Masuk“มึงเฝ้าเอาไว้ อย่าให้ใครเข้าใกล้รถได้ถ้ากูไม่ได้อนุญาต”
เซนต์พานางบำเรอของเข้ามายังจุดที่เรียกได้ว่าใกล้กับความตายหมู่แค่เอื้อม ก่อนที่เขาจะลงจากรถไปจัดการกับพวกลูกน้องของพ่อเธอด้วยมือตัวเอง เขานั้นยังคงให้เธอนั่งอยู่บนรถเพื่อรอดูสิ่งดีๆที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ โดยมีลูกน้องของเขาอย่างมาลิคคอยเฝ้าเธอเอาไว้ที่รถอย่างใกล้ชิด
“ครับนาย”
มาลิคกลับขึ้นไปนั่งบนรถตามเดิมเมื่อเขานั้นจำยอมรับหน้าที่อันแสนน่าเบื่อที่เจ้านายนั้นออกคำสั่งออกมา ทั้งที่ใจของเขานั้นอยากออกไปลุยฆ่าไอ้พวกแกรนด์เดย์ให้มันตายคามือเขาใจแทบขาด
“ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ”
เพียงพอใจมองไปรอบๆรถเพื่อสำรวจแต่กลับไม่คุ้นชินกับสถานที่เอาเสียเลย ก็เลยเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ด้วยบนรถ หวังให้อีกฝ่ายบอกอะไรกับเธอกลับมาบ้าง
“ไม่ต้องรู้หรอกน่ะ นั่งเงียบๆไปเหอะ”
มาลิคหันไปตวาดหญิงสาวด้วยความไม่สบอารมณ์นักเมื่อเขาต้องมาทำหน้าที่น่าเบื่อนี้ก็เพราะเธอ แทนที่เขาจะได้ออกไปยิงปืนสักนัดสองนัดให้มันหายคันมือ
“ปังๆ”
เสียงปืนดังระงมโดยรอบรถที่เพียงพอใจนั่งอยู่ แต่ทว่ากลับดังเข้ามาภายในรถไม่ได้ชัดเจนนักเนื่องจากรถคันนี้ถูกปรับแต่งมาให้เก็บเสียงได้มากพอสมควร
“เสียงอะไรเหรอคะ”
แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เพียงพอใจที่หวาดกลัวเสียงปืนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วรู้สึกหวาดหวั่นไปกับเสียงนั้นได้ ขยับก้นเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าหวังให้เขาช่วยเหลือ
“กูบอกให้หุบปากไง ไม่ต้องเสือกถามมากได้ไหม”
มาลิคที่ไม่เคยเข้าใจผู้หญิงพอๆกับเจ้านายของเขาหันไปตวาดอีกฝ่ายเป็นครั้งที่สอง เมื่อเธอทำตัวน่ารำคาญเกินจะทนไหว
“กรี๊ดดดดด”
เพียงพอใจหันหน้าไปมองกระจกด้านข้างที่เธอนั่งอยู่เมื่อรู้สึกเหมือนมีใครกำลังเดินเข้ามาหาเธอ แต่แล้วก็ต้องกรีดร้องสุดเสียงเมื่อมีใบหน้าเปื้อนเลือดมาโผล่อยู่ข้างๆเธอโดยมีเขาเป็นคนหิ้วร่างนั้นมา
“แหกตาดูซิวะ”
เซนต์หิ้วคอลูกน้องคนสนิทของอัลวินมาใกล้ๆกับรถ ใกล้จนใบหน้าเปื้อนเลือดที่ถูกเขากระทืบมานั้นจะมองเห็นภายในรถได้ เพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นอะไรดีๆก่อนตาย
“คุณหนู.....
ฟาร์โกลูกน้องคนสนิทของอัลวินจ้องมองไปยังกระจกสีดำสนิทตามที่อีกฝ่ายบอกให้ทำจนเขานั้นได้เห็นคุณหนูของเขาที่เขานั้นรักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ภายในรถนั้น
รอยยิ้มเล็กๆที่แสนดีใจที่รู้ว่าเธอยังไม่ตายปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดของเขา
“ปัง มึงไม่มีโอกาสจะคาบข่าวไปบอกเจ้านายของมึงได้หรอก เพราะว่ามึงต้องชดใช้กับสิ่งที่ไอ้อัลวินมันทำเอาไว้”
เซนต์ยกปืนขึ้นมาจ่อไปยังศีรษะของอีกฝ่ายก่อนจะเหนียวไกปืนออกไป จบสิ้นชีวิตของพวกแกรนด์เดย์อีกคนอย่างสาสมและสมควรตาย เพราะนอกจากพวกมันจะเป็นศัตรูกับเขาแล้วพวกมันยังกล้ามาทำการค้าในเขตของเขาอีกด้วย ไม่สมควรตายก็ไม่มีคำไหนจะเหมาะสมกับพวกมันอีกแล้วล่ะ
“กรี๊ดดดดดด”
เพียงพอใจกรีดร้องเสียงดังลั่นรถเมื่อเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาเธอ ร่างเล็กๆถึงกับสั่นผวาไปทั้งตัวก่อนจะทรุดลงไปกองกับพื้นข้างเบาะรถ
แล้วเธอก็ขดตัวอยู่กับพื้นแคบๆนั้นด้วยความหวาดกลัว ยังคงกรีดร้องออกมาเป็นระยะๆด้วยภาพที่ฝังใจ และด้วยใบหน้าของผู้ชายคนนั้นมันคุ้นตาเอาซะเหลือเกิน
“เอาศพมันไปทิ้ง ใกล้ๆกับโกดังของเจ้านายมัน”
เซนต์ปล่อยศพนั้นลงนอนกองกับพื้นก่อนที่เขาจะสั่งให้ลูกน้องเอาศพนั้นไปทิ้ง แล้วตัวเขาก็เองก็ทำการเช็ดไม้เช็ดมืออย่างสบายใจและอารมณ์ดี
“ครับนาย”
“พากลับไปบ้าน เฝ้าเอาไว้ให้ดีอย่าให้หนีไปได้”
และเขาก็ไม่ลืมที่จะให้ลูกน้องคุมตัวนางบำเรอของเขากลับไปยังบ้านของเขา เมื่อวันนี้นั้นเขาเล่นสนุกกับเธอมากพอแล้ว และเธอก็คงสนุกแบบจดจำไปชั่วชีวิตแล้วอย่างแน่นอน
“ครับนาย”
“ออกรถ กูจะไปพักผ่อนซะหน่อย”
ส่วนตัวเขานั้นก็ขึ้นรถอีกคันที่มีลูกน้องคอยขับให้ออกไป ไม่ได้กลับบ้านไปพร้อมกับเธอเพราะเขาไม่ได้ชอบการกลับบ้านสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้กลับไปเพื่อมีอะไรกับเธอเขาก็ไปหาที่นอนที่อื่นเสมอ
“ไปผับไหมครับนาย”
ลูกน้องที่นานๆทีจะมีโอกาสได้มาดูแลเจ้านายเอ่ยถามออกไปด้วยความกล้าๆกลัวๆ ด้วยปกติตำแหน่งนี้มักจะเป็นมาลิคมาทำ เพราะปกติเจ้านายมักไม่ค่อยใช้งานลูกน้องที่ไม่รู้ใจ แต่ทำไมวันนี้ถึงยอมก็ไม่รู้เหมือนกัน
“อืม”
มาเฟียหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อจุดหมายปลายทางของเขาในวันนี้นั้นคือผับของเพื่อนเขาที่มันนั้นถือหุ้นมากกว่าเขาอยู่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ทำให้มันเป็นเจ้าของผับ
ปกติแล้วผับเปิดให้บริการตอนกลางคืน แต่สำหรับเขาที่เกือบได้เป็นเจ้าของผับจะสั่งให้ผับเปิดให้บริการเขาตอนไหนก็ได้
“อารมณ์ดีอะไรมาวะ”
บอนเนอร์เจ้าของผับหรูที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวตอนกลางคืนเดินเข้ามาทักทายเพื่อนรักเพื่อนร้ายของเขาที่ในวันนี้มาเปิดเหล้าดื่มแต่หัววัน แถมสั่งเหล้ามาวางกองเต็มหน้าอีกตั้งหาก ถ้าไม่เรียกว่ามันอารมณ์ดีก็คงเรียกว่ามันใช้เงินสิ้นเปลืองอีกตามเคย เพราะปกติมันกินเหล้าแค่ขวดเดียวแต่วันนี้มันสั่งมาวางเต็มโต๊ะทำไม ยังไงมันก็กินไม่หมดอยู่ดี
“จะแดกก็แดก ไม่แดกก็ไม่ต้องเสือกพูดมาก”
เซนต์สั่งเหล้ามามากมายเพื่อจะมาเลี้ยงเพื่อนของเขาและก็ลูกน้องด้วย แต่ทว่าพอมีคนถามเขาก็กวนตีนออกไปตามนิสัยก็แค่นั้นเอง
“เอาเหล้ามาให้มากกว่านี้ แล้วก็ให้แพงกว่านี้ด้วย กูไม่กินของไอ้คนปากหมา”
บอนเนอร์ออกอาการฉุนเฉียวขึ้นมา เมื่อไม่ได้คำตอบที่ตรงกับคำถาม
“ครับนาย”
“เรื่องมาก”
เซนต์สบถออกมาเบาๆอย่างนึกรำคาญไอ้คนเพิ่งมาใหม่ แทนที่เห็นเหล้ามากองตรงหน้าจะรีบกินๆเข้าไป ดันพูดมากอยู่ได้
“กูไม่ได้มากเรื่อง แค่กูอยากเอาชนะก็แค่นั้นเอง”
“เออ ไอ้เวร”
“กูมีของเด็ดมาเสนอ เพิ่งได้เข้าสังกัดมาใหม่ สนใจไหมวะ”
บอนเนอร์พักเรื่องเหล้าเอาไว้ก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญมากกว่านั้น ด้วยเขามีนางแบบสาวคนใหม่เพิ่งย้ายเข้ามาเป็นเด็กในสังกัดของเขาสดร้อนๆ เขาคิดว่าไอ้เพื่อนรักน่าจะชอบและก็ตกเงินรางวัลให้เขางามๆเลยล่ะ
“ไม่”
เซนต์ปฏิเสธเสียงดังออกไปทั้งที่ยังไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรเลยแม้แต่น้อย และเขาก็ไม่ได้สนใจด้วย เพราะตอนนี้นางบำเรอที่บ้านก็มีให้กินฟรีๆไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อใครมากินอีกแล้ว
“เป็นเหี้ยไรของมึง ทำไม เดี๋ยวนี้ไม่สนใจของกูแล้วเหรอวะ”
นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่บอนเนอร์มาเสนอขายเด็กของเขาแล้วเพื่อนไม่สนใจ แต่ไอ้เซนต์มันตอบปฏิเสธเด็กของเขามาหลายครั้งแล้ว จนตอนนี้เด็กๆของเขาที่รอจะขึ้นเตียงกับมันเริ่มบ่น บางคนถึงกับย้ายสังกัดออกไปเลยก็มี
“มึงไปเสนอให้คนอื่นเหอะ กูไม่ว่าง”
“เมื่อก่อนมึงเป็นลูกค้าเบอร์หนึ่งของกูเลยนะ ตอนนี้เสือกมาบอกว่าไม่ว่าง”
“เออ ไม่ว่างก็ไม่ว่างซิวะ”
“งานเยอะแล้วมันไม่อยากเย็ดหรือไง ไอ้เวร”
“เรื่องของกู”
จะให้เขาบอกกับไอ้บอนเนอร์ว่าเขามีนางบำเรออยู่ที่บ้านก็คงไม่ได้ ไม่ใช่เขาไม่ไว้ใจมันหรอกนะ แต่ทว่าขี้เกียจต้องพูดมากออกไปแค่นั้นเอง
“เก็บเหล้า เก็บแก้ว เก็บน้ำแข็ง วันนี้ผับปิดแล้ว”
บอนเนอร์นึกหมั่นไส้ในท่าทีของไอ้เพื่อนรักจนเขาถึงกับสั่งลูกน้องให้มาเก็บเหล้าออกไปจากโต๊ะให้หมด ในเมื่อมันบอกเป็นเรื่องส่วนตัวของมันที่จะไม่ซื้อเด็กของเขาเพราะฉะนั้นเขาจะสั่งให้ผับปิดผับเปิดมันก็เป็นเรื่องของเขาเพราะที่นี่มันคือของเขาไม่ใช่ของมัน
“ไอ้เวร กูจะกินเหล้า”
“เรื่องของกู”
“ไอ้เหี้ยบอนเนอร์”
“เอาไง”
“เออๆ กูเหมาเด็กของมึงห้าคน วันมะรืนส่งไปที่บ้านกูก็แล้วกัน”
เซนต์จำต้องยอมซื้อเด็กของไอ้บอนเนอร์จนได้เพื่อแลกกับสถานที่กินเหล้าให้ตัวเขาเองและก็ลูกน้อง ด้วยไม่มีที่ใดกินเหล้าแล้วรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้านเท่าที่นี่อีกแล้ว มีทั้งความปลอดภัยมีทั้งเหล้าที่มีบริการไม่อั้น
“เฮ้อ วางเหล้าลงซิวะ ไปเอากับแกล้มมาเพิ่มด้วยซิวะ”
บอนเนอร์กลับคำในทันทีเมื่อไอ้เซนต์ตกปากรับคำกลับมาเป็นลูกค้าคนเดิมของเขา เรื่องรายได้ไม่สำคัญแต่ทว่าพอมีข่าวว่าไอ้เพื่อนรักคนนี้จะหิ้วสาวๆเข้าบ้าน พวกบรรดาสาวๆที่ค่าตัวแพงๆลูกค้าเยอะๆก็จะยอมมาอยู่ในสังกัดของเขากันอย่างล้นหลามเพื่อให้เป็นผู้ถูกเลือกเพื่อจะได้ไปนอนซบอกไอ้มาเฟียปากหมาคนนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่ทว่าขอแค่มันยังเป็นลูกค้าของเขาแค่นั้นก็พอ เพราะธุรกิจของเขาจะได้ไปได้สวยๆเงินทองไหลมาเทมาเยอะๆแค่นั้นพอ
“ครับนาย”
“พระจันทร์จ๋า ครอบครัวของหนูอยู่ที่ไหนเหรอ ทำไมหนูถึงยังจำพวกเขาไม่ได้อีกล่ะ มันนานมากแล้วนะ หนูชักเริ่มคิดถึงพวกเขาแล้วซิ”ร่างเล็กของเพียงพอใจหย่อนก้นนั่งลงกับพื้นตรงริมระเบียงของห้องนอนที่เธอแอบอ้างสิทธิ์ว่าเป็นพื้นที่ของเธอนั้นอย่างเรียบง่าย ไม่มีแม้กระทั่งเสื่อปูรองพื้นใดๆเพราะเธอคงไม่อาจหาญไปถามหากับชายฉกรรจ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องของเธอหรอกในหน้าสวยที่แม้จะไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มก็ยังสวยสดใสด้วยได้เลือดของผู้เป็นแม่ที่สวยระดับเคยเป็นนางงามมาก่อนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เงยขึ้นมองดวงจันทร์ที่ในวันนี้ทอแสงสีทองอร่ามไปทั่วฟ้าตั้งแต่หัวค่ำผู้หญิงตัวคนเดียวในบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนกำลังรู้สึกเหงาจนต้องมานั่งพูดกับดวงจันทร์ที่อยู่ไกลแสนไกลนั้นเมื่อเธอยังคงเฝ้าอยากจะได้ความจำที่สูญเสียไปกลับคืนมา อยากจะจำครอบครัวที่เคยจากมาให้ได้สักครั้งแม้อาจไม่มีโอกาสจะได้กลับไปหาพวกเขาก็ไม่เป็นไรแต่เมื่อหนทางในการที่เธอจะพบเจอความจำที่หายไปมันจะมืดมน ยิ่งพยายามคิดถึงมันก็ยิ่งไปกระตุ้นให้หยดน้ำตามันไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ“อืม ไปนอนดีกว่า”เพียงพอใจปาดน้ำตาให้หมดไปจากใบหน้าในทันทีที่มันไหลออ
“หายหัวไปไหนวะ”เซนต์ตื่นขึ้นในช่วงเย็นของวัน นับเป็นเวลาปกติของเขาที่จะนอนในตอนเช้าและตื่นขึ้นในตอนเย็นเพื่อจะออกไปทำงานแต่ทว่าวันนี้กลับต่างออกไปเมื่อเขาไม่ได้จะรีบตื่นขึ้นไปทำงาน แต่กลับตื่นขึ้นเพราะรู้สึกว่าคนที่นอนกอดมาหลายชั่วโมงนั้นหายไป“คิดหนีเหรอวะ”คนตัวโตรีบหยิบฉวยเอาผ้าเช็ดตัวที่อยู่ใกล้มือมากที่สุดมาห่อคลุมร่างกายท่อนล่างเอาไว้ แล้วรีบเดินออกจากห้องไปในทันทีที่พอจะรวบรวมสติในตอนที่เพิ่งจะตื่นนอนได้ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายดังออกไป เมื่อคิดว่านางบำเรอชั้นดีจะหนีไปจากสังเวียนบนเตียงนอนนั้น“นายครับๆ ตื่นหรือยังครับ”โจและลูกน้องอีกสองสามคนย่องเบาขึ้นมายังชั้นบนของบ้านเพื่อจะปลุกเจ้านายเมื่อเห็นว่าเมื่อเช้าเจ้านายเมาหนักแล้วก็หายตัวขึ้นมานอนข้างบนเลย และไม่ลงไปยังข้างล่างอีกเลย ดูผิดปกติเกินไปจนลูกน้องอย่างพวกเขานึกเป็นห่วง“ไอ้เหี้ย!!!”เซนต์ได้ยินเสียงเหมือนลูกน้องเรียกก็เลยหันหน้าไปตามเสียงเรียกนั้น ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าลูกน้องนั้นพากันไปยืนอยู่หน้าห้องนอนของตัวเองแล้วเป็นตัวเขาที่มานอนค้างห้องของนางบำเรอทั้งที่เขาไม่เคยคิดจะนอนค้างกับผู้หญิงหน้าไหนมาก่อน ด้วยเข
“เธออยู่ไหน”เซนต์กลับถึงบ้านหลังใหญ่ของเขาในเวลาหกโมงเช้าพอดิบพอดี เขานั้นเดินลงจากรถเข้าไปในบ้านเองได้ด้วยอาการเซไปข้างหน้าสามก้าวถอยหลังมาข้างหลังสองก้าว สลับกันไปมาจนกระทั่งก้าวเข้าไปภายในบ้านได้สำเร็จ“ในห้องครับ”ลูคัสผู้รับหน้าที่เฝ้าบ้านในค่ำคืนที่ผ่านมาและยังไม่ได้สับเปลี่ยนเวรกลับใครเป็นคนรายงานเรื่องที่อยู่ของเธอให้กับเจ้านาย ด้วยในเช้าวันนี้หญิงสาวผู้นั้นยังไม่ตื่นนอน“กูไม่เรียกไม่ต้องให้ใครขึ้นมา”เขาสั่งลูกน้องให้ออกห่างจากบริเวณชั้นสองของบ้านทั้งหมดเมื่อเขานั้นต้องการสนุกกับนางบำเรอของเขาให้เต็มที่แล้วร่างหนาแสนกำยำนั้นก็เดินขึ้นชั้นสองของบ้านด้วยอาการเมาแทบยืนไม่อยู่ เกาะราวบันไดขึ้นไปอย่างทุลักทุเลพอสมควร แต่ทว่าก็ไม่ได้ให้ลูกน้องเข้าช่วยเหลือเพราะเขาก็เมาแบบนี้บ่อยๆและก็ดูแลตัวเองได้ดีไม่เคยล้มลงไปให้ต้องเสียชื่อเสียงแม้แต่นิดเดียว“ครับนาย”“ตื่นหรือยัง”กว่าเขาจะเดินมาถึงยังห้องของนางบำเรอก็ใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่นานกว่าปกติค่อนไปทางมากเลยล่ะพอมาถึงเขาก็เปิดประตูห้องเข้าไปภายในห้องที่ไม่ได้ถูกสั่งให้ล็อกเอาไว้เนื่องจากคนภายในห้องไม่ได้คิดหนีเลยไม่มีความจำเป็น
“กลัวเด็กมันแจ้งความจับเอาอีกหรือไงวะ”เสียงแซวดังมาจากปากของบอนเนอร์ที่ในตอนนั้นเขาเป็นตัวตั้งตัวตีช่วยเพื่อนจากการนอนคุกมาได้“ไม่ได้กลัวโว้ย แค่กูอยากจะกินเหล้าให้สบายใจก็แค่นั้นเอง”ออสตินปฏิเสธการกลัวเมียเสียงแข็ง แต่เขาก็แค่เกรงใจไม่อยากทำอะไรที่มันจะทำให้เด็กมันไม่สบายใจก็แค่นั้นเอง“อืม”“นายขา เหล้าค่ะ”ส่วนเซนต์เขาก็ให้สาวๆหุ่นอวบๆบริการเขาได้อย่างเต็มที่ เพราะก็มีแต่สาวๆหน้าเดิมๆที่เคยถูกใจเขาเข้ามาบริการทั้งนั้นเลย“อืม”“ให้หนูนวดให้นะคะ นายจะได้สบายตัว”“อืม”“ใส่น้ำหอมอะไรมาวะ เหม็นฉิบหาย”แต่พอสาวๆพวกนั้นมานัวเนียกับเขาเข้าจริงๆเขากลับแทบอ้วกพุ่งออกมา เมื่อเหม็นน้ำหอมที่พวกเธอประโคมใส่บนตัวนั้น“ก็กลิ่นเดิมไงคะ ที่นายเคยชอบ”“กูเคยบอกหรือไง”“เปลี่ยนคนเข้ามาใหม่”เห็นเพื่อนเหมือนจะไม่ถูกใจสาวๆในชุดแรก บอนเนอร์ก็เรียกหาสาวๆชุดใหม่ให้เข้ามาแล้วเอาคนเก่าออกไประดับเจ้าของผับดังใจกลางเมืองอย่างเขาแล้วจะไม่มีวันเสียชื่อด้านบริการแม้แต่นิดเดียว“ครับนาย”“หนูรินเหล้าให้นะคะ”สาวๆชุดใหม่เข้ามาก็รีบเข้ามาบริการมาเฟียใหญ่อย่างเซนต์ในทันทีเพราะคาดหวังว่าคืนนี้จะได้ไปสาน
“ใครเป็นสายให้ไอ้เวรอัลวิน จับพวกมันตัดลิ้นให้หมดแล้วส่งคืนไอ้อัลวินมันไป เพื่อว่ามันจะอยากใช้ประโยชน์จากไอ้พวกเหี้ยนี่อีก”เขาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านนานนับเดือนจนแผลหายสนิทถึงได้ออกจากบ้าน และกลับไปทำงานในทันทีงานแรกที่เขากลับมาเริ่มทำคือลากตัวไอ้พวกที่กล้าเป็นหนอนบ่อนไส้ที่เขาจับขังเอาไว้อย่างทรมานตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่เขาพักรักษาตัวออกมาลงโทษทีละคนอย่างสาสม ก่อนจะปล่อยพวกมันให้ไปหาเจ้านายของมันและไม่ต้องเดาว่าจุดจบของไอ้พวกสารเลวพวกนั้นจะเป็นยังไง พวกมันได้รับความทรมานจนร้องขอความตายจากเขาไปแล้ว ก็คงได้ไปตายต่อหน้าไอ้อัลวินที่มันฆ่าได้ทุกคนที่หมดประโยชน์กับมัน“ครับนาย”“แล้วมึงก็อย่าลืม เอาลิ้นของพวกมันส่งไปด้วยเป็นของขวัญให้ไอ้อัลวินมันด้วย”“ครับนาย”“เตรียมคนให้พร้อมเอาไว้ด้วย อีกไม่นานกูจะไปเอาคืนมันแน่นอน คราวนี้ต้องถึงตาย”แล้วเขาก็ไม่พลาดที่จะเตรียมตัวสำหรับการล้างแค้นอย่างสาสมที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเอาไว้ด้วยไอ้อัลวินมันทำเขาต้องนอนพักอยู่บ้านสนุกกับลูกสาวของมันอยู่เป็นเดือน มันจะต้องได้ชดใช้ทุกอย่างที่มันทำกับเขาเอาไว้และครั้งนี้จะเป็นการล้างแค้นครั้งสุดท
“ค่ะๆ”เพียงพอใจรีบหันหลังให้กับเขาแล้วค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกด้วยความเขินอาย ไม่เคยชินเลยสักครั้งที่ต้องมาเปลื้องผ้าต่อหน้าเขาแม้ทุกครั้งที่เจอหน้าเขาก็มักจะถูกสั่งให้ถอดเสื้อผ้าออกตลอดก็ตามอาจจะพูดได้เต็มปากก็เป็นได้ว่าเธอนั้นไม่ได้ใจกล้าเท่ากับเขาที่จะแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นได้โดยไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วหญิงสาวก็ค่อยๆก้าวเท้าลงไปในอ่างอาบน้ำที่ไม่ได้มีน้ำอย่างช้าๆโดยการหันหลังลงไปเพื่อจะได้ไม่ต้องประจันหน้ากับเขาให้ต้องเกิดความอับอายไปมากกว่าที่กำลังเผชิญอยู่“มานี่ดิ”มือหนาคว้าเอาเอวบางๆของหญิงสาวด้วยความว่องไว ดึงให้เธอนั้นลงมานั่งบนต้นขาของเขาด้วยความใจร้อนรอไม่เป็น ทำเอาเธอนั้นนั่งลงไปเกือบจะโดนแผลของเขาเสียให้ได้ แต่ทว่าก็ยังไม่โดนเพราะเขานั้นเบี่ยงหลบได้ทัน“ว้าย อืม”คนตัวเล็กร้องเสียงหลงด้วยความตกใจแต่ทว่ายังไม่ทันร้องได้สุดเสียงก็ถูกริมฝีปากหนาประกบเข้าหาริมฝีปากบางเข้าให้เสียแล้วจูบนั้นเริ่มต้นด้วยความอ่อนนุ่มอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ดูดดื่มเสียจนร่างกายของเธอสั่นสะท้านรับบทจูบนั้นไปทั้งตัว“อืม”ริมฝีปากหนาลิ้มรสหวานของริมฝีปากบางจนมันบวมเจ่อก็ดูจะเป็นที่พออก



![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



