ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะจับมือตงฟางหลีแล้วเดินตามเขาเข้าไปในรถม้ารถม้าจึงค่อย ๆ แล่นออกจากจวนอ๋องไปตู้เหิงมองรถม้าที่แล่นออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะลูบหน้าตาของตนเอง “ท่านอ๋องให้อภัยข้าแล้วใช่หรือไม่?”“ข้าก็กลับมาเฉย ๆ เช่นนี้หรือ? ดูเหมือนจะไม่ค่อยน่าอายเท่าไหร่เลยหนิ ฮ่าฮ่า เฟยอิ
หลังจากที่เหล่าอันธพาลไล่ล่าพวกเขาไปจนถึงชานเมืองนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถหาร่องรอยของพวกตู้เหิงได้อีกต่อไปทุ่งนาที่ว่างเปล่า รวมถึงสุนัขล่าเนื้อก็มิอาจดมเจอกลิ่นใด ๆ ได้เหล่าอันธพาลที่พยายามเดินหาอยู่นั้น เมื่อเห็นว่าไม่เจอใครแล้วจริง ๆ จึงได้ทยอยพากันเดินกลับตู้เหิงและเฟยอิ่งที่ใช้ความพยายามเป็นอย
แม่เหล้าหวังที่ได้เตรียมฟืนเอาไว้ต้มน้ำเรียบร้อยแล้วนั้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางก็มีท่าทีไม่พอใจไปในทันที “ไฟก็จุดไปแล้ว เจ้าจักพูดว่าไม่อาบไม่ได้นะ”“ข้าจ่ายเงินให้ไม่ได้หรือ? แหวะ น่าขยะแขยงยิ่งนัก เหตุใดก่อนหน้านั้นข้าถึงคิดไม่ได้กัน?” ตู้เหิงหยิบข้าวของที่อยู่บนตัวทั้งหมดออกมา “พวกข้าไม่อาบแล้ว ท
“ผู้ใดกันมาเคาะประตูในยามนี้”แม่เล้าภายในหอนางโลมที่กำลังอ้าปากหาวออกมาเปิดประตู ยามที่นางเห็นตู้เหิง ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของนางจึงประดับประดาไปด้วยรอยยิ้ม “ข้าก็ว่า ผู้ใดกันจักมาเคาะประตูยามเช้าตรู่เช่นนี้ ที่แท้ก็ท่านตู้นี่เอง อั๊ยหยา ครานี้ยังพาหนุ่มน้อยรูปงามมาด้วยอีก เชิญด้านในเลยเจ้าค่ะ”“เจ้าไ
“เจ้าหมายความว่า เจ้าจะไม่กลับไปงั้นหรือ” เฟยอิ่งจิบชาไปหนึ่งคำ“หากเป็นเช่นนั้นก็ดี ข้าจักได้ทำความสะอาดห้องของเจ้าด้วย เพื่อที่จีอู๋เยียนจักได้มีห้องพัก” เฟยอิ่งเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย “พระชายาได้ตัดสินใจให้จีอู๋เยียนเป็นองครักษ์ของพระนาง”“จีอู๋เยียนเป็นองครักษ์ของพระชายาหรือ?” มือของตู้เหิงที่ถ
“ข้านำสุรามาเพียงแค่ไหเดียวเท่านั้น” เฟยอิ่งกล่าว “ข้าดื่มเพียงจอกเดียวก็พอ หากดื่มมากเกินไปจะทำให้ตอบสนองช้า อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้”“หากไม่ร่ำสุราชีวิตนี้จักไปมีประโยชน์อันใด” ตู้เหิงพึมพำกล่าวออกมา “มามา หมดแก้ว”เฟยอิ่งที่ไม่มีทางเลือกนั้น จึงได้แต่นั่งดื่มเป็นเพื่อนกับเขาตู้เหิงที่ร่ำสุราไป