Share

3 แก้ไขเหตุการณ์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-21 18:43:33

 

ก่อนถึงบ้าน นางตัดสินใจทุบกำไลหยกม่วงชิ้นที่นางขโมยมาจนแตกละเอียด แล้วโปรยทิ้งลงในแม่น้ำ แทนการนำไปขายเหมือนชาติที่แล้ว จำได้ว่าเพราะนางนำมันไปขาย กำไลหยกม่วงล้ำค่าเป็นของหายาก กอปรกับมีข่าวว่ากำไลของคุณหนูอันรั่วหลันที่มีสีม่วงเหมือนกันหายไป สืบสาวไปมาก็มาถึงตัวนาง

จำได้ว่านางถูกทรมานให้รับสารภาพจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กระนั้นนางก็ยังคงปิดปากแน่นสนิท ไม่ยอมพูดออกไปว่าเป็นผู้ขโมย เมื่อเค้นไปแล้วไม่ได้ความ อัครเสนาบดีอันคงกลัวว่านางจะตายในชายคาบ้าน จึงบอกให้อันรั่วหลันและเซียงถังซีเลิกแล้วต่อกันไป สัญญาว่าจะตัดชุดใหม่และซื้อกำไลวงใหม่ให้กับพวกนาง ทั้งสองคนจึงยุติการลงโทษนางในที่สุด

ส่วนชุดผ้าไหม แม้จะเสียดายอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายนางก็ต้องตัดใจทำลายทิ้ง เมื่อกลับมาถึงจวนอัครเสนาบดี อันเนี่ยนฉี‍รีบไปห้องครัว โชคดีที่ยังไม่มีใครตื่นมาที่นี่ นางจึงจุดเตาฝืน นำชุดผ้าไหมพวกนั้นเผาจนไม่เหลือซาก คราวนี้นางตรวจตราให้ถี่ถ้วน เมื่อมั่นใจว่าไม่เหลือซากจึงทำท่าเหมือนกำลังต้มน้ำดื่มชา

ครั้งที่แล้วนางเสียดายไม่ยอมทำลายทิ้งเก็บเอาไว้ในเรือนของตน คิดจะเอามาดัดแปลงเก็บไว้ใส่ในงานวันหน้า แต่ก็ถูกจับได้อยู่ดี อันเนี่ยนฉี‍นั่งเขี่ยเศษขี้เถ้าในเตาไปมา เพื่อดูให้แน่ชัดว่าไม่เหลือร่องรอยอะไรแล้ว กระทั่งแม่ครัวประจำจวนอัครเสนาบดีเข้ามาเตรียมตัวทำอาหาร

“คุณหนูเก้า” แม่ครัวส่งเสียงทักทาย “ท่านมาทำอะไรแต่เช้าเจ้าคะ”

“คอแห้งน่ะ ข้าอยากดื่มน้ำอุ่น ๆ จึงมาจุดไฟตั้งเตา” เป็นเวลาที่กาน้ำเดือดพอดี อันเนี่ยนฉี‍จึงขอตัว นี่เป็นสิ่งที่นางทำเป็นประจำ อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่ได้สงสัยสิ่งใด นางจึงเดินกลับมาที่เรือนหลังของตนอย่างง่ายดาย

ตอนแรกก็ว่าจะใช้น้ำร้อนที่เพิ่งต้มเสร็จ ชงชาและดื่มแก้กระหาย แต่รู้สึกเหนียวตัวเหลือเกินจึงตัดใจนำมันผสมกับน้ำเย็น ใช้ชำระล้างร่างกาย มือเล็กสัมผัสริมฝีปากของตนเอง อดคิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมาไม่ได้ ต้องยอมรับว่าเขาเป็นบุรุษที่ถนอมบุปผา ต่างจาก....

เมื่อคิดถึงความทรงจำเลวร้ายหลังจากถูกส่งตัวไปค้าเป็นทาสแล้ว หัวใจของอันเนี่ยนฉี‍พลันรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาเสียดื้อ ๆ นางถูกกระทำย่ำยีไม่ต่างอะไรจากสัตว์ ได้ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้นับว่าสวรรค์ให้โอกาส แต่คงจะดีกว่านี้หากให้กลับมาก่อนที่นางจะลงมือวางยาหนานกงหว่านเฉียน‍

อันเนี่ยนฉี‍สำรวจร่างกายของตนเองผ่านกระจกทองเหลืองใบเก่า พบว่ามีร่องรอยที่เขาสร้างขึ้นอยู่เต็มไปหมด อีกสักพักหลังจากมื้ออาหารเช้าแม่ใหญ่และอันรั่วหลันจะเข้ามาหาเรื่องนาง เรื่องชุดและกำไลหยกม่วงที่หายไป จะให้พวกเขาสงสัยไม่ได้

นางมองไปรอบ ๆ ห้อง เริ่มทำลายกระดาษที่แปะเอาไว้ตามระแนงไม้ภายในห้อง ที่ด้านนอกก็จำได้ว่ามีรังมดเล็ก ๆ นางจึงคิดอะไรดี ๆ ออก อันเนี่ยนฉี‍รีบวิ่งไปขุดรังมดจากนั้นฝังกลบให้ดี ๆ จากนั้นจึงนำพวกมันมาโปรยเอาไว้ตรงช่องระแนงไม้ที่นางเพิ่งทำลายแล้วค่อยโรยโยงพวกมันมาถึงเตียงนอน เท่านี้ก็คงมีเหตุผลเพียงพอแล้วกระมัง

เพราะความเหนื่อยล้า นางจึงเดินมางีบหลับอยู่ที่เตียงนอนเล่น เมื่อคืนไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนเพราะหนานกงหว่านเฉียน‍เอาแต่จับนางพลิกตัวไปมา คิดว่าจะตายเสียแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้ของพรรค์นั้นมันสามารถสอดเข้าไปในตัวนางได้อย่างไร เพราะเคยถูกกระทำย่ำยีจากบุรุษมากหน้าหลายตามาก่อนในชาติที่แล้ว นางจึงพอรู้ขนาดมาตรฐานของบุรุษทั่วไปอยู่บ้าง แต่ของเขานั้นมันไม่ปกติ ถ้าเขาถูกตัดขาไปข้างหนึ่ง ก็สามารถใช้เจ้านั่นเดินแทนได้

หลับไปยังไม่ทันเท่าไหร่ประตูห้องนอนของนางก็ถูกเปิดออก

“เลยเวลาอาหารเช้าแล้วงั้นหรือ” อันเนี่ยนฉี‍พึมพำ

“น้องเก้า” เจ้าอยู่ไหน อันรั่วหลันเดินไปหานางที่เตียงนอน พลิกผ้าห่มไปมาไม่พบคนเจอแต่มดเต็มไปหมด

“พี่ใหญ่ ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ” อันเนี่ยนฉี‍เดินเข้าไปช้า ๆ ใบหน้าซีดเซียว

“นางตัวดี” ท่านแม่ใหญ่เมื่อเห็นหน้านางก็ปรี่เข้ามาตบสั่งสอน กลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งอยู่ในโพรงปาก เป็นเหตุการณ์ที่คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าต้องเจอ

“ท่านแม่ใหญ่” นางคุกเข่าลงกับพื้น “เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” น้ำตาคลอเต็มสองตา

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องกำไลหยกม่วงกับชุดผ้าไหมที่ฮ่องเต้พระราชทานให้พี่สาวเจ้า เจ้าเป็นคนเอาไปใช่หรือไม่ ทำให้นางเกือบพลาดการไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนท่านแม่ทัพ” เซียงถังซีเดินปรี่เข้ามาเอาเรื่องอันเนี่ยนฉี‍ รวมถึงกระชากเส้นผมของนางลากไปกับพื้นห้อง

“ท่านแม่ใหญ่ ข้าไม่ได้เอาไปเจ้าค่ะ ข้าไม่รู้เรื่อง” นางรู้เรื่องและผู้ที่เข้าไปขโมยมาจากห้องของอันรั่วหลันก็คือนาง แต่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ การทำร้ายร่างกายแค่นี้นับว่ายังน้อยกว่าที่นางเคยเผชิญมาในอดีต

“ท่านแม่ อย่าทำน้องเก้าเจ้าค่ะ” ปากก็บอกห้ามปราม แต่การกระทำนั้นตรงข้าม อันรั่วหลันเอาแต่ยืนเฉย ๆ มองมารดาลงไม้ลงมือกับตนเอง ในอดีตนางเคยคิดว่าพี่สาวผู้นี้เป็นคนจิตใจดี แต่หารู้ไม่ว่า ผู้ที่เป็นคนต้นคิดให้ส่งตัวนางให้กับขบวนค้าทาสก็คือนาง

“รั่วเอ๋อร์ เจ้าก็ใจดีกับนางเกิน” เซียงถังซีลากอันเนี่ยนฉี‍ออกมาจากห้องนอน ส่วนบ่าวไพร่เข้าไปค้นหาสิ่งของที่หายไป

ค้นหาจนเรือนเล็กของนางที่สภาพย่ำแย่อยู่แล้วแย่ยิ่งกว่าเดิม

“ท่านแม่ใหญ่ ข้าไม่ได้เอาไปจริง ๆ นะเจ้าคะ ท่านแม่ใหญ่ต้องเชื่อข้านะเจ้าคะ” อันเนี่ยนฉี‍อ้อนวอน

“อย่ามาคิดแก้ตัว มีคนเห็นว่าเจ้าออกมาจากห้องนอนของรั่วเอ๋อร์ หน็อย!! ทั้งที่นางเป็นผู้เดียวในจวนอัครเสนาบดีที่ใจดีกับเจ้า แต่เจ้ากลับกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา กล้าขโมยของของนางได้อย่างหน้าด้าน ๆ” เซียงถังซียังคงด่ากราดบริภาษ บุตรสาวนอกสายโลหิตของตนไม่หยุด

“พี่หญิง ข้ายืนยันจริง ๆ นะเจ้าคะ ว่าข้าไม่ได้ทำ” อันเนี่ยนฉี‍หันไปหาพี่สาวต่างมารดา พยายามอ้อนวอนนางอีกแรง และอีกครู่หนึ่ง จะมีแขกคนสำคัญเดินหลงทางผ่านมาทางนี้

ฉุดกระชากกันไปมาจนเสื้อผ้าของนางหลุดลุ่ยเซียงถังซีจึงเห็นว่าบนตัวของนางมีแต่รอยสีแดง นางอายุขนาดนี้ มีหรือจะไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร

“อย่าบอกนะว่าเจ้าไปมีสัมพันธ์กับบุรุษมา หน้าไม่อาย นางลูกชั่ว” ปากก็พูดไปมือกับตบตีลูกเลี้ยงเช่นอันเนี่ยนฉี‍อย่างไม่ยั้งมือ

“ท่านแม่ใหญ่ ไม่ใช่นะเจ้าคะ ไม่ใช่”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Pimchantuk
นิยายสนุกน่าอ่านมากๆ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 73 เรื่องราวอันเป็นมงคล

    จนถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของฟู่เหยาเหยาคล้ายกับว่านางหายไปจากโลกนี้อย่างไรอย่างนั้น อากาศในเมืองหลวงเริ่มหนาวขึ้นทุกวัน ๆ รวมไปถึงท้องของนางที่โตขึ้นเรื่อย ๆ การยืนเดินนั่งนอนของนางล้วนลำบากไปเสียหมด หลายครั้งที่ฟู่ลี่อิ๋งลุกขึ้นมานั่งร้องห่มร้องไห้กลางดึกเพียงเพราะอยากกินบะหมี่เนื้อรสเผ็ดทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านางไม่คอยชอบความเผ็ดของมัน ฟู่ลี่อิ๋งคิดถึงวันที่ที่พระสวามีเคยพาไปกิน คิดถึงเมื่อตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆ ส่วนเว่ยจงหมิงเองก็ตามใจและเข้าใจได้ไท่จื่อเฟยตั้งครรภ์ท้องแรกอีกทั้งยังไม่มีประสบการณ์ไม่มีผู้ใดสอนนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางจะกลัว กังวลและหวั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นหน้าที่ของเขาที่เป็นสามีที่จะคอยให้ความอุ่นใจ อยู่เคียงข้างนางให้นางอบอุ่นใจในบางวันที่เว่ยจงหมิงต้องไปทำงานไกล ๆ ก็จะได้ไคไคน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนคอยเล่านู่นเล่านี้ให้นางฟังไม่มีเบื่อถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งถึงเพิ่งสังเกตว่าไคไคน้อยสูงขึ้นมาก จากที่เคยสูงกว่าเอวนางนิดหนึ่งตอนนี้หัวของเขาอยู่ในระดับไหล่นางเสียแล้ว ความรู้สึกเหมือนผ่านมาแค่ครู่เดียว แต่ชั่วเวลากะพริบตาเท่านั้น“เสด็จป้า ท่านว่าน้องข

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 72 อย่างไรก็เป็นน้อง

    หลังจากได้ยินเรื่องที่ฟู่เหยาเหยาหย่ากับเว่ยเจิ้งหยาง ฟู่ลี่อิ๋งก็ไม่สบายใจนัก นางไปถามกับพี่ชายว่าสาเหตุที่เขามาที่เมืองหลวง ใช่เรื่องเพราะเรื่องนี้หรือไม่ คราแรกเขาอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดจนสุดท้ายนางก็คาดคั้นเอาคำตอบออกมาจากปากเขาได้ในที่สุดเมื่อได้ยินทุกอย่างที่นางอยากจะฟัง ฟู่ลี่อิ๋งจึงลากพี่ชายไปสืบความที่จวนเว่ยอ๋องด้วยกัน เนื่องด้วยไม่อยากไปเหยียบที่นั่นเพียงลำพังเว่ยเจิ้งหยางเมื่อได้ยินว่าไท่จื่อเฟยมาถึงที่นี่ก็ละทิ้งทุกอย่างรีบมาหานาง แต่เมื่อออกมาถึงกลับพบว่านางไม่ได้มาตามลำพัง เรื่องราวที่เคยคิดเข้าข้างตัวเองก็สลายหายไป นางมาที่นี่พร้อมกับฟู่หมิงจือ สีหน้าท่าทางของโหวน้อยดูกังวล ส่วนฟู่ลี่อิ๋งดูเย็นชาเห็นหน้าของเว่ยเจิ้งหยาง หญิงสาวก็เริ่มพูดคุยเขาเรื่องทันทีโดยไม่อ้อมค้อม“ข้าได้ยินจากไท่จื่อบอกว่าท่าหย่ากับน้องสาวของข้าแล้ว”เว่ยเจิ้งหยางเลิกคิ้วเล็กน้อย “ใช่แล้ว ข้าหย่ากับนางไปตั้งแต่วันที่กลับมาจากจวนเสนาบดีสี”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ ไม่เห็นมีใครบอกเรื่องนี้กับข้าสักคน” น้ำเสียงของนางระคนความขุ่นเคือง “แล้วเวลานี้นางอยู่ที่ไหนกัน ท่านรู้หรือไม่”“นางกลับไปเสิ่นหนานตั้งแต่เช้า

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 71 องค์หญิงเออร์น่า

    แสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในห้องนับแล้วเท่ากับแปดครั้ง สีฮูหยินกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างดีใจ นางหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างสะใจ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง จากนี้ไปจะไม่มีเว่ยจงหมิงอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้วในขณะที่นางกำลังดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แสงไฟในคุกก็สว่างไสวประดุจกลางวัน สีฮูหยินที่อยู่ในความมืดมานานนับสัปดาห์ต้องหลับตาและใช้แขนเสื้อของตนเองปกป้องดวงตาของตัวเอง ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นนางจึงจะสามารถลืมตาขึ้นได้สิ่งที่สตรีวัยกลางคนเห็นเมื่อลืมตาขึ้นพบกับบุรุษที่นางเกลียดที่สุดผู้หนึ่งในชีวิต เว่ยจงหมิงนั่งอยู่บนคานหาม แบบสี่คนแบก ชายหนุ่มนั่งอยู่บนนั้นเส้นผมดำขลับถูกปล่อยสยายยาวสอดรับกับใบหน้าหล่อเหลา เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวสบาย ๆ ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสิ่งใด และดูไม่เจ็บไม่ป่วย“ทำไมเจ้ายังมีชีวิตอยู่” สีฮูหยินได้เห็นหน้าของเว่ยจงหมิงก็เริ่มมีปฏิกิริยาแห่งโทสะ“องค์หญิงเออร์น่าคงตกใจมาก ที่เห็นว่าข้ายังมีชีวิตอยู่” เว่ยจงหมิงหยิบองุ่นขึ้นมากินในขณะที่สนทนากับนาง“ไม่!!! ทำไมเจ้ายังไม่ตาย ถูกพิษชนิดนั้นเข้าไปแล้วเหตุใดจึงยังรอดมาได้” สีฮูหยินเริ่มหวีดร้องโวยวาย “มันไม่มียารักษาผู้ที่โดนพิษต้องตาย

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 70 หลงใหลซึ่งกันและกัน

    อากาศยามเช้าหลังจากฝนหยุดตกสดชื่นปลอดโปร่ง เสียงวิหคบินวนขับขานดังกังวานไปทั่วทั้งพื้นที่ เช้าวันนี้นางรู้สึกว่าตัวเองสดชื่นกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะยาบำรุงของท่านซุน ที่ช่วยให้นางผ่อนคลายและหลับสบายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ที่พระสวามีป่วยฟู่ลี่อิ๋งก็ย้ายออกไปนอนห้องนอนเล็กที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันเพราะนางไม่อยากรบกวนคนป่วยเกรงว่าตนเองจะนอนดิ้นและทำให้เขาลำบาก รอให้เว่ยจงหมิงฟื้นและหายดีก่อนค่อยกลับมาร่วมห้องทีหลังก็ได้ทุก ๆ วันฟู่ลี่อิ๋งจะมานั่งเฝ้าพระสวามีในห้อง นี่ก็ผ่านมา 7 วันนับตั้งแต่เขาถูกพิษ เว่ยจงหมิงก็ไม่ฟื้นสักที วันนี้ก็เช่นกันนางมานั่งข้างเตียงพูดคุยกับเขาดังเช่นเคยมือเรียวเล็กจับมือของเขามาสัมผัสที่หน้าท้องแบนราบของตนเอง“ท่านพี่ เมื่อไหร่ท่านจะฟื้นกันนะ” ร่างเล็กพึมพำ “ท่านรู้หรือไม่ว่าไคไคน้อยกำลังจะมีน้องชายน้องสาวแล้วนะ” ฟู่ลี่อิ๋งกระซิบแผ่วเบาสีหน้าของเว่ยจงหมิงดูดีกว่าหลายวันที่ผ่านมา วิธีการของท่านซุนออกจะประหลาดไปบ้างแต่ก็ได้ผล หนำซ้ำยังได้ยาบำรุงชั้นดีจากวังหลวงมาช่วยอีก นางก็คาดหวังให้เขาตื่นขึ้นมาก่อกวนออดอ้อนนางได้แล้วในขณะที่ร่างเล็กกำลังจะลุกขึ้น เอวเล็กแบบ

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 69 รายล้อมไปด้วยรัก

    เสี่ยวหลงติดตามท่านเหลียงออกเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อติดตามเรียนรู้วิชาการตัดเย็บเสื้อผ้าจากเหลียงเหลียนฮ่าวและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แต่เมื่อหลายวันก่อนตอนเดินทาง ในวันที่พายุฝนโหมกระหน่ำ คณะเดินทางของท่านเหลียงผ่านไปพบกับสตรีผู้หนึ่ง นางนอนกลายเป็นซากคล้ายกับศพอยู่ในเส้นทางที่พวกเขาผ่านสภาพของนางไม่ต่างอะไรจากซากศพบาดแผลบนใบหน้าฉกรรจ์น่ารังเกียจ สัตว์และแมลงตอมไต่จนบาดแผลเน่าเฟะเหม็นคลุ้งเหลียงเหลียนฮ่าวใช้ไม้เขี่ย ๆ เห็นว่านางยังมีชีวิตอยู่จึงพาตัวไปด้วยกันถือว่าเอาบุญ ตอนที่ช่วยเหลือเสี่ยวหลงเห็นตราหยกสีชมพูคล้าย ๆ กับชิ้นที่ไท่จื่อเฟยมี ก็เดา ๆ เอาไว้ว่าสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้น่าจะเป็นผู้ใด แต่ก็ไม่ได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใดฟังกระดูกบนร่างกายของสตรีอัปลักษณ์หักอยู่หลายส่วน ท่านหมอที่ติดตามมากับคณะของเหลียงเหลียนฮ่าวใช้วิธีการเอาไม้ไผ่มาดามนางเอาไว้ทั้งร่าง ฟู่เหยาเหยาตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่าร่างกายของตนเองกำลังถูกวางเอาไว้บนเกวียนบรรทุกสิ่งของ แขนขาถูกมัดเอาไว้กับไม้ไผ่ขยับไปไหนไม่ได้บาดแผลบนใบหน้าคล้ายกับมีอะไรบางอย่างขยับยุบยิบไปมา ในทุก ๆ วันจะมีบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเข้ามาช่วยเปลี่

  • ท่านร้ายข้าก็ร้าย...มีสิ่งใดไม่เหมาะสม   ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี 68 พิษล้างพิษ

    เจ้างูสีขาวตัวเล็ก ๆ ดูเหมือนจะหงุดหงิดเล็กน้อยที่มันถูกผู้เป็นนายปลุกให้ตื่น มันสะบัดหัวไปมาและค่อย ๆ ยืดตัวชูคอขึ้นทำท่าทางคล้ายกับบิดขี้เกียจ แต่เมื่อเห็นหน้าผู้เป็นนายมันก็รีบกระโดดออกจากกระปุกสีขาวขึ้นไปหยอกล้อคลอเคลียท่าทางเหมือนกับลูกสุนัขตัวเล็ก ๆฟู่ลี่อิ๋งเห็นแล้วก็พูดสิ่งใดไม่ออก สัตว์มีเกล็ดลิ้นยาวพวกนั้นสามารถมองให้น่ารักได้ด้วยหรือ นางรู้สึกขนลุก แต่ก็ไม่ได้ปริปากพูดสิ่งใดออกมา ปล่อยให้ท่านซุนรักษาไปตามวิธีการของเขา แม้จะทำให้คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกคล้ายจะเป็นลมอยู่ตลอดเวลาก็ตามงูเทพหิมะเมื่อเห็นแมงป่องสีรุ้งมันก็คล้ายกับทำตาโตด้วยความดีใจ ซุนจงปล่อยมันลงกับพื้นพร้อม ๆ กับแมงป่องสีรุ้ง ทั้งงูและแมงป่องลงต่อสู้กัน เจ้าแม่งป่องพยายามใช้หางพิษของตนเองต่อสู้กับเจ้างูเทพหิมะแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้ต่อความปราดเปรียวของเจ้าตัวเล็กสีขาวทันทีที่แมงป่องสีรุ้งสิ้นท่า เจ้าตัวเล็กสีขาวก็เขมือบเจ้าแมงป่องตัวสีรุ้งที่นอนหมดแรง เข้าไปทั้งร่างอย่างเชื่องช้า เจ้าของร่างเล็กแบบบางต้องหลับตาขยับไปหลบอยู่เบื้องหลังของเสด็จลุงเพราะทนดูไม่ได้ เยี่ยเทียนก็ได้แต่ตบไหล่ปลอบโยน นี่เป็นเรื่องที่เขา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status