Masukคลินตันกลับมาอีกครั้งในลุคที่นาเดียต้องนึกอ่อนใจกับตัวเอง เพียงแค่ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มตัวเดิมเธอก็คิดว่าอีกฝ่ายดูเซ็กซี่อย่างไม่น่าให้อภัยแล้ว หญิงสาวเหลือบมองร่างสูงใหญ่เพียงนิดแล้วปอกมันฝรั่งในมือต่อ ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าจิตใจเธอไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเลยแม้แต่น้อย
คงเพราะได้เห็นกล้ามแน่นๆ ของอีกฝ่าย โดยไม่เคยได้เห็นของจริงเต็มๆ มาก่อนนั่นแหละ เธอจึงสติฟุ้งซ่านแบบนี้
ไม่แฟร์เลยสักนิด ทั้งที่เขาไม่ให้เธอใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นออกนอกห้อง แต่ตัวเองกลับถอดเสื้อเดินไปเดินมาเสียอย่างนั้น
หญิงสาวคิดขณะมองชายหนุ่มล้างชิ้นปลาที่แพ็คมา และราวกับรู้ว่าเธอมองคลินตันเองก็หันมาทางเธอเช่นกัน เขาเหลือบมองมันฝรั่งก่อนจะพูดขึ้น
“หั่นเสร็จแล้วก็เตรียมจานเตรียมซอส ผมทอดเอง”
“มีซอสเหรอคะ”
“ใช่ ผมซื้อสำเร็จรูปมาแล้ว อยู่ในตู้เย็นนั่นแหละ”
เธอพยักหน้าเข้าใจ
“งั้นฉันทำสลัดเพิ่มด้วยดีกว่า”
“เยี่ยม”
คลินตันยกนิ้วให้นาเดียจึงยิ้มตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ
นาเดียหั่นมันฝรั่งในขนาดที่คิดว่าพอดี แล้วก็เอาผักในตู้เย็นที่พอทำสลัดได้มาล้างหั่นเสร็จก็โรยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก คลุกให้เข้ากัน เป็นเมนูที่ตนเองกับเพื่อนในวงกินบ่อยที่สุด
ขณะที่ชายหนุ่มโรยแป้งบนจาน ทาเนยที่ตัวปลาแล้วเอาลงไปวางพลิกสลับกันให้แป้งติด นาเดียมองอีกฝ่ายเป็นพร้อมกับแบ่งทาร์ทาร์ซอสใส่ถ้วยเล็กสองถ้วย จัดจานสองจานพร้อมมีดกับส้อมรอ และก็เห็นเขาตั้งกระทะเพื่อทอดแล้ว
สาวร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้ไม่ห่างนักมองคนเป็นพ่อครัวเงียบๆ รู้สึกแปลกตาทว่าก็น่ามองอย่างไม่น่าเชื่อ ปกติเธอจะรอซูจินหรือไม่ก็พี่ๆ ทำอาหาร และเป็นฝ่ายช่วยเสียมากกว่าจะเป็นแม่ครัวเสียเอง แต่วันนี้ได้มาเห็นผู้ชายตัวใหญ่ในชุดผ้ากันเปื้อนยืนอยู่หน้าเตากลับให้ความรู้สึกอบอุ่นผิดคาด
นาเดียไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่กลับสัมผัสได้จากคลินตัน ผู้ชายหน้าดุที่เจอกันเพียงไม่นาน อีกฝ่ายดูแลเอาใจใส่เธออย่างสุภาพบุรุษพึงกระทำ เธอคิดเช่นนั้น ทว่ากลับทำให้ใจเธอเต้นผิดจังหวะทุกครั้ง
หญิงสาวรอจนชายหนุ่มทอดมันฝรั่งได้ที่ก็หยิบจากไปยื่นให้เขา เมื่อได้มาแล้วเธอก็จัดใส่สองจานเท่าๆ กัน
“ทำไมคุณทำอาหารเก่ง”
เห็นชายหนุ่มเปลี่ยนกระทะมาทอดปลาและหยิบวางลงอย่างทะมัดทะแมง ไม่มีความเก้กังกลัวความร้อนหรือน้ำมันแต่อย่างใดก็อดถามไม่ได้
“ไม่เก่งหรอก แค่ทำบ่อย”
“ฉันว่าคุณเอาผ้ากันเปื้อนไปใส่ดีกว่า คุณใส่เสื้อขาว น้ำมันจะได้ไม่กระเด็นโดน”
เธอบอกพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนแล้วขยับเข้าไปใกล้ร่างสูงใหญ่ แต่เพราะเขาถือตลิวอยู่ และกำลังมองหาที่วางแต่เธอไม่อยากให้ชายหนุ่มเสียเวลา กลัวว่าปลาอาจจะไหม้จึงเอ่ยออกไปอย่างไม่คิดมาก
“เดี๋ยวฉันใส่ให้ค่ะ”
คลินตันหันมองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง ทว่าท่าทางที่ดูไม่ได้ใส่ใจอะไรนักทำให้เขารู้ว่าเธอมีเจตนาดี จึงพยักหน้าให้ง่ายๆ เมื่อร่างเล็กขยับเข้ามาใกล้เขาก็ก้มหัวลงเล็กน้อย
นาเดียยืดตัวเงยหน้าขึ้นสวมผ้ากันเปื้อนคล้องคอชายหนุ่ม จังหวะนั้นราวกับเธอกำลังเกาะเกี่ยวคอแกร่งเพื่อจุมพิตก็ไม่ปาน ฉากจูบหวามหวานในซีรีส์เกาหลีที่ดูมานักต่อนักผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมดโดยที่หญิงสาวไม่อาจห้ามจินตนาการของตนได้
ดวงตาคู่กลมโตที่มองเขาอยู่กำลังสั่นไหว คลินตันแทบจะเดาความคิดของอีกฝ่ายได้เพียงแค่มอง และมั่นใจเลยว่าเดาไม่ผิดอย่างแน่นอน สาวน้อยคนนี้อ่อนไหวไปกับความใกล้ชิดระหว่างเขากับเธอ และเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดความรู้สึกอีกฝ่าย
“ระวังตัวหน่อยสาวน้อย สายตาคุณกำลังอ้อนผมอยู่”
นาเดียถึงกับสะอึกกับคำพูดโพล่งแสนตรงทื่อของชายหนุ่ม เธอรีบตีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมยักไหล่ทั้งที่หน้าร้อนผ่าวไปหมด
“เปล่านะ”
ปฏิเสธไปแล้วหญิงสาวก็ขยับตัวลงพร้อมกับลดมือเลื่อนอ้อมเอวสอบเพื่อจะผูกสายด้านหลัง ตั้งใจเสทำอย่างอื่นราวไม่ใส่ใจที่เขาพูด
“โว้วๆๆ แบบนี้ไม่ดีแน่”
ร่างสูงใหญ่ถอยหลังก้าวหนึ่งพร้อมเสียงเข้มเอ่ยขึ้น แล้วเขาก็หันหลังให้แทน โดยไม่ลืมที่จะพลิกปลาไปกระทะด้วย
นาเดียมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง ก่อนจะเข้าใจว่าสิ่งที่เธอทำเมื่อกี้คือการกอดเขา หญิงสาวเม้มปากอย่างหมั่นไส้คนเล่นตัว มือบางยื่นไปจับสายผูกมารัดเข้าด้วยกันจนแน่น ขณะเดียวกันก็อดที่จะค่อนขอดชายหนุ่มไม่ได้
“แหม หวงตัวจังนะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ถ้าหวงขนาดนี้จะถอดเสื้อเดินโชว์ทั่วบ้านให้คนอื่นเห็นทำไม”
“หึๆ”
เธอได้ยินเพียงเสียงหัวเราะในลำคอจากเขาแล้วคลินตันก็ไม่พูดอะไรอีกกระทั่งปลาสุก
“จาน”
เมื่อเขาเรียกหา นาเดียก็รีบเอาจานทั้งสองใบไปรอรับปลาที่อีกฝ่ายตักโดยไม่มีท่าทีขัดอกขัดใจใดๆ นอกจากตาเป็นประกายที่มองอาหารในจานพร้อมอมยิ้มพอใจเพียงเท่านั้น นั่นทำให้คนเห็นอดยิ้มมุมปากตามไม่ได้
จะว่าไปแล้ว ถึงหญิงสาวจะทำตัวแข็งขืนเหมือนเป็นคนดื้อพร้อมสู้คน ทว่าเขากลับมองเห็นความเป็นเด็กสาวสดใสลึกๆ ในตัวเธอ
=====
เสียงเล็กสั่นตะกุกตะกัก ตัวเธอเกร็งจนต้องหยุดหายใจไปด้วย สัมผัสจากปากกระด้างไม่เพียงนาบลงมา เข้ายังเม้มผิวเนื้ออ่อน ทั้งยังส่งลิ้นเย็นชื้นออกมาแตะสลับอีกด้วย รอยจูบปะพรมไปทั่วคอข้างหนึ่งของเธอ ทำเอานาเดียสะดุ้งน้อยๆ เป็นระยะ งอตัวหดคอหนีแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเขายังสามารถเปลี่ยนมาซุกไซ้อีกด้านได้อีก นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวขนลุกไปทั้งท้ายทอย“หยะ...อย่า”เธอพยายามห้าม ทว่าก็ไม่เป็นผล แขนกำยำข้างหนึ่งโอบรอบเอวของเธอ ร่างหนาเบียดกดให้เธอชิดผนังยิ่งขึ้นจนแทบขยับไม่ได้ ริมฝีปากร้อนเล็มสลับไล้เลียแล้วไล่ระเรื่อยลงต่ำผ่านเสื้อยืด ฝังปากกับจมูกสูดดมซุกเบียดทรวงงาม มืออีกข้างวางเกาะหมับบนก้อนเนื้ออวบอิ่มเต็มกำมือ ก่อนจะเคล้นเบาๆ ทำเอาร่างเล็กถึงกับผวาขึ้น ทว่าก็ราวกับนำเสนอตัวเองให้ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นไปด้วยแม้มีเสื้อผ้าขวางกั้นแต่การแตะต้องของอีกฝ่ายก็ทำให้นาเดียร้อนไปทั้งตัว ขาอ่อนแรงอย่างไม่เคยเป็น ทว่าก่อนจะทรุดลงเข่าแข็งแกร่งก็แทรกเข้ามาระหว่างหน้าขาขวางไม่ให้ตัวเธอต่ำลง“อื้อ”หญิงสาวอดที่จะปล่อยเสียงสั่นแปลกๆ ออกมาได้ ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งขึ้นจากสัมผัสแปลกใหม่กลางร่าง ทั้งยังรับรู้ได้ถึงมือ
คลินตันเงียบตั้งแต่มาขึ้นมอเตอร์ไซค์กระทั่งมาถึงเซฟเฮาส์ วันนี้ชายหนุ่มไม่ได้ให้คีย์การ์ดกับเธอ นาเดียจึงต้องยืนรออีกฝ่ายอยู่หน้าบ้าน เขากลับมาหลังจอดรถที่ส่วนจอดรถและเก็บหมวกเรียบร้อย บ้านหลังนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้เธอทึ่ง ที่จอดรถแยกเป็นสัดส่วน มีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายมีเครื่องเล่นหลายชนิดติดกระจกอยู่ริมสระว่ายน้ำ ประตูก็สามารถใช้คีย์การ์ดหรือกดรหัสก็ได้ ทว่านาเดียไม่รู้รหัสจึงต้องรอชายหนุ่มเมื่อเปิดประตูบ้านแล้วนาเดียก็เข้ามาก่อน แม้ปกติคลินตันจะพูดน้อยอยู่แล้วทว่าตอนนี้เธอกลับรู้สึกถึงความอึมครึมกดดันแปลกๆ จึงคิดว่าเลี่ยงไปก่อนน่าจะดีกว่า ทว่าอยู่ๆ อีกฝ่ายก็พูดขึ้น“แปลกนะ ทั้งที่กลัวเวลาซ้อนมอเตอร์ไซค์ผม แต่คุณกลับอยากขึ้นรถแข่งซูเปอร์คาร์”หญิงสาวชะงักเท้า ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ตามเธอเข้ามา ชายหนุ่มจ้องเธอด้วยแววตาเย็นชาทว่ากลับดูเชือดเฉือนผิดปกติ“ฉันก็แค่อยากลองดู”เธอไม่รู้จะพูดอะไร เพราะจะปฏิเสธว่าไม่อยากลองนั่งมันก็ขัดกับสิ่งที่ทำไปแล้ว“ทำไม เพราะซูเปอร์คาร์มันแพง แรงเร้าใจกว่าอย่างนั้นเหรอ”คิ้วเรียวสวยขมวดกับคำพูดกวนชวนหาเรื่องของชายหนุ่ม“ค
“ว่าไงนะ”“นาเดียอยากลองนั่งซูเปอร์คาร์กับเจมมี่น่ะ”ไมลี่ตอบหลังคลินตันถามย้ำพวกเธอมายังโรงรถแล้วก็เห็นคลินตันกับช่างสามคนกำลังตรวจเช็กรถแข่งคันหรูอยู่ ทั้งหมดเดินเข้าไปแล้วเจมมี่ก็ถามเกี่ยวกับรถของตนว่าเรียบร้อยหรือไม่จะได้ลองขับเลย พอคลินตันตอบว่าตามสบาย เจมมี่บอกต่อทันที‘งั้นฉันขอพาสาวน้อยคนนี้ไปลองรถด้วยก็แล้วกันนะ’คลินตันถึงกับหันมองหนุ่มหล่ออีกคนในทันที คิ้วเข้มขมวดพร้อมถามซ้ำไมลี่จึงเป็นฝ่ายตอบ ทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายมายังเธอแทน นาเดียอึกอักขยับปากจะพูดแต่ไมลี่ก็แทรกขึ้นอีกครั้ง“แหม อย่ามองน้องเขาด้วยสายตาแบบนั้นสิคลิน ดุแบบนี้ใครจะไปกล้าตอบล่ะ เอางี้ ฉันเองก็อยากรู้ว่ารถปรับแต่งเครื่องใหม่ของเจมมี่จะแรงดีสักแค่ไหนเหมือนกัน งั้นเรามาแข่งกับเขาดีไหม นาเดียไปกับเจมมี่ ฉันจะไปกับคุณเอง”หญิงสาวจัดการเองเสร็จสรรพ ซึ่งนาเดียรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายน่าจะอยากหาโอกาสอยู่ใกล้กับคลินตัน และอยากให้เธอสนับสนุน เพราะไมลี่เหลือบมาทางด้วยสายตาขอร้อง เธอจึงได้แต่กระอักกระอ่วนใจแล้วพึมพำเสียงเบา“เอ่อ...ก็...น่าสนใจเหมือนกันนะคะ”คำพูดของเธอทำให้คลินตันตาวาววับ แววตาคมดุฉายออกมาอย่างชัดเ
นาเดียมองตอบสาวสวยด้วยสายตามึนงงว่างเปล่า ไม่รู้ต้องทำอย่างไรในสถานการณ์กระอักกระอ่วนแบบนี้เพราะรับรู้ได้ถึงไอบางอย่างแผ่จากแววตาหญิงสาวอีกคนเมื่อได้ยินว่าเธอเป็นใคร แม้จะลำบากใจแต่เธอก็ไม่รู้จะเริ่มพูดกับอีกฝ่ายอย่างไร จะแก้ตัวก็คงแปลกๆ เหมือนเธอร้อนตัวอาจจะเพราะเห็นสีหน้าไม่สบายใจและอึดอัดของเธอ สุดท้ายคนที่พูดขึ้นมาก่อนก็เป็นอีกฝ่าย“ไฮ ฉันไมลี่”“นาเดียค่ะ”ไมลี่ส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันไปบอกสองหนุ่มที่คุยกันเรื่องงานด้วยสีหน้าจริงจัง“พวกคุณทำงาน ให้นาเดียไปกับฉันดีกว่า รออยู่ในนี้เธอคงเบื่อ”“จะไปไหน”คลินตันหันมาถาม ใบหน้าคมนิ่งแต่มีรังสีดุจากแววตา เขาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง แล้วกลับไปจ้องเอาคำตอบจากไมลี่“ฉันจะพาเธอนั่งเล่นกินขนมกับน้ำที่คาเฟ่ข้างหน้านี่แหละ”“อืม ไปเถอะ”เมื่อรู้พิกัดแล้วเขาก็พยักหน้ารับง่ายๆ แล้วกลับไปสนใจเรื่องงานต่อนาเดียเดินตามไมลี่ออกไปอย่างไม่คิดมากเช่นกันเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มีปัญหาอะไร นั่นน่าจะหมายความว่าปลอดภัยสำหรับเธอ“เธอรู้จักกับคลินได้ยังไงเหรอ”หลังจากสั่งเครื่องดื่มกับเค้กของทั้งสองคนเรียบร้อย ไมลี่ก็ถามขึ้นทันที นาเดียเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายต
เช้าวันต่อมานาเดียอ่านข้อความตอบกลับจากซูจิน แล้วก็พิมพ์ตอบอีกครู่ใหญ่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำซูจินบอกว่าสำนักข่าวให้ความสนใจในการตีแผ่ข่าวบริษัทของพวกเธอ และช่วยเหลือในการหาสำนักกฎหมายให้ด้วย บรรดาแฟนคลับต่างก็รวมตัวกันแท็กข้อความให้กำลังใจพวกเธอและบอกว่าจะอยู่เคียงข้างเสมอ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้รับรู้ว่าเธอบาดเจ็บจากการพยายามช่วยเพื่อนร่วมวง จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับเกาหลีได้ในตอนนี้ และต่างก็แท็กขอให้เธอหายเร็วๆ ด้วยเช่นกัน แม้ยังมีแฟนคลับไม่มากนักแต่สิ่งที่เห็นก็ทำให้รู้สึกดีและอุ่นใจไม่น้อยจนถึงกับน้ำตาซึมหลังจากนาเดียเข้าไปอ่านแท็กนั้นมีค่ายติดต่อเข้ามาสองสามค่ายเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาแต่ซูจินกับพี่ๆ ในวงอยากคุยกันในตอนที่เธออยู่ด้วย จึงขอเวลาจัดการเรื่องการฟ้องร้องให้เรียบร้อยเสียก่อนสาวร่างเล็กลงไปข้างล่างก็พบกับคนที่เพิ่งวิ่งออกกำลังกายจนเหงื่อท่วมกำลังจะกลับเข้าห้องของเขา“วันนี้เราจะไปที่ทำงานของผม”ชายหนุ่มบอกทันทีที่เห็นเธอ แต่แม้นาเดียจะทำหน้าแปลกใจเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรนอกจากเอ่ยสั่ง“กินอาหารเช้าให้เรียบร้อยเสีย”พูดจบเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนตัดสีดำเปียกจ
คลินตันกลับมาอีกครั้งในลุคที่นาเดียต้องนึกอ่อนใจกับตัวเอง เพียงแค่ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มตัวเดิมเธอก็คิดว่าอีกฝ่ายดูเซ็กซี่อย่างไม่น่าให้อภัยแล้ว หญิงสาวเหลือบมองร่างสูงใหญ่เพียงนิดแล้วปอกมันฝรั่งในมือต่อ ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าจิตใจเธอไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเลยแม้แต่น้อยคงเพราะได้เห็นกล้ามแน่นๆ ของอีกฝ่าย โดยไม่เคยได้เห็นของจริงเต็มๆ มาก่อนนั่นแหละ เธอจึงสติฟุ้งซ่านแบบนี้ไม่แฟร์เลยสักนิด ทั้งที่เขาไม่ให้เธอใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นออกนอกห้อง แต่ตัวเองกลับถอดเสื้อเดินไปเดินมาเสียอย่างนั้นหญิงสาวคิดขณะมองชายหนุ่มล้างชิ้นปลาที่แพ็คมา และราวกับรู้ว่าเธอมองคลินตันเองก็หันมาทางเธอเช่นกัน เขาเหลือบมองมันฝรั่งก่อนจะพูดขึ้น“หั่นเสร็จแล้วก็เตรียมจานเตรียมซอส ผมทอดเอง”“มีซอสเหรอคะ”“ใช่ ผมซื้อสำเร็จรูปมาแล้ว อยู่ในตู้เย็นนั่นแหละ”เธอพยักหน้าเข้าใจ“งั้นฉันทำสลัดเพิ่มด้วยดีกว่า”“เยี่ยม”คลินตันยกนิ้วให้นาเดียจึงยิ้มตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาตินาเดียหั่นมันฝรั่งในขนาดที่คิดว่าพอดี แล้วก็เอาผักในตู้เย็นที่พอทำสลัดได้มาล้างหั่นเสร็จก็โรยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก







