: ธารน้ำ
ตกเย็นทุกคนกลับไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่ฉันที่ยังนั่งวาดแบบในการทำงานส่ง งานที่ฉันกำลังจะทำเป็นงานออกแบบตัวการ์ตูนก็คือการสร้างตัวตนให้สิ่งที่เรากำลังจะสร้าง และงานนี้ก็เป็นงานจบของฉันด้วย แถมยังต้องปั้นมันออกมาเป็นงานสามมิติซึ่งยากพอสมควร เพราะนอกจากความสวยงามฉันยังต้องทำให้มันใช้ประโยชน์ได้ทั้งสำหรับตัวฉันและคนอื่น ก๊อกๆ ฉันเงยหน้าขึ้นตามเสียงเคาะทางประตู คนตรงหน้าคือหมอกนั้นเอง เขากำลังมองมาที่ฉันพร้อมกับมือล้วงกระเป๋าข้างหนึ่ง เขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะมองสำรวจไปทั่วห้องราวกับกำลังมองหาอะไรสักอย่างจนฉันต้องหันมองตาม "เห็นว่าไฟเปิดอยู่เลยมาดู" "อือ" ฉันตอบไปส่งๆ โดยไม่คิดจะผูกมิตรอะไร อันที่จริงตั้งแต่เกิดเรื่องที่มหาวิทยาลัยเก่าฉันก็ไม่อยากมีเพื่อนผู้ชายอีกเลยด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างว่าคนเรามันต้องมีสังคมฉันเลยได้แค่ทำตัวห่างๆ ไว้ "แล้วนั้นทำอะไร" "ก็งานจบ" "อ่อ..."อยู่ๆ เขาก็เดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามฉันเฉยเลยก่อนจะมองมาที่งานฉันอย่างกับกำลังจดจำรายละเอียด "อย่ามาลอกนะ"ฉันยกมือขึ้นบัง "ลอกบ้าอะไรละ ฉันก็แค่ดูเฉยๆ ของฉันส่งแบบแรกไปแล้ว" "แล้วนายมานั่งดูฉันทำไม? ไม่กลับบ้านหรือไง" "ยังกลับไม่ได้"เขาพูดพร้อมทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะฟุบตัวลงนอนบนโต๊ะทำงานของฉัน โชคดีที่มันมีขนาดใหญ่ฉันจึงสามารถขยับมาเขียนงานข้างๆ เขาได้ ...ไอ้บ้านี่โต๊ะมีเยอะแยะยังมาวุ่นวาย... ฉันได้แต่คิดในใจก่อนที่จะลงมือทำงานตัวเองต่อแต่ไม่รู้ทำไมใบหน้าหล่อนั้นถึงได้ดึงดูดสายตาฉันให้หันไปมองซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่แบบนั้น "โอย..." "เห้ย เป็นไร!"หมอกลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างหน้าตาตื่นเมื่อฉันเผลอร้องออกมาเพราะคิดงานไม่ออก เสียงตกใจของเขาทำฉันตกใจตามไปด้วยเลย "ไม่ได้เป็นอะไร แค่นายอยู่เบียดที่ทำงานฉันจนเขียนงานไม่ถนัด"ฉันบ่นพร้อมกลอกตามองบน "รำคาญใจงั้นสิ? แล้วไงก็จะอยู่ตรงนี้"เขาทำหน้านิ่ง "เอะ!"ฉันถึงกับถลึงตาใส่คนตรงหน้า แบบนี้มันก็หมายความว่าเขาจงใจหาเรื่องฉันน่ะสิ และดูจากรอยยิ้มสะใจที่มุมปากสวยนั้นเขาดูมีความสุขเสียเหลือเกิน "ไหนดูสิ วาดอะไร" เขาไม่พูดเปล่ากลับหันสมุดวาดภาพของฉันไปทางตัวเองเฉยซึ่งในนั้นก็ยังไม่มีอะไรนอกจะหัวข้อที่ฉันเพิ่งตั้งไว้ "เอามา" ฉันพยายามจะดึงสมุดคืนแต่หมอกกับยืนแล้วยกมันขึ้นเหนือหัวแถมยังเปิดอ่านมันอย่างไม่มีมารยาทอีกด้วย และด้วยความสูงของฉันกับเขาที่ห่างกันหลายเซนติเมตรเหลือเกิน ทำให้ฉันไม่สามารถเอื้อมถึงได้ แม้จะดึงเสื้อนักศึกษาเขาจนยับเขาก็ยังไม่คืนมันให้ฉันเลย "กระต่ายพี่น้อง? หูยาว หน้าบึ้ง อยากเห็นจังว่าจะเป็นยังไง" "อย่ามายุ่งน่า"ฉันโมโหที่ถูกแกล้งจนเผลอกำหมัดต่อยเข้าที่ข้างลำตัวเขาแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเพราะยังหัวเราะร่าได้ "ทำอะไรกันน่ะ" เสียงเล็กใสดังขึ้นทำให้หมอกต้องหันไปมองและฉันก็แย่งสมุดคืนมาได้สำเร็จ และพอฉันหันไปมองที่หมอกอีกทีเจ้าของเสียงเล็กนั้นก็ตรงเข้ามากอดแขนเขาไว้แน่น เธอเป็นผู้หญิงที่สวยและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกันหุ่นสูงสมส่วนนั้นชวนมองไปเสียทุกมุม แม้แต่ฉันเป็นผู้หญิงยังอดมองไม่ได้ เธอยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตรพร้อมกับดึงตัวหมอกให้ขยับออกไปเพียงเท่านั้นฉันก็รู้สถานะของทั้งสองคนทันที "ใครน่ะหมอกมี่ไม่เคยเจอมาก่อน"เธอถามพร้อมมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มหวาน แต่ลึกๆ ฉันไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นมิตรแต่ก็พอเข้าใจได้ "เพิ่งย้ายมาชื่อธารน้ำ"หมอกตอบเสียงเรียบ "สวัสดีธารน้ำ ฉันมี่เป็นแฟนของหมอก" "สวัสดีมี่"ฉันยิ้มให้อย่างจริงใจถึงจะรู้สึกว่ามี่กำลังไม่พอใจอยู่ก็ตาม ฉันเองก็เป็นผู้หญิง…การที่ต้องมาเห็นแฟนอยู่กับผู้หญิงถึงจะไม่มีอะไรเป็นใครก็คิดมากนั่นแหละ "งั้นเรากลับกันเถอะมี่"หมอกเอ่ยบอกแฟนสาวของเขาพร้อมจับเข้าที่มือของมี่ ดูไปแล้วเขานี่รักแฟนไม่เบาโชคดีจังที่ได้คู่เหมาะสมขนาดนี้ "นี่ก็ดึกแล้วกลับด้วยกันสิธารน้ำ"มี่หันมาชวนฉันที่กำลังตั้งใจจะนั่งวาดรูปต่อ "อ่อ ไม่เป็นไรมี่เราอยากทำงานต่ออีกหน่อย" "กลับเถอะ ถ้าเธอไม่กลับมี่ก็จะไม่กลับแน่"หมอกพูดอย่างรู้นิสัยของแฟนตัวเอง ฉันเลยได้แต่พยักหน้ารับแล้วรีบเก็บของเพื่อเดินตามเขาทั้งสองคนลงมาที่รถ ระหว่างทางฉันแอบสังเกตเห็นว่าหมอกมักจะมองมี่ด้วยสายตาแปลกพิกล เหมือนกับว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจแต่ฉันก็คงตัดสินอะไรเรื่องของเขาไม่ได้ แต่ที่รู้เลยคือมันไม่ใช่สายตาที่คนรักมองกันแน่ๆ "ส่งตรงนี้แหละ ฉันว่าจะซื้อของกินก่อนขึ้นห้อง"ฉันเอ่ยขอเพราะรู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหว ทั้งคู่เล่นไม่คุยหรือเปิดเพลงฟังอะไรกันเลยมันเงียบจนฉันหายใจไม่ออก "หอของธารน้ำอยู่แถวนี้เหรอ?"มี่ถามพร้อมมองสำรวจไปทั่วริมถนน "ใช่อยู่แถวนี้" "หมอกก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน แต่ของมี่สิไกลออกไปอีกเพราะต้องอยู่ห้องของพี่ชายที่ซื้อไว้" มี่พูดพร้อมใบหน้าที่ดูเสียดายเพราะไม่ได้อยู่กับแฟน จังหวะนั้นฉันแอบเห็นรอยยิ้มน่ากลัวที่ปรากฏขึ้นบนหน้าของหมอกผ่านกระจกมองหลัง ฉันเลยเลือกที่จะลงรถแล้วกล่าวขอบคุณทั้งคู่อย่างเกร็งใจเพราะไม่อยากจะรับรู้อะไรมากกว่านี้แล้ว ขอไปหาอะไรกินแล้วอยู่อย่างสงบเสียดีกว่า : อีกด้าน หมอกเดินขึ้นมาส่งแฟนสาวถึงห้องก่อนที่เขาจะคว้าเข้าที่เอวของเธอจากด้านหลังแล้วซุกใบหน้าพรมจูบไปตามซอกคอของแฟนสาวอย่างเร้าอารมณ์ มี่เอื้อมมือไปเปิดประตูพร้อมหัวเราะอย่างชอบใจเพราะรู้ถึงความต้องการของคนรัก ก่อนที่เธอจะชะงักไปแล้วหันมามองแฟนหนุ่มด้วยสายตาอ้อน "ดูเหมือนว่าพี่ชายมี่จะมา" มี่ชี้ไปที่รองเท้าหนังสีดำที่วางอยู่ในห้องทำให้หมอกต้องหยุดการกระทำแล้วยิ้มบ้างๆ ให้กลับแฟนสาวที่กำลังปิดประตูราวกับเข้าใจสิ่งที่มี่ต้องการ แต่ทว่า... หลังจากประตูปิดลงใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อครู่ก็หายไป เพราะหมอกเพิ่งไปได้ยินจากเพื่อนร่วมเอกของมี่มาว่าทุกครั้งที่มี่กลับมาจากงานถ่ายแบบที่กรุงเทพเธอมักจะมีของใช้หรูมาอวดเสมอ ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าการทำอาชีพนางแบบคงได้เงินไม่น้อยเรื่องนี่คงเป็นเรื่องปกติ แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อเขามารู้ความจริงว่า...เธอเป็นลูกคนเดียว และตอนนี้เขาก็ยังรับความจริงเรื่องที่กำลังถูกคนรักหลอกไม่ได้เลย : บีคิงคอนโด หมอกเดินถือถุงที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กำลังจะเปิดเข้าห้อง แต่ต้องชะงักไปเมื่อหางตาเห็นร่างของใครบางคนที่คุ้นเคย ธารน้ำกำลังเดินฮัมเพลงไปยังห้องที่ถัดจากเขาสองห้องพร้อมกับปากที่คาบขนมปัง เธอเดินผ่านเขาไปราวกับไม่ได้สังเกต มืออีกข้างกำลังคว้านหากุญแจอย่างยากลำบาก แต่เขารู้สึกว่าไม่ใช่ว่าเธอมองไม่เห็นแต่เขาคิดว่าเธอคงทำเป็นไม่เห็นเขามากกว่า หมอกที่เห็นเธอดูวุ่นวายจึงว่างของลงที่หน้าห้องของตัวเองก่อนจะตรงเข้าไปจับเข้าที่ถุงขนมของธารน้ำ เพื่อหวังจะช่วยแต่กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้เธอตกใจจนขนมปังในปากร่วงลงบนพื้น "เอ้ย!" เธออุทานสายตาก็จ้องไปยังขนมแสนอร่อยบนพื้นด้วยความเสียดายก่อนดวงตากลมนั้นจะตวัดมาจ้องเข้าอย่างคาดโทษ "ขอโทษที่ทำให้ตกใจ เห็นดูยุ่งๆ เลยว่าจะช่วย"สีหน้าของเธอดูตกใจแสดงว่าเมื่อครู่เธอไม่ได้สังเกตเห็นเขาจริงๆ "นายรู้จักให้สุ้มให้เสียงบ้างไหม ฉันนึกว่าโรคจิตเกือบเตะแล้วนะ" ธารน้ำบ่นอุบพร้อมก้มลงไปเก็บขนมปังที่พื้นอย่างเสียดาย หมอกที่เห็นธารน้ำจะเอามันเข้าปากอีกครั้งจึงรีบแย่งมันมาจากมือเล็กนั้นทันที "เธอบ้าหรือเปล่ามันตกแล้วนะ" "เอ้า แป๊บเดียวเองฉันกินได้น่าเอามา" ธารน้ำเปิดประตูเข้าไปในห้องก่อนจะแบมือขอขนมปังเธอคืน แต่หมอกกลับมองเธอด้วยสายตาดุจนธารน้ำต้องชักมือกลับและนั้นทำให้หมอกรู้ว่าธารน้ำกลัวสายตาของเขาไม่ก็คงกลัวคนหน้าดุแบบเขา ...ว่าง่ายดี...หมอกได้แต่คิดในใจ "ของตกพื้นไม่ควรเก็บมากินควรทิ้ง เรื่องแค่นี้ไม่รู้เหรอ?" "มันเสียดายเงิน ยี่สิบนะน่ะ" "พรุ่งนี้จะซื้อคืนให้ เข้าห้องไปได้แล้ว" "นายอยู่ชั้นนี้เหรอ? หรือมาส่งมี่" ธารน้ำถามตาใสแต่พอได้ยินชื่อของคนรักหมอกถึงกับนิ่งไปความเจ็บปวดมันทำให้เขารู้สึกจุกอกจนหายใจลำบาก แต่เขาก็ฝืนยิ้มให้คนถามก่อนจะส่ายหัวเบาๆ "ฉันอยู่ห้องถัดเธอไปสองห้องมีอะไรก็ไปเคาะได้" "ไม่คิดว่าจะมีอ่า ขอบคุณนะ" หมอกแปลกใจกับคำตอบของธารน้ำ แต่เขากลับยิ้มออกมามุมปากเพราะใบหน้าของคนตรงหน้านั้นดูเหมือนจะไม่ได้คิดก่อนพูดด้วยซ้ำ ธารน้ำเมื่อเห็นว่าหมอกนิ่งไปเลยโบกมือลาเขาด้วยความสับสนแล้วเข้าห้องของตัวเองไป หมอกเดินกลับเข้ามาห้องของเขาพร้อมกับเปิดเหล้าที่ซื้อมายกขึ้นกระดกรวดเดียวจนเกือบหมด สายตาก็มองจ้องไปยังรูปแฟนสาวที่ตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์ ก่อนที่รอยยิ้มชั่วร้ายจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา “ฉันจะเล่นเกมกับเธอเองมี่” เขาโยนรูปมี่ลงถังขยะอย่างไม่ไยดีก่อนจะจัดการเก็บข้าวของทั้งหมดของมี่ลงในถุงดำ เดิมที่ทั้งคู่ห่างเหินกันจนแทบจะไม่เหลือคำว่าแฟน เพราะมี่มักจะอ้างเรื่องงานกับเขาเสมอ จนวันนี้ที่เขาได้เห็นมันกับตาแล้วคงยากที่จะรักเธอต่อไป:วันออกบูธธารน้ำแต่งตัวเสร็จก็ยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด เธอมองสำรวจตัวเองผ่านกระจกเงาเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อย วันนี้ธารน้ำเลือกใส่ชุดเอื้อมยีนสีซีดกับเสื้อสีขาวเพื่อให้สะดวกในการลุกนั่งหรือขายของ ส่วนรองเท้าหญิงสาวยังคงลังเลใจระหว่างรองเท้าผ้าใบสีขาวแบบเชือกกับรองเท้าผ้าใบสีขาวแบบสวม"สวมแล้วกัน"หลังจากเลือกได้ธารน้ำหันไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วเดินออกมานอกห้องเพื่อจะเดินทางไปที่ถนนคนเดิน แต่แล้วเธอก็ต้องถอนหายใจทิ้งเมื่อเปิดประตูมาเห็นว่าหมอกยืนรอเธออยู่หน้าประตูอีกแล้ว ครั้งนี้ธารน้ำทำเสมอว่าไม่เห็นเขาแล้วรีบเดินหนีตรงไปกดลิฟต์ทันที โดยที่หมอกก็ยังมองแผ่นหลังเล็กนั้นด้วยความเหนื่อยใจ เขาไม่คิดว่าธารน้ำจะเมินเขาขนาดนี้ด้วยซ้ำ"หือ?"ธารน้ำแปลกใจเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกพบว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านใน เขาคือคนที่อยู่บนรถแดงวันนั้น ซึ่งเป็นคนที่หมอกไม่ชอบและบอกให้เธออยู่ให้ห่าง ตอนนี้ชายคนนั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอในคอนโดเดียวกัน"เข้ามาหรือเปล่า"ชายคนนั้นถามเรียกสติด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เขาแอบขำเล็กน้อยกับสีหน้าใจของธารน้ำเมื่อครู่"เข้าค่ะ เข้า"ธารน้ำเดินเข
รถแล่นเขาจอดที่จอดรถของคอนโดเมื่อหมอกมองผ่านกระจกไปยังด้านหลังก็พบว่าหญิงสาวหลับคอพับไปแล้วด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เสียแล้ว หมอกจึงลงจากรถอ้อมมาเขย่าแขนธารน้ำเบาๆ หวังเรียกสติ แต่ไม่ว่าจะเพิ่มแรงเขย่ามากขึ้นเท่าไหร่คนตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าจะตื่น"ฉันจะอุ้มขึ้นไปนะ"หมอกกระซิบบอกธารน้ำเพื่อเป็นการขออนุญาตโปก! หัวของธารน้ำชนเข้ากับประตูเมื่อหมอกพยายามจะช้อนอุ้มเธอออกมาแต่ดันเป็นจังหวะเดียวกันกับธารน้ำที่ขยับตัว ทำเอาคนอุ้มถึงกับตกใจจนตาเบิกกว้าง แต่ก็อดขำกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้"อือออ จะ เจ็บ"ธารน้ำทิ้งน้ำหนักตัวในอ้อมแขนก่อนจะเขย่าตัวเองไปมาทั้งที่ตายังไม่ลืมราวกับเด็ก"ขอโทษ"หมอกก้มลงกระซิบข้างใบหูของคนงอแงแผ่วเบา"เจ็บอีกแล้ว เป็นแผลหัวแตก"ธารน้ำงอแงทำท่าจะร้องไห้เสียอย่างนั้น"เว่อร์จริงๆ" หมอกเอ่ยพร้อมเป่าลมอุ่นจากริมฝีปากลงบริเวณที่ถูกกระแทกนั้นพอทำให้หญิงสาวเริ่มคล้ายปมคิ้วออกบางเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดสงบแล้วเขาจึงพาเธอขึ้นมาส่งถึงห้อง ระหว่างทางธารน้ำก็เอาแต่นอนซบอกเขาแล้วละเมอว่าอุ่นไม่หยุด ทำเอาหมอกถึงกับเผลอหน้าแดงไปกับสัมผัสของเธอ...ขี้อ้อนเสียจริง...หมอกคิดในใจเธอช่างต่างก
หมอกสอดสายตามองหาโต๊ะของเพื่อนอย่างร้อนใจ ความรู้สึกอึดอัดมันทำให้เขาอารมณ์เสียมากกว่าเดิมหลายเท่าไม่คิดเลยว่าพอยิ่งดึกคนก็จะยิ่งเยอะขนาดนี้ นี่แค่รอเข้าร้านก็ปาไปหลายสิบนาทีพอเข้ามาได้ก็ต้องเบียดตัวกับผู้คนมากมายอีกหมอกต้องคอยหลบเหล้าเสือสาวที่พยายามลูบตามเนื้อตัวเขาจนเหนื่อยก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กในเสื้อครอปครึ่งตัวที่กำลังเต้นเริงร่าอยู่ท่ามกลางกองเชียร์ของเพื่อนๆ และที่ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจนักคงจะเป็นชายคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จักกำลังโอบประคองเธอจากด้านหลังโดยที่เพื่อนๆ ของเขาไม่มีใครห้ามเลยสักคนเดียว!นั้นทำให้หมอกรีบตรงเข้าไปดึงมือนั้นออกอย่างแรงจนเจ้าของมือหันมาจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง แต่พอชายคนนั้นได้มองหน้าเขาดีๆ ชายคนนั้นก็รีบก้มหน้าแล้วเดินกลับออกไปโดยดี อาจจะเพราะหมอกขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่โหดคนหนึ่งในกลุ่มเด็กมหาวิทยาลัย การที่เขาแสดงความไม่พอใจคงเป็นคำตอบได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังยุ่งผิดคน"หูยยย มาจริงว่ะ ไหนใครบอกมันไม่มาจ่ายเงินด้วยนะเว้ย"ทามเอ่ยพร้อมชี้หน้าเพื่อนๆ แต่ต้องชะงักไปเมื่อถูกเติ้ลตบ
"ปล่อยฉันได้แล้ว"ธารน้ำเตือนหมอกเมื่อทั้งคู่จับมือกันเดินมาใกล้ถึงห้องเรียน หมอกเมื่อดึงสติได้จึงปล่อยธารน้ำให้เป็นอิสระ เขาหันไปมองใบหน้าสวยนั้นราวกับอยากจะเอ่ยคำขอโทษที่เธอต้องมารับรู้ แต่เพียงแค่เขาเริ่มอ้าปากธารน้ำก็เลือกที่จะเดินหนีเขาไปทันที เขาเพียงแต่ต้องยอมรับการกระทำของตัวเองเพราะเรื่องนี้ยังไงเขาก็ผิดเต็มๆ เมื่อเดินเข้ามาในห้องธารน้ำก็ต้องชะงักไปเมื่อเพื่อนทุกคนมาถึงกันหมดแล้วทั้งที่มันยังเช้าอยู่ แถมทุกคนยังดูยุ่งเสียจนเธอไม่กล้าเอ่ยถาม ส้มที่เห็นธารน้ำดูสับสนก็เลยเดินเข้ามาอธิบาย"พรุ่งนี้มีงานถนนคนเดินวัวลาย* พวกเราจะไปออกบูธน่ะ ขายของหาเงินเข้าเอกอะไรแบบนั้น วันนี้เรามีเรียนแค่ช่วงเช้าก็เลยนัดกันมาเตรียมของ""ใช่แล้ว เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญ"หมวยเสริมมือก็แพ็กจานรองแก้วไปด้วย"แล้วไม่มาทำตอนบ่ายละ บ่ายเราว่างนี่"ธารน้ำถามพร้อมเดินเข้าไปช่วยทุกคนแพ็กอีกแรง"วันนี้วันศุกร์ต้องกลับไปนอนเอาแรงอีกอย่างวันนี้เราจะไปเที่ยวกัน วันนี้เธอต้องไปด้วยนะ"เติ้ลบอกอย่างตื่นเต้น"ไปไหน?"ธารน้ำถามอย่างสงสัยเพราะเที่ยวที่เพื่อนว่านั้นมันตีความได้หลายแบบ"ไปท่าช้าง*ถือเป็นการต้อน
"โอย..."ธารน้ำส่งเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อลืมตัวเผลอหยิบนาฬิกามาใส่ด้วยความชิน เธอได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเอานาฬิกาเก็บลงกล่อง เธอไม่ได้ออกจากห้องมาหลายวันเพราะข้อมือมันช้ำมากจนกลัวว่าหากไปเรียนแบบนั้นจะถูกถามเอาได้ดูท่าวันนี้จะต้องใส่เสื้อแขนยาวไปเรียนเสียแล้วเพราะบริเวณข้อมือของเธอมันช้ำเลือดไปทั้งสองข้างโชคดีที่วันนี้อากาศค่อนข้างเย็นคงไม่มีใครสงสัย…ขอให้ต่อจากนี้มีชีวิตที่สงบ…ถึงหญิงสาวจะภาวนาเช่นนั้นแต่แล้วมันกลับไม่เหมือนที่เธอคิด ธารน้ำนิ่งไปเมื่อเปิดประตูออกมาพบว่าหมอกยืนพิงกำแพงรอเธออยู่พร้อมกับถุงครัวซองในมือ ใบหน้าของเขายังไร้ซึ่งอารมณ์เช่นเคย เขามองมาที่ข้อมือเธอเป็นอันดับแรกก่อนจะหลบสายตาแล้วยื่นถุงครัวซองมาให้ เธอหรี่ตามองเขาอย่างไม่ชอบใจนักแล้วเลือกจะเดินผ่านเสมือนกับว่าเขาไร้ตัวตน ตึก ตึก ตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้าหนักตามหญิงสาวมาติดทุกจังหวะการเดินจนถึงชั้นหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินแซงหน้าไปแล้วเปิดประตูรถคันหรูรอเชิญชวนให้หญิงสาวเข้าไปนั่ง ธารน้ำเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วแน่นเธอจำได้ว่าพูดไว้ชัดเจนมากพอแล้วแต่ดูท่าเขาจะไม่เข้าใจ"ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ขอแค่ไม่มายุ่งกันอีกจนเรี
: ธารน้ำตึก ตึก ตึกเสียงส้นเท้าหนักตามฉันลงจากตึกมาติดๆ ฉันเดาได้ว่าคงจะเป็นหมอกนั่นแหละเพราะทั้งตึกมันเหลือแค่ฉันกับเขาในตอนนี้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ทั้งที่งานตัวเองเสร็จยังนั่งเฝ้าจนรอฉันทำงานเสร็จ ตอนแรกส้มกับหมวยก็อาสาอยู่เป็นเพื่อนทว่าเพียงแค่หมอกไล่คำเดียวทั้งคู่ก็พากันเก็บของกลับอย่างรวดเร็ว ตาบ้านี่คงมีอิทธิพลต่อเพื่อนจริงๆ กึก!เท้าฉันหยุดชะงักไปเมื่อมองเห็นร่างสวยของมี่ยืนกอดอกมองมาทางเราอย่างหาเรื่อง เธอหัวเราะราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นเพียงเท่านี้ฉันก็เข้าใจได้ทุกอย่าง... หมอกเขาไม่ได้รอฉันเขาแค่ต้องการทำให้แฟนที่มารอเขาเข้าใจผิด...มากเกินไปแล้ว...ฉันหันไปมองจิกคนด้านหลังอย่างไม่พอใจและหันยิ้มให้มี่นิดหน่อย ก่อนจะเดินหลบออกมาเพื่อเอาตัวรอดแต่ยังไม่ทันจะเดินได้ไกลผมของฉันก็ถูกกระชากจากด้านหลังอย่างแรงจนฉันต้องหยุดเดิน เมื่อฉันหันไปมองก็พบว่าเป็นฝีมือของมี่นั้นเอง "ทำแบบนี้ทำไม"ฉันถามเธออย่างไม่เข้าใจ คนที่เธอควรทำร้ายต้องเป็นแฟนเธอสิ"เธอเพิ่งย้ายมาก็มาแย่งแฟนคนอื่นเลย ร้ายไม่เบา"มี่เชิดหน้าทำเอาฉันถึงกับหัวเราะออกมา และเมื่อเห็นเธอ