공유

บทที่ 8

작가: สายธารสะท้อนเงา
พวกองครักษ์สีหน้าค่อนข้างแย่

เรื่องราวถูกพระชายาทรงกล่าวออกมาเช่นนี้ หากเรื่องใหญ่ขึ้นมา พวกเขาทั้งหลายคงมีจุดจบที่ไม่ดีนัก ยังจะพลอยเดือดร้อนไปถึงท่านอ๋องเจ็ดอีกด้วย

พวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง เอ่ยแสดงความขอโทษ “พระชายา ได้โปรดอย่าทรงกริ้วเลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมยอมทำตามคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”

พวกเขาหยิบไม้โบยมา

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรวจสอบดูรอบหนึ่ง ไม้โบยนี้แน่นหนา แข็งแรง ตีลงไปบนร่างกายต้องเจ็บมากแน่

เป็นไม้โบยที่โบยนางเมื่อครั้งก่อน

นัยน์ตาของหงเย้าฉายแววความหวาดกลัว นางก้าวถอยหลังไปเรื่อย จนสุดท้ายไร้ซึ่งหนทางถอย ถูกคนลากไปบนเก้าอี้ยาว

ไม้โบยของพวกองครักษ์กระทบลงมา

“หยุดก่อน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินเข้าไป เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “พวกเจ้าทั้งสองคน เรื่องมาถึงบัดนี้แล้ว พวกเจ้ายังคิดจะตบตาข้าอย่างนั้นรึ? สองทีเมื่อครู่นี้ไม่นับ เริ่มใหม่”

“ใช่แล้ว ถ้าหากพวกเจ้าทั้งสองคนสงสารนาง ก็โบยอย่างซื่อตรงให้จบสามสิบไม้ ไม่อย่างนั้น หากเริ่มใหม่อีกสักสองสามรอบ ถ้านางไม่ตายก็คงจะพิการ”

หน้าผากของพวกองครักษ์มีเม็ดเหงื่อซึมออกมา

พวกเขาไม่กล้าออมแรงอีก แต่ละครั้ง โบยลงไปบนร่างกายของหงเย้าอย่างรุนแรง

ตอนเริ่มแรกหงเย้ายังกรีดร้องขัดขืน แต่ตอนหลัง น้ำเสียงยิ่งเบาลงเรื่อย ๆ หลังจากโบยครบสามสิบที นางก็หมดสติไปเรียบร้อยแล้ว

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรวจชีพจรของนาง เพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น ยังไม่ตาย

“ใครก็ได้ ไปเอาน้ำเย็นมาหนึ่งถัง ปลุกแม่นางหงเย้าให้ตื่น”

พวกองครักษ์สีหน้าซีดขาว

อากาศหนาวเช่นนี้ คนที่เพิ่งถูกโบยไปสามสิบไม้ แล้วโดนสาดด้วยน้ำเย็นอีกหนึ่งถัง เกรงว่าจะถึงแก่ชีวิตได้

“พระชายาได้โปรดไตร่ตรองอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ หากทำเช่นนี้ อาจจะถึงแก่ชีวิตได้นะพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์กล่าว “ให้อภัยได้ก็ทรงให้อภัยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“ให้อภัยได้ก็ควรให้อภัยอย่างนั้นรึ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มอย่างเยาะเย้ย “ตอนที่ข้ากำลังจะหมดลมหายใจ เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่ให้อภัยบ้างล่ะ? วางใจเถิด นางแข็งแรงกว่าข้ามากนัก ไม่ตายหรอก อย่างมากก็แค่ล้มป่วยอาการสาหัส”

“เฟ่ยชุ่ย เมื่อครู่นี้นางตีเจ้ากี่ที เจ้าจำได้หรือไม่?” นางถาม

เฟ่ยชุ่ยที่หนาวจนตัวสั่นระริก นางส่ายหน้าไปมา “ทูลพระชายา บ่าว บ่าวจำไม่ได้แล้วเพคะ”

“ข้าจำได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยื่นแส้ให้นาง “บนตัวเจ้ามีรอยแผลทั้งหมดสามสิบแปดรอย ข้ามอบแส้ให้เจ้า นางฟาดตีเจ้าอย่างไร เจ้าก็ตีนางกลับเช่นนั้น มิต้องออมมือ เกิดอันใดขึ้น ข้ารับผิดชอบเอง”

เฟ่ยชุ่ยส่ายหน้าทันที “พระชายา ช่างเถิด ช่างเถิดเพคะ บ่าวไม่เจ็บ”

“ตี!”

“พอแล้วเพคะ พวกเรากลับกันเถิดเพคะ” นางสะอึกสะอื้น “พระชายาทำเพื่อบ่าวมากพอแล้วเพคะ”

“ให้เจ้าตีเจ้าก็ตี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กัดฟันกรอด “นางตีเจ้า เจ้าก็ตีกลับคืนอีก หากเจ้าอดกลั้นไปตลอด นางก็จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น”

เฟ่ยชุ่ยยังคงส่ายหน้า “พระชายา พอแล้วเพคะ อาการบาดเจ็บของท่านยังมิหายดี พวกเรากลับกันเถิดเพคะ”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่พอใจที่นางสั่งไม่ได้ดั่งใจ นางโยนแส้ไปที่บนร่างกายของหงเย้า

หงเย้าที่หมดสติไปแล้ว หลังจากที่ถูกน้ำที่เริ่มกลายเป็นน้ำแข็งสาดเข้า สีหน้าเริ่มซีดขาว ริมฝีปากเริ่มม่วง สภาพจนตรอกเป็นอย่างยิ่ง

ต่อให้เฟ่ยชุ่ยไม่ตีนาง นางก็จำต้องรักษาตัวสองถึงสามเดือนถึงจะหายดีเป็นปกติ

“วันนี้เฟ่ยชุ่ยไม่ตีเจ้า นับว่าเจ้าโชคดี แต่ การตีจำนวนสามสิบแปดครั้งนี้ข้าได้จำเอาไว้แล้ว ที่ติดค้างเอาไว้ จะช้าหรือเร็วข้าจะทวงคืนแน่”

นางกล่าวจบ กล่าวกับพวกองครักษ์อีกว่า “พวกเจ้าพาตัวหงเย้ากลับไป ทูลกับท่านอ๋องเจ็ดตามความจริง ถือโอกาสนำความข้าไปทูลด้วย บางครั้ง สุนัขมักจะแอบซ่อนได้ดีกว่าคน ยังสามารถแว้งกัดตอนที่คนไม่ทันระวังตัวได้ วันนี้ข้าตีสุนัขก็เพราะเห็นเจ้าของ แต่ เรื่องในวันนี้มิเกี่ยวข้องกับเขา ยิ่งมิเกี่ยวข้องกับพระสนมอวิ๋น”

“เฟ่ยชุ่ย พวกเรากลับ”

“ใช่แล้ว” นางมองไปทางทุกคน “ข้าต้องการน้ำร้อนกับอาหาร หวังว่าจะได้เห็นภายในระยะอันสั้นที่สุด”

นางประคองเฟ่ยชุ่ย กลับไปยังเรือนโยวหลานที่สภาพซ่อมซ่อที่สุดในจวนอ๋อง ปล่อยให้ทุกคนมองหน้าอย่างตื่นตระหนก

พวกองครักษ์ส่งตัวหงเย้าที่หายใจแผ่วเบากลับไปยังตำหนักหมิงอวี้ซึ่งเป็นเรือนพำนักของตงฟางหลี

ตงฟางหลีกำลังอ่านหนังสือ เมื่อเห็นพวกองครักษ์แบกหงเย้าที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดเข้ามา ก็ตะลึงงันไปทันที “เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”

พวกองครักษ์นำเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทูลรายงานแก่เขา แล้วก็นำความของฉินเหยี่ยนเย่ว์เล่าให้เขาฟังอย่างไม่ตกหล่นเลยแม้แต่คำเดียว

“นางกล่าวเพียงเท่านี้?” ตงฟางหลีสีหน้าเย็นเยือก

“พ่ะย่ะค่ะ ทรงกล่าวเพียงเท่านี้” สีหน้าขององครักษ์ดูแย่เป็นอย่างมาก “พระนางจงใจส่งตัวสองคนนั้นที่โบยพระนางเมื่อครั้งที่แหล้วมาโบยหงเย้า ยังให้พวกเขาใช้แรงแบบเดียวกันโบยด้วยพ่ะย่ะค่ะ หลังจากโบยเสร็จยังสาดน้ำเย็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ หงเย้าไข้ขึ้นสูง เกรงว่าไม่ตายก็จะต้องล้มป่วยอาการสาหัสพ่ะย่ะค่ะ”

“อย่างนั้นรึ?” น้ำเสียงของตงฟางหลีเรียบเฉย

เขานึกถึงตอนที่เจอหน้านางเมื่อหลายวันก่อน ท่าทางของนางที่เปลี่ยนไปมากราวกับเป็นคนละคน ดวงตาหรี่ลง

นางไม่เพียงฉลาดขึ้น วิธีการยังโหดเหี้ยมอีกด้วย

องครักษ์เหลือบมองสีหน้าท่าทางที่ไม่ไหวติงของตงฟางหลี เอ่ยอย่างลังเล “ท่านอ๋อง พวกเราควรทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ? ยังมีอีกเรื่อง คำพูดเหล่านั้นของพระนาง ถึงแม้ว่ากระหม่อมจะไม่เข้าใจ แต่ คิดว่าพระนางกำลังด่า ด่าท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ...”

“เฮอะ” ตงฟางหลีม้วนหนังสือ

“พาตัวหงเย้าออกไป ให้หมอหลวงมาทำการรักษา” ตงฟางหลีพลางกล่าวพลางเดินออกไปทางด้านนอก

“ท่านอ๋อง ท่านจะไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ?”

“เรือนโยวหลาน”

เมื่อองครักษ์ได้ยินคำว่าเรือนโยวหลานก็ตัวสั่นเทา “กระหม่อมไปกับท่านพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง” ตงฟางหลีบีบปลายแขนเสื้อ ลายผ้าที่บริเวณปลายแขนเสื้อถูกกดไว้ใต้นิ้วที่เรียวยาว โค้งงอจนเปลี่ยนเป็นภาพอื่น

ผู้หญิงคนนั้นจงใจบอกเขา นางตีสุนัขเพราะเจ้าของ นางตีสุนัขไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

ความหมายของประโยคนี้ชัดเจนยิ่ง

นางกำลังบอกเขาว่า เจ้านายของหงเย้าไม่ใช่เขา แล้วก็ไม่ใช่เสด็จแม่ แต่เป็นคนอื่น

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ผู้ซึ่งโด่งดังเรื่องความโง่เขลาแห่งเมืองหลวง ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของหงเย้าแล้ว

นางโบยหงเย้า เป็นเพราะต้องการจะตัดเส้นสายเช่นหงเย้า และถือโอกาสแก้แค้นพี่สาม

วิธีการนี้ ทั้งโหดร้าย ทั้งเฉียบขาด

โหดร้ายราวกับไม่ใช่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คนเดียวกันกับที่เขารู้จัก

นี่ช่างน่าสนุกเสียจริง

เขาจำต้องไปยืนยันให้แน่ใจอีกครั้ง ว่านางโง่จริงหรือว่าแกล้งโง่กันแน่

ตงฟางหลีกอดอก แขนเสื้อที่กว้างใหญ่ปลิวไหวไปตามแรงลม

เรือนโยวหลาน เป็นสถานที่ที่โกโรโกโสและเปล่าเปลี่ยวที่สุดในจวนอ๋อง หลังจากต้นไม้เหี่ยวเฉา ประตูหน้าต่างและกำแพงที่กระดำกระด่างก็ดูไร้ชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิม

ตอนนั้นที่จัดให้นางไปอยู่ในสถานที่ที่ไกลจากเขาและซอมซ่อที่สุด เป็นเพราะเพื่อให้ไกลหูไกลตา ก็จะไม่กระวนกระวายใจ

เขาผลักประตูใหญ่ที่มีความเก่าและซอมซ่อออก เดินเข้าไปในเรือน

ทันทีที่ก้าวเข้าไป ก็เห็นอาหารเหลือวางอยู่ที่หน้าประตูห้องแล้ว

เมื่อมีลมพัดโชยมา ใบไม้ที่เหลือบางส่วนก็ปลิวลงมา ร่วงลงในจานอาหาร ขับให้ความซอมซ่อของเรือนโยวหลานยิ่งทรุดโทรมลงอีกไม่น้อย

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นอาหารเหลือที่สุนัขยังไม่กินเหล่านั้น ก็เตะไปด้านข้าง ผลักประตูออก

ก็มีควันหนาทึบลอยออกมาจากด้านในห้องทันที เขาสำลักจนไออกมา

“เจ้ากำลังเผาอะไรอยู่รึ?” เขาถอยออกไป พักอยู่ครู่ใหญ่ถึงอาการดีขึ้น

ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังทำความสะอาดบาดแผลให้เฟ่ยชุ่ย เมื่อได้ยินเสียงของตงฟางหลี ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แน่นอนว่าต้องเป็นถ่านที่กำลังเผาไหม้สิเพคะ ถ่านคุณภาพต่ำควันค่อนข้างมาก ท่านอ๋องโปรดระวังเพคะ”

ตงฟางหลีเดินเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าถมึงทึง

นอกห้องกลิ่นฉุนมาก ด้านในห้องค่อยยังชั่ว

บนเตามีท่อที่ทำมาจากกระเบื้องท่อนหนึ่งวางอยู่ นำควันที่หนาทึบระบายออกไปด้านนอกห้อง ถ่านคุณภาพต่ำที่เดิมทีติดไฟได้ยากก็ทำให้เกิดเปลวเพลิงได้ ในเวลานี้เปลวไฟกำลังลุกโชน

“เจ้า ไปขอถ่านไม้จากห้องเก็บของมาจำนวนหนึ่ง” ตงฟางหลีหันเอ่ยกับเฟ่ยชุ่ย

เฟ่ยชุ่ยไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนร่างกายของ หลังจากคารวะแล้ว รีบเดินออกไปด้านนอก

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลุกขึ้น โค้งตัว คำนับเล็กน้อย “เหตุใดวันนี้ท่านอ๋องเจ็ดจึงมีเวลาว่างเพคะ? หม่อมฉันต้อนรับขับสู้ได้ไม่ดี ท่านอ๋องได้โปรดประทานอภัยด้วยเพคะ”

ตงฟางหลีจ้องนางอยู่ครู่ใหญ่ ๆ “เลิกเสแสร้งได้แล้ว”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 9

    “เหตุใดจึงโบยหงเย้า?” เขาเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“นางโบยสาวใช้ของหม่อมฉัน เหตุใดหม่อมฉันจึงโบยเขามิได้เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่งลง รินชาร้อนถ้วยหนึ่ง ใช้เล็บค่อย ๆ หยิบก้านชาออกมา “เพื่อสาวใช้คนหนึ่ง ท่านผู้เป็นท่านอ๋องถึงกับมาทวงความยุติธรรมด้วยองค์เองหรือเพคะ? ช่างน่าซาบซึ้งพระทัยยิ่งนัก”ตงฟางหลีได้ย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 10

    “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ มีเพียงเจ้า ที่ไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงชื่อนั้น” น้ำเสียงของตงฟางหลีเย็นชาเขาบีบคอแน่นขึ้น สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์เปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากหายใจไม่ออกฉินเหยี่ยนเย่ว์หายใจไม่ออก พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนสามารถมองเห็นใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน เธอมองความโศกเศร้าจากนัยน์ตาค

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 11

    ภายในเรือนโยวหลานเฟ่ยชุ่ยที่กำลังเก็บเศษซากแจกันที่แตกหักอยู่ด้วยหยาดน้ำตาคลอเบ้า พร้อมทั้งไหล่ทั้งสองข้างที่กำลังสั่นเทาเบา ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่นอนบนเตียงนั้น ได้แต่มองท่าทีผิดหวังของเฟ่ยชุ่ย ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เฟ่ยชุ่ย ข้ามิเป็นอันใด เจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว”เฟ่ยชุ่ยพลันซืดน้ำมูกเข้าไป “เดิมที

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 12

    “เจ้าลืมวันมงคลของทุกเดือนไปแล้วหรือ?” ตงฟางหลีกล่าว “วันรุ่งพรุ่งนี้ เจ้าจักต้องเข้าวังพร้อมกับข้า ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์และเครื่องประดับต่างก็จัดเตรียมเอาไว้ให้เจ้าครบหมดแล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่า วันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดินั้นเป็นวันยี่สิบสามของเดือนหนึ่ง ฉะนั้นแล้ววันที่

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 13

    “เฟ่ยชุ่ย พาคนไปอยู่ในที่อุ่น ๆ ที” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกำมือของตนเองเอาไว้แน่น “ข้ามิอาจสัมผัสเลือดได้ คุณทำเอง ได้หรือไม่?”เมื่อเฟ่ยชุ่ยได้ยินเช่นนั้น นางจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วในทันที "พระชายามิจำเป็นต้องลงมือเองก็ได้เพคะ บ่าวทำได้ บ่าวทำได้เพคะ”เฟ่ยชุ่ยจึงพาหู่พั่วไปที่ห้องของนางในทันทีฉินเหยี

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 14

    “เฟ่ยชุ่ย เจ้าไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของตนเองเสียก่อน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา “เจ้าไปดูแลหู่พั่วที่อยู่ในห้องให้ดี ข้าจักออกไปดูข้างนอกเสียหน่อย”“พระชายาเพคะ” ใบหน้าของเฟ่ยชุ่ยพลันซีดลงไปในทันที ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “พระชายาอ๋องสามหาได้มาดีไม่ อีกทั้ง นางยังพาแม่น

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 15

    “ทั้งหู่พั่วและเฟ่ยชุ่ยช่วงนี้ต้องเก็บตัวเพื่อรักษาอาการป่วยอยู่ มิอาจให้พบผู้ใดได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกล่าวออกมา “หากพวกนางรักษาตัวจนหายเมื่อใดแล้ว ข้าจักให้หู่พั่วไปที่จวนท่านอ๋องสามเพื่อขอเข้าเฝ้าเจ้าเอง”หลังจากได้ยินฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยออกมาเช่นนั้น มุมปากของฉินเสวี่ยเย่ว์พลันยกยิ้มได้ใจขึ้นมาใ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 16

    “อุ๊ยตาย ขออภัยด้วยเพคะ บ่าวทำงานหนักจนเคยชินแล้ว แรงเลยมากเกินไปหน่อย ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมเพคะ” แม้ปากของนางสกุลเฉินจะกล่าวขอโทษ แต่บนใบหน้าไม่ได้มีเจตนาขอโทษเลยสักนิดหลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์ยืนตรง ขมวดคิ้วแน่นยายเฒ่าผู้นี้ จงใจทำ จงใจออกแรงผลักไสนางการกระทำเมื่อครู่นี้ในมุมมองของคนนอกนั้นไม่ได้ท

최신 챕터

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1433

    บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1432

    ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1431

    เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1430

    นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1429

    ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1428

    ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1427

    ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1426

    ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1425

    “เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status