‘แม่ง! ดันแข็งอีก’ ภาคสบถในใจที่ตอนนี้ของของเขาดันแข็ง
“มาคุยกันดีๆ ในห้อง ผมไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน” เขาพาเธอเข้าไปในห้องพักข้างใน เธอเพิ่งเห็นว่าในห้องทำงานของท่านรองประธานมีห้องนอนจริงๆ อย่างที่เคยได้อ่านในนิยาย
“เข้ามาเถอะน่า” ภาคพูดอีกครั้ง สุดท้ายรริดาก็ยอมก้าวตามเขาเข้าไปในห้องพักผ่อน
“มานี่” ยังไม่ทันตั้งตัวภาคก็ดึงเธอมานั่งบนตัก
“ท่านรองฯ จะทำอะไรคะ” รริดารีบผลักมือเขาออกจากต้นขาของเธอ ถึงเขาจะหล่อ ถึงเขาจะรวย แต่เธอก็ยังไม่อยากเป็นของเล่นหรือเมียเก็บใคร
“มันแข็ง ช่วยหน่อย” ภาคจับเธอนั่งทับไอ้ที่ว่ามันแข็ง
“ไหนท่านรองฯ บอกว่านกเขาไม่ขันยังไงคะ ทำไมแข็งอย่างนี้ล่ะ” รริดาถามอย่างตกใจ ไอ้ที่ดุนดันก้นเธออยู่เนี่ย มันยิ่งกว่าแข็งและขันเสียอีก ทำเอาใจดวงน้อยสั่นระรัว
“จะไปรู้ไหม ตอนนี้มันดันขัน ช่วยหน่อย เธอมีสามีหรือแฟนไหม” ถึงเขาจะเอาไม่เลือก แต่ถ้าเป็นเมียใคร แฟนใคร ภาคก็ไม่ขอยุ่ง
“เอ่อ ไม่มีค่ะ” รริดาตอบอย่างอายๆ
“ดี เอากันได้ไหม” เสียงกระซิบถามข้างหูเต็มไปด้วยแรงปรารถนา
“หา! เอากันง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอคะ” รริดาพูดพร้อมทั้งมองมือเขาที่ลากอยู่บนหน้าขาของเธอจนขนลุกซู่
“มันจะยากอะไร แค่เอากันสนุกๆ แล้วที่ผมแข็งแบบนี้ได้ก็เพราะคุณ” ภาคพูดอย่างอารมณ์เสีย เพราะตอนนี้แข็งจะแย่ ไม่ได้แตกมาจะเข้าเดือนที่สามแล้ว
“ไม่เอา ด้ามาทำงาน ไม่ได้มาเป็นของเล่นใคร” รริดาไม่ชอบความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย ถ้าเธอจะมีอะไรกับใคร มันก็ต้องเกิดจากความรัก ถึงเขาจะหล่อเร้าใจมากก็ตาม
“ช่วยหน่อยนะ ทำไมมันแข็งกับคุณก็ไม่รู้ ไม่ได้แตกมานานแล้ว ใช้ปากก็ได้ นะ”
“จะบ้าเหรอท่านรองฯ” รริดาแหวใส่ คนยังไม่เคย จะให้ข้ามขั้นไปใช้ปากเนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า
“ริดา...อะไรก็ไม่ได้ ผมแข็งจะตายแล้วเนี่ย ขอร้องละ ช่วยหน่อย มันทรมาน” ภาคสบถออกมาอย่างโมโห ตอนนี้เขาแข็งมาก จะให้ไปเรียกคนอื่นมา เขาก็กลัวมันจะไม่ทันกาล จึงต้องอ่อนเสียงลงอ้อนแทน
รริดานิ่งคิดกับท่าทีทรมานของเจ้านาย จะให้เธอช่วยอะไร ทั้งสองต่างคนต่างเงียบเหมือนกำลังใช้ความคิด
“ใช้มือได้ไหม” รริดากลั้นใจพูดออกไป เพราะใจหนึ่งก็สงสารเขา ถ้าแค่มือ เธอก็พอจะช่วยเขาได้
“ก็ได้ ดีกว่าไม่ได้ลอง แต่ขอจับ เอ่อ นมหน่อยได้ไหม” คนที่ได้คืบจะเอาศอกเป็นอย่างนี้นี่เอง
“ไม่ค่ะ แค่มือ ไม่อย่างนั้นด้าจะลาออก เอ่อ แล้วจะบอกทุกคนด้วยว่าท่านรองฯ ขืนใจด้า” ที่ยอมให้เขาเพราะรู้ดีแก่ใจว่าไม่ได้รังเกียจ แต่นอกเหนือจากนั้นเธอยังไม่พร้อม
“คนคงจะเชื่อหรอกว่าผมข่มขืนคุณ ในเมื่อทั้งบริษัทเขารู้แล้วว่าผมไม่แข็ง เพราะคุณเอาเรื่องผมไปโพนทะนา คุณต้องรับผิดชอบ” ภาคบีบขาเธอแน่นกว่าเดิม
“ก็บอกว่าด้าไม่ได้พูดไง ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง” รริดาหน้างอใส่เขา น้ำตาของเธอเอ่อท้นขอบตา
ภาคมองหน้าเลขาที่นั่งบนตัก ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่ตอนนี้ขอเอาก่อนได้ไหม เขาแข็งจนทนไม่ไหวแล้ว อะไรก็ได้ไม่ว่าจะมือหรืออะไรก็ช่าง...แม่ง! ขอเขาแตกก่อน ไม่ได้แตกมานาน สมภารที่เคยคิดว่าจะไม่กินไก่ของตัวเองชักเริ่มร้อนรน
“ไม่พูดก็ไม่พูด ฉันเชื่อ แต่ช่วยหน่อยได้ไหม มือก็ได้” ภาคขอร้องอย่างหน้าไม่อาย เพราะตอนนี้เขาไม่ไหวแล้ว
“แล้วต้องทำยังไงคะ” รริดาหันหน้าแดงเรื่อไปมองเขา ดูจากอาการปวดร้าวของเขาแล้ว เธอสงสารเขาไม่น้อย แค่ใช้มือก็คงพอได้ เธอก็เคยดูมาบ้างในคลิปโป๊ต่างๆ ที่มีการใช้มือ
“ผมขอถอดกางเกงก่อนนะ” ภาคถอดเสื้อกับกางเกงพาดไว้กับราวแขวนผ้า จากนั้นเขาก็มานั่งพิงหัวเตียง
“...” รริดามองผู้ชายที่สวมกางเกงในบรีฟสีขาวแบบพอดีตัวที่มองเห็นอะไรต่อมิอะไรขดเป็นลำอยู่ภายใต้กางเกงชั้นใน ไหนบอกว่าไม่แข็งไง นี่มันขยายเต็มตัวแล้วมั้ง เพราะส่วนปลายพ้นขอบกางเกงในออกมาแล้ว
“คุณ ถอดชุดไหม เดี๋ยวชุดยับ” เขาถาม
“ไม่! ฉันแค่ใช้มือ ชุดจะยับได้ไง” รริดาจับกระดุมเสื้อแน่น ถ้าเธอถอดชุด รับรองว่าเขาไม่ปล่อยเธอไว้แน่
“มาเร็ว เดี๋ยวคนสงสัย เราเข้ามานานแล้ว” ภาคถอดกางเกงในออก สาวรูดตัวตนของเขาอย่างพอใจ เจ้างูยักษ์ของเขาไม่แข็งอย่างนี้มานานแล้ว
“คุณใช้มือคุณเองไม่ได้เหรอ ด้าว่าด้าไปทำงานดีกว่า” รริดาเริ่มกลัวเมื่อเห็นความใหญ่โตของเขา มือเธอน่าจะกำไม่มิดเลยมั้ง แต่ร่างกายกลับรู้สึกกับสิ่งที่เห็น
“หยุดเลย! ถ้าผมไม่แตก คุณห้ามออกจากห้องนี้” ภาคบอกอย่างโมโห ดึงมือเธอให้กอบกุมงูยักษ์ของเขา แค่มือของเธอก็ทำให้เขาหลับตาพริ้มเพราะความเสียวซ่าน
“โอ้ คุณ ผมเสียวมาก ไม่ได้เสียวแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว อ๊า” ภาคใช้มือตัวเองกุมมือเธอสาวรูดตัวตนของเขาให้ขึ้นลงเป็นจังหวะแรงขึ้นๆ ในขณะที่รริดาได้แต่ครางในลำคอกับท่อนลำใหญ่ในมือ
“เออ ถ้ารู้ว่าได้ยากก็ควรรักษาไว้ ไม่ใช่ทิ้งขว้างปล่อยให้เขารอ” คนโดนให้รอเหมือนกันบ่นอย่างเหลืออด ถ้าอยู่ใกล้จะเขกกะโหลกน้องสาวตัวดีสักหน่อยพลอยใสพยายามคิดว่าเขาจะไปไหนได้บ้าง หรือควรจะรอเฉย ๆ ให้เขากลับมา หรือจะออกไปตามเขา แต่นี่มันก็ดึกแล้ว เขาเคยบอกไว้ว่าไม่อยากให้เธอออกไปข้างนอกตอนดึกเพราะมันอันตรายเขายังคงไม่อ่านข้อความ ความกังวลใจของพลอยใสมีมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือเขาจะเกิดอุบัติเหตุ หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ความกังวลก็เริ่มมีมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว ส่งข้อความและโทร.หาอีกครั้ง เขาก็ยังไม่อ่าน โทร.หาอีกครั้งก็ยังไม่รับสาย น้ำตาของคนเก่งที่แทบไม่เคยไหล วันนี้กลั้นไว้ไม่อยู่ ไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้ จินตนาการร้ายหลั่งไหลเข้ามาในหัว จะไปแจ้งความคนหาย เขาก็ให้แจ้งหลังหายไปยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งเอาเข้าจริง ยี่สิบสี่ชั่วโมงคนที่หายไปคงหายไปจากโลกนี้แล้ว คิดแบบนั้นก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น พลอยใสกดรับสายทันที “พี่ทีป อยู่ไหน ทำไมไม่รับสาย ฮือ” เสียงสะอื้นปนกับเสียงร้องไห้ไม่ยอมหยุดที่ดังมาตามสาย ทำเอาคนหนีออกจากบ้านใจเริ่มไม่ด
‘แต่ถ้าเขามาง้อ มึงได้ทั้งเมีย แถมอาจจะได้ลูกเร็ว ๆ นี้นะ’ คำแนะนำของภาคทำให้ประทีปเริ่มลังเล ‘เอาน่า เดี๋ยวกูจะให้เมียกูช่วยกล่อมเมียมึง หนีออกมาก่อน ถ้าเขาโทร.ตามไม่ต้องรับโทรศัพท์นะ เล่นตัวมั่ง’ คำพูดของภาคทำให้เขาเริ่มเอนเอียงว่าน่าจะใช้แผนนี้ แต่ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลย รับรองว่าไม่ได้แต่ง อย่างน้อยเสี่ยงแล้วได้แต่งก็ยังดี ถ้าไม่ได้แต่งก็แค่โดนเมียด่า เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ‘ครับเฮีย ทีปจะหนีออกจากบ้าน’‘ครับเฮีย ทีปจะหนีออกจากบ้าน’นั่นคือเหตุที่ทำให้เขามายืนตรงนี้ หนีมาไกลถึงพัทยา มาหลบอยู่ที่คอนโดของชวีที่เขาซื้อต่อเมื่อสองปีที่แล้ว เพราะความสัมพันธ์ของเขากับพลอยใสเริ่มที่นี่ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาดู เจอข้อความส่งมาจากเธอจริง ๆ กดปิดเครื่องแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน ตรงไปยังห้องแต่งตัว เลือกกางเกงว่ายน้ำที่เคยซื้อตั้งแต่มาพัทยาเมื่อหกปีก่อนขึ้นมาดู และสวมกางเกงตัวนั้นก่อนจะกระโจนลงสระว่ายน้ำ “ด้า พี่ทีปอยู่บ้านแกไหม ฉันโทร.หาเขาไม่รับสาย” พลอยใสโทร.หาเพื่อนรักเพราะรู้ว่าวันนี้คุณแฟนเดินทางไปเป็นเพื่อนภาคเพื่อทำหมันชาย เขาว่ากันว่าใช้เวลาไม่นาน แต่จนบ่ายคุณแฟนก
“เดี๋ยวอาก็กลับแล้วครับน้องภาม” ประทีปบอกหลานชาย“ได้ยินว่าอาทีปหนีออกจากบ้านไม่ใช่เหรอครับ นอนกับภามก็ได้”ประทีปหันไปมองหน้าภาค เหมือนเป็นคำถามว่าทำไมน้องภามรู้“สงสัยกูจะคุยโทรศัพท์ดังไป” ภาคพูดออกมาอย่างรู้สึกผิดและยอมรับ“ภามไปก่อนนะครับ ต้องไปอ่านหนังสือให้คุณปู่คุณย่าฟังก่อนนอน” น้องภามวิ่งออกจากบ้านไปยังบ้านหลังถัดไปซึ่งมีประตูรั้วเชื่อมกัน การที่บ้านอยู่ติดกันก็ดีแบบนี้แหละ“กลับก่อนนะเฮีย ซ้อ” ประทีปลุกขึ้น เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว“มึงไม่นอนนี่ แล้วจะไปนอนไหน” ภาคถามอย่างเป็นห่วงผู้ชายวัยสามสิบหกที่หนีออกจากบ้าน“โรงแรมมีเยอะแยะเฮีย ไปก่อนนะครับ” ประทีปมองภาพครอบครัวอบอุ่นของภาคแล้วแสนอิจฉา รู้ไหมว่าคนอิจฉามันเป็นอย่างนี้นี่เอง ห้าปีที่เขารอคอย รอได้แต่งงาน รอได้มีลูกเป็นของตัวเองหลายวันก่อน ‘ไหนพี่ทีปบอกรอได้ไงคะ’ พลอยใสพูดขึ้นในตอนที่คนหน้างอกำลังนั่งอยู่บนเตียง ‘รอได้ แต่มันก็นานแล้วนะคะเมียจ๋า’ คนอ้อนเมียก็มีคำ ‘นะคะ’ เข้ามาเพิ่ม ก็อยากอ้อนเมีย อยากมีลูก อยากแต่งงาน ‘นานอะไรกันคะ’ พลอยใสเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ‘ห้าปีแล้วนะครับทูนหัว’
‘ให้ผ่าตัดเสร็จก่อนเถอะ กูจะจัดการทั้งไอ้ทีป ทั้งไอ้หมอพฤกษ์ ห้องผ่าตัดโรงพยาบาลมึงจะเย็นไปไหน กูนอนรอสิบนาที ไข่กูหดเข้าไปข้างในแล้ว แล้วตอนที่มันวุ่นวายพาไอ้ทีปออกไป แทนที่มันจะหาผ้ามาคลุมไข่ให้กูก็ไม่คลุม ปล่อยให้กูนอนเย็นไข่ ขยับไปไหนก็ไม่ได้’ภาคฟื้นขึ้นมาอีกทีหลังจากผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมงที่ห้องเดียวกันกับที่ประทีปนอนอยู่ ปกติการทำหมันชายไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล คนไข้สามารถกลับบ้านได้เลยแต่กรณีนี้คนไข้มีความกลัวเป็นพิเศษ คุณหมอเจ้าของไข้เลยให้นอนพักสักสามสี่ชั่วโมง จากนั้นก็ให้จิตแพทย์เข้าไปพูดคุยเพื่อตรวจสอบสภาพจิตใจ จะได้ประเมินอาการทางจิตใจกว่าทั้งสองคนจะได้กลับบ้านกันก็เกือบหกโมงเย็น จนเมียที่บ้านเกือบต้องมาตามเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายอะไรหรือเปล่า ปกติทำหมันชายเขาใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง มากสุดก็แค่สองสามชั่วโมงน่าจะถึงบ้าน นี่ออกมากันตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ยังไม่กลับ โทร.ไปก็ติดต่อไม่ได้ก็จะติดต่อได้อย่างไร ทั้งภาคและประทีปนอนหลับอยู่ในห้องพักผู้ป่วย เพราะคุณหมอเห็นว่าคนไข้และญาติของคนไข้เครียดเกินไป เลยให้ยานอนหลับทางเส้นเลือดเพื่อให้ผ่อนคลาย“ไอ้ห่าทีป มึงกลัวเข็มแล้วทำไม
“นายไม่ต้องกลัวครับ เพราะทีปอ่านมาแล้ว ไม่เจ็บ ไม่ทำให้เสื่อม ความต้องการยิ่งมากขึ้น แถมยังอึดขึ้นด้วยนะครับ” ประทีปพยายามให้กำลังใจเจ้านายอยู่ไม่ห่าง อย่างไรวันนี้ต้องพาท่านรองฯ ภาคที่ตอนเรียบร้อยแล้วกลับไปส่งที่บ้านให้คุณน้องด้าหรืออาซ้อรองให้ได้ “ทีป มึงไปบอกหมอโปะยาสลบกูเลยได้ไหม กูกลัว” “เฮียครับ ทำหมันชายใช้เวลาแค่สิบห้านาที เขาฉีดยาชานิดเดียวเองครับ เฮียจะมาโปะยาสลบอะไร กว่าจะฟื้นตั้งหลายชั่วโมง” ประทีปส่ายหัวกับความใจเสาะของเจ้านาย เรื่องเข็ม ภาคไม่ไว้ใจจริง ๆ “มึง แต่กูกลัว แค่คิดกูก็หน้ามืดแล้วเนี่ย” ภาคสูดยาดมเข้าจนเต็มปอด “เฮียครับ ลูกชายเฮียโทร.มาครับ” “น้องภาม ว่าไงครับลูก” น้องภาม ลูกชายวัยหกขวบของเขา มีน้องสาวสองคน คือน้องเดียร์ และน้องคนเล็กที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่เดือนคือหนูดี “คุณแม่บอกว่าวันนี้คุณพ่อไปทำหน้าที่สามีแห่งชาติ ภามเลยอยากโทร.มาให้กำลังใจครับ”ภาคยิ้มให้ลูกชายคนโตที่หน้าตาเหมือนเมียรักของเขาอย่างกับแกะ ไอ้ลูกชาย “ครับ พ่อกำลังรออยู่ครับ เดี๋ยวพ่อทำหน้าที่สามีแห่งชาติแล้ว พ่อจะรีบกลับไปห
“สุขสันต์วันเกิดนะคะ” พลอยใสจูบประคองสองแก้ม เขาน่ารักกับเธอเสมอ ตลอดปีกว่าที่คบกันมีทั้งความทุกข์ความสุข นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าชีวิตคู่ “ที่รัก พี่ไม่อยากได้ของขวัญ” เขามองของขวัญในมือที่พลอยใสมอบให้ เขาไม่อยากได้ของขวัญจากเธอ “ทำไมไม่อยากได้คะ” “พี่อยากให้ของขวัญน้องพลอยมากกว่า” คนเปลือยเปล่าบนที่นอนตอบ เขากับเธอเพิ่งเสร็จกิจกรรมเร่าร้อนกัน จากนั้นเธอก็เดินไปหยิบของขวัญมาให้เขา “แล้วพี่ทีปอยากให้อะไรพลอยเหรอคะ” “หลับตาก่อน” “ต้องหลับตาด้วยเหรอคะ เริ่มไม่อยากได้แล้ว” พลอยใสพูดในตอนที่นั่งอยู่บนเตียงตรงหน้าเขา ปากเขาก็ยังเม้มดูดยอดถันสีสด การเปลือยกายต่อหน้ากันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอีกต่อไป เมื่อคุณอยู่ด้วยกันมาปีกว่า “หลับตาหน่อยนะครับที่รัก พี่อยากโรแมนติก” คนอยากโรแมนติกหรืออีโรติกกันแน่ เพราะเขาลูบไล้ตัวเธอไม่หยุด คนว่าง่ายอย่างพลอยใสก็ยอมหลับตาแต่โดยดี ความเย็นของโลหะสัมผัสนิ้วนางข้างซ้าย “เป็นแฟนกันนะครับ พี่ผ่านทดลองงานแล้วใช่ไหม” ประทีปยกมือเรียวบางขึ้นมาจูบ “ค่ะ ผ่านแล้ว” เธอเคยบอกเขาไว้ว่