Home / รักโบราณ / นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง / บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง (ตอนต้น)

Share

บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง (ตอนต้น)

last update Last Updated: 2025-05-12 07:52:04

บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง

ครู่ต่อมาซูซื่อก็ถือถ้วยยาต้มมาให้บุตรสาว

ประสบการณ์ลิ้มลองยาต้มครั้งแรกของมู่หนิงชิง กล่าวได้ว่าเลวร้ายสุดๆ ทั้งขมกลิ่นก็แรงแถมฝาดติดลิ้นไม่หายไปง่ายๆ ขนาดว่าดื่มน้ำกลั้วปากไปตั้งหลายรอบแล้ว ซูซื่อบอกว่านางยังต้องดื่มยาไปอีกเจ็ดวัน

ฮือออ…สวรรค์ท่านโกรธเกลียดอะไรนางนักหนา ถึงได้ส่งยาต้มมาลงโทษนางเยี่ยงนี้!

จนถึงตอนนี้ มู่หนิงชิงรับรู้แล้วว่า ตัวนางและครอบครัวสกุลมู่บ้านรอง ตั้งรกรากอยู่ที่หมู่บ้านชื่อว่าเต๋อถัง อำเภอเวินเก๋อ เมืองอี้เฉิง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นต้าซวิน หากเดินทางไปกลับตัวเมืองด้วยเท้า จะใช้เวลาราวสามชั่วยาม แต่หากเดินทางด้วยเกวียนก็จะย่นเวลาได้ครึ่งหนึ่ง

ครอบครัวของมู่หนิงชิงคือสกุลมู่บ้านรอง ส่วนสกุลมู่บ้านใหญ่ก็อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน บ้านของพวกเขาห่างไปราวยี่สิบจั้ง

สมาชิกของบ้านใหญ่มีด้วยกันเจ็ดคน ได้แก่มู่ซานและหลัวอวี๋ ซึ่งเป็นท่านปู่และท่านย่าของมู่หนิงชิงและน้องๆ ท่านลุงใหญ่มู่อวิ๋น ภรรยาชื่อฉวนเหยา มีบุตรชายและบุตรสาวอีกสามคน ชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านใหญ่ คงดีกว่าบ้านรองเป็นแน่หากนางคาดไม่ผิด...อนุมานเอาจากประสบการณ์ ในการอ่านนิยายและเล่นซีรีส์แนวชีวิตมาหลายเรื่อง

ราวยามเซิน (15:00-16:59) มู่เฟิงผู้เป็นบิดาและมู่หนิงเฉิงน้องชายคนรองก็กลับถึงบ้าน

มู่เฟิงอายุราวสามสิบห้า รูปร่างสูงทว่าค่อนไปทางผอม ผิวคล้ำจากการทำงานในไร่ ส่วนมู่หนิงเฉิงอายุเก้าหนาว หน้าตาคล้ายมู่หนิงอันถึงเจ็ดแปดส่วน เพียงแต่ได้คิ้วและตามาจากบิดา เด็กชายมีรูปร่างผอมบาง ผิวคล้ำจากการช่วยงานบิดาในไร่เช่นเดียวกัน

ครั้นทั้งคู่ทราบว่ามู่หนิงชิงฟื้นแล้ว ก็รีบรุดมาดูด้วยความเป็นห่วง ยิ่งมู่หนิงชิงได้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนผ่ายผอม เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในสภาพเก่าสีซีด มีรอยปะชุนหลายแห่งยิ่งสะท้อนใจ

มู่หนิงชิงตั้งปณิธานแน่วแน่ทันที ว่าหากหายดีเมื่อไหร่ นางจะต้องช่วยครอบครัวนี้ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อดอยากอีกต่อไป!!!

จารชนมือหนึ่งอย่างนางเรื่องหาเงินเข้ากระเป๋าคือเรื่องเล็ก!

หลังจากสนทนากับทุกคนในครอบครัวเรียบร้อย มู่หนิงชิงจึงเอ่ยกับซูซื่อว่านางรู้สึกเหนียวตัวอยากอาบน้ำ ทว่าผู้เป็นมารดาแนะนำให้นางเช็ดตัวแทนด้วยเพราะเพิ่งฟื้นคืนสติ ซึ่งมู่หนิงชิงก็ไม่ขัดข้อง

ครู่ต่อมาซูซื่อยกอ่างใส่น้ำอุ่นมาให้ที่ห้อง พร้อมผ้าอีกหนึ่งผืน

“ขอบคุณท่านแม่มากเจ้าค่ะ ข้าเช็ดตัวเองได้ท่านไม่ต้องอยู่ช่วยข้าหรอกเจ้าค่ะ” จะให้นางมาถอดผ้าต่อหน้าคนแปลกหน้าก็ใช่เรื่อง นางเพิ่งทะลุมิติมา ขอเวลาปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่หน่อยเถอะ

“ได้ แต่ลูกค่อยๆ เช็ดตัวก็แล้วกัน ระวังหน้ามืดล่ะ” ซูซื่อวางอ่างใส่น้ำลงบนโต๊ะข้างหน้าต่าง เดินมาลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน แววตาเปี่ยมด้วยความรักและห่วงใย

คล้อยหลังซูซื่อที่ปิดประตูให้นางเรียบร้อย มู่หนิงชิงจึงถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก เหลือเพียงเอี้ยมสีชมพูเก่าหม่นปกปิดหน้าอกผอมแห้ง

“อุ้ย เอี๊ยมหน้าตาเหมือนที่บรรยายไว้ในนิยายเลยอ่ะ แต่เก่าไปหน่อยนะ ร่างกายนี้ก็แสนบอบบางเหลือเกิน เอาไว้คนสวยจะบำรุงให้มีน้ำมีนวลเอง ไม่ต้องห่วงนะมู่หนิงชิง” ปากก็พร่ำปลอบใจร่างกายของตน มือก็เอื้อมไปปลดสายผูกด้านหลัง

นางกำลังจะวางเอี๊ยมลงบนเตียง ทว่าสายตาเหลือบไปเห็นว่า เอี๊ยมตัวนี้มีผ้าซับตัดเย็บไว้คล้ายกระเป๋าซ่อนอยู่ด้านใน นางจึงหยิบขึ้นมาสำรวจดู และเมื่อลองสอดนิ้วเข้าไป ปลายนิ้วก็สัมผัสเข้ากับบางสิ่ง นางจึงดึงมันออกมาดู วัตถุสีแดงดูคุ้นตาปรากฏอยู่ในมือ

“เอ๋ ทำไมมันดูเหมือนจี้หยกแดงอันนั้นนักนะ รึว่า…?!”

ทันทีที่สิ้นคำกล่าว แสงสีขาววาบบังเกิดตรงหน้า มู่หนิงชิงหลับตาหนีแสงจ้านั้น และเมื่อลืมตาขึ้น สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า คือห้องครัวขนาดใหญ่ จากภัตตาคารสุดหรูของนางซึ่งอยู่ในอีกมิติก่อนหน้านี้!

กรี๊ดดดด!!! ไม่เชื่อแต่อย่าหลบลู่ นางมีตัวช่วยเหมือนในนิยายหลายเรื่องที่เคยอ่านผ่านตากับเขาด้วยหรือนี่!

มู่หนิงชิงเจ้ารอดแล้ววว แบบนี้ไม่อดตายแน่นอน! ร่างผอมบางที่สมควรจะเปลือยอก ในเวลานี้กลับสวมชุดเชฟอยู่เสียอย่างนั้น!!

หญิงสาวตาโต ตกตะลึงกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น แต่กระนั้นยังมีสติพอ รับรู้ว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่า มิติ ซึ่งมาในลักษณะห้องครัวของภัตตาคาร ยอดเยี่ยมไปเลย! และที่นางดีใจจนเนื้อเต้น ก็เป็นเพราะของสด ของแห้ง เครื่องปรุงต่างๆ รวมถึงเครื่องดื่มทุกอย่างในครัวแห่งนี้ ล้วนเป็นของเกรดพรีเมี่ยม!

ก็คนมันรักการกินเป็นชีวิตจิตใจทำอย่างไรได้

เจ้าของมิติห้องครัว มุ่งตรงไปยังห้องเก็บของสดขนาดใหญ่ และเมื่อก้าวเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความเย็นของห้องแช่ทันที

“อู้ยยย สุดยอด ทุกสิ่งยังเหมือนเดิมเป๊ะ เอ๊ะ! แล้วนี่มันอะไร ทำไมมีป้ายบอกราคาด้วย”

บนห่อของเนื้อวากิว(a5) ที่นางหยิบขึ้นมาดู ปรากฏราคาบอกไว้เป็นหน่วยเงินของมิตินี้ ซึ่งไม่แตกต่างจากเงินในยุคจีนโบราณ เรียวคิ้วงามมุ่นเข้ากันด้วยความข้องใจ อย่าบอกนะว่า…

ทันใดนั้นเอง…

ติ้ง!! หน้าจอดิจิตอลขนาดกระดาษA4 ปรากฏขึ้นตรงหน้ามู่หนิงชิง มีข้อความเขียนไว้ดังนี้

ยินดีต้อนรับสู่มิติแห่งความอิ่มหนำ ทางเข้าออกมิติแห่งนี้ คือหยกสีแดงรูปดอกโบตั๋นในมือของท่าน

“นั่นปะไร!! ว่าแล้วเชียว เจออภินิหารหยกแดงจริงๆด้วย ถึงว่า…ตั้งราคาขายซะแพงยังกับคฤหาสน์ของหัวหน้าองค์กรลับ!” มู่หนิงชิงทุบกำปั้นลงบนฝ่ามืออีกข้างขณะกล่าวคำ จากนั้นจึงตั้งใจอ่านข้อความบนหน้าจอดิจิตอลต่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ /2

    บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ /2 วันเปิดร้านผู้คนต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก พวกเขาได้รับแจกถั่วเคลือบน้ำตาลเสริมพลังปราณในกายเป็นสินค้าแนะนำ ทีแรกก็ไม่มีใครเชื่อว่า เพียงแค่ขนมขบเคี้ยวจะช่วยเสริมพลังธาตุในกายได้อย่างไร รวี่เยว่จึงมอบลูกกวาดเสริมพลังของแต่ละธาตุให้แต่ละคนลองกินดู “ลูกกวาดอัคคีที่ท่านลุงเพิ่งกินเข้าไป จะช่วยให้ปราณธาตุไฟของท่านแข็งแกร่งขึ้นสองส่วนในทันที และคงอยู่ครึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ ท่านสามารถทดสอบพลังได้ทันที” รวี่เยว่ยืนเอามือไพล่หลัง บรรยายสรรพคุณสินค้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทว่าน้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับทรงพลังกึกก้องจนหลายคนไม่กล้าพูดแทรก ครั้นชายวัยกลางคน ที่เพิ่งกินลูกกวาดสำหรับเสริมพลังธาตุไฟเข้าไป เริ่มต้นเดินพลังดูตามคำแนะนำ ฟึ่บ!! พลังธาตุไฟในมือของเขาแข็งแกร่งขึ้นสองส่วนในพริบตา ตามสรรพคุณที่กล่าวมาจริงๆ! “โอ้ พลังธาตุของข้าแข็งแกร่งขึ้นจริงๆด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ แม่หนูเจ้าขายราคาเท่าไหร่ข้าขอเหมาหมด!” ชายวัยกลางคนผู้มีพลังธาตุไฟ รีบควักถุงเงินออกจากมาแหวนยื่นให้รวี่เยว่ “เจ้าจะเหมาหมดคนเดียวได้อย่างไร! ข้าเองก็อยากได้เหมือนกัน” ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้า

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ /1

    บทที่ 13 เส้นทางชีวิตใหม่ /1 เมืองเทียนหวง เมืองหลวงอาณาจักรอู๋ซาง จวนเสนาธิการทหาร จดหมายจากแดนไกลลุกไหม้อยู่ในเตากำยาน กลางโถงรับรองของเรือนฟาหยาง ฮูหยินผู้เฒ่า เหวินกุ้ยเหริน มารดาของหวังเหลียง และมีศักดิ์เป็นป้าของ เหวินไป๋เหลียน ทอดมองหลานสาวคนโปรดที่เกิดจากเหวินไป๋เหลียนอย่างมาดหมาย ปีนี้หวังลู่เสียนอายุเก้าหนาว เด็กหญิงเกิดหลังหวังลี่ถิงเพียงหนึ่งเดือน จากที่เคยเป็นเพียงบุตรีของอนุ เวลานี้เด็กหญิงคือบุตรีของฮูหยินเอกอย่างสมบูรณ์ "เสียนเอ๋อร์ อีกไม่กี่วันเจ้าก็ต้องเดินทางไปสำนักเพลิงจักรพรรดิแล้ว เตรียมตัวพร้อมรึยัง" ผู้เป็นย่าเอ่ยถามด้วยสุ้มเสียงอ่อนโยน หวังลู่เสียนหน้าตาพริ้มเพราตั้งแต่เด็ก ฉายแววว่าจะเติบโตขึ้นเป็นหญิงงามเหมือนมารดา อีกทั้งเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ อายุเพียงเก้าหนาวระดับตบะอยู่ที่หนิงชี่ขั้นปลายแล้ว สตรีสายเลือดตระกูลเหวินต่างหากที่สมควรมีชะตาหงส์ ไม่ใช่เด็กอีกคนตามคำทำนายของหอพยากรณ์!! "เสียนเอ๋อร์เตรียมตัวพร้อมแล้วเจ้าค่ะท่านย่า แต่ว่า…เสียนเอ๋อร์ไม่อยากจากท่านย่าไปเลย" เด็กหญิงในชุดผ้าไหมเนื้อดีสีชมพูอ่อนหวาน เอ่ยวาจาฉอเลาะเอาใจหญิงชรา ใบหน้าเล็กถูไ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /2

    บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /2 ในโกดังเก็บสินค้าทางทิศตะวันตกของเมืองลวี่เฟิง ร่างเล็กของเด็กหญิงมีสภาพสะบักสะบอม ถูกจับมัดมือมัดเท้า ปากเล็กมีผ้ายัดไว้ ข้างกายมีชายชุดดำยืนคุมเชิงอยู่สองคน เผยคังก้าวเข้ามาในโกดัง พิศมองเด็กหญิงตรงหน้าด้วยสายตายากคาดเดา "อั่น เอ้าเอือง อ่วย อ้า อ้วย (ท่านเจ้าเมืองช่วยข้าด้วย)" เด็กหญิงส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเห็นว่าใครก้าวเข้ามาในโกดัง ใบหน้าเล็กเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา “เอาผ้าอุดปากนางออก” เผยคังสั่งองครักษ์ หลังนั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้เป็นที่เรียบร้อย ครั้นปราศจากผ้าอุดปาก เด็กหญิงก็รีบส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากเจ้าเมืองลวี่เฟิงทันที "ท่านเจ้าเมืองเจ้าคะ ช่วยข้าด้วย มีคนใจร้ายจับข้ามาเจ้าค่ะ" ทว่าคนฟังกลับปรายตามองร่างเล็กอย่างเย็นชา "ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรอกนะแม่หนู เพราะข้าเองก็ได้รับคำสั่งมาอีกที" แววตาของรวี่เยว่เข้มขึ้นเมื่อได้ยินถ้อยคำจากปากเผยคัง นอกจากชายวัยกลางคนตรงหน้ายังมีใครที่ต้องการชีวิตของนางอีกหรือ "มีคนสั่งท่านเจ้าเมืองมาอย่างนั้นหรือเจ้าคะ! ใครหรือเจ้าคะ ไม่แน่ว่าอาจมีการเข้าใจผิดก็เป็นได้…ข้าเป็นแ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /1

    บทที่ 12 การเปลี่ยนแปลง /1 ชายชุดดำทั้งสองแทบไม่เชื่อสายตา เด็กหญิงตรงหน้ามีธาตุมืด! หรือแท้จริงแล้ว นางคือเผ่ามนุษย์สายเลือดมารสวรรค์ชั้นสูงของตำหนักเทวาอนธการ!! หากเป็นอย่างที่คิด พูดได้คำเดียวว่า ซวยแล้ว! ซวยทั้งพวกเขาและผู้ว่าจ้าง ในมหาพิภพทงเทียนถึงได้มีคำกล่าวไว้ว่า หาเรื่องใครก็หาไป แต่อย่าริอาจไปหาเรื่องคนตำหนักเทวาอนธการ! และอย่าไปยุยั่วคนตำหนักเทพอนันต์ ขนาดราชวงศ์ของทั้งสี่อาณาจักร ยังไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกเขา!!! ความหวาดผวาจู่โจมจิตใจของนักฆ่าที่ยังรอดชีวิต เด็กหญิงตรงหน้าอายุเพียงเก้าหนาว ทว่าระดับตบะสูงถึงเจี๋ยตันขั้นกลาง แต่สิ่งที่น่าหวาดหวั่นกว่า คืออัคคีนิลกาฬในมือของนางต่างหาก!! การถูกช่วงชิงและควบคุมจิตวิญญาณ คือสิ่งที่นักบำเพ็ญเกรงกลัวเป็นที่สุด พวกเขามิอาจไปผุดไปเกิด แต่กลายเป็นวิญญาณรับใช้ของผู้ที่ช่วงชิงออกมาได้ และหากวิญญาณไม่ได้รับการปลดปล่อย ก็จะกลายเป็นทาสรับใช้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์…ทรมานยิ่งกว่าตกนรก! “ข้าบอก ข้ายอมบอกแล้ว แต่ได้โปรดอย่าช่วงชิงจิตวิญญาณของข้าเลย” นักฆ่าอีกคนรีบส่งเสียงปากคอสั่น “จะ เจ้าเมืองเผยคังขอรับคุณหนู ที่ว่าจ้างพวกเราให้

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /2

    บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /2 วาจาของเด็กหญิงทำคนฟังขอบตาร้อนผ่าว คุณหนูของพวกนางช่างคนเป็นจิตใจงดงามและกตัญญูอย่างยิ่ง ช่างน่าเสียดายที่รองแม่ทัพเยว่หนิงลี่จากไปเร็วเหลือเกิน หวังว่าวิญญาณของนางที่อยู่บนสวรรค์จะมองเห็นและภูมิใจในตัวบุตรสาว ในขณะที่ทั้งสามกำลังยืนมองร้านที่ปิดประกาศว่าปล่อยให้เช่าอยู่นั้น บุรุษคนหนึ่งซึ่งเคยพบพวกนางอยู่สองสามครั้ง บังเอิญเดินผ่านมาแถวนั้นพอดี เขาจดจำได้อย่างแม่นยำว่าสาวใช้หน้าแฉล้มนางนั้นคือชุนอิ่ง และหญิงวัยกลางคนร่างท้วมที่มีไฝเหนือริมฝีปากด้านซ้ายคือแม่นมชุน ครั้นมองไปยังเด็กหญิงและได้เห็นใบหน้าเล็กของนาง ซึ่งเวลานี้ปราศจากปานสีชาดรูปเปลวเพลิงก็ตกตะลึง ไม่กี่เดือนก่อนตอนที่เขามาส่งจดหมายจากเมืองหลวงให้นาง เด็กหญิงยังดูอัปลักษณ์เพราะปานนั่นอยู่เลย ไยตอนนี้ถึงได้… และในชั่วขณะนั้นเอง "นั่นรวี่เยว่นี่ รวี่เยว่! เจ้านั่นเอง มาทำอะไรตรงนี้หรือ" เด็กหญิงที่ดูอายุมากกว่ารวี่เยว่สองสามปี ก้าวมาหาร่างเล็กอย่างดีใจ นางคือหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันอิสระ ที่ตกรอบไปในรอบที่สาม และนางก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน ที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์เดียวกันกับรวี่เยว่ หลัง

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /1

    บทที่ 11 ของขวัญจากอาจารย์ /1 เผยคังบดกรามดังกรอด หันมาตวาดบุตรชายคนเล็กอย่างอย่างฉุนเฉียว "หุบปาก! หากมิใช่เพราะเจ้าพ่ายแพ้คู่แข่งที่ตบะอ่อนด้อยกว่า จนทำให้ตระกูลเผยขายหน้า! มีหรือพี่ชายของเจ้าจะลงมือ! ต่อไปห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก ตั้งใจฝึกฝนให้มากกว่านี้ เข้าใจหรือไม่!" แม้ว่าความจริงตัวเขารู้สึกอับอาย และเจ็บแค้นไม่น้อยไปกว่าบุตรชาย ทว่าจำเป็นต้องอดกลั้น ฝืนกลืนโทสะทั้งหมดลงท้อง ด้วยเพราะผู้ที่ทำร้ายเผยหลงจนบาดเจ็บสาหัส คือคนของไท่จื่อแห่งตำหนักเทพอนันต์ ที่แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องไว้หน้าอยู่หลายส่วน ตัวเขาเป็นเพียงเจ้าเมืองจึงมิอาจล่วงเกินอีกฝ่าย ยิ่งคิดยิ่งแค้นใจจนแทบจะกระอักเลือด! ผู้เป็นบิดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก้าวมานั่งยังโต๊ะน้ำชากลางห้อง เอ่ยเรียกบุตรชายที่ยืนก้มหน้าเม้มปากแน่นอยู่ข้างมารดา ซึ่งเวลานี้กำลังได้รับการพัดวีจากสาวใช้หลังจากลมจับไปอีกรอบ "หู่เอ๋อร์มานี่ นั่งลง ข้าอยากรู้ว่าเด็กผู้หญิงที่ประลองชนะเจ้าวันนี้ เป็นใครมาจากไหน ใช่ศิษย์ของสำนักกระบี่จันทราหรือเปล่า" "นะ นาง นางเป็นผู้สมัครอิสระจากข้างนอกขอรับท่านพ่อ ส่วนเรื่องที่นางเป็นใครมาจากไหน ลูกเองก็ไม่ทราบ"

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status