“จะแต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะท่าน เคาน์เตส..”
ยูนีกเอ่ยถามเมื่อโรวีนาเริ่มลงมือหาเอกสารของอิไล มันถึงเวลาที่จะต้องไปแจ้งแก่ทางการได้แล้วว่าเขาได้ตายจากชีวิตของโรวีนาและตายจากโลกนี้ไปแล้ว หากไม่ตายเขาควรจะกลับมาหาภรรยาและลูกสาวของเขาสิ..แต่นี่สามปีแล้วเขายังไม่กลับมานั่นหมายความว่าเขาตายไปแล้ว หรือไม่ก็..เขาไม่ต้องการโรวีนาและลูกสาวอีกต่อไป “อืม..ข้าปล่อยให้ทางการมาเรียกคืนบรรดาศักดิ์ของเมลลี่ไม่ได้หรอก..เมลลี่ของข้าจะต้องเติบโตขึ้นมาในฐานะเลดี้ของตระกูลซารังต์ที่แสนร่ำรวย..” ฉันตอบคำถามของยูนีกด้วยรอยยิ้ม และนั่นทำให้ยูนีกได้แต่ถอนหายใจออกมา.. “ขอแค่ชายผู้นั้นไม่ทำร้ายและเป็นคนดีก็พอค่ะ..” เธอรู้รสนิยมความชอบของท่านเคาน์เตสดี เรื่องหน้าตานั้นตัดทิ้งไปได้เลย ท่านเคาน์เตสไม่ชอบบุรุษรูปหล่ออีกทั้งไม่มีทางที่สามีคนใหม่ของท่านจะเป็นขุนนาง.. คราวนี้เป็นใครกันนะ คนสวนหรือว่าชาวไร่กัน “รถม้าของตระกูลฮาสคลาวเดินทางมาถึงแล้วค่ะท่านเคาน์เตส” โรวีนาพยักหน้าเมื่อสาวใช้คนใหม่เดินเข้ามาแจ้งข่าว “มีธุระอะไรที่คฤหาสน์ฮาสคลาวอย่างนั้นหรือคะท่านเคาน์เตส..?” เธอมองยูนีกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข “ข้าจะแต่งงานใหม่..กับท่านดยุคฮาสคลาวล่ะ ช่วงสองสามวันนี่ข้าอาจจะยุ่ง ฝากดูแลเมลลี่ด้วยนะ..แล้วก็เรื่องแต่งงานใหม่..ข้าจะกลับมาบอกกล่าวกับนางเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” นั่นมันคือเรื่องน่าเป็นห่วงสุดๆ เลยไม่ใช่รึไง นายหญิงของเธอเลิกตาบอดแล้วใช่ไหม ในที่สุดท่านก็สามารถแยกแยะความหล่อเหลาได้ถูกต้องสักที “ข้ามีนามว่าไมเนอร์ครับเคาน์เตส ท่านดยุคส่งข้ามาช่วยเหลือท่านในการยื่นเอกสารต่อทางการ..” เซอร์ไมเนอร์เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของท่านดยุค เธอเคยเห็นชื่อของเขาปรากฏขึ้นมาในนิยายบ่อยๆ เมื่ออ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่านดยุค “ขอบคุณนะคะ” งดงามมากจริงๆ ..ไม่น่าแปลกใจที่ท่านดยุคจะขอแต่งงานสายฟ้าแลบขนาดที่เขาเองก็ตั้งตัวไม่ทันหรอกนะ เมื่อคืนหลังจากที่ท่านดยุคกลับมาที่คฤหาสน์ฮาสคลาวเขาก็ไม่ได้นอนอีกเลย “ข้ากำลังจะแต่งงานไมเนอร์ ข้าต้องการให้เจ้าร่างเอกสารการทำสัญญาแต่งงานมาให้ข้าหน่อย..อ่อ แล้วก็วันพรุ่งนี้เจ้าจงไปช่วยว่าที่ดัชเชสในการจัดเตรียมเอกสารของนางด้วย” ด้วยเหตุนั้นเองเขาจึงทำงานโต้รุ่งตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เวลาจะงีบสัก5นาทียังไม่มีเลย “อันที่จริงเรื่องการยื่นเอกสารเกี่ยวกับสามีเก่านั้นข้าทำเองก็ได้ค่ะ เซอร์รอข้าอยู่ที่ด้านหน้าห้องกับพอแล้ว” ไมเนอร์หัวเราะออกมาเบาๆ ตามมารยาท “เรื่องนั้นไม่ได้หรอกนะครับ ท่านดยุคกำชับมาว่าให้ข้าช่วยเหลือท่านเคาน์เตสให้เอกสารทุกอย่างผ่านพ้นและได้รับตราประทับจากทางการให้เรียบร้อยทุกแผ่นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา” ในตอนแรกโรวีนาก็ไม่เข้าใจคำกล่าวของไมเนอร์เท่าไหร่นัก จนเมื่อเขาพาเธอเดินเข้าไปด้านใน เพราะเขาเป็นคนของท่านดยุคถึงได้พาเธอเข้ามานั่งด้านในได้โดยไม่ต้องรอคิว แถมคนของทางการไม่ซักถามเธอเลยแม้แต่ครึ่งคำ เขาประทับตราของพระราชวังลงไปบนใบมรณะบัตรและใบหย่าของเธอเรียบร้อยแล้ว “เสร็จเรียบร้อยแล้วครับท่านเคาน์เตส..” ไมเนอร์ยื่นเอกสารมากมายพวกนั้นให้แก่เธอ และในใบสุดท้ายมันคือทะเบียนสมรสใบใหม่ “เรื่องสัญญาเราจะไปพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอและการเรียกร้องของท่านเคาน์เตสที่คฤหาสน์ฮาสคลาวนะครับ” ฉันพยักหน้าเบาๆ “ท่านดยุค..มีอำนาจเยอะดีจังเลยนะคะ” ฉันพูดออกเสียงแผ่วเบาแต่ไมเนอร์กลับได้ยินมันอย่างชัดเจน “เพราะท่านคือฮาสคลาวยังไงล่ะครับ คืออัญมณีที่เปล่งประกายที่สุดในจักรวรรดิ และเพราะเปล่งประกายมากเกินไปทำให้ท่านใช้ชีวิตลำบากมากทีเดียว..” อ่า..เรื่องนั้นเธอรู้ว่าฟลอยด์ใช้ชีวิตของเขามาแบบไหน เขาถูกคุกคามจากเหล่าสตรีมากมายทีเดียว จนหาความสงบสุขแทบไม่เจอ อีกทั้งสาเหตุการหย่าของเขาและเบลินดา ภรรยาเก่าของเขาคือการที่เธอคลั่งไคล้เขามากจนเกิน ฉันไม่แปลกใจว่าทำไมข้อตกลงแรกของการทำสัญญาแต่งงานของเรามันคือการที่เขาจะยุติข้อตกลงนี้ในทันทีที่ฉันรักเขา ฟลอยด์ไม่ได้ต้องการความรักเขาแค่ต้องการความสงบสุขเท่านั้นเอง และเธอจะมอบสิ่งที่เขาต้องการให้เขาเอง คฤหาสน์ฮาสคลาวนั้นใหญ่โตมากเทียบเท่าพระราชวัง สวนด้านหน้าที่เดินทั้งวันยังไม่ทั่ว ภายในคฤหาสน์ตกแต่งอย่างหรูหราและมีระดับ ความร่ำรวยที่ไม่อาจทำใจให้ชินได้เลยเมื่อพบเจอ เขาเป็นบุรุษที่เกิดมาสมบูรณ์แบบจริงๆ ทั้งด้านใบหน้าและฐานะ “ยินดีต้อนรับสู่ฮาสคลาวนะครับ..เรามาพูดคุยเรื่องสำคัญกันต่อ..” ฟลอยด์หยุดพูดเมื่อสายตาของโรวีนาไม่ได้มองมาที่เขาเลย เธอกำลังจ้องมองไปที่คาเรนด้วยดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน และลูกชายวัยห้าขวบของเขาก็กำลังจ้องมองสตรีที่งดงามราวกับนางฟ้าแม่ทูนหัวอย่างโรวีนา เขาเงียบเพื่อให้ทั้งสองคนจ้องมองกันให้เพียงพอ ทว่าโรวีนาเดินเข้ามาหาเขาก่อนที่เธอจะนั่งลงเบื้องหน้าของคาเรนที่กำลังจับมือเขาอยู่ “สวัสดีครับ..คุณนางฟ้า” อ้าก!! จะ..ใจของฉันมันเหมือนจะทะลุออกมานอกอก คาเรนคุณพระเอกของเรื่องนี้ทำไมเขาช่างน่ารักจนใจเจ็บขนาดนี้กันนะ หน้ากลมๆ นั้นทำให้รู้สึกเหมือนอยากจะยื่นมือไปสัมผัสแก้มจังเลย ระดับความน่ารักที่มหาศาลนี้มันคืออะไรกัน “ไม่ใช่นางฟ้าหรอกคาเรน นี่คือโรวีนาที่กำลังจะมาเป็นท่านแม่ของลูก..ไง” เด็กน้อยหน้าแดงมากกว่าเดิม “ทะ..ท่านแม่เหรอครับ” น่าเศร้าที่ชีวิตที่ดีพร้อมของคาเรนมีทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ เงินทอง ของเล่น สหายความรักที่มากมายจากท่านพ่อ ชีวิตของเขานั้นขาดเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นนั่นคือ..ท่านแม่ เขาไม่เคยได้พูดคุยกับท่านแม่เลย และคาเรนไม่กล้าเอ่ยถามคนในคฤหาสน์แห่งนี้ด้วยซ้ำว่าท่านแม่ของเขาไปไหน เขารู้ดีว่าพี่นางฟ้าคนนี้ไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดของเขา แต่คาเรนไม่ติดขัดเลยหากว่าพี่นางฟ้าคนนี้จะมาเป็นท่านแม่ของเขาน่ะ “...ใช่แล้วค่ะ คาเรนสามารถเรียกแม่..ว่าท่านแม่ได้เลย แม่เองก็มีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง..คาเรนจะมีทั้งแม่และทั้งพี่สาวเลยน้า” พี่สาวงั้นเหรอ เขาอยากมีพี่น้องมานานแล้ว “ข้าอยากมีครับ ข้าอยากมีทั้งท่านแม่และพี่สาวเลย!” สายตาที่ฟลอยด์มองคาเรนมักจะอ่อนโยนอยู่เสมอ และในยามนี้เมื่อเขาเห็นลูกชายดูจะชื่นชอบสมาชิกใหม่ในครอบครัวของเรา เขาก็รู้สึกว่าที่เขาเลือกเคาน์เตส ซารังต์นั้นอาจจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องก็ได้ แต่..เขาไม่คิดจะปล่อยลูกชายผู้ล้ำค่าของเขาเอาไว้กับสตรีที่มีประวัติทำร้ายเด็กหรอก เพราะอย่างนั้นเขายังคงต้องส่งอัศวินของเขาตามติดเพื่อดูท่าทีของสตรีที่งดงามผู้นี้และลูกชายของเขา“หนังสือมาส่งแล้วครับ..”เจ้าของร้านหนังสือรีบออกมารับหนังสือที่ถูกส่งมาในทันที นี่คือหนังสือเดินทางที่ขายดีมากๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าเขาจะสั่งมาขายมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเพียงพอต่อความต้องการของผู้คนได้เลยเจ้าของหนังสือคือบุรุษผู้หนึ่งที่เขียนแทนตัวเองว่าเมล เขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกดินแดน แล้วเขียนเรื่องเล่ามากมายพร้อมแนบรูปวาดมาในหนังสือด้วย การเขียนที่สนุกเหมือนกับได้ฟังนักเล่าเรื่องเล่า และรูปวาดที่สวยงามเหมือนกับได้มองสถานที่ที่ถุกกล่าวถึงด้วยสายตาของตัวเอง มันยิ่งยกระดับให้หนังสือเล่มนี้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น“รีบๆ ยกเข้ามาได้เลย..แล้วสั่งเพิ่มมาอีกสองร้อยเล่มนะ ชาวเมืองชอบหนังสือการเดินทางนี้มากเลย..”เด็กส่งหนังสือก้มหน้าขอบคุณ“ได้เลยครับนายท่าน..”เพียงแค่วางหนังสือพวกนั้นที่หน้าร้าน ผู้คนมากมายก็เดินทางเข้ามาจับจองหนังสือกันอย่างคับคั่งเมลลี่กำลังยืนมองหนังสือของตัวเองที่ถูกขายออกอย่างรวดเร็ว เธอยกยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะสวมหมวกเพื่อปิดบังใบหน้าเธอออกเดินทางครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า มันคือการออกเดินทางไปที่แกรนด์ดัชชีแมทสันกับท่านตา และหลังจากนั้นเธอก็พบกับท่านลุงอาเดน พี่ชาย
“นี่มันอะไรกันอาริ?”โรวีนาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่ออารีเอนส่งบัตรเชิญมาให้เธอ มันเป็นบัตรเชิญการแต่งงานระหว่างอาริเอนและลอร์ดเวนสัน เธอไม่คิดว่ามันจะกะทันหันมากขนาดนี้ นี่ทั้งสองคนไปตกหลุมรักกันตอนนี้ก่อน“กับบางคน ที่ใช่มันจะใช่เลยโรวี่ ท่านบาทีอัสนั้นไม่เรื่องมาก ท่านเป็นคนดี ไม่นอกใจและยกเรื่องเงินทั้งหมดในเวนสันให้ฉันเป็นผู้จัดการ ท่านบอกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตสามีภรรยาของเราเอาไว้อย่างชัดเจน ท่านไม่ใช่คนขี้หึงและไม่มีเหตุผล แต่ท่านก็ห้ามไม่ให้ฉันไม่ร่วมงานเลี้ยงโดยที่ไม่มีท่านไปด้วย ท่านยินดีจะไปงานเลี้ยงทุกงานที่ฉันอยากไป และหากว่าเรามีลูกจะใช้ชื่อตระกูลเวนสันก่อน ส่วนลูกคนที่สองจะใช้ชื่อตระกูลแรนเซล โรวี่..เจ้าคิดว่ามีกี่คนกันที่คุยเรื่องการแต่งงานชัดเจนมากขนาดนั้น ฉันคิดว่าฉันหาพ่อของลูกเจอแล้วเพราะแบบนั้นก็เลยตกลงแต่งงานกับเขาในทันที”โรวีนายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ส่วน เบียงก้าเธอกำลังหัวเราะอยู่“เรื่องนั้นก็สมกับที่เป็นอารินะคะ ขอให้อาริมีความสุขมากๆ กับการแต่งงานในครั้งนี้”เบียงก้าหย่ากับบารอนลัคเน่แล้ว ตอนนี้นางคือมาดามเจ้าของร้านตัดเสื้อเท่านั้น ไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือว่าบ
ฟลอยด์กุมมือของโรวีนาเอาไว้ เขามองท่านพ่อตาที่กำลังอุ้มลูกสาวของเราอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน..“มีใครจะขัดขวางงานแต่งในครั้งนี้ของข้าอีกรึเปล่า หากมีก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย!!”เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อให้ทุกคนได้ยินหลังจากที่ทหารของพระราชคุมตัวของอิไลออกไปแล้วเจโรมมองฟลอยด์และโรวีนาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย แผนการของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะถูกฟลอยด์อ่านแผนการออกจนหมด นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ที่ฟลอยด์จะงัดหลักฐานการหย่าและหลักฐานการจดทะเบียนสมรสของเขาออกมา เขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีขัดขวางไม่ได้จริงๆ สินะ งานแต่งในครั้งนี้ เขาไม่สามารถดึงรั้งสตรีผู้นั้นมาอยู่ข้างกายได้เลยจริงๆ ..เขาแพ้แบบไม่เป็นท่าเลย พ่ายแพ้แบบที่ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้โรวีนาแม้แต่นิดเดียว คู่แข่งของเขานั้นน่ากลัวมากจริงๆ“ท่านเคาน์เวลลิงตันครับ นี่เป็นเช็คเงินสดที่ท่านดยุคฝากมาให้พร้อมกับจดหมายครับ”ไมเนอร์เดินเข้าไปส่งมอบของที่ท่าน ดยุคสั่งให้เขาจัดเตรียมเอาไว้ ให้แก่ท่านเคาน์เวลลิงตันเจโรมเปิดจดหมายออกก็พบว่าในจดหม
คาดินันกระแอมออกมาเบาๆ เพราะว่าในยามนี้ท่านดยุคและท่านดัชเชสกำลังแสดงความรักที่มากมายต่อกัน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างลำบากโรวีนาละริมฝีปากออกจากกลีบปากของฟลอยด์ด้วยความนึกเสียดาย เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนที่เราจะกอบกุมมือกันแน่น“พิธีสาบานของคู่บ่าวสาวทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วครับ มีใครจะคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้รึเปล่า? ..”นั่นคือสิ่งที่ฟลอยด์กังวล เขาปรายสายตามองไปที่ยังที่นั่งของแขกที่มาร่วมงาน ราวกับกำลังรอคอยบางอย่างอยู่“ข้าขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ครับ!!..”เจโรมแสยะยิ้มออกมาเมื่ออิไลแสดงตัวในการคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ แน่นอนว่าฟลอยด์ไม่ได้คิดยินยอมให้อิไลเข้ามาในงานนี้โดยง่าย รอบๆ วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยทหารของฮาวคลาวที่กำลังเฝ้าประตูเพื่อตรวจสอบแขกที่เข้ามา หากว่าเขาไม่ให้อิไลปลอมตัวมาก็คงไม่มีทางเข้าในนี้ได้อย่างแน่นอนและเมื่ออิไลซึ่งเป็นสามีเก่าของโรวีนาแสดงตัวออกมา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นในทันทีท่านดยุคแมทสันจับดาบที่เอว เขาตั้งใจว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการ อิไลให้สาสมกับที่ไอ้คนสารเลวนั่นทำให้ลูกสาวของเขาเจ็บปวด แต่ทว่าไมเนอร์จับมื
ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ในห้องแต่งตัวภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งหรูหราและคุ้นตาเอาซะเลย สาวใช้จากพระราชวังสามารถทำงานของพวกนางได้อย่างคล่องแคล่วจนน่าตกใจ ในเวลาไม่นานการแต่งกายที่แสนยากลำบากก็เสร็จสิ้นลง มีชุดที่ต้องสวมทับหลายชั้นมากๆ ชุดแต่งงานของดัชเชสนั้นยุ่งยากมาทีเดียว จะต้องสวมกระโปรงที่มีโครงด้านในเพื่อให้กระโปรงบานออกและเป็นรูปทรงที่สวยงาม อีกทั้งยังต้องสวมใส่คลอเซ็ตเพื่อรัดเอวที่เล็กอยู่แล้วในคอดกิ่วยิ่งกว่าเดิม และยังมีการดันทรงชุดชั้นในเพื่อให้เนินอกโผล่พ้นออกมานอกชุดเล็กน้อย แต่การพยายามอย่างหนักของสาวใช้ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่า ภาพที่สะท้อนในกระจกดูเหมือนกับเทพธิดาที่งดงามราวกับไม่มีอยู่จริง จากเดิมที่โรวีนานั้นงดงามมากๆ อยู่แล้ว แต่ในยามนี้ดูท่าว่าผู้ที่พบเห็นใบหน้านี้ของเธอจะต้องจดจำความงดงามนี้ไปตลอดแน่ๆ“เสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะโรวี่..”ท่านพ่อของเธออยู่ในชุดดยุคเต็มยศ ท่านแย้มยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดี..“ลูกงดงามมากจริงๆ ให้ตายเถอะ..ลูกเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆ เลย”นางฟ้าตัวน้อยงั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่เธอโตมากพอที่จะมีลูกและมีสามีแล้วแต่
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นกังวลนะครับคุณหนู แค่ท่านยิ้มออกมา แล้วโปรยดอกไม้ไปตามทางเดินเท่านั้นเอง..ท่านดัชเชสจะต้องดีใจมากๆ ที่คุณหนูเป็นผู้โปรยดอกไม้ตามทางเดินของท่าน”โลแวนกำลังให้กำลังใจคาเรนที่แสดงท่าทีประหม่า เขารู้มาว่าคุณหนูตัวน้อยไม่เคยออกงานหรือว่าอยู่ในที่ที่คนเยอะๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นจึงหลีกเลี่ยงอาการตื่นเต้นและประหม่าของเด็กชายอายุห้าขวบไม่ได้“...ท่านแม่..จะดีใจมากๆ เลยใช่ไหมโลแวน หากท่านแม่เห็นข้ากำลังโปรยดอกไม้”โลแวนพยักหน้า“เพราะว่าคุณหนู..คือแก้วตาดวงใจของท่านดัชเชสไงครับ วันนี้คือวันที่ท่านดยุคและท่านดัชเชสแต่งงานกัน วันที่ทั้งสองท่านจะประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าทั้งสองท่านเป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์..”คราแรกที่ท่านดัชเชสบอกกับเขาว่างานของเขามันคือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บอกตามตรงว่าโลแวนกังวลมากๆ เพราะเขากับเด็กไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เขาเติบโตมาในเส้นทางที่เปียกปอนไปด้วยเลือด ต้องต่อสู้เท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจต่อไป..แล้วเขาจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ยังไงกันแต่เมื่อเขาได้พบเจอคุณหนูทั้งสอง มันเหมือนกับว่าโลแวนได้พบเจอนางฟ้าและเทพบุต