Teilen

บทที่ 4 ความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจ

last update Zuletzt aktualisiert: 02.04.2025 21:47:29

 

เจิ้งเจี๋ยมองใบหน้าขาวซีด ที่หมดสติภายใต้ออมแขนของตน พร้อมความสับสนวุ่นวายใจ ด้วยเหตุใดกัน ตัวเขาถึงเลือกที่ทิ้งกระบี่มังกรคู่ใจ เพียงเพื่อรับร่างไร้สติของทหารอ่อนแอผู้นี้ได้ ดวงตาเข้มยังคงพินิจพิจารณาทุกส่วนของใบหน้า ขนตาที่เรียวยาว ปากชมพูอันอวบอิ่ม แก้มแดงราวกับมะเขือเทศ มันช่างดูงดงามราวกับสตรีเหลือเกิน

ตึก! ตึก! ตึก! เสียงหัวใจดังขึ้น เต้นแรงอย่างผิดปกติ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความกังวลและความสับสนเช่นนี้ เป็นเพราะอะไรกัน

ดอกเหมยฮวาร่วงโรยลงมาบนใบหน้าของเสี่ยวเยาอย่างนุ่มนวล แม่ทัพจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนเงยหน้ามองต้นเหมยฮวาด้วยความตกตลึง เหตุใดต้นไม้ที่โดนสาปไปพร้อมกับเขา ถึงร่วงโรยลงมาในเวลานี้ นับสิบปีที่เขาเฝ้ารอคอยให้มีผู้ใดมาแก้คำสาปของตน กลิ่นหอมของดอกเหมยฮวาที่มันปลิวละล่องไปทั่วทุกทิศทาง ท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวายของเหล่าทหาร ที่ยินดีกับปรากฎการณ์นี้ 

"เหตุใดดอกเหมยฮวาถึงร่วงโรยลงมา ในขณะที่เจ้าอยู่ในอ้อมแขนข้า หู่หลง? "

ร่างบางอ่อนระทวยในชุดทหาร ถูกโอบอุ้มด้วยเเขนแกร่งอันทรงพลัง มุ่งตรงไปยังจวนท่านแม่ทัพ ท่ามกลางเหล่าทหารที่ยืนมองด้วยความสงสัยในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของท่านแม่ทัพ เพราะไม่เคยมีทหารผู้ใดถูกปฏิบัติด้วยความอ่อนโยนดังเช่นนายทหารผู้นี้มาก่อน แต่ถึงกระนั้นก็อย่าได้ชะล่าใจไปเพราะนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

ก่อนหน้านี้...

"เอาพวกนางไปขังไว้ อย่าให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่เช่นนั้นก็ส่งตัวกลับวังไปซะ!!"

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเดือดดาลของท่านแม่ทัพ 'เจิ้งเจี๋ย' ทำให้เหล่านางกำนัลต่างหวาดกลัว จนตัวสั่นราวกับลูกนกในกำมือ ท่ามกลางเหล่าทหารนับสิบยืนล้อมเหล่าพวกนาง ด้วยสีหน้าอันโหดเหี้ยม พร้อมกระบี่จี้ตรงคอ หมายจะสบั่นให้ขาดในพลิบตา เมื่อมีรับสั่ง

"ฝ่าบาททรงรู้ว่า ท่านแม่ทัพต้องปฏิเสธ จึงรับสั่งไว้ว่า ท่านแม่ทัพต้องเลือกนางกำนัลไว้ปรนนิบัติรับใช้ให้จงได้ มิเช่นนั้นก็แต่งตั้งทหารชั้นผู้น้อยไว้รับใช้แทนนางกำนัลเจ้าคะ"กูกูผู้ที่ยึดมั่นในคำสั่ง มีหรือที่นางจะยอมกลับไปแต่โดยดี แม้ต้องยืนรออยู่ตรงนี้เจ็ดชั่วยาม ก็จะทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงไปด้วยดีเสียก่อน  

"ข้าจะคัดเลือกเหล่าทหารชั้นผู้น้อย ไว้ปรนนิบัติของกาย แทนพวกนางกำนัลของเจ้า จงกลับเข้าวังไปซะเถอะ! ท่านกูกูย่อมรู้ดีว่า เหตุใดข้าถึงจงเกลียดจงชังเหล่านางกำนัลยิ่งนัก " กูกูรับรู้ได้ถึงคำพูดอันหนักแน่นของท่านแม่ทัพ ขืนนางยังฝืนอยู่อย่างนี้ คงมีแต่จะเอาชีวิตตนและพวกนางกำนัลมาแขวนอยู่บนเส้นด้ายเสียเปล่าๆ

ท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย นับว่าเป็นแม่ทัพคนโปรดขององค์จักรพรรค หากจะให้ขนานนามที่ถูกต้องก็คือ เจิ้งเจี๋ย มีชื่อเสียงที่เลื่องลือทางด้านสติปัญญา ที่เฉียบคม มองการไกล แถมวรยุทธ์เป็นเลิศมิอาจมีผู้ใดในใต้หล้าเทียบเคียงได้ ความโหดเหี้ยมที่เล่าขานกันปากต่อปากเป็นเพียงตำนานที่ไม่มีผู้ใดพบเจอกับตัวมาก่อน  รู้เพียงว่าเคยต่อสู้สงครามเคียงข้างองค์จักรพรรคด้วยความจงรักภักดีดั่งเช่นบิดาของเขา  จนชนะศึกสงครามสามแคว้นใหญ่ ผู้คนในใต้หล้าไม่ผู้ใดไม่รู้จักท่านแม่ทัพ'เจิ้งเจี๋ย'

"ข้าน้อยขอลาท่านแม่ทัพ" กูกูและเหล่านางกำนัลต่างพากันกลับ ด้วยความจำนนแต่โดยดี เหล่านางกำนัลทั้งหลาย ต่างรู้สึกโล่งใจไร้ความหวาดกลัวจนสิ้น เพราะไม่มีผู้ใดอยากทำงานอยู่ในจวนท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย นอกเสียจาก...นางกำนัลผู้นั้น ที่บัดนี้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย

สองกำนัลผู้น้อยกำลังซุบซิบนินทากันโดยไม่ทันระวังตนว่า มีบุคคลอื่นแอบฟังเรื่องราวอยู่ตรงมุมอับ ผู้ที่ว่านั้นเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก 'เสี่ยวเยา'

"ว่ากันว่าท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ยสั่งฆ่านางกำนัลเหมยหลิน เห็นว่านางถูกท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย ผลักตกหน้าผาอสรพิษดำ"

"ยึ๋ย!! ข้านึกถึงหน้าผาด้านล่างนั่น ที่เต็มไปด้วยเหล่าอสรพิษดำ ท่านแม่ทัพเลี้ยงดูพวกมัน เพื่อเป็นใช้อาวุธสังหารคนที่โหดเหี้ยมเกินมนุษย์ ฝ่าบาททรงโปรดปรานท่านแม่ทัพผู้นี้ได้อย่างไรกัน"

"จุ๊ๆ เบาเสียงหน่อย เจ้าอย่าเอ่ยถึงเบื้องบน หากมีใครผ่านมาได้ยินเข้า เราสองคนคอขาดแน่ เจ้าก็รู้ว่าท่านแม่ทัพเป็นอนุชาคนโปรดของฝ่าบาท แต่มีเรื่องที่ข้าเพิ่งได้ยินมาจากเหล่านทหาร ที่ว่ากันว่า ท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ยโดนคำสาปด้วย"

"โดนคำสาป!! "

"ใช่ ว่ากันว่าใครที่อยู่เคียงข้างท่านแม่ทัพ ย่อมถึงแก่ความตายทุกคนไป"

นางกำนัลทั้งสองที่กำลังนำเสื้อผ้าแพร่ไหมปักลวดลายมังกรทอง เดินตามท่านกูกูไปยังตำหนักใหญ่

"อ...อึก!!!เป็นอนุชาของฝ่าบาท มิน่าล่ะ! ถึงเหิมเกริมได้ถึงเพียงนี้ แถมยังโครตน่ากลัว รีบหาทางหนีกลับบ้านก่อนดีกว่า"

เสี่ยวเยาผู้ที่แกล้งทำเป็นสลบ ใช้กลอุบายจนแอบออกจากจวน นางผ่านกำแพงหลังจวนท่านแม่ทัพออกมาได้ ด้วยวิธีการที่ไม่มีผู้ใดหลอกเลียนแบบได้ เสี่ยวเยาแอบเข้าวังเพื่อตามหากูกูท่านนั้น ผู้ที่รู้วิธีการกลับไปยังโลกปัจจุบัน

"เหมือนเห็นหลังกูกูอยู่ไวไว หายไปไหนแล้วนะ!"

"........"

"นางกำนัลต่ำต้อยกล้าดีอย่างไร!! ขัดคำสั่งท่านอ๋อง ถอดเสื้อผ้าของเจ้าซ่ะ "

"ไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ข้ามิอาจทำได้"

พลั๊วะ!

 ใบหน้าสวยงามของนางกำนัลผู้น้อยโดยฝ่ามือทรงพลังผู้ที่ขึ้นชื่อว่าบุรุษ กวัดแกว่งไปยังแก้มทั้งสองข้างอย่างไร้ความปราณี วีรบุรุษเยี่ยงนี้ไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำ ว่าแต่ท่านอ๋องผู้นั้นกับนั่งดื่มน้ำชาอย่างสำราญใจ เสมือนว่าตนไม่ได่นั่งอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อย่างไร ไม่สะทกสะท้านช่างไร้ความรู้สึก เสี่ยวเยาได้แต่มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา  

'ผู้ชายตบตีผู้หญิงมีมาตั้งแต่ยุคนี้เลยเหรอ'

นางครุ่นคิดในใจก่อนจะเดินดรุ่ยๆมุ่งตรงไปยังจวนท่านอ๋อง เพราะภาพตรงหน้านั้น ยิ่งทำให้นางรู้สึกเดือดดาลขึ้นมาอย่างลืมตน

"ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด"น้ำเสียงที่อ้อนวอนร้องขอชีวิตเล็กๆไร้ซึ่งหนทางหลีกหนีได้ ช่างดูไร้ค่ายิ่ง สำหรับบุรุษที่ยืนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

"ตบตีผู้หญิงแบบนี้ หมายจะฆ่าให้ตายหรือไง เจ้าคนชั่ว นี่เพศแม่แกเลยนะ!!"น้ำเสียงตะคอกดังขึ้นด้วยความโกรธกริ้วสุดจะอดกลั้นไว้อีกต่อไป 

"เอ๊ะ!! ทหารผู้นี้พูดจาแปลกประหลาด แถมยังรนหาที่ตาย กล้าดีอย่างไร? ต่อหน้าท่านอ๋อง ยังกล้า ช่างเอิมเกิมยิ่งนัก! "บุรุษผู้มองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยความสงสัยในรูปลักษณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

"แล้วไง? วีรบุรุษระยำเลวทราม เยี่ยงพวกท่าน สมควรให้ฉันคำนับหรือไง?"

"เจ้า!! รนหาที่ตายเสียแล้ว"

'หึหึ เจ้าต่างหากที่รนหาที่ตาย"เสี่ยวเยายิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย อย่างน้อยนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอ ตบตีกับพวกดูถูกผู้หญิง

       "ตายซะเถอะ! ""

อ๊ากกก สู้ตายเว้ยย!!"

"ฮ๊าาา"

เสี่ยวเยากระโดดขึ้นคอนายพลท่านนั้น อย่างไม่ลังเล ถึงนางจะไม่เป็นวรยุทธิ์ ไม่มีทักษะใดๆ แต่ไม่เคยให้ใครรังแกตนได้ง่ายดายหรอก 

"โป๊ก!! โป๊ก!! นี่แนะ!! นี่แนะ!! กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายเพศแม่ของแกฮ่ะ" นางใช้กำปั้นอันทรงพลัง ที่ไม่รู้ว่าได้พลังนี้มาอย่างไร นางทุบกำปั้นลงไปบนศรีษะ และลำตัวของพลทหารผู้นั้นนับครั้งไม่ถ้วน อย่างเมามัน ที่น่าทึ่งไปกว่านั้น คือนางไม่เจ็บมือเลยสักนิด

"อะไรเนี่ย!! ไม่เจ็บมือเลยเหรอ ว้าวสุดยอด"

"โฮ้ย! โฮ้ย! แค่มัดเล็กๆ ทำไมเจ็บปวดเช่นนี้"

"นั้นซิ ดังนั้น ข้าจะพวกทุบเจ้าด้วยมัดเล็กนี้ จนกว่าพวกเจ้าจะขอโทษ นางกำนัลผู้นี้ ไม่สิ ลองท่าไม้ตายของข้าเป็นไง ย๊าก!!!"

"ฮ๊ากกกกกก!!! จ..จะ..เจ้า!" ทหารผู้นั้นร้องโอดครวญขึ้นด้วยความเจ็บปวด เลือดขึ้นหน้าจุกไปทั้งกายและใจ ดิ้นทุรนทุราย เหมือนจะตายเสียให้ได้ เมื่อเสี่ยวเยาขย่ำสุดแรง ตรงแก่นกายน้อยอย่างไร้ความเมตตา

"วรยุทธ์ของข้าคือ กำให้มิด บิดให้แน่นไงล่ะ เชอะ!"เสียงกระซิบเบาๆของนางทำให้ดวงตาเบิกโพลงด้วยตกตลึง

"อึก!! T-T จะ..เจ้า..อึก!"

".........."

เสี่ยวเยาประคองนางกำนัลผู้บาดเจ็บให้ลุกขึ้นยืน เพื่อจะก้าวออกจากจวนหลังนี้ให้ไว

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เยี่ยม เยี่ยม ข้าชักสนใจทหารน้อยผู้นี้แล้วซิ "

บัดนี้ ท่านอ๋องผู้นั้นได้ลุกขึ้นเดินตรงมายังพวกนางทั้งสอง อย่างสง่าฝ่าเผย ไร้ความรู้สึก เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง  ตรงปลายคิ้วมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ แต่ไม่อาจกลบกลื่นความหล่อเหลา ดุจดั่งท่านชายในเทพนิยายได้ ข้างกายมีดาบดำคู่ใจ แววตาที่ไร้ความกลัว ไร้ความรู้สึก มันคืออะไรกันนะ เสี่ยวเยาไม่รอช้ารีบใช้กำปั้นของตน หมายจะทุบตีตรงศรีษะ ไม่เช่นนั้นนาง และนางกำผู้นี้อาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปก็ได้

 

Lies dieses Buch weiterhin kostenlos
Code scannen, um die App herunterzuladen

Aktuellstes Kapitel

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 28 "อึก!! พี่ใหญ่ ฮื้อๆ ปล่อยข้า ข้าจะฆ่าพวกเจ้า"

    'เปะ เปะ' เสียงปรบมือดังขึ้นจากด้านหลัง เผยให้เห็นบุรุษร่างสูงในชุดดำ ยิ้มเหี้ยมเกรียมให้เขาทั้งคู่อย่างกระหยิ่มใจไม่น้อย "หนูสองตัวติดกลับที่วางไว้จนได้ มันช่างอย่างง่ายดายตามที่ท่านอ๋องวางแผนไว้ มิมีผิด ฮ่าฮ่า" เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างพึงพอใจ นั้นดึงกระบี่คู่กายออกมา หมายจะฆ่าทั้งคู่ด้วยมือตนเอง "ยังมิใช่ตอนนี้" อ๋องจี่ชงเผยยิ้มมุมปากเล็กน้อย ".......""แต่หากเจ้าต้องการ ข้าอนุญาตให้เจ้าเลือกปลิดชีพคนใดคนหนึ่งได้!" แววตานิ่งเฉยไร้ความเมตตาเอ่ยขึ้น"เอาละ ข้าจะปลิดชีพผู้ใดก่อนดี เจ้า! หรือเจ้า! ฮ่าฮ่า ช่างสนุกเสียจริง" เฮ่ออี๋เพ่งมองคนทั้งคู่อย่างพิจารณาก่อนเหลือบมองอ๋องจี่ชงจิบสุราอย่างรื่นรมย์"ไม่คิดว่าวันนี้ ข้าจะจับหมารับใช้ตัวโปรดของเจ้าหมาป่าได้ หึหึ น่าขันเสียจริง"อ๋องจี่ชงเหลือบมองทั้งคู่เล็กน้อย เดินตรงมาหยุดนิ่งตรงหน้าลี่หวังก่อนจะเทน้ำสุราราดบนศีรษะเขาอย่างดูหมิ่น"อึก!" ลี่หวังทำได้เพียงกำมัดแน่นจนเล็กจิบเพื่อเก็บอาการแค้นเคืองไว้ในใจ"เจ้า!!" ลี่ซานตะโกนขึ้น ทว่าลี่หวังส่ายหน้าให้เขาเก็บอารมณ์ไว้ เพราะในตอนนี้ชีวิตตนทั้งคู่ได้แขวนอยู่บนเส้นด้ายเสียแล้ว"เจ้าทั้งคู่

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 27 "เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือไง!"

    ทุกอย่างเงียบสงัดลง เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง จนแทบจะได้ยินเสียงลมพัดผ่านอย่างเหน็บหนาว แววตาเย็นชาของลี่หวังเพ่งมองทิศทางเบื้องหน้าอย่างจริงจัง ไม่มีแม้คำพูดสักคำเอ่ยออกมา เพราะรู้ดีว่าในใจนางตอนนี้ คงสับสนและเหนื่อยล้าเต็มที ท่าทางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแม้แต่จะเดินไปต่อ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มสดใสบัดนี้กลับเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ณ เวลานี้มีเพียงตัวนางเท่านั้นที่ต้องต่อสู้กับชะตากรรมที่ซับซ้อน ซึ่งไม่คาดคิดว่าในอดีตนางคือ เหมยหลิน ผู้ที่หลงรักเขาจนหมดใจ แต่ได้เพียงทุกข์จนตรอมใจกลับมาเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางจะทำอย่างไรต่อไป 'ฉันต้องแก้แค้นให้ตัวเอง หรือเผชิญหน้ากับเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งตอนนี้เขาเหมือนจะรักเรามาก ควรให้อภัยดีไหม ทำไงดีเสี่ยวเหยา?' ความคิดต่างๆ นานาพรั่งพรูเข้ามาอย่างมิอาจหยุดยั้งไว้ได้"เฮ่อ..." นางถอนหายใจเพียงเบาๆ แววตาเศร้าอย่างชัดเจน"เสี่ยวเหยา เสี่ยวเหยา ข้ามาแล้ว...เอ๊ะ!" น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากเบื้องหลังนาง เป็นใครไม่ได้นอกจากสหายคนสนิท ในขณะที่ลี่หวังพินหน้ามองบุรุษผู้ไร้เดียงสา ดวงตาเขาเบิกกว้างเมื่อพบว่าคนผู้นั้นวิ่งตรงดิ่งมายังท

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 26 "ไม่ว่านางจะเป็นคนรักของผู้ใด หากข้าต้องการ ก็มิอาจรอดพ้นเนื้อมือจากข้าไปได้"

    เวลาล่วงเลยผ่านไป ความเงียบสงบเข้ามาเยือนอีกครั้ง เสี่ยวเหยามิอาจพบหน้าเจิ้งเจี๋ยได้เต็มร้อย นางพยายามซ่อนตัวจากเขา ไม่มาปรนนิบัติรับใช้ข้างกายเหมือนดั่งเช่นเคย แม้บังเอิญพบเจอกันที่ใด นางก็เอาแต่หลีกหนีเขาทุกครั้งไป ราวกับว่าเขาสิ่งปฏิกูลที่น่ารังเกียจ สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาไม่น้อย ทว่ามิอาจทำการสิ่งใดได้ นางเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ไปก็เพราะตน จึงฝืนใจนิ่งเฉย รอแผนการคืนความยุติธรรมให้นาง ดั่งที่วางไว้สำเร็จ เมื่อนั้นตนจะลงโทษนางให้สาสมที่ทำให้ตนคะนึงหาอย่างอดทนอดกลั้นแทบจะตายเสียให้ได้ ทางด้านอ๋องจี๋ชงผู้ซึ่งเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ไม่ห่าง อีกทั้งคอยสั่งให้เหล่าทหารจับตามองนางทุกฝีก้าว ครั้นเมื่อสบโอกาสจึงหยิบยื่นไมตรีให้นาง เพียงหวังว่าในช่วงเวลาที่นางจะซาบซึ้งใจ เป็นหนทางเดียวที่ตนสามารถเข้าไปแทนที่ของเจิ้งเจี๋ยได้ ดวงตาเจ้าเล่ห์เพ่งมองสตรีผู้งดงาม ในชุดนางกำนัลชั้นผู้น้อยอย่างหลงใหล กลับมาครั้งนี้นางมิต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป ดวงตาสวยเพ่งมองเงาตนเองในน้ำ ด้วยท่าทางเหม่อเลย ภายในใจครุ่นคิดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิตต่อไป"เจ้าดูซูบผอมลงไปมาก มีเรื่องอะไรให้ครุ่นคิด บอกข้าได้หรือ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 25 "ข้ามิอาจปิดหูขโมยกระดิ่งได้อีกต่อไป'

    ค่ำคืนมีเพียงเมฆดำบดบังแสงเรืองทองของจันทราจนหมดสิ้น เป็นค่ำคืนอันเปล่าเปลี่ยวอย่างน่าหวาดหวั่น แม้มองไปในทิศทางใดก็มีแต่ความเงียบสงัด หลงเหลือไว้เพียงแสงสว่างอันริบหรี่ของเปลวเพลิงเพื่อส่องทาง เพราะเส้นทางที่นางกำนัลผู้นั้นว่าไว้ มิได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงไม่กี่เวลาร่างบางหยุดนิ่งตรงประตูบานหนึ่งที่ทำด้วยแผ่นไม้หนา ดูเก่าแก่ตั้งสง่าเป็นจุดศูนย์กลางของกำแพง ด้านในมันช่างน่าค้นหาเสียจริงแอ๊ดดดด!...แกร็บ บานประตูเปิดเองอย่างง่ายดาย เหมือนเชื้อเชิญนาง เสี่ยวเหยาไม่เพียงแต่ไม่สงสัยใดๆ อีกทั้งยังไร้ความหวาดกลัว ถึงไม่รู้ว่าทางข้างหน้านี้มีสิ่งใดซ่อนอยู่ และต้องเจอกับอะไรก็ตามก็ไม่มีอะไรที่น่าหวาดกลัวไปกว่าความทรงจำของเหมยหลินที่พรั่งพรูเข้ามา ดวงตาคู่สวยถูกสะกดด้วยสวนดอกโบตั๋นสีขาวสลับแดงบานสะพรั่งไปทั่ว แม้จะถูกความมืดบดบัง ทว่าก็มิอาจบดบังความงามไว้ได้เลย" เอ๊ะ! เหมือนเคยเห็นดอกไม้เช่นนี้ ที่ไหนมาก่อน" นางเพ่งมองอย่างพินิจทบทวนความจำของตน คลับคล้ายว่าเจอดอกไม้ที่ใดกัน กลับต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคยของใครผู้หนึ่ง"เจ้ามาทำอันใดที่นี่!!""ท่านกูกู!!""ข้าเอง เจ้าคิดว่าเ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 24 "ข้าต้องการรู้เรื่องราวของท่านกูกู"

    ทางด้านเสี่ยวเหยา ที่ยืนสง่าด้วยความหวาดหวั่น ท่ามกลางหมอกหนาบดบังดวงตา สัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าในห้วงอันมืดมิด ไร้สิ่งอื่นใด ที่แห่งนี้คงเป็นห้วงความฝันที่นางมโนขึ้น หรือลางบอกเหตุอันใดกันแน่"เสี่ยวเหยา" น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกแต่กลับคุ้นเคย แว่วดังมาแต่ไกล แต่มิอาจจับทิศทางของที่มาได้เลย นางมิอาจรู้ได้ว่าเหตุใดถึงฝันถึงผู้ที่มิเคยให้คำตอบใดๆ กับนาง"ฉันรู้ว่าเป็นเธอ เหมยหลินออกมาคุยกันดีๆ ได้ไหม ทำไมถึงต้องเป็นฉันเท่านั้นที่เป็นฝ่ายดิ้นรนต่อสู้เพียงเพื่อหาคำตอบ ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดสักหน่อยแต่กลับต้องมารับเคราะห์กรรมเช่นนี้ ช่างไม่ยุติธรรม ทะลุมิติแบบใดกัน? ต้องมาหาคำตอบ ยากกว่าการทำข้อสอบในมหาลัยเสียอีก เฮ่อ...กรรมของฉันจริงๆ""....."แม้แต่ในห้วงความฝัน นางมิอาจหยุดพร่ำบ่น หรือคาดเดาสิ่งใดได้เลย ทุกอย่างมืดสนิทไปทุกด้าน มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือถามออกไปตรงๆ แม้จะเป็นเพียงความฝันก็ตาม'แน่ะ! ยังเงียบภาษาสมัยใหม่คงไม่รู้เรื่องสิน่ะ! ' นางคิดในใจ"ท่านพี่ใช่ไหม ท่านต้องการให้ข้าทำเช่นไร พูดมาได้เลย ข้ายินดีช่วยเหลือท่านทุกอย่าง" นางเอ่ยขึ้น เพราะมีสติพอจะรู้ได้ว่าไม่ใช่ความฝันธรรมดา และ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 23 มีท่านอยู่ข้าจะกลัวอะไร?

    ดวงตาคมเพ่งมองไปรอบบริเวณสำนัก เสียงกระบี่ที่เคยดังกังวานไปทั่วป่าไผ่ บัดนี้กลับมีเพียงเสียงจิ้งหรีดร่ำร้อง เมื่อครั้นลมหนาวมาเยือน กลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวลไปทั่วบริเวณสำนักที่รายล้อมไปด้วยภาพอันงดงามมิเคยลืมเลือนจากห้วงความทรงจำของเขาได้เลย ร่างสูงย่างก้าวอย่างสุขุม มือหนาผลักบานประตูจวนที่ปิดตายเปิดออกอย่างง่ายดาย ทุกสิ่งยังคงเดิม แม้กระทั่งกลิ่นดอกโบตั๋นยังคงหอมตลบอบอวลไปทั่วห้องไม่เคยเปลี่ยนแปลงราวกับว่ายังมีผู้คนอาศัย สร้างความประหลาดใจให้เขา เหตุใดทุกอย่างยังเหมือนเดิม สิ่งของเครื่องใช้ยังคงจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย "ห้องนอนผู้ใดกัน หรือว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นี่" เสียงใสเอ่ยขึ้น เจิ้งเจี๋ยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ"เจ้ารู้ไหมว่าที่แห่งนี้ มันอันตรายเพียงใด?""มีท่านอยู่ ข้าจะกลัวอะไร ปลอดภัยหายห่วงอยู่แล้ว!""อึก... เจ้านี่มันช่างดื้อด้านเสียจริง!"'นั้นไงยิงธนูหมัดใจแล้วหนึ่ง กล้าพูดได้ไงเสี่ยวเหยาเอ่ย ดูแก้มเขาซิ! แดงระเรื่อราวกับลูกท้อเชียว' ทว่าตรงกันข้ามกับเจิ้งเจี๋ยคิดว่านางเป็นสตรีที่ไร้เดียงสา แต่กับเจ้าเล่ห์ใช่น้อย ถึงกระนั้

Weitere Kapitel
Entdecke und lies gute Romane kostenlos
Kostenloser Zugriff auf zahlreiche Romane in der GoodNovel-App. Lade deine Lieblingsbücher herunter und lies jederzeit und überall.
Bücher in der App kostenlos lesen
CODE SCANNEN, UM IN DER APP ZU LESEN
DMCA.com Protection Status