บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง
ครู่ต่อมาซูซื่อก็ถือถ้วยยาต้มมาให้บุตรสาว ประสบการณ์ลิ้มลองยาต้มครั้งแรกของมู่หนิงชิง กล่าวได้ว่าเลวร้ายสุดๆ ทั้งขมกลิ่นก็แรงแถมฝาดติดลิ้นไม่หายไปง่ายๆ ขนาดว่าดื่มน้ำกลั้วปากไปตั้งหลายรอบแล้ว ซูซื่อบอกว่านางยังต้องดื่มยาไปอีกเจ็ดวัน ฮือออ…สวรรค์ท่านโกรธเกลียดอะไรนางนักหนา ถึงได้ส่งยาต้มมาลงโทษนางเยี่ยงนี้! จนถึงตอนนี้ มู่หนิงชิงรับรู้แล้วว่า ตัวนางและครอบครัวสกุลมู่บ้านรอง ตั้งรกรากอยู่ที่หมู่บ้านชื่อว่าเต๋อถัง อำเภอเวินเก๋อ เมืองอี้เฉิง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นต้าซวิน หากเดินทางไปกลับตัวเมืองด้วยเท้า จะใช้เวลาราวสามชั่วยาม แต่หากเดินทางด้วยเกวียนก็จะย่นเวลาได้ครึ่งหนึ่ง ครอบครัวของมู่หนิงชิงคือสกุลมู่บ้านรอง ส่วนสกุลมู่บ้านใหญ่ก็อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน บ้านของพวกเขาห่างไปราวยี่สิบจั้ง สมาชิกของบ้านใหญ่มีด้วยกันเจ็ดคน ได้แก่มู่ซานและหลัวอวี๋ ซึ่งเป็นท่านปู่และท่านย่าของมู่หนิงชิงและน้องๆ ท่านลุงใหญ่มู่อวิ๋น ภรรยาชื่อฉวนเหยา มีบุตรชายและบุตรสาวอีกสามคน ชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านใหญ่ คงดีกว่าบ้านรองเป็นแน่หากนางคาดไม่ผิด...อนุมานเอาจากประสบการณ์ ในการอ่านนิยายและเล่นซีรีส์แนวชีวิตมาหลายเรื่อง ราวยามเซิน (15:00-16:59) มู่เฟิงผู้เป็นบิดาและมู่หนิงเฉิงน้องชายคนรองก็กลับถึงบ้าน มู่เฟิงอายุราวสามสิบห้า รูปร่างสูงทว่าค่อนไปทางผอม ผิวคล้ำจากการทำงานในไร่ ส่วนมู่หนิงเฉิงอายุเก้าหนาว หน้าตาคล้ายมู่หนิงอันถึงเจ็ดแปดส่วน เพียงแต่ได้คิ้วและตามาจากบิดา เด็กชายมีรูปร่างผอมบาง ผิวคล้ำจากการช่วยงานบิดาในไร่เช่นเดียวกัน ครั้นทั้งคู่ทราบว่ามู่หนิงชิงฟื้นแล้ว ก็รีบรุดมาดูด้วยความเป็นห่วง ยิ่งมู่หนิงชิงได้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนผ่ายผอม เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในสภาพเก่าสีซีด มีรอยปะชุนหลายแห่งยิ่งสะท้อนใจ มู่หนิงชิงตั้งปณิธานแน่วแน่ทันที ว่าหากหายดีเมื่อไหร่ นางจะต้องช่วยครอบครัวนี้ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อดอยากอีกต่อไป!!! จารชนมือหนึ่งอย่างนางเรื่องหาเงินเข้ากระเป๋าคือเรื่องเล็ก! หลังจากสนทนากับทุกคนในครอบครัวเรียบร้อย มู่หนิงชิงจึงเอ่ยกับซูซื่อว่านางรู้สึกเหนียวตัวอยากอาบน้ำ ทว่าผู้เป็นมารดาแนะนำให้นางเช็ดตัวแทนด้วยเพราะเพิ่งฟื้นคืนสติ ซึ่งมู่หนิงชิงก็ไม่ขัดข้อง ครู่ต่อมาซูซื่อยกอ่างใส่น้ำอุ่นมาให้ที่ห้อง พร้อมผ้าอีกหนึ่งผืน “ขอบคุณท่านแม่มากเจ้าค่ะ ข้าเช็ดตัวเองได้ท่านไม่ต้องอยู่ช่วยข้าหรอกเจ้าค่ะ” จะให้นางมาถอดผ้าต่อหน้าคนแปลกหน้าก็ใช่เรื่อง นางเพิ่งทะลุมิติมา ขอเวลาปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่หน่อยเถอะ “ได้ แต่ลูกค่อยๆ เช็ดตัวก็แล้วกัน ระวังหน้ามืดล่ะ” ซูซื่อวางอ่างใส่น้ำลงบนโต๊ะข้างหน้าต่าง เดินมาลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน แววตาเปี่ยมด้วยความรักและห่วงใย คล้อยหลังซูซื่อที่ปิดประตูให้นางเรียบร้อย มู่หนิงชิงจึงถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก เหลือเพียงเอี้ยมสีชมพูเก่าหม่นปกปิดหน้าอกผอมแห้ง “อุ้ย เอี๊ยมหน้าตาเหมือนที่บรรยายไว้ในนิยายเลยอ่ะ แต่เก่าไปหน่อยนะ ร่างกายนี้ก็แสนบอบบางเหลือเกิน เอาไว้คนสวยจะบำรุงให้มีน้ำมีนวลเอง ไม่ต้องห่วงนะมู่หนิงชิง” ปากก็พร่ำปลอบใจร่างกายของตน มือก็เอื้อมไปปลดสายผูกด้านหลัง นางกำลังจะวางเอี๊ยมลงบนเตียง ทว่าสายตาเหลือบไปเห็นว่า เอี๊ยมตัวนี้มีผ้าซับตัดเย็บไว้คล้ายกระเป๋าซ่อนอยู่ด้านใน นางจึงหยิบขึ้นมาสำรวจดู และเมื่อลองสอดนิ้วเข้าไป ปลายนิ้วก็สัมผัสเข้ากับบางสิ่ง นางจึงดึงมันออกมาดู วัตถุสีแดงดูคุ้นตาปรากฏอยู่ในมือ “เอ๋ ทำไมมันดูเหมือนจี้หยกแดงอันนั้นนักนะ รึว่า…?!” ทันทีที่สิ้นคำกล่าว แสงสีขาววาบบังเกิดตรงหน้า มู่หนิงชิงหลับตาหนีแสงจ้านั้น และเมื่อลืมตาขึ้น สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า คือห้องครัวขนาดใหญ่ จากภัตตาคารสุดหรูของนางซึ่งอยู่ในอีกมิติก่อนหน้านี้! กรี๊ดดดด!!! ไม่เชื่อแต่อย่าหลบลู่ นางมีตัวช่วยเหมือนในนิยายหลายเรื่องที่เคยอ่านผ่านตากับเขาด้วยหรือนี่! มู่หนิงชิงเจ้ารอดแล้ววว แบบนี้ไม่อดตายแน่นอน! ร่างผอมบางที่สมควรจะเปลือยอก ในเวลานี้กลับสวมชุดเชฟอยู่เสียอย่างนั้น!! หญิงสาวตาโต ตกตะลึงกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น แต่กระนั้นยังมีสติพอ รับรู้ว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่า มิติ ซึ่งมาในลักษณะห้องครัวของภัตตาคาร ยอดเยี่ยมไปเลย! และที่นางดีใจจนเนื้อเต้น ก็เป็นเพราะของสด ของแห้ง เครื่องปรุงต่างๆ รวมถึงเครื่องดื่มทุกอย่างในครัวแห่งนี้ ล้วนเป็นของเกรดพรีเมี่ยม! ก็คนมันรักการกินเป็นชีวิตจิตใจทำอย่างไรได้ เจ้าของมิติห้องครัว มุ่งตรงไปยังห้องเก็บของสดขนาดใหญ่ และเมื่อก้าวเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความเย็นของห้องแช่ทันที “อู้ยยย สุดยอด ทุกสิ่งยังเหมือนเดิมเป๊ะ เอ๊ะ! แล้วนี่มันอะไร ทำไมมีป้ายบอกราคาด้วย” บนห่อของเนื้อวากิว(a5) ที่นางหยิบขึ้นมาดู ปรากฏราคาบอกไว้เป็นหน่วยเงินของมิตินี้ ซึ่งไม่แตกต่างจากเงินในยุคจีนโบราณ เรียวคิ้วงามมุ่นเข้ากันด้วยความข้องใจ อย่าบอกนะว่า… ทันใดนั้นเอง… ติ้ง!! หน้าจอดิจิตอลขนาดกระดาษA4 ปรากฏขึ้นตรงหน้ามู่หนิงชิง มีข้อความเขียนไว้ดังนี้ ยินดีต้อนรับสู่มิติแห่งความอิ่มหนำ ทางเข้าออกมิติแห่งนี้ คือหยกสีแดงรูปดอกโบตั๋นในมือของท่าน “นั่นปะไร!! ว่าแล้วเชียว เจออภินิหารหยกแดงจริงๆด้วย ถึงว่า…ตั้งราคาขายซะแพงยังกับคฤหาสน์ของหัวหน้าองค์กรลับ!” มู่หนิงชิงทุบกำปั้นลงบนฝ่ามืออีกข้างขณะกล่าวคำ จากนั้นจึงตั้งใจอ่านข้อความบนหน้าจอดิจิตอลต่อบทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย) หญิงสาวปรือตาฉ่ำน้ำตอบรับเขาอย่างลืมตัว "เจ้าเก่งเหลือเกิน อื้ออ ถูกใจข้ายิ่งนัก แรงอีกหน่อย อ๊าา ข้าเกือบถึงอีกแล้ว" เสียงครวญครางด้วยความสุขสมของหญิงสาว ดังเข้าหูชายหนุ่มอีกคนที่นั่งรออยู่ข้างห้อง มือแกร่งกำเข้ากันแน่นจนข้อนิ้วลั่น ถอนหายใจออกมาหนักหน่วง ก่อนยกจอกสุราขึ้นกระดกจนหมดในรวดเดียว ผู้ติดตามที่มาด้วยยืนก้มหลุบตาต่ำ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ผ่านไปแล้วสามเค่อ การเคลื่อนไหวในห้องข้างๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง อีกทั้งเสียงเนื้อกระทบกันเคล้าเสียงครวญครางด้วยความเมามันกลับดังขึ้นเรื่อยๆ ช่างเสียดแทงหูของผู้ได้ยินยิ่งนัก ปัง! "มันจะทำกันนานเกินไปแล้วนะ!" เขาตบโต๊ะด้วยความขุ่นเคือง เค้นเสียงเอ่ยลอดไรฟัน ใบหน้าหล่อเหลาดำทะมึนอย่างหงุดหงิด ผู้ติดตามยังคงเงียบงันไร้ซึ่งวาจา ทว่าต่างแอบคิดเหมือนกันไม่มีผิด 'ดูท่าเจ้าหนุ่มนั่นคงมีฝีไม้ลายมือเรื่องอย่างว่าน่าดู นางถึงได้ครางเสียงหลงขนาดนี้…' ราวสองเค่อต่อมาเสียงการเคลื่อนไหวก็เงียบลง ร่างกายเปลือยเปล่าขาวผ่องของหญิงสาว นอนทับอกแกร่งของชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม นางหอบหายใจจากความเหนื่อยอ่
บทที่ 79 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น) "หัวหน้าหมอหลวงฟ่งปรุงยาถอนพิษได้หรือไม่" สุรเสียงของซวินเหิงเยว่เต็มไปด้วยความกังวลขณะรับสั่งถาม หวายกงกงส่ายหน้า “ท่านหมอฟ่งกำลังตรวจสอบหาที่มาของพิษอยู่พะย่ะค่ะ หากไม่ทราบว่าเป็นพิษชนิดใด ก็มิอาจปรุงยาถอนได้ ระหว่างนี้จึงได้ทำการฝังเข็มเพื่อชะลอการแพร่กระจายของพิษไว้ก่อน“ "กงกงโปรดรออยู่ที่นี่สักครู่" รับสั่งเสร็จก็เดินหายไปยังห้องนอน และกลับออกมาพร้อมกล่องใบเล็กในมือ ก้มลงกระซิบบางอย่างกับหวายกงกง วันรุ่งขึ้นข่าวเรื่องฮ่องเต้ประชวรได้ถูกแจ้งแก่ขุนนางที่มารอประชุมเช้า ราชกิจทั้งหลายถูกโอนไปให้องค์รัชทายาทรับผิดชอบแทนชั่วคราว ตำหนักหวงหยาง องค์ชายห้าซวินเหอเยี่ยนสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม หลังจากกลับออกมาจากวังหลวง ทั้งที่ปกติพระบิดาของเขามีพระวรกายแข็งแรงมาตลอด นานๆครั้งถึงจะเป็นหวัดเพราะต้องลมเย็นสักครา ทว่าจู่ๆกลับทรงประชวรหนักจนถึงขั้นมิอาจเข้าประชุมเช้า ครั้นจะขอเข้าเยี่ยมพระอาการ กลับถูกหวายกงกงห้ามไว้ โดยอ้างว่าที่ฝ่าบาทประชวร เป็นเพราะทรงเสียพระทัยเรื่องการสิ้นพระชนม์ของไทเฮา รวมทั้งเรื่องของฮองเฮาและตระกูลหลิน หัวหน้าหมอหลวงฟ่งกำชับให
บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนปลาย) "หรานซิง พวกเราไม่มีเวลาแล้ว หากเจ้าไม่ยอมร่วมมือกับข้า ตำแหน่งฮองเฮาที่เจ้าใฝ่ฝันคงกลายเป็นของผู้อื่น รีบตัดสินใจเสีย!" รับสั่งสุรเสียงเด็ดขาดจนคนฟังสะดุ้งเฮือก พระชายาหลินหรานซิงกำหมัดใต้แขนเสื้อแน่น สูดหายใจลึกหลุบดวงเนตรลงต่ำ พยักหน้ารับปากคำขอของสวามีอย่างจำใจ "ขอบใจเจ้ามากชายารัก ขอบใจจริงๆ" ซวินเทียนอวิ๋นดึงร่างระหงของชายาเอกมากอดแนบอก พร่ำบอกขอบใจนางซ้ำไปซ้ำมาด้วยความโล่งอก "แต่ว่า…จะไปหาคนผู้นั้นมาจากที่ไหนหรือเพคะ" หลินหรานซิงเอ่ยถามสวามีด้วยความกังวล แม้ภายในใจไม่ยินยอมแต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว นางก็ต้องให้ความร่วมมือ แม้ว่าหนทางนี้จะอันตราย "เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก็พอ" ช่วงสายของวันเดียวกันนั้น รถม้าไร้สัญลักษณ์จอดอยู่หน้าจวนเพื่อรอรับเอ้อร์หลิง ชายหนุ่มอยู่ในชุดสีขาวมีเสื้อคลุมกันหนาวสีดำคลุมทับ หันมาโบกมือร่ำลานายเหนือหัว และว่าที่นายหญิงด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนก้าวขึ้นรถม้าไป ราวหนึ่งครึ่งชั่วยามต่อมา รถม้าคันดังกล่าวได้จอดเทียบประตูทางเข้าด้านข้างหออ้ายเสิน หอโคมแดงชื่อดังของเมือ
บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนต้น) จิตสังหารแผ่ออกรอบพระวรกายฮ่องเต้ กดข่มหลินฮองเฮาจนแทบหายใจไม่ออก ดวงเนตรนางหงส์สั่นระริกรูม่านตาหดเล็กจากความกลัวที่ผุดขึ้นจากจิตใต้สำนึก โอรสสวรรค์ละพระหัตถ์จากดวงหน้าของหลินเจาถิง ยืนฟังนางแก้ตัวด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน "ฝ่า ฝ่าบาททะ ทรงรับสั่งเรื่องอะไรเพคะ นักพรตอะไรกัน ทรงไปฟังใครที่ไหนมาเพคะ เรื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนอะไรกันหม่อมฉันไม่เข้าใจ" ท่าทางของนางลนลานเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง ตัวนักพรตหวู่หุนเองตายไปนานแล้ว ถึงครอบครัวอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ แต่จะเอาหลักฐานอะไรมาปรักปรำนาง หนำซ้ำตอนที่ครอบครัวของนักพรตหวู่หุนเดินทางออกจากเมืองหลวง นางสั่งให้คนของสำนักคุ้มภัยตระกูลหลิน ตรวจค้นข้าวของที่พวกเขานำติดตัวไปรวมถึงค้นตัวของทุกคน ไม่มีจดหมายหรือเอกสารใดๆ ซุกซ่อนอยู่ทั้งสิ้น ทว่าสิ่งที่หลินฮองเฮาไม่รู้ นั่นคือเรื่องที่นักพรตหวู่หุนได้แอบส่งภาพวาดสำคัญ ฝากพ่อค้าที่รู้จักกันกลับไปยังแดนเหนือเพื่อมอบให้หลานชาย ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะล้มป่วย "หลินเจ้าถิง ข้ามีคำสารภาพผิดของนักพรตหวู่หุนอยู่ในมือ ถึงเจ้ายืนกรานปฏิเสธก็หนีไม่พ้น ชีวิตคนบริสุทธิ์มากมายเจ้าต้องชดใช้ให
บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนปลาย) ตำหนักเฟิ่งอัน ห้องบรรทมหลินฮองเฮา หน้าต่างห้องบรรทมถูกแง้มออก ร่างบางปีนเข้ามาด้านในโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ตามมาตรฐานจารชนมือฉกาจ แคปซูลยาสลบถูกจ่อใต้จมูกของฮองเฮา ราวห้าลมหายใจต่อมาเสียงฝ่ามือกระทบเนื้อก็ดังขึ้นต่อเนื่อง เพียะ! เพียะ! เพียะ!…เพียะ! เมื่อเห็นว่าใบหน้าของศัตรูบวมฉึ่งกลายเป็นหัวหมูเรียบร้อย กริชของเผ่าฮวาล่าที่ด้ามทำจากเขาสัตว์ฝังอัญมณี ซึ่งองค์หญิงลี่นาซามอบให้เป็นของขวัญ ถูกกรีดลงบนใบหน้าด้านขวาของหลินเจาถิง บริเวณเดียวกันกับใบหน้าของเฉินชิงเหอ ถือเป็นการเอาคืนเล็กน้อยให้บิดาของนาง ก่อนกลับมาจัดการให้สมน้ำสมเนื้ออีกทีที่หลัง จากนั้นจึงปีนขึ้นไปบนเตียง ดึงเอาร่างไร้ศีรษะของว่านไทเฮาออกมาจากมิติ วางลงข้างกายหลินเจาถิง จัดท่าให้ฮองเฮานอนกอดร่างไร้วิญญาณของคู่แค้นราวกับกำลังโอบกอดคนรัก…พรุ่งนี้ตื่นมาคงมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นในวังหลังอย่างไม่ต้องสงสัย ยามรุ่งอรุณของวันถัดมา ท้องฟ้าสีครามปราศจากเมฆหมอกบดบัง แสงแดดอบอุ่นยามเช้าสาดส่องโลมไล้หิมะสีขาว เกิดประกายระยิบระยับพร่างพรางราวอัญมณีล้อแสง พาให้จิตใจผ่องใสสดชื่นในเช
บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนต้น) หลังจากถูกเซียวหนิงชิงเล่นงานปางตายในคืนนั้น ว่านไทเฮาก็ย้ายตำหนักมาอยู่อีกฝากฝั่งของวังหลัง นางไม่กล้าพำนักอยู่ ณ ตำหนักเดิมอีกต่อไป ด้วยเพราะกลัววิญญาณร้ายจะตามมาหลอกหลอน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ซู่หมัวมัวและนางกำนัลคนสนิทอีกสองนาง จึงถูกสั่งให้มานอนเฝ้าหน้าเตียงเป็นเพื่อนว่านไทเฮา เซียวหนิงชิงเพ่งเนตรปีศาจกวาดตามองไปทั่ววังหลัง เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆนางก็พบห้องบรรทมใหม่ของว่านซวงเถียน "ชิ คิดว่าหนีพ้นเงื้อมมือข้าไปได้อย่างนั้นรึยัยแก่ เตรียมตัวลงนรกไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเสียเถอะ ซีซี พวกเราไปหายายแก่ว่านซวงเถียนกันเถอะนะ" เมี้ยวววว แมวทิพย์ตอบรับเสียงหวาน มันไม่เคยขัดใจนางทาสอยู่แล้ว ไปไหนไปกันซีซีพร้อมเสมอ หน้าต่างห้องบรรทมที่ลงกลอนจากภายใน ถูกแมวทิพย์ที่สามารถเดินทะลุผนังได้ปลดกลอนออก ผู้มาเยือนยามวิกาลย่องมาเข้าอย่างเงียบเชียบ จ่อแคปซูลยาสลบไปที่ใต้จมูกของซู่หมัวมัวและนางกำนัลอีกสองคน "เรียบร้อย จะได้ไม่มีใครมาขัดจังหวะช่วงเวลาเยี่ยมผู้ป่วยของคนสวย" ร่างบางก้าวข้ามตัวของหมัวมัวและปีนขึ้นไปบนเตียงของว่านไทเฮา ดวงตาเมล็