Share

ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 5

last update Last Updated: 2025-05-16 23:02:33

“ข้าให้โอกาสพวกเจ้าในสิบลมหายใจ ใครที่หนีรอดไปได้ ข้าจะปล่อยไป และก็ฝากไปบอกนายเหนือหัวของพวกเจ้าด้วยว่า เมื่อสองปีก่อนก่อกรรมทำชั่วกับใครเอาไว้ เตรียมตัวรอรับผลของมันได้เลย”

เพียงสิ้นเสียงนั้นทั่วสรรพางค์กายก็เย็นเยือกขึ้นทันที แต่ยังไม่ทันได้ขยับเลยแม้เพียงนิด พวกมันก็ตกตายอย่างไม่รู้ตัว ร่างสูงหันมองคนตรงหน้าอย่างเต็มตาทันที ก่อนจะหรี่ตาพิจารณาร่างเล็กอย่างถี่ถ้วน

“มีอะไรจะถามก็เอ่ยมาเถอะ” จางหยวนเพ่ยเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันความคิดของคนตรงหน้า

“เจ้าเป็นใครกันแน่” เสียงเยือกเย็นเอ่ยขึ้นอย่างระแวง ตาคมจ้องมองร่างเล็กตรงหน้าอย่างไม่วางตา

“ท่านไม่ต้องรู้หรอกว่าข้าเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่าพวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักฆ่าเหล่านี้ หรือแม้แต่น้องชายของท่านเอง”

จางหยวนเพ่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ราวกับว่าเมื่อกี้ไม่ได้พึ่งจะฆ่าคนไปอย่างเลือดเย็น

“นี่เจ้า…. แค่ก แค่ก อึก!” ยังไม่ทันได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ร่างสูงก็ไอหอบอย่างหนัก ทั้งยังกระอักออกมาเป็นเลือดจนเด็กน้อยตาโต รีบเข้าไปประคองทันที

“เฮ้ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ไหวหรือไม่” เสียงเล็กเอ่ยถามอย่างร้อนรน เมื่อชายหนุ่มยังคงไอออกมาไม่หยุด ก่อนจะทิ้งตัวลงมาจนร่างเล็กแทบรับน้ำหนักไว้ไม่ไหว หากเป็นเพียงเด็กธรรมดา คงได้โดนร่างสูงล้มทับแบนไปแล้ว

“เอาอย่างไรดีละทีนี้ พากลับเรือนก่อนแล้วกัน” จางหยวนเพ่ยเอ่ยพึมพำกับตนเอง ก่อนจะหายวับไปจากตรงนั้น ส่วนร่างนักฆ่าที่นอนเกลื่อนอยู่ถูกเขมือบลงท้องของเซียวไป๋ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเหลือหลักฐานให้สืบต่อได้

ร่างเล็กของจางหยวนเพ่ยวางคนที่แบกมาลงบนเตียงกำปั้นน้อย ๆ ทุบหลังตนเองราวกับคนแก่อายุห้าสิบปี ก่อนจะจัดท่านอนให้ร่างสูงแล้วออกไปเรียกลูกศิษย์ของตนเองที่เรือนสมุนไพร

“อาเทียนตื่น อาเทียน จะตื่นขึ้นมาดีดีหรือจะให้ข้าพังประตูเข้าไป” เสียงเล็กตะโกนเรียกเฟยเทียนอยู่หน้าเรือนสมุนไพร

“ท่านอา ท่านมาปลุกผู้อื่นดึก ๆ ดื่น ๆ เช่นนี้ ยังจะมาทำลายข้าวของอีกหรือขอรับ”

เฟยเทียนเปิดประตูเรือนออกมาอย่างงัวเงีย หน้าตาบึ้งตึงเพราะถูกปลุกกลางดึก

“เอาน่า ข้าเก็บคนเจ็บมาได้ ไปดูให้หน่อย” จางหยวนเพ่ยในร่างเด็กสิบขวบเอ่ยสั่งชายหนุ่มเสียงใส ดวงตากลมโตกระพริบปริบ ๆ มองลูกศิษย์ตนเองในสภาพที่ไม่คอยน่าดูเท่าไร

“ท่านใช้คำว่าเก็บคนเจ็บมาหรือขอรับ ท่านไปทำอะไรมา”

เฟยเทียนถึงกับหายเมาขี้ตาทันทีเมื่ออีกฝ่ายบอกว่ามีคนเจ็บมาด้วย

“อย่าพึ่งถาม ไปดูก่อน” ร่างเล็กบอก ก่อนจะเดินนำกลับไปยังเรือนของตนเอง เฟยเทียนเห็นเช่นนั้นจึงกลับเข้าไปเอาของก่อนจะรีบตามไปทันที

ร่างโปร่งมองร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงของผู้ที่ตนเรียกว่าท่านอา ก่อนจะนั่งลงขอบเตียงแล้วเริ่มตรวจอาการของชายหนุ่มผู้นั้น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่นก่อนจะคายออก

“อาการบาดเจ็บไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงขอรับ” เฟยเทียนหันไปบอกกับเด็กน้อยที่นั่งอยู่ไม่ไกล

“หืม” จางหยวนเพ่ยร้องครางในลำคอทันที หากอาการไม่นักมาก แล้วเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เล่า

“ที่อาการแย่เช่นนี้ เป็นเพราะเขาถูกพิษขอรับ” น้ำเสียงของเฟยเทียนเคร่งเครียดขึ้นมาทันที

“พิษหรือ” ร่างเล็กทำหน้าฉงนทันทีที่ได้ยิน

“ขอรับ เพลิงผลาญฤทัยเก้าสุริยัน เป็นพิษที่ร้ายกาจมาก ทำขึ้นจากพิษของสัตว์ร้ายเก้าชนิด และสมุนไพรหายากที่มีฤทธิ์ร้อนเก้าอย่าง ใช้เวลาปรุงยาวนานถึงเก้าสิบเก้าวัน เรียกได้ว่าทั้งหายากและปรุงลำบากยิ่ง” เฟยเทียนเอ่ยอธิบายให้ร่างเล็กฟัง

“ผลของมันเป็นเช่นใด” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามอย่างสนใจในสิ่งที่เฟยเทียนบอก

“ผู้ที่ถูกพิษนี้เข้าไปนั้น จะทรมานอย่างมาก ร่างกายจะร้อนรุ่มดังถูกไฟเผาทั้งเป็นเมื่อพิษกำเริบ พิษนี้ออกฤทธิ์ทุกวันที่เก้าของเดือน ยาวนานถึงเก้าชั่วยามจึงทุเลาลง อีกทั้งยังไม่สามารถกดข่มเอาไว้ได้ด้วยกำลังภายใน”

“เช่นนี้ก็หมายความว่า ไม่สามารถทำอันใดได้เลยเมื่อพิษกำเริบ”

เสียงเล็กถามขึ้น คิ้วเรียวเล็กขมวดเข้าหากันแน่นอย่างใช้ความคิด หากไม่สามารถใช้กำลังภายในกดข่มเอาไว้ได้ ก็มีแต่จะต้องเผชิญหน้ากับมัน ช่างเป็นพิษที่ร้ายกาจเสียจริง

“ขอรับ นอกจากนี้หากภายในระยะเวลาหลังจากถูกพิษแล้วเก้าปี ไม่สามารถหายาถอนมาได้ ผู้ที่ถูกพิษนี้จะค่อย ๆ ถูกพิษร้อนภายในร่างกาย กัดกินจากภายในออกสู่ร่างกายภายนอก ตามตัวจะปรากฏรอยไฟไหม้ขึ้นจนทั่วร่าง แล้วตายลงอย่างทรมานภายในเก้าวันให้หลัง” 

เฟยเทียนกล่าวถึงอาการของพิษให้จางหยวนเพ่ยได้ฟังอย่างละเอียด

“ผู้ที่วางยา ช่างโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ต้องทรมานทุกเดือนไม่พอ ก่อนตายยังต้องทนทรมานขนาดนั้น เป็นข้าคงชิ่งฆ่าตัวตายก่อน”

ใบหน้าเล็กน่ารักส่ายไปมากับความโหดเหี้ยมอำมหิตของคนผู้นี้

“ขอรับ ต้องโกรธแค้นกันเพียงใด ถึงได้ลงมือโหดเหี้ยมและทรมานคนผู้หนึ่งได้ถึงเพียงนี้” เฟยเทียนเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองคนเจ็บอย่างเห็นใจ

“มียาถอนหรือไม่” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามขึ้น

“มีขอรับ แต่…. แทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะตามหาส่วนผสมของยาถอนพิษได้”

เฟยเทียนถอนหายใจออกมา เมื่อนึกถึงส่วนผสมของยาถอนพิษชนิดนี้

จางหยวนเพ่ยมองดูลูกศิษย์นั่งทอดถอนหายใจออกมา ก็ได้แต่คิดในใจว่า น่าจะเป็นส่วนผสมที่ยากต่อการตามหาเป็นแน่แท้ 

“เจ้าลองพูดมา” เสียงเล็กเอ่ยสั่ง

“ท่านอาจารย์จะอยากรู้ไปทำไมขอรับ” เฟยเทียนขยับตัว หันไปจ้องมองร่างเล็กของเด็กสิบขวบของผู้เป็นอาจารย์ ที่เกิดจากน้ำมือตนเอง ก็ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ หากไม่เห็นหน้าก็ยังพอทนแต่พอหันมองตรง ๆ เช่นนี้แล้วก็ได้แต่ร้องในใจ ว่าช่างมันเถอะ

“ไม่ต้องพูดมาก บอกมาก็พอ” ดวงตากลมโตสุกใส เงยสบกับนัยน์ตาคมของลูกศิษย์นิ่ง แต่ในความรู้สึกของเฟยเทียนมันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด ออกจะน่ารักเสียมากกว่า ก็ไม่คิดว่าร่างเด็กสิบขวบของอาจารย์ที่ภายในอายุเกือบจะหกสิบแล้วนั้นจะน่ารักได้ถึงเพียงนี้

“แฮม เอ่อ มีดอกพลับพลึงแมงมุมดำ บัวหยกหิมะ เห็ดหลินจือ เหล่านี้ต้องมีอายุพันปีขึ้นไปขอรับ และก็สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เลือดของอสรพิษเกล็ดเหมันต์ ที่แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้วขอรับ” เฟยเทียนเอ่ยขึ้นอย่างหวาด ๆ

“อสรพิษเกล็ดเหมันต์ ต้องใช้เลือดของมันมากเลยหรือ”

จางหยวนเพ่ยปรายตามองที่ข้อมือตนเอง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นเสียงเครียดสีหน้าเป็นกังวลยิ่ง

“ไม่ขอรับ ใช้เพียงเก้าหยดเท่านั้น” เฟยเทียนรีบเอ่ยบอกเมื่อเห็นหน้าของผู้เป็นอาจารย์

“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” ร่างเล็กพยักหน้าขึ้นลงเป็นการรับรู้ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าจะได้ฆ่าเจ้าตัวน้อยนี้เสียแล้ว แต่เดี๋ยวนะ นี้ข้าคิดจะช่วยเขางั้นหรือ จางหยวนเพ่ยแอบตกใจกับความคิดของตนเองเล็กน้อย

“ว่าแต่ท่านอาจารย์ไปเก็บเขามาทำไมขอรับ” เฟยเทียนเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

“เอาน่า เผื่อมีประโยชน์ในอนาคต ว่าแต่ตอนนี้ทำอะไรได้บ้าง” ร่างเล็กถามขึ้นก่อนจะหันไปมองคนที่ยังไม่ได้สติอยู่บนเตียง

“ตอนนี้หรือขอรับ อืม ขอข้าคิดดูก่อนนะขอรับ” ชายหนุ่มนั่งคิดอยู่ชั่วครู่ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ร่างสูงเดินหายเข้าไปในครัวของผู้เป็นอาจารย์ก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับมีดเล็กเล่มหนึ่ง

จางหยวนเพ่ยมองดูลูกศิษย์ของตนอย่างไม่เข้าใจว่าไปเอามีดมาทำอะไร เฟยเทียนเดินมาหยิบถ้วยน้ำชาเปล่าที่วางอยู่ก่อนจะนำไปที่เตียงคนเจ็บ

“นั้นเจ้าจะทำอะไร” เมื่อเห็นเฟยเทียนใช้มีดกรีดปลายนิ้วของคนบนเตียงใส่ในถ้วยน้ำชาจางหยวนเพ่ยจึงเอ่ยทักท้วงขึ้น

“ข้าอยากลองดูขอรับ” เฟยเทียนเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง เมื่อได้เลือดในปริมาณที่พอใจแล้วจึงเดินกลับมาที่ร่างเล็กของจางหยวนเพ่ยก่อนจะยื่นมีดเล่มนั้นให้

“…..”  ดวงตากลมโตได้แต่กะพริบปริบ ๆ อย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมรับมีดมาแต่โดยดี

“ขอเลือดท่านหน่อยขอรับ” เฟยเทียนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นถ้วยน้ำชาที่มีเลือดของคนเจ็บไปหาร่างเล็ก จางหยวนเพ่ยมองอย่างไม่เข้าใจนัก แต่ก็ยอมทำให้ คนมีดเย็นสัมผัสกับปลายนิ้วเล็กก่อนจะถูกกรีดจนเลือดสีแดงสดไหลออกมา เมื่อได้เลือดในปริมาณที่พอใจแล้ว ชายหนุ่มก็นำมันไปวางทิ้งไว้บนโต๊ะน้ำชาเพื่อรอเวลา

“…..”

“โอ๊ะ.... อ้าว!” ร่างสูงร้องมาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะแปลงเปลี่ยนเป็นผิดหวัง เมื่อจ้องมองไปยังถ้วยน้ำชานั้น

“เป็นอันใดหรือ” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจกับอาการของลูกศิษย์ตนเอง

“ก็…. ไม่มีอะไรขอรับ เอาเป็นว่าต้องรอดูพรุ่งนี้ เฮ้อ ข้ากลับก่อนนะขอรับ พรุ่งนี้ข้าจะรีบมาแต่เช้า ตอนนี้ตาข้าไม่ไหวแล้ว ง่วงมากเลยขอรับ”

เฟยเทียนเดินไปหยิบกระเป๋ายา ก่อนจะออกจากห้องไปทิ้งให้ร่างเล็กของจางหยวนเพ่ยมองตามตาปริบ ๆ

“ไปนอนก็ได้” เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้วร่างเล็กก็เลือกที่จะไปพักเช่นกัน แต่เมื่อมองไปที่เตียงของตนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้ ร่างเล็กจึงปีนข้ามคนเจ็บไปอีกฝั่งของเตียงสะบัดมือเล็กเบา ๆ เพื่อดับเทียนก่อนจะมุดร่างป๋อม ๆ เข้าไปในผ้าห่มแล้วหลับไปทันที

ดวงตาคมลืมขึ้นมาอย่างเงียบเชียบในความมืดเขาไม่ได้หลับไปอย่างที่ทั้งสองคนเข้าใจ แต่กลับได้ยินบทสนทนาทั้งหมดในห้อง ร่างสูงนอนลืมตาอยู่อย่างนั้นกำลังลังเลว่าจะตัดสินใจอย่างไรดีจะออกไปจากที่นี่ตอนนี้หรืออยู่ต่อ

“คิดมากไปไย อย่างไรพวกเราก็ต้องได้เจอกันอีกแน่ อยู่ต่อเพื่อรอดูผลลัพธ์ไม่ดีกว่าหรือ” เสียงเล็กของคนด้านข้างที่คิดว่าหลับไปแล้วเอ่ยขึ้น

“เจ้าเป็นใครกันแน่” เสียงเข้มดุเอ่ยถามขึ้น ดวงตาคมเหม่อมองหลังคาเรือนอย่างเหม่อลอย

“พรุ่งนี้ค่อยตอบได้หรือไม่ข้าง่วงแล้ว” เสียงเล็กเอ่ยอย่างงัวเงียก่อนจะปีนขึ้นไปนอนบนตัวของอีกคน ร่างสูงนอนแข็งทื่อทั้งตัวดวงตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจ

“อืม…อุ่น” ใบหน้าเล็กมุดเข้ากับอกแกร่งเมื่อได้ที่ที่เหมาะแล้วก็หลับไปทันที ไม่ได้สนใจอีกคนเลยว่าเป็นอย่างไรตอนนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ตอนพิเศษส่งท้าย (End)

    พิเศษส่งท้ายเช้าอันสดใสมาเยือน หลงฝูหยางตื่นมาด้วยหน้าตาสดใสทั้งยังอารมณ์ดีไม่น้อย มองคนที่นอนทับตนเองอยู่ก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข“เพ่ยเพ่ย” เสียงทุ่มเข้มเอ่ยเรียกร่างบางเสียงเบาราวกับกำลังหยอกล้อ“อืม” จางหยวนเพ่ยที่ถูกรบกวนส่ายหน้าไปมากับอกของหลงฝูหยางก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง“หึหึ” เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูนี้คงมีแต่จางหยวนเพ่ยเท่านั้นที่ได้รับมัน เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมตื่นง่าย ๆ หลงฝูหยางก็ไม่คิดจะก่อกวนต่อ แขนแกร่งโอบคนบนตัวเอาไว้หลวม ๆ มือหนาลูบแผ่นหลังบางเป็นการกล่อมไปด้วย“อืม” เสียงครางแผ่วอย่างพอใจดังขึ้นให้ได้ยินจนอดเอ็นดูไม่ได้ ริมฝีปากหนาจึงกดจูบเบา ๆ ที่กลุ่มผมดำนุ่มนั้นหนึ่งทีในช่วงสายของวัน หลี่อิงกับเฟยเทียนจึงแวะมาดูอาการหลงฝูหยางอีกครั้งหลังจากที่ตอนแรกตั้งใจจะมาตั้งแต่เช้าแล้วแต่กลับถูกห้ามเอาไว้เสียก่อน ในตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พอมาเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็อยากจะเดินกลับเรือนเสียเดี๋ยวนั้น“นี้ใจคอพวกท่านไม่คิดจะลุกขึ้นมาต้อนรับแขกหน่อยหรือเจ้าคะ”หลี่อิงเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเดินเข้ามาภายในเรือนแล้วพบว่าทั้งสองคนยังนอนกอดกันกลมไม่ปล่อ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 33

    งานเทศกาลหยวนเซียวที่คึกคักไปด้วยผู้คน สองร่างในชุดสีแดงดำเดินเคียงกันอย่างมีความสุข สองมือผสานกันเอาไว้แน่นอย่างไม่เกรงสายตาใคร หนึ่งงดงามหนึ่งคมคายเป็นเป้าสายตาของผู้คนเสียเหลือเกินแต่ก็มิได้รู้สึกแปลกตาแต่อย่างไรเพราะก็มีแบบนี้ให้เห็นอยู่เนื่อง ๆ อีกทั้งขุนนางบางคนยังมีฮูหยินรองหรืออนุที่เป็นบุรุษด้วย“เจ้าเคยมาเดินงานเทศกาลหยวนเซียวบ้างหรือไม่” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามคนที่จับจูงมือกันอยู่“ไม่เคย” หลงฝูหยางส่ายหน้าก่อนจะหันมาตอบร่างเพรียวบางด้านข้าง“แล้วมาที่นี่บ่อยหรือไม่ จำได้ว่าตอนนั้นที่เจอกันก็เป็นที่ต้าถงนี้” จางหยวนเพ่ยยังคงถามอีกต่อเรื่อย ๆ“ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอยู่ที่พรรคเป็นหลักหรือไม่ก็ไปที่อื่นเสียมากกว่าที่ต้าถง แต่เมื่อสองปีก่อนปรากฎสมุนไพรหายากขึ้นเลยเข้ามาที่นี่บ่อยขึ้น”“หืม”“โรงประมูลชิงหลงนั้นอย่างไร” หลงฝูหยางเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อเห็นสีหน้าฉงนของจางหยวนเพ่ย“เอ๋ ของเจ้าหรือ” ร่างบางเอี้ยงคอถามอย่างน่ามอง ดวงตาใสแวววาวอย่างตื่นเต้น“ใช่ ให้เว่ยเหลียงเป็นคนดูแล” หลงฝูหยางไขข้อกระจ่างให้ร่างบาง“ถ้านังหนูหลี่อิงรู้ว่าท่านเป็นเจ้าของคงโดนป่วนแน่” จางหยวนเพ่ยเอ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 32

    รุ่งเช้ามาเยือนเหล่าศิษย์ทั้งหลายผู้เป็นเด็กดีทำตัวเป็นห่วงอาจารย์ผู้เป็นที่รักยิ่งมายืนรออยู่หน้าเรือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคนจนกระทั่ง“ข้าง่วง พวกเจ้ากลับไปเลยไม่ต้องมาก่อกวนข้า” เสียงทุ้มนุ่มลอยออกมาจากในเรือนไม้แต่กลับไม่เห็นตัวคนจนเหล่าเอ่ยแซวกันเป็นแถบ“แม้อาจารย์ ผู้ชายมาเยือนเรือนลูกศิษย์ถึงกับไม่มีความหมายเลยหรือขอรับ” หวังเลี่ยงรุ่ยเอ่ยน้ำเสียงหยอกเย้าผู้เป็นอาจารย์จากนอกเรือน“ไปไกล ๆ เลยเจ้าเด็กพวกนี้”“หึหึ ขอท่านประมุขอย่าหนักมือนักเล่า” หลิวหยางเอ่ยขึ้นกั่วเสียงหัวเราะชอบใจก่อนจะพากันสลายตัวไปทำหน้าที่ของตนเองกลับมาภายในเรือนตอนนี้ร่างเพรียวบางของจางหยวนเพ่ยกำลังนอนทับอกของหลงฝูหยางอยู่ใบหน้าคมสวนงอง้ำอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อถูกก่อกวนตั้งแต่เช้าทั้งที่พึ่งได้นอนไปเพียงนิดเดียว“ถ้าง่วงก็หลับต่ออีกหน่อยเถอะ” หลงฝูหยางเอ่ยเสียงนุ่มทั้งยังลูบแผ่นหลังเนียนเป็นการกล่อมอีกคน“ไม่เอา ข้าอยากคุยกับเจ้ามากกว่า” จางหยวนเพ่ยเอ่ยเสียงอ่อยนิ้วเรียวลูบไล้ไปบนแผ่นอกชายหนุ่มเล่นอย่างไม่รู้จะทำอันไร“เรื่องของเราหรือ” หลงฝูหยางก้มหน้าลงมาถามเสียงแผ่ว“อืม”“ว่ามาเถอะ ข้าเชื่อฟังท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 31

    หนึ่งเดือนต่อมาเรื่องที่อินจางเหว่ยได้ก่อเอาไว้ถูกชำระความเรียบร้อยแล้ว จ้าวจางเว่ยและหลงจ้าวอินจบชีวิตตนเองลงในหอลงทัณฑ์ ส่วนอินจางเหว่ยนั้นหลงฝูหยางไม่ยอมให้อีกคนตายง่ายดายถึงเพื่อนั้น เขาถูกขังเอาไว้ในส่วนพิเศษในหอลงทัณฑ์ตรึงร่างด้วยโซ่ตรวนไม่ให้คิดฆ่าตัวตาย ให้ทดทุกข์ทรมานกับพิษที่ได้รับรวมถึงพิษที่เจ้าตัวปรุงขึ้นอย่างเพลิงผลาญฤทัยเก้าสุริยันจนกว่าจะตายจากมันไปข้างหนึ่งเรื่องที่ต้องสะสางก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ที่นี่ก็คงเหลือในเรื่องของหัวใจที่ยังไม่มีความกระจ่างอะไรเลย และตอนนี้บรรยากาศภายในเรือนพักของหลงฝูหยางนั้น ช่างชวนให้คนที่อยู่ด้วย อยากจะหนีออกไปเสียจริง แต่ก็ทำไม่ได้“เอ่อ ท่านประมุขขอรับ ข้าว่าถ้าไม่มีใจจะอ่าน ไป ไป ที่นี่อยากไปดีหรือไม่ขอรับ” จางเฉินเอ่ยขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะได้รับสายตาคมที่ตะวัดมองมาจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง“ข้าเห็นด้วยกับจางเฉินนะขอรับ ไปหาสักหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นอะไรไม่ใช่หรือ ดีกว่านั่งจมอยู่อย่างนี้แล้วตนเองไม่มีความสุขนะขอรับ” จางหลินเองก็เห็นด้วยกับความคิดของจางเฉิน ตั้งแต่ที่อีกคนกลับไปหลังจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ผู้เป็นนายของพวกเขาก็เอาแต่นั้งท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 30

    “ข้าจะรับเอาไว้เอง และจะให้เขาชดใช้อย่างสาสม” หลงฝูหยางกล่าวให้คำมั่น หวังเลี่ยงรุ่ยจึงหันไปมองศิษย์น้องของตนเองเมื่อเห็นแววตาของทุกคนแล้ว เขาจึงหันกลับมาหาหลงฝูหยาง“ได้ พวกข้าจะให้ท่านเป็นคนจัดการ”ปึ้ง!ร่างของอินจางเหว่ยถูกเหวี่ยงไปที่ปลายเท้าของหลงฝูหยางทันทีด้วยน้ำมือของจางหยวนเพ่ย นั้นยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายของอินจางเหว่ยมากยิ่งขึ้น“พวกเจ้าอยากรู้ใช่หรือไม่ ว่าข้าเป็นใคร นามของข้าคือ หยวนเพ่ย แช่ จาง ผู้ที่เคยท่องไปทุกที่แล้วในยุทธภพนี้ ชื่อเสียงมากมายที่ข้าได้รับ ข้าล้วนไม่เคยหลงในอำนาจของมัน แล้วเจ้าเป็นใคร อินจางเหว่ย ถึงได้คิดจะขึ้นเป็นใหญ่ควบคุมทั้งยุทธภพได้” สายตาคมสวยปรายมองอินจางเหว่ยก่อน จะเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งราวกับมองมดปลวกก็มิปาน“เป็นไปไม่ได้ คนผู้นั้นเป็นใคร ใช่คนที่เจ้าจะเอามาล่อเล่นได้หรือ”อินจางเหว่ยกล่าวอย่างเหยียดหยัน ที่อีกคนกล้ายกตนขึ้นเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงดังคนผู้นั้น“ข้าเป็นพยานได้ นั้นคือ จางหยวนเพ่ย ตัวจริงไม่ผิดแน่” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นแต่กลับไม่เห็นตัวคนพูด กำลังภายในมากมายที่กดทับอยู่เหนือบริเวณนี้ บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นผู้มีกำลังภายใ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 29

    ในขณะที่พวกเขากำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ตรงหน้า คนกลุ่มหนึ่งก็ได้ทำการเก็บกวาดศัตรูอย่างเงียบเชียบก่อนจะส่งคนของตนเองเข้ามาแทนจนที่สุดทุกอย่างก็พร้อมแล้วจางหยวนเพ่ยได้รับสัญญาณจากเหล่าลูกศิษย์แล้วจึงมองสบตากับหลงฝูหยางที่เล่นถ่วงเวลาอยู่กับหลงจ้าวอิน ร่างสูงรับรู้ได้ทันทีก่อนจะปิดจบฉากการต่อสู้นี้ปลายกระบี่แหลมคมชี้ไปที่ร่างสูงโปร่งของหลงจ้าวอินก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะวัดครึ้งวงกลมแฝงกำลังภายในเต็มเปี่ยม อินจางเหว่ยที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้าช่วยบุตรชายทันที แต่ก็ยังต้านพลังของหลงฝูหยางเอาไม่ไม่อยู่สองพ่อลูกกระเด็นไถลไปกับพื้นก่อนจะกระอักเลือดออกมา อาการบาดเจ็บของอินจางเหว่ยนั้นไม่หนักหนานักเพราะก็เป็นผู้ที่มีกำลังภายในสูงส่งผู้หนึ่ง จึงพอป้องกันตนเองเอาไว้ได้ แต่กับหลงจ้าวอินนั้นไม่ใช่ร่างกายที่แสนเจ็บปวดรวดราวบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บที่ทำลายลึกถึงตันเถียน ร่างสูงโปร่งนอนงอตัวกอดตนเองแน่นแค่ขยับเพียงนิดก็เจ็บปวดทรมานเกินจะทานทน เสียงคำรามต่ำในลำคอนั้นแฝงความมายินยอมอยู่ด้วยหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในขณะเดี๋ยวไป๋ซีหมิงก็สลัดออกจากการควบคุ้มมาได้อย่างง่ายดาย“เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะมีกำลังภายในถึงเพียง

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 28

    “ยังไม่ได้รับสัญญาณเลย ท่านก็ใจร้อนเกินไป” จางหยวนเพ่ยเอ่ยอย่างเหนื่อยใจกับความใจร้อนของคนข้างกาย“ถ้าให้รอสัญญาณแล้วต้องมันแตะต้องท่าน ข้าจัดการเองง่ายกว่า”หลงฝูหยางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ยิ่ง ใบหน้าคมบูดบึ้งอย่างไม่พอใจที่ร่างบางปล่อยให้คนอื่นเข้าใกล้ถึงเพียงนี้ ก่อนจะตวัดตาคมมองหลงจ้าวอินอย่างไม่พอใจ“นี้พวกเจ้า หลอกข้าหรือ” อินจางเหว่ยเอ่ยเสียงลอดฟันอย่างเจ็บใจที่หลงกลชายหนุ่ม“ข้าหลอกท่านหรือ ท่านชะล่าใจเองต่างหาก พิษที่ท่านวาง ท่านไม่ได้ตรวจสอบหรือว่ามันออกฤทธิ์เช่นไร” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามขึ้น“นี้…” อินจางเหว่ยถึงกับเอ่ยอันใดไม่ออก เพราะคิดว่านั้นอาจเป็นอาการข้างเคียงของพิษจึงไม่ได้เอะใจแต่อย่างไร เพราะฤทธิ์ของมันเองมีผลกับกำลังภายในทำให้เข้าใจไปเช่นนั้น“เฮ้อ ที่กำลังภายในพวกเราปั่นป่วนนั้น ต้องโทษลูกศิษย์ข้าเอง ทำยาเพิ่มกำลังภายในรอบแรก ข้าก็กลายเด็กสิบขวบ รอบสองยังทำเอากำลังภายในปั่นป่วนจนควบคุมไม่ได้ ต้องพักเอาแรงกันถึงสองวันเลยทีเดียว” จางหยวนเพ่ยเอ่ยขึ้นโดยเน้นคำว่าเด็กสิบขวบอย่างชัดเจน“!!! ” หน้าของอินจางเหว่ยตอนนี้นั้นช่างไม่น่าดูเอาเสียเลย สายตาที่มองมาราวกับจะฉีกร่างพวกเ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 27

    เรือนพักหลงฝูหยางที่ตอนนี้มีการดูแลอย่างเข้มงวดโดยคนของอินจางเหว่ย หากไม่ได้รับอนุญาตจากชายผู้นั้นก็ไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปได้แม้แต่คนเดียว“ข้าเข้าไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร” จางหลินเอ่ยขึ้นอย่างฉงน เมื่อออกไปทำธุระด้านนอกมาครึ่งวันแต่พอจะกลับเข้าเรือนพักของผู้เป็นนายกลับไม่สามารถเข้าไปได้“ไม่มีคำสั่งของผู้อาวุโสอินจางเหว่ย ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปได้” คนเฝ้าประตูเอ่ยขึ้นเสียงเข้มใบหน้าเรียบนิ่งเย็นชายิ่ง“แต่ข้าเป็นคนสนิทที่ดูแลท่านประมุขกับฮูหยิน เหตุใดจึงจะเข้าไปไม่ได้”จางหลินเอ่ยอย่างไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธเช่นนี้ทั้งที่ตนเป็นคนของท่านประมุขโดยตรง“ไม่ได้ก็คือไม่ได้” ชายผู้นั้นยังคงยืนยันคำเดิม จนจางหลินแสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา“จางหลิน” จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นจางเฉินนั้นเองที่เดินเข้ามาก่อนจะหยุดอยู่ข้างกัน“อาเฉิน นี้หมายความว่าอย่างไร เหตุใดข้าถึงเข้าไปในเรือนท่านประมุขไม่ได้” ชายหนุ่มรีบเอ่ยถามสหายทันที“เจ้าตามข้ามานี้” จางเฉินลากสหายออกไปจากตรงนั้นทันทีโดยไม่ได้หันกลับไม่มองสักนิดว่ามีใครคนหนึ่งแอบยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อออกมาไกลพอสมควรแล้

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 26

    ในที่สุดวันงานแต่งก็มาถึง ทุกอย่างค่อยข้างเป็นไปอย่างเรียบร้อยเนื่องจากอินจางเหว่ยวางทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว เรื่องสีผมที่เปลี่ยนไปของจางหยวนเพ่ย หลงฝูหยางได้อธิบายกับทุกคนแล้วว่าเป็นเพราะทั้งคู่ได้ทำพันธะสัญญาคู่บำเพ็ญกันแล้วเส้นผมของอีกคนจึงกลายเป็นสีดำเพราะกำลังภายในที่เสริมกันของพวกเขาหลงฝูหยางและจางหยวนเพ่ยอยู่ในขุดสีแดงเข้มเรียบง่ายปักด้วยด้ายสีทองงดงามยิ่ง พิธีจัดอย่างเรียบง่ายไม่ได้เคร่งครัดอันใด ทางฝั่งเจ้าสาวนั้นเป็นหวังชิงเฟิงที่เดินทางมาใบหน้าคมคายสวมหน้ากากเงินแกะสละลวดลายอสรพิษงดงามปิดบังใบหน้าส่วนบนเอาไว้ ทำให้ดูลึกลับน่าค้นหาอย่างยิ่ง“เอ่อ สวมหน้ากากเช่นนี้จะดีหรือ” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นขอความเห็นจากร่างบาง“พี่ชายข้าคนนี้ ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยหน้าตาให้ได้เห็นเจ้าค่ะ แม้แต่ข้าก็น้อยครั้งนักที่จะได้พูดคุยแบบเห็นหน้าเขา” จางหยวนเพ่ยเอ่ยเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มบาง“เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ” อินจางเหว่ยรับคำอย่างไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเหตุใดต้องปิดบังหน้าตาด้วยเล่า“อย่างถือสาพี่ชายข้าเลยเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็เริ่มพิธีกันเถอะได้ฤกษ์ยามแล้ว” อินจางเหว่ยเอ่ยขึ้นแม้จะคาใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status