Share

ตอนที่ 6 คำสั่งห้ามเข้าใกล้

last update Last Updated: 2025-10-11 14:38:42

ตอนที่ 6

คำสั่งห้ามเข้าใกล้

บ่ายวันหนึ่งในจวนสกุลเฟิง ท้องฟ้าเหนือเรือนกระจ่างใส แต่ในศาลากลางสระบัวกลับปกคลุมด้วยความเงียบและแรงกดดันแผ่ว ๆ จากผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญ

องค์ชายสามหลี่อวี้เหิง เขาอยู่ในชุดคลุมสีดำสนิท ยืนสงบนิ่งราวกับเงามืด อยู่ที่ทางเข้าศาลา

ตรงข้ามเขา เฟิงเหม่ยหลินนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ประณีตกลางศาลา เธอดื่มชาอย่างไม่เร่งรีบ ราวกับไม่ได้สนใจสายตาคมที่จ้องมองเธอแม้แต่น้อย

“ข้าไม่ได้คิดจะมาเยี่ยมเยียน แต่มีบางเรื่องที่ข้าไม่อาจนิ่งเฉยได้”

หลังจากยืนนิ่งอยู่นานเขาก็พูดขึ้น น้ำเสียงของเขาเรียบ เยือกเย็น ทว่าแฝงด้วยแรงสะกดดวงตาเรียวหรี่ลงเล็กน้อย

“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าซูเยี่ยนแอบมาหาเจ้าทุกวัน”

เฟิงเหม่ยหลินไม่ตอบทันที เธอวางถ้วยชาลงเบา ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้า สายตาคู่นั้นนิ่ง เย็นชา และเรียบเฉยราวกับน้ำแข็งที่ไม่ยอมละลาย

“ข้ารู้”

เพียงคำเดียว น้ำเสียงแผ่วเบา ทว่านิ่งเสียจนคล้ายจะกระแทกอากาศรอบตัว

หลี่อวี้เหิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เจ้ากำลังใช้วิธีตีสนิทกับนาง เพื่อให้ทุกคนตายใจ แล้วกลับเข้าสู่วงในของวังหลวงใช่หรือไม่”

หลังองค์ชายสามพูดจบ เฟิงเหม่ยหลินก็หัวเราะเบา ๆ ราวกับได้ยินเรื่องขบขัน

เธอเอนตัวพิงเก้าอี้เล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเดิม

“ถ้าท่านกลัวนัก ก็ล่ามโซ่นางไว้เสียสิ”

ถ้อยคำเรียบง่าย แต่แรงพอจะทำให้องค์ชายสามชะงักไปครู่หนึ่ง

เขาไม่คิดว่าเฟิงเหม่ยหลินจะกล้าพูดกับเขา ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยเยี่ยงนี้

“เจ้า” หลี่อวี้เหิงจ้องเธอนิ่ง ดวงตาคมวาว “เจ้ากำลังวางแผนร้ายอีกครั้งใช่หรือไม่ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร”

เฟิงเหม่ยหลินยกถ้วยชาขึ้นอีกครั้ง ดวงตายังสบกับเขาอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะคลี่ยิ้มเหยาะเล็กน้อยที่มุมปาก

“ท่านรู้” เธอจิบชาเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงราบเรียบ แต่แฝงความหมิ่นแคลนจาง ๆ “ข้าคิดว่าท่านจะฉลาดกว่านี้เสียอีก”

ดวงตาขององค์ชายสามไหววูบ ในวินาทีนั้น เขาไม่แน่ใจว่าหญิงตรงหน้า คือเฟิงเหม่ยหลินคนเดิมที่เขารู้จักจริงหรือไม่

เธอสงบขึ้น ไม่โวยวาย ไม่ยื้อแย่ง ไม่แสดงตัวเด่น แต่กลับมีแรงกดดันบางอย่าง ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกมองทะลุ

ไม่ใช่ด้วยไฟแค้น แต่ด้วยแววตาของคนที่ไม่สนใจเขาอีกแล้ว

“เจ้าเปลี่ยนไป” เขากล่าวเสียงเบา เหมือนเป็นคำพูดกับตัวเอง

เฟิงเหม่ยหลินเพียงยกยิ้มจาง ๆ วางถ้วยชาลงเบา ๆ ก่อนจะหันหน้ามองสวนที่มีดอกเหมยผลิบานอยู่ไกล ๆ

“ข้าไม่ได้เปลี่ยน ข้าแค่ไม่อยากเสียเวลาทำเรื่องเดิมซ้ำอีก จะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ท่านองค์ชาย”

เหม่ยหลินพุดแค่นั้น แล้วเธอก็มองออกไปข้างนอนศาลาอย่างไม่สนใจคนที่ยื่นอยู่ เหมือนกลับกำลังบอกว่าให้เขากลับไปได้แล้ว

องค์ชายสามเลยได้แต่หันหลังด้วยความหงุดหงิด แล้วหันหลังเดินจากไป

ช่วงบ่ายของวันนั้นหลังจากองค์ชายสามกลับไปได้นานแล้ว ฟ้าสีครามโปร่ง ลมฤดูใบไม้ผลิพัดเอื่อยผ่านระเบียง เฟิงเหม่ยหลินยังคงนั่งอยู่ในศาลาเล็กของเรือนหลัง นิ่ง เงียบ

แต่เสียงฝีเท้าเร่งรีบกับเสียงเอ่ยชื่อของคนที่จากสาวใช้ กลับทำให้หัวใจของเธอสะดุดจังหวะขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“คุณหนูดเจ้าคะ คุณหนูซูมาแล้วเจ้าค่ะ”

เมื่อหญิงสาวในชุดสีฟ้าอ่อนก้าวเข้ามา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแฝงความเก้อเขิน ราวกับเด็กที่ทำผิดแล้วกลับมาขอโทษ

“ข้าขอโทษนะ ที่หายไปหลายวัน”

ซูเยี่ยนกล่าวเสียงแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ เฟิงเหม่ยหลินไม่ได้ถามอะไร เธอเพียงยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างเงียบ ๆ เหมือนเช่นเคย

“ข้ารู้ว่าองค์ชายสามมาหาเจ้า ข้าขอโทษเจ้าแทนเขาด้วย” เสียงของซูเยี่ยนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

เฟิงเหม่ยหลินกลับส่ายหน้าเบา ๆ พลางวางถ้วยชาลง แล้วเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง

“ไม่เป็นไรหรอก เขาทำไปเพราะรักเจ้าก็เท่านั้น”

เพียงคำเดียว ทำให้แก้มของซูเยี่ยนแดงเรื่อขึ้นทันที นางเบือนหน้าหนีเล็กน้อยอย่างเขินอาย ไม่กล้าสบตา

เฟิงเหม่ยหลินเห็นเข้าก็หลุดยิ้มบาง ๆ ออกมาโดยไม่ตั้งใจ ไม่ใช่ยิ้มเย็นชา ไม่ใช่ยิ้มดูแคลน แต่เป็นรอยยิ้มอบอุ่น นุ่มนวล ราวกับแดดยามเช้าในวันที่ไม่มีหมอก

ซูเยี่ยนเงยหน้าขึ้นสบตานาง แล้วชะงัก ดวงตาของนางเบิกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเผยอเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนจะยิ้มออกมาทั้งใบหน้า

“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ข้าเห็นเจ้ายิ้มแบบนี้”

เฟิงเหม่ยหลินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “แบบไหน”

ซูเยี่ยนยิ้มกว้างกว่าเดิมก่อนจะตอบ “ไม่ใช่ยิ้มเย็น ๆ แบบเดิมที่เหมือนซ่อนไม้เรียวไว้ข้างหลัง แต่เป็นรอยยิ้มที่สบายตา และทำให้คนอยากมอง” นางพยายามอธิบาย ก่อนจะพูดต่อ

“ข้าว่าเจ้าควรจะยิ้มบ่อย ๆ นะ เพราะเวลาที่เจ้ายิ้มเจ้าสวยมากเลย”

เฟิงเหม่ยหลินนิ่งไปชั่วครู่ ไม่ใช่เพราะเขิน แต่เพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอะไรดี

เธอไม่ชินกับคำชม ไม่ชินกับความจริงใจ และไม่ชินกับความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่แฝงผลประโยชน์ใด เธอเพียงเบือนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้งแทนคำตอบ

หลังจากพูดคุยกันอีกครู่ใหญ่ ซูเยี่ยนก็ลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ ขณะกำลังจะก้าวลงจากศาลา เธอหันกลับมาอีกครั้งแล้วยิ้มบาง ๆ ด้วยแววตาที่ซื่อตรง

“ถ้าท่านคิดถึงข้า จะไปหาข้าที่จวนตระกูลซูเมื่อไรก็ได้นะ ทุกคนที่นั่นยินดีต้อนรับท่านเสมอ”

เฟิงเหม่ยหลินเพียงพยักหน้าไม่พูดตอบอะไร แต่ในใจกลับมีเสียงหัวเราะแผ่วเบา

“ยินดีต้อนรับหรือ ข้าแค่เหยียบเข้าลานจวน เจ้าแม่ทัพนั่นคงจะโยนข้าออกหน้าประตูเสียมากกว่า”

เมื่อเงาหลังของซูเยี่ยนลับสายตา เฟิงเหม่ยหลินก็หันกลับมามองถ้วยชาในมืออย่างเงียบ ๆ

“นางพูดว่ายิ้มแล้วสวยหรือ” นิ้วเรียวแตะริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ ราวกับจะจดจำความรู้สึกนั้นไว้

“บางที ข้าอาจควรเริ่มทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนบ้างก็ได้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 20 คำปลอบใจจากแม่ทัพ

    ตอนที่ 20คำปลอบใจจากแม่ทัพแสงแดดยามเช้าส่องลอดม่านผ้าของรถม้าเข้ามาอย่างแผ่วเบา ทอแสงอบอุ่นให้กับบรรยากาศเงียบงันภายในเหม่ยหลินนั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของเบาะรถม้า ใบหน้าเรียบเฉย สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย เธอไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่เช้า ไม่แม้แต่จะสบตากับใคร แม้ซูเยี่ยนและเหวินซีจะพยายามพูดคุย เปลี่ยนเรื่องเล่า หรือหยอกล้อคลายความตึงเครียด แต่เธอก็ยังคงนิ่งเหมือนวิญญาณบางส่วนของเธอ ยังคงติดอยู่ที่บ้านร้างเมื่อคืน“เหม่ยหลิน” เสียงของซูเยี่ยนดังขึ้นเบา ๆ ขณะที่จับมือเธอไว้แน่น “เจ้าทำเพื่อช่วยข้า ข้ารอดเพราะเจ้า”แต่เหม่ยหลินกลับค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองมือของตนเอง ที่แขนเธอยังมีผ้าพันแผลสีขาวสะอาดหุ้มบาดแผลเอาไว้เธอขยับริมฝีปากช้า ๆ “ข้าฆ่าคนไปแล้วจริง ๆ” เสียงแผ่วเบาแต่ชัดเจน ราวกับลมที่พัดผ่านกลางใจคนทั้งรถม้าซูเยี่ยนชะงัก หันไปมองเหวินซี ก่อนทั้งสองจะพุ่งเข้ากอดเธอแน่นในเวลาเดียวกัน“เจ้าทำไปเพราะไม่มีทางเลือก เพราะเจ้าปกป้องพวกข้า” เสียงทั้งสองคนดังสลับกัน พยายามกล่อมความรู้สึกในใจของหญิงสาวผู้กำลังสั่นเทาอยู่เงียบ ๆและเมื่ออ้อมกอดอบอุ่นโอบเธอไว้ สิ่งที่เธอกดไว้ในใจมาต

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 19 โจรป่าบุก

    ตอนที่ 19 โจรป่าบุกเสียงฝนที่เคยซัดสาดตลอดคืนเริ่มเบาลงจนกลายเป็นเสียงพรำเบา ๆ ก่อนจะหยุดลงในที่สุด เหลือเพียงกลิ่นดินเปียกชื้นที่โชยเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่ผุพังท่ามกลางความเงียบสงัดยามค่ำคืน ภายในบ้านร้างหลังเก่าที่เต็มไปด้วยผู้คนที่หลับใหลบนที่นอนที่ทำอย่างง่าย ๆ กลับมีเพียงชายคนหนึ่งที่ยังคงลืมตาหมิงเฉิน ยังคงนั่งนิ่งอยู่ในเงามืด ใกล้กับองค์ชายอี้เหิง สายตาของเขาหลุบต่ำอย่างใจเย็น แต่ในความนิ่งนั้นกลับเต็มไปด้วยแรงตื่นตัว เขาเคยอยู่ในสนามรบมาก่อน เขารู้จัก “ความเงียบผิดปกติ” ได้ดีเสียงฝีเท้าเบา ๆ แว่วมาแทบจะไม่ต่างจากเสียงฝนหยด แต่สำหรับเขา มันชัดเจนราวกับเสียงฟ้าร้อง“มีคนกำลังมา” เขากระซิบเบา ๆ ให้กับอี้เหิง ก่อนจะขยับมือทำสัญญาณไปทางทหารองครักษ์ที่อยู่อีกฝั่งทันใดนั้น กลุ่มทหารเริ่มตื่นตัวอย่างเงียบเชียบ มือข้างหนึ่งเลื่อนไปจับด้ามดาบ แต่อีกข้างยังไม่ยกขึ้นรอคำสั่งหมิงเฉินขยับลุกขึ้น ก่อนจะเดินเบา ๆ ไปยังมุมที่เหล่าหญิงสาวนอนอยู่ เขาหยุดอยู่หน้าเหม่ยหลิน และโน้มตัวลงแตะไหล่เธอเบา ๆเธอลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่ทันทีที่เห็นแววตาจริงจังของเขา เธอก็เงียบลง“ท่านมีอะไร” เธ

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 18 ขี่ม้ากลับเมืองหลวง

    ตอนที่ 18ขี่ม้ากลับเมืองหลวงแสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านกลุ่มแมกไม้สองข้างทาง ถนนที่ทอดยาวจากเมืองเจียงหลินกลับสู่เมืองหลวงเงียบสงบ มีเพียงเสียงฝีเท้าม้าเป็นจังหวะและเสียงล้อรถม้าที่บดไปตามทางดินแต่ที่เป็นจุดสนใจที่สุดกลับไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเฟิงเหม่ยหลินหญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้าศึกตัวใหญ่ขององค์ชายสามจริง ๆ ม้าสีดำขลับสูงใหญ่ แข็งแกร่งแม้จะไม่ได้พยศ แต่ก็ไม่ใช่ม้าสำหรับสุภาพสตรีเลยแม้แต่น้อย ทว่าภาพที่เห็นกลับช่างเหมาะเจาะหญิงสาวในชุดคุณหนูตระกูลใหญ่ ปักลวดลายอย่างประณีต เธอนั่งอยู่บนเบาะม้าอย่างมั่นคง ผมยาวถูกรวบครึ่งศีรษะด้วยปิ่นหยกเรียบ ๆ แต่กลับดูสง่างามเกินใคร ริมฝีปากทาสีอ่อนเฉดชมพูระเรื่อ รับกับใบหน้าเรียวที่ไม่ต้องยิ้มก็ตรึงสายตาคนได้ทั้งขบวนท่าทางการนั่งหลังตรงนั้นไม่ได้บ่งบอกความอ่อนช้อยตามแบบคุณหนูผู้สูงศักดิ์ แต่กลับแฝงความ นิ่ง เรียบ และเย่อหยิ่งอย่างเงียบงันคนมองไม่อาจละสายตาได้ไม่เว้นแม้แต่พวกสาวใช้ที่เดินตามขบวนอยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นภาพนั้นเข้าพวกนางก็เริ่มมีเสียงซุบซิบกันขึ้นมาเบา ๆ“คุณหนูเฟิงนั่งบนหลังม้าขององค์ชายสามเชียว นั่นม้าศึกนะ”“นางคงยั่วยวนองค์ชายจ

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 17 มีคนมาสู่ขอ

    ตอนที่ 17 มีคนมาสู่ขอเช้าวันถัดมา ท้องฟ้าโปร่งใส ลมเย็นพัดเบา ๆ แต่บรรยากาศสงบในยามเช้ากลับถูกรบกวนด้วยเสียงจอแจของผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาที่หน้าจวน ไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไป แต่เป็นหญิงวัยกลางคนแต่งกายงดงาม พร้อมด้วยบุตรชายทั้งหลายที่ถูกแต่งตัวเสียจนแทบไม่เหลือเค้าของลูกชาวเมือง“คุณหนูเฟิงออกมายังเจ้าคะ” เสียงของหญิงกลางคนพวกนั้นถาม“ลูกข้าร่ำเรียนที่สำนักหลวง ท่านหญิงลองคุยดูได้นะเจ้าคะ”“ลูกชายข้าเองก็เพิ่งสอบได้ที่หนึ่งในเมือง”เสียงเหล่าแม่ ๆ ดังอื้ออึงจนข้ารับใช้ในจวนต้องรีบมาตามพวกเธอออกไปดูเหม่ยหลินที่ยังงุนงงกับบรรยากาศก็เดินออกมาที่หน้าจวนพร้อมกับหมิงเฉินและซูเยี่ยน ทันทีที่หญิงสาวก้าวออกมาจากประตูหลัก สายตาทั้งหมดก็จับจ้องมาที่เธอราวกับเจอเป้าหมายทองคำ“นั่นนางใช่หรือไม่”“ใช่จริง ๆ ด้วย นางสวยมาก สวยกว่าที่ข่าวเล่าอีก”“ใช่ และนางช่างดูสง่างาม”เหม่ยหลินเบิกตากว้างก่อนจะชะงักเท้า เหล่าบรรดาแม่ ๆ พร้อมลูกชายเริ่มพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ประหนึ่งกำลังจะเข้าร่วมงานเลือกเขยหลวงเธอเบี่ยงตัวถอยหลังทันที ก่อนจะหันขวับไปมองหมิงเฉิน แล้วพึมพำอย่างร้อนรน“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย”

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 16 ความสามารถที่คาดไม่ถึง

    ตอนที่ 16ความสามารถที่คาดไม่ถึงแสงแดดอ่อนยามสายส่องลอดต้นไม้ใหญ่ข้างทางสาดเข้ามาในรถม้าเป็นระยะ รถม้ายังคงเคลื่อนไปบนเส้นทางผ่านป่าเขา บนถนนที่เต็มไปด้วยก้อนหินและหลุมบ่อจนนั่งแทบไม่ติดเบาะเฟิงเหม่ยหลินเอนหลังพิงเบาะไม้ พลางถอนหายใจยาว นางหลับตาอย่างอ่อนล้า ก่อนจะพึมพำเสียงแผ่ว“เมื่อไรจะถึงกันนะ ข้าอยากลงไปเดินเสียให้รู้แล้วรู้รอด”ซูเยี่ยนที่นั่งข้าง ๆ อดยิ้มขำไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน “อดทนอีกนิด พรุ่งนี้ก็ถึงเมืองเจียงหลินแล้ว เจ้าเก่งอยู่แล้วนี่ เหลือแค่อึดใจเดียวเอง”เหวินซีที่นั่งฝั่งตรงข้ามหยิบพัดขึ้นมากางด้วยท่าทางสบาย ๆ ก่อนจะหรี่ตาลง“เฟิงเหม่ยหลินคนเมื่อวาน ที่ตบคุณหนูจนทรุดไปนอนกองอยู่กับพื้นนั่นหายไปไหนแล้วนะ หรือว่าตัวจริงคือเฟิงเหม่ยหลินขี้บ่นคนนี้กันแน่”เหม่ยหลินลืมตาช้า ๆ หันขวับไปมองเหวินซีด้วยแววตานิ่งสนิท ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดจากริมฝีปากของนาง เพราะในตอนนี้เธอเวียนหัวเกินกว่าจะเถียงกลับได้“…”ซูเยี่ยนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ก่อนจะยื่นน้ำให้เหม่ยหลิน “เจ้าหลับไปสักหน่อยดีไหม เดี๋ยวถึงที่พักจะได้มีแรงเดินเล่น”เหม่ยหลินเพียงพยักหน้าเบา ๆ พลางรับถ้วยน้ำไปจิบช้า

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 15 เสียงบ่นระหว่างเดินทาง

    ตอนที่ 15เสียงบ่นระหว่างเดินทางเสียงฝีเท้าม้าชะลอลงพร้อมกับเสียงโบกมือสั่งของทหารหน้าขบวน“หยุดพักที่นี่ครึ่งชั่วยาม”รถม้าหลายคันค่อย ๆ จอดเรียงรายใต้ร่มไม้ใหญ่ริมทาง มีเสียงนกเบา ๆ จากลำธารใกล้ ๆ ดังคลอไปกับเสียงแมลงยามเย็น สายลมพัดแผ่วจนชายผ้าคลุมบางสะบัดพลิ้วเหม่ยหลินก้าวลงจากรถม้าด้วยความโล่งอกสุดหัวใจ “ข้านึกว่าข้าจะตายคารถม้าแล้วจริง ๆ”ซูเยี่ยนลงตามหลังมาก่อนจะหัวเราะ “ถ้าเจ้าบ่นแบบนี้อีกวันนี้ข้าคงหูชาแน่”เหวินซีเดินถือพัดเข้ามาสมทบ “แต่ก็ดีที่พักตรงนี้ มีลำธารใกล้ ๆ ข้าเองก็อยากล้างหน้าเสียหน่อย”“เจ้าจะตามข้ามาไหม” ซูเยี่ยนหันมาชวนเหม่ยหลิน“ข้า” เธอลังเลนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “ก็ได้ แต่อย่าลากข้าลงไปเล่นน้ำก็พอ”ซูเยี่ยนหัวเราะคิก “เจ้าชั่งรู้ใจข้าดีเหลือเกิน”ทั้งสามเดินแยกออกไปที่ลำธาร ปล่อยให้เหล่าทหารจัดเตรียมจุดพัก จัดเวรยาม และจุดเตาถ้วยน้ำชาหลังล้างหน้าและเปลี่ยนลมหายใจให้สดชื่น เหม่ยหลินก็แยกตัวออกมาเล็กน้อย เดินไปนั่งยังโขดหินริมน้ำ ละสายตาไปยังผิวน้ำที่ไหลเอื่อย สะท้อนแสงเย็นยามตะวันใกล้ตกดินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นทางด้านหลัง ก่อนที่หมิงเฉินจะเดินมาหย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status