LOGINจากนั้นชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาในสายตานาง ก็เดินเข้ามาและกล่าวด้วยน้ำเสียงของอ่อนโยน ใบหน้าไม่งดงามเท่าเศษเสี้ยวของท่านเทพ ทำให้อ้ายปิงรู้ว่าที่แท้มนุษย์ก็ชอบปลูกผมบนใบหน้า
พวกเขาไม่ใช่สัตว์ร้ายแปลงกลายมาเหมือนที่นางตกใจกลัว แต่ว่านางชอบใบหน้าสง่างามและเกลี้ยงเกลาแบบท่านเทพจื่อเสินมากกว่าอยู่ดี
ได้ยินว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของนาง อ้ายปิงค่อนข้างตื่นเต้นเพราะนางเคยอ่านเกี่ยวกับ ‘การฉลองวันเกิด’ ของมนุษย์มามาก
ในตอนที่ยังอยู่ที่เรือนของท่านเทพ มีอยู่สองสามครั้งที่ท่านเทพเชิญผู้คนมาร่วมเฉลิมฉลองวันประสูติของท่าน แต่นั่นเพียงหมื่นปีต่อครั้ง ทำให้อ้ายปิงคิดว่ามนุษย์ที่ชอบจัดงานวันเกิดทุกปีนั้นช่างสิ้นเปลืองเหลือเกิน และสงสัยว่าทำไมพวกเขาไม่จัดงานวันเกิดทุก ๆ หมื่นปีเหมือนท่านเทพ
แต่เมื่อถึงวันเกิดครบรอบหนึ่งปีของนาง อ้ายปิงก็ทั้งผิดหวังและเสียใจ เมื่อสิ่งที่เห็นไม่เป็นอย่างที่คิด ท่านพ่อท่านแม่เพียงจัดเลี้ยงบนโต๊ะอาหารเล็ก ๆ มีกับข้าวห้าอย่าง และบะหมี่อายุยืนชามเล็ก ๆ ให้นางกินเท่านั้น นี่ไม่เหมือนกับที่นางคิดไว้เลย คิดว่าพวกเขาจะจัดงานใหญ่โตเหมือนอย่างในเรือนของท่านเทพเสียอีก
ถึงจะผิดหวังแต่มันก็ทำให้อ้ายปิงเริ่มเข้าใจแล้วว่า ความยากจนของครอบครัวนั้นเป็นของจริง ขณะที่นางเผลอหลับไปหลังดื่มน้ำนมถั่วเหลืองที่ท่านแม่นำมาให้
เสียงหนึ่งก็ปลุกอ้ายปิงในตอนเช้าอย่างไม่คาดคิด เสียงในหัวนางที่ดังก้องทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในขณะเดียวกัน
[สวัสดีนายหญิง ข้าเป็นจิตวิญญาณอาวุธขั้นสูงของท่านที่ถูกเรียกว่าระบบ เปิดใช้งานระบบปลูกผักทำฟาร์มขั้นเทพ เพื่อเริ่มภารกิจแล้ววันนี้]
วันนี้เป็นเช้าที่สดใส แต่เสียงที่ปลุกให้ตื่นจากนิทรา ไม่ใช่เสียงแม่นมเหลียนที่คุ้นเคยตลอดหนึ่งปี กลับเป็นเสียงแปลกหูที่ขานเรียกนางว่า ‘นายหญิง’
‘เกิดอะไรขึ้น’ ทันทีที่ตื่นขึ้นมา อ้ายปิงก็อยากจะตะโกนออกมา แต่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนเองเป็นเพียงเด็กมนุษย์อายุปีเดียวเท่านั้น จึงได้แต่ร้องตะโกนอยู่ในใจ
[นายหญิง ข้าคือระบบปลูกผักทำฟาร์มขั้นเทพ ที่ท่านเทพแห่งการเพาะปลูกได้สร้างขึ้นเพื่อเตรียมส่งไปทำภารกิจชั้นสูงในแดนมนุษย์ที่แร้นแค้น และท่านก็กลายเป็นนายหญิงของข้า ดังนั้นจึงถูกส่งมาทำภารกิจตามประสงค์ของสวรรค์ขอรับ]
อ้ายปิงชะงักไปเล็กน้อย มองซ้ายมองขวาไม่พบว่ามีใครอยู่ในห้องเล็ก ๆ ของตนจริง ๆ สุดท้ายจึงเพ่งมองเข้าไปในจิต ก่อนต้องแปลกใจเมื่อเห็นบางสิ่งในห้วงจิตของตน
‘เจ้าเป็นใคร หรือเป็นอะไร’
[นายหญิง ข้าเป็นจิตวิญญาณอาวุธขั้นสูงที่ถูกเรียกว่าระบบ คอยให้ความช่วยเหลือในการทำภารกิจของท่านให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี]
‘ระบบ เจ้าพูดว่าระบบงั้นหรือ’ อ้ายปิงเบิกตากว้าง ไม่รู้ว่าควรมองที่ไหน จู่ ๆ ตรงหน้าก็สว่างวาบ จอสีฟ้าปรากฎขึ้น ซ้ำยังคุ้นตาจนความทรงจำแปลก ๆ ผุดขึ้นมาในหัว
‘อ่า เจ้าคือระบบจริงๆ นี่คือหน้าจอระบบ เกมปลูกผักที่ข้าเคยเล่นจริง ๆ ด้วย’ อ้ายปิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นางไม่คิดว่าก่อนที่ตนเองจะกำเนิดเป็นเซียนน้อยไปอยู่ข้างกายท่านเทพ แท้จริงแล้วนางยังมีอีกตัวตนหนึ่ง
‘โปรแกรมเมอร์สาว’ นั่นคือตัวตนของนางและเป็นผู้สร้างเกมปลูกผักชื่อดังที่มียอดขายถล่มทลาย และภาพหน้าจอโฮโลแกรมสีฟ้าตรงหน้า ก็มีรูปลักษณ์เหมือนเกมปลูกผักที่นางสร้างในชาตินั้นพอดี
อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ บังเอิญจนนางไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ
‘เกมปลูกผักของฉัน…ของข้า ระบบ และ ภารกิจ นี่ข้าต้องทำอะไรกันแน่ระบบ’
[นายหญิงมีหน้าที่เก็บเกี่ยวค่าความอุดมสมบูรณ์ของดาวดวงนี้ ซึ่งก็คือเงินตราของโลกเพื่อส่งมอบเป็นค่าความดีที่ท่านได้กระทำ เมื่อค่าความดีครบตามเป้าหมาย ท่านจึงจะสามารถจุติกลับคืนเป็นเทพที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง]
‘แปลว่าข้าต้องปลูกผักและขายแลกเงิน เพื่อกลับไปยังแดนเทพงั้นสิ’
[เป็นเช่นนั้น แต่เป้าหมายหลักของระบบคือการช่วยเหลือมนุษย์โลกที่แร้นแค้น ดังนั้นราคาของผลผลิตจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว]
อ้ายปิงนิ่งไปชั่วขณะ กระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้น ก่อนแม่นมเหลียนจะเดินเข้ามาข้างเตียง
“คุณหนู ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ นายท่านและนายหญิงรอท่านอยู่ มาเถอะเจ้าค่ะ”
อ้ายปิงถูกอุ้มให้ลุกขึ้น นางได้รับการปรนนิบัติจากแม่นมเหลียนอย่างดี ล้างหน้าและแต่งกายพร้อมทำผมให้ ก่อนจะอุ้มออกไปยังห้องทานอาหารในเรือนหลัก ขณะที่อ้ายปิงยังทำใจรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่ได้เลย
จวนสกุลหนี่ว์นั้นมีพื้นที่กว้างพอสมควร แม้จะยากจนแต่นั่นก็เพราะพื้นที่ทำการเกษตรของจวนแห้งแล้ง แต่ต้นตระกูลหนี่ว์มองการณ์ไกล
อ้ายปิงถูกแม่นมเหลียนอุ้มไปที่ห้องหลัก นางยังมีแม่นมเหลียนคอยป้อนอาหารเด็กอ่อน ยังมีน้ำเต้าหู้ให้ดื่มทั้งเช้าและเย็น บ่งบอกว่าท่านแม่ใส่ใจสุขภาพของเด็ก ๆ อย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ผู้ใหญ่ทุกคนในบ้านล้วนมีรูปร่างผ่ายผอม บ่งบอกถึงความอดอยาก “ปิงเอ๋อร์ไม่ชอบกินเต้าหู้ แต่ชอบกินน้ำเต้าหู้ ต่อไปคงต้องหาอย่างอื่นมาให้นางกินนะแม่นมเหลียน” หลี่เอินผู้เป็นมารดาคอยสังเกตบุตรสาวหลายรอบแล้ว ดูเหมือนอ้ายปิงจะไม่ชอบกินเต้าหู้ หากวันใดมีเต้าหู้เป็นอาหารนางมักกินได้เพียงครึ่ง “เจ้าค่ะฮูหยิน บ่าวคิดว่าคุณหนูไม่เลือกกิน คงมีแต่เต้าหู้ที่กินได้ไม่มาก คงเพราะไม่ชื่นชอบจริงๆ” “ปิงเอ๋อร์กินผักง่ายกว่าอาหรงจริงๆ” หลี่เอินเห็นด้วยทันที อ้ายปิงได้ยินมารดาสนทนากับแม่นมก็อยากจะบอกว่านางไม่ชอบกินเต้าหู้แต่ไหนแต่ไรแล้ว ชอบกินผักผลไม้กับเนื้อสัตว์ อย่างที่มักจะกินตอนอยู่กับท่านเทพ เมื่อนึกถึงตรงนี้ดวงใจก็ปวดแปลบ คิดถึงท่านเทพเหลือเกิน ไม่รู้อีกนานแค่ไหนกว่าจะสามารถกลับไปได้ มีแต่ต้องรอให้หมดสิ้นอายุขัยเท่านั้น ซ้ำยังต้องรีบสั่งสมความอุดมสมบูรณ์เพื่อให้ภารกิจสำเร็จจึงจะกลับ
“มีเรื่องอะไรดีดีหรือเจ้าคะคุณหนู แต่น่าแปลกช่วงนี้เหมือนมีฝนปรอย ๆ ในตอนเช้า พื้นดินชุ่มฉ่ำไปหมด นายท่านกล่าวว่าปีนี้จะแล้งกว่าทุกปีแท้ๆ” “นมๆ อุ้มๆ” อ้ายปิงหันไปยิ้มยิงฟันให้แม่นมเหลียน ก่อนปล่อยให้นางช่วยแต่งตัว เสื้อผ้าที่สวมใส่ตอนนี้ก็เป็นฝีมือเย็บปักของท่านแม่ทั้งนั้น แม้เนื้อผ้าจะธรรมดาไปบ้าง แต่สีสันก็สวยงามเหมาะกับวัยเด็กจริง ๆ ตอนนี้ผมนางเริ่มยาวขึ้นมาบ้างแล้ว เนื่องจากแม่นมช่วยทาน้ำมันอะไรสักอย่างบำรุงทุกวันตั้งแต่เกิด ผมจึงดกดำดีเหลือเกิน เมื่อหันมองร่างอวบในคันฉ่องจนพอใจถึงปล่อยให้แม่นมเหลียนอุ้มไปหาท่านแม่เหมือนทุกวัน เนื่องจากเด็ก ๆ ในบ้านยังเล็ก จึงยังไปกินอาหารที่เรือนหลักทุกมื้อ กระทั่งพี่ชายอ้ายหรงซึ่งต้องไปเรียนและซ้อมวิชาต่อสู้ทุกวัน ยังต้องกลับมากินข้าวให้ทันเวลา วันนี้อ้ายปิงใช้ชีวิตอย่างสบายใจเพราะไม่ต้องคอยระแวงเพื่อเข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตในเกมอีกแล้ว นางจึงตัดสินใจจะเข้าไปดูแค่ก่อนนอนเท่านั้น ลืมไปเสียสนิทว่ายังมีสิทธิ์หมุนวงล้อเหลืออยู่อีกอัน วันนี้พี่ชายได้กระรอกตัวน้อยกลับมาตัวหนึ่ง แต่เมื่อเขาปล่อ
ตอนนี้อ้ายปิงยังเล็กนักคงไม่สามารถออกไปส่งน้ำพลังปราณยังพื้นที่อื่นได้ แต่ขอเพียงที่ดินของบ้านหนี่ว์อุดมสมบูรณ์ ก็สามารถหาเงินได้มากอย่างแน่นอน แต่จะปลูกเพียงผักเพื่อดองรอขายให้กองทัพคงไม่เหมาะนัก สงสัยนางต้องออกแนวคิดใหม่ให้ท่านแม่เสียแล้ว เพราะตอนนี้มีเพียงท่านแม่ที่มีอำนาจสั่งการในบ้าน คิดแล้วก็ต้องเร่งลงมือ อ้ายปิงในวันนี้ไม่ได้เล่นกับพี่ชาย หลังอาหารเที่ยงนางก็เข้าไปเก็บเกี่ยวข้าวโพดอีกครั้ง ก่อนเอ่ยเสียงอ้อแอ้คุยกับมารดา “อ้านแอ้ อ้านแอ้” ‘บัดซบ’ อ้ายปิงพบปัญหาใหญ่เสียแล้ว ตอนนี้นางยังเด็กเกินไปจริง ๆ จึงไม่อาจสนทนาและบอกความคิดของตนกับคนอื่นได้ เมื่อมารดาเห็นลูกสาวอยากคุยด้วยก็ก้มลงมาอุ้ม ก่อนพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ให้บุตรสาวฟัง จากนั้นก็หยิบสะดึงและเข็มปักผ้ามาจับมือสอนบุตรสาวช้า ๆ ไม่นานอ้ายปิงก็ถูกเข็มปักผ้าดึงดูด บ่อยครั้งที่นางปักโดนมือตัวเองแต่ก็เพียงสะดุ้งเท่านั้น กลับรู้สึกว่าการปักผ้าก็เพลินดีเหมือนกันนะ กว่าจะรู้ตัวนางก็กลับมานอนบนเตียงเพื่อเตรียมเข้านอนแล้ว อ้ายปิงเปิดหน้าจอขึ้นมาเก็บเกี่ยวข้าวโพดชุดสุดท้าย ก่อน
‘หมุนอีกรอบ’ นางสั่งในทันทีเพราะเริ่มหมดความอดทนแล้ว อีกทั้งยังเลิกคาดหวังเพราะอย่างไรก็ได้ของดีอย่างแหวนมิติมาแล้วชิ้นหนึ่ง แต่จะใช้ยังไงหรือให้ใครใช้ก็ค่อยคิดอีกทีหนึ่งเช่นกัน แต่คราวนี้กลับผิดคาด หัวลูกศรค่อย ๆ หยุดลงในพื้นที่สีฟ้าซึ่งนางไม่เคยได้มาก่อน ทำให้อ้ายปิงลุ้นอยู่บ้างว่าจะได้รับอะไรในรอบนี้ [ยินดีด้วยได้รับ บ่อ‘น้ำพลังปราณ’ ซึ่งสามารถนำออกไปใช้นอกพื้นที่เพื่อปรับปรุงดินให้เหมาะกับการเพาะปลูกได้ หากพื้นดินแห้งแล้งได้รับการบำรุงด้วยน้ำพลังปราณเจือจางครบร้อยวัน จะกลายเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์นับร้อยปี] คราวนี้ของที่ได้ทำอ้ายปิงอ้าปากค้างอย่างแท้จริง นี่ใช่มั้ยวิธีการหาเงินและเก็บเกี่ยวความอุดมสมบูรณ์ของนาง ‘ท่านเทพ ข้ามีวิธีกลับไปหาท่านแล้ว รอข้าอีกสักนิดนะเจ้าคะ’ ชีวิตเรียบง่ายของเทพน้อยตกสวรรค์อย่างอ้ายปิงก็เพียงใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์แรกเกิดไปวัน ๆ เท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งนางก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองยังมีบางสิ่งติดมาด้วย สิ่งที่เรียกตนเองว่าระบบปลูกผักทำฟาร์มขั้นเทพ ตอนแรกนางคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าระบบสามารถทำอะไรได้
แต่ว่าผลผลิตจากในเกมนั้นไม่สามารถนำออกมาด้านนอกได้ แต่สามารถขายในร้านค้าของระบบเพื่อขยายฐานการผลิตแล้วจึงจะสามารถนำเหรียญในเกมที่ได้รับมาหมุนวงล้อเพื่อสุ่มของใช้ออกมาใช้ในโลกจริงได้เท่านั้น กล่าวคือเล่นเกมเพื่อเอาเหรียญในเกม จากนั้นก็นำไปแลกกับสิทธิ์หมุนวงล้อสุ่มของวิเศษ ถึงจะนำของวิเศษออกมาใช้นอกเกมได้ [ตอนนี้มีการสุ่มวงล้อฟรีหนึ่งครั้งต่อวัน ยอดคงเหลือสี่ครั้ง เจ้านายต้องการหมุนวงล้อเลยหรือไม่] ‘ยังก่อน’ ตอนนี้อ้ายปิงให้ความสนใจกับฟาร์มอยู่ นางมองช่องที่ระบบมอบให้เริ่มต้น มีเพียงหนึ่งช่องเท่านั้น หากต้องการขยายช่องก็ต้องใช้เหรียญ หากต้องการปลูกพืชก็ต้องใช้เหรียญ ช่างเป็นระบบเกมหน้าเลือดเสียจริง ความจริงเกมที่นางสร้างขึ้นก็มีความคล้ายคลึงกัน เพียงแต่ในเกมจะใช้เหรียญเพื่อสุ่มของวิเศษและของตกแต่งฟาร์มเท่านั้น ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่มันเป็นตัวกำหนดชีวิตของนางไปเสียแล้ว หญิงสาวดูเมล็ดพันธุ์ในร้านค้าระบบ มันมีราคาซื้อและราคาขายต่อหน่วยบอกเอาไว้ มีตั้งแต่พืชธรรมดาจนถึงพืชวิเศษ [ระบบเชื่อมต่อกับร้านค้าในแดนต่างๆและส่งสินค้าอ
เมื่อต้องติดตามท่านอ๋องผู้ถูกเนรเทศมาชายแดนทางเหนือ พวกเขาก็ตัดสินใจใช้เงินที่ขนมาจากเมืองหลวงซื้อที่ดินปลูกจวนนอกเมือง แทนที่จะซื้อจวนขนาดกลางในเมือง จวนสกุลหนี่ว์ไม่ได้ไกลจากในเมืองมากนัก ซ้ำยังเป็นทางไปยังค่ายทหาร อยู่ตรงข้ามกับหน้าด่าน ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย แต่จวนแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ด้านหน้ามีเรือนหลัก ด้านข้างมีเรือนรับรอง เรือนสี่ประสานของจวน ด้านตะวันออกเป็นเรือนของบุตรชาย ด้านตะวันตกเป็นของบุตรสาว ขณะที่เรือนหลักเป็นที่พำนักของนายท่านและหนี่ว์ฮูหยิน ทุกวันหนี่ว์อ้ายปิงมักถูกพาไปยังห้องอาหารในเรือนหลัก ก่อนถูกมารดาพากลับไปยังห้องนอนของมารดา วันนี้บรรยากาศในห้องอาหารคึกคัก นับตั้งแต่บิดาอย่างหนี่ว์ซวงกลับมา หนี่ว์อ้ายหรงก็ดูร่าเริงขึ้นมาก แม้จะเห็นว่ามีรอยช้ำบนร่างกายมากขึ้น แต่เขากลับมีรอยยิ้มอยู่เสมอ “น้องสาวเจ้ามาแล้ว” หนี่ว์อ้ายหรงเดินไปต้อนรับน้องสาวด้วยท่าทางยินดี อ้ายปิงทำเพียงแปะๆ มือให้เขาพอเป็นพิธี ประมาณว่าขอบคุณที่มาต้อนรับนาง ไม่นานท่านพ่อก็เริ่มกินอาหาร บนโต๊ะอาหารเงียบสนิท กระทั่งถ้วยจานเปล่าถูก







