Share

8

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-05-25 07:00:00

“อามิตตาพุทธ ประสกอย่าได้ฆ่าคนอีกเลย ที่พวกเราต้องกวาดล้างที่นี่เพราะยาพิษที่พวกเจ้าสร้างขึ้นมาทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตกตายไปเป็นจำนวนมาก”

“ฮึ! คนบางคนมันก็สมควรตายมิใช่หรือ? ชาวบ้านเหล่านี้พวกเขาแค่ต้องการแก้แค้นคนที่ทำร้ายพวกเขาด้วยตนเอง ข้าเพียงแค่สอนพวกเขาเล็กน้อยเท่านั้น แต่พวกท่านกลับนำคนมามากมายเพื่อฆ่าล้างบางคนที่นี่ ไม่ใช่ว่าพวกท่านจะเลวร้ายกว่าพวกข้าหรอกหรือ?”

“เจ้าอย่าได้เห็นผิดเป็นชอบ คนที่ได้รับพิษจากพวกเจ้าบางคนอาจจะเลวร้ายจริง แต่คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเล่า พวกเขาเหตุใดจึงต้องตกตายเพราะพิษของพวกเจ้าด้วย”

“นั่นสิ พวกเจ้าก่อกรรมทำเข็ญมาหลายปี วันนี้พวกเราจึงต้องรวมตัวกันมากำจัดพวกเจ้าและสถานที่อันเลวร้ายแห่งนี้ให้หมดสิ้น!” เจ้าสำนักคนหนึ่งกล่าว

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าโจวเมี่ยวเมี่ยว ไม่เคยสอนให้ใครทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ในเมื่อพวกเจ้าต้องการทำลายหุบเขาพิษนี้ของข้า พวกเจ้าก็จงตกตายเป็นเพื่อนพวกข้าที่นี่เถิด”

ศิษย์นอกที่เหลืออยู่เพิ่งเคยพบเจ้าสำนักเป็นครั้งแรก พวกเขาเห็นเจ้าสำนักเริ่มการต่อสู้ก็ฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง หากจะตาย พวกเขาก็จะตายไปพร้อมกับเจ้าสำนักตรงหน้า อย่างไรพวกเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ การดูแลหุบเขาจึงเหมาะสมแล้วที่พวกเขาจะใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน

“อามิตตาพุทธ” เจ้าสำนักวัดเส้าหลินได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ

“ตั้งค่ายกล 18 อรหันต์ สังหารให้หมดสิ้น!” รองเจ้าสำนักวัดเส้าหลินรีบร้องบอก

คนจากวัดเส้าหลินแยกตัวออกเป็นกลุ่ม ๆ และกลุ้มรุมสังหารศิษย์ที่เหลืออยู่อย่างไม่กลัวว่าตนเองจะถูกพิษ ถึงแม้จะมีคนถูกพิษจนล้มลง ก็ยังมีคนใหม่เข้ามาแทนที่ค่ายกลอยู่ดี

โจวเมี่ยวเมี่ยวเห็นเช่นนั้นก็อดรนทนไม่ไหวที่จะช่วยคนในหุบเขาของนาง นางใช้พิษที่รุนแรงที่สุดแพร่ออกไปโดยรอบจนทำให้ทุกคนล้มลงจนกระอักเลือดออกมาในคราวเดียว มีเพียงเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินกับเจ้าสำนักที่แข็งแกร่งอีกสี่คนเท่านั้นที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ พวกเขาใช้พลังปราณป้องกันพิษร้ายที่ถูกปล่อยออกมาโดยโจวเมี่ยวเมี่ยว จึงทำให้ยังสามารถประจันหน้ากับนางได้

“พวกเจ้าหนีไปซะ!!” โจวเมี่ยวเมี่ยวสั่งศิษย์นอกที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด

“แต่ว่า…” เหล่าศิษย์ต่างหันมองหน้ากัน

“หุบปาก! รีบไป! ข้าจะทำทางหนีให้พวกเจ้า”

โจวเมี่ยวเมี่ยวกล่าวจบก็ไม่รอช้า นางใช้พลังปราณพิษเบิกทางที่มีคนอ่อนแอที่สุดล้อมเอาไว้จนพวกเขาล้มตายลงราวกับใบไม้ร่วง

“ไป!!!” นางตวาดสั่งเสียงดัง

ศิษย์นอกที่เหลือไม่กี่คนรีบวิ่งฝ่าออกไปทางนั้นทันที พวกเขาใช้วิชาตัวเบาที่ฝึกฝนมาอย่างเต็มกำลังเพื่อหนีให้พ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ในใจพวกเขาล้วนสำนึกขอบคุณเจ้าสำนักที่ช่วยเหลือพวกเขาในยามวิกฤตเช่นนี้

“จับพวกมันให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็ฆ่าพวกมันซะ อย่าให้หนีไปได้” เจ้าสำนักคนหนึ่งรีบร้องสั่งให้คนติดตามพวกเขาไปเช่นกัน

“ฮึ! พวกเจ้ากล้า!!!” โจวเมี่ยวเมี่ยวกวาดพลังปราณพิษไปยังกลุ่มจอมยุทธ์ที่ทำท่าจะวิ่งตามศิษย์นอกเหล่านั้นไปทันที

พลั่ก! อั่ก! พรวด!

จอมยุทธ์ฝีมืออ่อนด้อยนับร้อยตกตายในทันทีเพียงแค่ฝ่ามือเดียว ทำให้คนที่คิดจะติดตามไปก่อนหน้านี้รีบถอยกรูดกลับไปใกล้เหล่าเจ้าสำนักของพวกเขาแทน

“อามิตตาพุทธ ตอนนี้ประสกเหลือตัวคนเดียวแล้ว ไม่กลัวตายหรือ?”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้ามีหรือจะกลัวตาย ถึงข้าจะตาย ข้าก็จะลากพวกเจ้าลงนรกไปกับข้าด้วย”

“ท่านเจ้าอาวาสอย่าเปลืองน้ำลายพูดกับนางเลยขอรับ คนเช่นนี้คงไม่มีทางกลับตัวได้หรอกขอรับ” เจ้าสำนักหยางซานเอ่ย

“ฮึ! หากพวกเจ้าเก่งกาจนักก็มาเอาชีวิตของข้าสิ” โจวเมี่ยวเมี่ยวกล่าว

“ปากดีเหลือเกินนะนางมารพิษ! พวกเรา ฆ่านางเสีย” เจ้าสำนักกระบี่กล่าวเสียงดัง

คนอื่น ๆ พอได้สัญญาณจากเจ้าสำนักกระบี่ ทุกคนต่างใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเองออกมาเพื่อฆ่าโจวเมี่ยวเมี่ยวให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดการสูญเสียไปมากกว่านี้

ระหว่างการต่อสู้ โจวเมี่ยวเมี่ยวแอบปล่อยพิษไร้สีไร้กลิ่นปะปนเข้าไปในลมปราณพิษที่นางปล่อยออกไปด้วย ในเมื่อวันนี้นางคงไม่รอดแล้ว แน่นอนว่านางจะทำให้คนเหล่านี้ตายอย่างช้า ๆ ด้วยพิษที่ตรวจจับไม่ได้ของนาง การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงมากกว่าก่อนหน้านี้นัก

เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเองก็เข้าร่วมการต่อสู้กับเจ้าสำนักทั้งสี่ที่มีฝีมือสูงส่งที่สุดในเหล่าจอมยุทธ์ที่มาวันนี้ด้วย ความจริงท่านอยากจะให้โอกาสนางเพื่อกลับตัวสักหน่อย แต่เมื่อเห็นนางฆ่าคนอย่างไม่กระพริบตาจนจอมยุทธ์ตายไปอย่างรวดเร็วมากกว่าครึ่งแล้ว ท่านจึงต้องลงมือด้วยตนเองเช่นนี้

เพี๊ยะ! พรึ่บ! อั่ก! พรวด!!!

หนึ่งในเจ้าสำนักทนต่อพิษจากฝ่ามือของโจวเมี่ยวเมี่ยวไม่ไหวจึงลอยละลิ่วพร้อมกับกระอักเลือดสีดำจำนวนมากออกมาอย่างสุดจะกลั้น ก่อนที่เขาจะสิ้นใจไปในเวลาไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่เสียใจ

“ไม่นึกเลยว่าสีกาจะโหดร้ายขนาดนี้ ข้าคงต้องลงมืออย่างจริงจังบ้างแล้ว ฝ่ามือยูไล!”

พลั่ก!! อั่ก!

โจวเมี่ยวเมี่ยวกลืนเลือดลงไปในลำคอ ก่อนจะใช้วิชาที่นางคิดค้นขึ้นมาปล่อยปราณพิษจำนวนมากกระจายไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จอมยุทธ์เหล่านี้จะกินยาถอนพิษมาก่อนหน้าแล้ว แต่พิษของโจวเมี่ยวเมี่ยวไม่ใช่ยาถอนพิษทั่วไปจะสามารถแก้ไขได้ ทำให้ตอนนี้มีผู้คนล้มลงตายตาไม่หลับอีกเกือบสี่ร้อยคนในคราวเดียว

จอมยุทธ์ที่เหลือรอดอยู่ถึงแม้จะยังพอยืนอยู่ได้ แต่ภายในกลับปั่นป่วนแล้ว พวกเขาได้แต่รีบนั่งลงแล้วใช้พลังปราณต้านพิษเอาไว้อย่างสุดกำลัง เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งลงมือรุนแรงขึ้นเพื่อไม่ให้มีคนล้มตายไปอีก เจ้าสำนักทั้งสามที่เหลือก็กลุ้มรุมเข้าไปเช่นเดียวกัน

โจวเมี่ยวเมี่ยวที่ใช้พลังปราณไปมากและยังบาดเจ็บจากวิชาของเจ้าสำนักทั้งสี่ที่เหลืออยู่เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว นางได้แต่นึกในใจว่าอีกไม่นานก็จะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายนางแล้วเท่านั้น

การต่อสู้ยังคงดำเนินไปเกือบร้อยกระบวนท่า ก่อนที่โจวเมี่ยวเมี่ยวจะถูกฝ่ามือของเจ้าสำนักเส้าหลินเข้าเต็มเปากลางหน้าอกของนางจนลอยละลิ่วออกไปพร้อมเลือดที่พุ่งเป็นสายออกมาจากปากนางอย่างสุดจะกลั้น

พลั่ก! อั่ก! พรวด! ตุ้บ! แฮ่ก!!

เจ้าสำนักทั้งสี่ที่เหนื่อยล้าไม่น้อยและยังต้องใช้พลังลมปราณต้านพิษต่างถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เห็นโจวเมี่ยวเมี่ยวหมดหนทางสู้ต่อแล้ว พวกเขาเดินเข้าไปดูว่านางยังมีเรี่ยวแรงหลงเหลืออีกหรือไม่ ก่อนที่จะพบว่าลมหายใจของนางนั้นรวยรินเต็มที เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินอดที่จะสวดมนต์ให้นางก่อนตายไม่ได้ พร้อมทั้งเตือนสตินางก่อนที่โจวเมี่ยวเมี่ยวจะสิ้นใจในเวลาต่อมา

“อามิตตาพุทธ ขอให้ชาติหน้าท่านทำแต่ความดีเพื่อแก้ไขสิ่งเลวร้ายที่ท่านทำในชาตินี้เถิด สีกามีสิ่งใดจะขอร้องก่อนตายหรือไม่?”

“ข้า.. ข้า..มี..ช่วย...ฝัง..อั่ก! พรวด! ฝังข้า..ที่ข้าง...หลุม..ศพ..ขอบ...คุณ”

หลังกล่าวจบนางก็สิ้นใจไปพร้อมกับบทสวดที่เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินสวดให้เพราะความเมตตาของเขา เขายังสั่งศิษย์ให้นำร่างนางไปฝังยังข้างหลุมศพที่นางชี้บอกก่อนตายด้วย ก่อนที่ทุกคนจะพักผ่อนที่บนหุบเขาและช่วยถอนพิษให้กับคนที่บาดเจ็บอยู่ ส่วนการเผาสมุนไพรพิษในหุบเขานั้นจะจัดการวันพรุ่งนี้ก่อนลงจากเขา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   46

    กลางดึกคืนนั้น กลุ่มโจรมากกว่าห้าร้อยคนล้อมรอบพื้นที่ตั้งกระโจมเอาไว้อย่างแน่นหนา พวกเขาเฝ้ามองดูก่อนหน้านี้มาตลอดจนรู้ว่ายากที่จะเข้าไปจับกุมตัวผู้นำขบวนเอาไว้ได้ เนื่องจากกระโจมนั้นอยู่ตรงกลาง ยากต่อการจู่โจม พวกเขาจึงคิดที่จะปล้นเสบียงและเงินทองที่อยู่ชั้นนอกแทน“พวกเจ้าเตรียมจัดการทหารเฝ้าเวรพวกนั้นก่อน เราค่อยบุกเข้าไปทีละชั้น”“ท่านหัวหน้าแน่ใจหรือขอรับ ข้ากลัวว่าพวกมันจะมีแผนการดักซุ่มรอเราอยู่”“เพ้ย! เจ้าเชื่อข้าเถอะน่า ป่านนี้พวกมันที่เหนื่อยจากการเดินทางคงนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวกันไปนานแล้ว ขบวนใหญ่ขนาดนี้ข้าก็เพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก พวกมันไม่น่าจะระมัดระวังมากนักหรอก” หัวหน้าโจรกล่าวอย่างไม่กลัวแม้แต่น้อย อย่างไรเขาก็ดักปล้นพ่อค้ารวมทั้งยังรับคำสั่งฆ่าจากเจ้าเมืองเสวียนมาตลอดหลายปี ถึงแม้จะถูกจับได้ อย่างไรเจ้าเมืองเสวียนก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเขาแน่“ไป!” หัวหน้าโจรสั่งลูกน้องเสียงดังไปทั่วบริเวณ

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   45

    ขบวนเดินทางของไท่จื่อไม่ได้เร่งรีบไปยังเมืองเสวียนมากนัก พระองค์ยังส่งทหารนำรายงานเกี่ยวกับเมืองจ้วงจีกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อถวายฝ่าบาท ส่วนการเดินทางครั้งนี้มีการหยุดพักบ่อยขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนท้องของซินเมี่ยวที่กำลังโตขึ้นทุกวันและเข้าสู่เดือนที่หกของการตั้งครรภ์“เสด็จพี่ไม่ต้องพักบ่อยขนาดนี้ก็ได้เพคะ เรายังต้องเดินทางไปอีกหลายเมืองเพื่อช่วยเหลือราษฎรนะเพคะ” ซินเมี่ยวอดจะบ่นพระสวามีไม่ได้“นั่นจะได้อย่างไร หมอหลวงก็บอกอยู่ว่าไม่ให้เดินทางต่อเนื่องมากนัก ไม่เช่นนั้นเจ้าที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในรถม้าจนขยับเขยื้อนลำบากจะไม่สบายเอาได้”“เสด็จพี่ลืมไปหรือเปล่าเพคะว่าน้องก็มีพลังปราณ เรื่องแค่นี้ไม่กระทบร่างกายของน้องหรอกเพคะ พวกเรารีบเดินทางจะดีกว่า พักแค่ก่อนค่ำเหมือนเคยก็ได้แล้ว”“เอาล่ะ ๆ เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่สบายตัวต้องรีบบอกพี่เข้าใจหรือไม่”“หม่อมฉันเข

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   44

    ยามเว่ย ไท่จื่อก็สั่งให้ออกเดินทางโดยที่ได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านทำล้อลากสำหรับกรงขังเสือเพื่อลากกลับไปยังเมืองจ้วงจี เสือทั้งหมดเมื่อฟื้นตื่นคราแรกต่างตกใจจนร้องขู่เสียงดัง ซินเมี่ยวที่ไม่ได้หวาดกลัวพวกมันจึงเดินเข้าไปใช้พลังปราณกดข่มพวกมันและคุยกับพวกมันดี ๆ เพื่อปลอบโยน จนไม่นานนักหลังจากนางส่งเนื้อย่างที่ชาวบ้านทำเอาไว้ให้พวกมันทั้งครอบครัวกินจนอิ่มหนำ เสือทั้งหมดที่อยู่ในกรงต่างก็เชื่องเชื่อลงไม่น้อย พวกมันพากันนอนหมอบปล่อยให้องครักษ์ขี่ม้าลากพวกมันติดตามไปอย่างเงียบ ๆองครักษ์สี่นายเมื่อกลับถึงเมืองจ้วงจี พวกเขาแยกทางกับรถม้าของไท่จื่อเพื่อนำเสือกลับไปยังค่ายทหารตามคำสั่ง พวกเขายังได้รับคำสั่งให้พาพ่อครัวหลวงกับช่างฝีมือที่ติดตามขบวนมาด้วยกลับไปยังจวนไท่จื่อภายในเมือง เพราะหยางชิงหลงอยากให้ช่างฝีมือไปสอนการผลิตสิ่งของจากไม้ไผ่ให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน ระหว่างที่ต้องรอผลการปรับปรุงดินว่าดินแบบใดเหมาะที่จะเพาะปลูกซุนเหยาที่ขับรถม้าให้ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยกลับไปยังจวนก็รับคำสั่งไท่จื่อเฟยให้ออกไปซื้อของส

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   43

    ในป่าอีกด้านหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อย ไท่จื่อเห็นว่ามีหมูป่ากับกวางป่าจำนวนมาก พระองค์จึงให้องครักษ์ล่าหมูป่าไปให้ผู้ใหญ่บ้านสักตัวสองตัว ส่วนซินเมี่ยวเองก็ใช้อาวุธลับล่ากวางป่าตัวหนึ่งเช่นกันหลังจากล่าสัตว์ได้มากถึงสามตัวแล้ว ทุกคนจึงลงจากเขาไปพร้อมกับสัตว์ทั้งสามตัวที่องครักษ์ช่วยกันหามลงจากภูเขาพร้อมรอยยิ้มเมื่อไปถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน องครักษ์มอบสัตว์ทั้งสามตัวให้กับเขาเพื่อแจกจ่ายชาวบ้านนำไปทำอาหารกินกัน ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยนั่งดื่มชาสนทนาเรื่องที่พบบนภูเขาที่สงสัยกับผู้ใหญ่บ้านที่เรียกชาวบ้านมาจัดการสัตว์ทั้งสามตัว“เหตุใดจึงไม่มีชาวบ้านขึ้นเขาไปเก็บหน่อไม้มาทำอาหารหรือผู้ใหญ่บ้าน”“พวกเราไม่กล้าขึ้นไปถึงที่นั่นเพราะหวาดกลัวสัตว์ป่า เคยมีชาวบ้านขึ้นไปถึงแล้วบาดเจ็บกลับมาเพราะมีเสืออยู่บนภูเขาพะย่ะค่ะ”“อืม เช่นนั้นพรุ่งนี้เราจะขึ้นเขาไปจัดการเสือให้พวกเจ้า หลังจากนี้จะได้ขึ้นเขา

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   42

    ไท่จื่อเลือกเรือนสามประสานแห่งหนึ่งไม่ไกลจากจวนเจ้าเมือง ถึงราคาจะดูสูงไปสักหน่อยแต่ก็นับว่าเหมาะสมสำหรับตำแหน่งของพระองค์ในขณะนี้ ซินเมี่ยวเองก็พอใจเช่นกัน นางคิดว่ากว่าจะจัดการเรื่องที่เมืองนี้เสร็จน่าจะใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือน การมีจวนเป็นของตนเองนับว่าสะดวกมากกว่าจริง ๆซินเมี่ยวจ่ายเงินค่าจวนไป 1,200 ตำลึง โดยไม่ได้คิดมากอันใด ในเมื่อจวนนี้ใกล้กับจวนเจ้าเมือง เรื่องการรักษาความปลอดภัยจึงไม่ต้องกังวลมากนัก“เรากลับจวนก่อน เจ้าเตรียมข้อมูลและเรื่องเดินทางไปยังพื้นที่พรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน”“พะย่ะค่ะไท่จื่อ กระหม่อมจะส่งคนไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้กระหม่อมจะไปพบพระองค์ที่จวนพะย่ะค่ะ”ไท่จื่อกับไท่จื่อเฟยเดินทางกลับไปยังจวนใหม่ของพวกพระองค์ โดยมีซุนเหยานำทางไป องครักษ์บางส่วนได้รับเงินให้ไปซื้ออาหารสดมาให้ไท่จื่อเฟยทำอาหารเช่นเคย ส่วนสิ่งของในจวนนั้นไม่มีสิ่งใดจะต้องซื้อเพิ่ม เพราะเจ้าเมืองบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าเครื่องเรือ

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   41

    ขบวนของอู๋อ๋องหยุดพักตั้งค่ายที่นอกเมืองจ้วงจีห่างจากประตูเมือง 30 ลี้เพื่อไม่ให้ชาวเมืองแตกตื่น ซินเมี่ยวที่ท้องโตขึ้นทุกวันก็นอนบ่อยมากขึ้น อู๋อ๋องถึงแม้จะสงสารพระชายาแต่ก็ไม่อาจห้ามนางไม่ให้ติดตามมาด้วยได้ฉางกงกงที่ตอนนี้เข้าไปพักในจวนเจ้าเมืองได้สองวันยังไม่ทราบข่าวการมาถึงของอู๋อ๋อง แต่เขาก็สั่งให้องครักษ์ไปเฝ้ารออยู่ที่หน้าประตูเมืองเพื่อจะได้อ่านราชโองการให้เจ้าเมืองและชาวเมืองได้รับทราบโชคดีที่เจ้าเมืองจ้วงจีไม่ใช่ขุนนางเลว ทำให้ความเป็นอยู่ของชาวเมืองไม่ได้ยากจนมากนัก มีเพียงพวกเกียจคร้านที่ไม่ทำงานทำการเท่านั้นที่คอยลักเล็กขโมยน้อยหรือไม่ก็ไปก่อกวนคนในครอบครัวจนเกิดการฟ้องร้องหลายครั้งรุ่งเช้าวันต่อมา อู๋อ๋องพาซินเมี่ยวกับองครักษ์ 10 คน เดินทางเข้าไปยังเมืองจ้วงจีเหมือนที่ทำกับทุกเมืองก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของราษฎร พระองค์มองด้านข้างทางก็พบว่าชาวเมืองสีหน้ามีความสุข ไม่เหมือนเมืองอื่น ๆฉางกงกงที่ได้รับรายงานว่าเห็นขบวนพ่อค้าคล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status