Mag-log in
ณ ร้านอาหารหรูริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่กลายเป็นที่จัดงานรวมรุ่นของโรงเรียนสตรีนานาชาติโนแสตมป์ ซิสเซอร์เวียรุ่น32 ที่นัดรวมตัวกันในทุกๆปี ทุกคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนานแต่ไม่ใช่กับสโรชา เพราะปีนี้มันทำให้เธอต้องอายเพราะไม่มีแฟนแบบชาวบ้านเขามาควงโชว์เพื่อนๆ ทั้งๆที่เธอเป็นถึงดาวโรงเรียน แต่ทำไมเธอถึงไม่มีแฟน
“นี่ยัยเอย แกจะทำหน้าเซ็งอีกนานไหมยะ พวกฉันเห็นแล้วเบื่อ ถ้ามาแล้วเป็นแบบนี้กลับไปเชียงใหม่เลยไป” เจ้ตั้ม หรือโตมรกระเทยสาวประจำกลุ่มเอ่ยพูดออกไป เมื่อเห็นสาวรุ่นน้องนั่งทำท่าเบื่อโลกอยู่
“เอยไม่กลับ เจ้ตั้มเอยอยากมีแฟนอะ เจ้ตั้มดูสิ เพื่อนแก๊งเราแต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว ทำไมเอยเป็นคนเดียวที่ไม่มีกะเขาอะ” สโรชาพูดบอกรุ่นพี่ที่เรียนมาพร้อมกันออกไป
แล้วชี้ไปที่ปัทมาและกานดาที่แต่งงานพร้อมกับมีลูกน้อยให้เชยชม
“ก็แกเลือกเยอะเองนี่ยะ คนนั้นก็ไม่ดีคนนี้ก็ไม่ใช่ แล้วเมื่อไหร่แกจะหาผัวกับเขาได้ล่ะยัยเอย” โตมรเอ่ยออกไปเพราะสโรชาสวยที่สุดในกลุ่มและมีหนุ่มๆมาจีบเยอะที่สุดตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว แต่นางก็เลือกเยอะจนอายุจะแตะเลขสามแล้ว นางก็ยังไม่ลงเอยกับใครสักคน
“ถ้าแกไม่เลือกเยอะนะ เดี๋ยวฉันจะหาหนุ่มหล่อๆให้แกเองยัยเอย เพื่อนๆสามีฉันก็มีนะหรือจะพี่ชายฉันดีล่ะ ฮ่าๆ” ปัทมาพูดบอกเพื่อนออกไป เพราะพี่ชายเธอที่เป็นตำรวจก็แอบชอบเพื่อนของเธออยู่
“ไม่เอาอ่ะ ให้แกหาให้มีหวังได้อะไรมาก็ไม่รู้ ไม่เอาหรอก ฉันชอบแบบยากๆมันเร้าใจดี” สโรชาเอ่ยออกไปอย่างขำๆ
“เอ้ะ นั่นมันนาตาชากับยัยนานานี่ มางานด้วยกันได้ไงล่ะน่ะ นึกว่าเป็นนางแบบดังแล้วจะไม่มาซะอีก” โตมรพูดขึ้นแล้วมองไปที่สองสาวที่เดินเฉิดฉายเข้ามาในร้าน
“สองคนนั่นก็รุ่นเดียวกับเรา เขาก็ต้องมาอยู่แล้วสิเจ้ ขนาดดายังมาเลย” กานดาเอ่ยถามออกไป เพราะเธอก็เป็นถึงนางเอกดังเช่นกันถึงแม้จะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว
“แกดังแล้วแกยังเหมือนเดิมนี่ยัยดา แต่ยัยนานานั่นไม่ย่ะ นางเรื่องเยอะจะตาย นั่นก็แพ้ นี่ก็แพ้ แล้วนี่รู้อะไรไหม นางคิดจะจับเจ้านายเจ้ไปทำผัวด้วยแหละ ดีนะที่เจ้านายเจ้เขาขยาดผู้หญิง ไม่งั้นเสร็จนางแน่ๆ” โตมรเล่าออกไป เมื่อเคยทำงานกับนานาแล้วเจอพิษสงของเธอเข้าไป
“เจ้านายเจ้แซ่บมากเลยหรอ ยัยนานาถึงคิดจะจับอ่ะ” สโรชาเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย
“ถ้าหน้าตารูปร่างก็แซ่บอยู่หรอก แต่นิสัยเย็นชาเจ้าอารมณ์ไปนิดนึงอะ คือแบบทุกอย่างต้องเป๊ะต้องตรงใจนางอะไรแบบนี้ เจ้คุยกับเขาแต่ละทีต้องลุ้นฉี่จะราดอ่ะ แล้วผู้หญิงที่ขึ้นเตียงกับนางส่วนใหญ่ก็นางแบบดาราอะไรงี้ ลูกน้องสาวๆนี่อย่าหวังเพราะนางไม่กินค่ะ” โตมรเอ่ยเล่าให้ทุกคนในกลุ่มฟังอย่างเมามันส์
“เว่อร์ไปป่ะเจ้ คนอะไรจะโอเว่อร์ขนาดนั้น” สโรชาพูดออกไปอย่างไม่เชื่อ
“ก็เจ้านายเจ้ไง แกเจอแล้วแกจะหนาวยัยเอยเอ้ย” โตมรพูดไปก็ทำเสียงแหลมอย่างตลก จนนาตาชาและนานาเดินเข้ามาหากลุ่มของเขาที่นั่งกันอยู่
“สวัสดีจ้ะ ไม่เจอกันนานเลยนะทุกคน” นาตาชาเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
“นั่งด้วยกันไหมนาตาชา” ปัทมาเอ่ยถามออกไป เพราะเธอก็ถือว่าเจอนาตาชาบ่อยๆ
“เชิญแค่ชาคนเดียวหรอปัท นานาก็มาด้วยทั้งคนไม่เห็นชวน” นานาเอ่ยแล้วมองสโรชาคนที่เป็นศัตรู ที่แข่งชิงดีชิงเด่นกันมาตลอดตั้งแต่เรียนจนถึงตอนนี้
“เขาไม่อยากให้นั่งด้วยไง น่าจะรู้ตัว” สโรชาพูดออกไปแล้วมองหน้านานาอย่างเอาเรื่อง เพราะนานาถือเป็นศัตรูมากกว่าเพื่อนสำหรับเธอ เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไรนานาก็มักจะทำตามเสมอ ไม่เว้นแม้แต่แย่งแฟนของเธอไปนอนกก แถมยังเคยใส่ร้ายจนเธอเคยโดนพักการเรียนไปหลายอาทิตย์ จนทำให้ไม่ถูกกันจนถึงทุกวันนี้
“เราก็ชวนทั้งสองคนแหละ” ปัทมาเอ่ยยิ้มๆ เพราะนาตาชานิสัยน่าคบกว่านานา เธอจึงพูดกับนาตาชาแทน และเธอก็ไม่อยากให้ทั้งสองมาทะเลาะกันที่นี่
“พอดีชากำลังจะแต่งงานน่ะ ชาเลยเอาบัตรเชิญมาให้ทุกคน ไปกันให้ได้นะเราอยากให้ทุกคนไป” นาตาชาเอ่ยบอกออกไป เมื่อกำลังจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจ แล้วส่งการ์ดงานแต่งให้กับทุกคนในโต๊ะ
“ว้าว เจ้ดีใจด้วยนะจ้ะนาตาชา เจ้ไปแน่นอนจ้ะ” โตมรเอ่ยออกไปแล้วรับซองมา แล้วเปิดดูว่านาตาชากำลังจะแต่งงานกับใคร เพราะไม่เคยเห็นข่าวของนาตาชาเลย
“อุ้ย แต่งงานกับทายาทร้านเพชรเลยนะ เรานี่เก็บเงียบเชียวนะนาตาชา เห็นแล้วเจ้อิจฉาอยากแต่งบ้างจัง” โตมรพูดออกไปอย่างอิจฉา
“แล้วนี่เอยแต่งงานรึยังจ้ะ ไม่ได้เจอกันนาน เลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย เห็นแต่ปัทกับดาสองคนเองที่แต่งงานไปแล้ว” นาตาชาถามออกไปตามปกติ เพราะเหลือแค่สโรชาคนเดียวที่เธอไม่ได้ไปงานแต่ง
“ชาถามทำไมแบบนั้นล่ะ ถามว่าเอยเขามีแฟนรึยังถึงจะถูก ฮ่าๆ” นานาเอ่ยออกไปก่อนที่สโรชาจะตอบอย่างจิกกัด จนทุกคนเริ่มรู้สึกถึงสงครามที่เกิดขึ้นเบาๆ
“เหมือนเธอจะรู้เรื่องของฉันดีจังเลยนะนานา รู้ดีกว่าตัวฉันซะอีก” สโรชาเอ่ยตอกกลับแล้วแสยะยิ้มใส่
“เห็นอายุขนาดนี้แล้ว ยังไม่แต่งงานเหมือนเพื่อนคนอื่นๆเขาอีก ฉันก็เลยเดาๆดูน่ะ” นานาเอ่ยออกไป ทั้งที่เจ็บแค้นในใจ
“พอดีฉันเลือกคบน่ะ สวยๆแบบฉันมีมาจีบเยอะแยะไป เธอก็ยังไม่ได้แต่งนี่นานาหรือว่าไม่มีใครเอา” สโรชาเอ่ยออกไปแล้วถามกลับอย่างไม่ยอม
“อุ๊ปส์” โตมรเอ่ยเบาๆแล้วเอามือปิดปาก อย่างชอบใจ
“งั้นเรามาดูกันว่าระหว่างฉันกับเธอใครจะแต่งงานก่อนกัน” นานาพูดกลับไปอย่างท้าทาย พร้อมกับจ้องมองหน้าของสโรชาอย่างจริงจัง
“กลัวที่ไหน ได้ ฉันรับคำท้าเธอนานา” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วมองหน้านานาอย่างจริงจังอย่างไม่มีใครยอมใคร
“เธอเตรียมตัดชุดมางานแต่งฉันได้เลยยัยเอย เพราะเจ้าบ่าวของฉันทั้งหล่อ ทั้งรวยแน่ๆ หาให้ได้ดีกว่าฉันล่ะ ไปก่อนนะจ้ะ พอดีมีนัดทานข้าวกับคุณรามีนน่ะ” นานาเอ่ยอย่างมาดมั่น แล้วยิ้มใส่อย่างสะใจก่อนจะเดินออกไปโดยไม่บอกนาตาชา เพราะเธอตั้งใจมาเยาะเย้ยสโรชาเท่านั้น
“เราขอโทษแทนนานาด้วยนะ เขาแค่อยากเอาชนะเอยเท่านั้นเองไม่มีอะไรหรอก” นาตาชาเอ่ยบอกออกไป
“เธอคบไปได้ยังไงกับยัยนี่ ฉันล่ะยอมเธอเลยนาตาชา คนอะไรคิดว่าตัวเองเริดนักรึไง เดี๋ยวจะสั่งสอนให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” สโรชาเอ่ยอย่างไม่พอใจ
“ยังไงก็เพื่อนกันน่า เขาก็เป็นแบบนั้นแหละ” นาตาชาบอกออกไปแล้วทำหน้ายิ้มๆ เพราะก็ไม่ได้สนิทกับนานามากเท่าไหร่
“นาตาชา ดามีถ่ายละครที่จีนหลายเดือนคงไปไม่ได้ ยังไงดาขอแสดงความยินดีด้วยนะ” กานดาเอ่ยบอกออกไป เพราะต้องไปถ่ายละครที่จีนสามสี่เดือนเลยทีเดียว
“จ๊ะไม่เป็นไร แต่สามคนที่เหลือต้องไปนะไม่งั้นงอนแน่ๆ งั้นเดียวชาขอไปแจกการ์ดให้เพื่อนๆคนอื่นๆก่อนนะ แล้วเจอกันนะจ้ะ” นาตาชาเอ่ยบอกแล้วยิ้มให้ก่อนจะขอตัวไปยังโต๊ะอื่นๆ
ทุกคนในโต๊ะก็พากันพยักหน้าและยิ้มตอบจนนาตาชาเดินออกไป
“แล้วแกจะไปหาผู้ชายจากที่ไหนยะ ยิ่งหล่อๆรวยๆกว่าคุณรามจะไปหาที่ไหนยะ ฉันจะบ้าตาย” โตมรพูดออกไปแล้วทำหน้าคิดแทนสโรชา
“แกไม่น่าไปรับคำท้านานามันเลยยัยเอย อยู่โสดๆดีๆไม่เอา” กานดาเอ่ยว่าเพื่อนสาว
“เจ้ตั้มเจ้านายเจ้ ใช่คนเดียวกับที่ยัยนานามันบอกจะไปทานข้าวด้วยใช่ปะ” สโรชาถามออกไปเพื่อความแน่ใจ
“ใช่ แกอย่าบอกนะว่าจะจีบแข่งกับยัยนานา ฉันว่าเปลี่ยนคนเถอะ คุณรามไม่เหมาะกับแกหรอก”โตมรเอ่ยบอกออกไปก่อน เพราะดูแล้วทั้งสองคงจะเข้ากันไม่ได้
ผ่านไปประมาณ10กว่านาที อาหารก็เริ่มทยอยมาเพราะปัทมากลัวว่าพี่ชายเธอจะมาซะก่อน เธอจึงลัดคิวให้สโรชาก่อน “ทานนี่สิคะ นี่ของโปรดเอยเองอร่อยมากเลยนะคะคุณราม” สโรชาบอกไปก็ตักผัดผักบล็อคโครี่และกุ้งอบพริกเผาให้รามีน “เธอชอบกินผักขนาดนั้นเลยหรอสโรชา” รามีนเอ่ยถาม เพราะเห็นอาหารของสโรชาส่วนใหญ่จะเน้นผักทั้งนั้น “ค่ะ เอยชอบกินมันไม่อ้วนด้วยแถมสุขภาพเราก็ดี คุณก็หัดกินผักบ้างสิคะ เอยเห็นเขี่ยทิ้งตลอด”สโรชาเอ่ยบอก เพราะรามีนจะกินแค่ผักบางชนิดเท่านั้น “อืม ฉันจะลองกินดู” รามีนบอกไปก็ตักผัดบล็อคโครี่เข้าปาก “คุณรามกินผักที่เกลียดที่สุดเนี่ยนะ โอ้ไม่นะ” คุณรามกับน้องเอยคงไม่มีซัมติงอะไรกันที่เขาใหญ่หรอกนะ ไม่ได้นะ น้องเอยผมตามจีบมานานแล้วนะครับ คุณรามห้ามตัดหน้าผมสิ ชานนคิดในใจขณะดูรามีนกินผักด้วยสายตายที่ขมขื่น “ไม่ชอบจะฝืนทำไมคะ เอยรู้ว่าคุณไม่ชอบอย่าฝืนทานเลยค่ะ เอยแค่ล้อคุณเล่น ฮ่าๆ” สโรชาบอกออกไป เมื่อเห็นรามีนทำหน้าเจือนๆ จนเธออดขำไม่ได้ “สโรชา” รามีนหันไปมองสโรชาที่หัวเราะเยาะเขา ด้วยสายตาโกรธ เขาอุตส่าห์ฝืนกิน เพราะเธอตักใส่จานให้ แต่เธอมาหัวเราะเยาะเขาเนี่ยนะ คืนนี้ฉั
ด้านสโรชาพอมานั่งทำงานต่อก็ถูกชานนใช้ให้เอาเอกสารไปให้มาริสาเซ็นที่ห้องทำงาน เธอจึงถือโอกาสนี้เม้าท์กับโตมรขณะที่รอให้มาริสาตรวจเอกสารในห้อง “เป็นไงบ้างยัยเอย เรียบร้อยไหม” โตมรเอ่ยถามสโรชาเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน กลับเรื่องที่สโรชาไปนอนค้างกับรามีนที่เขาใหญ่ “จะเหลือหรอเจ้ตั้มมือชั้นนี้แล้ว เอยเคยพลาดที่ไหนล่ะ ขอบคุณเจ้มากเลยนะคะที่ทำให้เอยได้ทูนหัวคนนี้มา ฮ่าๆ” สโรชาเอ่ยบอก แล้วยิ้มใส่โตมรอย่างมีเชิงที่เธอจัดการกับรามีนได้สำเร็จตามแผน โดยมีโตมรเป็นทัพเสริมคอยช่วย “ย่ะ แล้วคุณรามีนเป็นไงบ้างยัยเอย แซ่บปะแก” โตมรเอ่ยถามออกไป แล้วทำท่าทางดี๊ด๊าอยากรู้อยากเห็น “โอ้ยเจ้ตั้ม แซ่บไม่แซ่บไม่รู้แต่ตอนนี้เอยก็คบกับคุณรามแล้ว” สโรชาบอกออกไป แล้วทำหน้ายิ้มอย่างเขินๆ เมื่อบอกออกไป “ยัยเอย แกไปทำอีท่าไหนยะ คุณรามีนเขาถึงคบกับแก เม้าท์มาอย่าลืมว่าเจ้ช่วยแกนะ แกต้องเม้าท์ให้เจ้ฟัง เจ้อยากจะรู้ว่าหน้านิ่งๆแบบคุณรามีนจะแซ่บขนาดไหนตอนอยู่บนเตียง ” โตมรเอ่ยบอกออกไป แล้วทำหน้าเพ้อฝัน “ก็นอนเฉยๆนี่แหละเจ้ เขาติดใจของเขาเองอะ อีกอย่างเขาดูแลเอยดีมากอะเจ้ แล้วเจ้รู้ไหมคุณรามเขามุ้
“คุณรามอย่าพึ่งเข้าใจผิดนะคะ เอยไม่ใช่เมียน้อยหรืออะไรของพ่อเลี้ยงทั้งนั้น พ่อเลี้ยงเขาแกล้งเอยแบบนี้ประจำแหล่ะค่ะ คุณรามเชื่อเอยนะคะ” สโรชาพูดบอกออกไปแล้วทำหน้าเศร้า เพราะกลัวว่ารามีนจะไม่เชื่อ แต่มันก็น่าเชื่อที่ไหน ดูคำที่ไอ้พี่ชายเธอเขียนสิ มันสื่อไปในทางชู้สาวมากกว่าพี่ชายจะบอกน้องสาวด้วยซ้ำ สโรชาคิดในใจอย่างเหนื่อยใจ “ฉันไม่เชื่อเธอสโรชา ฉันไม่ได้โง่” รามีนบอกออกไปแล้วขยำกระดาษโน้ตทิ้ง แล้วเดินออกไปด้านนอกห้อง “คุณราม อย่าเดินหนีเอยแบบนี้สิคะ เอยบอกแล้วไงคะว่าเอยไม่ใช่เมียพ่อเลี้ยง”สโรชาเดินตามออกมา จนรามีนหยุดเดินแล้วหันมาพูดกับเธอ “ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่เมียน้อยพี่ตะวัน แต่เธอคือเมียฉัน” รามีนบอกไปแล้วมองสโรชานิ่ง “แล้วคุณจะเดินหนีเอยทำไมล่ะคะ” สโรชาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ก็เธอโกหกฉัน หากตอนนี้พี่ตะวันกำลังเลี้ยงเธออยู่ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หากพี่ตะวันเขากลับมาฉันจะคุยกับเขา เรื่องของเราเอง ต่อไปฉันจะเลี้ยงดูเธอเองสโรชา พี่ตะวันให้เธอมากเท่าไหร่ ฉันจะให้มากกว่าเขาเป็นสองเท่า แต่เธอต้องอยู่กับฉัน” รามีนพูดยาวเหยียดจนสโรชาอึ้ง ที่รามีนคิดเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้ แต่
สโรชาและรามีนผละออกจากกันทันที เมื่อได้ยินเสียงของป้าแม่บ้าน สโรชาเขินจนหน้าแดงเมื่อได้ยินป้าแม่บ้านพูดออกมา ส่วนรามีนก็ทำหน้านิ่ง เย็นชาเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น แล้วหันไปบอกป้าแม่บ้าน “อืม วางไว้แล้วออกไปเถอะ” รามีนบอกออกไปหน้าตาย จนสโรชาอดค้อนไม่ได้ที่เขาตีหน้านิ่งได้ ทั้งๆที่เธอกำลังเขินอยู่ พอป้าแม่บ้านเดินออกไปสโรชาก็ตีแขนของรามีนทันที “เพี๊ยะ จูบไม่ถูกที่ถูกเวลา เอยอายเลยคนบ้า”สโรชาเอ่ยบอกแล้วมองค้อนรามีน “ฮ่าๆ ทำไมขี้งอนจังห้ะยัยโรคจิต” รามีนเอ่ยแซวออกไป เมื่อสโรชาคอยงอนเขาตลอด “คุณรามจะไม่ง้อเอยหรอคะ” สโรชาเอ่ยถามแล้วทำหน้ากลั้นยิ้มออกไป“แล้วที่ทำอยู่ง้อหรือเปล่าล่ะ” รามีนบอกไปก็หอมแก้มของสโรชาอย่างอดไม่ได้ด้านพ่อเลี้ยงอาชา เจ้าของไร่ภูสวรรค์ที่มีชื่อเสียงเรื่องชาส่งออกและผลิตผ้าไหมทอของจังหวัดเชียงใหม่ ก็ร้อนใจเพราะเมื่อตอนบ่ายพ่อเลี้ยงตะวันโทรมาบอกเขาว่าสโรชา สาวสวยที่เขาหมายปองจะเอามาเป็นแม่ของลูกกำลังจะถูกคนตัดหน้าไป แถมไอ้หนุ่มคนนั้นยังเป็นถึงทายาทบริษัทเครื่องดื่ม เขาจะต้องรีบไปตามขัดขวางให้ถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเสียสโรชาให้กับรามีนแน่นอน อาชาคิดใ
ด้านพ่อเลี้ยงตะวันที่กำลังจะออกไปสนามบินก็ต้องสะดุด เมื่อเมียรักโทรสายตรงมาจากเยอรมัน “ว่าไงคะดาร์ลิ่ง คิดถึงผมแล้วหรอครับคนดี” ตะวันกรอกเสียงหวานลงไปใส่ลีน่าภรรยาคนสวยของเขา “ไม่ต้องมาปากหวานเลยค่ะ ลีน่าอยากจะให้คุณมาหาลีน่าที่เยอรมัน วันนี้” ลีน่าเอ่ยบอกออกไปเสียงหวาน “ห้ะ วันนี้เนี่ยนะ จะทันได้ยังไงละครับคนดี เยอรมันนะครับ ไม่ใช่กรุงเทพฯจะได้ไปกลับแค่ไม่กี่ชั่วโมงน่ะ” ตะวันเอ่ยบอกออกไปเสียงอ่อยๆ “แต่ลีน่าอยากเจอคุณนี่คะ ไลลาก็บ่นคิดถึงพ่อตลอดเลย ที่รักจะใจร้ายกับเมียกับลูกได้ลงคอเลยหรอคะ” ลีน่าพูดด้วยน้ำเสียงเสียใจ ทั้งที่จริงก็เป็นมารยาหญิงล้วนๆ “ไปพรุ่งนี้ได้ไหมครับ ผมจะรีบไปเลยผมสัญญา” ตะวันเอ่ยบอกออกไป เพราะเขาต้องจัดการ สโรชาก่อน เออใช่สิ นี่ต้องเป็นยัยน้องตัวแสบแน่ๆที่โทรไปหาลีน่า ไม่งั้นเธอคงไม่มาบอกให้เขาเดินทางไปเยอรมันวันนี้ ตะวันคิดในใจอย่างสงสัย “ไม่ค่ะ ถ้าคุณไม่มาวันนี้ละก็ พรุ่งนี้ลีน่าต้องพาลูกไปเที่ยวทะเลกับทอมหรอคะคุณไม่หวงไม่ห่วงเมียแล้วหรอคะ” ลีน่าแกล้งบอกออกไป เพราะตะวันมักจะหึงจนหน้ามืดเมื่อพูดถึงทอมคนรักเก่าของเธอ “อะไรนะ มันยังไม่เลิก
“โอ๊ย เอยเจ็บนะคะคุณรามีน ดีดมาได้” สโรชาเอ่ยบอกแล้วลูบที่หน้าผากตัวเองเบาๆ แล้วมองรามีนแบบยิ้มเขินๆต่อ เมื่อถูกเขาจับได้ว่าคิดลามกกับเขา “ก็เธอคิดลามกทำไม แล้วต่อไปเรียกฉันว่ารามก็พอ เข้าใจไหม” รามีนเอ่ยบอกออกไป แล้วมองหน้าของสโรชานิ่ง “ก็ได้ค่ะ แล้วจะมามองหน้าเอยทำไมคะ เอยเขิน” สโรชาเอ่ยบอกออกไป แล้วเอามือมาปิดหน้าตัวเอง “นี่สโรชา ถามจริงๆเธอเอาพวกเซ็กส์ทอยพวกนั้นมาเล่นกับฉันงั้นหรอ นี่กะจะจับฉันให้ได้เลยล่ะสิ” รามีนถามออกไป แล้วทำหน้าจริงจังใส่สโรชา ทั้งที่ในใจแอบขำกับหน้าตกใจของสโรชา “คุณรามเห็นหรอคะ” สโรชาถามกลับอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะเห็น ตายๆ แล้วแบบนี้เธอจะได้ใช้ของพวกนั้นไหมล่ะเนี่ย ซื้อมาก็แพงยังจะมาไม่ได้ใช้อีก เสียดายของหมดสโรชาคิดในใจอย่างเสียดาย “เธอบ้ารึเปล่า ของพวกนั้นมันใช้กับผู้หญิงซิงๆแบบเธอไม่ได้หรอก ดีนะที่เธอป้อดไปก่อน” รามีนบอกไปแล้วหัวเราะใส่สโรชา “คนบ้า แกล้งกันสนุกนักรึไงเล่า เอยป้อดที่ไหนเล่า ทำไมไม่โทษน้องชายตัวเองบ้างล่ะ เล็กกว่านี้ก็ไม่ได้รึไง” สโรชาพูดไปแล้วทำหน้าบึ้งใส่รามีนอย่างงอนๆ “ฮ่าๆ เธอนั่นแหละยัยโรคจิต คิดได้ยังไงจับ







