Share

บทที่ 5

last update Huling Na-update: 2025-05-06 00:28:53

บทที่ 5

อี้หยางเฉิงกลับมาที่จวนของตนหลังจากเข้าไปรายงานเรื่องต่าง ๆ กับฮ่องเต้แล้ว

เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของเขาก้องไปทั่วโถงทางเดินของจวนแม่ทัพที่กว้างใหญ่ แต่กลับดูเงียบเหงา ร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะเหล็กสีดำที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนจากสนามรบเดินผ่านคนในจวนที่ออกมายืนรอต้อนรับเจ้านายของจวน

เมื่อมาถึงเรือนชายหนุ่มก็เริ่มถอดเกราะหนัก ๆ ของเขาออกช้า ๆ เสียงโลหะกระทบกันเบา ๆ ขณะที่เขาวางเกราะลงบนแท่นที่วาง กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกำยานช่วยปลอบประโลมความเหนื่อยล้าจากการศึกที่ยาวนาน ชายหนุ่มกำลังถอดเกราะชิ้นสุดท้ายออก ทันใดนั้นผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนก็ร่วงหล่นลงออกมาจากด้านใน

อี้หยางเฉิงคว้าผ้าผืนนั้นเอาไว้ได้ก่อนที่มันจะหล่นไปถึงพื้น เขาชะงักมองมันด้วยสายตาครุ่นคิด คิ้วขมวดเล็กน้อยเมื่อผ้าไหมเนื้อดีที่ปักลวดลายดอกเหมยด้วยฝีมือประณีตผืนนี้อย่างไรก็คงไม่ใช่ของเขาแน่ ๆ

“ต้องเป็นนางแน่ ๆ” อี้หยางเฉิงพึมพำเบา ๆ ใบหน้าคมเข้มฉายแววประหลาดใจ ภาพหญิงสาวที่ตกจากระเบียงโรงน้ำชาผุดขึ้นในความคิดอีกครั้ง

มือแกร่งพลิกผ้าเช็ดหน้าดูอีกครั้ง ก่อนจะสังเกตเห็นตัวอักษรเล็ก ๆ ปักอยู่มุมหนึ่ง "เว่ย"

“เว่ยอย่างนั้นหรือ แต่นางบอกว่าอยู่จวนเจียง นี่คงเป็นชื่อของนางกระมัง” อี้หยางเฉิงเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ พลางคลี่ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงท่าทางแปลก ๆ ของหญิงสาวผู้นั้น

เขานำผ้านั้นไปรวมกับของสำคัญอย่างอื่นบนโต๊ะพลางคิดว่าดีแล้วที่เขาไม่ต้องถอดเกราะตอนเข้าเฝ้าเพราะได้รับการยกเว้น ไม่เช่นนั้น ผ้าผืนนี้คงหายไปแล้ว นางดูจะพยายามเสียขนาดนั้น เขาก็ไม่อยากทำให้เสียเปล่า

และแม้ชายหนุ่มจะเหนื่อยล้าจากศึกที่ยาวนานและการต้องเผชิญหน้ากับขุนนางยามที่เข้าเฝ้าฮ่องเต้ แต่เมื่อคิดถึงหญิงสาวประหลาดคนนั้นความรู้สึกอื่นก็ปรากฏ

“หวังว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกครั้ง...”

“คุณหนูงดงามมากเลยเจ้าค่ะ”

เว่ยเว่ยยิ้มพลางจ้องมองกระจกทองเหลืองตรงหน้า ปลายนิ้วถูกยกขึ้นแตะปิ่นปักผมดอกเหมย ของตัวเอง มีเพียงแค่วันนี้เท่านั้นที่หญิงสาวจะยังมีโอกาส เพราะหากแม่ทัพอี้ได้เจอกับนางเอกในนิยาย นางก็คงหมดหนทางแล้วเป็นแน่

เว่ยเว่ยตบหน้าตัวเองเบา ๆ ราวกับให้กำลังใจ แอบชอบพระเอกนิยายผ่านหนังสือมาก็หลายเรื่องแล้ว เรื่องนี้ได้คนที่ชอบอยู่ตรงหน้า อีกทั้งยังรู้นิสัยใจคอทุกอย่าง ถ้าไม่สำเร็จ นางจะด่าอะไรก็ตามที่พานางมาที่นี่

เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงและแสงจากโคมไฟสว่างไสวไปทั่วลานกว้างของพระราชวังตรงส่วนของสวนดอกไม้ที่ฮ่องเต้มีบัญชาให้ใช้จัดงานเลี้ยงต้อนรับแม่ทัพอี้และบรรดาทหารที่เสียสละในการศึกครั้งนี้ ส่วนบรรดาทหารชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เข้ามาในงานก็ได้รับบำเหน็จรางวัลเป็นอย่างดี

เหล่าทหารในชุดที่ต่างออกไปจากปกติดูจะเป็นที่หมายปองของบรรดาคุณหนูที่ได้รับอนุญาตให้ติดตามบิดาที่เป็นขุนนางเข้ามาในงานเลี้ยงนี้ด้วย แต่ดูเหมือนคนที่ทุกคนจับจ้องมากที่สุดอย่างแม่ทัพอี้หยางเฉิงเหมือนจะไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้

เว่ยเว่ยก้าวเข้าไปในงานอย่างสง่างามพร้อมบิดาที่เป็นถึงเจ้ากรมคลัง แม้ในใจจะเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นเพราะนี่เป็นการเข้าวังหลวงครั้งแรก และยังเป็นภาพที่สวยงามเกินกว่าตัวหนังสือในนิยายที่นางเคยอ่านมาจะบรรยายได้ แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยังรักษาท่าทางสงบนิ่งและอ่อนหวานให้สมกับเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่

อีกด้านจางกุนเหยาสหายที่สนิทที่สุดของอี้หยางเฉิงได้พาน้องสาวที่เขารู้จักตั้งแต่เด็กเพราะจวนอยู่ใกล้กันมาที่งานด้วย

“มินึกว่าเจ้ากลับจวนเพียงวันจะมีคู่หมายจนถึงขั้นพาออกงาน” อี้หยางเฉิงเอ่ยเย้าสหายของตน สายตาก็กวาดมองไปทั่วทั้งงาน ภาพใบหน้าของเหล่าทหารที่มีความสุขทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ อย่างน้อย ๆ เขาก็พาทุกคนกลับมามีความสุขเช่นนี้ได้ เขาพาทุกคนใต้อำนาจของเขากลับมาได้

“คู่หมายอะไรกันเล่า นี่หยางมี่น้องสาวข้างบ้านที่ข้าเคยพูดเปรย ๆ ให้เจ้าฟังบ่อย ๆ อย่างไรเล่า”

อี้หยางเฉิงเพียงแค่พยักหน้าให้นาง ก่อนจะหันกลับไปมองบรรยากาศในงานอีกครั้ง

ภาพทั้งหมดอยู่ในสายตาของเว่ยเว่ย นางอุตส่าห์เดินตามคนที่น่าจะเป็นจางกุนเหยา สหายสนิทของพระเอกที่พานางเอกเข้างานมาด้วยในวันนี้เพราะต้องการเป็นพ่อสื่อให้สหายและน้องสาวข้างบ้านเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้เจ้าตัวจะชอบนางเอกแต่เพราะมิอยากให้หญิงสาวลำบากจึงทำทุกอย่างเพื่อช่วยนางเอกให้ได้แต่งงานกับพระเอก

โอ๊ย พ่อพระรองที่แสนดี เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งไปเรื่องคนอื่นเอาเรื่องตัวเองก่อน

เว่ยเว่ยเดินจนแทบจะสับเท้าราวกับตีนผี เกียร์หมา เกียร์ผี นางสลับแทบทุกเกียร์ จนสองเท้าน้อย ๆ อันบอบบางซอยยิก ๆ อีกนิดก็จะวิ่งอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่ทัน นางมาถึงช้าเพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น

“แม่ทัพอี้หยางเฉิง” เว่ยเว่ยเอ่ยเรียกอีกฝ่ายออกไปเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย จนชายหนุ่มที่กำลังมองตากับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนางเอกของนิยายเรื่องนี้ต้องหันมามอง อย่างไรตั้งใจมาแล้วก็ควรจะทำตามความตั้งใจเดิม

“แม่นาง...” ท่าทางที่ดูนิ่ง ๆ ไม่ได้เอ่ยอะไรทำให้เว่ยเว่ยรู้สึกร้อนใจแต่ก็แสดงออกมากไม่ได้

“ข้าเจียงซีเว่ย คนที่ท่านแม่ทัพช่วยเอาไว้เมื่อวานตอนที่ท่านเพิ่งกลับมา”

“ข้าจำได้” น้ำเสียงทุ้มที่ฟังกี่ครั้งก็ทำให้จิตใจหวั่นไหวทำให้เว่ยเว่ยเกือบลืมไปแล้วว่าตนเองจะต้องพูดอะไรต่อ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 30

    บทที่ 30เวลาผ่านไปอีกหลายเดือนจนท้องของเว่ยเว่ยใหญ่ขึ้นจนเหมือนจะแตกออก อี้หยางเฉิงกำลังนอนหนุนแขนมองดูภรรยาของตนที่เอนกายพิงหมอนสูงอยู่ ท่าทางเช่นนี้เผยให้เห็นท้องที่โตขึ้นของหญิงสาว เขายกมือขึ้นลูบท้องของนางเบา ๆ ความอบอุ่นจากฝ่ามือของชายหนุ่มเรียกรอยยิ้มอ่อนโยนจากเว่ยเว่ย"เจ้าว่าลูกเราจะเป็นหญิงหรือชาย" อี้หยางเฉิงเอ่ยถามเสียงเบา ดวงตาคมที่เคยดูน่าเกรงขามในสนามรบยามนี้กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนหญิงสาวยิ้มน้อย ๆ พลางมองสามีที่ดูจะสนใจเรื่องนี้ไม่ต่างจากบิดาของนาง "ข้าคิดว่าคงเป็นหญิง ดูจากนิสัยของข้าตอนนี้อยากกินแต่ของเปรี้ยว ๆ และขี้โมโหเอาแต่ใจเหมือนหญิงชาวบ้านตอนตั้งครรภ์น่ะ"อี้หยางเฉิงหัวเราะออกมา "หากลูกคนนี้เป็นหญิงจริง เช่นนั้นเจ้าจะต้องมีบุตรชายเพิ่มอีกคนแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นพ่อของเจ้าต้องไม่พอใจแน่ ๆ "เจียงซีเว่ยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาที่มักมีแววออดอ้อนของนางส่องประกายสดใส "แล้วท่านทำไม่ได้หรือ" อี้หยางเฉิงมองคนที่พูดคำนั้นใส่เขาด้วยท่าทางท้าทาย“หากเจ้าไม่ได้กำลังท้องอยู่นะเว่ยเอ๋อร์” ชายหนุ่มกัดปากอย่างมันเขี้ยวก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของหญิงสาว "อีกไม่กี่เดือนเจ้า

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 29

    บทที่ 29ผ่านไปไม่กี่เดือนอาการแพ้ท้องของเจียงซีเว่ยก็ค่อย ๆ ทุเลาลง แม้ในช่วงแรกหญิงสาวจะยังไม่กล้ามองหน้าอี้หยางเฉิงอย่างเต็มตา แต่เมื่อเวลาผ่านไปนางก็เริ่มสังเกตว่าการได้อยู่ใกล้เขาไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอีกแล้วขณะที่อี้หยางเฉิงกำลังฝึกฝนเพลงดาบของตนในลานกว้างของจวน เจียงซีเว่ยก็เดินออกมาจากเรือนอย่างเงียบ ๆ หญิงสาวสวมเพียงเสื้อคลุมกันลมบาง ๆ สีชมพูอ่อน ใบหน้าก็กลับมามีเลือดฝาดและดูสดใสเหมือนเดิม มีเพียงแค่ท้องที่เริ่มโตขึ้นทุกวันเมื่ออี้หยางเฉิงหันมาเห็นก็ตั้งใจจะนำผ้ามาปิดหน้า แต่หญิงสาวก็ห้ามเอาไว้ “ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้วท่านพี่ ท่านไม่ต้องปิดหรอก” เว่ยเว่ยบอกกับสามี แต่อี้หยางเฉิงก็ยังไม่มั่นใจ“ข้ากลัวเจ้าจะได้ไข้ไปอีก” เขาเดินเข้ามาพร้อมกับมีผ้าบาง ๆ ปิดบนใบหน้า “ข้าบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร” เว่ยเว่ยดึงผ้านั่นออกและประทับริมฝีปากไปที่ใบหน้าคมที่ยังคงมีเหงื่อน้อย ๆ “อย่า เดี๋ยวเจ้าจะเปื้อน”“ไม่เห็นเป็นอะไร แล้วข้าก็ไม่แพ้ท้องยามเมื่อเห็นหน้าท่านพี่แล้วด้วย” อี้หยางเฉิงยิ้มอย่างยินดี “แสดงว่าลูกของเราเลิกแกล้งข้าแล้วใช่หรือไม่” เว่ยเว่ยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น “ข้าก็ไม่รู้ ห

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 28

    บทที่ 28หลังจากได้รับตำแหน่งโหว อี้หยางเฉิงก็กลายเป็นที่กล่าวถึง ทุกคนต่างยกย่องเขาเป็นแม่ทัพที่ทรงเกียรติและมีความรักที่ยิ่งใหญ่ให้กับเจียงซีเว่ยบุตรสาวของเจ้ากรมคลังที่ซื่อสัตย์แม้ชีวิตของทั้งคู่จะเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่สำหรับหญิงสาวในเมือง เรื่องราวการเจอกันจนกลายเป็นความรักของทั้งสองกลายเป็นตำนานและแม้ว่าจะมีหญิงสาวมากมายที่อยากได้ชายหนุ่มเช่นนี้มาเป็นสามี แต่กลับมีเพียงแค่เจียงซีเว่ยเท่านั้นที่ได้เป็นที่รักของอี้หยางเฉิง แต่ชีวิตในความเป็นจริงกลับไม่ง่ายดายขนาดนั้น แม้เจียงซีเว่ยจะเคยยิ้มแย้มและมีความสุขกับการใช้ชีวิตร่วมกันกับอี้หยางเฉิงในช่วงปีแรก ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หญิงสาวก็นึกรู้สึกไม่พอใจชายหนุ่มเสียอย่างนั้น“หากข้าทำอะไรผิดเจ้าก็บอกข้ามาสิข้าจะปรับตัว” อี้หยางเฉิงพยายามห้ามภรรยาของตนไม่ให้กลับไปยังจวนเจียง“ข้าก็บอกท่านพี่แล้วว่าข้าเบื่อหน้าท่าน” คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรู้สึกจุก แม่ทัพที่ยิ่งใหญ่แทบจะลงไปดึงขาของภรรยาตน เขารั้งตัวเจียงซีเว่ยเอาไว้แน่น“เจ้าไม่รักข้าแล้วหรืออย่างไรเว่ยเอ๋อร์” เว่ยเว่ยหันไปมองสามีอย่างหงุดหงิดก่อนจะผลักอีกฝ่ายไปให้พ้นต

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 27

    บทที่ 27พวกเขาทั้งคู่มีความสุขอยู่ได้ไม่นาน เรื่องร้ายแรงก็เกิดขึ้นในเมืองหลวง เมื่อกลุ่มขุนนางที่ไม่พอใจต่อราชสำนักรวมตัวกันก่อกบฏในยามค่ำคืนหนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนไม่มีใครคาดคิดและเตรียมรับมือ แม้แต่เว่ยเว่ยที่เคยรับรู้เรื่องราวมาจากนิยายแล้วก็ลืมเพราะนางมัวแต่เลี้ยงบุตรชายอี้หยางเฉิงถูกตามตัวออกไปอย่างกะทันหันในคืนนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาแทบไม่ได้พัก เพราะหลงเฟยบุตรชายคนแรกของพวกเขาค่อนข้างเลี้ยงยากในเวลากลางคืน สองสามีภรรยาอี้จึงต้องผลัดกันดูแลบุตรชายทั้งคืนแทบไม่ได้หลับได้นอน“ท่านพี่ต้องระวังคนใกล้ตัวนะเจ้าคะ อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ “ เว่ยเว่ยเอ่ยบอกกับสามีระหว่างช่วยอีกฝ่ายใส่เสื้อเกราะ นางอยากจะระบุชื่อหนึ่งในรองแม่ทัพของอี้หยางเฉิงที่แปรพักตร์ด้วยซ้ำ แต่หากทำอย่างนั้นตัวนางเองก็จะถูกสงสัยแม้จะเพิ่งฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าหลังการดูแลบุตรชายและภรรยาแต่อี้หยางเฉิงก็ยังรีบรุดไปยังวังหลวงได้ในทันทีเมื่อได้รับข่าวจากคนของตน แม้เขาจะไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า แต่ด้วยไหวพริบและความเด็ดขาด เขารวบรวมเหล่าทหารที่ภักดีต่อเขาเข้าปราบกบฏได้ภายในคืนเดียวโดยแทบจะไม่เสียเลือดเนื้อ

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 26

    บทที่ 26หลังพิธีสมรสที่ยิ่งใหญ่ผ่านพ้นไปได้สองสามเดือน เจียงซีเว่ยที่ตอนนี้กลายเป็นฮูหยินของอี้หยางเฉิงอย่างสมบูรณ์ ใช้ชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความรัก ทว่าความสุขนั้นกลับเพิ่มขึ้นทวีคูณ เมื่อในเดือนที่สองของชีวิตสมรส นางกลับพบว่าตนเองตั้งครรภ์เมื่อข่าวนี้ไปถึงหูของใต้เท้าเจียงและฮูหยินเจียงทั้งคู่ก็แทบจะติดปีกรีบนั่งรถม้ามาที่จวนอี้ในทันที“ตั้งครรภ์หรือ” ใต้เท้าเจียงอุทานเสียงดังในวันที่เขาได้ข่าว “ไม่ได้การแล้ว ข้าจะต้องไปดูนางเสียหน่อย” หลังจากเดินวนไปมาด้วยความกังวลอยู่สักพักคำนั้นก็หลุดออกมาจากปาก“ท่านพี่จะไปทำไมล่ะเจ้าคะ” ฮูหยินเอ่ยถามผู้เป็นสามี“บุตรสาวข้าเพิ่งแต่งออกไปไม่ถึงปี ไยถึงตั้งครรภ์ไวถึงเพียงนี้ ร่างกายนางจะทนไหวหรือไม่ก็ไม่รู้”“ท่านพี่กังวลเกินไปแล้วกระมัง” ฮูหยินเจียงพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “ข่าวนี้ควรเป็นเรื่องน่ายินดีมิใช่หรือเจ้าคะ”“แต่ว่า...” ใต้เท้าเจียงหันไปมองภรรยาด้วยแววตาลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจ “ข้าคิดว่าพวกเราควรจะพาเว่ยเอ๋อร์กลับมาพักที่จวนของพวกเราสักระยะ พวกเราจะได้ดูแลนางได้อย่างใกล้ชิด เจ้าว่าดีหรือไม่”“ไม่คิดว่านี่จะเป็นการก้าวกายลูกแ

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 25

    บทที่ 25หลังจากพิธีมากมาย เว่ยเว่ยยอมรับเลยว่าตนคิดว่าพิธีแต่งงานของคนโบราณมีเพียงแค่ขึ้นเกี้ยวแล้วเดินเข้าจวนอีกฝ่ายไปเพื่อไหว้ฟ้าดิน เสร็จแล้วก็เข้าไปรอในห้องหอ แต่แท้จริงแล้วรายละเอียดเยอะแยะมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นิยายหลายเรื่องไม่ได้เขียน พวกข้าวของที่ต้องเตรียมก็มีความหมายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม แก้วแหวนเงินทอง หรือแม้กระทั่งของกินที่ต้องมีรวมในขบวนหรือพิธี มาถึงเรือนก็ต้องก้าวข้ามกระถางไฟอีก แต่โชคยังดีที่แม้เว่ยเว่ยจะไม่รู้เรื่องอะไรดีนัก นางก็ไม่ต้องกังวลเพราะทุกขั้นตอนจะมีแม่สื่อคอยอยู่ด้วย หน้าที่ของแม่สื่อจะบอกทุกอย่าง ทำให้นางที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ตลอดไม่ต้องกลัวว่าจะทำอะไรผิดสุดท้ายเมื่อพิธีจบหญิงสาวก็ถูกพาเข้ามารอเจ้าบ่าวอยู่ในเรือนหอ เว่ยเว่ยนั่งอยู่บนเตียงแม้จะอยากเปิดผ้าออกดูแต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าจะทำให้พิธีเสียหาย อย่างไรนางก็อยากให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาใด ๆ หญิงสาวกุมมือของตนเองแน่น อย่างน้อยการทำแบบนี้ก็บรรเทาความตื่นเต้นที่พลุ่งพล่านในใจได้บ้างยิ่งเวลาผ่านไปความคิดก็เริ่มทำให้เว่ยเว่ยจะสติแตกเสียให้ได้ และถึง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status