Share

บทที่ 6

Penulis: Futhaone
last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-11 22:07:27

"บังอาจ! กล้าใส่ความท่านอ๋อง สมควรตาย องครักษ์จับนายทหารผู้นี้"ข้ารับใช้คนสนิทของจี๋ชงเอ่ยขึ้นด้วยแววตาขุ่นเคือง 

"ไม่เป็นไรๆ เจ้าเด็กน้อย ช่างฉลาดยิ่ง นามว่าอะไร " ฝ่าบาทจ้องมองนาง ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาทั้งคู่ทะเลาะกันเพียง เพราะทหารคนเดียว ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่วังหลวงแห่งนี้ ไม่มีความสงบเรียบร้อย แต่ยังคงความเป็นตัวเอง คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น ไม่สนใจผู้ใด แต่ทว่าท่านผู้นี้คือ องค์จักรพรรดิของแผ่นดิน ที่เธอมิอาจทำตัวไร้มารยาทได้ เพราะประวัติศาสตร์ได้จารึกแต่คุณงามความดีไว้มากมาย มันน่าละอายใจเหลือเกินหากเธอทำตัวไร้มารยาท

"ข้าน้อย ยู่หลง คารวะฝ่าบาท ขอให้อายุยืนหมื่นๆ ปี" เสี่ยวเยาคุกเข่าลง เพื่อแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม แลดูจริงใจ ยิ่งทำให้ฝ่าบาทเอ็นดูเขามากขึ้นไปอีก

"ไม่ต้องพิธี เอาล่ะๆ ลุกขึ้นเถิด.." รอยยิ้มอันอ่อนโยนได้ปรากฏบนใบหน้าสง่างาม มีเมตตา เหมาะสมตามคำร่ำลือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

"ขอบพระทัยฝ่าบาท" น้ำเสียงอันหนักแน่น เพื่อกลบเกลื่อนความเป็นสตรีไว้ เสี่ยวเยาเหลือบมองฝ่าบาท ก่อนที่จะกะพริบตาข้างหนึ่ง ส่งสัญญาณให้นางกำนัลรีบหาช่องทางหลบหนีออกไป

"อ๋องจี๋ชง แม่ทัพเจิ้งเจี๋ย ประลองกระบี่กันเช่นนี้ ต่อหน้าบริวารไม่สมควร มีใครได้รับบาดเจ็บบ้างไหม?" แววตายังคงเป็นห่วงเขาทั้งสอง ทุกคนในวังต่างรู้ดีว่าทั้งคู่ต่างเป็นคนโปรดของจักรพรรดิ ที่เพิ่งกลับคืนสู่พระราชวังได้ไม่นานหลังเสร็จสงครามครั้งใหญ่ เจิ้งเจี๋ยรีบปกปิดบาดแผลไว้ เพื่อไม่ให้น้องชายต่างมารดาต้องมารับโทษเพราะตน

"แค่ฝึกซ้อมกระบี่กันเท่านั้น ทรงอย่าได้กังวลไปเลย" เจิ้งเจี๋ยรีบบ่ายเบี่ยง ทำเอาเสี่ยวเยาได้แต่ยืนอึ้ง มองหน้าจี๋ชงที่ทำสีหน้าเยาะเย้ยให้ตนเอง อย่างผู้ได้รับชัยชนะ เสี่ยวเยาทำได้แต่ขบกรามแน่นเพื่อเห็นแก่เจิ้งเจี๋ย

"ใช่แล้ว ท่านพ่อ เราแค่ประลองวรยุทธ์กันเท่านั้น ทรงอย่าได้กังวลไปเลย" จี๋ชงพูดเสริมขึ้น เพียงเพราะตนไม่อยากให้รู้ความจริง อาจรับโทษฐานทำร้ายข้ารับใช้ในวังได้ คงรู้ดีแก่ใจว่า เป็นเรื่องที่ฝ่าบาททรงกริ้วโกรธกว่าเรื่องใดๆ ทรงให้ความสำคัญต่อข้าทาสบริวารเป็นอันดับหนึ่ง

"ดี ยู่หลง ตั้งแต่นี้ต่อไป เจ้าจงเป็นทั้งนางกำนัล และองครักษ์ของเจิ้งเจี๋ย ปรนนิบัติรับใช้ อย่าให้ขาดตกบกพร่องเป็นอันขาด เข้าใจไหม" ฝ่าบาทยิ้มกว้างถึงตา ไม่รู้เหตุใดถึงถูกชะตากับนายทหารผู้นี้นัก ไม่เคยมีใครกล้าสร้างความปั่นป่วนในวังที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายแห่งนี้มานานมากแล้ว

"แต่ว่าฝ่าบาท ข้า..."ดวงตาเจิ้งเจี๋ยเบิกโตด้วยความตกใจ  นับตั้งแต่เกิดเรื่องในครานั้นขึ้น เขาไม่อยากเห็นนางกำนัลในจวนของตนอีกเลย

"หม่อมฉันรับราชโองการ ..." นางยิ้มกว้าง พร้อมส่งแววตาเจ้าเล่ห์มายังท่านแม่ทัพ เหลือบตามองนาง อย่างกับจะฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ จี๋ชงเองก็ไม่วายที่จะยอมแพ้ง่ายๆ แม้จะขัดคำสั่งท่านพ่อไม่ได้ แต่ตนจะไม่มีวันยอมปล่อยนางผู้นี้ให้เป็นของเจิ๋งเจี๋ยได้แน่นอน อย่างน้อยเขาก็ล่วงรู้ความลับของนาง อีกทั้งภายในใจลึกๆ ก็โปรดปรานนางอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

เสี่ยวเยาเดินตามหลังเจิ้งเจี๋ย ผู้ที่นิ่งเงียบ ไม่พูดจากับเธอสักคำ ท่ามกลางแสงสว่างของดวงจันทร์ในยามราตรี สายลมยังพัดอ่อนๆไปทั่วทิศทาง แม้จะเหน็บหนาวเพียงใด แต่เหตุใดเขากลับอบอุ่นใจเช่นนี้ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความคิดมากมายพรั่งพรูเข้ามา ความสับสนเริ่มก่อตัวขึ้น เขารู้สึกไม่พึงพอใจทุกครั้ง เมื่อมองแววตาของจี๋ชงที่มองมายังทหารผู้นี้ที่เป็นชายเช่นเดียวกัน  

นางมองบุรุษเบื้องหน้าตน ที่เดินด้วยท่าทางเหม่อลอย เพียงแผ่นหลังกว้าง ก็รู้ได้ว่าเขาคือ บุรุษที่งดงาม แข็งแรง เพียบพร้อมไปทุกด้าน เสี่ยวเยายังสัมผัสได้ว่าท่านแม่ทัพผู้นี้ปิดบังบางอย่างไว้ ซึ่งเธอต้องรู้ให้ได้

"เจ้าจะแอบมองข้าอีกนานไหม" เขาหยุดเดินชั่วขณะ เพราะรับรู้ได้ว่าตนถูกแอบมองตลอดเส้นทาง  เสี่ยวเยาไม่ทันระวังตน นางชนเข้ากับแผ่นหลังอย่างจัง ด้วยความตกใจ และสัญชาตญาณของนางสองแขนได้โอบกอดคอเขาไว้ แววตาทั้งคู่สบตากันด้วยความบังเอิญ

"เอ๊ะ!! .." ดวงตาเคร่งขรึมเบิกกว้าง เมื่อเจ็บปวดตรงบาดแผล ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมานานนับสิบปี

"ท่านแม่ทัพ! ท่านบาดเจ็บเหรอ?" ก่อนจะมองตามหยดเลือดที่ไหลรินออกมาจากแขนข้างหนึ่ง นางไม่รอช้ากระชากแขนเสื้อตัวเอง เพื่อห้ามเลือดให้เขา ด้วยแววตาที่ดูเป็นกังวล ทำเอาคนเบื้องหน้านิ่งไปชั่วครู่หนึ่ง ทำไมถึงรู้สึกดีเช่นนี้ 

"ข้าไม่ได้เป็นอะไร"

"แต่ท่าน..."

ทั้งคู่สบตากันอีกครั้ง ท่ามกลางแสงจันทราที่สว่างไปทั่ว เผยให้เห็นใบหน้าขาวนวลผ่องที่ชัดเจน แก้มแดงระเรื่อของทหารผู้นี้ ทำเอาเจิ๋งเจี๋ยเหมือนโดนมนต์สะกด ภายในใจเริ่มหวั่นไหว ยิ่งเผลอมองริมฝีปากชมพูอันอวบอิ่ม ยิ่งทำให้เขารู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งตัว แก้มเขาเริ่มแดงราวกับมะเขือเทศ ก่อนจะเรียกสติตนกลับมา ผงะตัวออกมาอย่างว่องไว ก่อนจะจ้ำอ้าวออกไปโดยไม่ผินหลังกลับมามอง

"อะไรของหมอนั้น! " เสี่ยวเยาเอ่ยขึ้นด้วยความมึนงง ก่อนจะมองขวดยาในมือด้วยความผิดหวังเล็กน้อย

"อย่างน้อยก็ควรทายาเสียก่อนซิ ท่านแม่ทัพ..." นางยังคงเดินมุ่งตรงไปยังจวนท่านแม่ทัพ หากคืนนี้มิได้ทายาให้เขา เธอเองก็ไม่คิดจะกลับที่พักเป็นอันขาด เพราะอย่างน้อยเขาก็คือผู้มีพระคุณของเธอ 

ฝ่าบาทยืนเพ่งมองดวงจันทร์กลมโต ด้วยแววตาเปล่งประกาย บนด้วยแววตาเศร้าหมอง แม้จะมีความหวังแต่ต้องแลกกับความสูญเสีย นานเท่าไหร่แล้วเขาผู้นั้น ไร้ซึ่งความรู้สึก เมื่อไหร่คำสาปนั่นจะจบลง รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าเขา ก่อนที่กงกงจะเดินเข้ามาใกล้ตนด้วยความเป็นห่วง

"ดึกแล้วกลับตำหนักเถิดฝ่าบาท"

"กงกงทหารผู้นั้นที่ข้าเจอวันนี้ คือผู้ที่เจิ้งเจี๋ย รอคอยมาแสนนานจริงๆ ใช่ไหม? ฮ่าฮ่า" เสียงหัวเราะชอบอกชอบใจ ท่ามกลางความงุนงงของกงกง และเหล่าทหาร ที่มิเคยเห็นฝ่าบาทเป็นเช่นนี้มาก่อน แต่ใครจะรู้ว่าเสียงหัวเราะนั้นกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง

เสี่ยวเยาในร่างยู่หลงเดินวนไปวนมาอยู่หน้าจวนของท่านแม่ทัพ นั้นเพราะคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปแต่ตนต้องทานยา และทำแผลให้สำเร็จถึงจะวางใจได้   ชั่วครู่หนึ่งประตูได้ถูกเปิดออก แต่ผู้ที่ย่างก้าวออกมากลับกลายเป็นองครักษ์คนสนิทของเขา นามว่า ลี่หวัง มุ่งตรงมายังนางด้วยท่าทางแสนเย็นชา คิ้วขมวดชนกัน ช่างยียวนกวนประสาทนางยิ่งนัก

"ท่านแม่ทัพสั่งให้ข้ามาบอกเจ้า ว่าให้กลับไปซะ แต่หากเจ้ายังวุ่นวายไม่เลิก ให้ข้าฆ่าเจ้าเสีย!" ทหารผู้นั้นเตรียมชักกระบี่คู่กายออกมา 

"ไม่ได้!! ท่านแม่ทัพต้องทานยา ทำแผลเสียก่อน เพราะถือเป็นคำสั่งของฝ่าบาทด้วย เจ้ากล้าขัดราชโองการเหรอ! เจ้าอยากตายนักรึไง ฮ่ะ! ถ่อยๆ ข้าจะเข้าไป ลีลานักนะท่านแม่ทัพ ข้าง่วงนอนจะตายแล้วเนี่ย.."

"........" ลี่หวัง งุนงงกลับคำพูดและท่าทางของนาง  ปล่อยนางเข้าไปด้วยความจำใจ 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 7 ท่านแม่ทัพ

    แสงสว่างจากดวงจันทราสาดส่องเพียงพอให้นางมองเห็นสภาพภายในจวน เสี่ยวเยาต้องแปลกใจปนความสงสัย เมื่อพบว่ามันช่างว่างเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งของมีค่าอย่างที่ผู้คนต่างร่ำลือไว้ มีเพียงโต๊ะไม้เก่าๆ ไว้ดื่มชา กับเตียงนอนเรียบง่ายที่ไม่อลังการ พร้อมแกะสลักลวดลายหมาป่าที่น่าเกรงขามไว้เท่านั้น ไม่สมกับเป็นเชื้อสายพระวงศ์ แม้แต่น้อย ผิดจากภายนอกจวนที่ตกแต่งหรูหรา ดูอลังการสง่างาม จนน่าอิจฉาแท้จริงแล้วด้านในกลับมีแต่ความว่างเปล่า ไม่เหมือนดั่งที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า "ท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ยผู้นี้ใช้ชีวิตสุขสบาย หรูหราฟุ่มเฟือย ข้าวของเครื่องใช้ทำด้วยทองคำ ร่ำรวยกว่าองค์จักรพรรค์เสียอีก สาเหตุเพราะยึดทรัพย์สมบัติของเหล่ารัฐที่ตนไปทำสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน โดยได้รับอนุญาตจากฝ่าบาท เพื่อเป็นรางวัลชนะศึก""อะไรเนี่ย!!" เสี่ยวเยาเดินสำรวจรอบๆ ไม่วายคลางแคลงใจ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองไปยังผู้กำลังหลับใหล ด้วยใบหน้าซีดเผือด ผิดมนุษย์มนา หรือ เขากำลังแอบซ่อนอะไรไว้"........""หลับสบายเชียวนะ! ปล่อยให้ข้ายืนรอตั้งนานสองนาน มันน่าฆ่าให้ตายเสียจริง ฮึ! " นางเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ ที่ตนต้องยืนรอตั้งสองชั่วยาม เห

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 8 ท่านแม่ทัพ

    ภาพคนทั้งคู่หนุนเตียงกันได้สร้างบาดแผลครั้งใหญ่ต่อเจิ้งเจี๋ย ความคับแค้นใจก่อตัวขึ้น จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วนางเป็นผู้หญิงเช่นไร "เอานายทหารผู้นี้ไปโบยสามร้อยครั้ง แล้วจงโรยด้วยเกลือ!!" น้ำเสียงเคร่งขรึมของเขาสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้คนทั้งคู่ ที่ตื่นขึ้นมาพบว่าอยู่ใต้ผ้าห่มฝืนเดียวกัน ด้วยร่างอันเปลือยเปล่า โดยเฉพาะเหมยหลินคนรักเขาของเขา ที่พยายามจะอธิบายให้ท่านแม่ทัพเข้าใจทั้งน้ำตาด้วยใจทุกข์ระทม เจิ้งเจี๋ยเองก็เจ็บลึกในทรวงไม่แพ้กัน เพียงเก็บอาการไว้ เพื่อเห็นแก่ความผลงานและความดีที่ผ่านมาจึงไม่ฆ่าทหารผู้นั้นทิ้ง ก็นับว่าเมตตามากพอแล้ว "อึก! ท่านแม่ทัพ ได้โปรดเชื่อข้าเถอะ! ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นเช่นนี้...อึก" น้ำเสียงอันสั่นเครือของนาง แววตาดูจริงใจเปล่งประกายขึ้น แม้ว่าขอบตาจะเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสที่ไหลรินอาบสองแก้มอันอวบอิ่มก็ตามเจิ้งเจี๋ยก้าวฝีเท้ามายังนาง เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเฉกเช่นเดียวกับนาง ดวงตาฉายแววผิดหวังบ่นความขุ่นเคืองใจ จ้องมองพวกเขาทั้งคู่ แม้จะเคยเห็นทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันปล่อยๆ แค่คิดว่าเป็นเพราะความสนิทดั่งมิตรสหายเท่านั้น ไม่น่ามาลงเอยเช่นนี้เลย"เ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 9 ความรู้สึกเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    หลานจิน และเสี่ยวเยา เขาทั้งสองต่างมุ่งหน้าไปยังที่พักของตนเอง ท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงความสว่างจากโคมไฟนำทาง เสี่ยวเยาเหลือบมองหลานจิน ผู้หล่อเหลา ตั้งแต่ทะลุมิติมา เจอสหายคนแรกที่พึ่งพาได้ตอนนี้ มีเพียงเขาผู้นี้เท่านั้น "นี่หลานจิน หากข้าต้องการไปหน้าผาอสรพิษ ต้องทำอย่างไรเหรอ?" เสี่ยวเยาเอ่ยขึ้นในขณะที่เดินมาถึงสระน้ำกว้างใหญ่ ของจวนท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย"ยู่หลงนี่เจ้าคิด...อุ๊บ" ไม่ทันที่เขาจะพูดจบกลับโดนปิดปากไว้ด้วยมือของเสี่ยวเยา แต่ทว่าเขารู้สึกประหลาดใจเมื่อสัมผัสถึงผิวที่เรียบเนียน พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องหอมปรุงแต่งกลิ่นจากบุพผา"อย่าเสียงดังสิ! ข้าตามหาพี่สาวของข้า เจ้าก็รู้นี้!!" เสียงเข้มของนาง สลัดความสงสัยนั้นออกไปจนหมดสิ้น "ยู่หลง เจ้าช่างรนหาที่ตายเสียจริง ผู้ใดที่ได้ไปเยือน ยากนักจะได้กลับมา มีเพียงท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย และทหารคนสนิทเท่านั้นที่รู้เส้นทางที่ปลอดภัย ""ทหารคนสนินเหรอ... ลี่เจิน กับลี่ซานใช่ไหม?""อืม...หยุดคิดซะเถอะ พรุ่งนี้พวกเขาก็ออกเดินทางแล้ว" เสี่ยวเยาเบิกตาพองโต ดวงตาเปล่งประกายอย่างมีความหวัง ก่อนยิ้มแย้มแจ่มใสสุขสมดั่งใจที่ไม่เคยเป็นมาก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 10 การเดินทาวมาพร้อมความหวั่นไหว

    รถม้าเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ผ่านทิวทัศน์อันงดงามของภูเขา และแม่น้ำใสสะอาดจนเห็นโขดหินอย่างชัดเจน สายลมหนาวยังคงพัดเย็นๆ ผ่านเบื้องหน้าของทุกคน ทำให้รู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายลง"หลานจิน เมื่อไหร่จะถึงหุบเขาอสรพิษดำ" เสี่ยวเยาถามขึ้น เมื่อพบว่าระยะทางที่ผ่านมามันช่างยาวนานนัก "พรุ่งนี้ ยามอาทิตย์ตกดินคงจะถึงจะที่หมาย ข้าก็เคยมาเป็นครั้งแรกเหมือนเจ้า ""เอ๊ะ! แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหน บริเวณนี้มีป่าไม้ไผ่ ต้นไม้หนา นานแล้วที่ข้าไม่เห็นโรงเตี้ยมเลย เริ่มจะมืดแล้วด้วย" ความตระหนกตกใจของนาง ทำให้เขาดูเป็นกังวลใจยิ่งนัก"เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง""ข้าไม่ได้กลัวภัยอันตราย แต่ข้ากลัวความมืดมากกว่า.." นางกระซิบเบาๆ จนเขาหัวร่อต่อกระซิก ไม่คิดว่าทหารกล้าหาญอย่างเขา จะกลัวความมืดได้ถึงเพียงนี้"หยุดหัวเราะนะ หลานจิน""ได้ๆ ข้าหยุดก็ได้ ทางข้างหน้าแคบ เจ้าระวังตัวด้วย "สิ้นคำพูดของเขา ทางเดินข้างหน้าเริ่มแคบ และชันลง รถม้าของท่านแม่ทัพไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปไดเ"หยุด" สิ้นเสียงท่านแม่ทัพ รถม้าหยุดลง ดวงตาคมกริบเหลือบมอง ทหารร่างบางที่บนนั่งม้าด้วยท่าทางเหม่อลอย เหมือนครุ่นคิดสิ่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-13
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 11 ท่านแม่ทัพ ผู้กำความลับของนาง

    เนื่องด้วยอาการหนาวเย็นยะเยือกแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณป่าทึบ เสี่ยวเยา นอนคดคู้ เพราะชุดทหารไม่ได้หนาพอที่จะให้ความอบอุ่นได้ตลอดทั้งคืน ทว่าว่ากลับได้รับความอบอุ่นจากกองเพลิงที่ลุกโชนอย่างดี ในทางกลับกันหากนางนอนฝั่งเดียวกับหลานจิน ที่อยู่ห่างไกลจากกองไฟ คงจะหนาวสั่นจนตายเเน่นอน เสี่ยวเยาเพ่งสายตาไปยังบุรุษที่นอนพิงพาย ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่ห่างไกลจากตนเองมากนัก ใบหน้าหล่อเหลา กระทบกับแสงจันทร์ เป็นบุรุษที่ยิ่งดู ยิ่งมีเสน่ห์ ไม่อาจรู้ได้ว่าเนื้อในที่จริงเป็นอย่างที่จารึกไว้หรือเปล่า ทั้งโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน ไร้ความเมตตา ตรงกันข้ามนางสัมผัสถึงความใส่ใจ และห่วงใยต่อนาง แต่ทว่าเสี่ยวเยาไม่รู้อะไรเลย แท้จริงแล้วเจิ้งเจี๋ยปฏิบัติต่อนางแตกต่างจากผู้อื่น.."ไม่เห็นเหมือนที่อ่านไว้เลย""มองข้าพอหรือยัง" เสียงทุ้มดังขึ้น แม้ว่าเขายังหลับตาอยู่ก็ตาม"ข้าไม่ได้ตั้งใจจะมองท่าน มองชุดที่ท่านสวมใส ดูอบอุ่นดีต่างหากล่ะ " นางยิ้มแห้งๆ "อย่างนั้นเหรอ!" "เอ๊ะ! จะทำอะไรนะ!" เสี่ยวเยาลุกพรวดอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันตัว ขณะที่ท่านแม่ทัพถอดชุดคลุมขนสัตว์ ก่อนจะนั่งยองๆ ห่มมันให้กับนาง โดยไม่สบตา เดินกลับไปนอนตา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-13
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 12 ท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย

    ท่านแม่ทัพเดินนำทางไปยังที่พักด้วยความนิ่งสงบ ไม่เอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา จนน่าประหลาดใจ เพราะดวงตาคมมัวสอดส่องไปทั่วบริเวณ เมื่อพบว่าตลอดเส้นทางในป่าแห่งนี้ มันช่างเงียบผิดปกติเหลือเกิน เสี่ยวเยาเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัย 'แค่มาอาบน้ำเอง ไม่พอใจขนาดนี้เลยเหรอ' น้ำเสียงเพียงแผ่วเบา ทำให้เขาพินหน้ามองนาง ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ด้วยแววตานิ่งแต่มีนัยแอบแฝง"เจ้าต่อสู้ได้ใช่ไหม?""เอ๊ะ! อืม สบายมาก"สิ้นคำตอบนาง เจิ้งเจี๋ยนำกระบี่ออกมา ดวงตาสวยพองโตขึ้น สะดุ้งเฮือก เมื่อเขายื่นกระบี่คู่กายให้นางอย่างไม่ลังเล"เริ่ม!" แววตาคมกริบเพ่งมองไปด้านหน้าในขณะเดียวกันที่ปรากฏกลุ่มชายชุดดำ กระโจนโจมตีทั้งคู่"พวกเจ้าเป็นโจรป่าใช่ไหม?" "....." มีเพียงเสียงคมกระบี่ที่ให้คำตอบนาง เจิ้งเจี๋ยใช้เพียงมือเปล่าจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย ไม่แปลกใจที่เขาจะเป็นที่ไว้วางใจขององค์จักรพรรดิ เพราะสติปัญญา มาพร้อมความเจ้าระเบียบรอบคอบ อีกทั้งวรยุทธ์ที่เก่งกาจของเขา ได้สร้างคุณงามความดีต่อบ้านเมืองไว้อย่างมากมาย แม้ว่าจะโดนตราหน้าว่า เป็นผู้นำทัพทำสงครามอย่างเหี้ยมโหดก็ตาม "ยู่หลง ระวัง! " น้ำเสียงเข้มแฝงความห่วงใยเรียกสติ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-14
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 13 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป...

    เสี่ยวเยายังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ ซ้อมประลองกระบี่อย่างกล้าหาญ ดั่งเช่นทหารทั่วไป โดยไม่ปริปากบ่นเลยสักนิด นางไม่รู้เลยว่า ทุกการกระทำของนางนั้น ได้อยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพตลอดเวลา ผู้เดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง อีกทั้งยังมองนางเปลี่ยนไปจากเดิม"ลี่ซาน ข้าว่าพักหลังมานี่ ท่านแม่ทัพดูจะสนใจยู่หลงเป็นพิเศษ หรือเจ้าว่าข้าคิดผิดไปเอง" "ข้าเห็นด้วยกับเจ้า หากเป็นเช่นนี้ หรือว่า""หรือว่าอะไร""ท่านแม่ทัพจะหลงเสน่ห์ยู่หลง!""เสียสติไปแล้วหรือไง พวกเขาเป็นบุรุษทั้งคู่ ช่างเถอะๆ ถามเจ้าไปก็เท่านั้น " ลี่หวังสะบัดหน้าเดินหนีเขาไปอย่างเอือมระอา"นี่..ลี่หวัง!! เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" ลี่ซานเดินตามผู้เป็นน้องไปอย่างไม่เข้าใจว่าตนนั้นพูดอะไรผิดไปแม้ว่าท่านแม่ทัพจะทำทุกอย่างเหมือนเช่นที่เคยเป็นต่อหน้าทุกคน แต่ส่วนลึกในจิตใจ ยังคงคิดถึง ความจริงที่เขาเพิ่งรู้ ทางกลับกันเสี่ยวเยายังคงค้นหา เส้นทางลับที่อาจจะนำนางไปยังหน้าผาอสรพิษดำได้ แม้จะเป็นสถานที่ต้องห้ามอีกทั้งน่าหวาดกลัว หากฟังไม่ผิดคงอยู่ด้านหลังค่ายทหาร ที่มีทหารเฝ้ายามกันอย่างแน่นหนาจนน่าสงสัย ยามว่างของนางวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-15
  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 14 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของท่านแม่ทัพ

    เสียงนกน้อยขับร้องไพเราะ ดังสนั่นไปทั่วหุบเขา แสงอรุณกระทบบุพผา ราวกับต้อนรับเช้าวันใหม่อันสดใสในเหมันตฤดู ซึ่งมีเพียงดอกเหมยฮวาเท่านั้นที่คงความงาม และความสดชื่นอยู่จนถึงต้นวสันตฤดู จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาของวสันตฤดูด้วย รวมถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขเกษม เบิกบานสำราญใจของผู้คน ท่านแม่ทัพลืมตาตื่น ด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย ดวงตาคมเบิกกว้าง เมื่อพบว่าเสี่ยวเยานอนหลับใหลอยู่ข้างเตียงเขา ใบหน้านั้นแสดงถึงความอ่อนล้า เจิ้งเจี๋ยลุกนั่งเพ่งพินิจ ขนตางอน แก้มอิ่มเอิบไร้สีสันแต่งแต้ม และริมฝีปากบางชมพู เพียงเท่านี้นางยังดูงดงามเหลือเกิน หากนางแต่งองค์ทรงเครื่องจะสวยงามมากเพียงใดกัน "หากนางแต่งหญิงจะเป็นเช่นไรนะ!" น้ำเสียงเพียงแผ่วเบา ไม่สามารถทำให้ผู้หลับลึกได้ยิน เจิ้งเจี๋ยเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนหลบยิ้มลงเมื่อนึกถึงฝันร้ายของตน "อย่างไรเสีย! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทรยศข้า เหมือนดั่งเช่นพี่สาวของเจ้า" ถึงแม้น้ำเสียงนั้นจะเย็นชา แต่แอบแฝงไปด้วยความห่วงใย ทั้งที่ควรกำจัดนางไปเสีย แต่เขากลับทำเช่นนั้นไม่ได้ อย่างไรเสียในสายตาเขา นางยังเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสา ไม่มีพิษภัย แววตาใสซื่ออย่า

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-15

Bab terbaru

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 20 : สัตว์เลี้ยงของท่านแม่ทัพ (2)

    ร่างสง่างามเดินย่างกายย่างระมัดระวัง ภายในถ้ำที่สลัว มีเพียงคบเพลิงคอยให้ความสว่าง ทางคดเคี้ยวลึกเข้าไปยาวนานกว่าที่นางคิดไว้ ดวงตาสวยเหลือบมองไปรอบตัว อย่างหวาดหวั่น ภายในใจนั้นครุ่นคิดว่า ตนเองกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เหตุใดถึงใจกล้าเพียงนี้ สองมือกำกระบี่แนบแผ่นอกไว้แน่น "หันหลังกลับไปยังทันไหมนะ!" นางพึมพำกับตนเองเพื่อข่มความกลัวเอาไว้ ดวงตาสะดุดเขากับโขดหินที่มีสัญญาลักษณ์สีแดงตั้งสง่าอยู่เบื้องหน้านาง"ยังด้านในอีก ไร้ซึ่งกำแพงป้องกัน สามารถเดินเข้าไปได้...หากผู้นั้นต้องการเป็นอาหารมัน" น้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อพบว่าด้านในเงียบสนิทไร้ซึ่งเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่ว่า ช่างน่าแปลกใจเหลือเกิน แสงสว่างด้านในไม่ใช่เสียงจากคบเพลิง แต่เป็นแสงจากจันทราที่สาดส่องมาจากช่องทางหนึ่งซึ่งไม่อาจรู้ได้เลย หากไม่ย่างกายเข้าไป ความกลัวหรือจะสู้ความใคร่รู้ของนางได้ ร่างบางระหงมุ่งตรงไปอย่างข่มความกลัวไว้ภายในใจ"เอ๊ะ!" ดวงตาสวยเบิกกว้าง อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงเมื่อพบว่าด้านในมันช่างกว้างขวาง ด้านบนถูกดัดแปลงเป็นกระจกใส มองเห็นจันทรากลมโตตั้งสง่ากลางนภาลัย กำแพงถ้ำปกคลุมด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่มประดับประดาด้

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 19 : สัตว์เลี้ยงของท่านแม่ทัพ (1)

    ฉายา หมาป่าจอมทมิฬ ได้มาเมื่อครั้นท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ยทำศึกสงครามกับสามแคว้น เขาใช้ไหวพริบควบคู่กับทักษะร่ายรำกระบี่คู่กายเผชิญหน้าเหล่าศัตรูนับร้อยดั่งเช่นหมาป่าทมิฬว่องไว และรวดเร็ว อีกทั้งดวงตาคมกริบเพ่งมองคนเบื้องหน้าอย่างไร้ความหวาดกลัว แม้จะได้รับบาดเจ็บเพียงไม่น้อย ทว่าความมุ่งมั่น ความอดทน และยึดมั่นในหลักการของท่านแม่ทัพอันแน่วแน่ของเขา ช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังให้เหล่าทหารจนชนะสงครามทุกครั้งไป แม้สงครามระหว่างแคว้นสงบลง ถึงกระนั้นขึ้นชื่อว่าท่านแม่ทัพผู้ซึ่งได้รับราชโองการจากองค์จักรพรรดิไม่อาจนิ่งดูดายต่อแคว้นของตนได้ การคัดเลือกทหารชั้นผู้น้อยจึงเริ่มขึ้น เพื่อเตรียมกำลังพล และความพร้อมเมื่อครั้นสงครามได้มาเยือน ทหารจึงต้องฝึกฝนตนเอง เพื่อเพิ่มทักษะการต่อสู้ให้แข็งแกร่งมากพอ ที่จะร่วมสงครามได้ แม้จะเก่งกาจเพียงใด แต่ใจไม่สู้ก็ย่อมสูญเปล่า เหล่าทหารขององค์จักรพรรดิย่อมต้องรู้ดีว่า เพลิงแห่งศึกยังมิอาจ มอดดับ คมศาสตร์ในมือหนักอึ้ง ดุจภาระที่ไร้จุดสิ้นสุด เสียงหนึ่งแว่วดังก้องในจิตใจ ต้องลงเล่นหมากรุกในกระดานจนกว่ากลิ่นธุลี และโลหิตเจือปนอยู่ในอากาศ "ท่านแม่ทัพช่างสำราญใจเหลื

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 18 การลงโทษจากท่านแม่ทัพ

    ทางด้านหลานจินที่แอบสะกดรอยตามลี่หวัง และสี่ซาน เพียงหวังว่าจะได้รับรู้เรื่องราวของยู่หลงบ้าง ยิ่งเนิ่นนานเท่าไหร่ เขายิ่งเป็นกังวลใจมากขึ้นเท่านั้น ตั้งแต่ซ้อมประลองกระบี่ในครานั้น ก็ไม่พบเจอนางอีกเลย ไม่มีแม้แต่จะรับรู้ข่าวคราวของนาง จนเกิดความร้อนรนบ่นความห่วงใยขึ้น ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง ทุกวันร่ำเรียนกระบี่ดังเช่นหุ่นเชิด มีชีวิตแต่ไร้ซึ่งลมหายใจ การกระทำเช่นนี้สร้างคำหงุดหงิดให้ใครผู้หนึ่งเป็นอย่างยิ่งตรึง!! ร่างสูงโปร่งกระเด็นไปไกลนอนคุดคู้ มือนั้นกุมท้องน้อยอย่างเจ็บปวด เพราะเท้าแข็งแกร่งของใครผู้หนึ่ง ที่ไม่อาจทนมองความอ่อนแอของบุรุษผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทหารขององค์จักรพรรดิได้ โดยเฉพาะทหารผู้นี้"ทำเยี่ยงนี้กับข้าได้อย่างไรกัน? " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ รวบรวมกำลังพยุงร่างตนเองขึ้นมา มือสะบัดไปทั่วชุดทหารที่เปื้อนดิน ไม่แม้แต่จะแหงนหน้ามองคนผู้นั้น "ท่านแม่ทัพไม่ต้องการทหารอ่อนแอ ไม่มุ่งมั่นฝึกฝนเพื่อบ้านเมืองเยี่ยงเจ้า " ดวงตาคมกริบมองคนตรงหน้านิ่ง "ข้าแค่....โอ๊ะ! ท่านลี่หวัง!" ดวงตาเย็นชาของเขาประสานเข้ากับดวงตาคมกริบของเขานิ่งนาน "หลายวันมานี้ ข

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 17 ดวงใจท่านแม่ทัพ

    กาลเวลาผ่านไป หลายวันแล้วที่เสี่ยวเยาไม่ได้เข้าเฝ้าท่านแม่ทัพเพื่อปรนนิบัติตามที่เคยเป็น ในแต่ละวันนางเอาแต่ยุ่งอยู่กับการประลองกระบี่ ท่องตำรายุทธการต่อสู้ ร่วมกับเหลาจิน และสหายร่วมสนามรบในค่ายทหาร"ยู่หลง เต้าต้องมองกระบวนท่าการใช้กระบี่ของศัตรูให้มั่นเสมือนดวงตาอินทรีย์" ดวงตาเข้มละมุนดูแพรวพราวเมื่อมองคนเบื้องหน้า"ได้!" น้ำเสียงใสดูมุ่งมั่นตั้งใจสร้างความประทับใจให้หลานจิน แม้จะรู้ว่าตนแปลกประหลาดที่ชื่นชอบบุรุษด้วยกัน แต่ก็ไม่อาจหักห้ามความปรารถนาของดวงใจได้ การประลองกระบี่ด้วยความคล่องแคล่ว อย่างองอาจ และสง่า สร้างความประทับใจให้เหล่าสหายนับร้อย หนึ่งในนี้ยังมี ดวงตานุ่มลึกเพ่งมองสตรีแสดงกระบวนท่าตั้งรับกระบี่ฝั่งตรงข้ามได้กล้าหาญไม่แพ้บุรุษ"เอ๊ะ!" ฉับพลันดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อใบหน้าหลานจิน กลับกลายเป็นใบหน้าท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย ผู้ซึ่งทำให้หลายวันมานี้ นางกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพิ่งรู้ใจตนเองว่าชื่นชอบท่านแม่ทัพเข้าให้แล้ว ยิ่งคิดยิ่งวิตกกังวล ในฐานะของนางตอนนี้ที่ปลอมตัวเป็นบุรุษ ไม่มีสิทธิ์แม้แต่แสดงความรู้สึกได้ สู้หลบหนีในห่างเขา ไม่ใกล้กัน ย่อมไม่หวั่นไหวไปมากกว่าเดิ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 16 ป่วนใจท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย

    แสงสีทองลับขอบฟ้า วิหคน้อยฝูงใหญ่บินล่องลอยกลางเวหามุ่งสู่รัง ทางด้านเสี่ยวเยาแปรสภาพเป็น ยู่หลงเช่นเดิม อย่างไรก็ตามนางไม่วายคลางแคลงใจในสิ่งที่เกิดขึ้น คงเป็นเพราะพบเจอแต่เรื่องประหลาดมากมาย จนนางอดคิดไม่ได้ว่า เหตุใดวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันถึงง่ายดายเหมือนถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า "ทุกสิ่งในวันนี้ช่างพอเหมาะ ได้ทั้งปิ่นปักผมที่ชอบ และเสื้อผ้าสวยๆ มาฟรี หรือเราคิดมากไปเองนะ!" นางซ่อนทุกอย่างไว้ในห้องเป็นอย่างดี อย่างไรเสีย คือมันของล้ำค่าที่สุดในชีวิตนาง ณ เวลาอยู่ที่แห่งนี้ ร่างบางย่างก้าวไปยังที่พักของท่านแม่ทัพ เพื่อรายงานตัว แววตาใสจ้องมองบุรุษผู้มุ่งมั่นอยู่กับการอ่านตำรายุทธศาสตร์ ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน จนนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างเผลอตัว "เก่งไปทุกด้านเสียจริงๆ" เจิ้งเจี๋ยปิดตำราก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผย สายตาคมคลายหล่อเหลาจับจ้องมองที่นาง "วันนี้ดูเจ้าสุขอุรา ใบหน้าอิ่มเอมเหลือเกิน" ดวงตาดอกท้อช้อนสายตาขึ้นมองอย่างไม่คิดจะหลบตา "คงเพราะความเมตตาของท่านแม่ทัพ ข้าเลยเที่ยวเพลินเลย เอ๊ะ! ลี่ซาน ลี่หวัง! " นางยิ้มแห้งๆ ก่อนจะหยุดยิ้มลง ดวงตาสีนิลจ้องเขม็งอย่าง

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 15 เข้าไปอยู่ในสายตา ท่านแม่ทัพผู้นี้ซะแล้ว!

    เจิ้งเจี๋ยหยุดหน้าร้านขายชุดฮั่นฟู ดวงตาคมเพ่งมองหาใครผู้หนึ่ง ที่หายเข้าไปในร้านนานสองนาน การที่เขาสะกดรอยตามนางเช่นนี้ ตรงข้ามกับนิสัยของตนเองยิ่งนัก เพียงแต่ว่าครั้งนี้รู้สึกเป็นกังวลใจ กลัวว่านางจะนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเองเข้าสักวันหนึ่ง ทว่าเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เมื่อพบคนของอ๋องจี๋ชงสะกดรอยตามนางอย่างไม่ขาดสาย คนอย่างอ๋องจี๋ชง หากต้องการผู้ใดแล้วย่อมต้องได้มา แม้ไร้ซึ่งลมหายใจก็ตาม โชคดีที่ฟ้ายังมีเมตตา คนผู้นั้นเปลี่ยนไปทิศทางอื่น"โอ๊ะ!" "นางผู้นั้น สวยงดงามเหลือเกิน" เสียงซุบซิบของชาวบ้านดังขึ้น ดวงตาต่างจ้องมองไปยังสตรีนางหนึ่ง ที่ก้าวเท้ายาวออกมาจากร้านชุดฮั่นฟู ไม่เว้นแม้กระทั่งเจิ้งเจี๋ย ดวงตาคมกริบเพ่งมองสตรี ด้วยชุดฮั่นฟู่ที่ทำจากผ้าฝ้ายชมพูสลับขาว พลิ้วไสวไปตามแรงลม ผมดำเงางามยาวสลวยบนแผ่นหลังบาง ตกแต่งด้วยเครื่องประดับดูสง่างามยิ่งนัก นางเผยยิ้มหวานอย่างสดใส อีกทั้งดวงตาคู่สวยจ้องมองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น ริมฝีปากแดงระเรื่อได้รูป สร้างความตกตะลึงให้ผู้พบเจอ โดยเฉพาะดวงตาคมจ้องมองนางอย่างไม่วางตา "งดงามจริงๆ " เขาเผยยิ้มกว้างอย่างลืมตา ไม่คิดว่าทหารหนุ่มผู้น

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 14 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของท่านแม่ทัพ

    เสียงนกน้อยขับร้องไพเราะ ดังสนั่นไปทั่วหุบเขา แสงอรุณกระทบบุพผา ราวกับต้อนรับเช้าวันใหม่อันสดใสในเหมันตฤดู ซึ่งมีเพียงดอกเหมยฮวาเท่านั้นที่คงความงาม และความสดชื่นอยู่จนถึงต้นวสันตฤดู จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาของวสันตฤดูด้วย รวมถึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขเกษม เบิกบานสำราญใจของผู้คน ท่านแม่ทัพลืมตาตื่น ด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย ดวงตาคมเบิกกว้าง เมื่อพบว่าเสี่ยวเยานอนหลับใหลอยู่ข้างเตียงเขา ใบหน้านั้นแสดงถึงความอ่อนล้า เจิ้งเจี๋ยลุกนั่งเพ่งพินิจ ขนตางอน แก้มอิ่มเอิบไร้สีสันแต่งแต้ม และริมฝีปากบางชมพู เพียงเท่านี้นางยังดูงดงามเหลือเกิน หากนางแต่งองค์ทรงเครื่องจะสวยงามมากเพียงใดกัน "หากนางแต่งหญิงจะเป็นเช่นไรนะ!" น้ำเสียงเพียงแผ่วเบา ไม่สามารถทำให้ผู้หลับลึกได้ยิน เจิ้งเจี๋ยเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนหลบยิ้มลงเมื่อนึกถึงฝันร้ายของตน "อย่างไรเสีย! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าทรยศข้า เหมือนดั่งเช่นพี่สาวของเจ้า" ถึงแม้น้ำเสียงนั้นจะเย็นชา แต่แอบแฝงไปด้วยความห่วงใย ทั้งที่ควรกำจัดนางไปเสีย แต่เขากลับทำเช่นนั้นไม่ได้ อย่างไรเสียในสายตาเขา นางยังเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสา ไม่มีพิษภัย แววตาใสซื่ออย่า

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 13 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป...

    เสี่ยวเยายังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ ซ้อมประลองกระบี่อย่างกล้าหาญ ดั่งเช่นทหารทั่วไป โดยไม่ปริปากบ่นเลยสักนิด นางไม่รู้เลยว่า ทุกการกระทำของนางนั้น ได้อยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพตลอดเวลา ผู้เดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง อีกทั้งยังมองนางเปลี่ยนไปจากเดิม"ลี่ซาน ข้าว่าพักหลังมานี่ ท่านแม่ทัพดูจะสนใจยู่หลงเป็นพิเศษ หรือเจ้าว่าข้าคิดผิดไปเอง" "ข้าเห็นด้วยกับเจ้า หากเป็นเช่นนี้ หรือว่า""หรือว่าอะไร""ท่านแม่ทัพจะหลงเสน่ห์ยู่หลง!""เสียสติไปแล้วหรือไง พวกเขาเป็นบุรุษทั้งคู่ ช่างเถอะๆ ถามเจ้าไปก็เท่านั้น " ลี่หวังสะบัดหน้าเดินหนีเขาไปอย่างเอือมระอา"นี่..ลี่หวัง!! เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" ลี่ซานเดินตามผู้เป็นน้องไปอย่างไม่เข้าใจว่าตนนั้นพูดอะไรผิดไปแม้ว่าท่านแม่ทัพจะทำทุกอย่างเหมือนเช่นที่เคยเป็นต่อหน้าทุกคน แต่ส่วนลึกในจิตใจ ยังคงคิดถึง ความจริงที่เขาเพิ่งรู้ ทางกลับกันเสี่ยวเยายังคงค้นหา เส้นทางลับที่อาจจะนำนางไปยังหน้าผาอสรพิษดำได้ แม้จะเป็นสถานที่ต้องห้ามอีกทั้งน่าหวาดกลัว หากฟังไม่ผิดคงอยู่ด้านหลังค่ายทหาร ที่มีทหารเฝ้ายามกันอย่างแน่นหนาจนน่าสงสัย ยามว่างของนางวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 12 ท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย

    ท่านแม่ทัพเดินนำทางไปยังที่พักด้วยความนิ่งสงบ ไม่เอ่ยคำพูดใดๆ ออกมา จนน่าประหลาดใจ เพราะดวงตาคมมัวสอดส่องไปทั่วบริเวณ เมื่อพบว่าตลอดเส้นทางในป่าแห่งนี้ มันช่างเงียบผิดปกติเหลือเกิน เสี่ยวเยาเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัย 'แค่มาอาบน้ำเอง ไม่พอใจขนาดนี้เลยเหรอ' น้ำเสียงเพียงแผ่วเบา ทำให้เขาพินหน้ามองนาง ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ด้วยแววตานิ่งแต่มีนัยแอบแฝง"เจ้าต่อสู้ได้ใช่ไหม?""เอ๊ะ! อืม สบายมาก"สิ้นคำตอบนาง เจิ้งเจี๋ยนำกระบี่ออกมา ดวงตาสวยพองโตขึ้น สะดุ้งเฮือก เมื่อเขายื่นกระบี่คู่กายให้นางอย่างไม่ลังเล"เริ่ม!" แววตาคมกริบเพ่งมองไปด้านหน้าในขณะเดียวกันที่ปรากฏกลุ่มชายชุดดำ กระโจนโจมตีทั้งคู่"พวกเจ้าเป็นโจรป่าใช่ไหม?" "....." มีเพียงเสียงคมกระบี่ที่ให้คำตอบนาง เจิ้งเจี๋ยใช้เพียงมือเปล่าจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย ไม่แปลกใจที่เขาจะเป็นที่ไว้วางใจขององค์จักรพรรดิ เพราะสติปัญญา มาพร้อมความเจ้าระเบียบรอบคอบ อีกทั้งวรยุทธ์ที่เก่งกาจของเขา ได้สร้างคุณงามความดีต่อบ้านเมืองไว้อย่างมากมาย แม้ว่าจะโดนตราหน้าว่า เป็นผู้นำทัพทำสงครามอย่างเหี้ยมโหดก็ตาม "ยู่หลง ระวัง! " น้ำเสียงเข้มแฝงความห่วงใยเรียกสติ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status