“อย่างนั้นเองสินะ ขออภัยด้วยนะครับเคาน์เตส ข้าคงจะจำคนผิด..สตรีชั่วช้าที่อาจหาญกล้าหลอกเงินข้าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน เป็นข้าเองที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ..”
น้ำเสียงของเขานั้นหนักแน่นพร้อมกับเน้นย้ำที่ประโยคสำคัญ แต่แน่นอนว่ารอยยิ้มแสนงดงามที่ดูเหมือนกับดอกไม้กำลังผลิบานของฉันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย การค่อนแคะเล็กๆ น้อยๆ นี่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก “ไม่เป็นค่ะท่านเคาน์ ข้าเข้าใจว่าคนเรานั้นสามารถทำเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าท่านเคาน์ถูกสตรีหลอกลวง..ให้ตายสิท่านเองก็เป็นบุรุษที่หลงใหลในความงดงามเหมือนกันอย่างนั้นสินะคะ” น้ำเสียงของโรวีนานั้นอ่อนละมุนราวกับว่ากำลังมีมือมาแตะลงบนบ่าของเจโรม และนั่นไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยพับผ่าสิ เขาอยากจะฉุดรั้งข้อมือเล็กๆ ของสตรีผู้นี้แล้วพานางไปคุยในที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้เพื่อหาข้อสรุปว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างที่เขาสงสัยรึเปล่า เธอคือสตรีในคืนนั้นหรือไม่ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปากเล็กๆ นั่นอ้าออกมาบอกเล่าความจริง.. “ข้าเหนื่อยแล้วล่ะ เห็นทีว่าข้าคงจะต้องขอตัวกลับก่อนนะเจโรม..ถึงแม้จะยังอยากเล่นสนุกอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย แต่ทว่าข้าอยากจะพาโรวีนาไปในที่ส่วนตัวเพื่อพูดคุยกับตามลำพัง หวังอย่างยิ่งว่านี่คงไม่ใช่การกระทำที่เสียมารยาทนะ” ฟลอยด์กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม เขายกมือขึ้นแล้วจับลงบนเอวที่คอดกิ่วของโรวีนาเพื่อพาเธอเดินต่อไป “ขอบคุณนะคะ..” เธอเอ่ยคำขอบคุณพร้อมกับเหงื่อที่เปียกโชกทั่วใบหน้า มือของโรวีนายกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้..เขารู้ดีว่าเธอไม่ชอบเขาแต่ไม่เห็นต้องทำท่าทางรังเกียจกันถึงเพียงนั้นเลยนี่ แค่เขาสัมผัสร่างกายของเธอนิดๆ หน่อยๆ ก็เหงื่อออกขนาดนี้แล้วอย่างนั้นหรือ เห็นทีว่าครั้งต่อไปเขาจะต้องระมัดระวังมากกว่านี้ซะแล้วสิ ...ฉันตายไปแล้วรึยังนะ นี่เมนของฉันกำลังกอดเอวฉันอยู่ แถมเราทั้งคู่ยังอยู่ในท่าทีแนบชิดกันจนไหล่ของเขามันแทบจะเกยกัน เธอได้กลิ่นหอมที่แสนสะอาดของเขามันคือกลิ่นไม้สนที่พอได้กลิ่นแล้วทำให้รู้สึกสบายใจ ได้ลอบมองใบหน้านั้นด้วยระยะประชิดเช่นนี้.. ชีวิตติ่งของฉัน..คอมพลีสแล้วสินะ “เรามีเรื่องต้องคุยกันครับ” โรวีนามองหน้าของฟลอยด์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามเมื่อเขาพาเธอเดินมาที่รถม้าของตระกูลฮาสคลาวแทนที่จะเป็นรถม้าโทรมๆ ของเธอ “ขึ้นไปสิครับ ข้ารับปากว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินเคาน์เตสอย่างแน่นอน” ทำเถอะค่ะ! ท่านทำมันได้เท่าที่ต้องการเลย..เพราะแบบนั้นไม่ต้องทำหน้าสำนึกผิดขนาดนั้นก็ได้ “ค่ะ..ฉันไม่ได้หวาดกลัวท่านดยุคหรอกนะคะ” ฟลอยด์หรี่ตาลงเป็นสัญญาณบอกถึงการไม่เชื่อถือ แต่เอาเถอะ..เพราะว่าเราต้องทำงานร่วมกันและเขาล่วงรู้แล้วว่าโรวีนาผู้นี้ไม่ชอบให้เขาสัมผัสหรือว่าแตะต้องร่างกายของเธอ “เรื่องที่ลานประมูล..ฝีมือของเคาน์เตสใช่ไหมครับ บอกก่อนว่าข้าไม่ได้จะจับท่านไปส่งให้เจโรมหรอกนะครับ ข้าแค่ไม่อยากให้ระหว่างเรามีความลับต่อกัน และ..ข้าจะได้ปกป้องท่านได้ อำนาจของเจโรมนั้นไม่ได้มีน้อยๆ เลยนะครับ” คราแรกเขาไม่มั่นใจ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเจโรมแล้วมันยิ่งตอกย้ำว่าความสงสัยของเขามันคือเรื่องจริง โรวีนา ซารังต์คือสตรีที่หลอกเงินเจโรมไปพันเหรียญอย่างแน่นอน ความอ่อนไหวปรากฏในสายตาของโรวีนา เขาเอ่ยถามพร้อมกับบอกว่าเขาไม่อยากให้เรามีความลับต่อกัน แค่นั้นก็บอกแล้วไม่ใช่เรอะว่าเขารู้คำตอบก่อนที่จะเอ่ยถามอยู่แล้วน่ะ.. “ค่ะ ข้าไม่ได้อยากจะทำเช่นนั้นแต่..เพราะชีวิตที่ผ่านมาของข้านั้นมันเดินไปในทางที่ผิด ข้าต้องการ..หาเงินประทังชีวิตเท่านั้นเอง..แล้วหนึ่งพันเหรียญก็น้อยมากเมื่อเทียบกับเงินของเคาน์เวลลิงตัน” หนึ่งพันเหรียญนั้นมากมายพอสมควร ครอบครัวของขุนนางยังใช้เงินแค่ปีละไม่กี่ร้อยเหรียญเลย ขนาดซื้อทั้งเครื่องประดับและว่าจ้างสาวใช้คนงาน.. “ที่ข้าจะสื่อ ข้าไม่ได้โทษท่านแต่ว่า..ในตอนที่เจโรมเอ่ยถามท่าน นั่นหมายความว่าเขาล่วงรู้แล้วว่าท่านคือสตรีในคืนนั้น และจากนี้ไปชีวิตของท่านอาจจะไม่สงบสุขเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ครับ” มันไม่สงบสุขตั้งแต่ที่เขาบังคับให้เธอเป็นคู่ควงของเขาแล้วไหม.. “ข้ามีวิธีค่ะ อีกทั้งท่านเคาน์เวลลิงตันไม่กล้าพอที่จะเอาเรื่องข้าหลอก” เพราะว่าเธอรู้ความลับของเขา เจโรมไม่ได้โกรธที่ถูกหลอก แต่เขาโกรธเรื่องที่เธอรู้วิธีการทำยารักษาโรคกามต่างหาก ในยุคสมัยที่ไม่มีการป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์กัน โรคต่างๆ ก็เกิดขึ้นมาและติดต่อกันอย่างรวดเร็วตามหมู่ขุนนาง โรคซิฟิลิส โรคหนองในและอีกมากมายที่ชนชั้นสูงมักจะเป็น แต่โรคพวกนี้มันน่าอับอายเพราะอย่างนั้นสำหรับชนชั้นสูงที่มีเงินมากพอจะจ่ายค่ารักษา พวกเขาจึงเรียกหมอไปที่บ้านแล้วแอบรักษาอย่างลับๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ กลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลเวลลิงตันไม่ใช่สามัญชนตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่เป็นพวกชนชั้นสูงต่างหาก ฟลอยด์อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่าอะไรกันที่ทำให้เธอมั่นใจถึงขนาดนั้น..แต่เพราะเราคือว่าที่สามีภรรยาที่แต่งงานกันภายใต้ข้อสัญญา แน่นอนว่าเขาต้องการความสมจริงแต่เขาไม่ได้จะล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของเธอ “มาอยู่ที่ฮาสคลาวนะครับ หลังจากที่เราหมั้นหมายเสร็จแล้ว ข้าต้องการให้ท่านไปอยู่ด้วยกันที่นั่น..ส่วนที่ซารังต์ข้าจะส่งพ่อบ้านฝีมือดีมาดูแล” นั่นมันคือสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดเลย ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันกับเมนตัวเองและได้มองหน้าเขาทั้งวัน..แต่ทว่าเราไม่ได้แต่งงานกันถาวรตลอดไป วันที่สิ้นสุดสัญญาการแต่งงานจะต้องเดินทางมาถึงในสักวัน และเธอมีลูกสาวที่จะขึ้นเป็นเคาน์เตสซารังต์ในอนาคตด้วย เธอพึ่งพาสามีปลอมๆอย่างเขาตลอดไปไม่ได้หรอก “เรื่องนั้นฉันไม่มีปัญหาเลยค่ะ แต่ว่าฉันอยากจะขอทำงานของตัวเองต่อไป..ฉันไม่สามารถพึ่งพาท่านดยุคได้ตลอด อีกทั้งเรื่องเงินไม่ได้อยู่ในสัญญา ฉันจะเป็นภรรยาในนามที่ดีของท่านแต่ขอให้ฉันได้ออกไปหาเงินของตัวเองด้วยนะคะ..” นี่คือสตรีชั่วช้าแห่งยุคจริงๆ นะหรือ? สตรีที่เอาแต่คบชู้ ผลาญเงินสามีและทำร้ายลูกสาว ทำไมโรวีนาที่กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าของเขานี้ไม่มีวี่แววของความร้ายกาจให้เห็นเลยนะ เขามองเห็นเพียงสตรีที่มีแววตากระจ่างใสและรอยยิ้มที่แสนงดงามเท่านั้นเอง “เรื่องนั้นข้าไม่คิดขัดข้องอยู่แล้วครับ”“หนังสือมาส่งแล้วครับ..”เจ้าของร้านหนังสือรีบออกมารับหนังสือที่ถูกส่งมาในทันที นี่คือหนังสือเดินทางที่ขายดีมากๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าเขาจะสั่งมาขายมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเพียงพอต่อความต้องการของผู้คนได้เลยเจ้าของหนังสือคือบุรุษผู้หนึ่งที่เขียนแทนตัวเองว่าเมล เขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกดินแดน แล้วเขียนเรื่องเล่ามากมายพร้อมแนบรูปวาดมาในหนังสือด้วย การเขียนที่สนุกเหมือนกับได้ฟังนักเล่าเรื่องเล่า และรูปวาดที่สวยงามเหมือนกับได้มองสถานที่ที่ถุกกล่าวถึงด้วยสายตาของตัวเอง มันยิ่งยกระดับให้หนังสือเล่มนี้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น“รีบๆ ยกเข้ามาได้เลย..แล้วสั่งเพิ่มมาอีกสองร้อยเล่มนะ ชาวเมืองชอบหนังสือการเดินทางนี้มากเลย..”เด็กส่งหนังสือก้มหน้าขอบคุณ“ได้เลยครับนายท่าน..”เพียงแค่วางหนังสือพวกนั้นที่หน้าร้าน ผู้คนมากมายก็เดินทางเข้ามาจับจองหนังสือกันอย่างคับคั่งเมลลี่กำลังยืนมองหนังสือของตัวเองที่ถูกขายออกอย่างรวดเร็ว เธอยกยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะสวมหมวกเพื่อปิดบังใบหน้าเธอออกเดินทางครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า มันคือการออกเดินทางไปที่แกรนด์ดัชชีแมทสันกับท่านตา และหลังจากนั้นเธอก็พบกับท่านลุงอาเดน พี่ชาย
“นี่มันอะไรกันอาริ?”โรวีนาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่ออารีเอนส่งบัตรเชิญมาให้เธอ มันเป็นบัตรเชิญการแต่งงานระหว่างอาริเอนและลอร์ดเวนสัน เธอไม่คิดว่ามันจะกะทันหันมากขนาดนี้ นี่ทั้งสองคนไปตกหลุมรักกันตอนนี้ก่อน“กับบางคน ที่ใช่มันจะใช่เลยโรวี่ ท่านบาทีอัสนั้นไม่เรื่องมาก ท่านเป็นคนดี ไม่นอกใจและยกเรื่องเงินทั้งหมดในเวนสันให้ฉันเป็นผู้จัดการ ท่านบอกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตสามีภรรยาของเราเอาไว้อย่างชัดเจน ท่านไม่ใช่คนขี้หึงและไม่มีเหตุผล แต่ท่านก็ห้ามไม่ให้ฉันไม่ร่วมงานเลี้ยงโดยที่ไม่มีท่านไปด้วย ท่านยินดีจะไปงานเลี้ยงทุกงานที่ฉันอยากไป และหากว่าเรามีลูกจะใช้ชื่อตระกูลเวนสันก่อน ส่วนลูกคนที่สองจะใช้ชื่อตระกูลแรนเซล โรวี่..เจ้าคิดว่ามีกี่คนกันที่คุยเรื่องการแต่งงานชัดเจนมากขนาดนั้น ฉันคิดว่าฉันหาพ่อของลูกเจอแล้วเพราะแบบนั้นก็เลยตกลงแต่งงานกับเขาในทันที”โรวีนายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ส่วน เบียงก้าเธอกำลังหัวเราะอยู่“เรื่องนั้นก็สมกับที่เป็นอารินะคะ ขอให้อาริมีความสุขมากๆ กับการแต่งงานในครั้งนี้”เบียงก้าหย่ากับบารอนลัคเน่แล้ว ตอนนี้นางคือมาดามเจ้าของร้านตัดเสื้อเท่านั้น ไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือว่าบ
ฟลอยด์กุมมือของโรวีนาเอาไว้ เขามองท่านพ่อตาที่กำลังอุ้มลูกสาวของเราอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน..“มีใครจะขัดขวางงานแต่งในครั้งนี้ของข้าอีกรึเปล่า หากมีก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย!!”เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อให้ทุกคนได้ยินหลังจากที่ทหารของพระราชคุมตัวของอิไลออกไปแล้วเจโรมมองฟลอยด์และโรวีนาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย แผนการของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะถูกฟลอยด์อ่านแผนการออกจนหมด นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ที่ฟลอยด์จะงัดหลักฐานการหย่าและหลักฐานการจดทะเบียนสมรสของเขาออกมา เขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีขัดขวางไม่ได้จริงๆ สินะ งานแต่งในครั้งนี้ เขาไม่สามารถดึงรั้งสตรีผู้นั้นมาอยู่ข้างกายได้เลยจริงๆ ..เขาแพ้แบบไม่เป็นท่าเลย พ่ายแพ้แบบที่ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้โรวีนาแม้แต่นิดเดียว คู่แข่งของเขานั้นน่ากลัวมากจริงๆ“ท่านเคาน์เวลลิงตันครับ นี่เป็นเช็คเงินสดที่ท่านดยุคฝากมาให้พร้อมกับจดหมายครับ”ไมเนอร์เดินเข้าไปส่งมอบของที่ท่าน ดยุคสั่งให้เขาจัดเตรียมเอาไว้ ให้แก่ท่านเคาน์เวลลิงตันเจโรมเปิดจดหมายออกก็พบว่าในจดหม
คาดินันกระแอมออกมาเบาๆ เพราะว่าในยามนี้ท่านดยุคและท่านดัชเชสกำลังแสดงความรักที่มากมายต่อกัน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างลำบากโรวีนาละริมฝีปากออกจากกลีบปากของฟลอยด์ด้วยความนึกเสียดาย เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนที่เราจะกอบกุมมือกันแน่น“พิธีสาบานของคู่บ่าวสาวทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วครับ มีใครจะคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้รึเปล่า? ..”นั่นคือสิ่งที่ฟลอยด์กังวล เขาปรายสายตามองไปที่ยังที่นั่งของแขกที่มาร่วมงาน ราวกับกำลังรอคอยบางอย่างอยู่“ข้าขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ครับ!!..”เจโรมแสยะยิ้มออกมาเมื่ออิไลแสดงตัวในการคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ แน่นอนว่าฟลอยด์ไม่ได้คิดยินยอมให้อิไลเข้ามาในงานนี้โดยง่าย รอบๆ วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยทหารของฮาวคลาวที่กำลังเฝ้าประตูเพื่อตรวจสอบแขกที่เข้ามา หากว่าเขาไม่ให้อิไลปลอมตัวมาก็คงไม่มีทางเข้าในนี้ได้อย่างแน่นอนและเมื่ออิไลซึ่งเป็นสามีเก่าของโรวีนาแสดงตัวออกมา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นในทันทีท่านดยุคแมทสันจับดาบที่เอว เขาตั้งใจว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการ อิไลให้สาสมกับที่ไอ้คนสารเลวนั่นทำให้ลูกสาวของเขาเจ็บปวด แต่ทว่าไมเนอร์จับมื
ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ในห้องแต่งตัวภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งหรูหราและคุ้นตาเอาซะเลย สาวใช้จากพระราชวังสามารถทำงานของพวกนางได้อย่างคล่องแคล่วจนน่าตกใจ ในเวลาไม่นานการแต่งกายที่แสนยากลำบากก็เสร็จสิ้นลง มีชุดที่ต้องสวมทับหลายชั้นมากๆ ชุดแต่งงานของดัชเชสนั้นยุ่งยากมาทีเดียว จะต้องสวมกระโปรงที่มีโครงด้านในเพื่อให้กระโปรงบานออกและเป็นรูปทรงที่สวยงาม อีกทั้งยังต้องสวมใส่คลอเซ็ตเพื่อรัดเอวที่เล็กอยู่แล้วในคอดกิ่วยิ่งกว่าเดิม และยังมีการดันทรงชุดชั้นในเพื่อให้เนินอกโผล่พ้นออกมานอกชุดเล็กน้อย แต่การพยายามอย่างหนักของสาวใช้ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่า ภาพที่สะท้อนในกระจกดูเหมือนกับเทพธิดาที่งดงามราวกับไม่มีอยู่จริง จากเดิมที่โรวีนานั้นงดงามมากๆ อยู่แล้ว แต่ในยามนี้ดูท่าว่าผู้ที่พบเห็นใบหน้านี้ของเธอจะต้องจดจำความงดงามนี้ไปตลอดแน่ๆ“เสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะโรวี่..”ท่านพ่อของเธออยู่ในชุดดยุคเต็มยศ ท่านแย้มยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดี..“ลูกงดงามมากจริงๆ ให้ตายเถอะ..ลูกเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆ เลย”นางฟ้าตัวน้อยงั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่เธอโตมากพอที่จะมีลูกและมีสามีแล้วแต่
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นกังวลนะครับคุณหนู แค่ท่านยิ้มออกมา แล้วโปรยดอกไม้ไปตามทางเดินเท่านั้นเอง..ท่านดัชเชสจะต้องดีใจมากๆ ที่คุณหนูเป็นผู้โปรยดอกไม้ตามทางเดินของท่าน”โลแวนกำลังให้กำลังใจคาเรนที่แสดงท่าทีประหม่า เขารู้มาว่าคุณหนูตัวน้อยไม่เคยออกงานหรือว่าอยู่ในที่ที่คนเยอะๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นจึงหลีกเลี่ยงอาการตื่นเต้นและประหม่าของเด็กชายอายุห้าขวบไม่ได้“...ท่านแม่..จะดีใจมากๆ เลยใช่ไหมโลแวน หากท่านแม่เห็นข้ากำลังโปรยดอกไม้”โลแวนพยักหน้า“เพราะว่าคุณหนู..คือแก้วตาดวงใจของท่านดัชเชสไงครับ วันนี้คือวันที่ท่านดยุคและท่านดัชเชสแต่งงานกัน วันที่ทั้งสองท่านจะประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าทั้งสองท่านเป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์..”คราแรกที่ท่านดัชเชสบอกกับเขาว่างานของเขามันคือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บอกตามตรงว่าโลแวนกังวลมากๆ เพราะเขากับเด็กไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เขาเติบโตมาในเส้นทางที่เปียกปอนไปด้วยเลือด ต้องต่อสู้เท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจต่อไป..แล้วเขาจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ยังไงกันแต่เมื่อเขาได้พบเจอคุณหนูทั้งสอง มันเหมือนกับว่าโลแวนได้พบเจอนางฟ้าและเทพบุต