LOGIN“น่ารักจริง ๆ เหมยรู้ไหม เราน่ะเป็นเด็กดีมาก ไปไหนมาไหนก็รายงานป้าตลอด” เยาวมาศเอ่ยแทรกก่อนที่เหมยลี่จะพูดจบ ต่อให้เหมยลี่ไม่รายงานละเอียดยิบเช่นนี้ เธอเองก็ไม่คงไม่ซักไซ้ให้มากความ ด้วยรู้ดีว่าหลานรักไม่ใช่คนเถลไถลหรือชอบโกหก การที่เหมยลี่ขอออกจากบ้านยามดึกดื่นย่อมมีเหตุผลแน่
“ก็คุณป้าเป็นผู้ปกครองของหนูนี่คะ หนูเกรงใจ” เหมยลี่พูดเสียงเบา ถึงทุกคนจะปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้อีกคน แต่เธอรู้ตัวเองดีว่าเป็นแค่ผู้อาศัย อะไรที่อาจทำให้เจ้าของบ้านลำบากใจ เธอก็ควรเลี่ยงให้ไกลไว้ก่อน
“ไม่ต้องเกรงใจ เหมยไปเถอะ ป้าอยู่ได้”
“ไม่ให้หนูเรียกพี่แก้วตามาอยู่เป็นเพื่อนจริง ๆ เหรอคะ” ไม่รู้ทำไมเหมยลี่ถึงรู้สึกไม่สบายใจชอบกล มันทั้งเป็นห่วงและรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
“ป่านนี้แก้วตาคงยุ่ง ๆ กับการเก็บครัวละมั้ง ไปเถอะลูก ป้าอยู่ได้จริง ๆ ถ้ากลัวว่าตาเหมจะดุละก็ เดี๋ยวป้าช่วยพูดให้ ป่านนี้เพื่อนรอแย่แล้ว” หญิงวัยกลางคนยืนยันอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นหนูจะรีบกลับมานะคะ”
เหมยลี่เข้าไปกอดเยาวมาศเหมือนทุกครั้งที่ต้องเอ่ยปากลาท่านออกไปไหน ทว่า...อ้อมกอดครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจระคนใจหายอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ไม่มีอะไรหรอก เธออาจจะแค่คิดมากไปเอง...
***
เด็กสาวรีบร้อนออกจากบ้านมายังจุดนัดหมาย แต่เมื่อลงจากรถเธอดูแล้วดูอีกก็ไม่เห็นชื่อหอพักที่เพื่อนบอก จะมีก็แต่สถานบันเทิงที่มีวัยรุ่นมากหน้าหลายตาพากันเดินเข้าออก คนที่ไม่เคยแม้แต่จะออกไปท่องราตรีอย่างเหมยลี่จึงประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก รีบกดโทรหาแพรวาทันที
แพรวายังไม่ทันจะรับสาย เหมยลี่ก็เห็นเพื่อนรักเดินออกมาจากผับที่ว่านั่นพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่เจ้าตัวเคยแนะนำให้เหมยลี่รู้จัก
เขาคือ ‘เมธากร’ เพื่อนห้องเดียวกับมินตรา
“เหมยยยย~ มาแล้วเหรอ” น้ำเสียงแพรวายืดยานจนจับใจความแทบไม่ได้ และเมื่อเจ้าตัวโผเข้ามากอดเธอเท่านั้น เหมยลี่ก็ต้องย่นจมูกเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์รุนแรง
ไหนบอกว่านัดออกมาติวหนังสือไงล่ะ?
“เหมยเข้าไปสนุกด้วยกันสิ” เมธากรมองเหมยลี่ด้วยสายตาสื่อความหมาย หากเธอไม่ปิดกั้นตัวเองจนเกินไปจะรู้ได้ว่าเขาไม่ได้มองเธอเหมือนที่มองแพรวาหรือเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ๆ
สำหรับเมธากร เหมยลี่คือผู้หญิงที่เขาถูกใจ...ถูกใจจนอยากได้มาครอบครอง
“เดี๋ยว นี่เค้างงไปหมดแล้วนะ ไหนแพรบอกว่าจะให้เค้าช่วยติวอังกฤษที่ห้องมินตราไง” เหมยลี่พยายามถามแพรวาที่สติเริ่มอยู่ไม่เต็มหน่วย
“ก็ถ้าบอกไปตามตรง เหมยจะออกมาเหรอ ที่จริงเค้าอยากชวนเหมยมาเลี้ยงฉลองเรียนจบ นะ ๆ เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“ยังเหลือสอบอีกวิชา พวกเรายังไม่ได้เรียนจบจริง ๆ สักหน่อย แล้วที่สำคัญเค้าก็ไม่ชอบมาเที่ยวที่แบบนี้ด้วย ถ้าไม่ได้เรียกเค้ามาให้ช่วยติวงั้นเค้ากลับแล้วนะ”
หมับ!
“เดี๋ยวสิเหมย” เมธากรเอื้อมมือมารั้งสาวน้อยคนสวยตรงหน้า ก่อนยิ้มแย้มเอ่ย “เรื่องแค่นี้เองนะ ไม่เห็นต้องโกรธกันเลย ไหน ๆ ก็มาแล้วเข้าไปจอยกันหน่อยเถอะ”
เหมยลี่มองมือหนาที่กุมมือเธออย่างถือวิสาสะ พลันสะบัดออกอย่างแรงด้วยความไม่คุ้นชิน เธอไม่ได้อยากทำตัวเสียมารยาท เพียงแต่เธอไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวแบบนี้เท่านั้นเอง
“เราต้องกลับไปดูแลคุณป้า” เหมยลี่ยืนกรานคำเดิม
“คุณป้าอีกแล้ว อะไร ๆ ก็คุณป้า นี่เรากำลังจะเรียนจบ ต้องแยกย้ายกันไปเรียนมหา’ลัยคนละที่ ถามจริงเถอะ เหมยไม่คิดถึงเค้าบ้างเหรอ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งหกปีเลยนะ เค้าแค่อยากให้เหมยออกมาเที่ยวกับเค้าบ้าง เค้าผิดตรงไหนอะ ฮึกฮือออ”
เห็นแพรวาร้องไห้เหมยลี่ก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ความจริงไม่ใช่ว่าแพรวาไม่สำคัญ เพียงแต่เธอแค่ไม่ชอบวิธีการที่เพื่อนใช้หลอกล่อเธอก็เท่านั้นเอง
“แพร...เค้าขอโทษ คือว่าเค้า…”
“เหมยกลับไปเถอะ เค้าเที่ยวกับกรก็ได้” แพรวาสะบัดเสียงอย่างแง่งอนใส่
“เหมย จะกลับจริง ๆ เหรอ แพรเสียใจมากนะ” เมธากรสบตาเหมยลี่อย่างเคร่งเครียด
คนถูกกดดันทุกทางเริ่มสับสน ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วหากเธอกลับก่อนก็อาจทำให้เพื่อนสนิทต้องเสียใจได้
เหมยลี่ถอนหายใจ “โอเค เค้าเข้าไปก็ได้ แค่ชั่วโมงเดียวนะ ห้ามต่อรองเพิ่ม”
“เย้! ไปกันเถอะ” แพรวาร้องตะโกนแบบดีใจ น้ำตาที่ไหลเมื่อครู่หยุดลงได้ในพริบตาจนเหมยลี่ตามไม่ทัน ร่างเล็กได้แต่เดินตามเพื่อนสาวเข้าไปด้านในผับอย่างประหม่า
ภายในผับคลาคล่ำด้วยหนุ่มสาวที่กำลังกินดื่ม บ้างเต้นโยกย้ายโชว์สเต็ปอย่างไม่มีใครยอมใคร ผู้หญิงส่วนมากแต่งตัววับ ๆ แวม ๆ น้อยชิ้น ไม่เว้นแม้แต่แพรวาที่เวลานี้สวมใส่เดรสสายเดี่ยวรัดรูปสีดำ ซึ่งแตกต่างจากชุดนักเรียนมัธยมปลายอย่างสิ้นเชิง
“ดื่มอะไรดีเหมย” เมธากรถามเมื่อมาถึงที่โต๊ะ
“เราขอน้ำเปล่า”
“น้ำเปล่าอะไรกันยัยคนนี้” แพรวาเท้าเอวแหว “กร เทเหล้าให้เหมยเลย”
“แพรเค้าดื่มไม่เป็นนะ” เหมยลี่รีบแย้ง
“ไม่เป็นก็หัดไว้สิ ต่อไปเรียนมหา’ลัย เจอเพื่อนไม่ดีมอมเหล้าขึ้นมาจะทำยังไง เค้าเป็นห่วงนะ” ว่าพลางยื่นแก้วใสใส่แอลกอฮอล์ให้กับเพื่อนสาว
เหมยลี่รับมาด้วยความกระอักกระอ่วน มองหน้าแพรวาและเมธากรอย่างลำบากใจ
“ดื่มสิเหมย” แพรวาคะยั้นคะยอ
“เถอะน่า แก้วสองแก้วไม่เมาหรอก” เมธากรเกลี้ยกล่อม
เหมยลี่อ้าปากจะค้าน แพรวากลับเดินสะบัดหน้าหายไปไหนไม่รู้ ทิ้งเธอไว้กับเมธากรที่จดจ้องมาราวกับกำลังบีบบังคับอยู่กลาย ๆ เธอไม่อยากมีเรื่องขัดแย้งกับใครจึงตัดสินใจดื่มมันอย่างรวดเร็ว พาให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของใครบางคนทันที
เมธากรมองสำรวจคนหน้ายิ้ม ๆ นี่ขนาดเหมยลี่แต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีขาวธรรมดา เธอกลับดูโดดเด่นน่ามองมากกว่าผู้หญิงที่แต่งตัวโชว์เหนือหนังมังสาเป็นเท่าตัว
“เสียดายวันนี้เหมยไม่ทันตั้งตัว ไม่งั้นเราคงได้เห็นเหมยแต่งตัวสวย ๆ แบบแพรแล้ว” เมธากรไม่พูดเปล่า สายตากระหายหิวยังปราดมองคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจ
อาจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก่อนหน้าเขาจึงเริ่มใจกล้ามากขึ้น
“อื้ม” เด็กสาวรับคำสั้น ๆ รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจากสายตาอีกฝ่าย ส่วนแพรวา...คนที่ปากบอกว่าอยากเที่ยวกับเธอนักหนา เวลานี้กลับไปเต้นสนุกสนานกับผู้ชายโต๊ะอื่น ปล่อยให้เธออยู่กับเมธากรที่โต๊ะตามลำพัง
“ไม่สิ ต่อให้เหมยใส่แค่เสื้อยืดก็สวยจนเราหยุดมองไม่ได้แล้วละ” เขาพยายามห้ามสายตาตัวเองแล้วจริง ๆ แต่เสื้อยืดบนตัวเด็กสาวรัดรูปพอดีตัวเสียจนเขารับรู้ได้ว่าภายใต้เสื้อยืดตัวบางคืออกอวบอิ่ม
ดูก็รู้ว่าเหมยลี่ซ่อนรูป…แม่งโคตรน่าฟัดเลยว่ะ
“เอ่อ เดี๋ยวมานะกร พอดีเราเวียนหัวนิดหน่อยน่ะ” เหมยลี่ไม่ใช่คนโง่ที่ดูไม่ออกว่าเมธากรกำลังคิดอะไรอยู่ เธอรีบกวาดตามองหาแพรวาแต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ ราวกับเพื่อนสนิทจงใจปล่อยทิ้งให้เธออยู่กับเมธากรสองต่อสอง
รู้แบบนั้นแล้วคนตัวเล็กก็รีบวิ่งออกจากผับทันที เธอไม่สนใจเสียงเมธากรที่ร้องเรียกตามหลังมา เวลานี้เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เธอควรทำมากที่สุดก็คือการกลับบ้าน ก่อนจะถูกลวนลามทางสายตาเหมือนเมื่อครู่อีก
ติ๊ด ๆ ๆ
ยังไม่ทันที่เธอจะได้เรียกรถ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น บนหน้าจอปรากฏชื่อใครบางคนที่ไม่เคยโทรหาเธอก่อนเลยสักครั้ง
เหมราช?
“ฮัลโหลค่ะ”
“อยู่ไหน ถ้าแม่ฉันเป็นอะไรไป ฉันเอาเธอตายแน่เหมย!”
สัปดาห์ต่อมางานแต่งระหว่างเหมยลี่กับเหมราชถูกจัดขึ้นในสวนหน้าบ้านใหญ่ ทั้งคู่เชิญเฉพาะคนที่สนิทกันจริงเท่านั้น เพราะเหมยลี่ไม่ได้มีญาติที่ไหน คนเดียวที่เธอนับถือเหมือนญาติก็คือหัสดิน ส่วนเหมราชเองก็เชิญเฉพาะเพื่อนสนิทและคู่ค้าที่คุ้นหน้ากันเท่านั้น ด้วยไม่อยากเอาเวลาไปสนใจแขกเสียจนลืมดูแลคนใกล้ชิดจริง ๆ“ยินดีด้วยนะเหมย” เสียงอบอุ่นที่คุ้นเคยอวยพร“พี่ไตร!” เหมยลี่ส่งยิ้มให้ไตรฉัตรพร้อมเรียกเขามาถ่ายรูปด้วยกัน“ยินดีด้วยนะครับคุณเหม” นายตำรวจหนุ่มหันไปยิ้มให้เจ้าบ่าวของเธอ ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากจนเขาตั้งตัวไม่ทัน แต่ถึงอย่างนั้นไตรฉัตรก็ยินดีกับเหมยลี่และเหมราชจากใจจริงส่วนหัวใจของเขาน่ะหรือ…คงต้องให้เวลาเยียวยาต่อไปอีกนาน“ขอบคุณที่มาครับ” เหมราชยิ้มเล็กน้อย ยอมถ่ายรูปร่วมกับอีกฝ่ายโดยไม่อิดออดอย่างที่บอก เขาเป็นคนเคลียร์แล้วจบ จบคือจบ แม้จะเห็นสายตาไตรฉัตรที่มองเหมยลี่ด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับที่เขารู้สึก ในเมื่อไม่สามารถบังคับใจใครได้เหมราชก็ไม่อยากเก็บเอามาเป็นเรื่องจุกจิกกวนใจไม่แปลกเลยที่ไตรฉัตรจะรักเหมยลี่ แต่ต้องขอบคุณที่ตำรวจหนุ่มเลือกถอยไปแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นอะไร ๆ ก็อาจ
หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายผ่านไป เหมราชก็ออดอ้อนให้เหมยลี่กลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน โชคดีที่หญิงสาวยอมตกลงแต่โดยดี และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เหมยลี่กลับมาที่บ้านหลังใหญ่หัสดินและทุกคนในบ้านรอต้อนรับหญิงสาวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เหมยลี่มองทุกคนด้วยความซาบซึ้งใจ ไม่มีที่ไหนจะทำให้เธออบอุ่นใจได้เท่ากับบ้านหลังนี้แล้วจริง ๆ“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะเหมย” หัสดินออกมาต้อนรับหลานสาวด้วยตัวเอง สายตาหลุบมองมือลูกชายที่กอดเอวบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนเขาต้องกระแอมเสียงดังปรามมันบ้าง ถึงอย่างไรทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจตบแต่งกันเสียหน่อย เบา ๆ หน่อยก็ได้มั้ง“แฮ่ม ห่างน้องหน่อยก็ได้ เหม”“ห่างทำไม อยู่ใกล้แบบนี้แหละเหมยชอบ” เหมราชยักไหล่ไม่สนใจ“ไม่ต้องมาโยนให้เหมยเลยค่ะ ปล่อยได้แล้ว” คนถูกกอดเขินอายไปหมดกับสายตาหัสดินและคนอื่น ๆ ที่มองมา ก็จะไม่ให้เธออายได้อย่างไร แต่ไหนแต่ไรเธอกับเหมราชไม่ลงรอยกัน ทั้งบ้านรู้กันทั่วว่าเขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร แต่ตอนนี้ดันมาทำตัวคลั่งรักได้ไม่อายตัวเองในอดีตเลยนะ“มา ๆ เข้าบ้านกัน” คนเป็นพ่อและลุงเดินนำสองหนุ่มสาวเข้าห้องรับแขก ตั้งใจจะพูดคุยเรื่องจริงจังใช่ว่าหัสด
เห็นเธออยู่ในท่านี้ เงยหน้ามองเขาแบบนี้ เหมราชคิดดีไม่ได้เลยจริง ๆ“ไม่ชอบเหรอคะ” คนขี้ยั่วรู้ว่าชายหนุ่มน่าจะชอบมากเลยละสิไม่ว่า ก็เลยจัดการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สองมือเล็กโอบประคองเต้าอวบทั้งสองข้างให้บีบชิดเข้าหากัน จนโนมเนื้อเต่งตึงบีบรัดลำเอ็นของชายหนุ่มเอาไว้ตรงกลาง ก่อนจะรูดเต้านมขึ้นลงเป็นจังหวะไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป“อาาา เหมย เหมย” เหมราชนั่งตัวตรงมองดูการกระทำแสนเซ็กซี่ของคนรัก เหมยลี่อวบอิ่มไปทั้งตัวโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจนั่น ยิ่งเธอเห็นว่าเขาเสียวมากก็ยิ่งส่งแรงบีบเต้านมแน่นขึ้น สาวรูดขึ้นลงรัวเร็วจนเหมราชใจคอไม่ดีช่วงหลัง ๆ ตั้งแต่มีปัญหากัน ชายหนุ่มก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น รวมถึงเรื่องอย่างว่าด้วย พูดง่าย ๆ ว่าเหมราชไม่ได้ปลดปล่อยมานาน พอโดนรุกเร้าหนักจากผู้หญิงที่รัก มีหรือที่มันจะไม่…“เหมย พะพอก่อนพี่จะแตกแล้ว” เขารีบร้องห้ามเสียงหลง“ก็แตกเลยสิคะ” นั่นแหละที่เธอต้องการ สายตาหวานเชื่อมมองคนรักที่เวลานี้สูดปากครางไม่หยุด อาศัยเต้าอวบที่เขาหลงใหลขยับปรนเปรอเร็วขึ้น จนสามารถรีดน้ำกามเขาออกมาได้สำเร็จ“อะ อ่า!” แก่นกายชายหนุ่มกระตุกถี่ยิบ มันเสียวมาก อาจจะไม่เส
พวกเขาสองคนเคยมี ‘เซ็กซ์’ กันมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็จริง ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เหมยลี่กับเหมราชกำลังจะ ‘ร่วมรัก’ กันในวันที่ทั้งคู่อยู่ในสถานะคนรักอย่างเป็นทางการถ้อยคำหวานหู สัมผัสทะนุถนอมใส่ใจ รวมถึงการปลุกเร้าที่แสนอ่อนโยน เป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่เคยได้รับจากคนตรงหน้ามาก่อน“นะครับ…” คนขี้อ้อนเคล้นคลึงเต้าอวบ ปากไล่ขบเม้มไปตามติ่งหูหญิงสาวอย่างเพลิดเพลิน ร่างกายเหมยลี่เริ่มสั่นสะท้านจนเหมราชรู้สึกได้“อื้อ…ครั้งเดียวนะคะ” เหมยลี่ไม่อาจห้ามคนเจ็บได้ มากกว่านั้นเธอเองก็คิดถึงชายหนุ่มไม่น้อยไปกว่ากัน“น่ารักที่สุด เมียจ๋า ปลอบผัวหน่อยนะ” คนตัวโตจับไหล่บอบบางให้หันมาสบตากัน มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าหวานด้วยความทะนุถนอม เขาเจ็บหนักขนาดนี้ รักเธอขนาดนี้ ย่อมอยากได้รับการเอาอกเอาใจจากเธอเป็นธรรมดา“อยากให้ปลอบยังไงดีคะ” เหมยลี่ถามยิ้ม ๆชายหนุ่มไม่ตอบแต่ใช้นิ้วมือไล้วนบนริมฝีปากอิ่มแสนหวาน เขาคิดถึงยามที่ได้ดูดดึงลิ้นเล็ก คิดถึงยามที่ปากอิ่มนี้จูบเขาไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้น…แค่คิดว่าความอุ่นชื้นในปากสาวกำลังโอบอุ้มตัวตนเขาไว้อย่างแนบแน่นและเร่าร้อน แก่นกายที่สงบมานานก็ดีดตัวแข็งขึ้นมาอย
“ก็พี่ไม่อยากเลิก พี่รักเหมย รัก รัก รัก ได้ยินไหมว่าพี่รักเหมย”หมับ!คนตัวเล็กโดนคนเจ็บที่พลังเหลือล้นดึงเข้าไปกอดแน่น ครั้นเหมยลี่จะดิ้นก็ไม่กล้า กลัวว่าจะชายหนุ่มจะแผลปริเข้าให้“พอแล้วค่ะ ปล่อยเหมย เดี๋ยวก็เจ็บแผลจนได้หรอก”“บอกก่อนสิว่าเหมยหายโกรธพี่แล้ว จะไม่ทิ้งพี่ไปไหน แค่นี้พี่ก็สำนึกผิดแล้วจริง ๆ” เหมราชกอดเธอแน่น รู้ว่าตัวเองกำลังงอแงงี่เง่าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่นี่เมียเขานี่ เขาจะงอแงเท่าไรก็ได้“แล้วผู้หญิงคนอื่นของพี่ล่ะคะ…”“ไม่มี สาบานให้ตายเลยว่าไม่มี โอเค ก่อนหน้าที่เราจะมีอะไรกันพี่ก็ไม่ได้ใสสะอาดนักหรอก แต่หลังจากที่เรามีอะไรกันแล้ว พี่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครอีกจริง ๆ ที่พูดก็แค่อยากให้เหมยเจ็บก็เท่านั้น อ้อ เรื่องเค้กพี่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรแล้ว ตอนโดนเหมยทิ้งยังเจ็บยิ่งกว่าตอนเค้กเลือกผู้ชายคนอื่นหลายเท่า”“เหรอคะ”“เชื่อไหมว่าเหมยทำให้พี่รู้ตัวนะว่าที่ผ่านมาพี่ไม่ได้คิดอะไรกับเค้กไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง...”พอได้อธิบายแล้วเหมราชก็อยากจะเคลียร์ทุกสิ่งอย่างให้หญิงสาวได้เข้าใจ ระหว่างเขากับคีรติมันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เขารู้สึกจริง ๆ กับเหมยลี่“ที่พูดเพราะกลัวเหมย
ก๊อก ๆ ๆ สองหนุ่มสาวยังไม่ทันเคลียร์ใจกันจบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัด ผู้มาเยี่ยมเยือนคือสารวัตรหนุ่มในชุดเต็มยศที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเหมราชที่กังวลอยู่แล้วเป็นทุนเดิมหันขวับมองหญิงสาวทันที สังเกตทุกปฏิกิริยาของเธอโดยเฉพาะมือที่ยังกุมกันอยู่ว่าเธอจะสะบัดมือเขาออกไหมแน่นอนว่าเขากระชับมือเธอไว้แน่นมาก ถ้าไตรฉัตรเป็นสาเหตุทำให้หญิงสาวหมดรักเขาละก็ เหมราชยืนยันว่าจะสู้ต่อ สู้จนกว่าเหมยลี่จะเปลี่ยนใจกลับมารักเขาอีกครั้ง“สวัสดีครับ ผมได้ยินว่าคุณฟื้นแล้วเลยแวะมาเยี่ยม”คนเจ็บใกล้หายจะกลายเป็นใกล้ตายเพราะเห็นหน้ามึงเนี่ยแหละ!เหมราชไม่ตอบ การประจันหน้ากันครั้งก่อน เขาและไตรฉัตรยังสาดถ้อยคำหยาบคายใส่กันอยู่เลย ตอนนั้นเหมยลี่ประกาศกร้าวว่ากำลังคบกับมันอยู่ ให้ตายยังไงเหมราชก็ไม่มีทางญาติดีกับคนที่พยายามแย่งผู้หญิงของเขาไปเด็ดขาดเหมราชโพล่ง “เยี่ยมเสร็จก็กลับไปได้แล้ว” ไม่จำเป็นต้องมีมารยาท“หึ ผมมาเรื่องคดีด้วย ตอนนี้ทางเราจับคนร้ายที่ลอบยิงคุณได้แล้วนะครับ”“อืม จบยัง”“คุณเหม…” เหมยลี่เอ่ยปรามเบา ๆ ก่อนหันมองคนขี้หึงที่นอนหน้าบูดบึ้งไม่ต้อนรับไตรฉัตรอย่างออกหน้าออกตา ยังดีที่นายตำรวจ







