แชร์

บทที่ 5 คนของข้าใครอย่าแตะ!

ผู้เขียน: Futhaone
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-11 21:42:48

 

"จะ..เจ้า..!" 

".........."

เสี่ยวเยาประคองนางกำนัลผู้ไร้เรี่ยวแรง แม้จะลุกขึ้นยืน เพื่อความปลอดภัยของนาง อย่างไรเสียก็ต้องออกจากจวนแห่งนี้อย่างเร็วที่สุด 

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เยี่ยม! เยี่ยม! ข้าเริ่มสนใจนายทหารผู้นี้แล้วซิ! มาอยู่กับข้าดีไหม? "ไม่เพียงแต่พูด ท่านอ๋องผู้นี้ได้มุ่งตรงมายังเสี่ยวเยา ด้วยท่าทางสง่าสมเป็นเชื้อพระวงศ์ แววตาดุดัน ชวนให้น่าหวาดหวั่นยิ่ง  ปลายหางคิ้วมีร่องรอยแผลขนาดเล็ก แต่ไม่อาจซ่อนเร้นความหล่อไว้ได้ ข้างกายยังมีกระบี่คู่ใจ เสี่ยวเยาไม่รอช้ารีบใช้กำปั้นของตน หมายจะทุบตรงศีรษะ ไม่เช่นนั้นพวกนางอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปได้

"อึก!!" นางทำได้เพียงยืนใจดีสู้เสือ แม้จะกลืนน้ำลายลงคอนับครั้งไม่ถ้วน

"เจ้าเป็นผู้หญิงซินะ..."เสียงกระซิบเพียงแผ่วเบา ทำให้ดวงตาคู่สวยเบิกโต สบตาเขาด้วยความบังเอิญ ซึ่งเผยยิ้มอย่างมีเลขนัย

'ไม่คิดว่าเขาจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเราได้ ช่างเจ้าเล่ห์ อันตรายกว่าเจิ้งเจี๋ยเสียอีก ทำอย่างไรดี?' ทำได้เพียงแค่คิดในใจ ไม่อาจเอ่ยคำพูดใดออกมาในช่วงเวลานี้

"........"

"ท่านเหยียดหยามข้าเช่นนี้ ไม่สมกับเป็นบุรุษ" เสี่ยวเยาพยายามพูดบ่ายเบี่ยง เพื่อกลบเกลื่อนอาการร้อนรนของตนเอง 

"อย่างนั้นเหรอ... เจ้ามาเป็นชายาของข้าจะดีไหม? เพราะข้าจะอุ่นเตียงกับเจ้า หึหึ"เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้นาง ไม่รู้ด้วยเหตุใดเขาถึงถูกชะตากับนางผู้นี้

"ท่าน!!" 

เขาเพ่งมองร่างบางอรชร ถึงแม้จะปกปิดด้วยชุดเกาะทหารที่แน่นหนาเพียงใด แต่ก็มิอาจปกปิดสายตาที่เฉียบคมของเขาได้ เพียงแค่โอบกอดร่างบางนั้นไว้ใสอ้อมแขนแกร่งของตน สัมผัสนั้นรับรู้ได้ทันทีว่า ทหารผู้นี้ เป็นสตรี หาใช่บุรุษอย่างที่เห็น

"ปล่อยข้านะ ปล่อยซิ! " เสี่ยวเยาพยายามดิ้นรนแต่ไร้ประโยชน์ เพราะเขาก็มีพละกำลังที่แข็งแกร่งกว่าตนนัก

"หญิงใดก็ตามที่ตกอยู่ในอ้อมแขนของข้าแล้ว ยากนักที่ข้าจะปล่อยผ่านไปได้!" ท่านอ๋องเผยยิ้มตรงมุมปากอย่างผู้ชนะ ก่อนจะใช้มือดึงเชือกที่ม้วนผมนั้นออกเสีย

"ข้าคืออ๋องจี๋ชง" น้ำเสียงยังคงกระซิบเบาๆ ตรงใบหูเรียวของนาง

ไม่ได้น่ะ!! เสี่ยวเยาพยายามสลัดตนเองมา ความลับจะเปิดเผยตอนนี้ไม่ได้ 

'ใครก็ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถิด' นางทำได้เพียงภาวนาให้ใครสักคนเข้ามาช่วยตนออกไปจากคนที่น่ารังเกียจเสียที

"ปล่อย คนของข้าเดี๋ยวนี้!!"น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ร่างใครผู้หนึ่งปรากฏขึ้น

"เจิ้งเจี๋ย!" แววตาสวยเปล่งประกายพร้อมเผยยิ้มกว้างออกมาอย่างปลื้มใจ สร้างความไม่พอใจให้อ๋องจี๋ชงยิ่งนัก 

'หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ รีบเผ่นก่อนดีกว่า!'

เธอครุ่นคิด และมโนภาพตัวเองกลับจวนไปคงต้องโดนเจิ้งเจี๋ยลงโทษต่างๆ นานา นั่นเพราะตนได้ขุดโพรงใต้ดิน เพื่อลอดข้ามกำแพงจวนออกมา เป็นโพรงสุนัขลอดขนาดใหญ่ ที่จริงสุนัขทั้งฝูงยังลอดข้ามผ่านไปได้อย่างสบาย แถมยังจารึกข้อความไว้อีกว่า

'เจิ้งเจี๋ยจอมโหด โชคดี ข้าไปก่อนล่ะ'

'ตายแน่ๆ เสี่ยวเยาเอ๋ย~~อายุสั้นจริงๆ เฮ่อ!'

การต่อสู้ด้วยกระบวนท่าร่ายรำของกระบี่มิอาจแทบเคียงกันได้ แม้แต่น้อยนิด เจิ้งเจี๋ยตวัดกระบี่ดำทมิฬของตนเพียงแผ่วปลาย เพื่อจะสั่งสอนท่านอ๋องผู้ทะนงตนเท่านั้น เขาไม่ได้เกรงกลัวกระบี่พิฆาตของอ๋องจี๋ชงแม้แต่น้อย สมเป็นท่านแม่ทัพผู้ผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน มีหรือจะยอมอ่อนข้อให้กับอ๋องจี๋ชง แม้อายุจะน้อยกว่าตนก็ตาม  ทว่าแววตาที่เฉียบคมดั่งอินทรีย์ของจี๋ชงเพ่งมองหาจุดอ่อนของเขาเช่นกัน

"สู้เขาเจิ้งเจี๋ย อย่างนั้น! สุดยอด...." เสียงเชียร์ของเสี่ยวเยาทำให้เหล่าทหารรวมนางกำนัลต่างจ้องมองนางอย่างกับตัวประหลาด 

"เจ้าช่างไร้มารยาท คำพูดคำจาก็แปลกเหลือเกิน" นางกำนัลผู้น้อยเอ่ยขึ้นด้วยแววตาสงสัย ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ ข้างหนึ่ง

"เอ๊ะ!!" 

"สู้ๆ อย่างนี้ใช่ไหม สู้ๆ ฮ่าฮ่า" นางหัวเราะดังสนั่นไปทั่ว ด้วยความชอบใจกับสิ่งแปลกใหม่มิเคยพบเจอมาก่อน จนลืมสิ้นถึงความเจ็บปวดทั้งกายใจที่ตนได้รับ รอยยิ้มที่สดใสภายใต้ใบหน้าที่พบช้ำ เสี่ยวเยาทำได้เพียงถอนหายใจ ด้วยความสงสารนาง

"ต้องอย่างนี้ถึงจะเด็ด" นางกระโดดขึ้นที่สูง 

"แม่ทัพเจิ้งเจี๋ย สู้ๆ "เสียงของนาง ทำให้เจิ้งเจี๋ยหันมามองด้วยความเอื่อมระอา ในท่าทางที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน  จนพลาดท่าโดนกระบี่ของจี๋ชงเฉือนเข้าที่แขนข้างหนึ่งจนได้ เสี่ยวเยาเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง ไม่เพียงแต่เขาไม่สนใจแผลนั้น แต่ยังแสร้งทำสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความเจ็บปวด 

"บังอาจ!!" น้ำเสียงทุ้มดูทรงพลังดังขึ้นจากด้านหลังของบุรุษ ทั้งสอง ทุกคนต่างก้มลงต่ำด้วยความเคารพ ศึกครั้งนี้จบลงโดยไม่อาจรู้แพ้ชนะได้ดั่งเช่นทุกครั้ง 

"ถวายพระพรฝ่าบาท" จี๋ชงรีบเก็บของตน นั่นเพราะเกรงกลัวในอำนาจและบารมีของผู้เป็นพ่อ เจิ้งเจี๋ย จี๋ชง และเหล่าทหาร องครักษ์รวมทั้งนางกำนัลทั้งหลายต่างแสดงความเคารพ

"ในวังของข้า พวกเจ้ายังกล้าด่วนกระบี่กัน ทำไมเจ้าทั้งสองช่างกล้านัก ต่อหน้าข้าทาสบริวารยังกระทำเช่นนี้ " แววตาจ้องมองเขาทั้งคู่อย่างผิดหวัง ทำให้เขาทั้งสองรู้สึกผิดต่อการกระทำของตนเอง ถึงอย่างนั้นจี๋ชงก็ยังเก็บอาการขุ่นเคืองใจที่มีแต่เจิ้งเจี๋ย ก่อนจะเหลือบมองเสี่ยวเยาเล็กน้อย ในใจเขาไม่เคยสนใจผู้ใดมากกว่านางผู้นี้มาก่อน 

"ข้ามิบังอาจเสด็จพ่อ ข้าเพียงจะสั่งสอนคนของข้า แต่นายทหารผู้นี้ ดันเข้ามายุ่งวุ้นวาย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ข้าเลยจะสั่งสอนเท่านั้น" จี๋ชงมองไปยังเสี่ยวเยา พร้อมส่งสัญญาณให้นาง สติปัญญาระดับนาง มีหรือที่เธอจะไม่เข้าใจ

"โกหก! ข้ารู้นะว่าภายในใจท่านอ๋องเคียดแค้นข้า และท่านแม่ทัพ เพียงเพราะหน้าตาท่านแม่ทัพและข้า ดูสง่างามกว่าท่านมากนัก ท่านอิจฉาพวกเรา เลยคิดประลองยุทธ์กับท่านแม่ทัพ ผู้ที่ยอมออมมือให้ท่าน เพียงแต่ตอนนี้ท่านเกรงกลัวอำนาจบารมีที่ยิ่งใหญ่ของฝ่าบาท เลยโยนความผิดให้ข้า ผู้เป็นทหารชั้นผู้น้อยเท่านั้น..."

'เจ้าเล่ห์มาเจ้าเล่ห์กลับไม่โกง'

นางคิดกลอุบายเอาตัวรอดยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว โดยไม่ทันได้สังเกตว่าเจิ้งเจี๋ยเผยยิ้มเล็กน้อยอย่างชื่นชมในความเจ้าเล่ห์ของนาง

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 21 ข้ามิอาจปล่อยวางจากเจ้าได้อีก!

    "เสี่ยวเยา เสี่ยวเยา" น้ำเสียงคุ้นเคยดังขึ้นในห้วงความมืดมิดที่รายล้อมร่างบางระหงไว้"ไปกับข้าเถอะ! ถึงเวลาที่เขาต้องชดใช้กรรมที่ทำไว้" เป็นเสียงสตรีที่เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก"พี่เหมยหลิน ท่านใช่ไหม? ท่านอยู่ที่ใดกัน? เหตุใดถึงไม่ปรากฏตัวให้ข้าเจอสักครั้ง? " คำถามมากมายพรั่งพรูออกมาอย่างมิอาจเก็บมันไว้ได้อีกต่อไป "ความตายของเจ้าเท่านั้น! ที่จะทำให้เขาทุกข์ระทมไปชั่วชีวา ฮ่าฮ่า""อึก!!!" ใจดวงนี้ไขว้เขว และหวาดกลัวขึ้นมา เมื่อพบว่าร่างกายของตนเปล่งประกายเจิดจ้า แต่ทว่ารู้สึกปวดแสบปวดร้อนทรมานไปทั้งตัว ราวกับจะแตกสลายไปเสียให้ได้ แผนการของเหมยหลินมีมากเกินกว่าที่คิดไว้เสียอีก สุดท้ายแล้วนางก็หนีไม่พ้นความตาย แม้จะพยายามเอารอดสักเพียงใด ก็เหมือนยิ่งใกล้ความตายเท่านั้น สุดท้ายต้องมาตาย ณ ที่แห่งนี้จริงๆ เหรอ"เสี่ยวเยา เสี่ยวเยา " เสียงนุ่มนวลของบุรุษดังขึ้น "ใครนะ! เรียกข้าเหรอ?" ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ เพื่อหาที่มาของเสียง ทว่ากลับไร้แม้เงา กลับกันพบบุรุษร่างสูงยืนพินหลังให้ตน รางบางไม่รีรอเร่งฝีเท้าหมายจะเห็นหน้าตาคนนี้ผู้นี้ให้จงได้ แต่ทว่าดวงตาสีนิลเบิกโต เมื่อพบว่า ไม่ใช่ใครอื่น

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 20 : สัตว์เลี้ยงของท่านแม่ทัพ (2)

    ร่างสง่างามเดินย่างกายย่างระมัดระวัง ภายในถ้ำที่สลัว มีเพียงคบเพลิงคอยให้ความสว่าง ทางคดเคี้ยวลึกเข้าไปยาวนานกว่าที่นางคิดไว้ ดวงตาสวยเหลือบมองไปรอบตัว อย่างหวาดหวั่น ภายในใจนั้นครุ่นคิดว่า ตนเองกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เหตุใดถึงใจกล้าเพียงนี้ สองมือกำกระบี่แนบแผ่นอกไว้แน่น "หันหลังกลับไปยังทันไหมนะ!" นางพึมพำกับตนเองเพื่อข่มความกลัวเอาไว้ ดวงตาสะดุดเขากับโขดหินที่มีสัญญาลักษณ์สีแดงตั้งสง่าอยู่เบื้องหน้านาง"ยังด้านในอีก ไร้ซึ่งกำแพงป้องกัน สามารถเดินเข้าไปได้...หากผู้นั้นต้องการเป็นอาหารมัน" น้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อพบว่าด้านในเงียบสนิทไร้ซึ่งเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่ว่า ช่างน่าแปลกใจเหลือเกิน แสงสว่างด้านในไม่ใช่เสียงจากคบเพลิง แต่เป็นแสงจากจันทราที่สาดส่องมาจากช่องทางหนึ่งซึ่งไม่อาจรู้ได้เลย หากไม่ย่างกายเข้าไป ความกลัวหรือจะสู้ความใคร่รู้ของนางได้ ร่างบางระหงมุ่งตรงไปอย่างข่มความกลัวไว้ภายในใจ"เอ๊ะ!" ดวงตาสวยเบิกกว้าง อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงเมื่อพบว่าด้านในมันช่างกว้างขวาง ด้านบนถูกดัดแปลงเป็นกระจกใส มองเห็นจันทรากลมโตตั้งสง่ากลางนภาลัย กำแพงถ้ำปกคลุมด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่มประดับประดาด้

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 19 : สัตว์เลี้ยงของท่านแม่ทัพ (1)

    ฉายา หมาป่าจอมทมิฬ ได้มาเมื่อครั้นท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ยทำศึกสงครามกับสามแคว้น เขาใช้ไหวพริบควบคู่กับทักษะร่ายรำกระบี่คู่กายเผชิญหน้าเหล่าศัตรูนับร้อยดั่งเช่นหมาป่าทมิฬว่องไว และรวดเร็ว อีกทั้งดวงตาคมกริบเพ่งมองคนเบื้องหน้าอย่างไร้ความหวาดกลัว แม้จะได้รับบาดเจ็บเพียงไม่น้อย ทว่าความมุ่งมั่น ความอดทน และยึดมั่นในหลักการของท่านแม่ทัพอันแน่วแน่ของเขา ช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังให้เหล่าทหารจนชนะสงครามทุกครั้งไป แม้สงครามระหว่างแคว้นสงบลง ถึงกระนั้นขึ้นชื่อว่าท่านแม่ทัพผู้ซึ่งได้รับราชโองการจากองค์จักรพรรดิไม่อาจนิ่งดูดายต่อแคว้นของตนได้ การคัดเลือกทหารชั้นผู้น้อยจึงเริ่มขึ้น เพื่อเตรียมกำลังพล และความพร้อมเมื่อครั้นสงครามได้มาเยือน ทหารจึงต้องฝึกฝนตนเอง เพื่อเพิ่มทักษะการต่อสู้ให้แข็งแกร่งมากพอ ที่จะร่วมสงครามได้ แม้จะเก่งกาจเพียงใด แต่ใจไม่สู้ก็ย่อมสูญเปล่า เหล่าทหารขององค์จักรพรรดิย่อมต้องรู้ดีว่า เพลิงแห่งศึกยังมิอาจ มอดดับ คมศาสตร์ในมือหนักอึ้ง ดุจภาระที่ไร้จุดสิ้นสุด เสียงหนึ่งแว่วดังก้องในจิตใจ ต้องลงเล่นหมากรุกในกระดานจนกว่ากลิ่นธุลี และโลหิตเจือปนอยู่ในอากาศ "ท่านแม่ทัพช่างสำราญใจเหลื

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 18 การลงโทษจากท่านแม่ทัพ

    ทางด้านหลานจินที่แอบสะกดรอยตามลี่หวัง และสี่ซาน เพียงหวังว่าจะได้รับรู้เรื่องราวของยู่หลงบ้าง ยิ่งเนิ่นนานเท่าไหร่ เขายิ่งเป็นกังวลใจมากขึ้นเท่านั้น ตั้งแต่ซ้อมประลองกระบี่ในครานั้น ก็ไม่พบเจอนางอีกเลย ไม่มีแม้แต่จะรับรู้ข่าวคราวของนาง จนเกิดความร้อนรนบ่นความห่วงใยขึ้น ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง ทุกวันร่ำเรียนกระบี่ดังเช่นหุ่นเชิด มีชีวิตแต่ไร้ซึ่งลมหายใจ การกระทำเช่นนี้สร้างคำหงุดหงิดให้ใครผู้หนึ่งเป็นอย่างยิ่งตรึง!! ร่างสูงโปร่งกระเด็นไปไกลนอนคุดคู้ มือนั้นกุมท้องน้อยอย่างเจ็บปวด เพราะเท้าแข็งแกร่งของใครผู้หนึ่ง ที่ไม่อาจทนมองความอ่อนแอของบุรุษผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทหารขององค์จักรพรรดิได้ โดยเฉพาะทหารผู้นี้"ทำเยี่ยงนี้กับข้าได้อย่างไรกัน? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ รวบรวมกำลังพยุงร่างตนเองขึ้นมา มือสะบัดไปทั่วชุดทหารที่เปื้อนดิน ไม่แม้แต่จะแหงนหน้ามองคนผู้นั้น "ท่านแม่ทัพไม่ต้องการทหารอ่อนแอ ไม่มุ่งมั่นฝึกฝนเพื่อบ้านเมืองเยี่ยงเจ้า " ดวงตาคมกริบมองคนตรงหน้านิ่ง "ข้าแค่....โอ๊ะ! ท่านลี่หวัง!" ดวงตาเย็นชาของเขาประสานเข้ากับดวงตาคมกริบของเขานิ่งนาน "หลายวันมานี้ ข

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 17 ดวงใจท่านแม่ทัพ

    กาลเวลาผ่านไป หลายวันแล้วที่เสี่ยวเยาไม่ได้เข้าเฝ้าท่านแม่ทัพเพื่อปรนนิบัติตามที่เคยเป็น ในแต่ละวันนางเอาแต่ยุ่งอยู่กับการประลองกระบี่ ท่องตำรายุทธการต่อสู้ ร่วมกับเหลาจิน และสหายร่วมสนามรบในค่ายทหาร"ยู่หลง เต้าต้องมองกระบวนท่าการใช้กระบี่ของศัตรูให้มั่นเสมือนดวงตาอินทรีย์" ดวงตาเข้มละมุนดูแพรวพราวเมื่อมองคนเบื้องหน้า"ได้!" น้ำเสียงใสดูมุ่งมั่นตั้งใจสร้างความประทับใจให้หลานจิน แม้จะรู้ว่าตนแปลกประหลาดที่ชื่นชอบบุรุษด้วยกัน แต่ก็ไม่อาจหักห้ามความปรารถนาของดวงใจได้ การประลองกระบี่ด้วยความคล่องแคล่ว อย่างองอาจ และสง่า สร้างความประทับใจให้เหล่าสหายนับร้อย หนึ่งในนี้ยังมี ดวงตานุ่มลึกเพ่งมองสตรีแสดงกระบวนท่าตั้งรับกระบี่ฝั่งตรงข้ามได้กล้าหาญไม่แพ้บุรุษ"เอ๊ะ!" ฉับพลันดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อใบหน้าหลานจิน กลับกลายเป็นใบหน้าท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย ผู้ซึ่งทำให้หลายวันมานี้ นางกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพิ่งรู้ใจตนเองว่าชื่นชอบท่านแม่ทัพเข้าให้แล้ว ยิ่งคิดยิ่งวิตกกังวล ในฐานะของนางตอนนี้ที่ปลอมตัวเป็นบุรุษ ไม่มีสิทธิ์แม้แต่แสดงความรู้สึกได้ สู้หลบหนีในห่างเขา ไม่ใกล้กัน ย่อมไม่หวั่นไหวไปมากกว่าเดิ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 16 ป่วนใจท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย

    แสงสีทองลับขอบฟ้า วิหคน้อยฝูงใหญ่บินล่องลอยกลางเวหามุ่งสู่รัง ทางด้านเสี่ยวเยาแปรสภาพเป็น ยู่หลงเช่นเดิม อย่างไรก็ตามนางไม่วายคลางแคลงใจในสิ่งที่เกิดขึ้น คงเป็นเพราะพบเจอแต่เรื่องประหลาดมากมาย จนนางอดคิดไม่ได้ว่า เหตุใดวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันถึงง่ายดายเหมือนถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า "ทุกสิ่งในวันนี้ช่างพอเหมาะ ได้ทั้งปิ่นปักผมที่ชอบ และเสื้อผ้าสวยๆ มาฟรี หรือเราคิดมากไปเองนะ!" นางซ่อนทุกอย่างไว้ในห้องเป็นอย่างดี อย่างไรเสีย คือมันของล้ำค่าที่สุดในชีวิตนาง ณ เวลาอยู่ที่แห่งนี้ ร่างบางย่างก้าวไปยังที่พักของท่านแม่ทัพ เพื่อรายงานตัว แววตาใสจ้องมองบุรุษผู้มุ่งมั่นอยู่กับการอ่านตำรายุทธศาสตร์ ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน จนนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างเผลอตัว "เก่งไปทุกด้านเสียจริงๆ" เจิ้งเจี๋ยปิดตำราก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผย สายตาคมคลายหล่อเหลาจับจ้องมองที่นาง "วันนี้ดูเจ้าสุขอุรา ใบหน้าอิ่มเอมเหลือเกิน" ดวงตาดอกท้อช้อนสายตาขึ้นมองอย่างไม่คิดจะหลบตา "คงเพราะความเมตตาของท่านแม่ทัพ ข้าเลยเที่ยวเพลินเลย เอ๊ะ! ลี่ซาน ลี่หวัง! " นางยิ้มแห้งๆ ก่อนจะหยุดยิ้มลง ดวงตาสีนิลจ้องเขม็งอย่าง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status