Share

8

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-05-25 07:00:00

“อามิตตาพุทธ ประสกอย่าได้ฆ่าคนอีกเลย ที่พวกเราต้องกวาดล้างที่นี่เพราะยาพิษที่พวกเจ้าสร้างขึ้นมาทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตกตายไปเป็นจำนวนมาก”

“ฮึ! คนบางคนมันก็สมควรตายมิใช่หรือ? ชาวบ้านเหล่านี้พวกเขาแค่ต้องการแก้แค้นคนที่ทำร้ายพวกเขาด้วยตนเอง ข้าเพียงแค่สอนพวกเขาเล็กน้อยเท่านั้น แต่พวกท่านกลับนำคนมามากมายเพื่อฆ่าล้างบางคนที่นี่ ไม่ใช่ว่าพวกท่านจะเลวร้ายกว่าพวกข้าหรอกหรือ?”

“เจ้าอย่าได้เห็นผิดเป็นชอบ คนที่ได้รับพิษจากพวกเจ้าบางคนอาจจะเลวร้ายจริง แต่คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเล่า พวกเขาเหตุใดจึงต้องตกตายเพราะพิษของพวกเจ้าด้วย”

“นั่นสิ พวกเจ้าก่อกรรมทำเข็ญมาหลายปี วันนี้พวกเราจึงต้องรวมตัวกันมากำจัดพวกเจ้าและสถานที่อันเลวร้ายแห่งนี้ให้หมดสิ้น!” เจ้าสำนักคนหนึ่งกล่าว

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าโจวเมี่ยวเมี่ยว ไม่เคยสอนให้ใครทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ในเมื่อพวกเจ้าต้องการทำลายหุบเขาพิษนี้ของข้า พวกเจ้าก็จงตกตายเป็นเพื่อนพวกข้าที่นี่เถิด”

ศิษย์นอกที่เหลืออยู่เพิ่งเคยพบเจ้าสำนักเป็นครั้งแรก พวกเขาเห็นเจ้าสำนักเริ่มการต่อสู้ก็ฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง หากจะตาย พวกเขาก็จะตายไปพร้อมกับเจ้าสำนักตรงหน้า อย่างไรพวกเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ การดูแลหุบเขาจึงเหมาะสมแล้วที่พวกเขาจะใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน

“อามิตตาพุทธ” เจ้าสำนักวัดเส้าหลินได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ

“ตั้งค่ายกล 18 อรหันต์ สังหารให้หมดสิ้น!” รองเจ้าสำนักวัดเส้าหลินรีบร้องบอก

คนจากวัดเส้าหลินแยกตัวออกเป็นกลุ่ม ๆ และกลุ้มรุมสังหารศิษย์ที่เหลืออยู่อย่างไม่กลัวว่าตนเองจะถูกพิษ ถึงแม้จะมีคนถูกพิษจนล้มลง ก็ยังมีคนใหม่เข้ามาแทนที่ค่ายกลอยู่ดี

โจวเมี่ยวเมี่ยวเห็นเช่นนั้นก็อดรนทนไม่ไหวที่จะช่วยคนในหุบเขาของนาง นางใช้พิษที่รุนแรงที่สุดแพร่ออกไปโดยรอบจนทำให้ทุกคนล้มลงจนกระอักเลือดออกมาในคราวเดียว มีเพียงเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินกับเจ้าสำนักที่แข็งแกร่งอีกสี่คนเท่านั้นที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ พวกเขาใช้พลังปราณป้องกันพิษร้ายที่ถูกปล่อยออกมาโดยโจวเมี่ยวเมี่ยว จึงทำให้ยังสามารถประจันหน้ากับนางได้

“พวกเจ้าหนีไปซะ!!” โจวเมี่ยวเมี่ยวสั่งศิษย์นอกที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด

“แต่ว่า…” เหล่าศิษย์ต่างหันมองหน้ากัน

“หุบปาก! รีบไป! ข้าจะทำทางหนีให้พวกเจ้า”

โจวเมี่ยวเมี่ยวกล่าวจบก็ไม่รอช้า นางใช้พลังปราณพิษเบิกทางที่มีคนอ่อนแอที่สุดล้อมเอาไว้จนพวกเขาล้มตายลงราวกับใบไม้ร่วง

“ไป!!!” นางตวาดสั่งเสียงดัง

ศิษย์นอกที่เหลือไม่กี่คนรีบวิ่งฝ่าออกไปทางนั้นทันที พวกเขาใช้วิชาตัวเบาที่ฝึกฝนมาอย่างเต็มกำลังเพื่อหนีให้พ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ในใจพวกเขาล้วนสำนึกขอบคุณเจ้าสำนักที่ช่วยเหลือพวกเขาในยามวิกฤตเช่นนี้

“จับพวกมันให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็ฆ่าพวกมันซะ อย่าให้หนีไปได้” เจ้าสำนักคนหนึ่งรีบร้องสั่งให้คนติดตามพวกเขาไปเช่นกัน

“ฮึ! พวกเจ้ากล้า!!!” โจวเมี่ยวเมี่ยวกวาดพลังปราณพิษไปยังกลุ่มจอมยุทธ์ที่ทำท่าจะวิ่งตามศิษย์นอกเหล่านั้นไปทันที

พลั่ก! อั่ก! พรวด!

จอมยุทธ์ฝีมืออ่อนด้อยนับร้อยตกตายในทันทีเพียงแค่ฝ่ามือเดียว ทำให้คนที่คิดจะติดตามไปก่อนหน้านี้รีบถอยกรูดกลับไปใกล้เหล่าเจ้าสำนักของพวกเขาแทน

“อามิตตาพุทธ ตอนนี้ประสกเหลือตัวคนเดียวแล้ว ไม่กลัวตายหรือ?”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้ามีหรือจะกลัวตาย ถึงข้าจะตาย ข้าก็จะลากพวกเจ้าลงนรกไปกับข้าด้วย”

“ท่านเจ้าอาวาสอย่าเปลืองน้ำลายพูดกับนางเลยขอรับ คนเช่นนี้คงไม่มีทางกลับตัวได้หรอกขอรับ” เจ้าสำนักหยางซานเอ่ย

“ฮึ! หากพวกเจ้าเก่งกาจนักก็มาเอาชีวิตของข้าสิ” โจวเมี่ยวเมี่ยวกล่าว

“ปากดีเหลือเกินนะนางมารพิษ! พวกเรา ฆ่านางเสีย” เจ้าสำนักกระบี่กล่าวเสียงดัง

คนอื่น ๆ พอได้สัญญาณจากเจ้าสำนักกระบี่ ทุกคนต่างใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเองออกมาเพื่อฆ่าโจวเมี่ยวเมี่ยวให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดการสูญเสียไปมากกว่านี้

ระหว่างการต่อสู้ โจวเมี่ยวเมี่ยวแอบปล่อยพิษไร้สีไร้กลิ่นปะปนเข้าไปในลมปราณพิษที่นางปล่อยออกไปด้วย ในเมื่อวันนี้นางคงไม่รอดแล้ว แน่นอนว่านางจะทำให้คนเหล่านี้ตายอย่างช้า ๆ ด้วยพิษที่ตรวจจับไม่ได้ของนาง การต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงมากกว่าก่อนหน้านี้นัก

เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเองก็เข้าร่วมการต่อสู้กับเจ้าสำนักทั้งสี่ที่มีฝีมือสูงส่งที่สุดในเหล่าจอมยุทธ์ที่มาวันนี้ด้วย ความจริงท่านอยากจะให้โอกาสนางเพื่อกลับตัวสักหน่อย แต่เมื่อเห็นนางฆ่าคนอย่างไม่กระพริบตาจนจอมยุทธ์ตายไปอย่างรวดเร็วมากกว่าครึ่งแล้ว ท่านจึงต้องลงมือด้วยตนเองเช่นนี้

เพี๊ยะ! พรึ่บ! อั่ก! พรวด!!!

หนึ่งในเจ้าสำนักทนต่อพิษจากฝ่ามือของโจวเมี่ยวเมี่ยวไม่ไหวจึงลอยละลิ่วพร้อมกับกระอักเลือดสีดำจำนวนมากออกมาอย่างสุดจะกลั้น ก่อนที่เขาจะสิ้นใจไปในเวลาไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่เสียใจ

“ไม่นึกเลยว่าสีกาจะโหดร้ายขนาดนี้ ข้าคงต้องลงมืออย่างจริงจังบ้างแล้ว ฝ่ามือยูไล!”

พลั่ก!! อั่ก!

โจวเมี่ยวเมี่ยวกลืนเลือดลงไปในลำคอ ก่อนจะใช้วิชาที่นางคิดค้นขึ้นมาปล่อยปราณพิษจำนวนมากกระจายไปทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จอมยุทธ์เหล่านี้จะกินยาถอนพิษมาก่อนหน้าแล้ว แต่พิษของโจวเมี่ยวเมี่ยวไม่ใช่ยาถอนพิษทั่วไปจะสามารถแก้ไขได้ ทำให้ตอนนี้มีผู้คนล้มลงตายตาไม่หลับอีกเกือบสี่ร้อยคนในคราวเดียว

จอมยุทธ์ที่เหลือรอดอยู่ถึงแม้จะยังพอยืนอยู่ได้ แต่ภายในกลับปั่นป่วนแล้ว พวกเขาได้แต่รีบนั่งลงแล้วใช้พลังปราณต้านพิษเอาไว้อย่างสุดกำลัง เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งลงมือรุนแรงขึ้นเพื่อไม่ให้มีคนล้มตายไปอีก เจ้าสำนักทั้งสามที่เหลือก็กลุ้มรุมเข้าไปเช่นเดียวกัน

โจวเมี่ยวเมี่ยวที่ใช้พลังปราณไปมากและยังบาดเจ็บจากวิชาของเจ้าสำนักทั้งสี่ที่เหลืออยู่เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว นางได้แต่นึกในใจว่าอีกไม่นานก็จะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายนางแล้วเท่านั้น

การต่อสู้ยังคงดำเนินไปเกือบร้อยกระบวนท่า ก่อนที่โจวเมี่ยวเมี่ยวจะถูกฝ่ามือของเจ้าสำนักเส้าหลินเข้าเต็มเปากลางหน้าอกของนางจนลอยละลิ่วออกไปพร้อมเลือดที่พุ่งเป็นสายออกมาจากปากนางอย่างสุดจะกลั้น

พลั่ก! อั่ก! พรวด! ตุ้บ! แฮ่ก!!

เจ้าสำนักทั้งสี่ที่เหนื่อยล้าไม่น้อยและยังต้องใช้พลังลมปราณต้านพิษต่างถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เห็นโจวเมี่ยวเมี่ยวหมดหนทางสู้ต่อแล้ว พวกเขาเดินเข้าไปดูว่านางยังมีเรี่ยวแรงหลงเหลืออีกหรือไม่ ก่อนที่จะพบว่าลมหายใจของนางนั้นรวยรินเต็มที เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินอดที่จะสวดมนต์ให้นางก่อนตายไม่ได้ พร้อมทั้งเตือนสตินางก่อนที่โจวเมี่ยวเมี่ยวจะสิ้นใจในเวลาต่อมา

“อามิตตาพุทธ ขอให้ชาติหน้าท่านทำแต่ความดีเพื่อแก้ไขสิ่งเลวร้ายที่ท่านทำในชาตินี้เถิด สีกามีสิ่งใดจะขอร้องก่อนตายหรือไม่?”

“ข้า.. ข้า..มี..ช่วย...ฝัง..อั่ก! พรวด! ฝังข้า..ที่ข้าง...หลุม..ศพ..ขอบ...คุณ”

หลังกล่าวจบนางก็สิ้นใจไปพร้อมกับบทสวดที่เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินสวดให้เพราะความเมตตาของเขา เขายังสั่งศิษย์ให้นำร่างนางไปฝังยังข้างหลุมศพที่นางชี้บอกก่อนตายด้วย ก่อนที่ทุกคนจะพักผ่อนที่บนหุบเขาและช่วยถอนพิษให้กับคนที่บาดเจ็บอยู่ ส่วนการเผาสมุนไพรพิษในหุบเขานั้นจะจัดการวันพรุ่งนี้ก่อนลงจากเขา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   55

    ขบวนของไท่จื่อมาถึงหน้าพระราชวังในเวลาต่อมา ก่อนที่พระองค์จะอุ้มไท่จื่อน้อยและจับมือไท่จื่อเฟยเดินเข้างานไปพร้อมขันที นางกำนัลอีกสี่คนที่มาคอยรับใช้ไท่จื่อน้อยติดตามเข้าไปด้วยระหว่างทางเดินไปยังที่นั่งด้านหน้า ขุนนางและครอบครัวต่างทำความเคารพไท่จื่อและไท่จื่อเฟยเสียงดังไปทั่วงานเลี้ยง ถึงแม้บุตรีขุนนางจะยังมีความคิดอยากเข้าจวนไท่จื่ออยู่หลายคน แต่พวกนางเองก็ไม่กล้าแสดงออกมากไปนัก ทุกคนต่างรู้ดีว่าในสายพระเนตรของไท่จื่อนั้นมีเพียงไท่จื่อเฟย พวกนางจึงต้องเก็บงำความคิดไม่ดีเอาไว้ ไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องอันใดขึ้น พวกนางคงลากครอบครัวลงน้ำไปด้วยเป็นแน่ ใครไม่รู้บ้างว่าฝ่าบาทรักไท่จื่อมากเพียงใด“พวกท่านตามสบายเถอะ งานเลี้ยงครั้งนี้เสด็จพ่อเพียงแค่อยากร่วมสนุกกับทุกคนเท่านั้น พวกท่านอย่าได้กังวลเกินไป” หยางชิงหลงตรัสพร้อมรอยยิ้มบาง“ขอบพระทัยไท่จื่อพะย่ะค่ะ/เพคะ” ทุกคนรีบกล่าวพร้อมกัน“น้องหญิง เจ้ารีบไปนั่งพักก่อนเถอะ ประเดี๋ยว

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   54

    สามเดือนต่อมาอาการป่วยหนักของชาวเมืองตงหยางที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นผู้ที่เคยป่วยมีสุขภาพดีไม่ต่างจากคนทั่วไปแล้ว ถึงแม้อาการจะไม่หายขาดแต่ก็ทำให้พวกเขาอ้วนท้วนมากขึ้นและอาการไอไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยเหมือนเมื่อก่อน ส่วนการพัฒนาเมืองหลังจากนี้นั้น จื้อไฉ่เจ้าเมืองตงหยางก็ถวายแผนงานให้ไท่จื่อรับทราบและเริ่มปฏิบัติมาได้เดือนกว่าแล้วหยางชิงหลงเห็นว่าเมืองตงหยางในตอนนี้สามารถอยู่ได้อย่างปกติสุข พระองค์จึงกำหนดวันเดินทางไปยังเมืองอื่นเพื่อดูแลสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรต่อไป แน่นอนว่าซินเมี่ยวและไท่จื่อน้อยก็จะติดตามพระองค์ไปด้วยเช่นกัน พวกเขาสามพ่อแม่ลูกไม่มีทางที่จะแยกกันเดินทางจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้นหนึ่งปีต่อมาขบวนเดินทางของไท่จื่อ ไท่จื่อเฟยและไท่จื่อน้อยกลับถึงเมืองหลวงอย่างยิ่งใหญ่พร้อมความสำเร็จในการช่วยเหลือราษฎรตามเมืองต่าง ๆ ชื่อเสียงของทั้งสองพระองค์เลื่องลือไปทั่วแคว้น จากพระเมตตาที่มีให้แก่ราษฎร

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   53

    ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หมอหลวงออกตามหาสมุนไพรที่จำเป็นพร้อมทหารตามภูเขาใกล้เคียงเมืองตงหยางแทบจะวันเว้นวัน ไท่จื่อยังส่งทหารส่วนหนึ่งไปตามหายังภูเขาห่างออกไป กว่าที่พวกเขาจะพบสมุนไพรที่จำเป็นก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือน ส่วนอาการของผู้ป่วยที่มาทดลองรักษาทั้ง 10 คนนั้น หลังจากฝังเข็มเพื่อไล่พิษจากปอดรอยาสมุนไพรอยู่ก็มีอาการดีขึ้น พวกเขาไม่ไอบ่อยเท่าที่เคยเป็นและนอนหลับสนิทมากขึ้นจึงทำให้ระบบภายในร่างกายที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนเนื่องจากอาการไอนั้นเริ่มกลับมาทำงานได้ดีขึ้นมากซินเมี่ยวที่เลี้ยงลูกในกระโจมมาตลอดหนึ่งเดือน ตอนนี้นางสามารถออกนอกกระโจมได้แล้ว นางจึงเริ่มไปตรวจสอบดูสมุนไพรที่หมอหลวงและทหารไปช่วยกันหามาว่าถูกชนิดหรือไม่ จากนั้นจึงปรุงยาให้ผู้ป่วยลองกินดูในแต่ละวันซินเมี่ยวจะตรวจชีพจรเพื่อติดตามผลว่าปอดของผู้ป่วยอาการดีขึ้นหรือไม่ เมื่อเห็นว่ายาทั้งสามที่นางคิดค้นขึ้นช่วยบรรเทาอาการและเสริมความแข็งแกร่งให้ปอดที่เสียหายได้ ซินเมี่ยวจึงสั่งให้ทหารออกไปตามหาสมุนไพรมาเพิ่มเพื่อที่จะได้ให้หมอหลวงเข้าไปรักษาผู้ป่

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   52

    สายวันต่อมา หยางชิงหลงได้รับแจ้งจากทหารว่าเจ้าเมืองตงหยางกับฮูหยินขอเข้าเฝ้า พระองค์ที่กำลังกล่อมไท่จื่อน้อยให้หลับหลังดื่มนมอยู่พยักหน้าอนุญาต ให้พวกเขาเข้ามาพบได้ อย่างไรวันนี้พระองค์ก็ยังไม่อยากเข้าเมืองไปสอบถามเรื่องราวการแก้ไขปัญหาของราษฎรในช่วงที่บุตรชายเพิ่งคลอดสักเท่าไหร่นัก“ถวายบังคมไท่จื่อ ไท่จื่อเฟยพะย่ะค่ะ/เพคะ” จื้อไฉ่กับฮูหยินค้อมกายคำนับทั้งสองพระองค์ที่นั่งรออยู่พร้อมไท่จื่อน้อยในอ้อมแขนไท่จื่ออย่างนอบน้อม“พวกท่านตามสบายเถิด เชิญนั่งก่อน” หยางชิงหลงตรัสพร้อมรอยยิ้มบาง“กระหม่อมนำของรับขวัญไท่จื่อน้อยมามอบให้พะย่ะค่ะ ขอแสดงความยินดีกับไท่จื่อและไท่จื่อเฟยด้วยพะย่ะค่ะ” จื้อไฉ่ยื่นกล่องของขวัญให้ซุนเหยาที่อยู่ในกระโจมเพื่อนำไปมอบให้ไท่จื่อเฟยดูแทนไท่จื่อที่กำลังกล่อมไท่จื่อน้อยอยู่“ขอบใจพวกเจ้ามาก เรื่องเมืองตงหยางที่มีปัญหาสุขภาพ เราให้หมอหลวงช่วยกันหาวิธีรักษาอยู่ ท่านเจ้าเมืองพาราษฎรที่ป่วยหนั

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   51

    รุ่งเช้าวันต่อมา เหล่าหมอหลวงมาขอพบไท่จื่อเฟยเพื่อพูดคุยเรื่องขั้นตอนการรักษาชาวเมืองอย่างเคร่งเครียด จนกระทั่งเที่ยงวัน พวกเขาจึงแยกย้ายกันไปทานอาหารและปล่อยให้ซินเมี่ยวกินข้าวกับหยางชิงหลงในกระโจม“น้องหญิงอย่าหักโหมงานมากนะ อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะคลอดแล้ว พี่ไม่อยากให้เจ้าเครียดเกินไปนัก” หยางชิงหลงตรัสระหว่างคีบอาหารให้ซินเมี่ยว“ทราบแล้วเพคะ เสด็จพี่อย่ากังวลเลย น้องรู้ดีว่าต้องพักผ่อนให้มากเพคะ”หลังอาหารเที่ยง หยางชิงหลงเดินไปยังกระโจมของเหล่าหมอหลวงเพื่อสอบถามถึงขั้นตอนการรักษาต่อ พระองค์จะได้สั่งให้องครักษ์เข้าไปแจ้งเจ้าเมืองให้เตรียมสมุนไพรที่จำเป็นต้องใช้เพิ่มเติม เพราะในขบวนของพระองค์ถึงจะมีสมุนไพรอยู่บ้าง แต่ก็ถูกใช้ไปมากแล้วก่อนหน้านี้ หากต้องไปหาซื้อยังเมืองอื่นก็คงต้องใช้เวลาเดินทางอีกมากซินเมี่ยวนั่งอ่านตำรารอให้อาหารย่อยเกือบครึ่งชั่วยาม ก่อนที่นางจะนอนพักผ่อนรอทานอาหารเย็นและออกไปเดินเล่นกับหยางชิงหลงเหมือนทุกวัน

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   50

    สองวันต่อมา ต้วนฟางเหยาส่งรายงานสรุปปัญหาออกมาเป็นข้อ ๆ และแนวทางแก้ไขปัญหาที่เขาคิดขึ้นมา หยางชิงหลงและซินเมี่ยวนั่งอ่านรายงานอย่างละเอียดก็เห็นว่าไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง นับว่าต้วนฟางเหยาทำงานได้ดีสมกับที่ฝ่าบาทส่งมาช่วยเหลือราษฎรจริง ๆ“วิธีการแก้ไขปัญหาของเจ้าเหมาะสมแล้ว เราอนุญาตให้ดำเนินการได้ ส่วนสิ่งที่เจ้าต้องการก็สามารถเบิกได้กับองครักษ์ซุนเหยา” ไท่จื่อตรัส“ขอบพระทัยไท่จื่อพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะทำเรื่องเบิกกับท่านซุนเหยาตามรับสั่ง”“เจ้าเมืองต้วน ที่ค่ายทหารนอกเมืองของเรามีต้นอ่อนสมุนไพรรักษาบาดแผล ท่านลองดูว่ามีหมู่บ้านใดที่เหมาะสมจะปลูกเป็นอาชีพและส่งออกไปยังเมืองอื่นด้วยก็แล้วกันนะ เราอยากให้พวกเขามีรายได้มากขึ้นนอกจากการทำเกษตร”“พะย่ะค่ะไท่จื่อเฟย เรื่องนี้กระหม่อมจะปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านและมารายงานให้พระองค์ทราบอีกครั้ง”ทั้งสองพระองค์ต่างพยักหน้าอย่างพอใจกับการทำงาน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status