส
พวกเขาสองคนเคยมี ‘เซ็กซ์’ กันมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็จริง ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เหมยลี่กับเหมราชกำลังจะ ‘ร่วมรัก’ กันในวันที่ทั้งคู่อยู่ในสถานะคนรักอย่างเป็นทางการถ้อยคำหวานหู สัมผัสทะนุถนอมใส่ใจ รวมถึงการปลุกเร้าที่แสนอ่อนโยน เป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่เคยได้รับจากคนตรงหน้ามาก่อน“นะครับ…” คนขี้อ้อนเคล้นคลึงเต้าอวบ ปากไล่ขบเม้มไปตามติ่งหูหญิงสาวอย่างเพลิดเพลิน ร่างกายเหมยลี่เริ่มสั่นสะท้านจนเหมราชรู้สึกได้“อื้อ…ครั้งเดียวนะคะ” เหมยลี่ไม่อาจห้ามคนเจ็บได้ มากกว่านั้นเธอเองก็คิดถึงชายหนุ่มไม่น้อยไปกว่ากัน“น่ารักที่สุด เมียจ๋า ปลอบผัวหน่อยนะ” คนตัวโตจับไหล่บอบบางให้หันมาสบตากัน มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าหวานด้วยความทะนุถนอม เขาเจ็บหนักขนาดนี้ รักเธอขนาดนี้ ย่อมอยากได้รับการเอาอกเอาใจจากเธอเป็นธรรมดา“อยากให้ปลอบยังไงดีคะ” เหมยลี่ถามยิ้ม ๆชายหนุ่มไม่ตอบแต่ใช้นิ้วมือไล้วนบนริมฝีปากอิ่มแสนหวาน เขาคิดถึงยามที่ได้ดูดดึงลิ้นเล็ก คิดถึงยามที่ปากอิ่มนี้จูบเขาไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้น…แค่คิดว่าความอุ่นชื้นในปากสาวกำลังโอบอุ้มตัวตนเขาไว้อย่างแนบแน่นและเร่าร้อน แก่นกายที่สงบมานานก็ดีดตัวแข็งขึ้นมาอย
“ก็พี่ไม่อยากเลิก พี่รักเหมย รัก รัก รัก ได้ยินไหมว่าพี่รักเหมย”หมับ!คนตัวเล็กโดนคนเจ็บที่พลังเหลือล้นดึงเข้าไปกอดแน่น ครั้นเหมยลี่จะดิ้นก็ไม่กล้า กลัวว่าจะชายหนุ่มจะแผลปริเข้าให้“พอแล้วค่ะ ปล่อยเหมย เดี๋ยวก็เจ็บแผลจนได้หรอก”“บอกก่อนสิว่าเหมยหายโกรธพี่แล้ว จะไม่ทิ้งพี่ไปไหน แค่นี้พี่ก็สำนึกผิดแล้วจริง ๆ” เหมราชกอดเธอแน่น รู้ว่าตัวเองกำลังงอแงงี่เง่าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่นี่เมียเขานี่ เขาจะงอแงเท่าไรก็ได้“แล้วผู้หญิงคนอื่นของพี่ล่ะคะ…”“ไม่มี สาบานให้ตายเลยว่าไม่มี โอเค ก่อนหน้าที่เราจะมีอะไรกันพี่ก็ไม่ได้ใสสะอาดนักหรอก แต่หลังจากที่เรามีอะไรกันแล้ว พี่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครอีกจริง ๆ ที่พูดก็แค่อยากให้เหมยเจ็บก็เท่านั้น อ้อ เรื่องเค้กพี่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรแล้ว ตอนโดนเหมยทิ้งยังเจ็บยิ่งกว่าตอนเค้กเลือกผู้ชายคนอื่นหลายเท่า”“เหรอคะ”“เชื่อไหมว่าเหมยทำให้พี่รู้ตัวนะว่าที่ผ่านมาพี่ไม่ได้คิดอะไรกับเค้กไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง...”พอได้อธิบายแล้วเหมราชก็อยากจะเคลียร์ทุกสิ่งอย่างให้หญิงสาวได้เข้าใจ ระหว่างเขากับคีรติมันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เขารู้สึกจริง ๆ กับเหมยลี่“ที่พูดเพราะกลัวเหมย
ก๊อก ๆ ๆ สองหนุ่มสาวยังไม่ทันเคลียร์ใจกันจบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัด ผู้มาเยี่ยมเยือนคือสารวัตรหนุ่มในชุดเต็มยศที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเหมราชที่กังวลอยู่แล้วเป็นทุนเดิมหันขวับมองหญิงสาวทันที สังเกตทุกปฏิกิริยาของเธอโดยเฉพาะมือที่ยังกุมกันอยู่ว่าเธอจะสะบัดมือเขาออกไหมแน่นอนว่าเขากระชับมือเธอไว้แน่นมาก ถ้าไตรฉัตรเป็นสาเหตุทำให้หญิงสาวหมดรักเขาละก็ เหมราชยืนยันว่าจะสู้ต่อ สู้จนกว่าเหมยลี่จะเปลี่ยนใจกลับมารักเขาอีกครั้ง“สวัสดีครับ ผมได้ยินว่าคุณฟื้นแล้วเลยแวะมาเยี่ยม”คนเจ็บใกล้หายจะกลายเป็นใกล้ตายเพราะเห็นหน้ามึงเนี่ยแหละ!เหมราชไม่ตอบ การประจันหน้ากันครั้งก่อน เขาและไตรฉัตรยังสาดถ้อยคำหยาบคายใส่กันอยู่เลย ตอนนั้นเหมยลี่ประกาศกร้าวว่ากำลังคบกับมันอยู่ ให้ตายยังไงเหมราชก็ไม่มีทางญาติดีกับคนที่พยายามแย่งผู้หญิงของเขาไปเด็ดขาดเหมราชโพล่ง “เยี่ยมเสร็จก็กลับไปได้แล้ว” ไม่จำเป็นต้องมีมารยาท“หึ ผมมาเรื่องคดีด้วย ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่ลอบยิงคุณได้แล้วนะครับ”“อืม จบยัง”“คุณเหม…” เหมยลี่เอ่ยปรามเบา ๆ ก่อนหันมองคนขี้หึงที่นอนหน้าบูดบึ้งไม่ต้อนรับไตรฉัตรอย่างออกหน้าออกตา ยังดีที่นายตำรวจ







