แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: สายธารสะท้อนเงา
หงเย้าคิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะปรากฏตัวขึ้น จึงเก็บแส้ เอ่ยอย่างฝืนยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นพระชายา อากาศหนาวเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องรบกวนให้ท่านเสด็จออกมาด้วยพระองค์เอง? พระนางโปรดวางใจเพคะ สาวใช้ของท่านไม่เชื่อฟัง บ่าวได้ช่วยท่านสั่งสอนนางไปแล้วเรียบร้อยแล้วเพคะ”

“ขอบใจในความหวังดีของเจ้า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่แสดงสีหน้า “สาวใช้ของข้าย่อมต้องเป็นข้าที่คอยสั่งสอน แม่นางหงเย้าก้าวก่ายหน้าที่ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เห็นข้าผู้เป็นพระชายาอยู่ในสายตาเท่าใดนัก”

“พระชายาทรงกล่าวเกินไปแล้วเพคะ บ่าวมิกล้า” หงเย้าพับแส้เรียบร้อย แล้วใส่กลับไปในแขนเสื้อ

ฉินเหยี่ยนเย่ว์มือไว ฉวยโอกาสตอนที่นางไม่ทันระวัง แย่งเอาแส้มา

“ท่านทำอะไร?” หงเย้าตกใจ ตอนที่อยากจะแย่งแส้กลับคืนมา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอยหลังไปสองก้าว เพื่อรักษาระยะห่างกับนาง

“ข้าไม่คิดจะทำอะไร ยังคงเป็นคำถามข้อเดิม ข้าเพียงแค่อยากถามแม่นางหงเย้าว่า สาวใช้ของข้าทำผิดอันใด ถึงต้องให้เจ้ามาสั่งสอนนางเช่นนี้? ข้ายังอยากถามเจ้าอีกว่า เจ้ามาสั่งสอนสาวใช้ของข้าด้วยสถานะอันใด?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ย “ถ้าหากแม่นางหงเย้าไม่สามารถให้คำตอบที่ข้าพึงพอใจได้ เรื่องในวันนี้ เกรงว่าจะจบลงด้วยดีมิได้”

“พระชายา” เฟ่ยชุ่ยคลานลุกขึ้นมาจากพื้น จัดแจงผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงและเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งเล็กน้อย “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ท่านอย่าทรงเป็นกังวล...”

นางยังไม่ทันพูดจบประโยค ก็ไอออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง

“เจ้าไม่ต้องพูด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวตำหนิ “เจ้าถูกตีจนสภาพเป็นเช่นนี้ ยังบอกว่าไม่เป็นอะไร? จักต้องให้นางตีเจ้าจนตายถึงจะบอกว่าเป็นอะไรใช่หรือไม่?”

นัยน์ตาของเฟ่ยชุ่ยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา นางคุกเข่าลงบนพื้น ไหล่สั่นระริกไม่หยุด

เมื่อหงเย้าเห็นเพลิงโกรธที่พลุ่งพล่านของฉินเหยี่ยนเย่ว์ เกิดความหวาดกลัวขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ

แต่ ความหวาดกลัวนี้เกิดขึ้นชั่วครู่แล้วก็มลายหายไป

นางแอบกำหมัดแน่น พระชายาผู้โง่เขลาเพียงแค่ปากแข็งเท่านั้น อันที่จริงขี้ขลาดมาก เพียงแค่นางท่าทีแข็งกร้าว แล้วนำความผิดโยนไปให้สาวใช้คนนั้น พระชายาผู้โง่เขลาก็จะหันไปทรงกริ้วสาวใช้แทน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางจึงเงยหน้าขึ้น “พระชายาเพคะ สาวใช้ผู้นี้เดินวนไปเวียนมาอยู่ละแวกห้องครัว ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ตลอด มิรู้ว่ากำลังก่อเรื่องไม่เหมาะสมอะไร บ่าวยังได้ยินพวกคนใช้พูดว่า นางมักจะแอบออกไปข้างนอก มักจะนำสิ่งของจำนวนหนึ่งกลับมาด้วยทุกครั้งเพคะ”

“ชื่อเสียงจวนอ๋องของพวกเราเดิมทีก็ไม่ดีอยู่แล้วเพคะ หากยังไม่ระมัดระวัง ไม่แน่ว่าอาจจะมีเรื่องเสียหายอะไรแพร่งพรายออกไปอีก ที่บ่าวทำเช่นนี้เพราะนึกถึงชื่อเสียงของจวนอ๋อง พระชายาเพิ่งจะเสด็จมาที่นี้ได้ไม่นาน ไม่สามารถดูแลเรื่องเหล่านี้ได้ทั่วถึง บ่าวอยู่ที่จวนอ๋องนี้มานานแล้ว เกรงว่าถ้ามีข่าวลือที่ไม่ดีแพร่งพรายออกไปอีก จะทำให้สถานการณ์ของท่านอ๋องยิ่งแย่ลงเพคะ”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เข้าใจความเหน็บแนมในคำพูดของหงเย้า สตรีผู้นี้ เพียงแค่ต้องการเหน็บแนมข่าวอื้อฉาวที่นางก่อขึ้นตอนอภิเษกกับตงฟางหลีเท่านั้น

นางจ้องเขม็ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นเยือก ความเย็นเยือกกลุ่มนั้น ทำให้หงเย้ารู้สึกประหม่าเล็กน้อย

“เนื่องด้วยเหตุนี้?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เสียงเบา ไร้ความรู้สึก “แม่นางหงเย้า ตีสาวใช้ของข้าเนื่องด้วยเหตุนี้?”

“เหตุเหล่านี้ยังไม่พออีกหรือเพคะ?” หงเย้าไม่พอใจ เมื่อเห็นว่านางหยิบยกสถานะขึ้นมา ย้อนถามด้วยจิตใต้สำนึก

“ดี ดีมาก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เยาะหยัน “ข้าจะเป็นคนบอกเจ้าเองว่า เฟ่ยชุ่ยมาที่ห้องครัว เนื่องด้วยอาหารที่ห้องครัวจัดให้ข้าล้วนแต่เป็นอาหารเหลือ นางมานั่งรอเวลาที่อาหารเพิ่งปรุงเสร็จ และจะขอนำอาหารร้อน ๆ ออกมา นี่คือข้อที่หนึ่ง ข้อสอง ที่เฟ่ยชุ่ยออกไปข้างนอกบ่อย ๆ เป็นเพราะช่วยซื้อยารักษาแผลฟกช้ำให้ข้า”

“ยังมิต้องพูดถึงอาหารสภาพแย่ ๆ ทุกวันของข้า แล้วก็ยังมิเอ่ยถึงการกลั่นแกล้งของคนในห้องครัว พูดถึงแค่เพียงเฟ่ยชุ่ย เรื่องเหล่านี้ที่เฟ่ยชุ่ยกระทำ ล้วนทำเพื่อข้าทั้งสิ้น แม่นางหงเย้าอาศัยเพียงการคาดเดาก็ตีนางจนสภาพเป็นเช่นนี้ หลักฐานคืออะไร?”

หงเย้าพูดไม่ออก นางคิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ได้เป็นเหมือนเฉกเช่นตอนปกติ ทันทีที่ถูกยุยงก็จะทำตัวโง่เขลา แต่กลับเงียบสงบจนทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว

ทันใดนั้น นางกลับไม่รู้ว่าควรจะโต้ตอบอย่างไร

“สาวใช้ของข้า ย่อมต้องให้ข้าเป็นคนสั่งสอน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าก็เป็นพระชายาที่ถูกต้องตามหลักธรรมนองคลองธรรมของท่านอ๋องเจ็ด เป็นพระชายาอ๋องเจ็ดที่เสด็จพ่อทรงเป็นผู้กำหนด ในฐานะที่แม่นางหงเย้าเป็นสาวใช้ของจวนอ๋อง พยามยามชี้นิ้วสั่งผู้เป็นเจ้านาย ลงมือต่อสาวใช้ของข้า ก็เท่ากับลงมือต่อข้า ความผิดร้ายแรงเช่นนี้ ควรได้ลงโทษเช่นไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพิ่มระดับเสียงขึ้น

แผ่นหลังของหงเย้าเต็มไปด้วยเหงื่อ

นางทำตัวอวดเบ่งในจวนอ๋องได้ ทั้งหมดเป็นเพราะอาศัยบารมีเสด็จแม่ผู้ให้กำเนิดของท่านอ๋องเจ็ด คนในจวนอ๋องล้วนให้เกียรตินางอยู่บ้าง

บัดนี้เมื่อได้เจอกับผู้ที่เด็ดเดี่ยวหัวแข็งเฉกเช่นฉินเหยี่ยนเย่ว์ จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็มิได้

“ใครก็ได้ หงเย้าลบหลู่เบื้องสูง ไม่เห็นเจ้านายอยู่ในสายตา ใช้อำนาจในทางมิควร โทษหลายกระทง โบยสามสิบไม้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยกับผู้คนที่มุงดู “พวกเจ้า ไปเรียกตัวองครักษ์ในเรือนของท่านอ๋องเจ็ดมา”

บรรดาคนรับใช้มองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน

“พวกเจ้าไม่ไป ข้าไปเอง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองพวกเขาราวกับจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “จะว่าไป เรื่องนี้พวกเจ้าก็หนีความผิดไม่พ้นเช่นกัน บัดนี้ข้ากล่าวโทษหงเย้าเพียงผู้เดียว ไม่สืบสาหาความกับพวกเจ้า เมื่อใดที่ข้าจริงจังขึ้นมา พวกเจ้าก็หนีไม่พ้นแม้แต่ผู้เดียว”

“พระชายา พวกบ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เพคะ” มีสองสามคนที่ขานรับและปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้านาย รีบวิ่งไปเรียกองครักษ์

สีหน้าของหงเย้ากลัวจนหน้าถอดสี นางคาดไม่ถึง “บ่าวเป็นคนที่พระสนมอวิ๋นส่งตัวมาให้ท่านอ๋องเจ็ด ท่าน ท่านกล้าตีบ่าว?”

“เหตุใดข้าจึงไม่กล้า?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกน่าขัน “เจ้ากล้าตีสาวใช้ของข้า เหตุใดข้าจึงไม่กล้าตีเจ้า? อนุญาตให้เจ้าวางเพลิงได้ แต่ห้ามให้ข้าจุดไฟ นี่มันเหตุผลอันใดกัน?”

“ท่านอ๋องเจ็ดมิมีทางปล่อยท่านไปแน่ หากท่านตีบ่าวแล้วละก็ ท่านอ๋องมีแต่จะยิ่งรังเกียจท่าน” หงเย้าที่อยู่ในอาการวิตกกังวล จึงพูดออกมาโดยไม่ทันยั้งคิด

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มหนักขึ้น “เขารังเกียจข้า นั่นเป็นเรื่องของเขา เกี่ยวข้องอันใดกับข้า?”

นางมององครักษ์ที่คนที่รีบเดินเข้ามา ชี้ไปที่สองคนนั้นที่โบยนางเมื่อหลายวันก่อน “เจ้า แล้วก็เจ้า ใช้แรงแบบที่พวกเจ้าใช้โบยข้าวันนั้น โบยนางสามสิบไม้”

องครักษ์สองคนนั้นงุนงงเล็กน้อย พวกเขาสบตากัน แล้วประสานมืออย่างพร้อมเพรียงกัน “ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ พระชายา กระหม่อมเชื่อฟังเพียงคำสั่งของท่านอ๋องเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

“งั้นรึ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยอย่างเยาะหยัน “เชื่อฟังเพียงคำสั่งของท่านอ๋องเท่านั้นรึ?”

“พ่ะย่ะค่ะ?” พวกองครักษ์กะพริบตาปริบ ๆ “พระชายาได้โปรดอย่าทำให้กระหม่อมลำบากใจเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“พวกเจ้าจิตใจซื่อสัตย์ เชื่อฟังเพียงคำสั่งของท่านอ๋องเท่านั้น ดีมาก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กอดอก “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าคงทำได้เพียงแค่เข้าวังเพื่อร้องขอคำสั่งจากเสด็จพ่อ มิรู้ว่าคำสั่งของเสด็จพ่อ พวกเจ้าจะเชื่อฟังหรือไม่?”

พวกองครักษ์หน้าถอดสี รีบคุกเข่าทันที “กระหม่อมเชื่อฟังแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

“เมื่อครู่นี้พวกเจ้ากล่าวว่าเชื่อฟังแค่เพียงคำสั่งของท่านอ๋องเท่านั้น เช่นนี้จะไม่ขัดแย้งกันไปหน่อยรึ? ช่างน่าขันเสียจริง ตอนพวกเจ้าโบยข้าช่างมีความสุขเหลือเกิน ยังโบยเสียรุนแรงเช่นนั้น แต่กลับมิยอมโบยสาวใช้ที่กระทำความผิดใหญ่หลวงอย่างนั้นรึ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ย “ในสายตาของพวกเจ้า ข้าสูงศักดิ์มิสู้สาวใช้ข้างกายของท่านอ๋องใช่หรือไม่?”

“กระหม่อมมิได้หมายความตามนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นพวกเจ้าหมายความเช่นไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพิ่มระดับเสียง “ด้านหนึ่งขัดแย้งกับตนเอง ด้านหนึ่งก็หาข้ออ้าง คิดว่าข้าน่ารังแกเช่นนั้นรึ? ในเมื่อคำสั่งของข้าไร้ประโยชน์ เช่นนั้น ข้าก็จะเข้าวังเดี๋ยวนี้ ทูลขอให้เสด็จพ่อทรงอนุญาตพระราชทานองครักษ์ที่มีวรยุทธ์สูงส่งจำนวนหนึ่งให้ข้า เพื่อที่จะได้ไม่ถูกพวกเจ้ารังแกเสียยิ่งกว่าสุนัขตัวหนึ่ง”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
ออนกนก โพธิรักษ์
กลับไปอ่านเรื่องเดิมได้ทางไหนคะ
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1595

    “เจ้าพาข้าออกมา ซ้ำยังพาข้ามาที่บ้า ๆ นี่อีก ถามคำถามแปลก ๆ กับข้าแล้วก็จากไปงั้นหรือ?”“อย่างน้อยเจ้าก็ควรพาข้าลงไปสิ”ไป๋หลินยวนเดินไปไกลแล้ว และย่อมไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเขาอีกต่อไป“หลินยวน เจ้าลูกกระต่ายสารเลว เจ้าพาข้ามาที่นี่กลางดึก แล้วโยนข้ามาอยู่ตรงนี้ เจ้าพยายามจะสังหารข้า ทำมากเกินไปแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1594

    หมอหลวงหลินตกใจมาก อ้าปากกว้างอย่างเหลือเชื่อจากนั้น ก็ซาบซึ้งจนหลั่งน้ำตา“เพื่อนเก่าเอ๋ย ในที่สุดหลินยวนเขาก็ตาสว่างแล้ว ตระกูลไป๋ของพวกเจ้ามีผู้สืบทอดแล้ว ข้าโล่งใจจริง ๆ ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าตระกูลไป๋จะสิ้นสุดลงในรุ่นของเจ้า โอ้ ฟ้ายังมีตา”หมอหลวงหลินแอบโล่งใจอยู่นาน“หลินยวน เจ้ามีคนที่ชอบแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1593

    ฉยงฮวาสืบมาเป็นเวลานานมากแล้วแต่ไม่มีข่าวอะไรเลย เกรงว่าจะตายไปนานแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลงสำหรับหู่พั่วแล้ว นางพูดไม่ได้ว่าชอบ แล้วก็ไม่ได้สนใจหู่พั่วมากนักเพียงแค่รู้สึกได้อย่างคลุมเครือว่าหู่พั่วจะไม่ตายไปง่าย ๆ เช่นนั้นหลังจากที่นางเงียบไปสักพัก ก็พบตำแหน่งที่สบาย และนอนตะแคง“หากมีข่าวครา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1592

    หลังจากกลับมาถึงจวนอ๋อง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็กระโดดลงจากรถม้าและเดินขึ้นไปที่ศาลาจากศาลาสามารถชมทิวทัศน์ด้านนอกได้นางเห็นท่าทางของหลิ่วฉือที่กำลังคุ้มกันชื่อเจี้ยนขณะที่จากไป จึงยิ้มบาง ๆ“พระสนมเหยาเป็นคนที่มีความสามารถ นางเพิ่งจะยอมรับน้องชายไปเองก็เริ่มมองหาคู่ให้หลิ่วฉือเสียแล้ว แล้วยังถูกใจชื่อเจ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1591

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์อดมิได้ที่จะเปิดหน้าต่างออกมาดูทิวทัศน์ที่อยู่ด้านนอกโคมไฟตามถนนหนทางธรรมดาถูกเก็บไปหมดแล้ว เหลือเพียงโคมไฟที่ใกล้จวนอ๋องนั้นที่ยังคงสว่างแวววาวออกมาอยู่ สิ่งก่อสร้างรอบ ๆ จวนอ๋องนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่พักอาศัยเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์พวกเขาหาได้เสียดายเทียนที่อยู่บนกำแพงไม่ เพี

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1590

    ตงฟางหลีหลุบสายตาลงเล็กน้อยหลายปีที่ผ่านมานี้ราชวงศ์ตงลู่อู้ฟู้เป็นอย่างมาก ข้าวสารอาหารแห้งเต็มคลังเสบียง กองคลังมีสมบัติมากมาย นั่นแสดงให้เห็นว่าในยามนี้บ้านเมืองมีความรุ่งเรืองมากเพียงใดทว่า ไม่ว่าจะร่ำรวยเพียงใด แต่ก็ยังมีสถานที่ที่มีความยากจนอยู่ดีปัญหาในตอนนี้ก็คือ ขุนนางและคนร่ำรวยในราชวงศ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status