Masukมาถึงบ้านคลินตันก็หันกลับมาถอดหมวกกันน็อกให้เธอทันทีที่ร่างเล็กก้าวลงจากสองล้อคันโตโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันจะจับหมวกด้วยซ้ำ จากนั้นก็ล้วงบางอย่างส่งให้เธอ
“คุณเข้าไปก่อน รีบทำตัวให้แห้งแล้วก็อุ่นขึ้นซะ”
นาเดียมองสิ่งที่อยู่ในมือตัวเองอย่างอึ้งๆ เพราะมันคือกระเป๋าสตางค์ที่มีคีย์การ์ดเกี่ยวเอาไว้ ขณะที่เขาสั่งซ้ำเสียงเข้ม
“รีบไปได้แล้ว”
คนถูกดุกะพริบตาถี่ๆ มองคนที่เพิ่งถอดหมวกของตน เสยผมลวกๆ พร้อมหัวใจดวงน้อยกระตุก ในหัวเธอบอกว่าท่าทางของคนตรงหน้าเมื่อครู่ดูเท่ทำเอาใจละลายแทบไหลไปกองกับพื้นเลยทีเดียว
“นาเดีย”
ชายหนุ่มเรียกเธอซ้ำเสียงเข้มขึ้นอีกทำให้หญิงสาวรู้ตัวแล้วก็ยิ้มแหย รีบพยักหน้ารับแล้วไปที่ด้านหน้าประตูบ้านทันที ไม่อยากให้เขาจับได้ว่าเธอกำลังมีอาการแปลกๆ เพราะการกระทำที่ดูแลใส่ใจของเขา
นาเดียจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้วใส่เสื้อผ้าใหม่อย่างอบอุ่นก่อนจะกลับลงมาข้างล่างพร้อมกระเป๋าของชายหนุ่มกับเสื้อของเขา ในคราแรกเธออยากจะคืนกระเป๋าก่อนแต่ก็คิดว่าไม่ควรวางไว้ที่ใดที่หนึ่ง จึงเอาขึ้นห้องไปด้วย
หญิงสาวไม่เห็นคลินตันที่ห้องรับแขกจึงคิดว่าเขาคงยังไม่ออกมาจากห้อง ก็เลยตั้งใจไปยังห้องครัวเพื่อดูว่าจะทำอะไรกินได้บ้างไปพลางๆ ทว่าขณะก้าวผ่านประตูกลับชนเข้ากับร่างใหญ่ที่ก้าวพรวดออกมาจากด้านในอย่างกะทันหันทำเอาถึงกับผงะอย่างแรง
“อึก”
เสียงดังจากลำคอหญิงสาวบ่งบองถึงความจุกจากการกระแทก แต่ก่อนที่เธอจะหลายหลัง แขนกำยำก็โอบรอบร่างเธอรัดเข้าหาตัวเขา
ขณะนั้นนาเดียหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ แต่สัมผัสเรียบลื่นจนน่าใจหายที่ได้แนบชิด ทั้งรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มกำลังกอดเธออยู่ทำให้หญิงสาวลืมตาขึ้น และแผงอกเปลือยเปล่าแน่นหนาพร้อมจุดสีชมพูเข้มที่นูนขึ้นนิดๆ ก็ปรากฏเต็มตาตรงหน้า ห่างเพียงไม่กี่เซ็นต์ ทำเอานาเดียแทบลืมหายใจไปเลยทีเดียว
เธอยืนตัวตรงนิ่งงันอยู่อย่างนั้นอึดใจหนึ่งก่อนจะเงยขึ้นมองอีกฝ่าย ชายหนุ่มเองก็ดูเหมือนจะอึ้งไปเช่นกันที่อยู่ๆ เธอก็โผล่มาชนเขา เพราะคลินตันหลุบตาลงมองเธอทั้งที่ยังถือขวดน้ำเปล่าอยู่ใกล้ๆ ปาก หมายความว่าเขาน่าจะกำลังดื่มมันอยู่ ทว่าก็ยังไวพอที่จะช่วยไม่ให้เธอล้ม
ตาคมเข้มสบตากลมโต ต่างฝ่ายต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไร หากกลับรับรู้ได้ถึงกระแสบางอย่างอบอวลรอบกาย และมันทำให้ใจสาววูบโหวงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าคมเข้มด้วยไรเครากับผมเปียกชื้นที่เหมือนจะสะบัดเสียงลวกๆ กลับทำให้เขาดูเหมือนนายแบบที่เซ็ตผมให้ดูเซอร์เซ็กซี่อย่างไม่ได้ตั้งใจ
และราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงปล่อยมือจากตัวเธอ นาเดียเองก็ได้สติด้วยเช่นกันหญิงสาวรีบถอยห่างจากร่างสูงใหญ่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับนึกหาคำพูดแล้วก็จำได้ว่ามีบางอย่างอยู่ในมือ
“เอ่อ...”
“ฉันเอากระเป๋ากับเสื้อมาคืนคุณน่ะ”
เธอรีบพูดและชูเสื้อหนังกับกระเป๋าขึ้นตรงแผงอกกว้าง ขณะที่ชายหนุ่มหยุดคำพูดของเขาไป และมองด้วยสายตาแปลกๆ ชั่วแวบก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
“อือฮึ”
ชายหนุ่มตอบรับทว่าไม่ได้รับไป
“วางไว้แถวๆ นี้ก่อนก็ได้”
ร่างสูงใหญ่หมุนตัวกลับเข้าไปในครัวแทนทำเอานาเดียมองตามอย่างแปลกใจ ทว่าก็อดอึ้งกับแผ่นหลังกว้างแน่นไปด้วยมัดกล้ามของอีกฝ่ายไม่ได้
นี่เขาไม่มีไขมันสักนิดเลยหรือไง
ถึงเมื่อสักครู่จะเห็นแค่แผ่นอกหนาและไม่กล้ามองต่ำลงไปกว่านั้น ทว่าจากช่วงเอวที่เพรียวสอบทางด้านหลังก็สามารถเดาได้เลยว่า กล้ามเนื้อของชายหนุ่มเฟิร์มสุดๆ
นาเดียกลืนน้ำลายอย่างไม่อยากเชื่อกับหุ่นผู้ชายที่ไม่เคยสนใจจะสังเกตมาก่อน เพราะเธออยู่กับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่
ขณะกำลังชื่นชมมัดกล้ามของแผ่นหลังกว้างอย่างเพลินตาอยู่นั้นชายหนุ่มก็หันกลับมา ทำเอาหญิงสาวแทบปรับแววตาตัวเองทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินเอาเสื้อกับกระเป๋าของเขาไปวางบนโต๊ะแทบไม่ทัน
“ว่าจะไปถามคุณพอดีว่าหิวหรือยัง”
ชายหนุ่มพูดแล้ววางขวดน้ำของเขาบนหลังตู้เย็นก่อนจะเปิดดูของในนั้น
“ทำอะไรกินกันดีกว่า”
เขาหยิบของสองสามอย่างออกมาแล้วเอาไปวางบนเคานเตอร์เตรียมอาหาร
“จะทำอะไรคะ ให้ฉันช่วยนะ”
เธอบอกด้วยสีหน้าที่พยายามปรับให้เป็นปกติที่สุดและยิ้มบาง ราวไม่คิดอะไรเลย กับผู้ชายร่างสูงใหญ่หุ่นเฟิร์มกล้ามแน่นที่ใส่เพียงกางเกงวอร์มตัวเดียวมายืนอยู่ตรงหน้า
“ถ้าอยากช่วยก็ ปอกมันฝรั่งแล้วก็หั่นเป็นแท่ง”
ขณะที่พูดชายหนุ่มก็หันไปหยิบบางอย่างที่มุมหนึ่งแล้วก็เห็นว่ามันคือผ้ากันเปื้อน
“เดี๋ยวผมจัดการปลาเอง”
อีกฝ่ายกำลังจะใส่ผ้ากันเปื้อนนาเดียก็ตาโตเอ่ยขึ้นอย่างลืมตัว
“คุณจะทำอาหารแบบนี้น่ะเหรอ”
คลินตันชะงัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนทำตัวสบายเคยชินกับการอยู่ตามลำพัง
“อ้อ งั้นเดี๋ยวผมกลับมา”
ชายหนุ่มส่งผ้ากันเปื้อนมาให้เธอแทน
“อันนี้คุณใส่ก็แล้วกัน”
จากนั้นร่างสูงใหญ่จึงเดินไปหยิบเสื้อกับกระเป๋าของเขาออกไปจากครัว ทิ้งให้นาเดียมองตามแผ่นหลังสุดเซ็กซี่ด้วยกล้ามแน่นตาละห้อยอย่างไม่รู้ตัว กระทั่งชายหนุ่มลับตาเธอจึงละสายตาจากประตูทางเข้ามามองผ้ากันเปื้อนในมือตัวเอง
เมื่อกี้หากเธอปล่อยให้คลินตันใส่แล้วทำอาหารไปเลยโดยไม่ได้ทักท้วง มันคงกลายเป็นฉากสะเทือนอารมณ์ของเธออย่างที่สุด
ไม่ใช่แค่เธอหรอก สาวคนไหนก็คงได้เลือดกำเดาไหล หากได้เห็นเรือนร่างกำยำด้วยมัดกล้ามถูกผ้ากันเปื้อนปกปิด เพราะมันชวนวาบหวิวอย่างที่สุด ทั้งยังเป็นฉากในฝันที่มีให้เห็นได้เพียงในการ์ตูนหวานแหววที่ตนอ่านอีกด้วย
แค่คิดถึงหน้าเธอก็ร้อนวูบจนรู้สึกตาลายไปหมด นาเดียพยายามสลัดความคิดสิบแปดบวกในหัวตัวเองทิ้งแล้วใส่ผ้ากันเปื้อน ก่อนจะหันมาโฟกัสกับมันฝรั่งหน้าที่ของตัวเอง
มองจากของที่ชายหนุ่มวางเอาไว้แล้วเขาน่าจะตั้งใจทำฟิชแอนด์ชิปส์ เมนูแบบนี้รวมทั้งพาสต้าอย่างเมื่อวาน เธอไม่มีโอกาสได้กินในช่วงเย็นแน่นอน ทั้งตอนเป็นเด็กฝึกหรือแม้กระทั่งเดบิวต์แล้ว เพราะพวกเธอจะถูกจำกัดหุ่นให้ดูดีตัวเล็กเพรียวอยู่เสมอ จึงถูกควบคุมเรื่องคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในแต่ละวัน ทั้งยังต้องชั่งน้ำหนักทุกเช้าอีกด้วย
ช่วงเวลาที่อยู่โรงพยาบาล นาเดียได้กินอิ่มนอนหลับ นั่งๆ นอนๆ แทบไม่ได้ขยับตัว หญิงสาวมั่นใจได้เลยว่าน้ำหนักเธอต้องเพิ่มขึ้นมาไม่มากก็น้อย
เมื่อนึกมาถึงเรื่องลำบากช่วงฝึกและทำงาน นาเดียก็อดคิดถึงซูจินไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธออยู่ห่างจากซูจินนับแต่ออกจากบ้านมา อีกฝ่ายเป็นเหมือนครอบครัว เป็นทั้งเพื่อนและพี่สาวของเธอ
ทั้งคู่คุยกันก่อนที่เธอจะออกจากโรงพยาบาล ซูจินค่อนข้างห่วงที่เธอต้องมาอยู่กับคนอื่น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทว่าเธอเองก็ลืมออนไลน์ติดต่อหาอีกฝ่ายในตอนแรกที่มาถึงที่นี่ไปเลย เพราะมัวแต่เกร็งกับสิ่งที่คลินตันทำเมื่อวาน ยังไงคืนนี้ก็คงต้องพิมพ์ข้อความบอกซูจินว่าเธอสบายดี
ที่สำคัญเธอเองก็อยากรู้เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องฟ้องร้องและอนาคตของซูจินกับเพื่อนในวงด้วย
======
เสียงเล็กสั่นตะกุกตะกัก ตัวเธอเกร็งจนต้องหยุดหายใจไปด้วย สัมผัสจากปากกระด้างไม่เพียงนาบลงมา เข้ายังเม้มผิวเนื้ออ่อน ทั้งยังส่งลิ้นเย็นชื้นออกมาแตะสลับอีกด้วย รอยจูบปะพรมไปทั่วคอข้างหนึ่งของเธอ ทำเอานาเดียสะดุ้งน้อยๆ เป็นระยะ งอตัวหดคอหนีแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเขายังสามารถเปลี่ยนมาซุกไซ้อีกด้านได้อีก นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวขนลุกไปทั้งท้ายทอย“หยะ...อย่า”เธอพยายามห้าม ทว่าก็ไม่เป็นผล แขนกำยำข้างหนึ่งโอบรอบเอวของเธอ ร่างหนาเบียดกดให้เธอชิดผนังยิ่งขึ้นจนแทบขยับไม่ได้ ริมฝีปากร้อนเล็มสลับไล้เลียแล้วไล่ระเรื่อยลงต่ำผ่านเสื้อยืด ฝังปากกับจมูกสูดดมซุกเบียดทรวงงาม มืออีกข้างวางเกาะหมับบนก้อนเนื้ออวบอิ่มเต็มกำมือ ก่อนจะเคล้นเบาๆ ทำเอาร่างเล็กถึงกับผวาขึ้น ทว่าก็ราวกับนำเสนอตัวเองให้ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นไปด้วยแม้มีเสื้อผ้าขวางกั้นแต่การแตะต้องของอีกฝ่ายก็ทำให้นาเดียร้อนไปทั้งตัว ขาอ่อนแรงอย่างไม่เคยเป็น ทว่าก่อนจะทรุดลงเข่าแข็งแกร่งก็แทรกเข้ามาระหว่างหน้าขาขวางไม่ให้ตัวเธอต่ำลง“อื้อ”หญิงสาวอดที่จะปล่อยเสียงสั่นแปลกๆ ออกมาได้ ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งขึ้นจากสัมผัสแปลกใหม่กลางร่าง ทั้งยังรับรู้ได้ถึงมือ
คลินตันเงียบตั้งแต่มาขึ้นมอเตอร์ไซค์กระทั่งมาถึงเซฟเฮาส์ วันนี้ชายหนุ่มไม่ได้ให้คีย์การ์ดกับเธอ นาเดียจึงต้องยืนรออีกฝ่ายอยู่หน้าบ้าน เขากลับมาหลังจอดรถที่ส่วนจอดรถและเก็บหมวกเรียบร้อย บ้านหลังนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้เธอทึ่ง ที่จอดรถแยกเป็นสัดส่วน มีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายมีเครื่องเล่นหลายชนิดติดกระจกอยู่ริมสระว่ายน้ำ ประตูก็สามารถใช้คีย์การ์ดหรือกดรหัสก็ได้ ทว่านาเดียไม่รู้รหัสจึงต้องรอชายหนุ่มเมื่อเปิดประตูบ้านแล้วนาเดียก็เข้ามาก่อน แม้ปกติคลินตันจะพูดน้อยอยู่แล้วทว่าตอนนี้เธอกลับรู้สึกถึงความอึมครึมกดดันแปลกๆ จึงคิดว่าเลี่ยงไปก่อนน่าจะดีกว่า ทว่าอยู่ๆ อีกฝ่ายก็พูดขึ้น“แปลกนะ ทั้งที่กลัวเวลาซ้อนมอเตอร์ไซค์ผม แต่คุณกลับอยากขึ้นรถแข่งซูเปอร์คาร์”หญิงสาวชะงักเท้า ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ตามเธอเข้ามา ชายหนุ่มจ้องเธอด้วยแววตาเย็นชาทว่ากลับดูเชือดเฉือนผิดปกติ“ฉันก็แค่อยากลองดู”เธอไม่รู้จะพูดอะไร เพราะจะปฏิเสธว่าไม่อยากลองนั่งมันก็ขัดกับสิ่งที่ทำไปแล้ว“ทำไม เพราะซูเปอร์คาร์มันแพง แรงเร้าใจกว่าอย่างนั้นเหรอ”คิ้วเรียวสวยขมวดกับคำพูดกวนชวนหาเรื่องของชายหนุ่ม“ค
“ว่าไงนะ”“นาเดียอยากลองนั่งซูเปอร์คาร์กับเจมมี่น่ะ”ไมลี่ตอบหลังคลินตันถามย้ำพวกเธอมายังโรงรถแล้วก็เห็นคลินตันกับช่างสามคนกำลังตรวจเช็กรถแข่งคันหรูอยู่ ทั้งหมดเดินเข้าไปแล้วเจมมี่ก็ถามเกี่ยวกับรถของตนว่าเรียบร้อยหรือไม่จะได้ลองขับเลย พอคลินตันตอบว่าตามสบาย เจมมี่บอกต่อทันที‘งั้นฉันขอพาสาวน้อยคนนี้ไปลองรถด้วยก็แล้วกันนะ’คลินตันถึงกับหันมองหนุ่มหล่ออีกคนในทันที คิ้วเข้มขมวดพร้อมถามซ้ำไมลี่จึงเป็นฝ่ายตอบ ทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายมายังเธอแทน นาเดียอึกอักขยับปากจะพูดแต่ไมลี่ก็แทรกขึ้นอีกครั้ง“แหม อย่ามองน้องเขาด้วยสายตาแบบนั้นสิคลิน ดุแบบนี้ใครจะไปกล้าตอบล่ะ เอางี้ ฉันเองก็อยากรู้ว่ารถปรับแต่งเครื่องใหม่ของเจมมี่จะแรงดีสักแค่ไหนเหมือนกัน งั้นเรามาแข่งกับเขาดีไหม นาเดียไปกับเจมมี่ ฉันจะไปกับคุณเอง”หญิงสาวจัดการเองเสร็จสรรพ ซึ่งนาเดียรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายน่าจะอยากหาโอกาสอยู่ใกล้กับคลินตัน และอยากให้เธอสนับสนุน เพราะไมลี่เหลือบมาทางด้วยสายตาขอร้อง เธอจึงได้แต่กระอักกระอ่วนใจแล้วพึมพำเสียงเบา“เอ่อ...ก็...น่าสนใจเหมือนกันนะคะ”คำพูดของเธอทำให้คลินตันตาวาววับ แววตาคมดุฉายออกมาอย่างชัดเ
นาเดียมองตอบสาวสวยด้วยสายตามึนงงว่างเปล่า ไม่รู้ต้องทำอย่างไรในสถานการณ์กระอักกระอ่วนแบบนี้เพราะรับรู้ได้ถึงไอบางอย่างแผ่จากแววตาหญิงสาวอีกคนเมื่อได้ยินว่าเธอเป็นใคร แม้จะลำบากใจแต่เธอก็ไม่รู้จะเริ่มพูดกับอีกฝ่ายอย่างไร จะแก้ตัวก็คงแปลกๆ เหมือนเธอร้อนตัวอาจจะเพราะเห็นสีหน้าไม่สบายใจและอึดอัดของเธอ สุดท้ายคนที่พูดขึ้นมาก่อนก็เป็นอีกฝ่าย“ไฮ ฉันไมลี่”“นาเดียค่ะ”ไมลี่ส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันไปบอกสองหนุ่มที่คุยกันเรื่องงานด้วยสีหน้าจริงจัง“พวกคุณทำงาน ให้นาเดียไปกับฉันดีกว่า รออยู่ในนี้เธอคงเบื่อ”“จะไปไหน”คลินตันหันมาถาม ใบหน้าคมนิ่งแต่มีรังสีดุจากแววตา เขาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง แล้วกลับไปจ้องเอาคำตอบจากไมลี่“ฉันจะพาเธอนั่งเล่นกินขนมกับน้ำที่คาเฟ่ข้างหน้านี่แหละ”“อืม ไปเถอะ”เมื่อรู้พิกัดแล้วเขาก็พยักหน้ารับง่ายๆ แล้วกลับไปสนใจเรื่องงานต่อนาเดียเดินตามไมลี่ออกไปอย่างไม่คิดมากเช่นกันเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มีปัญหาอะไร นั่นน่าจะหมายความว่าปลอดภัยสำหรับเธอ“เธอรู้จักกับคลินได้ยังไงเหรอ”หลังจากสั่งเครื่องดื่มกับเค้กของทั้งสองคนเรียบร้อย ไมลี่ก็ถามขึ้นทันที นาเดียเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายต
เช้าวันต่อมานาเดียอ่านข้อความตอบกลับจากซูจิน แล้วก็พิมพ์ตอบอีกครู่ใหญ่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำซูจินบอกว่าสำนักข่าวให้ความสนใจในการตีแผ่ข่าวบริษัทของพวกเธอ และช่วยเหลือในการหาสำนักกฎหมายให้ด้วย บรรดาแฟนคลับต่างก็รวมตัวกันแท็กข้อความให้กำลังใจพวกเธอและบอกว่าจะอยู่เคียงข้างเสมอ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้รับรู้ว่าเธอบาดเจ็บจากการพยายามช่วยเพื่อนร่วมวง จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับเกาหลีได้ในตอนนี้ และต่างก็แท็กขอให้เธอหายเร็วๆ ด้วยเช่นกัน แม้ยังมีแฟนคลับไม่มากนักแต่สิ่งที่เห็นก็ทำให้รู้สึกดีและอุ่นใจไม่น้อยจนถึงกับน้ำตาซึมหลังจากนาเดียเข้าไปอ่านแท็กนั้นมีค่ายติดต่อเข้ามาสองสามค่ายเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาแต่ซูจินกับพี่ๆ ในวงอยากคุยกันในตอนที่เธออยู่ด้วย จึงขอเวลาจัดการเรื่องการฟ้องร้องให้เรียบร้อยเสียก่อนสาวร่างเล็กลงไปข้างล่างก็พบกับคนที่เพิ่งวิ่งออกกำลังกายจนเหงื่อท่วมกำลังจะกลับเข้าห้องของเขา“วันนี้เราจะไปที่ทำงานของผม”ชายหนุ่มบอกทันทีที่เห็นเธอ แต่แม้นาเดียจะทำหน้าแปลกใจเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรนอกจากเอ่ยสั่ง“กินอาหารเช้าให้เรียบร้อยเสีย”พูดจบเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนตัดสีดำเปียกจ
คลินตันกลับมาอีกครั้งในลุคที่นาเดียต้องนึกอ่อนใจกับตัวเอง เพียงแค่ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มตัวเดิมเธอก็คิดว่าอีกฝ่ายดูเซ็กซี่อย่างไม่น่าให้อภัยแล้ว หญิงสาวเหลือบมองร่างสูงใหญ่เพียงนิดแล้วปอกมันฝรั่งในมือต่อ ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าจิตใจเธอไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเลยแม้แต่น้อยคงเพราะได้เห็นกล้ามแน่นๆ ของอีกฝ่าย โดยไม่เคยได้เห็นของจริงเต็มๆ มาก่อนนั่นแหละ เธอจึงสติฟุ้งซ่านแบบนี้ไม่แฟร์เลยสักนิด ทั้งที่เขาไม่ให้เธอใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นออกนอกห้อง แต่ตัวเองกลับถอดเสื้อเดินไปเดินมาเสียอย่างนั้นหญิงสาวคิดขณะมองชายหนุ่มล้างชิ้นปลาที่แพ็คมา และราวกับรู้ว่าเธอมองคลินตันเองก็หันมาทางเธอเช่นกัน เขาเหลือบมองมันฝรั่งก่อนจะพูดขึ้น“หั่นเสร็จแล้วก็เตรียมจานเตรียมซอส ผมทอดเอง”“มีซอสเหรอคะ”“ใช่ ผมซื้อสำเร็จรูปมาแล้ว อยู่ในตู้เย็นนั่นแหละ”เธอพยักหน้าเข้าใจ“งั้นฉันทำสลัดเพิ่มด้วยดีกว่า”“เยี่ยม”คลินตันยกนิ้วให้นาเดียจึงยิ้มตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาตินาเดียหั่นมันฝรั่งในขนาดที่คิดว่าพอดี แล้วก็เอาผักในตู้เย็นที่พอทำสลัดได้มาล้างหั่นเสร็จก็โรยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก







