Share

ตอนที่4 มั่นใจว่า

last update Huling Na-update: 2025-05-24 22:03:54

ไม่นานซิ่นเฉิงก็กลับมา เขารายงานว่าได้ดำเนินการตามที่เจ้านายสั่งเรียบร้อย มู่เลี่ยงหรงได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเสียงเย็น นัยน์ตาสีนิลส่องประกายคมกริบ อากัปกิริยาดังกล่าวทำให้เยี่ยนเยว่ฉีเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมา บุรุษผู้นี้มีรังสีอำมหิตรอบกายมากกว่าที่คิดเอาไว้ นางตระหนักแล้วว่าตนคงเคยชินที่เขาทำดีด้วยอยู่เสมอ หากนี่คือปฏิกิริยาของเขาสำหรับเรื่องเล็กๆ แล้วถ้าเป็นเรื่องใหญ่โตกว่านี้เล่า สามีของนางจะแสดงความโหดร้ายได้ถึงเพียงไหนกัน

เมื่อเริ่มเห็นอีกมุมหนึ่งของมู่เลี่ยงหรงชัดถนัดขึ้น เยี่ยนเยว่ฉีจึงยิ่งมั่นใจว่าการเป็นปฏิปักษ์กับฉินอ๋องไม่เป็นการดี นางก็มีแต่ต้องปรนนิบัติเขาให้สำราญใจมากที่สุด เพื่อที่สามีจะได้ไว้ใจและสนับสนุนตระกูลเยี่ยนในวันข้างหน้า

ขณะนั้นนางกำนัลที่เพิ่งย้ายมารับใช้จำนวนสองนางต่างยืนก้มหน้านิ่ง ตัวสั่นเทา ทั้งๆ ที่อากาศก็ไม่ได้หนาว สตรีทั้งสองตระหนักแล้วว่าสองวันมานี้ที่ท่านอ๋องอารมณ์ดีเป็นเพราะเพิ่งแต่งงาน หาได้เปลี่ยนนิสัย เมื่อครู่ก็พิสูจน์แล้วว่าฉินอ๋องผู้เด็ดขาดไม่ได้หายไป เพียงแต่ซุกซ่อนด้านนี้เอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าหวางเฟยคนงามเท่านั้นเอง

“พวกเจ้าเป็นอะไร ทำไมยืนตัวสั่น ไม่สบายหรือ” ซูจิ้งถามนางกำนัลทั้งสองเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง

“นี่พี่ซูจิ้งไม่รู้สึกอะไรจริงๆ หรือ” นางกำนัลนามเจียวมี่มี่กระซิบตอบ ในใจคิดว่าสาวใช้คนสนิทของหวางเฟยนั้นซื่อบื้อ ความรู้สึกช้าหรือนี่

“ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” ซูจิ้งทำหน้าไร้เดียงสา

“จะไม่ให้พวกข้าหวาดกลัวได้อย่างไร ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังมีโทสะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน...”

“หยุดพูดเหลวไหลเดี๋ยวนี้นะมี่มี่ หรือเจ้าอยากลงไปนอนที่ก้นบ่อปลา” นางกำนัลนามลี่ฮวากล่าวห้าม พร้อมเหลือบมองไปยังท่านอ๋อง พวกนางทั้งสองดูหวาดกลัวจริงๆ “ซูจิ้ง มี่มี่นางยังเด็กจึงพูดเหลวไหล”

ซูจิ้งพยักหน้ารับว่าเข้าใจแล้ว

ความจริงสาวใช้คนสนิทของเยี่ยนเยว่ฉีสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปรอบกายฉินอ๋อง เพียงแต่ตนอยู่ใกล้ชิดเยี่ยนจิ้นหลิงมานาน เวลาคุณชายรองคิดแผนร้ายก็มักทำให้บรรยากาศรอบตัวขมุกขมัวขึ้นเช่นนี้เหมือนกัน แต่รังสีเหี้ยมเกรียมของท่านอ๋องแรงกว่าจึงทำให้เขายิ่งดูน่ากลัว อย่างไรเสียซูจิ้งก็รับใช้ผู้ชายที่ชอบออกไปฆ่าฟันผู้อื่นเป็นประจำ อย่างท่านกั๋วกงกับคุณชายใหญ่มาตั้งแต่จำความได้ เหตุใดนางต้องกลัวท่านอ๋องเล่า ตนไม่ใช่คนที่เขาอยากกำจัดทิ้งเสียหน่อย นางกำนัลพวกนี้เป็นบุตรสาวมาจากตระกูลผู้ดีในเมืองหลวงเลยขวัญอ่อนกระมัง

‘เอ๊ะ...แต่ชิงหรูก็ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านเช่นกัน’

ชิงหรูเห็นซูจิ้งมองมาก็ยิ้มน้อยๆ นางเองก็รู้ว่านายตนสร้างบรรยากาศขมุกขมัวได้เก่งเพียงไร แรกๆ ตอนถูกคัดเลือกมาก็กลัวเช่นกัน แต่พอนานวันเข้าก็เคยชิน นางกำนัลรุ่นพี่ก็ได้แต่หวังว่านางกำนัลใหม่ทั้งสองจะปรับตัวได้ดีเหมือนซูจิ้ง

“ดูเหมือนสองคนนี้จะไม่ใช่คนที่ปรนนิบัติท่านอ๋องอยู่ก่อนแล้ว” ซูจิ้งหันไปคุยกับชิงหรู

“พวกนางเพิ่งถูกย้ายมาประจำที่ตำหนักใหญ่ นางกำนัลข้างห้องก่อนหน้านี้มีอีกสี่นาง รวมข้าด้วยเป็นห้าคน แต่ท่านอ๋องจัดการพวกนางหมดไปแล้ว เหลือข้าเพียงผู้เดียวที่มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่ต่อ”

“จัดการ! ท่านอ๋อง...” ซูจิ้งทำตาโต เอานิ้วปาดที่คอเป็นเชิงถาม นี่ท่านอ๋องฆ่านางกำนัลข้างห้องไปถึงสี่คนเลยหรือ

“มิได้ ท่านอ๋องเพียงให้พวกนางกลับบ้านเดิม”

ซูจิ้งเกิดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา จึงเดินเข้าไปถามชิงหรูใกล้ๆ พลางเหลือบมองฉินอ๋องกับพระชายาอย่างระมัดระวัง “พวกนางทำความผิดอะไรหรือ”

“พวกนางคือสตรีที่ท่านอ๋องเคยใช้อุ่นเตียง” ชิงหรูกระซิบ สายตาเหลือบมองไปทางเจ้านายทั้งสองเช่นกัน “ข้าคงจะเผยความไม่ได้มากกว่านี้แล้ว มิเช่นนั้นเราทั้งคู่อาจจะเดือดร้อนได้”

“ข้าทราบแล้ว” ซูจิ้งรับคำ พลางคิดไปว่าท่านอ๋องช่างใจดำ ถวายตัวแล้วไม่ถูกใจก็ทิ้งขว้างกันแบบนี้เลยหรือ ดังนั้นชาตินี้นางจะไม่ยอมเป็นอนุบ่าวของใครอย่างเด็ดขาด

มู่เลี่ยงหรงเห็นว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว จึงหันไปสั่งพ่อบ้านใหญ่ให้เตรียมรถม้า อันที่จริงจิวจื่อรู้งานเป็นอย่างดีจึงตระเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อย เมื่อผู้เป็นนายต้องการเดินทางก็สามารถออกจากจวนได้ทันที

รถม้าถูกเตรียมเอาไว้สองคัน สำหรับท่านอ๋องกับหวางเฟยคันหนึ่ง ส่วนอีกคันสำหรับบรรทุกสัมภาระ ของขวัญ พร้อมผู้ติดตามรับใช้ มีองครักษ์ประมาณห้าสิบนายดูแลอารักษ์ขาไปตลอดทาง ถือว่าเป็นขบวนส่งเจ้าสาวกลับบ้านที่ใหญ่โตมาก

จากจวนฉินอ๋องไปยังจวนเยี่ยนกั๋วกงต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม เยี่ยนเยว่ฉีจึงเอนกายพิงซบกับไหล่กว้างของสามี เพื่อพักสายตาระหว่างการเดินทาง

“อ้ายเฟย...ตื่นได้แล้ว” มู่เลี่ยงหรงกระซิบปลุกเยี่ยนเยว่ฉีจากนิทรา

“ถึงแล้วหรือ”

“อืม...” มู่เลี่ยงหรงตอบ

เมื่อเห็นว่าชายาของตนตื่นดีแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินออกไปก่อน พอเท้าแตะพื้น ก็ยื่นมือให้เยี่ยนเยว่ฉีจับเอาไว้ขณะก้าวลงจากรถม้า เขาประคบประหงมนางเป็นอย่างดี หากอุ้มได้ก็คงลงมือทำไปเสียแล้วด้วยซ้ำ

พ่อบ้านใหญ่จวนไคกั๋วกงออกมารอต้อนรับ แม้ว่าช่างลี่จะอายุมากแต่กลับคล่องแคล่วเป็นอย่างยิ่ง ชายวัยกลางคนนำทางแขกคนสำคัญไปเรือนรับรองด้านใน

มู่เลี่ยงหรงเพิ่งได้เข้ามาในจวนไคกั๋วกงเป็นครั้งที่สอง ด้วยอุปนิสัยช่างสังเกต เขายังพยายามเก็บรายละเอียดรอบด้านเหมือนครั้งแรกที่มา พบว่าคนในจวนเป็นวรยุทธ์แทบทั้งหมด แม้แต่พ่อบ้านใหญ่ที่เดินนำอยู่เบื้องหน้าก็ไม่เว้น

ระหว่างทางมีเวรยามวางอยู่แน่นหนาพอสมควร ทั้งหมดเป็นทหารฝีมือดี นับว่าความปลอดภัยของที่นี่อยู่ในระดับสูงมากกว่าจวนขุนนางทั่วไป

ในที่สุดพ่อบ้านใหญ่ก็นำพวกเขาก็มาถึงเรือนรับรอง เมื่อก้าวเข้าไปในอาคารหลังใหญ่ เยี่ยนหยางเจวี๋ยกับฮูหยิน พร้อมด้วยบุตรชายทั้งสองต่างยืนรอต้อนรับอยู่อย่างพร้อมหน้า

“กระหม่อม / หม่อมฉัน คารวะฉินอ๋อง” สมาชิกตระกูลเยี่ยนคำนับอ๋องหนุ่มอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะทำเช่นเดียวกันกับเยี่ยนเยว่ฉีที่ครานี้กลายเป็นฉินหวางเฟยแล้ว

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่108 จบ

    “ไม่รู้ แล้ววาดออกมาได้อย่างไร” ถางซือเซินเริ่มมึนงง ดูท่าปัญหาของฉินอ๋องคงไม่ธรรมดาอย่างที่คิดเสียแล้ว“ข้าก็บอกไปแล้วมิใช่หรือ ว่าสตรีผู้นี้คือนางในฝันของข้า”“นางในฝัน! นี่ท่านอ๋องหมายถึงในความฝันตอนหลับน่ะหรือ” เขาเบิกตากว้าง พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าช้าๆ ก็ยิ่งตกใจ “ให้ตายเถอะ ท่านไม่ได้กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่ไหม” “อืม” มู่เลี่ยงหรงยอมรับสั้นๆ แล้วพยายามปั้นหน้าให้เคร่งขรึมกลบเกลื่อนความอับอาย เริ่มนึกเสียใจที่พูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้นถางซือเซินสะบัดศีรษะเมื่อภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นทับซ้อนรูปนี้อีกครั้ง บุรุษผู้นั้นมีใบหน้างดงามกว่าสตรี แต่เขาก็ไม่ควรคิดเรื่องบัดสีนี้ขึ้นมาเลย ‘ไม่สิ ท่านอ๋องไม่มีทางรักชอบหลงหยาง แต่หากท่านอ๋องพึงใจสตรีที่มีรูปลักษณ์เช่นนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่’เห็นสหายครุ่นคิดและทำหน้าแปลกๆ มู่เลี่ยงหรงก็เข้าใจว่าถางซือเซินคงคิดว่าเขาเป็นคนบ้าไปเสียแล้ว ก็แน่ล่ะ จะมีผู้ใดหลงรักผู้หญิงที่มีชีวิตอยู่เพียงแค่ในความฝันกัน“เอาเถิดซือเซียน ข้าเข้าใจ แม้แต่ข้าเองก็รู้สึกว่าอาจจะกำลังเป็นบ้า” มู่เลี่ยงหรงคว้าภาพวาดสตรีในฝันแล้วม้วนเก็บอย่างทะนุถนอม“ม

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่ 107 สตรีในฝัน

    แสงเรืองรองสาดส่องจนทั่วบริเวณ แลเห็นความงดงามที่รายล้อม ดอกไม้นานาพันธุ์ผลิดอกหอมกรุ่นยั่วยวนหมู่ภมร บุรุษในอาภรณ์สีดำหรูหราค่อยๆ ย่างเท้าไปตามทางเดินเขียวชอุ่มไปด้วยต้นหญ้า จนพบต้นหลิวขึ้นอยู่ริมบึงใหญ่ ไอหมอกสีขาวลอยเหนือนผิวน้ำ เขาเดินเข้าไปใต้ร่มไม้ใหญ่และย่อกายลงก่อนจะเอนหลังพิงลำต้นอันขรุขระไม่นานนักเสียงฝีเท้าเบาๆ ลอยเข้าสู่โสตปลุกชายหนุ่มให้ตื่นตัว เขามองไปยังต้นกำเนิดเสียงเพื่อมองหาผู้มา นัยน์ตาสีนิลสะท้อนเงาร่างของสตรีงามเฉิดฉัน นางเคลื่อนกายมาทางที่เขานั่งเขนกรออยู่ รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้านางผู้นั้นโฉมสะคราญเยื้องกรายมาทางต้นหลิวอย่างไม่รีบไม่ร้อน สุดท้ายนางก็ย่อกายลงเคียงข้างกับเขา รอยยิ้มแขวนอยู่บนใบหน้างามราวเทพธิดา ไม่ว่าจะปาก คอ คิ้ว ล้วนไม่มีรอยตำหนิประหนึ่งผลงานชั้นเลิศของช่างฝีมือ“พระจันทร์ดวงน้อยของข้า วันนี้เจ้างดงามยิ่งนัก” เขาเอ่ยทักทาย“พบกันกี่ครั้งท่านก็พูดเช่นนี้” หญิงงามอมยิ้ม“ข้าไม่เคยโป้ปด หากงามก็บอกว่างาม”“ท่านก็มิเลว”“แค่มิเลวเท่านั้นหรือ ใจร้ายเสียจริง”“ข้าเป็นสตรีที่ร้ายกาจ ท่านก็รู้”“ข้ามิรู้อันใดเลยต่างหาก”“แต่ท่านก็ยังอยากพบข้าไม่ใช

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่106 ‘รักครั้งแรก’

    “จงหยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงกัมปนาทสะท้านกึกก้อง กระแสกดดันเย็นยะเยือกแผ่ลาม ฮ่องเต้มู่เหวินหลงกับฮองเฮา และถางซือเซินก้าวเข้ามาห้ามได้ทันท่วงทีจ้าวเฟิงเหลยชะงักงัน เก็บดาบในมือลง ยืนก้มหน้านิ่ง เยี่ยนจิ้นหลิงประคองถางซือเซียนให้คุกเข่าลงช้าๆ“เฟิงเหลย ข้าให้เจ้ามาล่าสัตว์ ไม่ได้ให้มาทำร้ายคน” มู่เหวินหลงตำหนิพระญาติ“เป็นเพราะเยี่ยนจิ้นหลิงรังแกเซียนเอ๋อร์ ข้าทนไม่ได้จึงเข้าไปช่วยเหลือ” จ้าวเฟิงเหลยพยายามอธิบาย“เยี่ยนจิ้นหลิง เจ้าทำอะไรน้องสาวข้า” ถางซือเซินหน้าซีด เขามองคนทั้งสองสลับไปมา ในจิตใจรุ่มร้อน ทำไมน้องสาวของตนต้องพบแต่บุรุษที่ชอบเอารัดเอาเปรียบ“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมกับคุณหนูถางเพียงทานขนมกับน้ำชา นั่งชมจันทร์กันอยู่อย่างเปิดเผย เป็นจ้าวจวิ้นอ๋องเข้าใจผิดไปเองทั้งนั้นพ่ะย่ะค่ะ” กุนซือหนุ่มเล่าเหตุการณ์อย่างเป็นธรรมชาติยิ่ง“หืม...ว่ายังไงถางซือเซียน” มู่เหวินหลงเอ่ยถามตัวต้นเหตุของเรื่อง นางเพิ่งจะอายุสิบห้า แต่พาให้บุรุษวิวาทกันเสียแล้ว“หม่อมฉันกำลัง...กำลัง...” ถางซือเซียนยังคงงุนงงและตกใจ จึงไม่มีสติพอว่าตอบอย่างไร“เห็นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ นางไม่คล้อยตามคนผู้นั้น” จ้าวเฟิงเหลย

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่105 แต่ว่าข้าอยากรู้เหตุผลนี่

    “ข้าไม่ชอบพูดมาก ถ้าหากเจ้าจำไม่ได้และไม่ยินดีจะเป็นของข้า เรื่องนี้ก็ถือว่าแล้วกันไปเถิด” เยี่ยนจิ้นหลิงปล่อยหญิงสาวออกจากอ้อมกอดทันที เขาลุกขึ้นแล้วขยับเท้าหมายจะจากไปแบบดื้อๆ“คะ...คนบ้า พูดเองเออเองทุกสิ่ง ข้าไม่เคยเป็นของท่าน จะเอาอะไรมาจำได้อย่างไรเล่า” ถางซือเซียนมีโทสะเล็กน้อย เขาทำให้นางงุนงงแล้วก็จะทิ้งตนไว้ข้างหลังอีกครั้งบุรุษผมสีเงินหยุดยืนนิ่งไม่ขยับกายต่อ แต่ก็ไม่ได้หันกลับมาเผชิญหน้ากับสาวน้อยที่กำลังสับสน“คุณหนูถาง ข้าคร้านจะเท้าความ ชอบก็คือชอบแค่นั้นเอง ถึงแม้จะเอ่ยเหตุผลออกไปเจ้าก็ถามต่ออยู่ดี สู้ยอมรับแล้วทำตามจะง่ายกว่า”“แต่ว่าข้าอยากรู้เหตุผลนี่” นางลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ ก้าวเข้าไปใกล้ชายหนุ่มจากด้านหลัง ดรุณีน้อยยืนมองเขาด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย‘อย่างน้อยบอกข้าสักคำว่าท่านชอบข้า’ เสียงในหัวใจของสาวน้อยพยายามอ้อนวอนเขาบุรุษผมสีเงินหันกลับมา เขาเผชิญหน้ากับสาวน้อยที่ยืนจ้องแผ่นหลังของตนเมื่อครู่ ในความคิดของกุนซือหนุ่มสตรีผู้นี้ช่างยุ่งยากเสียเหลือเกิน ตั้งคำถามนั่นนี่ไม่ยอมหยุด ดูท่าว่าแม้ตนจะอธิบายเหตุผลที่แท้จริงออกไป นางก็คงจะยังกังวลสงสัยไม่จบสิ้น เช่นน

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่104 นั่งนิ่งไม่ขยับ

    เมื่ออีกฝ่ายยังนั่งนิ่งไม่ขยับ บุรุษผมสีเงินจึงค่อยๆ โน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงไปเรื่อยๆ จนขนมดอกกุ้ยแนบชิดติดกับริมฝีปากของนาง นัยน์ตาเข้มลึกจดจ้องอย่างรอคอยหญิงสาวใจเต้นไม่เป็นส่ำ บัดนี้ริมฝีปากของเขากับนางมีเพียงขนมชิ้นเล็กๆ ขวางกั้นเอาไว้ นางไม่อาจต้านทานอำนาจกดดันของชายหนุ่มได้อีกต่อไป สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาจึงเผยอปากสีแดงระเรื่อที่กำลังสั่นเทาออกช้าๆ แล้วงับลงไปบนขนมทีละคำทั้งที่หวั่นใจถางซือเซียนค่อยๆ กัดเล็มความหวานทีละนิด...ทีละนิด นางไม่กล้าแม้แต่จะหลับตา อีกทั้งยังไม่กล้าหยุดปากของตนจึงจำต้องละเลียดกินขนมไปเรื่อยๆ จนเกือบจะหมดชิ้นสาวน้อยชะงัก เมื่อระยะห่างของทั้งสองลดลงจนถึงขีดสุด หากตนกินขนมนี้อีกเพียงคำเดียว ริมฝีปากของทั้งคู่จะต้องสัมผัสกันอย่างแน่นอน'ข้ากำลังจะจูบเขา'เยี่ยนจิ้นหลิงอดทนรอคอยอย่างใจเย็น ชายหนุ่มไม่ขยับกายถอยหนีแม้แต่ครึ่งชุ่น มือร้อนขยับลูบไล้เอวบางเบาๆ เขายังคงจดจ้องดวงตากลมโตสุกใสของสาวน้อย นัยน์ตาหงส์แสดงความเผด็จการของตนออกมาอย่างชัดเจน‘ลงมือสิสาวน้อย’ถางซือเซียนตัดสินใจกัดขนมคำสุดท้ายอย่างกล้าๆ กลัวๆริมฝีปากอิ่มงามอันสั่นระริกแนบชิดกับริมฝีปากบางใ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่103 ใต้แสงจันทร์

    ตอนพิเศษ4ใต้แสงจันทร์ริมทะเลสาบเงียบสงัด ลมโชยพัดกิ่งสนไหวโยก ถางซือเซียนนั่งจิบชาพร้อมทานขนมดอกกุ้ย ชมพระจันทร์อย่างเบิกบาน เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง สาวน้อยจึงมั่นใจว่าเยี่ยนเยว่ฉีคงไม่ตามมา เลยตั้งใจว่านั่งเล่นอีกสักพักแล้วจะกลับไปพักผ่อน“เสี่ยวลี่ เจ้ากลับไปเก็บของก่อน พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าตรู่ ข้าจะนั่งกินขนมอีกพักหนึ่ง จากนั้นจะตามกลับไป”“เจ้าค่ะคุณหนู” เสี่ยวลี่รีบปฏิบัติตามคำสั่งเพราะเห็นว่าที่นี่ปลอดภัยดี จึงกล้าทิ้งนายหญิงของตนเอาไว้ถางซือเซียนนั่งจิบชาชมจันทร์อย่างอ้อยอิ่ง นางมองลงบนทะเลสาบเห็นคลื่นน้ำสั่นไหวจากแรงลม สะท้อนภาพแสงจันทร์ดูระยิบระยับงดงาม บรรยากาศแสนรื่นรมเช่นนี้เหมาะแก่การแต่งกลอนหรือเล่นดนตรีสักบทเพลงหนึ่ง สาวน้อยพลันนึกเสียดายที่ไม่ได้เตรียมพิณของตนมาจากจวนด้วย“ทำไมเจ้ามานั่งเพียงผู้เดียว” เสียงทุ้มนุ่มปลุกหญิงสาวจากภวังค์ เป็นเยี่ยนจิ้นหลิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาของเขาทอดไปยังทะเลสาบเบื้องหน้า“ซือเซียนรอหวางเฟยอยู่เจ้าค่ะ” นางตอบเสียงเรียบ“หวางเฟยอยู่กับท่านอ๋อง คงมานั่งเป็นเพื่อนเจ้าไม่ได้แล้ว”“เป็นเช่นนี้นี่เอง แต่ไม่เป็นไร ข้ามีพระจันทร์เป

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status