Share

9

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-05-26 07:00:33

ข่าวการทำลายหุบเขาพิษแพร่ไปทั่วแคว้นในเวลาต่อมา ศิษย์หญิงทั้ง 12 ได้แต่เศร้าโศกกับการจากไปของอาจารย์พวกนาง พวกนางต่างคนต่างแยกย้ายกันไปคนละทิศทางเพื่อไม่ให้มีคนตามหาพบตามคำสั่งเสียของอาจารย์ อีกทั้งยังหาชายชาวบ้านแต่งงานตามคำสั่งด้วย สามีของพวกนางต่างดีกับพวกนางไม่น้อย ทำให้พวกนางนั้นมีความสุขไปจนถึงบั้นปลายชีวิต ส่วนวิชาพิษนั้น พวกนางต่างเขียนตำราเอาไว้ให้ลูกสาวของตนเท่านั้น

แคว้นหยางในอีก 100 ปีต่อมา

วิญญาณของโจวเมี่ยวเมี่ยวที่ล่องลอยอยู่อย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่การล่องลอยนี้จะสิ้นสุดลงเสียที นางคิดว่านางจะต้องตกนรกแต่แรกแล้ว พอนางได้สติหลังสิ้นใจไปในครั้งนั้น วิญญาณของนางกลับอยู่ในห้วงเวลาใดก็ไม่อาจทราบและล่องลอยอยู่เช่นนี้มานานจนนางไม่อาจนับเวลาได้ กระทั่งสติของนางจู่ ๆ ก็ดับวูบลงอีกครั้ง

ซินเมี่ยว บุตรอนุของจวนเสนาบดีกรมโยธา นางถูกบังคับให้แต่งงานเข้าจวนอู๋อ๋องเพื่อแก้เคล็ด เนื่องจากอู๋อ๋องที่เคยเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของแคว้นได้รับพิษปริศนาที่ไม่มีหมอหลวงคนใดรักษาได้ พระองค์ทำได้เพียงใช้พลังลมปราณอันสูงส่งกดดันพิษให้ไปรวมอยู่ที่ขาทั้งสองข้างแทนการที่จะปล่อยให้พิษแพร่กระจายไปทั่วร่างจนตกตายไปนานถึงสองปีแล้ว

ฮ่องเต้ที่รักบุตรชายฮองเฮามากเจ็บปวดใจและส่งคนออกตามหาหมอเทวดาแต่ก็ไม่พบเสียที พระองค์จึงคิดเรื่องนี้ขึ้นมาในวันประชุมเสนาบดีในวันหนึ่ง

“พวกเจ้ามีวิธีใดที่พอจะช่วยอู๋อ๋องได้บ้าง ตอนนี้เรายังหาตัวหมอเทวดาไม่พบ”

“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมเคยได้ยินว่าหากแต่งงานแก้เคล็ดอาจจะพอยืดระยะเวลาไปได้อีกสักหลายปีพะย่ะค่ะ” เสนาบดีกรมพิธีการกล่าว

“เช่นนั้นเราจะให้ใครแต่งกับอู๋อ๋องเล่า ในเมื่อตอนนี้เขากลายเป็นคนพิการไปแล้ว”

เหล่าเสนาบดีและขุนนางต่างหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากให้บุตรีในจวนไปแต่งกับคนพิการที่ไม่รู้ว่าจะตายวันไหน แต่จู่ ๆ เสนาบดีกรมโยธาซินเซิงกลับก้าวออกมาพร้อมกับกราบทูลรายงาน

“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีบุตรีอนุคนหนึ่งชื่อซินเมี่ยว แต่ฐานะนางต้อยต่ำ”

“นั่นไม่เป็นไร ขอเพียงนางเต็มใจแต่งเข้าจวนอู๋อ๋องเราก็พอใจแล้ว อย่างไรเสียเขาก็ไม่สามารถเลือกพระชายาที่ตนพึงใจได้ด้วยตนเอง”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท หลังจบการประชุม กระหม่อมจะเตรียมการเรื่องสินเดิมให้นางโดยเร็วพะย่ะค่ะ” เสนาบดีซินถอยกลับเข้าไปยืนที่เดิม

“ดี ดี ขันทีอ้าย หลังจบการประชุมเจ้าจงไปประกาศราชโองการที่จวนเสนาบดีซินด้วยตัวเองเสีย วันนี้จบการประชุมเพียงเท่านี้ พวกเจ้าแยกย้ายกันไปทำงานเถิด”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท กระหม่อมขอทูลลาพะย่ะค่ะ”

เสนาบดีและขุนนางทั้งหมดกล่าวส่งเสด็จฮ่องเต้พร้อมกัน พวกเขาคาดไม่ถึงว่าเสนาบดีซินจะกล้าให้บุตรีอนุแต่งเข้าจวนอู๋อ๋อง ถึงแม้ว่าอำนาจของอู๋อ๋องมีไม่น้อยก็ตามที แต่ตอนนี้เขาเป็นคนพิการ ไม่สามารถทำงานใหญ่ใดให้แคว้นได้ ได้แต่อยู่ในจวนอ๋องไปวัน ๆ อย่างไร้เป้าหมาย

“นี่ เสนาบดีซิน เหตุใดท่านจึงต้องให้บุตรีเข้าไปทนทุกข์อยู่ที่จวนอ๋องเล่า” เสนาบดีกรมอาญาที่สนิทกันรีบเอ่ยถามอย่างสงสัยใจ

“เฮ้อ อย่างไรนางก็เป็นเพียงบุตรอนุของข้า การจะหาสามีดี ๆ ให้นางคงไม่มีอีกต่อไปแล้ว อย่างน้อยนางแต่งเข้าไปในจวนอ๋องก็ยังดีกว่าไปแต่งกับบัณฑิตยากจนที่นางชอบนั่นล่ะนะ” เสนาบดีซินกล่าวพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“หืม? ในเมื่อบุตรีของท่านมีคนรักแล้ว เหตุใดจะต้องพรากพวกเขาจากกันด้วยเล่า”

“ท่านไม่รู้อะไร ข้าให้คนไปสืบมาแล้ว บัณฑิตผู้นั้นคิดจะใช้นางมาเป็นข้อต่อรองเพื่อให้ข้าช่วยเหลือเรื่องหน้าที่การงาน ข้ามีหรือจะรู้ไม่เท่าทันเรื่องเช่นนี้”

“อ้อ ที่แท้เรื่องก็เป็นเช่นนี้ แล้วท่านไม่กลัวว่านางจะโกรธท่านหรือไร”

“ฮึ! นางเป็นเพียงบุตรีอนุ จะมีความสามารถอันใดกันเล่า โกรธข้าแล้วอย่างไร แค่นางได้เข้าจวนอ๋องก็นับเป็นบุญวาสนาของนางแล้ว”

เสนาบดีทั้งสองคุยไปเดินไปจนกระทั่งแยกกันที่หน้าประตูวังหลวง เสนาบดีซินรีบขึ้นรถม้ากลับจวนเพื่อไปแจ้งข่าวให้กับอนุของเขาและยังต้องให้ฮูหยินเอกเตรียมสินเดิมเพิ่มให้นางสักเล็กน้อยไม่ให้เสียหน้าจวนเสนาบดีของเขา

“ท่านพี่ เหตุใดต้องให้สินเดิมนางเพิ่มด้วยเล่าเจ้าคะ แม่ของนางเป็นเพียงสาวใช้”

“เพ้ย! นี่นางได้แต่งเข้าจวนอ๋องนะ เจ้าจะให้ข้าเอาหน้าไว้ที่ใดหากสินเดิมไม่มี”

“ข้าไม่จัด! ท่านให้พ่อบ้านของท่านจัดการให้นางเองก็แล้วกัน แค่แต่งกับอ๋องพิการเพื่อแก้เคล็ดจะอะไรนักหนา” ฮูหยินใหญ่ผู้เอาแต่ใจไม่ยอมทำตามสามีสั่งง่าย ๆ

“ได้! พ่อบ้าน! ไปจัดเตรียมสินเดิมให้คุณหนูสามอย่าให้น้อยหน้าบุตรีคนอื่น จำไว้ว่านางแต่งเข้าจวนอ๋อง หากข้าเสียหน้าขึ้นมาล่ะก็ ข้าจะลงโทษเจ้า”

“ขอรับ นายท่าน บ่าวจะไปจัดการตามที่ท่านต้องการ” พ่อบ้านค้อมศรีษะก่อนจะจากไปเปิดคลังของจวนเพื่อเลือกสินเดิมให้กับซินเมี่ยว

ปัง!!!

“ท่านจะทำเกินไปแล้วนะท่านพี่! เหตุใดจะต้องให้สินเดิมนางเทียบเท่ากับบุตรีของข้าด้วยเล่า” ฮูหยินเอกขึ้นเสียงใส่สามี

“นี่มันเป็นเรื่องของข้า! ในเมื่อเจ้าไม่ยอมจัดการ ข้าก็ต้องจัดการเอง เจ้าไปบอกบ่าวให้เรียกทุกคนมารวมกันที่นี่เสีย อีกไม่นานราชโองการจะมาถึงแล้ว”

ฮูหยินเอกได้แต่ฮึดฮัดออกคำสั่งกับสาวใช้คนสนิทให้ไปแจ้งข่าวคนในเรือนอื่น ๆ ให้ทราบโดยทั่วกัน นางยังคงนั่งทำหน้าตาบึ้งตึงใส่เสนาบดีซินด้วยความไม่พอใจที่เห็นสามีลำเอียงให้สินเดิมบุตรีอนุเช่นนี้

เสนาบดีซินไม่สนใจฮูหยินเอกที่ทำตัวเช่นนี้ หลายปีมานี้เขาเคยชินกับความเอาแต่ใจและอารมณ์แปรปรวนของนางแล้ว ปกติซินเซิงชอบไปพักผ่อนที่เรือนฮูหยินรองกับเหล่าอนุมากกว่าที่จะมายังเรือนของฮูหยินเอกผู้นี้

หลังจากผ่านไปสองเค่อ ในห้องโถงรับแขกเรือนหลักก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มารอรับราชโองการแล้ว เสนาบดีซินออกคำสั่งให้ซินเมี่ยวมาคุยกับเขา

“ซินเมี่ยว หลังเจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องแล้วจะต้องทำตัวให้ดีรู้หรือไม่ ข้าหาสามีที่ดีที่สุดให้เจ้าได้เพียงเท่านี้ ส่วนบัณฑิตนั่นเจ้าก็เลิกติดต่อกับเขาเสีย เขาไม่ใช่คนดี”

“ฮือ… เหตุใดท่านพ่อจึงทำกับข้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ท่านพ่อก็รู้ว่าข้ากับพี่กู่คบกันมานานมากแล้ว ขอเพียงเขาเข้าสอบอีกครั้งแล้วผ่าน เขาก็จะมาสู่ขอข้า ฮึก..”

“ฮึ! เรื่องนั้นเจ้าเลิกหวังไปเลย ข้ามีหรือจะไม่รู้ว่าเขาคิดสิ่งใดอยู่ ที่เขามาคบหากับเจ้าก็เพียงเพื่อให้ข้าสนับสนุนเขาในการสอบที่จะถึงนี้เท่านั้น เจ้าคิดว่าพ่อโง่เหมือนเจ้าหรือไรกัน ไม่ต้องพูดแล้ว เจ้าเพียงเตรียมตัวแต่งเข้าจวนอ๋องในวันพรุ่งนี้พอ”

“ฮือ… ท่านพ่อ ข้าไม่อยากแต่งงานกับท่านอ๋องพิการ”

ปัง!!!

“เจ้าอย่าพูดถึงท่านอ๋องเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าอู๋อ๋องได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทมากแค่ไหน ไม่เช่นนั้นข้าจะกล้าส่งเจ้าเข้าไปในจวนอู๋อ๋องได้อย่างไร หาสิ้นอู๋อ๋องเมื่อไหร่ เจ้าก็ได้ครอบครองทุกอย่างในจวนอ๋อง นี่ยังไม่ดีอีกหรือ!”

ซินเมี่ยวได้แต่ร้องไห้เสียใจที่ท่านพ่อของนางทำกับนางเช่นนี้ ส่วนแม่ของนางก็ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นมาแต่ไหนแต่ไร ชีวิตในจวนนี้ของนางกับแม่ใช่ว่าจะดีอะไรนัก พวกนางไม่ต่างจากบ่าวไพร่ในเรือนเลยแม้แต่น้อย แถมยังถูกบรรดาฮูหยินและอนุที่มีเงินทองคอยทำร้ายมาตลอด ทั้งที่นางคิดว่าอีกไม่นานจะได้แต่งงานกับคนที่รักแล้วออกจากจวนแห่งนี้ไปพร้อมท่านแม่ แต่ตอนนี้นางไม่สามารถทำสิ่งใดได้อีกต่อไปแล้ว นางไม่มีหน้าไปบอกพี่กู่ของนางเรื่องนี้

เมื่อขันทีอ้ายมาถึงจวนเสนาบดี เขาประกาศราชโองการอย่างไม่รีรอและยังแสดงความยินดีกับเสนาบดีซินก่อนจากไปแจ้งที่จวนอู๋อ๋องด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   46

    กลางดึกคืนนั้น กลุ่มโจรมากกว่าห้าร้อยคนล้อมรอบพื้นที่ตั้งกระโจมเอาไว้อย่างแน่นหนา พวกเขาเฝ้ามองดูก่อนหน้านี้มาตลอดจนรู้ว่ายากที่จะเข้าไปจับกุมตัวผู้นำขบวนเอาไว้ได้ เนื่องจากกระโจมนั้นอยู่ตรงกลาง ยากต่อการจู่โจม พวกเขาจึงคิดที่จะปล้นเสบียงและเงินทองที่อยู่ชั้นนอกแทน“พวกเจ้าเตรียมจัดการทหารเฝ้าเวรพวกนั้นก่อน เราค่อยบุกเข้าไปทีละชั้น”“ท่านหัวหน้าแน่ใจหรือขอรับ ข้ากลัวว่าพวกมันจะมีแผนการดักซุ่มรอเราอยู่”“เพ้ย! เจ้าเชื่อข้าเถอะน่า ป่านนี้พวกมันที่เหนื่อยจากการเดินทางคงนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวกันไปนานแล้ว ขบวนใหญ่ขนาดนี้ข้าก็เพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก พวกมันไม่น่าจะระมัดระวังมากนักหรอก” หัวหน้าโจรกล่าวอย่างไม่กลัวแม้แต่น้อย อย่างไรเขาก็ดักปล้นพ่อค้ารวมทั้งยังรับคำสั่งฆ่าจากเจ้าเมืองเสวียนมาตลอดหลายปี ถึงแม้จะถูกจับได้ อย่างไรเจ้าเมืองเสวียนก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเขาแน่“ไป!” หัวหน้าโจรสั่งลูกน้องเสียงดังไปทั่วบริเวณ

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   45

    ขบวนเดินทางของไท่จื่อไม่ได้เร่งรีบไปยังเมืองเสวียนมากนัก พระองค์ยังส่งทหารนำรายงานเกี่ยวกับเมืองจ้วงจีกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อถวายฝ่าบาท ส่วนการเดินทางครั้งนี้มีการหยุดพักบ่อยขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนท้องของซินเมี่ยวที่กำลังโตขึ้นทุกวันและเข้าสู่เดือนที่หกของการตั้งครรภ์“เสด็จพี่ไม่ต้องพักบ่อยขนาดนี้ก็ได้เพคะ เรายังต้องเดินทางไปอีกหลายเมืองเพื่อช่วยเหลือราษฎรนะเพคะ” ซินเมี่ยวอดจะบ่นพระสวามีไม่ได้“นั่นจะได้อย่างไร หมอหลวงก็บอกอยู่ว่าไม่ให้เดินทางต่อเนื่องมากนัก ไม่เช่นนั้นเจ้าที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในรถม้าจนขยับเขยื้อนลำบากจะไม่สบายเอาได้”“เสด็จพี่ลืมไปหรือเปล่าเพคะว่าน้องก็มีพลังปราณ เรื่องแค่นี้ไม่กระทบร่างกายของน้องหรอกเพคะ พวกเรารีบเดินทางจะดีกว่า พักแค่ก่อนค่ำเหมือนเคยก็ได้แล้ว”“เอาล่ะ ๆ เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่สบายตัวต้องรีบบอกพี่เข้าใจหรือไม่”“หม่อมฉันเข

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   44

    ยามเว่ย ไท่จื่อก็สั่งให้ออกเดินทางโดยที่ได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านทำล้อลากสำหรับกรงขังเสือเพื่อลากกลับไปยังเมืองจ้วงจี เสือทั้งหมดเมื่อฟื้นตื่นคราแรกต่างตกใจจนร้องขู่เสียงดัง ซินเมี่ยวที่ไม่ได้หวาดกลัวพวกมันจึงเดินเข้าไปใช้พลังปราณกดข่มพวกมันและคุยกับพวกมันดี ๆ เพื่อปลอบโยน จนไม่นานนักหลังจากนางส่งเนื้อย่างที่ชาวบ้านทำเอาไว้ให้พวกมันทั้งครอบครัวกินจนอิ่มหนำ เสือทั้งหมดที่อยู่ในกรงต่างก็เชื่องเชื่อลงไม่น้อย พวกมันพากันนอนหมอบปล่อยให้องครักษ์ขี่ม้าลากพวกมันติดตามไปอย่างเงียบ ๆองครักษ์สี่นายเมื่อกลับถึงเมืองจ้วงจี พวกเขาแยกทางกับรถม้าของไท่จื่อเพื่อนำเสือกลับไปยังค่ายทหารตามคำสั่ง พวกเขายังได้รับคำสั่งให้พาพ่อครัวหลวงกับช่างฝีมือที่ติดตามขบวนมาด้วยกลับไปยังจวนไท่จื่อภายในเมือง เพราะหยางชิงหลงอยากให้ช่างฝีมือไปสอนการผลิตสิ่งของจากไม้ไผ่ให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน ระหว่างที่ต้องรอผลการปรับปรุงดินว่าดินแบบใดเหมาะที่จะเพาะปลูกซุนเหยาที่ขับรถม้าให้ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยกลับไปยังจวนก็รับคำสั่งไท่จื่อเฟยให้ออกไปซื้อของส

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   43

    ในป่าอีกด้านหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อย ไท่จื่อเห็นว่ามีหมูป่ากับกวางป่าจำนวนมาก พระองค์จึงให้องครักษ์ล่าหมูป่าไปให้ผู้ใหญ่บ้านสักตัวสองตัว ส่วนซินเมี่ยวเองก็ใช้อาวุธลับล่ากวางป่าตัวหนึ่งเช่นกันหลังจากล่าสัตว์ได้มากถึงสามตัวแล้ว ทุกคนจึงลงจากเขาไปพร้อมกับสัตว์ทั้งสามตัวที่องครักษ์ช่วยกันหามลงจากภูเขาพร้อมรอยยิ้มเมื่อไปถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน องครักษ์มอบสัตว์ทั้งสามตัวให้กับเขาเพื่อแจกจ่ายชาวบ้านนำไปทำอาหารกินกัน ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยนั่งดื่มชาสนทนาเรื่องที่พบบนภูเขาที่สงสัยกับผู้ใหญ่บ้านที่เรียกชาวบ้านมาจัดการสัตว์ทั้งสามตัว“เหตุใดจึงไม่มีชาวบ้านขึ้นเขาไปเก็บหน่อไม้มาทำอาหารหรือผู้ใหญ่บ้าน”“พวกเราไม่กล้าขึ้นไปถึงที่นั่นเพราะหวาดกลัวสัตว์ป่า เคยมีชาวบ้านขึ้นไปถึงแล้วบาดเจ็บกลับมาเพราะมีเสืออยู่บนภูเขาพะย่ะค่ะ”“อืม เช่นนั้นพรุ่งนี้เราจะขึ้นเขาไปจัดการเสือให้พวกเจ้า หลังจากนี้จะได้ขึ้นเขา

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   42

    ไท่จื่อเลือกเรือนสามประสานแห่งหนึ่งไม่ไกลจากจวนเจ้าเมือง ถึงราคาจะดูสูงไปสักหน่อยแต่ก็นับว่าเหมาะสมสำหรับตำแหน่งของพระองค์ในขณะนี้ ซินเมี่ยวเองก็พอใจเช่นกัน นางคิดว่ากว่าจะจัดการเรื่องที่เมืองนี้เสร็จน่าจะใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือน การมีจวนเป็นของตนเองนับว่าสะดวกมากกว่าจริง ๆซินเมี่ยวจ่ายเงินค่าจวนไป 1,200 ตำลึง โดยไม่ได้คิดมากอันใด ในเมื่อจวนนี้ใกล้กับจวนเจ้าเมือง เรื่องการรักษาความปลอดภัยจึงไม่ต้องกังวลมากนัก“เรากลับจวนก่อน เจ้าเตรียมข้อมูลและเรื่องเดินทางไปยังพื้นที่พรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน”“พะย่ะค่ะไท่จื่อ กระหม่อมจะส่งคนไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้กระหม่อมจะไปพบพระองค์ที่จวนพะย่ะค่ะ”ไท่จื่อกับไท่จื่อเฟยเดินทางกลับไปยังจวนใหม่ของพวกพระองค์ โดยมีซุนเหยานำทางไป องครักษ์บางส่วนได้รับเงินให้ไปซื้ออาหารสดมาให้ไท่จื่อเฟยทำอาหารเช่นเคย ส่วนสิ่งของในจวนนั้นไม่มีสิ่งใดจะต้องซื้อเพิ่ม เพราะเจ้าเมืองบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าเครื่องเรือ

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   41

    ขบวนของอู๋อ๋องหยุดพักตั้งค่ายที่นอกเมืองจ้วงจีห่างจากประตูเมือง 30 ลี้เพื่อไม่ให้ชาวเมืองแตกตื่น ซินเมี่ยวที่ท้องโตขึ้นทุกวันก็นอนบ่อยมากขึ้น อู๋อ๋องถึงแม้จะสงสารพระชายาแต่ก็ไม่อาจห้ามนางไม่ให้ติดตามมาด้วยได้ฉางกงกงที่ตอนนี้เข้าไปพักในจวนเจ้าเมืองได้สองวันยังไม่ทราบข่าวการมาถึงของอู๋อ๋อง แต่เขาก็สั่งให้องครักษ์ไปเฝ้ารออยู่ที่หน้าประตูเมืองเพื่อจะได้อ่านราชโองการให้เจ้าเมืองและชาวเมืองได้รับทราบโชคดีที่เจ้าเมืองจ้วงจีไม่ใช่ขุนนางเลว ทำให้ความเป็นอยู่ของชาวเมืองไม่ได้ยากจนมากนัก มีเพียงพวกเกียจคร้านที่ไม่ทำงานทำการเท่านั้นที่คอยลักเล็กขโมยน้อยหรือไม่ก็ไปก่อกวนคนในครอบครัวจนเกิดการฟ้องร้องหลายครั้งรุ่งเช้าวันต่อมา อู๋อ๋องพาซินเมี่ยวกับองครักษ์ 10 คน เดินทางเข้าไปยังเมืองจ้วงจีเหมือนที่ทำกับทุกเมืองก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของราษฎร พระองค์มองด้านข้างทางก็พบว่าชาวเมืองสีหน้ามีความสุข ไม่เหมือนเมืองอื่น ๆฉางกงกงที่ได้รับรายงานว่าเห็นขบวนพ่อค้าคล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status