Beranda / รักโบราณ / ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ / บทที่6 เจอหมอเท้าเปล่า (ช่วงปลาย)

Share

บทที่6 เจอหมอเท้าเปล่า (ช่วงปลาย)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-06 13:52:14

ศิษย์อาจารย์ค่อย ๆ เดินออกมาจากพุ่มไม้จนถึงตัวบุรุษชุดดำผู้นอนหายใจรวยริน เซียวเหวินก้มลงคุกเข่าข้างคนเจ็บ ใช้มือตรวจเส้นชีพจรจึงรู้ว่าร่างกายยังพอไปไหว คงไม่ตายเร็ว ๆ นี้ เมื่อแน่ใจว่ายังมีหนทางรักษาจึงหันไปบอกลูกศิษย์สาว

“เจ้ารีบมาช่วยพยุง เขายังรักษาได้”

เซียวอันหนิงรีบเข้ามาช่วยพยุง บุรุษผู้นี้มีรูปร่างสูงโปร่งดูสูงเพรียวมากทว่าร่างกายกลับหนักอึ้งประหนึ่งแบกหิน หญิงสาวกัดฟันทนพยุงเขาจนพาไปพิงกับต้นไม้ใหญ่ได้ก็รีบหลีกให้เซียวเหวินเริ่มการรักษา เขาเริ่มจากการห้ามเลือด ปลดเสื้อผ้าตัวนอกออกเพื่อให้หายใจได้สะดวก ไม่กดทับร่างกายมากเกินไป ทว่าก็ยังรักษาความลับให้โดยการละเว้นผ้าปิดบังใบหน้าไว้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาค่อนชีวิต หากผู้ใดปิดหน้าคาดตาแปลได้อย่างเดียวคือห้ามสอดรู้ ดังนั้นเพื่อให้ได้รับผลดีมากกว่าร้าย ละเว้นไว้แล้วรักษาตามสมควรจึงเป็นเรื่องฉลาดกว่า

เซียวเหวินค้นย่ามเก่าหยาบของตัวเอง หยิบเอายาต้มห่อหนึ่งส่งให้เซียวอันหนิงก่อนบอก “เจ้าไปต้มยาสำหรับแก้ไข้เสีย ในคืนนี้เขาจะต้องเป็นไข้อย่างแน่นอน”

หญิงสาวรับห่อยามาก่อนหัวเราะแห้ง ๆ “แฮะ แฮะ เอ่อ...อาจารย์เจ้าคะ ข้ามิเคยก่อไฟมาก่อนเจ้าค่ะ”

นางตอบไปตามตรง ในยุคสมัยของนางมีกระทั่งเตาไฟฟ้าด้วยซ้ำ การก่อไฟแบบโบราณเช่นนี้มันช่างยากเกินไปสำหรับคนซึ่งเติบโตมากลางเมืองใหญ่ ทางด้านเซียวเหวินได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับกะพริบตามอง ยกมือขึ้นนวดขมับ พยายามหายใจเข้าออกว่านางเลอะเลือนไปจึงทำไม่เป็น พอตั้งสติได้จึงลุกขึ้นแล้วมอบหมายงานให้ใหม่ “งั้นเจ้าก็มาดูแลทางนี้ก็แล้วกัน เรื่องต้มยาเดี๋ยวข้าจัดการเอง เจ้าก็ปิดหน้าเสียด้วย อย่างไรเป็นสตรีอยู่กลางป่ากลางเขา เปิดเผยใบหน้าจะเป็นอันตรายเสียเปล่า ๆ ”

หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักรีบเอาผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่มาปกปิดใบหน้าตัวเอง เมื่อเรียบร้อยจึงเดินไปหาบุรุษผู้กำลังสะลึมสะลือกึ่งมีสติและไม่มีสติ มือเรียวหยิบผ้าแล้วเอากระบอกน้ำซึ่งพกมาด้วยมาเปิดเอาน้ำรินใส่ผ้าจนชุ่มก่อนนำมาเช็ดคราบเลือดต่าง ๆ ให้กับร่างสูง เมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงหันไปมองอาจารย์ พบว่าเขากำลังง่วนอยู่กับการต้มยาจึงแอบตั้งจิตเข้าไปในมิติหยิบยาแผนปัจจุบันมากรอกปากชายหนุ่ม นางรู้ว่าอย่างไรในฐานะหมอ เซียวเหวินย่อมดูแลคนป่วยสุดความสามารถ หากแต่บุรุษผู้นี้ไม่สามารถรอจนยาต้มเสร็จได้ สู้นางเอายาประสิทธิภาพสูงประคองอาการเขาก่อนแล้วค่อยรักษาตามปกติยังมีโอกาสรอดมากกว่า

นางจับเขานั่งพิงในท่าทางสบายขึ้นแล้วประเมินด้วยสายตา พบว่าชายผู้นี้กล้ามเนื้อแน่นอย่างมากแม้รูปร่างไม่ใหญ่โต ดูท่าว่าบุรุษยุคโบราณก็ดูแลตัวเองอย่างมากเช่นกัน สุดท้ายเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนป่วย นางจึงไปช่วยอาจารย์ต้มยาต่อไป

เวลาผ่านไปพอสมควร บุรุษชุดดำเริ่มได้สติ เปลือกตาเปิดขึ้นเชื่องช้า ปรับสายตาอยู่ชั่วครู่ถึงพบว่ามีชายชรากำลังสนทนากับสตรีนางหนึ่งซึ่งปิดบังใบหน้าด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ ครั้นพอขยับตัวก็ถึงกับสะดุ้งเพราะความเจ็บปวดตามร่างกาย เสียงทุ้มครางออกมาเบา ๆ เรียกความสนใจจากศิษย์อาจารย์ที่กำลังนั่งรออยู่พอดี

“เจ้าฟื้นแล้วรึ?”

เซียวเหวินถามขึ้นมาเป็นคนแรก เขาเดินมาหาชายหนุ่มพร้อมกับลากลูกศิษย์สาวให้เดินตามมาด้วย คนเพิ่งฟื้นกะพริบตามองก่อนถามน้ำเสียงอ่อนแรง “ท่านเป็นคนช่วยข้าไว้รึ?”

“ใช่ ข้าเป็นหมอ ผ่านทางมาพอดีเห็นเจ้านอนบาดเจ็บสาหัสอยู่จึงได้นำเจ้ามาพักที่ตรงนี้ ส่วนนั่นลูกศิษย์ข้า”

เซียวเหวินบอกไปตามตรงแต่ไม่ได้บอกทั้งหมด ทางด้านชายหนุ่มพยักหน้ารับ ระลึกได้ว่าหลังจากกัดฟันทนจัดการศัตรูจนหมดก็เกือบหมดสติ ทว่ายังพอมีความรู้สึกอยู่บ้างว่ามีคนมาพยุง จากรูปร่างและกำลังแล้วไม่น่าเป็นชายชรา เช่นนั้นก็ต้องเป็นนางผู้ปกปิดใบหน้าอย่างแน่นอน

“เป็นหนี้ท่านแล้ว พวกท่านคือผู้มีพระคุณของข้า หากต้องการสิ่งใดหรืออยากให้ตอบแทนอย่างไรสามารถบอกได้เลย ข้าจะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้อย่างแน่นอน”

ทว่าหมอชรากลับโบกมือไปมา พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นนุ่มนวล “ตัวข้าเป็นหมอย่อมรักษาคน เป็นหน้าที่ของข้าอย่าได้คิดมากไปเลย”

เซียวเหวินมีอุดมการณ์ว่าตลอดชีวิตจะเดินทางรักษาคนทั่วหล้า สองขาจึงพาพเนจรไม่เคยหยุดกับที่ใดที่หนึ่งได้นาน การเดินทางนี้เองที่ทำให้เห็นว่าการรักษาเป็นเรื่องเกินฝันสำหรับชาวบ้านหลายคนเหลือเกิน มีคนมากมายซึ่งถูกทอดทิ้งให้ตายอย่างน่าเวทนาด้วยเพราะไม่มีเงินตรามากพอไปโรงหมอ ขาดโอกาสการรักษา ด้วยเหตุนั้นเองจึงทำให้เซียวเหวินร่อนเร่พเนจรเรื่อยมา เงินได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่วาระ ทว่าเขาไม่เก็บมาคิดจริงจัง

ชายหนุ่มเลื่อมใสในน้ำใจ ทว่าหัวใจอันซื่อสัตย์หนักแน่นไม่มีทางลืมบุญคุณ “รุ่งสางคงมีคนมาตามหาข้า หากมีโอกาสจะตอบแทนคุณให้จงได้”

“เอาเถิด หากมีโชคชะตาต่อกันคงได้มีโอกาสพบ ตอนนี้พักรักษาตัวเสียก่อน”

เซียวอันหนิงนั่งฟังการสนทนาตอบโต้เบื้องหน้ามิได้ร่วมพูดคุยแต่อย่างใด ในใจภาวนาว่าอยากเดินทางไปถึงเมืองหลวงเร็ว ๆ เสียมากกว่า

ย่ำรุ่งแสงแรกของฟ้าสาดส่องลอดใบไม้จนเกิดแสงสวยงาม ทันใดนั้นพลันมีกลุ่มคนปริศนาเดินเท้าเข้ามาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ พวกเขามองคนทั้งสามก่อนสะดุดตาที่บุรุษชุดดำ ครั้นเห็นว่าอีกฝ่ายดูเคร่งขรึมดุดัน แม้มีร่องรอยบาดแผลทว่าดูไม่สาหัสถึงเพียงนั้นจึงพากันคุกเข่าเคารพ รับรู้ได้ด้วยสายตาว่าผู้เป็นนายไม่อยากเปิดเผยตัว

“พวกข้ามาช้าไป คุณชายโปรดลงโทษด้วย”

“เรื่องนั้นก็ช่างเถิด พวกเจ้ามาพาข้าออกไปจากที่นี่เสีย”

เขาพูดตัดบท สถานการณ์เช่นนี้ไม่ควรมาตัดสินโทษอะไรจึงไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ลูกศิษย์สาวกับอาจารย์ มองกันตาปริบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาทว่าก็พอรู้แล้วว่าบุรุษผู้นี้ไม่ใช่นักฆ่าพเนจรหรือพวกมีฝีมืออยากปิดตัวตนแต่คงมีตำแหน่งใหญ่โต เช่นนั้นคงไม่มีคนมาคุกเข่าให้ถึงเพียงนี้ นับว่าคิดถูกแล้วที่ไม่เปิดเผยใบหน้าอีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นคงได้รับอันตรายมากกว่าคำขอบคุณ เผลอ ๆ ที่มานั่งคุกเข่ากันเป็นสิบอาจได้ร่วมมือกันขุดหลุมฝังคนทั้งสองกลางป่าเลยก็เป็นได้

          บุรุษชุดดำถูกพยุงให้ลุกขึ้นโดยมีบุรุษอีกสองคนขนาบซ้ายขวา เขาหันมาถามน้ำเสียงมั่นคงระคนสงสัย “พวกท่านจะไปที่ใดเล่า เห็นว่าเดินผ่านมาเจอข้า มิใช่ว่ากำลังเดินทางกันหรอกรึ”

          เซียวเหวินได้ยินเช่นนั้นจึงตอบไปตามตรง อย่างไรเสียการไปเมืองหลวงก็เป็นเส้นทางปกติของชาวบ้านผู้แสวงหาโอกาสอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร

          “ข้ากำลังจะเดินทางไปเมืองหลวง”

          เขาพยักหน้าก่อนล้วงมือไปในอกเสื้อ เมื่อดึงมือออกมากลับมีป้ายหยกบริสุทธิ์ติดมือออกมาด้วย มือแกร่งภายใต้ผ้าสีดำสนิทยื่นให้แก่เซียวอันหนิงพร้อมกับบอกน้ำเสียงราบเรียบ “หากมีเรื่องใดต้องการความช่วยเหลือ โปรดนำป้ายหยกไปหอบุปผา แล้วทุกคนจะให้ความช่วยเหลือท่าน”

          หญิงสาวมองป้ายหยกในมือแล้วเผลอกำมันเล็กน้อย ภายภาคหน้าอาจได้ใช้ อย่างน้อยก็ยังพอมั่นใจว่าหากเกิดเรื่องในเมืองหลวงยังมีที่พึ่งพิง

          ชายหนุ่มก้มให้พวกเขาอีกครั้งก่อนเอ่ย “ข้าคงต้องไปแล้ว ขอขอบคุณอีกครั้ง”

          เมื่อพูดจบ กลุ่มบุรุษชุดดำพลันหายไปจากครรลองสายตาในพริบตาเดียว ทั้งสองยืนมองกันเงียบ ๆ ก่อนหันมาคุยกันด้วยท่าทางโล่งใจกว่าเดิม

          “อาจารย์ พวกเขาไปกันหมดแล้ว เราก็ออกเดินทางกันบ้างเถิดเจ้าค่ะ”

          การช่วยเหลือบุรุษผู้นั้นทำให้การเดินทางล่าช้ากว่าเดิม ตอนนี้นางหวังแค่ให้ตนไปถึงเมืองหลวงเร็ว ๆ อยากไปลิ้มรสอาหารในเหลา นอนพักในโรงเตี๊ยมดี ๆ สักที ตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยต้องมานอนกลางดินกินกลางทรายถึงเพียงนี้ หากไม่ใช่เพราะทะลุมิติมาอยู่ที่นี่มีหรือจะมาเดินอยู่แบบนี้ ป่านนี้คงกำลังนอนเกลือกกลิ้งบนเตียงนุ่มในห้องเย็น ๆ ไปแล้ว

เฮ้อ เหนื่อยเสียจริง...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   บทที่45 คุณชายน้อยหลี่ฮ่าวเหวินกับคุณหนูหลี่จินฮวา (จบบริบูรณ์)

    ภายในจวนตระกูลหลี่ บัดนี้เกิดความวุ่นวาย บ่าวไพร่ในจวนวิ่งเข้าออกเรือนฮูหยินน้อย นางปวดท้องคลอดตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง หมอทำคลอดถูกตามมาถึงสามคน พวกเขากำลังพยายามทำคลอดให้ฮูหยินน้อยด้วยความระมัดระวัง รู้ดีว่าห้ามเกิดความผิดพลาดโดยเด็ดขาด หากฮูหยินน้อยเป็นอะไรไป ทั้งสามชีวิตคงได้ปลิดปลิวตามไปด้วยอย่างแน่นอน “ฮูหยินท่านเบ่งอีกนิดเจ้าค่ะ” ร่างอุ้ยอ้ายกลั้นใจกดความเจ็บปวด เพิ่มลมหายใจเพื่อออกแรงจะคลอดให้ได้ ไม่คิดว่าการคลอดจะเจ็บปวดแทบขาดใจเช่นนี้ เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า เสียงหวานกรีดร้องด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเป็นระลอกยามมีการบีบตัวของช่องท้องและช่องคลอดจึงต้องผ่อนลมหายใจเป็นระยะ บ่าวในจวนวิ่งยกน้ำ คอยเอายาต้มมาเปลี่ยน เตรียมยกน้ำแกงนกพิราบเพื่อให้ฮูหยินน้อยซดจะได้มีเรี่ยวแรง หลี่จิ้งหานเดินไปมาด้วยความกังวล เสียงภรรยาร้องด้วยความเจ็บปวดดังหลายชั่วยามทำให้เจ็บปวดใจ นึกโทษตัวเองอย่างมากว่าไม่น่าคิดมีบุตรเลย ถ้าย้อนเวลาไปได้จะไม่ให้ภรรยาตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด หลี่ลี่ฮวาก็ไม่ต่างกัน นางเป็นห่วงสหาย ด้วยยุคนี้ความเจริญทางการแพทย์ต่ำมาก สตรีเสียชีวิตจากการตั้งครร

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   บทที่44 ว่าด้วยเรื่องเจ้าก้อนแป้ง

    ภายในเรือนตอนนี้มีร่างของฮูหยินน้อยนอนทอดกายซีดเซียวอยู่ ด้วยอาเจียนมาตลอดหลายวันจึงต้องตามหมอมาดูอาการว่าเจ็บป่วบหรือไม่ เซียวอันหนิงรู้สึกว่าอาจตั้งครรภ์ก็เป็นได้ ประจำเดือนขาดไปสองเดือนแล้ว นางไม่ได้คุมกำเนิดมาสักพักแล้วและสามีก็มิเคยว่างเว้นต่อเรื่องนั้นเลยสักวัน จึงมีโอกาสจะตั้งครรภ์ได้สูงทีเดียว “ขอแสดงความยินดีกับท่านราชครูด้วย ฮูหยินตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว” หมอชราประจำตระกูลจับชีพจรฮูหยินน้อย พบว่าเป็นชีพจรมงคลแต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่ามีหนึ่งหรือสองคน คงต้องตรวจอีกครั้งเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ซึ่งหลี่จิ้งหานพอรู้แบบนั้นก็แทบถลาไปหาภรรยาด้วยความดีใจ “ให้รางวัลท่านหมอ ซุนจางส่งท่านหมอกลับจวน น้องหญิง เราจะมีเจ้าก้อนแป้งกันแล้วนะ” โซ่ทองคล้องใจที่จะทำให้นางอยู่กับเขาตลอดไป ในที่สุดก็มาเสียที “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ ท่านพี่ดีใจมากหรือเจ้าคะ” “พี่ย่อมดีใจเพราะเป็นลูกของเราสองคน” เดิมทีหลี่จิ้งหานมิได้ต้องการมีบุตร แต่เมื่อยามนี้การมีบุตรคือพันธะอันทรงพลังเพียงอย่างเดียวซึ่งพอให้วางใจได้ว่านางจะไม่หนีหน้าหายไป เ

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   บทที่43 คำอ้อนวอน

    “ท่านพี่ ข้าว่าท่านอาจารย์ต้องรู้ว่าข้าไม่ใช่คนในยุคนี้ แล้วท่านอ้อนวอนอะไรหรือเจ้าคะ” หลี่จิ้งหานคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เกิดในความฝัน ภาพก่อนสิ้นใจในโลกก่อน มีจิตใจมุ่งมั่นแต่จะตามหาเซียวอันหนิงจึงนำพานางมาหาเขาซึ่งเป็นการย้อนเวลามานับพันปีเลยทีเดียว “พี่ฝันถึงเรื่องหนึ่ง ในโลกที่จากมาเหมือนกับว่าจะชื่อฮ่าวหยวน หลังจากเสียชีวิตในโลกก่อนถึงได้มาเกิดใหม่ที่นี่ รูปลักษณ์ก็ไม่เหมือนเดิม เจ้าจึงจำพี่มิได้” “ท่านพี่ คือ รุ่นพี่ฮ่าวหยวนหรืือเจ้าครุ่นพี่ฮ่าวหยวนหรือเจ้ “ใช่ หลังจากโดนชนพี่ก็อ้อนวอนต่อสวรรค์ว่าถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้ได้เจอเจ้าอีกครั้ง” “แล้วท่านพี่จำข้าไม่ได้หรือ ในเมื่อท่านพี่คือฮ่าวหยวน เราทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน ไม่มีทางที่จะลืมไปได้ง่าย ๆ นะ” “ข้ามาเกิดใหม่ ไม่มีความทรงจำเดิมเหลืออยู่ แต่กลับรู้สึกรักเจ้าตั้งแรกเห็น หวงแหนจนแทบบ้า ก็เคยสงสัยว่าทำไมถึงมีความรู้สึกเช่นนี้กับเจ้า” “เป็นเช่นนั้น ท่าน- ท่านบอกว่าตามหาข้าหรือ” “ใช่ พี่ตามหาเจ้ามาตลอด ตั้งแต่เจ้าจากไปก็ตามหาทุกที่แต่ไม่เจอ จนส

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   บทที่42 กลับแคว้นเหลียง

    องค์ชายหม่าซานเปียวในนามพ่อค้ามารับของที่สั่งเอาไว้บริเวณหน้าร้านของเซียวอันหนิงเมื่อครบตามกำหนดสามวัน สินค้าทั้งหมดมีราว ๆ สองเกวียน มูลค่าถึงห้าพันตำลึงทองเลยทีเดียว “คุณชายนำสินค้ามากมายเหล่านี้ไปขายที่ใดหรือเจ้าคะ” เซียวอันหนิงถามเพราะสินค้าที่นำมามันเยอะจริง ๆ ด้วยเป็นสินค้าที่ขายให้เป็นสตรีเป็นส่วนใหญ่จึงยิ่งสงสัยอย่างสมุนไพรยังพอเข้าใจได้แต่พวกเครื่องหอมอื่นใดดูจะเกินความเข้าใจของนางไปมากทีเดียว “ข้ามีร้านค้ามากมาย สามารถเอาสินค้าไปลงได้ทุกที่ ถ้าสินค้าขายดีจะมาติดต่ออีกครั้ง” หม่าซานเปียวไม่ได้โกหก พระองค์มีร้านค้ามากมายในมือจริง ๆ ในแคว้นเหลียง สินค้าเพียงเท่านี้แจกจ่ายไปไม่นานก็มีที่ให้ขายแล้ว เซียวอันหนิงได้ยินเช่นนั้นมีหรือจะไม่ดีใจ นางรีบยิ้มให้เขาก่อนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ข้ายินดีเสมอเจ้าค่ะ” องค์ชายหม่าซานเปียวเห็นแล้วยิ่งชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่รู้ดีว่าไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าพระองค์ดึงดันคงเกิดการบาดหมางระหว่างสองแคว้น เมื่อสามีของนางเป็นราชครูที่แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องมองสีหน้า เสด็จพ่อก็คงไม่เห็นด้วยแน่นอนถึงนาง

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   บทที่41 คนแปลกหน้ามาเยือน

    หลังจากถูกแคว้นเหลียวปฏิเสธ องค์ชายครุ่นคิดถึงการไปเยือนแคว้นเหลียวอย่างเงียบ ๆ มีข่าวว่าสตรีผู้หนึ่งช่างเก่งกาจ สามารถรักษาคนป่วยได้ทุกโรค มีสมุนไพรมากมายเหมือนกับว่าใช้ไม่มีวันหมด นางแต่งงานกับท่านราชครูของแคว้นแต่ยังไม่มีบุตรธิดา ตอนนี้ร้านค้าที่นางเปิดก็รุ่งเรืองจนเป็นที่กล่าวขานจนสะพัดไกลถึงแคว้นเหลียง นั่นจึงยิ่งทำให้ต้องการรู้จักสตรีผู้นี้ยิ่งนักว่าจะเก่งกาจสมคำร่ำลือหรือไม่ เขาต้องการเห็นหน้านางสักครั้ง และการปฏิเสธครั้งนั้นก็เป็นความคิดของนางเช่นกัน ข้อความการต่อรองช่างฉลาดเสียจริง ยังไม่เคยมีผู้ใดกล้าขัดความต้องการขององค์ชายได้ สตรีผู้นี้ช่างเก่งกล้าเสียจริง ร่างบางไปร้านค้าเฉกเช่นทุกวัน วันนี้ได้มากับซิ่วอี้เพียงสองคนเพื่อมาดูว่ามีสิ่งใดขายหมดไปแล้ว ชาดที่นำออกมาขายก็ขายดีเข่นกัน นางสอนคนดูแลเสมอให้จดจำว่าสีไหนเหมาะสมกับใบหน้าสตรีแบบใด เมื่อทาชาดออกมาแล้วจะยิ่งส่งให้ใบหน้าสตรีผู้นั้นงดงามยิ่งขึ้น สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าประทับใจมากขึ้น ร่างสูงกำยำ ใบหน้าหล่อเหลาสมกับเป็นราชนิกูล แต่งกายเหมือนคุณชายทั่วไปในเมืองหลวงนั่นก็คืออง

  • ท่านราชครูปล่อยข้าไปเถอะ   บทที่40 ความฝันที่ยาวนาน

    “รุ่นพี่คะ เอ่อ น้ำค่ะ เหนื่อยไหมคะ” “เมื่อไหร่คุณถึงจะเลิกตามตอแยผมเสียที ผมบอกแล้วไงว่าไม่ชอบ” “รุ่นพี่โกรธเหรอคะ ขอโทษนะคะ ฉันแค่...เป็นห่วง” “ไม่ได้โกรธแต่รำคาญ เข้าใจไหม คุณมาตามตอแยผมสามปีแล้ว ถึงไม่มีใคร ผมก็ไม่มีทางชอบคุณ” ภาพในความฝันมีบุรุษและสตรียืนพูดคุยกัน แต่ชายผู้นั้นไม่ได้ชอบสตรีซึ่งคอยตามตอแย ภาพได้ตัดมาตอนสตรีผู้มีใบหน้าเหมือนกับภรรยาวิ่งร้องไห้ออกไปด้วยความเสียใจกับคำพูดทำลายน้ำใจ ต่อมาภาพตัดไปอีกครั้งกลายเป็นภาพของชายผู้นั้นเฝ้าตามหาสตรีนางนั้น ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้งทว่าคราวนี้เขาถูกสิ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วพุ่งชนจนร่างกระเด็น ก่อนสิ้นใจได้เอ่ยชื่อ เซียวอันหนิง เหตุใดชายผู้นั้นถึงใฝ่หาสตรีที่ตนเองขับไล่ไสส่งไปเล่า ไม่เข้าใจเลย ทว่าภาพต่อมากลับน่าตกใจยิ่งกว่า ชายผู้นั้นได้มาเกิดเป็นคุณชายตระกูลหลี่ และภาพชีวิตในวัยเยาว์ของเขาก็ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน ฉับพลันหลี่จิ้งหานสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อโทรมกาย หากในฝันนั่นเป็นความจริง ก็หมายความว่าชายผู้นั้นคือเขาเอง และภรรยาในตอนนี้คือสตร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status