Mag-log in“ตกลงจะให้ฉันลงตรงไหน”
เสียงของเฌอเอมลดระดับความไม่พอใจ และเห็นว่ามุมปากได้รูปของอีกฝ่ายกระตุกเล็กน้อยจนต้องเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
“คุณพักที่เดิมใช่ไหม”
หญิงสาวพยักหน้าเชิดหยิ่งในแบบของเธอ
“เดี๋ยวผมไปส่ง”
แม้จะงุนงงกับการทำดีด้วยอย่างผิดปกติของชายหนุ่มแต่ในเมื่อเธอเพลียมากหญิงสาวจึงไม่พูดอะไรต่อปล่อยให้อีกฝ่ายใช้สมาธิในการขับรถ
ยิ่งรถของธิติแล่นขึ้นมาตามเส้นทางเดิมคลับคล้ายคลับคลาก็ยิ่งสร้างความร้อนลึกขึ้นในอก ผิวเนื้อราวมีกระแสแปลบปลาบวิ่งพล่านจนขนลุก หญิงสาวเหลือบมองคนขับในทันที อีกฝ่ายดูปกติ ทั้งที่ภาพในหัวคืนนั้นไม่ค่อยปะติดปะต่อแต่กลับส่งผลต่อเธอจนน่ากลัว เมื่อรถจอดนิ่งเธอจึงกระวีกระวาดลงทันที ทำเอาชายหุน่มต้องตามลงไปด้วยความแปลกใจ แล้วเขาก็เร็วพอที่จะเปิดประตูรถด้านหลังคว้ากระเป๋าได้ก่อนเธอ ต่างฝ่ายต่างสบตากันอยู่คนละฝั่งของรถ
“เอากระเป๋ามา”
“ผมขึ้นไปส่ง”
“ไม่ต้อง”
“กลัวอะไร”
พอถามแบบนั้นเขาก็ถูกถลึงตาใส่ ธิติตาพราวยังยั้งตัวเองไม่ให้ยิ้มใส่เธอ ไม่งั้นคงโดนเคืองว่าไปล้อเลียนแน่นอน เห็นแค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
“กำลังคิดอกุศลกับผมอยู่เหรอ”
“บ้า!!”
ว่าใส่ชายหนุ่มแล้วเฌอเอมก็ถอยออกมาปิดประตูเสียงดังก้าวฉับๆ ไปทันทีราวนางพญา โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองตามด้วยสายตาแบบไหน ก่อนเขาจะรีบปิดประตูล็อกรถก้าวตามไป
“กินข้าวกับผมสักมื้อสิ ผมหิว”
ธิติตามไปจนทันทั้งยังเดินนำเธอนิดๆ ขณะหันมาคุยด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าหงิก
“ไม่”
“ไม่หิวรึไง”
ใบหน้าสวยชะงักเล็กน้อยมือขยับมาลูบท้องเบาๆ แต่ไม่ยอมตอบ ทว่าตอนนี้เข้ามาในลิฟต์และเธอก็กดชั้นแล้วพร้อมกับที่อีกฝ่ายตามเข้ามา
“ถ่ายงานทั้งวันแบบนี้ คุณคงไม่ค่อยกินอะไร”
“ก็กินบ้าง”
“บ้าง หมายความว่ากินนิดเดียว ไปหาอะไรกินดีกว่า ผมไปเป็นเพื่อน”
“นายอยากกินก็ไปคนเดียวสิ ฉันไม่ใช่คนที่จะกินอะไรก็ได้นะ”
จบคำพูดนั้นตาคมก็กวาดมองใบหน้าสวยจรดปลายเท้า แถมยังวกกลับขึ้นมาหยุดในบางจุดทำเอาคนถูกมองหน้าร้อนจี๋ อดตวาดกลับไม่ได้
“อย่ามามองแบบนี้นะ”
“ทำไม”
“กวนประสาท”
“ก็แค่รู้สึกเห็นด้วยที่คุณดูแลตัวเองได้ดี ผมยังจำได้ว่าหุ่นคุณ...”
ชายหนุ่มมองซ้ำทำให้กระเป๋าสะพายใบย่อมฟาดมายังเขาทันที แล้วร่างระหงก็รีบพรวดออกจากลิฟต์เพราะมั่นใจว่าคนตัวโตกว่าต้องไม่พอใจ
“เฮ้ย มันเจ็บนะ เดี๋ยวก่อนสิ”
ธิติตามคนที่เดินฉับๆ ไปอย่างขุ่นใจแค่นิดเดียวเพราะลึกๆ แล้วเขาสนุกที่ได้แกล้งให้หญิงสาวหน้าแดง ถูกใจเป็นบ้าเวลามองหน้าสวยงอหงิก มันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เคยได้สัมผัสเลยในช่วงวัยรุ่น
“ไม่เล่นกันแรงไปหน่อยเหรอเอม”
เขามาถึงก็เห็นหญิงสาวทาบการ์ดหน้าห้องแล้วเปิดประตู เธอหันมามองเขาแล้วบอก
“ส่งกระเป๋ามาได้แล้ว”
“ไม่คิดจะขอโทษรึไง"
“ก็นายเที่ยวพูดเรื่อง...เรื่องคืนนั้นไปทั่วแบบนี้ทำไม”
“ไม่ได้พูดไปทั่วสักหน่อย พูดกับเอมแค่คนเดียว”
“อย่ามาเล่นลิ้นนะ”
เฌอเอมเข่นเขี้ยวใส่คนที่ยืนประจันหน้ากัน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มวาววับ ทว่าไม่กล้าขึ้นเสียงมากนักเกรงว่าใครจะมาได้ยินเข้า
ธิติก้มมองคนสูงน้อยกว่าตนไม่มากนักแล้วยิ้มมุมปาก เขาต้องบ้าแน่ๆ ที่เห็นว่าท่าทางของเธอน่ารัก น่าตอแย ยังไม่ทันพูดอะไรกันต่อก็มีคนออกจากลิฟต์แล้วเดินมาทางทั้งคู่ เฌอเอมหันไปมองส่วนชายหนุ่มเพียงแค่เหลือบ แต่จากปฏิกิริยาพึมพำเรียกชื่อเบาๆ ของปากสวยอิ่มเขาก็รู้ว่าเป็นคนที่เธอรู้จัก แขนกำยำรวบร่างสวยเข้าหาอ้อมอกพร้อมดันพาเข้าห้องทันที
เมื่อธิติลากกระเป๋าเข้ามาแล้วปิดประตูลงเฌอเอมก็มองอีกฝ่ายตาโต
“นายเข้ามาทำไม”
“คนรู้เห็นเรื่องของเราจะเป็นผลดีต่อคุณไม่ใช่เหรอ”
คนฟังมีสีหน้าเหมือนเห็นด้วยแต่ก็ส่ายหน้า
“แต่ก็ไม่เห็นต้องเข้ามาในนี้เลย”
“คนที่เดทกัน นานๆ ทีเจอ ใครเขาส่งกันแค่หน้าห้องล่ะคุณ”
เป็นอีกครั้งที่เฌอเอมเถียงไม่ออก ทำได้เพียงสะบัดหน้าหนีเขาเดินไปนั่งลงกอดอกไขว่ห้างบนโซฟา แสดงออกว่าไม่พอใจอย่างมาก
ชายหนุ่มไหวไหล่นิดๆ ลากกระเป๋าต่อไปให้ด้วยท่าทางเป็นต่อ
“ยังไงก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เลิกหงุดหงิดแล้วสั่งอะไรขึ้นมากินดีกว่า คุณกินคลีน ผมกินคุณ...เอ้ย! อย่างอื่นก็ได้”
เขาแอบขำเมื่อเห็นหน้าสวยซีดเผือด มือบางคว้ากระเป๋าหมับเตรียมปาเต็มที่ จนเขาต้องยกมือห้ามไว้ เอาจริงๆ ธิติไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนั้นสักนิด ไม่รู้ว่าตัวเองพลั้งปากออกไปได้ยังไง
“ถ้ายังพูดอะไรแบบนี้อีกล่ะก็ออกไปเลย”
“พูดแบบนี้หมายความว่า โอเค ให้ผมกินข้าวด้วยที่นี่แล้ว?”
ใบหน้าสวยสะบัดเชิดไม่ตอบ ธิติก็ถือว่าไม่ปฏิเสธ เขาจึงบอกพร้อมก้าวไปยังที่หมายตั้งแต่แรก
“งั้นฝากสั่งสเต๊กเนื้อสันนอกนะคุณ ผมขอเข้าห้องน้ำก่อน กลั้นมาตั้งนานแล้ว”
ร่างสูงกำยำเดินฉิวไปแล้วเฌอเอมก็ได้แต่หน้าเหวอมองตาม
“นี่...หมายความว่า ที่ทำเป็นพูดโน่นนี่ก็แค่อยากเข้าห้องน้ำใช่ไหม นายแทนบ้า!”
=====
“เอม...”เขาพลิกร่างสวยขึ้นมานอนหงายด้วยความอ่อนใจ เมื่อมองไปในดวงตาคู่สีน้ำเงินสวยที่กำลังคลอด้วยหยาดน้ำก็ทำอะไรไม่ถูก ทว่าหญิงสาวกลับส่งยิ้มมาให้ มือบางยกขึ้นลูบแก้มเขาแผ่วเบาแล้วรั้งลงไปหาพร้อมกับเป็นฝ่ายเผยอริมฝีปากรอเขา ชายหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย แต่ครั้งนี้คนที่เป็นฝ่ายมอบจูบแสนหวานกลับเป็นเฌอเอมเอง ทำเอาหัวใจของธิติเต้นแรงหนักหน่วงแนบชิดอกอวบจนรู้สึกได้“ฉันรักนายแทน”เฌอเอมผละออกมาเล็กน้อยเพื่อกระซิบชิดปากได้รูปของเขา“รักมาก...ตอนนี้และตลอดไป”พูดจบแล้วเธอก็จูบคนที่กำลังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินอีกครั้ง ปลายลิ้นเล็กคลอเคลียนุ่มนวลรัญจวนทำเอาชายหนุ่มถึงกับครางครึ้มในลำคลอ อารมณ์หวามตีตื้นขึ้นมาจนกายแกร่งร้อนระอุไปหมด มือหนาเริ่มขยับลูบไล้เคล้าคลึงร่างนุ่มนิ่ม อกอวบอิ่ม อีกข้างขยับลงต่ำปลุกเร้ากายสาวให้พร้อมรับมือเขา โดยเฌอเอมเองก็เปิดทางอย่างเต็มอกเต็มใจ บทรักบทใหม่จึงเริ่มขึ้นอีกครั้งธิติกอดร่างคนรักแน่นเมื่อพายุอารมณ์ทยานพุ่งสูงไปถึงขอบฟ้าพร้อมกัน เขาปล่อยให้เฌอเอมได้นอนพักครู่หนึ่งก่อนจะพาไปอาบน้ำ เช้านี้หญิงสาวขออาบน้ำแต่งตัวเอง ทั้งคู่จึงสลับกันใช้ห้องน้ำ เมื่อชายหนุ่มออกมาอีก
คนที่ได้หลับตาลงช่วงใกล้สว่างพลิกตัวหนีแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านผ้าม่านในช่วงลมพัดโชยมา เฌอเอมสัมผัสได้ถึงกลิ่นของทะเลที่เธอชื่นชอบเสมอ หญิงสาวรู้ว่าร่างกำยำที่เผื่อแผ่ความอบอุ่นมาให้เธอทั้งคืนผละห่างออกไปเพื่อเปิดกระจก กลิ่นฝนจางๆ ทำให้เย็นสบายน่านอนต่อแถมเธอยังเพลียเกินกว่าจะฝืนร่างกายให้ลุกขึ้น ห่างไปเพียงชั่วครู่กายแกร่งอบอุ่นก็กลับมาโอบกอดเธออีกครั้งแต่นางแบบสาวยังปิดตาหลับไม่ใส่ใจ ทว่าความเย็นจากบางอย่างที่สัมผัสบนนิ้วนางข้างซ้ายทำให้หญิงสาวต้องลืมตาขึ้นแล้วก้มลงมอง เมื่อเห็นว่าเป็นอะไรก็ถึงกับนิ่งงันไป ตาคู่สวยจ้องมองแหวนเงินแบบเรียบมีเพชรหนึ่งเมตรฝังบนตัวเรือนความความรู้สึกมึนงง“แต่งงานกันนะ”เสียงทุ้มแนบอยู่ที่ข้างหู ใบหน้าคมก้มชิดลงมาจนไรเคราสัมผัสแก้มเธอ“ถึงระหว่างเราจะก้าวข้ามอะไรไปหลายขั้นตอน แต่ผมก็อยากพูดแบบนี้กับเอมนะ อยากให้เอมรู้ว่าผมอยากแต่งงานกับเอม อยากใช้ชีวิตร่วมกับคุณจริงๆ ไม่ใช่เพราะการตกกระไดพลอยโจนหรือถูกผู้ใหญ่บังคับ แล้วก็ไม่ใช่เพราะผมอยากเอาคืนคุณด้วย ทั้งหมดที่ทำไปเป็นการตัดสินใจหลังจากรู้หัวใจตัวเองเพราะโจชัวทำร้ายคุณ”นางแบบสาวยังนอนนิ่งแต่ธิติได้ยินเสียง
“แทน...”นางแบบสาวครางชื่อเขาอย่างไม่รู้จะทำอะไร จะเอ่ยห้ามแต่ปากกลับพูดไม่ออกได้แต่ครวญครางกับการถูกลูบไล้แบบเจาะจงก่อความกระสันขึ้นในกายตน เพราะการพยายามดิ้นหนีกลับกลายเป็นว่ายิ่งกระตุ้นแรงอารมณ์ในตัวเองให้ทวีขึ้นหญิงสาวถูกปากได้รูปดูดดึงอกอวบอิ่มแรงขึ้นและมือหนาก็จู่โจมปลุกเร้าเต็มขั้นจนยืนแทบไม่ได้ ไม่คิดว่าธิติจะเร่งเร้าเธอจนแทบหายใจไม่ทันขนาดนี้ เฌอเอมรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอกำลังจะหลอมละลาย เสียงหอบสะท้านหนักขึ้นเรื่อยๆ ปลายนิ้วแข็งแรงกำลังทำให้ภายในกายสาวปั่นป่วนจนยากจะทนทานได้ต่อไป เป็นครั้งแรกที่เขาทำกับเธอแบบนี้ ทำให้เฌอเอมได้เรียนรู้การจุดประกายไฟเสน่าที่เร่งเร้าที่สุดในชีวิต ร่างทั้งร่างเกร็งขึ้นก่อนจะสะท้านสุดตัวเมื่อถึงที่สุด หญิงสาวกรี๊ดอยู่ในลำคอแล้วกายก็ทรุดฮวบลงชายหนุ่มจึงต้องอุ้มรั้งเอาไว้ และทั้งที่สติที่หลุดลอยยังไม่ทันกลับมาครบก็ถูกกายแกร่งตามเข้ามาเติมเต็มทันควันทำเอาร่างสวยของนางแบบสาวผวาเฮือก บิกินีกับกางเกงตัวเล็กถูกรั้งลงไปหยุดอยู่ที่สะโพกสวย“แทน...อย่า...”หญิงสาวท้วงขึ้นทั้งที่ไม่ทันการณ์แล้วเพราะชายหนุ่มขยับตัวช้าๆ ใบหน้าคมก้มลงแนบคอเล็กสูดกลิ่นเนื
หนึ่งอาทิตย์สำหรับการท่องเที่ยวที่กระบี่ ธิติเพิ่งจะพาเฌอเอมไปดำน้ำสองวันที่ผ่านมา เพราะอาการเธอไม่ค่อยดีอยู่สามวันแรกแล้วก็มีฝนตกจนวันที่ฟ้าโล่งจริงๆ ชายหนุ่มจึงพาเธอออกเที่ยวทะเล ทั้งคู่ไม่ได้ไปกับทัวร์เพราะธิติเป็นเจ้าถิ่น เขามีเพื่อนเป็นเจ้าของเรือสามารถเช่าแล้วขับออกไปเองได้ ชายหนุ่มพาน้องชายคนละพ่อไปด้วยเพราะอีกฝ่ายขับเรือสปีดโบ๊ทเป็น และเธอเพิ่งรู้ว่าเขาให้ค่าจ้างเด็กหนุ่มเป็นการตอบแทนด้วย เหมือนจะต้องการให้อีกฝ่ายรู้จักทำงานเสริมโดยธิติกับเธอไปกินข้าวเย็นกับครอบครัวของชายหนุ่มในทุกวัน ทว่าเย็นนี้ระหว่างกำลังเดินกลับที่พักฝนก็กระหน่ำลงมา แม้จะรีบกลับเพราะดูออกว่าฝนต้องตกจากเมฆที่มืดครึ้มหนาแน่นทว่าก็ยังช้าเกินไป ถึงชายหนุ่มจะรีบฉุดมือเธอให้วิ่งเร็วขึ้นแต่ก็ยังเปียกโชกทั้งตัว เมื่อมาถึงบ้านแล้วเฌอเอมก็รีบวิ่งเข้าห้องนอนไปหยิบผ้าขนหนูเอาออกมาให้ธิติที่ตามเข้ามาทีหลังหลังจากปิดประตู จากนั้นก็หยิบอีกผืนตรงเข้าห้องน้ำ ทว่ากลับต้องชะงักเพราะความอบอุ่นที่แนบเข้ามาจากด้านหลัง แขนแข็งแกร่งโอบรอบเอว ปลายคางคมวางลงบนไหล่บางพร้อมคำกระซิบตามมา“หนาวจัง อยากกอดเอม”ดวงตาคู่งามสั่นไหว ลมหายใ
“นี่มันความลามกต่างหาก”ร่างนุ่มนิ่มที่โอบกอดเขาขยับหนีห่างทันทีทำเอาชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจอย่างเสียดาย ตอนนี้เดินมาถึงรีสอร์ตแล้วเธอจึงสะบัดหน้าเดินหนีเข้าไปด้านในก่อนเพราะจำทางเดินลัดเลาะไปยังวิลล่าของทั้งคู่ได้ พอถึงก็ยืนกอดอกเชิดหน้ารอเขาเปิดประตู ธิติก้มหน้าก้มตาเปิดเสร็จแล้วหลีกทางให้หญิงสาวเข้าไปก่อน พอก้าวตามแล้วปิดประตูตามหลังก็รวบร่างสวยระหงขึ้นอุ้มทันที“อุ๊ย...นี่...”เฌอเอมผลักกว้างเอาไว้ ขณะที่ชายหนุ่มพยักหน้าถี่ๆ แต่เธอยังส่ายหน้า กระทั่งเขาพาเข้ามาในห้องนอน“ปล่อยฉันลงเถอะ แขนนายเพิ่งจะหายเอง”“ไม่เป็นไรแล้ว”พอร่างสูงกำยำพาตรงมาที่เตียงอย่างบอกความต้องการชัดเจนหญิงสาวก็เสียงเข้มขึ้น“ยังไม่อาบน้ำเลย เตียงสกปรกหมด”“งั้นโซฟา”ชายหนุ่มบ่ายหน้าจะพากลับออกไปยังโชฟาด้านนอก“ไม่นะ อย่าเอาแต่ใจแบบนี้ วันนี้ฉันเหนื่อย”เฌอเอมบอกอย่างจริงจังทำให้ชายหนุ่มชะงักแล้วก้มลงมองสบตาคู่สวยอย่างจริงจังก็เห็นว่าอีกฝ่ายค่อนข้างขึงขังไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ เลยยอมวางร่างหญิงสาวลง ปล่อยมือแล้วถอยห่างโดยไม่เซ้าซี้อีก จะว่าไปแล้วเขาก็แค่หยั่งเชืองถ้าเธอยอมร่วมมือด้วยก็สวรรค์แต่หากไม่เห็นด้วยก็ไม่ใช
ธิติกับเฌอเอมเดินทางมาเมืองแห่งการท่องเที่ยวอย่างประเทศไทยในช่วงฤดูฝนธรรมชาติรอบๆ ค่อนข้างเขียวชะอุ่มสบายตา บ้านของชายหนุ่มอยู่จังหวัดกระบี่สวรรค์ของชาวต่างชาติและชาวไทยที่ชื่นชอบทะเลเลยก็ว่าได้ ทั้งคู่ลงเครื่องที่สนามบินแล้วธิติก็พานางแบบสาวขึ้นรถสองแถวไปยังที่พักซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านของเขานักชายหนุ่มพาเธอเข้าที่พักแล้วออกมาทันทีเพราะทั้งคู่มาถึงในช่วงสายๆ ของวัน จากนั้นก็พาเธอไปไหว้พระที่วัดถ้ำเสือถึงแม้จะนับถือศาสนาคริสต์แต่เฌอเอมก็ยอมทำตามโดยไม่อึดอัดใจหรือขัดเขิน เธอถือว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีเหมือนกัน หลังจากไหว้พระชมวิวทิวทัศน์ต่างๆ จนใกล้เที่ยงธิติก็พาเธอไปยังร้านอาหารที่เขายืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าอร่อยขึ้นชื่อมากๆ โดยขึ้นรถสองแถวอีกเหมือนเดิม แม้ว่าจะเคืองอีกฝ่ายที่พาเธอมาสมบุกสมบันจนล้าไปหมดแทนที่จะขึ้นแท็กซี่สบายๆ ทว่าเฌอเอมก็ทำได้เพียงแค่หน้างอใส่ชายหนุ่มเพียงเท่านั้นทว่าที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือธิติไม่ได้บอกแม่เขาล่วงหน้าว่าจะมาเยี่ยมพร้อมเธอ แถมเธอยังไม่รู้ด้วยว่าร้านอาหารที่เขาพามานั้นเป็นร้านของแม่เขาเอง เขาสั่งอาหารกับเด็กในร้านคนหนึ่งแล้วครู่หนึ่งก็มีผู้หญิงตัวเล็กผม







