Share

บทที่ 16

Author: สายธารสะท้อนเงา
“อุ๊ยตาย ขออภัยด้วยเพคะ บ่าวทำงานหนักจนเคยชินแล้ว แรงเลยมากเกินไปหน่อย ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมเพคะ” แม้ปากของนางสกุลเฉินจะกล่าวขอโทษ แต่บนใบหน้าไม่ได้มีเจตนาขอโทษเลยสักนิด

หลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์ยืนตรง ขมวดคิ้วแน่น

ยายเฒ่าผู้นี้ จงใจทำ จงใจออกแรงผลักไสนาง

การกระทำเมื่อครู่นี้ในมุมมองของคนนอกนั้นไม่ได้ทำเลยเถิด หากนางคิดเล็กคิดน้อย คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน และมีชื่อเสียงว่าเป็นคนจิตใจคับแคบแพร่งพรายออกไป

นางสกุลเฉินราวกับมั่นใจแล้วว่านางทำได้แค่เพียงยอมรับชะตากรรม

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มเยาะ ยกมือขึ้น ตบฉาดเข้าไปที่บนใบหน้าของนางสกุลเฉินทีหนึ่ง

ฝ่ามือนั้น แรงไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยเช่นกัน เสียงตบหน้าที่ดังก้องไปทั่วในเรือน ทุกคนต่างพากันตกอกตกใจ

นางสกุลเฉินรู้สึกว่าบนใบหน้าทั้งเจ็บแสบและปวดร้อน นางกุมใบหน้าเอาไว้ สีหน้าอับอาย

ถูกคนที่เคยโง่เขลาตบหน้าแล้วหลอกจนหัวหมุนในสถานการณ์เช่นนี้ เกียรติของนางหายไปจนสิ้นซาก ก้นบึ้งของหัวใจเกิดความอาฆาตและเคียดแค้นขึ้น

“แค่บ่าวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง แม้แต่คำว่าได้โปรดยังพูดไม่เป็น?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยตำหนิ “ใช้การกระทำที่หยาบเช่นนี้กับข้า ผู้ใดสอนมารยาทให้เจ้ากัน?”

นางสกุลเฉินคนนี้นางจำได้ว่า เป็นมันสมองของฉินเสวี่ยเย่ว์ ชอบเสนอความคิดแย่ ๆ ทั้งยังชอบยุให้รำตำให้รั่วอีกด้วย เป็นเพราะยายแก่คนนี้ เจ้าของร่างเดิมจึงต้องเป็นแพะรับบาปแทนฉินเสวี่ยเย่ว์อยู่บ่อยครั้ง

“สิ่งของเหล่านี้เกรงว่าหู่พั่วคงไม่ได้ใช้ ยังไงก็เอากลับไปเถิด”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ห่อสัมภาระโยนใส่ตัวของนางสกุลเฉิน

“พระชายาอ๋องเจ็ด เป็นความผิดของบ่าวเองเพคะ” นางสกุลเฉินก้นบึ้งของหัวใจเกิดความเคียดแค้น แต่ภายนอกกลับทำท่าทีอ่อนโยน “เป็นบ่าวที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ บ่าวสมควรถูกโบยเพคะ ท่านได้โปรดรับห่อสัมภาระนี้เอาไว้ด้วยเถิดเพคะ นี่เป็นน้ำพระทัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พระชายาอ๋องสามมอบให้หู่พั่วเพคะ ท่านจะหยามเกียรติตามอำเภอใจมิได้นะเพคะ”

เมื่อเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังจะเดินไป ก็รีบคว้าข้อมือของนางเอาไว้

ฉินเหยี่ยนเย่ว์สีหน้าเย็นยะเยือกทันที

นางสกุลเฉินทำรุนแรง ราวกับกำลังแก้แค้น ออกแรงทั้งหมดบีบข้อมือของนางเอาไว้

เจ้าของร่างเดิมร่างกายผอมบาง อ่อนแอมาก ทันทีที่ถูกยายแก่คนนี้บีบ ข้อมือเรียวเล็กก็แทบจะหัก

“ปล่อยมือ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตะคอก

“พระชายาอ๋องเจ็ดได้โปรดรับห่อสัมภาระเอาไว้ด้วยเพคะ” นางสกุลเฉินออกแรงมากกว่าเดิม

ฉินเหยี่ยนเย่ว์สีหน้าเปลี่ยนไป

เดิมทีนางไม่อยากทำร้ายผู้ใด ยิ่งไม่อยากจะสร้างปัญหาขึ้นในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้

แต่ นางสกุลเฉินคนนี้อาศัยความแข็งแกร่งและแรงเยอะของตนเอง พยายามจะบีบข้อมือของนางให้หัก ยังใช้สิ่งนี้เพื่อข่มขู่นางอีก

“ข้าขอพูดครั้งสุดท้าย ปล่อยมือ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพิ่มระดับเสียง

นางสกุลเฉินยังคงไม่ปล่อยมือ

ข้อมือถูกบีบรีดจนเป็นสีเขียว กระดูกถูกบีบเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัด ความรู้สึกเจ็บปวดโจมตีมาเป็นระลอก ขืนถูกนางบีบรัดเช่นนี้ต่อไปอีก เกรงว่ามือข้างนี้จะต้องพิการเป็นแน่

ฉินเหยี่ยนเย่ว์สีหน้าเย็นเยือก ในมืออีกข้างหนึ่งมีมีดที่ทั้งบางและคมกริบราวกับใบหลิวเล่มหนึ่ง

นางจับมีดเอาไว้ เฉือนเข้าไปที่นิ้วมือของนางสกุลเฉินที่จับข้อมือของนางเอาไว้

นิ้วสามนิ้วถูกตัดขาดทันที

นิ้วที่ขาดตกลงท่ามกลางหิมะสีขาว เกล็ดหิมะละลายภายในพริบตา

เลือดสด พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของนางสกุลเฉิน กลายเป็นสีแดงสดทั้งผืน

หลังจากมองเห็นเลือดสีแดงสด อาการกลัวเลือดของฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง นางรีบถอยหลังไปหลายก้าว นำมีดโยนลงบนพื้น นำมือซุกไว้ในแขนเสื้อเพื่อปิดบังอาการสั่นเทา

นางสกุลเฉินจ้องมองนิ้วมือที่ถูกตัดขาดด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

นิ้วทั้งสามนอนอยู่บนพื้นอย่างสงบเงียบ เลือดสีแดงสดไหลรินไม่หยุดราวกับสายน้ำไหล ไม่เพียงย้อมจนพื้นกลายเป็นสีแดงเท่านั้น ยังย้อมเสื้อผ้าด้วย

จากนั้น ภายในเรือนก็มีเสียงร้องดั่งหมูที่ถูกเชือดดังขึ้น น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง

นิ้วทั้งสิบเชื่อมต่อกับหัวใจ ความรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงจากนิ้วที่ขาดลุกลามไปทั่วทั้งตัว นางสกุลเฉินเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้น พลางกลิ้งพลางร้องคร่ำครวญ เมื่อถึงตอนท้ายแรงยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ จนหมดสติไป

เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเร็วมาก ดูเหมือนว่าผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่พ่ายผอมจะกระทำเรื่องเช่นนี้ได้

พวกเขามองหน้ากัน ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ผู้ใดก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูด

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยายามรักษาความสุขุมของตนเองเอาไว้ นางมองตรงไปทางแม่นมของกงเจิ้งซือที่อยู่ตรงหน้า

“แม่นม พระพันปีหลวงออกกฎหมาย มาเพื่อใช้สำหรับปกป้องพวกเขา มิใช่ให้บ่าวไพร่ทำตัวข้ามหน้าข้ามตา ข้อนี้เจ้าคงจะรู้ดียิ่งกว่าข้า หากนางไม่ลงมือกับข้าก่อน ข้าก็คงมิต้องรุนแรงเช่นนี้”

นางยื่นมือออกไป บนข้อมือที่สั่นเทาไม่หยุดมีรอยฟกช้ำปรากฏขึ้น เมื่อได้เห็นก็ตกใจ

“นางสกุลเฉินทำรุนแรง เมื่อครู่นางใช้แรงเพื่อจะหักข้อมือของข้า หากข้าไม่ต่อต้าน เกรงว่าแขนข้างนี้คงจะพิการไปแล้ว นี่คือข้อแรก ข้อสอง นางสกุลเฉินเป็นบ่าวไพร่ กลับผลักไสข้าก่อน ทั้งยังคิดจะหักข้อมือของข้าอีก ข้าทำเช่นนี้เพื่อป้องกันตนเอง ไม่มีทางเลือก กงเจิ้งซือเป็นผู้ยุติธรรมที่สุด จะถูกหรือผิด แม่นมน่าจะเห็นได้ชัดเจน”

สีหน้าของแม่นมเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กลับหาข้อโต้แย้งไม่ได้

“ฉินเหยี่ยนเย่ว์” ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่โมโหจนใกล้เป็นบ้า

วันนี้นางเตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบเสียเอง

นางสกุลเฉินถูกตัดนิ้วขาดสามนิ้ว ยังหมดสติไปแล้ว จะเป็นหรือตายก็ยังไม่แน่ชัด

หากนางสกุลเฉินตาย ก็เป็นเพียงการตัดแขนข้างซ้ายและขวาของเธอเท่านั้น

ฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองฉินเสวี่ยเย่ว์ที่ลนลานอย่างเห็นได้ชัด เอ่ยเยาะหยัน “ขอเตือนเจ้าให้รีบพานางไปหาท่านหมอ หากทำแผลทันเวลายังสามารถช่วยชีวิตนางเอาไว้ได้ หากห้ามเลือดไม่ทัน นางอาจจะตายเนื่องจากเสียเลือดมากจนเกินไป”

“แน่นอนว่า หากพระชายาอ๋องสามยืนกรานที่จะไม่ช่วยชีวิตนาง ถึงขั้นได้ทีขี่แพะไล่ นางสกุลเฉินคงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แม่นมของกงเจิ้งซือ รบกวนท่านช่วยเป็นพยานให้ด้วย เมื่อครู่นี้ข้าเพียงป้องกันตนเอง ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ถึงแก่ชีวิต โปรดส่งตัวนางไปรักษาให้ทันเวลาด้วย”

“พระชายาอ๋องสาม ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่าเพคะ” แม่นมเอ่ยเสียงขรึม

ฉินเสวี่ยเย่ว์โมโหจนตัวสั่นระริก

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรงหน้า ราวกับไม่ใช่คนเดียวกันกับโง่เขลาคนนั้นในสมัยก่อน

นางเฉยชา สายตาดุดันน่ากลัว น้ำเสียงเย็นเยือกราวกับมีด นางไม่ใช่คนที่ไม่เอาโล้เอาพาย โง่เขลาอีกต่อไป แต่เป็นปีศาจร้ายที่กลับมาจากนรก ทั้งน่ากลัวทั้งโหดเหี้ยม

ความรู้สึกหวาดกลัวเมื่อครั้งก่อน ไม่ใช่ลางสังหรณ์

ฉินเสวี่ยเย่ว์แอบกัดฟัน จ้องมองเลือดที่ไม่หยุดไหลของนางสกุลเฉิน รู้ดีว่าจะชักช้าต่อไปอีกไม่ได้ จึงโบกมือ แล้วพาตัวออกไป

ฉินเหยี่ยนเย่ว์นำห่อสัมภาระนั้นโยนให้บ่าวชราที่เดินรั้งท้ายสุด “ท่านป้า เสื้อผ้าและเครื่องประดับภายในห่อสัมภาระนี้มอบให้ท่านแล้ว”

หลังคำโกหกของบ่าวชราถูกเปิดโปงก็จิตใจไม่สงบสุข เกรงว่าจะถูกฟ้องร้อง

ไม่ง่ายเลยกว่าจะรอให้เรื่องราวจบลง ตอนที่ถอนหายใจได้อย่างโล่งอก ก็ถูกพระชายาอ๋องเจ็ดโยนห่อสัมภาระมาให้

นางไม่กล้ารับเอาไว้ ตอนที่คิดจะคืนให้แก่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ปิดประตูด้านนอกลงดัง“ปัง”

“พระชายาอ๋องสาม ท่านดู...” บ่าวชราจิตใจไม่สงบสุข

“เจ้าก็เอาไปเถิด” ฉินเสวี่ยเย่ว์เหลือบมองนางด้วยความรังเกียจแวบหนึ่ง “เรื่องราวในวันนี้ ทางที่ดีก็ขอให้มันตายไปกับเจ้า ไม่เช่นนั้น...”

บ่าวชรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง หอบห่อสัมภาระแล้วหายตัวไปท่ามกลางพายุหิมะ

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พิงอยู่ข้างประตู เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกหายไปถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เฟ่ยชุ่ยที่อยู่หน้าประตูที่ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด สีสันแสบตาเต็มเบื้องหน้า ร่างกายที่พยายามฝืนทนในที่สุดก็ถึงขีดจำกัด นางทรุดตัวนั่งลงไป

“พระนาง” เฟ่ยชุ่ยเปิดประตูอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นเลือดสีแดงสดเต็มประตูก็ตกอกตกใจ น้ำเสียงเปลี่ยนไปทันที “ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมเพคะ? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่เพคะ?”

“ไม่เป็นอะไร” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลูบปลายจมูก “เฟ่ยชุ่ย จัดการเลือดที่อยู่ตรงประตูให้เรียบร้อยก่อน”

เมื่อนางเห็นสายตาที่เป็นกังวล จึงเอ่ยปลอบ “วางใจ เลือดกองนี้มิใช่ของข้า ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บ”

เพียงแค่เท้าหน้าเพิ่งถูกเลือดบนตัวของหู่พั่วกระตุ้นทีหนึ่ง ก็ถูกเลือดของนางสกุลเฉินกระตุ้นอีกครั้ง ร่างกายจึงสั่นเทารุนแรงขึ้น จนหมดเรี่ยวแรง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 17

    “พระนาง บ่าวจะประคองท่านเข้าเรือนก่อนเพคะ” ตอนที่เฟ่ยชุ่ยเดินเข้ามา รองเท้าได้สัมผัสกับรอยเลือดแล้วรอยเท้าประทับลงไปบนพื้นหิมะ ทำให้สีค่อย ๆ จางลงสีขาวซีดและสีแดงสด สีสันที่อยู่ภายในความทรงจำมาโดยตลอด สีเหล่านั้น เป็นสีที่เข้าใกล้กับความตายมากที่สุดฉินเหยี่ยนเย่ว์จ้องมองเลือดสีแดงสดที่ใกล้เข้ามาเ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 18

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์จิตใจไม่สงบนางไม่อยากทนรออีกต่อไป จึงสวมเสื้อคลุม ถือตะเกียงแล้วเดินไปทางห้องครัวใหญ่เปลวไฟภายในห้องครัวใหญ่กำลังส่องสว่างตอนนี้เป็นเวลาอาหาร คนในจวนท่านอ๋องเจ็ดไม่มาก หลังจากที่ส่งอาหารไปให้บรรดาเจ้านายแล้ว ก็เป็นเวลาที่บรรดาบ่าวรับใช้ทานอาหารตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ผลักประตูเข้ามา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 19

    เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ท่าทางดูอ่อนแอจะสามารถพลิกคว่ำโต๊ะได้ ยิ่งคิดไม่ถึงว่า นางจะมีกำลังมากถึงขนาดนี้หม้อไฟและหม้อน้ำแกงเนื้อวัวที่อยู่บนโต๊ะ ไม่ว่าจะตกอยู่บนตัวของผู้ใด ก็อันตรายยิ่งต่อให้เป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำในห้องครัวหลาย ๆ คนก็ไม่กล้

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 20

    “ผู้ที่โดนน้ำร้อนลวกสองสามคนนั้น พวกเจ้าไปจัดการตนเองเสียก่อน ที่ข้ามียาสูตรลับ ทาแล้วแทบจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ หากทำตัวดีข้าจะให้ยาสูตรลับแก่พวกเจ้า หากทำตัวไม่ดี เช่นนั้นก็อย่าได้โทษข้า”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดจบ ก็พาคนไปที่ห้องเลี้ยงนกพิราบภายในห้องครัวเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง พวกเขาถูกทำให้ตกตะลึง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 21

    “พวกเจ้าสองคน ปลุกเขาให้ตื่น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำหมัดแน่น“พระชายา เป็นไปไม่ได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ เขาดื่มสุราจนเมามายปลุกไม่ตื่น ต้องรอให้สุราหมดฤทธิ์พ่ะย่ะค่ะ” ผู้ชายคนหนึ่งกล่าว “พวกเราไปตามหาแม่นางเฟ่ยชุ่ยกันต่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“พวกเข้าไปยกน้ำเย็นจัดมาหนึ่งกะละมัง เอาแบบที่มีเศษน้ำแข็งด้วย” ฉินเหยี่ยนเย่ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 22

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก้มหน้าจ้องมองเศษกระดูกที่อยู่ด้านข้าง รวมทั้งจานและกล่องอาหาร ที่ตกกระจัดกระจายอยู่ด้านข้างคิดว่าเป็นเพราะตาแก่นั่นคงมีอาการติดสุรา เมื่ออาหารเลิศรสที่อยู่ภายในกล่องอาหารก็ควบคุมตนเองไม่ได้ อยากจะลิ้มรสอาหารรสเลิศก่อน หลังจากที่กินอิ่มหนำสำราญแล้วค่อยกระทำการอันป่าเถื่อนต่อเฟ่ยชุ่ย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 23

    ยายแก่ผู้เป็นหัวหน้าพลันส่งสายตาไปให้บุรุษร่างใหญ่ทั้งสองคนในทันที บุรุษร่างใหญ่ทั้งสองมิกล้าคิดแข็งข้ออีกต่อไป พลางรีบส่งตัวตาเฒ่าหลานจอมขี้เมาไปยังห้องตอนขันทีในชั่วข้ามคืน เฟ่ยชุ่ยหาได้รับอันตรายใด ๆ ไม่ นางเพียงแต่มีอาการตกใจจนหน้าตาซีดขาวเพียงเท่านั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบหลังมือของนางเล็กน้อย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 24

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงได้แต่มองนางด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งยายเฒ่าตระกูลซูกินอาหารจนเกลี้ยงมิมีเหลือ “ตัวเองทำตัวเองแท้ ๆ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวออกมาลอย ๆ “นับว่าโชคดีที่เฟ่ยชุ่ยหาได้เป็นอันใดไม่ พวกเจ้าเองก็ได้รับบทเรียนกันแล้ว เช่นนั้นข้าจักไม่ติดใจเอาความอันใดอีก”“ทว่า หากยังมีครั้งต่อไปอีก” น้ำเสียงข

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1433

    บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1432

    ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1431

    เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1430

    นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1429

    ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1428

    ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1427

    ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1426

    ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1425

    “เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status