Beranda / รักโบราณ / ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม / 1 โอกาสอีกครั้งหนึ่งของสตรีชั่ว

Share

ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม
ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม
Penulis: รอรีวัน

1 โอกาสอีกครั้งหนึ่งของสตรีชั่ว

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-21 18:43:15

 

มือเล็กป่ายปัดไปทั่วทั้งบริเวณ พบว่าจุดที่นางนอนอยู่ในเวลานี้คือเตียงนอนที่บุด้วยผ้านวมหนานุ่มหาได้ใช่กองฟางไม่ อันเนี่ยนฉี‍กวาดมือไปรอบ ๆ ก่อนจะพบกับเส้นผมสีดำขลับของบุรุษผู้หนึ่ง พร้อมกับเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเขา นางนึกออกในทันทีว่าเวลานี้คนที่นอนอยู่เคียงข้างนางเป็นผู้ใด ความทรงจำหลากหลายแล่นเข้าในหัวสมอง

“ท่านแม่ทัพ” อันเนี่ยนฉี‍พึมพำ ก่อนจะคิดถึงช่วงเวลาที่เขาและนางได้พบกันคราแรก

“เป็นข้าเอง” บุรุษที่นอนอยู่เคียงข้างนางกระชับอ้อมแขน รั้งเอวเล็กของนางเอาไว้แน่น

“ข้าต้องกลับบ้านแล้ว” นางพลิกตัวกลับ ใช้สองแขนเป็นปราการผลักดันร่างกายสูงใหญ่ของเขาออกไปให้พ้น สิ่งนี้มันคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ ความผิดพลาดที่ทำให้นางและเขาเข้าสู่วังวนแห่งความอันตราย

“ฟ้ายังไม่สาง อยู่ต่ออีกสักพักได้หรือไม่” นาน ๆ ทีจะมีสตรีใจกล้าปีนขึ้นเตียงเขา ซ้ำยังปรนนิบัติได้อย่างถูกใจ มีหรือเขาจะปล่อยไปได้ง่าย ๆ

“ไม่ได้ข้าต้องไปแล้ว” นางดีดดิ้น ร่างกายของนางเหนื่อยล้าไปหมด เขาครอบครองนางตลอดทั้งคืน ดุดันราวกับพายุ ถ้าหากเขาได้รู้ว่านางคือสตรีที่เขาเกลียดชัง สู้หนีไปก่อนที่เขาจะได้เห็นหน้ากันคงจะดีกว่า

เพราะจำได้ว่าเมื่อช่วงเวลาก่อนก็เป็นเช่นนี้ นางเหนื่อยล้าเพราะเขาเอาแต่เคี่ยวกรำนาง จนสุดท้ายหลับไป ตื่นเช้ามาเมื่อหนานกงหว่านเฉยีนรู้ว่าสตรีที่ปีนเตียงเขาเมื่อคืน คือสตรีที่เขารังเกียจที่สุดอันดับหนึ่ง ใบหน้าก็บอกบุญไม่รับ ทะเลาะต่อปากต่อคำกันอยู่พักใหญ่ ลงเอยที่ต่างคนต่างก็จะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับตลอดกาล

ในช่วงเวลานั้นไม่ใช่แค่เขาที่รังเกียจนาง แต่นางเองก็รังเกียจเขา

“ข้าจะกลับบ้านแล้ว ท่านแม่ทัพปล่อยข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ” เมื่อเขาไม่ปล่อย สุดท้ายนางจึงตัดสินใจ ถีบอีกฝ่ายด้วยสองขาเล็ก ๆ ของตน หนานกงหว่านเฉยีนที่ไม่ทันได้ระวังตัวหล่นตุบลงกับพื้น

ชายหนุ่มกัดฟันกรอด สตรีตัวเล็กแค่นั้นกลับมีแรงเหลือเฟือ

“ดูเหมือนว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าจะยังเหนื่อยไม่พอใช่หรือไม่ ในเมื่อเรี่ยวแรงยังเหลือ ใช้ให้หมด ให้คุ้มกับเงินที่ลูกน้องของข้าจ่ายไปไม่ดีหรือ” หนานกงหว่านเฉยีนคิดเอาเองว่าสตรีที่อยู่บนเตียง เป็นบรรณาการจากลูกน้องคนสนิทที่หามาให้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังจากกลับมาจากชายแดน

“ข้าบอกว่าไม่ก็คือไม่” ที่เขายังสนทนากับนางดี ๆ เช่นนี้ คงเป็นเพราะยังไม่เห็นหน้าว่านางคือผู้ใด

“เมื่อรับเงินแล้วก็ควรทำหน้าที่ให้ดี ๆ” หนานกงหว่านเฉยีนเริ่มอารมณ์เสีย

“เป็นบุรุษไม่ควรบังคับสตรีให้กระทำในสิ่งที่นางไม่ชอบ ถึง...ข้าจะเป็นนางคณิกา แต่ก็มีศักดิ์ศรี” อันเนี่ยนฉี‍ชักแม่น้ำทั้งห้ากล่าวเหตุผลกับเขายืดยาว “อีกอย่างท่านเป็นแม่ทัพของแผ่นดินนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษ เป็นที่หมายปองของสตรีทั้งหล้า หากมีข่าวเล็ดลอดออกไปว่าท่านบังคับขู่เข็ญนางคณิกา ท่านก็คงต้องเอาศักดิ์ศรีที่ท่านมีอยู่ไปโยนทิ้งลงแม่น้ำ”

จากคำพูดคำและวาจาเชือดเฉือนเขาชักไม่แน่ใจแล้วว่านาง ใช่นางคณิกาจริงอย่างที่นางกล่าวหรือไม่ คำพูดและน้ำเสียงดูคล้ายกับคนผู้หนึ่งที่เขารู้จัก น่าเสียดายที่เมื่อคืนนั้นดื่มสุรามากไปหน่อยบวกกับความมืดยามราตรีทำให้ไม่รู้ว่าสตรีที่ซุกอยู่ในกองผ้าห่มเวลานี้หน้าตาเป็นเช่นไร

ด้านนอกใกล้จะสว่างขึ้นทุกขณะ หัวใจของอันเนี่ยนฉี‍เต้นระรัว ก็ได้แต่คาดหวังให้บุรุษที่อยู่ตรงหน้า เข้าใจในคำพูดของนาง และรีบ ๆ ปล่อยนางไปเสียที

“ข้าต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้” นางเน้นย้ำในเจตนาของตนอีกรอบ

“เอาเถอะ ก็ได้ ๆ” ในเมื่อนางเอาแต่ขู่ฝ่อเป็นลูกแมวเช่นนั้น แถมยังมีเหตุผลมากมาย ก็คงต้องจำใจปล่อยนางไป

“งั้นท่านก็ออกไปก่อน ข้าจะแต่งตัว” ถึงจะยกค่ำคืนแรกให้กับเขาไปแล้ว แต่นางก็ยังเป็นสตรีผู้หนึ่ง ที่คงไม่สามารถปล่อยให้บุรุษมานั่งดูนางเปลี่ยนเสื้อผ้าได้

เสื้อผ้าของนางที่อยู่นอกกองผ้าห่มถูกมือเล็กคว้ากลับเข้าไป หนานกงหว่านเฉียน‍เพิ่งจะสังเกตเห็นกำไลหยกสีม่วงบนข้อมือของนาง แม้จะแค่เพียงครู่เดียวแต่ก็รู้สึกคุ้นเคยนัก

“แม่นางข้ากับเจ้าเคยพบหน้ากันมาก่อนหรือไม่” หนานกงหว่านเฉียน‍ลุกจากพื้น ขึ้นมานั่งบนเตียงข้าง ๆ กองผ้าห่มที่ขยับยุกยิกไปมา

ที่นอนยวบลง รู้สึกว่าเขาขยับเข้ามาใกล้นางมากขึ้นเรื่อย ๆ อันเนี่ยนฉี‍ชะงักหรือว่าเขาจะจำนางได้

“ไม่เคย... ข้ากับท่านไม่เคยพบกันมาก่อน ท่านเป็นแม่ทัพอยู่นอกด่านตั้งหลายปี” นางนึกหาข้ออ้างต่าง ๆ “แล้วอีกอย่างข้า..ก็เพิ่งจะมาอยู่เมืองหลวงได้ไม่นาน ฉะนั้นแล้วเราทั้งคู่จะเคยพบหน้ากันได้อย่างไร” อันเนี่ยนฉี‍กล่าวไป ก็สวมเสื้อผ้าไป

ชุดผ้าไหมของนางเป็นของชั้นเลิศ เมื่อสัมผัสดูแล้วพบว่าเป็นผ้าไหมที่ฮ่องเต้ได้รับเป็นเครื่องบรรณาการเมื่อหลายปีก่อน มีอยู่หลายพับ ส่วนใหญ่แจกจ่ายเฉพาะขุนนางระดับสูงเท่านั้น นางเป็นเพียง...นางคณิกาธรรมดา เหตุใดจึงตัดชุดด้วยผ้าไหมราคาแพงล้ำค่าเช่นนี้ได้ กำไลหยกสีม่วงก็เช่นกัน จะมีสักกี่คนที่สามารถซื้อหาของล้ำค่าราคาแพงพวกนี้ได้

เป็นเพราะความสงสัยใคร่รู้ เมื่อสุดท้ายแล้วอดทนไม่ไหวจึงเลิกผ้าห่ม ที่เป็นพื้นที่ที่นางใช้ซุกซ่อนตนเองออกมา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 73 เรื่องราวอันเป็นมงคล

    จนถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของฟู่เหยาเหยาคล้ายกับว่านางหายไปจากโลกนี้อย่างไรอย่างนั้น อากาศในเมืองหลวงเริ่มหนาวขึ้นทุกวัน ๆ รวมไปถึงท้องของนางที่โตขึ้นเรื่อย ๆ การยืนเดินนั่งนอนของนางล้วนลำบากไปเสียหมด หลายครั้งที่ฟู่ลี่อิ๋งลุกขึ้นมานั่งร้องห่มร้องไห้กลางดึกเพียงเพราะอยากกินบะหมี่เนื้อรสเผ็ดทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านางไม่คอยชอบความเผ็ดของมัน ฟู่ลี่อิ๋งคิดถึงวันที่ที่พระสวามีเคยพาไปกิน คิดถึงเมื่อตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆ ส่วนเว่ยจงหมิงเองก็ตามใจและเข้าใจได้ไท่จื่อเฟยตั้งครรภ์ท้องแรกอีกทั้งยังไม่มีประสบการณ์ไม่มีผู้ใดสอนนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางจะกลัว กังวลและหวั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นหน้าที่ของเขาที่เป็นสามีที่จะคอยให้ความอุ่นใจ อยู่เคียงข้างนางให้นางอบอุ่นใจในบางวันที่เว่ยจงหมิงต้องไปทำงานไกล ๆ ก็จะได้ไคไคน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนคอยเล่านู่นเล่านี้ให้นางฟังไม่มีเบื่อถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งถึงเพิ่งสังเกตว่าไคไคน้อยสูงขึ้นมาก จากที่เคยสูงกว่าเอวนางนิดหนึ่งตอนนี้หัวของเขาอยู่ในระดับไหล่นางเสียแล้ว ความรู้สึกเหมือนผ่านมาแค่ครู่เดียว แต่ชั่วเวลากะพริบตาเท่านั้น“เสด็จป้า ท่านว่าน้องข

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 72 อย่างไรก็เป็นน้อง

    หลังจากได้ยินเรื่องที่ฟู่เหยาเหยาหย่ากับเว่ยเจิ้งหยาง ฟู่ลี่อิ๋งก็ไม่สบายใจนัก นางไปถามกับพี่ชายว่าสาเหตุที่เขามาที่เมืองหลวง ใช่เรื่องเพราะเรื่องนี้หรือไม่ คราแรกเขาอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดจนสุดท้ายนางก็คาดคั้นเอาคำตอบออกมาจากปากเขาได้ในที่สุดเมื่อได้ยินทุกอย่างที่นางอยากจะฟัง ฟู่ลี่อิ๋งจึงลากพี่ชายไปสืบความที่จวนเว่ยอ๋องด้วยกัน เนื่องด้วยไม่อยากไปเหยียบที่นั่นเพียงลำพังเว่ยเจิ้งหยางเมื่อได้ยินว่าไท่จื่อเฟยมาถึงที่นี่ก็ละทิ้งทุกอย่างรีบมาหานาง แต่เมื่อออกมาถึงกลับพบว่านางไม่ได้มาตามลำพัง เรื่องราวที่เคยคิดเข้าข้างตัวเองก็สลายหายไป นางมาที่นี่พร้อมกับฟู่หมิงจือ สีหน้าท่าทางของโหวน้อยดูกังวล ส่วนฟู่ลี่อิ๋งดูเย็นชาเห็นหน้าของเว่ยเจิ้งหยาง หญิงสาวก็เริ่มพูดคุยเขาเรื่องทันทีโดยไม่อ้อมค้อม“ข้าได้ยินจากไท่จื่อบอกว่าท่าหย่ากับน้องสาวของข้าแล้ว”เว่ยเจิ้งหยางเลิกคิ้วเล็กน้อย “ใช่แล้ว ข้าหย่ากับนางไปตั้งแต่วันที่กลับมาจากจวนเสนาบดีสี”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ ไม่เห็นมีใครบอกเรื่องนี้กับข้าสักคน” น้ำเสียงของนางระคนความขุ่นเคือง “แล้วเวลานี้นางอยู่ที่ไหนกัน ท่านรู้หรือไม่”“นางกลับไปเสิ่นหนานตั้งแต่เช้า

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 71 องค์หญิงเออร์น่า

    แสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในห้องนับแล้วเท่ากับแปดครั้ง สีฮูหยินกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างดีใจ นางหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างสะใจ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง จากนี้ไปจะไม่มีเว่ยจงหมิงอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้วในขณะที่นางกำลังดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แสงไฟในคุกก็สว่างไสวประดุจกลางวัน สีฮูหยินที่อยู่ในความมืดมานานนับสัปดาห์ต้องหลับตาและใช้แขนเสื้อของตนเองปกป้องดวงตาของตัวเอง ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นนางจึงจะสามารถลืมตาขึ้นได้สิ่งที่สตรีวัยกลางคนเห็นเมื่อลืมตาขึ้นพบกับบุรุษที่นางเกลียดที่สุดผู้หนึ่งในชีวิต เว่ยจงหมิงนั่งอยู่บนคานหาม แบบสี่คนแบก ชายหนุ่มนั่งอยู่บนนั้นเส้นผมดำขลับถูกปล่อยสยายยาวสอดรับกับใบหน้าหล่อเหลา เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวสบาย ๆ ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสิ่งใด และดูไม่เจ็บไม่ป่วย“ทำไมเจ้ายังมีชีวิตอยู่” สีฮูหยินได้เห็นหน้าของเว่ยจงหมิงก็เริ่มมีปฏิกิริยาแห่งโทสะ“องค์หญิงเออร์น่าคงตกใจมาก ที่เห็นว่าข้ายังมีชีวิตอยู่” เว่ยจงหมิงหยิบองุ่นขึ้นมากินในขณะที่สนทนากับนาง“ไม่!!! ทำไมเจ้ายังไม่ตาย ถูกพิษชนิดนั้นเข้าไปแล้วเหตุใดจึงยังรอดมาได้” สีฮูหยินเริ่มหวีดร้องโวยวาย “มันไม่มียารักษาผู้ที่โดนพิษต้องตาย

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 70 หลงใหลซึ่งกันและกัน

    อากาศยามเช้าหลังจากฝนหยุดตกสดชื่นปลอดโปร่ง เสียงวิหคบินวนขับขานดังกังวานไปทั่วทั้งพื้นที่ เช้าวันนี้นางรู้สึกว่าตัวเองสดชื่นกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะยาบำรุงของท่านซุน ที่ช่วยให้นางผ่อนคลายและหลับสบายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ที่พระสวามีป่วยฟู่ลี่อิ๋งก็ย้ายออกไปนอนห้องนอนเล็กที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันเพราะนางไม่อยากรบกวนคนป่วยเกรงว่าตนเองจะนอนดิ้นและทำให้เขาลำบาก รอให้เว่ยจงหมิงฟื้นและหายดีก่อนค่อยกลับมาร่วมห้องทีหลังก็ได้ทุก ๆ วันฟู่ลี่อิ๋งจะมานั่งเฝ้าพระสวามีในห้อง นี่ก็ผ่านมา 7 วันนับตั้งแต่เขาถูกพิษ เว่ยจงหมิงก็ไม่ฟื้นสักที วันนี้ก็เช่นกันนางมานั่งข้างเตียงพูดคุยกับเขาดังเช่นเคยมือเรียวเล็กจับมือของเขามาสัมผัสที่หน้าท้องแบนราบของตนเอง“ท่านพี่ เมื่อไหร่ท่านจะฟื้นกันนะ” ร่างเล็กพึมพำ “ท่านรู้หรือไม่ว่าไคไคน้อยกำลังจะมีน้องชายน้องสาวแล้วนะ” ฟู่ลี่อิ๋งกระซิบแผ่วเบาสีหน้าของเว่ยจงหมิงดูดีกว่าหลายวันที่ผ่านมา วิธีการของท่านซุนออกจะประหลาดไปบ้างแต่ก็ได้ผล หนำซ้ำยังได้ยาบำรุงชั้นดีจากวังหลวงมาช่วยอีก นางก็คาดหวังให้เขาตื่นขึ้นมาก่อกวนออดอ้อนนางได้แล้วในขณะที่ร่างเล็กกำลังจะลุกขึ้น เอวเล็กแบบ

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 69 รายล้อมไปด้วยรัก

    เสี่ยวหลงติดตามท่านเหลียงออกเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อติดตามเรียนรู้วิชาการตัดเย็บเสื้อผ้าจากเหลียงเหลียนฮ่าวและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แต่เมื่อหลายวันก่อนตอนเดินทาง ในวันที่พายุฝนโหมกระหน่ำ คณะเดินทางของท่านเหลียงผ่านไปพบกับสตรีผู้หนึ่ง นางนอนกลายเป็นซากคล้ายกับศพอยู่ในเส้นทางที่พวกเขาผ่านสภาพของนางไม่ต่างอะไรจากซากศพบาดแผลบนใบหน้าฉกรรจ์น่ารังเกียจ สัตว์และแมลงตอมไต่จนบาดแผลเน่าเฟะเหม็นคลุ้งเหลียงเหลียนฮ่าวใช้ไม้เขี่ย ๆ เห็นว่านางยังมีชีวิตอยู่จึงพาตัวไปด้วยกันถือว่าเอาบุญ ตอนที่ช่วยเหลือเสี่ยวหลงเห็นตราหยกสีชมพูคล้าย ๆ กับชิ้นที่ไท่จื่อเฟยมี ก็เดา ๆ เอาไว้ว่าสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้น่าจะเป็นผู้ใด แต่ก็ไม่ได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใดฟังกระดูกบนร่างกายของสตรีอัปลักษณ์หักอยู่หลายส่วน ท่านหมอที่ติดตามมากับคณะของเหลียงเหลียนฮ่าวใช้วิธีการเอาไม้ไผ่มาดามนางเอาไว้ทั้งร่าง ฟู่เหยาเหยาตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่าร่างกายของตนเองกำลังถูกวางเอาไว้บนเกวียนบรรทุกสิ่งของ แขนขาถูกมัดเอาไว้กับไม้ไผ่ขยับไปไหนไม่ได้บาดแผลบนใบหน้าคล้ายกับมีอะไรบางอย่างขยับยุบยิบไปมา ในทุก ๆ วันจะมีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเข้ามาช่วยเปลี่

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 68 พิษล้างพิษ

    เจ้างูสีขาวตัวเล็ก ๆ ดูเหมือนจะหงุดหงิดเล็กน้อยที่มันถูกผู้เป็นนายปลุกให้ตื่น มันสะบัดหัวไปมาและค่อย ๆ ยืดตัวชูคอขึ้นทำท่าทางคล้ายกับบิดขี้เกียจ แต่เมื่อเห็นหน้าผู้เป็นนายมันก็รีบกระโดดออกจากกระปุกสีขาวขึ้นไปหยอกล้อคลอเคลียท่าทางเหมือนกับลูกสุนัขตัวเล็ก ๆฟู่ลี่อิ๋งเห็นแล้วก็พูดสิ่งใดไม่ออก สัตว์มีเกล็ดลิ้นยาวพวกนั้นสามารถมองให้น่ารักได้ด้วยหรือ นางรู้สึกขนลุก แต่ก็ไม่ได้ปริปากพูดสิ่งใดออกมา ปล่อยให้ท่านซุนรักษาไปตามวิธีการของเขา แม้จะทำให้คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกคล้ายจะเป็นลมอยู่ตลอดเวลาก็ตามงูเทพหิมะเมื่อเห็นแมงป่องสีรุ้งมันก็คล้ายกับทำตาโตด้วยความดีใจ ซุนจงปล่อยมันลงกับพื้นพร้อม ๆ กับแมงป่องสีรุ้ง ทั้งงูและแมงป่องลงต่อสู้กัน เจ้าแม่งป่องพยายามใช้หางพิษของตนเองต่อสู้กับเจ้างูเทพหิมะแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้ต่อความปราดเปรียวของเจ้าตัวเล็กสีขาวทันทีที่แมงป่องสีรุ้งสิ้นท่า เจ้าตัวเล็กสีขาวก็เขมือบเจ้าแมงป่องตัวสีรุ้งที่นอนหมดแรง เข้าไปทั้งร่างอย่างเชื่องช้า เจ้าของร่างเล็กแบบบางต้องหลับตาขยับไปหลบอยู่เบื้องหลังของเสด็จลุงเพราะทนดูไม่ได้ เยี่ยเทียนก็ได้แต่ตบไหล่ปลอบโยน นี่เป็นเรื่องที่เขา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status