Share

ตอนที่ 9  แก้ข่าว!!

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-26 01:05:31

ลู่หลิงฟางเดินออกมาเพราะนางได้ยินเสียงเอะอะพร้อมกับคนที่เริ่มซุบซิบกันอยู่ด้านนอกโดยที่พวกนางไม่ทันได้สังเกต

 ลู่หลิงฟางหันไปสอบถามฟางชิงชิงที่ดูเป็นห่วงน้องสาวนางแต่กลับถามเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายจนนางนึกแปลกใจว่าแม่นางจางผู้นี้หวังดีกับน้องสาวนางจริงหรือไม่

“พระชายา หม่อมฉันเพียงแค่ เป็นห่วง…เรื่องข่าวลือในคืนนั้นทั้งเมืองหลวงต่างร่ำลือไปมากมายแต่ไม่มีผู้ใดออกมาแก้ต่างเลย”

“งั้นหรือ พวกเขาร่ำลือ พวกเขาของเจ้าน่ะ คือผู้ใด”

“คือว่า..เรื่องนี้ คนทั้งเมืองหลวงต่างเล่าลือกันไป หม่อมฉันชี้ตัวไม่ชัด ไปหานางก็ไม่มีคำตอบ หม่อมฉันก็จนปัญญาจะแก้ต่างให้เพคะ”

“ข้าถามว่าพวกเขาร่ำลือว่าอย่างไร”

“ว่า หลิงเฟยถูกคนร้ายย่ำยีจนสาวใช้นางตายเพคะ ข้าเองก็ฟังเขามาอีกที แต่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าในคืนนั้นมีผู้ใดเป็นพยานให้นางว่านางมิได้ถูกทำร้าย”

“เช่นนั้นข้าคงเป็นพยานให้นางได้ เพราะข้าเป็นผู้ที่อยู่กับนางในคืนนั้นเอง”

พวกนางหันไปมองบุรุษรูปงามในชุดลำลองสีขาวปักด้วยดิ้นสีเงินทั้งตัวที่เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับองครักษ์ข้างกาย เขาปราดตาไปมองจางชิงชิงทันที

 เขาเห็นตั้งแต่นางลากลู่หลิงเฟยออกมาและสอบถามเสียงดังสายตาก็พลันมองไปรอบ ๆ ราวกับเรียกให้คนมาฟังเรื่องที่จะเล่า

“ทำไม ไม่พูดต่อแล้วงั้นหรือ”

“ทะ…ท่านอ๋องเพคะ คือว่า”

“ถวายบังคมท่านอ๋อง หม่อมฉันลู่หลิงฟาง บุตรคนที่สามของท่านหมอลู่เพคะ”

“ที่แท้ก็พระชายาท่านอ๋องแห่งเหลียงโจว ขออภัยที่ไม่ทันเห็นท่าน ว่าอย่างไรแม่นางจาง ข้าก็อยากรู้ว่าข่าวลือไร้สาระที่ว่านั่นมันออกมาจากปากผู้ใดเช่นกัน กล้าร่ำลือออกไปโดยมิคิดว่าผู้อื่นจะเสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้ ช่างกล้านัก”

“ท่านอ๋องเพคะ พระองค์ตรัสว่าคืนนั้น พระองค์….”

“ใช่แล้ว คืนที่เกิดเรื่องมีคนร้ายบุกเข้ามาที่นั่นจริง ข้าตามมันมาจนพบว่าพวกมันวิ่งมาทางพวกนางและ….พวกข้าช่วยเอาไว้ แต่พวกมันฆ่าสาวใช้ของพวกเจ้าไป

 เรื่องก็มีเพียงเท่านั้น นึกไม่ถึงว่า มีคน “ปากพล่อย” เอาไปลือมั่ว ๆ จนทำให้นางเสื่อมเสีย คืนนั้นหากไม่ได้ยาถอนพิษของแม่นางลู่ที่ช่วยข้าไว้ ข้าเองก็คงไม่รอดชีวิตมาได้ถึงตอนนี้ ได้ยินกันชัดหรือยัง"

ขาวบ้านโดยรอบได้ยินดังนั้นจึงได้เชื่อทันที 

“ข่าวนี้ท่านอ๋องเป็นผู้ตรัสออกมาเองไม่มีทางผิด”

“พวกเขาอยู่ด้วยกันจริง ๆ”

“คืนนั้นทหารก็ออกมาเก็บศพไปมากมายข้าได้เห็นกับตาแค่ไม่นึกว่าจะมีสาวใช้ตายด้วย”

“เช่นนี้ข่าวนั่นก็ทำเรื่องเสื่อมเสียให้คุณหนูสกุลลู่แล้ว”

“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงออกหน้าช่วยเหลือเพคะ”

“ไม่เป็นไรแม่นางลู่ พระชายาข้าเองยังไม่มีโอกาสขอบคุณแม่นางลู่เลยสักครั้ง อย่างไรแล้วครั้งนี้ให้ข้าเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการตอบแทน”

“ไม่ต้อง…”

ลู่หนิงฟางปัดมือน้องสาวนางเอาไว้ ท่านอ๋องแสร้งทำไม่ได้ยินเสียงของหลิงเฟยและมองไปที่หลิงฟางเท่านั้น

“ด้วยความยินดีเพคะท่านอ๋อง แล้ว…”

พวกเขาหันมามองที่จางชิงชิงที่เริ่มทำตัวไม่ถูกและกลัวว่าจะถูกสอบสวนที่มาที่ไปของข่าวลือ นางจึงหาทางเลี่ยงทันที

“เอ่อ หม่อมฉันมิบังอาจเพคะ วันนี้ไม่สะดวก หลิงเฟยเอาไว้พบกันที่งานเลี้ยงในวังนะ”

“เดี๋ยวก่อน พวกท่านทั้งหลายจงฟัง หากว่าผู้ใดสามารถชี้บอกตัวผู้ที่ “ปล่อยข่าวลือเท็จ” ของคุณหนูสกุลลู่จงรีบนำข่าวมาแจ้ง ข้าจะมอบรางวัลให้อย่างงามเพื่อนำคนผิดมาลงโทษให้สาสมกับความ “ปากพล่อย” ในครั้งนี้”

คำประกาศจากท่านอ๋องทำเอาจางชิงชิงที่ก่อนหน้านี้ทำท่าราวกับสะใจเริ่มหน้าซีดปากสั่นและไม่กล้าสู้หน้าท่านอ๋องและลู่หลิงเฟยจนต้องรีบขอตัวลา

“เช่นนั้นหลิงเฟย เอาไว้ค่อยพบกันนะ ทูลลาเพคะท่านอ๋อง”

จางชิงชิงเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว ท่านอ๋องหันมามองใบหน้าของลู่หลิงเฟย เขาไม่ได้พบนางร่วมสามเดือน นึกไม่ถึงว่านางจะผ่ายผอมลงไปมากกว่าเดิมและยังดูพูดน้อยลงมาก ไม่สิที่จริงแล้ว....นางแทบจะไม่พูดเลยมากกว่า

“เช่นนั้น เชิญ....”

“ไปเถอะน้องสี่”

“พี่สาม เหตุใด…”

ท่านอ๋องรู้ดีว่าพวกนางต้องการคุยกัน เขาจึงเดินนำหน้าพวกนางไปก่อน

“เจ้าอย่าโง่สิ หากว่าเราไม่ไปเรื่องที่ท่านอ๋องออกหน้าช่วยเจ้าจะไม่มีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นการที่เรารับเกียรติให้เขาเลี้ยงข้าวนั่นถือเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของเจ้าจากข่าวลือหลายเดือนมานี้ เจ้าต้องขอบพระทัยท่านอ๋องจึงจะถูก”

“ข้า….”

“เจ้าไม่ได้ชอบเขาแล้วงั้นหรือ แต่ข้าว่าไม่ใช่นะเพราะเจ้ายังหน้าแดงอยู่เลย”

“พี่สาม ท่านหยุดพูดเถอะเจ้าค่ะ”

“น้องพี่ ชอบก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่เหตุใดเจ้าต้องกลัวด้วยเล่า”

“แต่เขามิได้ชอบข้านี่เจ้าคะ ข้าเพียรตามเขาอยู่หลายเดือนแต่เขาไม่ได้สนใจข้าเลย ตอนนี้...ข้าตัดใจแล้วเจ้าค่ะ”

“แล้วผู้ใดที่ออกหน้าช่วยเจ้ารับข่าวลือนั่นเมื่อครู่ ไม่ใช่เขาหรืออย่างไร ของขวัญเต็มจวนที่เขาส่งไปให้เจ้านั่นอีกเล่า น้องสาม เปิดใจได้แล้ว อย่าให้อาลี่เป็นห่วงเจ้ามากกว่านี้เลย เจ้ารับปากพี่ว่าจะปล่อยให้นางจากไปอย่างเป็นสุข”

“ก็ได้เจ้าค่ะ”

หอหรงอี้

“เชิญทางนี้เถอะ”

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง”

พวกนางเดินมานั่งในห้องส่วนตัวที่ท่านอ๋องสั่งให้คนจองเอาไว้ เมื่อท่านอ๋องนั่งลง หลิงเฟยก็หันออกมานั่งตรงข้ามแต่พี่สามของนางผลักให้นางไปนั่งข้าง ๆ เขา ท่านอ๋องสั่งอาหารมาหลายอย่างจนเต็มโต๊ะ

“แม่นางลู่ ไม่สิ ข้าขอเรียกเจ้าว่าหลิงเฟยได้หรือไม่”

“ตามพระทัยท่านอ๋องเลยเพคะ”

หลิงฟางมองดูใบหน้าที่แดงราวกับมะเขือเทศของน้องสาวและสายพระเนตรที่ท่านอ๋องมองนางก็เริ่มรู้สึกว่านางควรจะต้องหาเรื่องออกไปจากที่นี่สักหน่อย

“ตายจริง น้องสี่ข้าลืมไปว่าต้องไปรับเครื่องประดับ ท่านอ๋องเพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอรบกวนพระองค์ไปส่งนางที่สกุลลู่ได้หรือไม่เพคะ”

“พี่สาม เช่นนั้นให้ข้าไปกับท่านด้วย”

“ไม่ได้ ท่านอ๋องพึ่งจะสั่งอาหารมา กลับตอนนี้น่าเกลียด เจ้าอยู่นี่แหละ ข้าจะรีบไปรับของก่อน”

“เช่นนั้น จื่อรุ่ย เจ้าตามไปส่งพระชายาด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อทั้งคู่ออกจากห้องไป ความเงียบที่น่ากดดันนั้นก็เริ่มทำให้ลู่หลิงเฟยอึดอัดอยู่พอสมควร นางไม่รู้ว่าจะมองหน้าเขาอย่างไรดีหลังจากที่เกิดเรื่องเมื่อสามเดือนก่อน จากนั้นนางก็ไม่ไปพบและตามติดเขาอีกเลย

“ดูเจ้าผอมลงมากเลยนะ กินให้มากหน่อย เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้แล้วข้ายิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น”

“เรื่องนั้น…ไม่เกี่ยวกับพระองค์”

“อย่างไรเสียข้าก็มีส่วน หากว่าข้าจัดการพวกมันได้ก่อน…”

น้ำตาของหลิงเฟยเริ่มรื้นขึ้นอีกแล้วเมื่อเขาเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา หยางหลินอี้หันไปมองคนข้าง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจพูดเพื่อให้นางหวนกลับไปคิดเรื่องในคืนนั้นอีกครั้ง

“หลิงเฟยข้าขอโทษนะ ข้าเพียงแค่อยากขอบคุณเจ้าจริง ๆจึงได้…”

“ไม่เป็นไรเพคะ เรื่องในคืนนั้นหม่อมฉันผิดเอง ที่จริงคืนนั้น…หากว่าหม่อมฉันเชื่อนาง ไม่ออกมาดูงิ้วนั่น…นางคง…”

“อย่าร้องไห้เลย ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นหรอก เจ้าเองก็อย่าเอาแต่โทษตัวเอง”

“มีแต่คนพูดกับหม่อมฉันเช่นนี้ ทุกคนล้วนปลอบว่าอย่าคิดมาก ไม่ใช่ความผิดของหม่อมฉันแต่พระองค์ทราบหรือไม่ ทุกคืนเมื่อหลับตานอนหม่อมฉันก็มักจะได้ยินเสียงนาง ที่บ่นว่าเราไม่น่าออกมาเลยซ้ำไปซ้ำมาทุกคืน”

หลิงเฟยใช้มือโบกพัดเพื่อไม่ให้น้ำตานางไหลออกมาพร้อมกับหันหน้าหนีเขา นางไม่อยากอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น โดยเฉพาะกับเขา ที่เคยเห็นทั้งตอนที่น่าอับอายของนางมากที่สุดและในตอนที่นางอ่อนแอที่สุด แต่เขากลับเอื้อมมือมาจับมือนางเอาไว้และดึงนางเข้ามากอดอย่างรวดเร็วจนนางตั้งรับไม่ทัน

“เจ้าร้องออกมาเถอะ ร้องให้พอแล้วปล่อยนางไปได้แล้ว ข้า…จะดูแลเจ้าแทนนางเอง”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องหน้าตายกับนางร้ายสายฟาด   ตอนพิเศษที่ 4 ครอบครัวที่สมบูรณ์

    สองเดือนถัดมา “เบ่งเพคะพระชายา อื้อ....”“กรี๊ด!!!..”“อุแว๊!!……”“เป็นองค์ชายน้อยเพคะ”สิ้นเสียงของหมอตำแยทำคลอดในวังที่แจ้งว่าพระชายาขององค์รัชทายาทคลอดบุตรชายออกมา ทำให้ จวินอวี้หยวนองค์รัชทายาทรีบลุกขึ้นและพุ่งกายเข้าไปยังห้องที่พระชายาอยู่ในทันที หลิงเฟยหันมามองพระพักตร์พระสวามีที่นั่งอยู่ข้าง“ท่านพี่ เป็นอะไรไปเพคะ”“คือว่า…ตอนเจ้าคลอด ก็จะต้อง…ร้องทรมานเหมือนกับที่….อิ๋งเซียน…”“ใช่เพคะ สตรีเวลาคลอดก็เป็นเช่นนี้ หากบุตรคลอดง่ายก็ไม่เจ็บนานเหมือนกับที่พี่หญิงเบ่งเพียงสี่ห้าครั้งบุตรก็คลอด แต่บางคนเบ่งอยู่ร่วมครึ่งวันก็ยังไม่ออกก็มี”“อะไรนะ!! เบ่งครึ่งวันงั้นหรือ เฟยเอ๋อร์ เช่นนั้นเจ้า…มิต้องทรมานแย่หรือ”“พระองค์อย่ากังวลพระทัยเกินไปเพคะ หม่อมฉันกับพี่หญิงก็ต่างเป็นสตรี เรามีบิดาเป็นหมอนะเพคะ คลอดไม่ยากหรอกเพคะ”“แต่เสียงร้องนั่นทำเอาองค์รัชทายาทแทบจะเป็นบ้าตายเจ้าก็เห็น”“นั่นเพราะพี่เขยไม่เคยได้ยินพี่หญิงกรีดร้องทรมานเช่นนี้มาก่อนก็เลยตกพระทัยน่ะเพคะ”“เช่นนั้นข้า…ไม่เป็นลมไปเลยงั้นหรือหากได้ยินเสียงเจ้าเจ็บปวดถึงเพียงนั้น ข้าจะทนไม่ได้เอาน่ะสิ”“เช่นนั้นพระองค์ก็ไม่ควรม

  • ท่านอ๋องหน้าตายกับนางร้ายสายฟาด   ตอนพิเศษที่ 3 จอมเห่อแห่งต้าซ่ง

    “เปล่าเพคะ แค่เวียนหัวเพราะคนเดินตามเกือบแปดคน ไปไหนก็เดินล้อมขนาดนี้ไม่เวียนหัวบ้างก็แปลกสิเพคะ”“เช่นนั้นให้ข้าเดินตามเจ้า อารักขาเจ้าคนเดียว จะได้ไม่เวียนหัวดีหรือไม่”พระชายาหันมามองพระพักตร์ที่จริงจังเมื่อเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา“ท่านอ๋องเพคะ พระองค์ไม่มีงานราชกิจอื่นแล้วหรือเพคะ หม่อมฉันตั้งครรภ์มิได้ป่วยนะเพคะ”“ข้าเป็นห่วงเจ้า ข้าผิดงั้นหรือ”หลิงเฟยถอนหายใจพร้อมกับดึงคอเขาเข้ามาซบที่อกนาง ลมหายใจของเขาร้อนผ่าว หัวใจยังเต้นแรงเพราะวิ่งมาอย่างรวดเร็วเพราะเป็นห่วงนาง“ท่านพี่ ข้าสัญญากับท่านว่าจะดูแลตัวเอง ท่านพี่เป็นห่วงหม่อมฉันเข้าใจเพคะ แต่ว่าหม่อมฉันเองก็ไม่อยากให้พระองค์เป็นห่วงมากเกินไป ทำเช่นนี้ราวกับว่าไม่ไว้ใจหม่อมฉันนะเพคะ”“ข้าต้องพยายามปรับตัวอีกแล้วใช่หรือไม่”“เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ หากว่าพระองค์เป็นห่วงหม่อมฉัน พระองค์ก็ทำเท่าที่อยากทำเถิดเพคะ แต่ว่าอย่าให้เสียงานจนผู้อื่นครหาท่านเอาได้ หม่อมฉันมิอยากเป็นต้นเหตุว่าทำให้พระองค์ไม่มีความรับผิดชอบในงานอย่างอื่น”“ได้ ข้ารับปากเจ้า แล้วเจ้ากินอะไรหรือยัง พระชายาฝากยาบำรุงมาให้เจ้าด้วย นางบอกว่าได้มาเยอะช่วงที่ตั้งครรภ์เลยแบ่

  • ท่านอ๋องหน้าตายกับนางร้ายสายฟาด    ตอนพิเศษที่ 2 ครรภ์แรกของพระชายาท่านอ๋อง

    สี่เดือนถัดมา“พวกเจ้ารีบย้ายของพวกนี้ออกไปอย่าให้มีของที่มีคมอยู่ในสถานที่ที่พระชายาจะเดินผ่านได้ เร็วเข้า จื่อรุ่ย!! เจ้าไปเอายาบำรุงครรภ์ที่พ่อตาข้ามาหรือยัง”“อยู่นี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ กำลังจะรีบนำไปต้มพ่ะย่ะค่ะ”“รีบไปเลยเร็ว ๆ พระชายาจะตื่นแล้ว ข้าวละ เสร็จหรือยัง”“หลินอี้!!”เสียงของหยางหลิงเฟย พระชายาดังขึ้นเพื่อเรียกพระสวามี นางตื่นขึ้นมาและมองไม่เห็นเขาอยู่บนเตียง ท่านอ๋องรีบสั่งการเก็บกวาดจวนจนทั่วเพื่อมิให้หลิงเฟยเกิดปัญหาเวลาเดินในจวน“ข้ามาแล้ว ๆ”“ท่านไปที่ใดมา"“ข้า….ไปสั่งให้ทุบทำขั้นบันไดใหม่ให้เจ้า จะได้เดินง่ายขึ้น”“นี่ท่านสั่งรื้อจวนอีกแล้วงั้นหรือ!!”รอยยิ้มสำนึกผิดของท่านอ๋องหลบสายตาพระชายาไม่ได้เลย “ไม่ต้องมายิ้มเลย วันก่อนก็สั่งรื้อสวน”“ก็กลัวเจ้าเดินสะดุดหญ้าล้มนี่ มันอันตรายมากนะ”“แล้วยังสั่งไม่ให้ข้าจับเครื่องมือบดยา”“ก็มันมีทั้งมีดและครกหิน มันอันตรายทั้งนั้น เสี่ยงมากนะหลิงเฟยไม่ได้หรอก ช่วงนี้เจ้าห้ามเข้าไป”“นี่ท่านสั่งรื้อบันไดอีกแล้ว”“ซี่มันถี่และชันมากเกินไป เจ้าคิดดูสิ ช่วงครรภ์แรกท่านพ่อบอกว่าห้ามเจ้าเดินเร็ว ห้ามยกของหนัก ห้ามสะดุดล้ม มันเสี่ยงน

  • ท่านอ๋องหน้าตายกับนางร้ายสายฟาด    ตอนพิเศษที่ 1  คืนวันส่งตัว

    ห้องส่งตัวเจ้าสาว“เหนื่อยหรือไม่”“ไม่เพคะ”“เจ้าตั้งใจจะโยนลูกบอลแพรและเปลี่ยนเจ้าบ่าวจริง ๆ นะหรือเมื่อเช้านี้”ลู่หลิงเฟยหันมามองพระพักตร์ของพระสวามีอย่างนึกเคืองใจที่เขาบังอาจเล่นนอกบทที่ตกลงกับนางเอาไว้ก่อนหน้านี้จนเกือบแก้ไขไม่ทัน ยังดีที่ท่านอ๋องเป็นคนฉลาดและรู้ใจนางดีเขาจึงแก้ไขสถานการณ์นั้นได้“เป็นพระองค์ต่างหากที่เปลี่ยนบทก่อน”“นั่น ข้าก็แค่อยากจะขึ้นไปรับเจ้าเท่านั้น หากว่าเจ้าตกลงมาอีกจะทำเช่นไรเล่า ข้าน่ะตั้งใจเปลี่ยนเองเพราะอยากให้เจ้าเข้าใจหัวใจของข้ามากขึ้น”“หึ ยังดีที่พระองค์แก้ไขได้ทัน มิเช่นนั้นเจ้าบ่าวของหม่อมฉันในวันนี้คงมิใช่พระองค์แล้ว”“มีหรือว่าข้าจะยอม ต่อให้เจ้าจะเปลี่ยนเงื่อนไขอีกกี่ร้อยครั้ง เจ้าบ่าวก็ยังต้องเป็นข้าอยู่ดี เจ้าหนีไม่พ้นหรอก เหมือนในคืนนี้ที่เจ้าหนีไม่พ้นแน่ ๆ”“พระองค์ดื่มจนเมาแล้วใช่หรือไม่”“ไม่เมาเท่าสุรามงคลที่ดื่มกับเจ้าหรอก”“เช่นนั้นข้าต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่”หลิงเฟยจูบเขาทันทีพร้อมกับดึงชุดเจ้าบ่าวออกอย่างรวดเร็ว แต่ชุดเหล่านี้ตอนใส่พวกเขาแทบจะไม่ได้ใส่เอง ดังนั้นตอนถอด…..“นี่มันถอดแบบไหนละ หลินอี้ ดึงสายนั้นออกก่อนสิ ไม่ใ

  • ท่านอ๋องหน้าตายกับนางร้ายสายฟาด   ตอนที่ 46  พิธีอภิเษกพระราชทาน (ตอนจบ)

    ตำหนักบูรพา“พี่หญิง”“น้องสี่ เจ้ามาได้สักทีนะ เป็นอย่างไรบ้างบาดแผลของเจ้าหายดีหมดแล้วหรือไม่ แล้วนี่ตาเจ้ายังมีปัญหาอะไรอยู่หรือไม่ เจ้ามองข้าชัดใช่หรือไม่”ลู่อิ๋งเซียนเอ่ยถามลู่หลิงเฟยไม่หยุดเมื่อพบหน้ากันจนท่านอ๋องและองค์รัชทายาทแทบจะไม่มีช่วงที่ขัดจังหวะนางได้เลย จนองค์รัชทายาทต้องดึงไหล่ของพระชายาเอาไว้และให้ใจเย็น ๆ“เจ้าใจเย็นก่อนให้หลิงเฟยได้พักสักหน่อย นางพึ่งเข้าเฝ้าเสด็จพ่อมาให้นางได้หายใจก่อนสิ”“ข้า…เป็นห่วงนี่ได้ข่าวว่าทั้งถูกลักพาตัว ถูก….ขัง แล้วไหนจะโดนตบตีอีก”“พี่หญิง ท่านฟังข่าวลือมากไปแล้ว นางร้ายเช่นข้าผู้ใดจะกล้ารังแก”“แล้วข่าวที่ว่าเจ้า….ใช้ดาบฟันดวงตาองค์หญิงหลีน่าจนบอดนั่น…”“เรื่องนั้นเป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ”“ตายจริง เหตุใดเจ้า…”“เรื่องนั้นเป็นเพียงแค่การป้องกันตัว องค์ชายคุณหมิงเองก็เข้าพระทัยดี เห็นว่ามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทและตกลงทำการค้ากับเราหลายอย่างเลยนี่”“ใช่ ๆ หลินอี้ ครั้งนี้เราได้ประโยชน์มากกว่าที่คิด อย่างน้อยก็ต้องขอบคุณพวกเจ้าละนะ องค์ชายคุณหมิงรู้สึกสำนึกผิดมากจริง ๆ ถึงกลับยอมละเว้นภาษีสินค้าที่จะนำเข้าไปขายยังแคว้นฉู่และยินยอมให้เราเก็บภาษีเต็

  • ท่านอ๋องหน้าตายกับนางร้ายสายฟาด   ตอนที่ 45  ราชโองการสมรส

    ท่านอ๋องหันไปมองใบหน้าที่แดงจัดนั่นและอดนึกขำไม่ได้ นางกับเขาเคยทำเรื่องเช่นนี้ก็จริงแต่การที่จะเห็นผู้อื่นทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าคงมีเพียงนางที่แกล้งตาบอดเท่านั้นที่จะได้เห็น“เจ้าบอกว่า พวกเขานอนด้วยกัน…ทั้ง ๆ ที่มีเจ้า..”หลิงเฟยพยักหน้าและหันไปซุกที่อกท่านอ๋องทันทีเพราะความอายที่จะเล่าต่อ ท่านอ๋องจะโกรธนางลงได้เช่นไรในเมื่อนางน่ารักถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะทำผิดไปบ้างแต่ก็พอให้อภัยได้ แต่เรื่องก่อนหน้านี้เขารวมบัญชีเอาไว้แล้ว กลับจวนค่อยสะสางกับนางอีกครั้งก็ยังไม่สาย“แย่จริง เช่นนั้นองค์หญิงผู้นั้นก็…..”“หลินอี้ นาง….”“นางทำไมงั้นหรือ”“นาง…นอนอยู่กับผู้ชาย…สะ….สามคน”""สามคน""ซางเย่ถึงกับหันหน้าหนีไปอีกทางเช่นกัน นางรับไม่ได้เอาเสียเลย ก่อนหน้านี้นางเองก็ฟังเฉย ๆ แต่เมื่อหลิงเฟยเล่ามาถึงตอนนี้ นางเองก็รู้สึกอายแทนผู้เล่าเสียจริง ๆฮ่วนเซียวต้องลูบหลังภรรยาพร้อมกับแต่ละคนที่หน้าแดงไม่ต่างกับผู้เล่าอย่างลู่หลิงเฟย“เจ้า พูดผ่านไปเถอะนะเรื่องนี้ จากนั้นนางจึงพาเจ้าไปที่อารามงั้นหรือ”“อืม นางพาข้าไปที่นั่นในตอนดึก บอกว่าต้องให้พ้นยามห้ายไปก่อน (22.59 น.)”“เป็นช่วงที่ข้าไปพบรองแม่ทัพ”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status