Share

ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 6

last update Last Updated: 2025-05-16 23:03:05

เช้าวันใหม่มาเยือน ร่างสูงโปร่งยืนมองดูหนึ่งร่างเล็กหนึ่งร่างใหญ่ที่ตอนนี้นอนกอดกันกลมอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จะปลุกก็กลัวโดนอาจารย์ด่า ไม่ปลุกก็กลัวคนเจ็บจะซ้ำในเสียก่อนเพราะโดยทับอยู่

ดวงตาคมลืมขึ้นมามองคนที่จ้องตนเองอยู่ทันที ทำเอาเฟยเทียนถึงกับสะดุ้งกับนัยน์ตาคมดุที่มองมา

“เอ่อ ท่านตื่นแล้วหรือ รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างหนักหรือไม่”

เฟยเทียนเอ่ยถามขึ้นหน้าตาเหลอหลายิ่ง

“มันต้องถามว่าเจ็บตรงไหนหรือไม่ ไม่ใช่หรือ” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นพร้อมกับตากลมโตใส่แป๋ว ที่มองไปยังลูกศิษย์ของตนเองอย่างเอาเรื่องนั้น ไม่ได้มีแววง่วงงุนอยู่เลยสักนิด

“อ้าว ท่านตื่นตั้งแต่เมื่อไรขอรับ” เฟยเทียนเอ่ยขึ้นทั้งยังส่งยิ้มแห้งไปให้อาจารย์ของตน

“ตั้งแต่ที่โดนเจ้าจ้องแล้ว” ร่างเล็กตอบก่อนจะดันตัวเองขึ้นนั่งคร่อมเอวสอบของคนเจ็บ มือเล็กขยี้ตาตนเองเบา ๆ ช่างเป็นภาพที่น่ารักเสียจริงในสายตาคนมอง แต่อย่าได้ขยับพูดเชียว

“หืม เหตุใดถึงอยู่ในท่านั้นเหล่าเจ้าคะ” เสียงหวานใสเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้อง

“อ้าว เหตุใดเจ้าก็มาด้วยเล่า” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามขึ้น ก่อนจะไถลลงจากร่างคนเจ็บแล้วปีนลงจากเตียงมา

“เฟยเทียนไปเรียกแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ” หลี่อิงเอ่ยตอบก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างเล็กนั้นอย่างเอ็นดู “ข้าว่าท่านไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้าให้หลี่ซินไปซื้อมาเพิ่มให้แล้ว” หญิงสาวเอ่ยบอกยิ้ม ๆ พร้อมกับมองไปที่สาวใช้คนสนิท

“ขอบใจเจ้ามาก เดี๋ยวข้ากลับมา” ร่างเล็กของเด็กน้อยเดินหายออกไปด้านข้างห้องนอนพร้อมกับสาวใช้ของหลี่อิง

ดวงตากลมโตจึงละจากร่างเล็กที่เดินหายไป มามองสำรวจคนเจ็บที่นอนอยู่ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะน้ำชากลางห้องอย่างคุ้นชิน

“ท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ ข้าถามได้หรือไม่” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอยู่นุ่มนวล

“…..”  ดวงตาคมเพียงมองหญิงสาวแวบหนึ่งก่อนจะดึงสายตากลับมาโดยไม่เอ่ยอันใด

“ข้าชื่อหลี่อิงเจ้าค่ะ ส่วนเขาชื่อเฟยเทียน ทายาทตระกูลเฟย”

หลี่อิงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบนิ่ง แต่ปฏิกิริยาของคนเจ็บทำให้หญิงสาวยกยิ้มมุมปากทันที ดวงตาคมมองตรงไปที่เฟยเทียน แววตานั้นมีทั้งความยินดีและรู้สึกผิด

“หึ” หลี่อิงถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เมื่อนางสามารถเดาทางชายหนุ่มได้

“มีอะไรกันหรือขอรับ” เฟยเทียนที่กำลังง่วนอยู่กับยาที่ต้องใช้รักษา เงยหน้าขึ้นมาถามทันทีเมื่อถูกจ้องมอง

“ไม่มีอันใด แล้วนี่หาทางรักษาได้แล้วหรือ” หญิงสาวถามขึ้น ระหว่างทางมาที่นี่เฟยเทียนได้ปรึกษาเรื่องนี้กับนางมาบ้างแล้ว ทำให้หลี่อิงรู้อาการบาดเจ็บของชายหนุ่มบนเตียงมาคร่าว ๆ

“ได้ขอรับ แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น” เฟยเทียนเอ่ยบอก

“ทำไมเล่า” เสียงเล็กเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินกลับเข้ามาในห้องแล้วได้ยินเข้าพอดี

“ท่านดูนี้สิขอรับ” เฟยเทียนยื่นถ้วยน้ำชาที่ใส่เลือดพวกเขาเมื่อคืนมาให้

“ตอนที่หยดเลือดของท่านลงไปสีของเลือดที่มีพิษมันกลับมาเป็นปกติ แต่พอผ่านไประยะหนึ่งมันก็กลับมาเป็นสีน้ำตาลจนเกือบจะเป็นดำเพราะพิษอีกครั้ง” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ร่างเล็กฟัง

“เพราะเหตุใด” คราวนี้เป็นคนเจ็บที่ถามขึ้นบ้าง เมื่อเห็นว่าอาจจะมีทางพอที่จะรักษาพิษได้

“อืม น่าจะเพราะคุณชายจางเคยแช่น้ำยาสมุนไพร ที่มีส่วนผสมของบัวหยกหิมะพันปี ที่เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ใช้ทำยาถอนพิษถูกหรือไม่”

หลี่อิงเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปขอความเห็นจากเฟยเทียน

“ขอรับ” เฟยเทียนเอ่ยตอบในสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยมา

“เป็นเช่นนี้แล้ว ต้องทำอย่างไร” จางหยวนเพ่ยถามขึ้น มือเล็กยกน้ำชาขึ้นจิบอย่างไม่ทุกข์ร้อน เมื่อตนเองกลายเป็นยาระงับพิษชั่วคราวให้กับชายหนุ่มไปแล้ว

“สมุนไพรที่เรามีอายุของมันไม่ถึงที่จะสามารถทำยาได้ แต่อย่างน้อย ก็พอทุเลาอาการเจ็บปวดให้น้อยลงได้บ้าง เมื่อรวมกับเลือดของท่านอาจารย์ขอรับ”

เฟนเทียนบอกกับทุกคน ในตอนนี้คลังสมุนไพรที่มีในเรือนมีเพียงอายุร้อยปีเท่านั้นไม่ถึงพันปีจึงใช้ทำยาถอนพิษไม่ได้

“ต้องใช้เลือดมากน้อยเพียงใด” เสียงคนเจ็บเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล หากสามารถหาทางรักษาได้ เขานั้นก็ยินดียิ่งถึงจะเพียงแค่บรรเทาความเจ็บปวดให้น้อยลงก็เถอะ แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือการใช้เลือดของเด็กคนหนึ่งเป็นส่วนผสม เขาไม่ได้ต้องการให้ใคร ต้องมาเสียสละตนเองเช่นนี้ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“ข้ายังไม่รู้ขอรับ” เฟยเทียนตอบตามความเป็นจริง

“อ้าว” จางหยวนเพ่ยกับหญิงสาวร้องออกมาพร้อมกัน ในขณะที่คนเจ็บขมวดคิ้มเข้าหากันแน่น

“ก็ยังไม่ได้ลองเลยนี้ขอรับ ข้าเลยไม่รู้ว่าต้องใช้เลือดมากน้อยเพียงใด แต่เดี๋ยวคืนนี้เราก็จะได้รู้กันแล้วไม่ใช่หรือ” เฟยเทียนกล่าวพร้อมกับมองไปยังคนเจ็บ

“อ่อ” หลี่อิงตอบรับอย่างเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการจะสื่อ

“จริงสิ เฟยเทียน” จู่ ๆ จางหยวนเพ่ยก็เรียกลูกศิษย์ของตนเสียงเรียบ

“ขอรับ” เฟยเทียนรีบตอบรับทันที

“ยาเพิ่มกำลังภายในของเจ้าไปถึงไหนแล้ว” ร่างเล็กถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“หืม” ชายหนุ่มแปลกใจยิ่งที่ผู้เป็นอาจารย์ถามถึงยานั้นอีก

“ข้าต้องการให้พวกเจ้าทุกคนดื่มมัน” จางหยวนเพ่ยแจ้งจุดประสงค์ทันที

“ห๊ะ!” เฟยเทียนถึงกับร้องเสียงหลง เพราะเขายังไม่ได้ทำการปรับปรุงยาให้ไม่มีผลข้างเคียงเช่นร่างเล็กตอนนี้

“พวกเราอาจต้องรับมือกับศึกใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ รีบเสีย” เสียงเล็กเอ่ยสั่งขึ้นอย่างจริงจัง

“ศึกใหญ่หรือขอรับ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยิน

“เรื่องตระกูลเจ้า ระหว่างที่รอพิษเขากำเริบเจ้าไปเตรียมยาเพิ่มกำลังภายในเสีย” จางหยวนเพ่ยเอ่ยสั่ง

“ท่านอา… หมายความว่า” เฟยเทียนชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะเคล้นเสียงถามผู้เป็นทั้งอาที่ตนนับถือและอาจารย์ที่เคารพ

“อืม หนี้แค้นตระกูลเจ้า ข้าพร้อมสะสางแล้ว” จางหยวนเพ่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมกับมองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มปลอบ

“ขอรับ” เฟยเทียนเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบรับคำสั่งนั้นอย่างหนักแน่น

“ข้าไม่เคยลืมความแค้นของตระกูลเฟย ไม่ต้องห่วง หนี้เลือดของตระกูลเจ้าข้าจะทวงคืนให้อย่างสาสม” 

น้ำเสียงที่หนักแน่นนี้ทำให้เฟยเทียนถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ก่อนจะเดินจากไป

“ถึงเวลาของพวกเราแล้วสินะ” ร่างเล็กเอ่ยขึ้นเมื่อตอนนี้ทั้งห้องเหลือคนอยู่เพียงสาม ไม่สิสี่ต่างหาก

“เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร” จางหยวนเพ่ยหันไปถามหวังชิงเฟิงที่นั่งคลอเคลียร่างของฮูหยินตนอยู่

“ตั้งแต่ที่ท่านเอ่ยไล่เฟยเทียนขอรับ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจคนถามนัก

“แล้วหลานข้าเล่า”

“อยู่กับท่านพ่อท่านแม่ข้าขอรับ” ตั้งแต่ที่ลาออกจากราชการอดีตเสนาบดีหวังก็แทบจะย้ายจวนมาอยู่ที่ต้าถงเสียให้รู้แล้วรู้รอดเพราะติดหลานชายเสียเหลือเกินทั้งที่ก็พาไปหาออกจะบ่อย

“อ่อ”

“เข้าเรื่องเถอะเจ้าค่ะ ข้ายังต้องไปให้นมหลานท่านอยู่นะเจ้าคะ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวเอ่ยขึ้น

“เอาละ ข้าขอแนะนำก่อนแล้วกัน ข้าจางหยวนเพ่ย เจ้าคงเคยได้ยินชื่อเสียงของข้ามาบ้าง”

เสียงเล็กเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปถามคนบนเตียงที่ตอนนี้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอยู่

“…..”  ไม่มีเสียงตอบกลับแต่อย่างไรมีเพียงสีหน้าและแววตาที่ไม่เชื่อเอาเสียเลย

“หึหึ เขาพูดจริง” หวังชิงเฟิงช่วยยืนยันอีกเสียงหนึ่ง

“แล้วท่านเล่าเป็นใคร” คนเจ็บเอ่ยถามขึ้นอย่างระแวงสงสัยว่าเหตุใดคนพวกนี้ถึงได้พูดคุยกับคนแปลกหน้าได้อย่างไม่กลัวเกรง

“ข้าหรือ บุตรชายอดีตเสนาบดีกรมขุนนาง ผู้กุมเส้นทางการค้าของแคว้น หวังชิงเฟิง”

ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ ยิ่งทำให้คนเจ็บมีสีหน้าหวาดระแวงยิ่งขึ้นว่าคนผู้นี้เกี่ยวข้องอย่างใดกับเด็กที่ช่วยเขาเอาไว้

“ข้าหลี่อิงเป็นคนรักของเขาเจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นโดยไม่ต้องรอให้ใครเอ่ยถาม

“หลงฝูหยาง คือนามของข้า” ในที่สุดคนเจ็บก็ยอมบอกชื่อของตนเองออกมา

“อืม ประมุขคนปัจจุบันของพรรคมังกรคราม แห่งหุบเขามังกร”

หวังชิงเฟิงเอ่ยเสียงเรียบเรียกสายตาคมให้ตวัดมองได้ไม่ยาก ‘คนพวกนี้รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร’

“เข้าเรื่องเถอะ พวกข้ามีเรื่องที่ต้องการขอความร่วมมือจากท่าน”

หลี่อิงเอ่ยขึ้นน้ำเสียงนุ่มนวลแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งไม่ต่างจากคนรัก

“หากเป็นการแก้แค้นให้ตระกูลเฟย ข้าเองก็กำลังทำอยู่เช่นกันพวกท่านไม่ต้องขอร้องอะไรทั้งนั้น” ชายหนุ่มเอ่ยบอกเสียงเรียบนิ่ง

“ข้าไม่ได้ต้องการให้ใครแก้แค้นแทน ที่ข้าต้องการคือล่าสังหารด้วยตนเองแม้คนผู้นั้นจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องชายของเจ้าก็ตามที” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา

“ข้าเข้าใจ แต่ด้วยรูปลักษณ์นี้ ท่านจะทำอย่างไร” หลงฝูหยางกวาดสายตาคมมองร่างเล็กของเด็กสิบขวบอย่างเงียบเชียบ

“ร่างนี้แล้วอย่างใด เจ้าก็เคยเห็นแล้วนี่ว่าข้าทำอะไรได้บ้าง” จางหยวนเพ่ยเอ่ยขึ้นเพื่อลบคำสบประมาทของชายหนุ่ม

“ใช่ ท่านทำได้อย่างมากมาย แต่ข้าในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลยด้วยซ้ำ หึ” ชายหนุ่มเค้นเสียงอย่างเย้ยหยันตนเอง

“พวกข้าจะช่วยท่านแก้พิษเองเจ้าค่ะ” หลี่อิงเอ่ยขึ้น

“มันไม่ง่ายถึงเพียงนั้น” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ตอนพิเศษส่งท้าย (End)

    พิเศษส่งท้ายเช้าอันสดใสมาเยือน หลงฝูหยางตื่นมาด้วยหน้าตาสดใสทั้งยังอารมณ์ดีไม่น้อย มองคนที่นอนทับตนเองอยู่ก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข“เพ่ยเพ่ย” เสียงทุ่มเข้มเอ่ยเรียกร่างบางเสียงเบาราวกับกำลังหยอกล้อ“อืม” จางหยวนเพ่ยที่ถูกรบกวนส่ายหน้าไปมากับอกของหลงฝูหยางก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง“หึหึ” เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูนี้คงมีแต่จางหยวนเพ่ยเท่านั้นที่ได้รับมัน เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมตื่นง่าย ๆ หลงฝูหยางก็ไม่คิดจะก่อกวนต่อ แขนแกร่งโอบคนบนตัวเอาไว้หลวม ๆ มือหนาลูบแผ่นหลังบางเป็นการกล่อมไปด้วย“อืม” เสียงครางแผ่วอย่างพอใจดังขึ้นให้ได้ยินจนอดเอ็นดูไม่ได้ ริมฝีปากหนาจึงกดจูบเบา ๆ ที่กลุ่มผมดำนุ่มนั้นหนึ่งทีในช่วงสายของวัน หลี่อิงกับเฟยเทียนจึงแวะมาดูอาการหลงฝูหยางอีกครั้งหลังจากที่ตอนแรกตั้งใจจะมาตั้งแต่เช้าแล้วแต่กลับถูกห้ามเอาไว้เสียก่อน ในตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พอมาเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็อยากจะเดินกลับเรือนเสียเดี๋ยวนั้น“นี้ใจคอพวกท่านไม่คิดจะลุกขึ้นมาต้อนรับแขกหน่อยหรือเจ้าคะ”หลี่อิงเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเดินเข้ามาภายในเรือนแล้วพบว่าทั้งสองคนยังนอนกอดกันกลมไม่ปล่อ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 33

    งานเทศกาลหยวนเซียวที่คึกคักไปด้วยผู้คน สองร่างในชุดสีแดงดำเดินเคียงกันอย่างมีความสุข สองมือผสานกันเอาไว้แน่นอย่างไม่เกรงสายตาใคร หนึ่งงดงามหนึ่งคมคายเป็นเป้าสายตาของผู้คนเสียเหลือเกินแต่ก็มิได้รู้สึกแปลกตาแต่อย่างไรเพราะก็มีแบบนี้ให้เห็นอยู่เนื่อง ๆ อีกทั้งขุนนางบางคนยังมีฮูหยินรองหรืออนุที่เป็นบุรุษด้วย“เจ้าเคยมาเดินงานเทศกาลหยวนเซียวบ้างหรือไม่” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามคนที่จับจูงมือกันอยู่“ไม่เคย” หลงฝูหยางส่ายหน้าก่อนจะหันมาตอบร่างเพรียวบางด้านข้าง“แล้วมาที่นี่บ่อยหรือไม่ จำได้ว่าตอนนั้นที่เจอกันก็เป็นที่ต้าถงนี้” จางหยวนเพ่ยยังคงถามอีกต่อเรื่อย ๆ“ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอยู่ที่พรรคเป็นหลักหรือไม่ก็ไปที่อื่นเสียมากกว่าที่ต้าถง แต่เมื่อสองปีก่อนปรากฎสมุนไพรหายากขึ้นเลยเข้ามาที่นี่บ่อยขึ้น”“หืม”“โรงประมูลชิงหลงนั้นอย่างไร” หลงฝูหยางเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อเห็นสีหน้าฉงนของจางหยวนเพ่ย“เอ๋ ของเจ้าหรือ” ร่างบางเอี้ยงคอถามอย่างน่ามอง ดวงตาใสแวววาวอย่างตื่นเต้น“ใช่ ให้เว่ยเหลียงเป็นคนดูแล” หลงฝูหยางไขข้อกระจ่างให้ร่างบาง“ถ้านังหนูหลี่อิงรู้ว่าท่านเป็นเจ้าของคงโดนป่วนแน่” จางหยวนเพ่ยเอ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 32

    รุ่งเช้ามาเยือนเหล่าศิษย์ทั้งหลายผู้เป็นเด็กดีทำตัวเป็นห่วงอาจารย์ผู้เป็นที่รักยิ่งมายืนรออยู่หน้าเรือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคนจนกระทั่ง“ข้าง่วง พวกเจ้ากลับไปเลยไม่ต้องมาก่อกวนข้า” เสียงทุ้มนุ่มลอยออกมาจากในเรือนไม้แต่กลับไม่เห็นตัวคนจนเหล่าเอ่ยแซวกันเป็นแถบ“แม้อาจารย์ ผู้ชายมาเยือนเรือนลูกศิษย์ถึงกับไม่มีความหมายเลยหรือขอรับ” หวังเลี่ยงรุ่ยเอ่ยน้ำเสียงหยอกเย้าผู้เป็นอาจารย์จากนอกเรือน“ไปไกล ๆ เลยเจ้าเด็กพวกนี้”“หึหึ ขอท่านประมุขอย่าหนักมือนักเล่า” หลิวหยางเอ่ยขึ้นกั่วเสียงหัวเราะชอบใจก่อนจะพากันสลายตัวไปทำหน้าที่ของตนเองกลับมาภายในเรือนตอนนี้ร่างเพรียวบางของจางหยวนเพ่ยกำลังนอนทับอกของหลงฝูหยางอยู่ใบหน้าคมสวนงอง้ำอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อถูกก่อกวนตั้งแต่เช้าทั้งที่พึ่งได้นอนไปเพียงนิดเดียว“ถ้าง่วงก็หลับต่ออีกหน่อยเถอะ” หลงฝูหยางเอ่ยเสียงนุ่มทั้งยังลูบแผ่นหลังเนียนเป็นการกล่อมอีกคน“ไม่เอา ข้าอยากคุยกับเจ้ามากกว่า” จางหยวนเพ่ยเอ่ยเสียงอ่อยนิ้วเรียวลูบไล้ไปบนแผ่นอกชายหนุ่มเล่นอย่างไม่รู้จะทำอันไร“เรื่องของเราหรือ” หลงฝูหยางก้มหน้าลงมาถามเสียงแผ่ว“อืม”“ว่ามาเถอะ ข้าเชื่อฟังท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 31

    หนึ่งเดือนต่อมาเรื่องที่อินจางเหว่ยได้ก่อเอาไว้ถูกชำระความเรียบร้อยแล้ว จ้าวจางเว่ยและหลงจ้าวอินจบชีวิตตนเองลงในหอลงทัณฑ์ ส่วนอินจางเหว่ยนั้นหลงฝูหยางไม่ยอมให้อีกคนตายง่ายดายถึงเพื่อนั้น เขาถูกขังเอาไว้ในส่วนพิเศษในหอลงทัณฑ์ตรึงร่างด้วยโซ่ตรวนไม่ให้คิดฆ่าตัวตาย ให้ทดทุกข์ทรมานกับพิษที่ได้รับรวมถึงพิษที่เจ้าตัวปรุงขึ้นอย่างเพลิงผลาญฤทัยเก้าสุริยันจนกว่าจะตายจากมันไปข้างหนึ่งเรื่องที่ต้องสะสางก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ที่นี่ก็คงเหลือในเรื่องของหัวใจที่ยังไม่มีความกระจ่างอะไรเลย และตอนนี้บรรยากาศภายในเรือนพักของหลงฝูหยางนั้น ช่างชวนให้คนที่อยู่ด้วย อยากจะหนีออกไปเสียจริง แต่ก็ทำไม่ได้“เอ่อ ท่านประมุขขอรับ ข้าว่าถ้าไม่มีใจจะอ่าน ไป ไป ที่นี่อยากไปดีหรือไม่ขอรับ” จางเฉินเอ่ยขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะได้รับสายตาคมที่ตะวัดมองมาจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง“ข้าเห็นด้วยกับจางเฉินนะขอรับ ไปหาสักหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นอะไรไม่ใช่หรือ ดีกว่านั่งจมอยู่อย่างนี้แล้วตนเองไม่มีความสุขนะขอรับ” จางหลินเองก็เห็นด้วยกับความคิดของจางเฉิน ตั้งแต่ที่อีกคนกลับไปหลังจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ผู้เป็นนายของพวกเขาก็เอาแต่นั้งท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 30

    “ข้าจะรับเอาไว้เอง และจะให้เขาชดใช้อย่างสาสม” หลงฝูหยางกล่าวให้คำมั่น หวังเลี่ยงรุ่ยจึงหันไปมองศิษย์น้องของตนเองเมื่อเห็นแววตาของทุกคนแล้ว เขาจึงหันกลับมาหาหลงฝูหยาง“ได้ พวกข้าจะให้ท่านเป็นคนจัดการ”ปึ้ง!ร่างของอินจางเหว่ยถูกเหวี่ยงไปที่ปลายเท้าของหลงฝูหยางทันทีด้วยน้ำมือของจางหยวนเพ่ย นั้นยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายของอินจางเหว่ยมากยิ่งขึ้น“พวกเจ้าอยากรู้ใช่หรือไม่ ว่าข้าเป็นใคร นามของข้าคือ หยวนเพ่ย แช่ จาง ผู้ที่เคยท่องไปทุกที่แล้วในยุทธภพนี้ ชื่อเสียงมากมายที่ข้าได้รับ ข้าล้วนไม่เคยหลงในอำนาจของมัน แล้วเจ้าเป็นใคร อินจางเหว่ย ถึงได้คิดจะขึ้นเป็นใหญ่ควบคุมทั้งยุทธภพได้” สายตาคมสวยปรายมองอินจางเหว่ยก่อน จะเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งราวกับมองมดปลวกก็มิปาน“เป็นไปไม่ได้ คนผู้นั้นเป็นใคร ใช่คนที่เจ้าจะเอามาล่อเล่นได้หรือ”อินจางเหว่ยกล่าวอย่างเหยียดหยัน ที่อีกคนกล้ายกตนขึ้นเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงดังคนผู้นั้น“ข้าเป็นพยานได้ นั้นคือ จางหยวนเพ่ย ตัวจริงไม่ผิดแน่” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นแต่กลับไม่เห็นตัวคนพูด กำลังภายในมากมายที่กดทับอยู่เหนือบริเวณนี้ บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นผู้มีกำลังภายใ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 29

    ในขณะที่พวกเขากำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ตรงหน้า คนกลุ่มหนึ่งก็ได้ทำการเก็บกวาดศัตรูอย่างเงียบเชียบก่อนจะส่งคนของตนเองเข้ามาแทนจนที่สุดทุกอย่างก็พร้อมแล้วจางหยวนเพ่ยได้รับสัญญาณจากเหล่าลูกศิษย์แล้วจึงมองสบตากับหลงฝูหยางที่เล่นถ่วงเวลาอยู่กับหลงจ้าวอิน ร่างสูงรับรู้ได้ทันทีก่อนจะปิดจบฉากการต่อสู้นี้ปลายกระบี่แหลมคมชี้ไปที่ร่างสูงโปร่งของหลงจ้าวอินก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะวัดครึ้งวงกลมแฝงกำลังภายในเต็มเปี่ยม อินจางเหว่ยที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้าช่วยบุตรชายทันที แต่ก็ยังต้านพลังของหลงฝูหยางเอาไม่ไม่อยู่สองพ่อลูกกระเด็นไถลไปกับพื้นก่อนจะกระอักเลือดออกมา อาการบาดเจ็บของอินจางเหว่ยนั้นไม่หนักหนานักเพราะก็เป็นผู้ที่มีกำลังภายในสูงส่งผู้หนึ่ง จึงพอป้องกันตนเองเอาไว้ได้ แต่กับหลงจ้าวอินนั้นไม่ใช่ร่างกายที่แสนเจ็บปวดรวดราวบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บที่ทำลายลึกถึงตันเถียน ร่างสูงโปร่งนอนงอตัวกอดตนเองแน่นแค่ขยับเพียงนิดก็เจ็บปวดทรมานเกินจะทานทน เสียงคำรามต่ำในลำคอนั้นแฝงความมายินยอมอยู่ด้วยหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในขณะเดี๋ยวไป๋ซีหมิงก็สลัดออกจากการควบคุ้มมาได้อย่างง่ายดาย“เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะมีกำลังภายในถึงเพียง

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 28

    “ยังไม่ได้รับสัญญาณเลย ท่านก็ใจร้อนเกินไป” จางหยวนเพ่ยเอ่ยอย่างเหนื่อยใจกับความใจร้อนของคนข้างกาย“ถ้าให้รอสัญญาณแล้วต้องมันแตะต้องท่าน ข้าจัดการเองง่ายกว่า”หลงฝูหยางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ยิ่ง ใบหน้าคมบูดบึ้งอย่างไม่พอใจที่ร่างบางปล่อยให้คนอื่นเข้าใกล้ถึงเพียงนี้ ก่อนจะตวัดตาคมมองหลงจ้าวอินอย่างไม่พอใจ“นี้พวกเจ้า หลอกข้าหรือ” อินจางเหว่ยเอ่ยเสียงลอดฟันอย่างเจ็บใจที่หลงกลชายหนุ่ม“ข้าหลอกท่านหรือ ท่านชะล่าใจเองต่างหาก พิษที่ท่านวาง ท่านไม่ได้ตรวจสอบหรือว่ามันออกฤทธิ์เช่นไร” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามขึ้น“นี้…” อินจางเหว่ยถึงกับเอ่ยอันใดไม่ออก เพราะคิดว่านั้นอาจเป็นอาการข้างเคียงของพิษจึงไม่ได้เอะใจแต่อย่างไร เพราะฤทธิ์ของมันเองมีผลกับกำลังภายในทำให้เข้าใจไปเช่นนั้น“เฮ้อ ที่กำลังภายในพวกเราปั่นป่วนนั้น ต้องโทษลูกศิษย์ข้าเอง ทำยาเพิ่มกำลังภายในรอบแรก ข้าก็กลายเด็กสิบขวบ รอบสองยังทำเอากำลังภายในปั่นป่วนจนควบคุมไม่ได้ ต้องพักเอาแรงกันถึงสองวันเลยทีเดียว” จางหยวนเพ่ยเอ่ยขึ้นโดยเน้นคำว่าเด็กสิบขวบอย่างชัดเจน“!!! ” หน้าของอินจางเหว่ยตอนนี้นั้นช่างไม่น่าดูเอาเสียเลย สายตาที่มองมาราวกับจะฉีกร่างพวกเ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 27

    เรือนพักหลงฝูหยางที่ตอนนี้มีการดูแลอย่างเข้มงวดโดยคนของอินจางเหว่ย หากไม่ได้รับอนุญาตจากชายผู้นั้นก็ไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปได้แม้แต่คนเดียว“ข้าเข้าไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร” จางหลินเอ่ยขึ้นอย่างฉงน เมื่อออกไปทำธุระด้านนอกมาครึ่งวันแต่พอจะกลับเข้าเรือนพักของผู้เป็นนายกลับไม่สามารถเข้าไปได้“ไม่มีคำสั่งของผู้อาวุโสอินจางเหว่ย ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปได้” คนเฝ้าประตูเอ่ยขึ้นเสียงเข้มใบหน้าเรียบนิ่งเย็นชายิ่ง“แต่ข้าเป็นคนสนิทที่ดูแลท่านประมุขกับฮูหยิน เหตุใดจึงจะเข้าไปไม่ได้”จางหลินเอ่ยอย่างไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธเช่นนี้ทั้งที่ตนเป็นคนของท่านประมุขโดยตรง“ไม่ได้ก็คือไม่ได้” ชายผู้นั้นยังคงยืนยันคำเดิม จนจางหลินแสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา“จางหลิน” จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นจางเฉินนั้นเองที่เดินเข้ามาก่อนจะหยุดอยู่ข้างกัน“อาเฉิน นี้หมายความว่าอย่างไร เหตุใดข้าถึงเข้าไปในเรือนท่านประมุขไม่ได้” ชายหนุ่มรีบเอ่ยถามสหายทันที“เจ้าตามข้ามานี้” จางเฉินลากสหายออกไปจากตรงนั้นทันทีโดยไม่ได้หันกลับไม่มองสักนิดว่ามีใครคนหนึ่งแอบยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อออกมาไกลพอสมควรแล้

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 26

    ในที่สุดวันงานแต่งก็มาถึง ทุกอย่างค่อยข้างเป็นไปอย่างเรียบร้อยเนื่องจากอินจางเหว่ยวางทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว เรื่องสีผมที่เปลี่ยนไปของจางหยวนเพ่ย หลงฝูหยางได้อธิบายกับทุกคนแล้วว่าเป็นเพราะทั้งคู่ได้ทำพันธะสัญญาคู่บำเพ็ญกันแล้วเส้นผมของอีกคนจึงกลายเป็นสีดำเพราะกำลังภายในที่เสริมกันของพวกเขาหลงฝูหยางและจางหยวนเพ่ยอยู่ในขุดสีแดงเข้มเรียบง่ายปักด้วยด้ายสีทองงดงามยิ่ง พิธีจัดอย่างเรียบง่ายไม่ได้เคร่งครัดอันใด ทางฝั่งเจ้าสาวนั้นเป็นหวังชิงเฟิงที่เดินทางมาใบหน้าคมคายสวมหน้ากากเงินแกะสละลวดลายอสรพิษงดงามปิดบังใบหน้าส่วนบนเอาไว้ ทำให้ดูลึกลับน่าค้นหาอย่างยิ่ง“เอ่อ สวมหน้ากากเช่นนี้จะดีหรือ” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นขอความเห็นจากร่างบาง“พี่ชายข้าคนนี้ ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยหน้าตาให้ได้เห็นเจ้าค่ะ แม้แต่ข้าก็น้อยครั้งนักที่จะได้พูดคุยแบบเห็นหน้าเขา” จางหยวนเพ่ยเอ่ยเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มบาง“เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ” อินจางเหว่ยรับคำอย่างไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเหตุใดต้องปิดบังหน้าตาด้วยเล่า“อย่างถือสาพี่ชายข้าเลยเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็เริ่มพิธีกันเถอะได้ฤกษ์ยามแล้ว” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นแม้จะคาใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status