“หึ! กำลังคิดถึงบุรุษผู้นั้นอยู่หรือ”
ชุนฟางชินระบายยิ้มกว้าง “เช่นนั้นก็ทำให้ข้าลืมเขาเสีย” มุมปากหนาค่อยๆ โค้งยกยิ้มขึ้น “แล้วเจ้าจะร้องเรียกครวญครางหาแต่ข้าแม่นาง” ไป๋เฟิ่งอี้เชิดปลายคางขึ้นก่อนจะโน้มตัวลงไปประทับจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปในโพลงปากกวาดชิมความหวานอย่างหื่นกระหาย “อืออ..อื้ออ!” น้ำเสียงหวานครวญครางออกมาอย่างหื่นกระหาย เรือนร่างอรชรของนางพลางบิดเร้าดิ้นพร่าอยู่ไม่สุข รสจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนทำให้นางแทบคลั่ง สองแขนเรียวของนางยกขึ้นโอบกอดคล้องคอบุรุษบนร่างจากนั้นจึงใช้มือลูบไล้ไปทั่วทั้งร่างกำยำอย่างสะเปะสะปะก่อนที่จะเลื่อนต่ำลงมากอบกุมยังเอ็นอวบที่แข็งทื่อชี้อยู่ตรงหน้าท้องแบนราบของนาง น้ำเสียงทุ้มครางอย่างพึงพอใจ “อื้มม…” เพียงแค่มือนุ่มนิ่มของนางสัมผัสแตะลงนั้น เอ็นอวบของเขาก็พลางสั่นกระตุกริกๆ จนไป๋เฟิ่งอี้ต้องกัดฟันกรอด ร่างของเขาพลันร้อนวูบวาบขึ้นมา “อื้มม…” “อา..คิดจะสังหารข้าหรืออย่างไร” ไป๋เฟิ่งอี้กัดฟันกรอด น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างแหบพร่า สายตาคมกริบจ้องสบตานัยน์ตาเมล็ดซิ่งใต้ร่างอย่างหวานเยิ้ม “อ๊ะะ…” จู่ๆ ในจังหวะเดียวกันนั้น ชุนฟางชินสะดุ้งพลันหวีดร้องออกมาเสียงหลง นิ้วมือเรียวและสัมผัสเย็นเฉียบแตะลงใจกลางสาวของนางที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวาน ชุนฟางชินสั่นทึ่มขนลุกซู่ด้วยความเสียวกระสันไม่น้อย ใบหน้าคนงามพลางบิดเบี้ยวเหยเก สายตาคมกริบยามนี้เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “แม่นางเสร็จสมไปหลายครั้งหลายคราแต่เหตุใดส่วนนี้ยังเปียกชื้นอีกอยู่เล่า” ไป๋เฟิ่งอี้จงใจกลั่นแกล้งอีกฝ่าย นิ้วมือเรียวยาวแหวกกลีบดอกไม้ยามออกจากก่อนลูบไล้บดขยี้เม็ดติ่งจนสตรีใต้ร่างพลันสั่นสะดุ้งส่งเสียงครวญครางออกมา “หึ!” สตรีผู้นี้ช่างร่านเสียจริง! นึกไม่ถึงว่ายามนี้เขากำลังเสพสมอยู่กับภรรยาผู้อื่นอยู่ “อร๊างงงส์…อ..ย่าตรงนั่น!” “หื้ม” ไป๋เฟิ่งอี้เลิกคิ้วถามก่อนจะบดขยี้อีกครั้ง “เพราะเหตุใดงั้นหรือ” สองขาเรียวของชุนฟางชินสั่นระริก “อ่าา…อ๊ะ! อาา” นางพลางหอบหายใจถี่ “เสียว! ข้าเสียวเจ้าค่ะ” ว่ากันตามตรงแล้วไม่น้อย ดูเหมือนว่าร่างกายของนางจะโอนอ่อน…ไม่ว่าบุรุษผู้นี้ปรสเปรอกระทำสิ่งใดล้วนตอบรับชื่นชอบอยู่มาก ยิ่งเห็นนางบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวซ่าน เขายิ่งอยากจะกลั่นแกล้ง “อร๊าางงส์..คุณชายหยุดอ๊ะ!..เถอะ” ไป๋เฟิ่งอี้ค่อยๆ สอดแทรกนิ้วมือเข้าไปในโพรงอุ่นนุ่มของอีกฝ่ายในขณะเดียวกันพลันถูกบีบรัดแน่นจนเขาต้องกันฟันกรอด “เฟิ่งอี้..ครางชื่อข้า” น้ำเสียงทุ้มปนออกคำสั่ง เอ็นอวบของเขาพลางสั่นกระตุกริกๆ อยากจะเข้าไปเต็มที ไป๋เฟิ่งอี้กัดฟันกรอดก่อนจะเปลี่ยนจากหนึ่งเป็นสองนิ้วขยับสอดใส่เข้าในรูสวาทเปียกชื้นของนาง “อ๊าา…อื้! เฟิ่งอี้” ชุนฟางชินร้องครวญครางอย่างว่าง่าย “อาา..ดูเจ้าเสียนี่เพียงนิ้วมือเท่านั้น ปากเอ่ยร้องขอให้หยุดแต่กลับร่านขมิบตอดรัดแน่น” เพียงแค่นิ้วมือก็ทำให้นางเสียวซ่านได้เช่นกัน! ทว่านางต้องการมากกว่านี้! ชุนฟางชินเพ่งมองตาขวาง “รีบเปลี่ยนจากนิ้วมือเป็นสิ่งอื่นเถอะ” ไป๋เฟิ่งอี้หัวเราะเสียงเย็น เขายังนึกสนุกอยากกลั่นแกล้งอีกฝ่ายอยู่ “สิ่งใดกันเขา” ภายในรูสวาทของนางทั้งอุ่นและนุ่มไม่น้อย เขาพลางกัดฟันกรอดอดกลั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฝ่ามือหนาอีกข้างยกขึ้นไปกอบกุมหน้าอกอวบอิ่มก่อนจะขดขยี้เม็ดปทุมทันที่แข็งทื่อแทน “อ๊าา…” ร่างอรชรของนางบิดเร้าไปมา ยามนี้อารมณ์ของนางหื่นกระหายไม่น้อย “ข้าต้องการเอ็นอวบของท่าน..เฟิ่งอี้” “งั้นหรือ” ไป๋เฟิ่งอี้เลิกคิ้วถาม “รีบใส่เข้ามาเถอะ!” ปลั่กกกก! “อร๊างงง..อ๊า! เฟิ่งอี้” ความอดทนของไป๋เฟิ่งอี้มีไม่มากนัก ทันทีที่สิ้นสุดถ้อยคำนั้นเขาพลางดึงนิ้วมือกลับก่อนจะจับแก่นกายจ่อไปยังรูสวาทที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำหวานสีใสจากนั้นจึงออกแรงกดกระแทกเข้าไปที่เดียวสุดมิดลำ ไป๋เฟิ่งอี้กัดฟันกรอด “อาา..ผ่อนคลายเสีย” เหตุใดรูสวาทของนางถึงได้คับแน่นเพียงนี้ “อื้ออ…อ๊า” ชุนฟางชินส่ายหน้าไปมา ใบหน้าคนงามเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ ลมหายใจหอบถี่จนหน้าอกกระเพื่อมสั่นไหว ภายในช่องท้องของนางทั้งแน่นและจุกไปพร้อมๆ กัน เหตุใดส่วนนั้นของเขาถึงได้ใหญ่โตเพียงนี้ “แม่นางรัดข้าแน่นไปแล้ว” “ขยับเถอะ! มารดาจะตายอยู่แล้ว” นางไม่ไหวแล้ว มันทั้งใหญ่และคับแน่นเหลือเกินเสมือนว่าส่วนนั้นคล้ายจะฉีกขาด ปัก! ปัก! ปัก!! หากนางอ้อนวอนร้องเขาเพียงนี้ไฉนไป๋เฟิ่งอี้จะปฏิเสธได้ สะโพกแกร่งออกแรงขยับโหมกระแทกใส่สตรีใต้ร่าง แม้ว่ารูสวาทของนางจะเปียกชื้นแล้วอย่างไรทว่ากับบีบรัดเขาแน่นจนปวดหนึบไม่น้อย “อ๊าา! อ๊า! อร๊างงส์!” ชุนฟางชินส่งเสียงร้องครวญคราง ยามที่เอ็นอวบกระแทกเข้าใส่จนสุดโคนนั้นพลันชิดขอบข้างในจนนางสั่นกระตุกเกร็ง ปั่กกกๆๆๆ ปลั่ก! อารมณ์ของไป๋เฟิ่งอี้ในยามนี้หื่นกระหายไม่น้อย ใบหน้าหล่อเหล่าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ หัวใจแกร่งพลางเต้นกระหน่ำ นางกำลังทำให้เขาคลั่ง! สตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์ไม่น้อย! ฝ่ามือหนาจับเอวคอดไว้แน่นจากนั้นจึงออกแรงขยับสะโพกโหมกระแทกใส่สตรีใต้ร่างไม่ยั้งตามห้วงอารมณ์หื่นกระหาย ไป๋เฟิ่งอี้กัดฟันกรอดครั้งแล้วครั้งเล่าจนขึ้นเป็นสันกราม “อาา…อ่าส์” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าครางต่ำ ปั่กก! ตั่บบบๆๆๆ ตั่บ! ชุนฟางชินส่งเสียงครางจนแหบพร่า “อร๊างงงส์..เฟิ่งอี้อ๊า!” นางรู้สึกเสียวกระสันไปทั่งทั้งร่างจนต้องบิดเรียว ใบหน้าคนงามบิดเบี้ยวเหยเกไม่สู้ดี สองมือของนางวางบนหลังแกร่งของเขาพลางจิกข่วนระบายความเสียวซ่าน “อื้ออ…อร๊างง! อ๊ะ! แรงอ๊ะ! แรงเกินไป!” “อ่าาสส์..อือ!” ปั่ก! ปั่กกก! ปลั่กกๆๆๆๆ ยามนี้ไป๋เฟิ่งอี้ออกแรงโหมกระแทกใส่สตรีใต้ร่างไม่ยั้งตามห้วงอารมณ์หื่นกระหายที่พลุ่งพล่าน เรือนร่างของเขาร้อนรุ่มเดือดปุดๆ ยิ่งกว่าน้ำต้มในกา “อ่าาสสส..! สตรีร่าน” ปลั่กๆๆๆๆ “เฟิ่งอี้! อ๊าา! อ๊ะ!” ชุนฟางชินเอาแต่ส่งเสียงร้องครวญครางสุข ไป๋เฟิ่งอี้กัดฟันกรอด “ข้าหรือสามีของเจ้าดีกว่ากัน!” ปั่กก! ปั่ก! น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามเสียงกระเส่ามิหนำซ้ำยังออกแรงขยับสะโพกกระแทกแก่นใส่เข้าในรูสวาทลึกจนสุดโคน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นปนกับเสียงครวญคราง “อ๊าา..อร๊างงส์! ท่านอ๊ะ! แกล้งข้า” “หึ!” ปั่กกๆ ปั่ก! ปลั่ก!!ๆ “ข้าถามไมาได้ยินงั้นหรือ” ยามนี้หัวสมองของชุนฟางชินขาวโพลนมิหนำซ้ำยังไร้สติเกินกว่าจะขบคิดได้ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งหวานเยิ้มสบเข้ากับดวงตาคมกริบที่หื่นกระหาย น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้น “อร๊างงส์! ท่าน! เฟิ่งอี้!” มุมปากหนาค่อยๆ เหยียดยิ้มยกขึ้น ปลั่กกกๆๆๆ ปั่ก! “อ๊าาาง!...อร๊างงส์” ไป๋เฟิ่งอี้พึงพอใจกับคำตอบไม่น้อย “ข้าจะให้รางวัลที่เจ้าเป็นเด็กดี” ทันทีพอสิ้นสุดประโยคนั้น ไป๋เฟิ่งอี้ถอดแก่นกายออกมาจากรูสวาทของอีกฝ่าย สองขาเรียวของนางพลันสั่นกระตุกริกๆ งดงาม.. งาดงามไปหมดทุกส่วน... สายตาคมกริบของเขาจับจ้องยังใจกลางสาวทีเปียกชื้นมีน้ำเมือกสีใสไหลย้อนออกมา “อ๊ะ..อร๊างงส์” ชุนฟางชินนอนหอบหายใจเหนื่อย หน้าอกอวบพลันสั่นกระเพื่มอย่างรุนแรง ร่างของนางเมื่อชั่วอึกใจที่แล้วเบาหวิวเสมอว่ากำลังล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆแต่ทันใดนั้นพลันถูกกระชากให้ตกลงมาอย่างแรงจนดัง ตุบ! นางมองเขางุนงงด้วยความไม่เข้าใจ “…..” ไป๋เฟิ่งอี้ยิ่งมองเห็นท่าทางของนางแล้วยิ่งหัวเราะเสียงดัง “ใจเย็นๆ ก่อนเถอะแม่นาง” “ท่านคิดจะทำอันใด” “ทำให้แม่นางนึกถึงแต่ข้าอย่างไร” ในขณะที่ชุนฟางชินกำลังจะอ้าปากพูดออกไปนั้นเป็นอันต้องกลืนน้ำพูดนั้นลงท้องหงีดร้องเสียงหลงออกมาทันที “กรี๊ดด…” จู่ๆ เรือนร่างของนางก็พลันถูกเฟิ่งอี้จับพลิกให้นอนราบไปกับเตียง สะโพกของนางพลันถูกแอ่นยกขึ้น “อ่าา…คิดจะทำให้ข้าคลั่งตายหรืออย่างไร” เพี๊ยะะ! “อ๊ะ! ข้าเจ็บ” ไป๋เฟิ่งอี้ฟาดฝ่ามือหนาลงบนก้นงามของอีกฝ่ายพลางจับแก่นกายชัดรูดถูกไถไปยังรูสวาทก่อนจะค่อยๆ ออกแรงกระแทกเด้งสะโพกสวนเช้าไปทีเดียวจนสุดลำ “อ่าสสส…” เขากัดฟันกรอดครางเสียงทุ้มต่ำ “อร๊างงงส์…” นางเสียวเหลือเกิน พอหันหลังเช่นนี้นั้น..เสมือนว่าแก่นกายอวบสอดใส่เข้ามาในโพลงสวาทของนางลึกขึ้นกว่าเดิม ยามนี้อารมณ์สวาทไฟราคะในตัวนางพลุ่งพล่านเหลือเกิน “ขยับกระแทกข้าใส่แรงๆ เถอะเฟิ่งอี้” “หึ!” มุมปากหนายกยิ้ม เขาหรือจะกล้าปฏิเสธสตรีร่านได้ “แม่นางก็ส่งเสียงครางดังๆ ให้ข้าพอใจเล่า”เป็นเพราะว่านางพูดจายั่วยุโทสะเขาหรือไป๋เฟิ่งอี้เห็นนางอยู่กับบุรุษอื่นถึงได้แสดงท่าทางเกรี้ยวกราดออกมาเช่นนี้ตุบ!ชุนฟางชินงอตัวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ จู่ๆ ระหว่างทางมานั้นนางพลันมีปากเสียงกระบุรุษผู้นี้จนถูกอุ้มขึ้นยกพาดบ่ามายังที่ที่หนึ่งก่อนจะถูกโยนเตียงอย่างแรง“โอ๊ย..! มารดามันเถอะ” นางหันมองอีกฝ่ายตาขวาง“เจ็บเป็นด้วยงั้นหรือ”เพ่ย! เหตุใดถึงถามเช่นนี้“ท่านเห็นข้าเป็นตุ๊กตาผ้ารึ”ไป๋เฟิ่งอี้เพียงแค่นเสียงฮึดฮัดออกมาเท่านั้น สายตาคมกริบยามนี้ดูแข็งกร้าวและเจ้าเล่ห์ในคราเดียวกัน เขาพลางถอดอาภรณ์กระตุกผ้าคาดเอวออกมาอย่างรวดเร็วก่อนที่เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าของนางชุนฟางชินไม่เข้าใจ “ท่านจะทำอันใดกันแน่เฟิ่งอี้”“แม่นางโง่งมหรือตาบอดมองไม่เห็นงั้นรึ”“เฟิ่งอี้! ข้าถามดีๆ ไฉนถึงได้ยอกย้อนประชดประชัน”ยามนี้ชุนฟางชินงุนงงไม่น้อย บุรุษผู้นี้เป็นอันใดไปแล้ว.…เหตุใดถึงได้ทำตัวเสมือนคนไร้สติเช่นนี้“ปรนเปรอสตรีร่าอย่างไร”!!!!“กรี๊ดดด…ปล่อยข้า!” ชุนฟางชินหวีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจ จู่ๆ แขนทั้งสองข้างของนางพลันถูกรวบขึ้นเหนือหังก่อนจะถูกพันธะด้วยเศษผ้าชุนฟาง
ชุนฟางชินหาได้รู้สึกกระด้างปากหรือเขินอายใดๆ ทั้งสิ้น ยามนี้นั้นนางหื่นกระหายจนเกินกว่าจะรู้สึกเช่นนั้นดวงตาคมกริบขยายใหญ่โตขึ้นด้วยความตกใจและตื่นเต้น มุมปากหนาโค้งยกขึ้นคล้ายยิ้มแต่ไม่ถึงกับยิ้ม เกรงว่าเขาคงไม่ได้หูฝาดได้ยินผิดเพี้ยนไปกระมัง“เช่นนั้นรีบขึ้นมาควบขี่มันเถอะ”ไป๋เฟิ่งอี้หาได้ชักช้ารีรอให้เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์เขาพลางล้มตัวนอนลงเตียงที่ว่างข้างๆ ทั้งยังจับแก่นกายชักรูดให้ตื่นตัวแข็งทื่อพร้อมให้นางได้นั่งทาบทับ ดวงใจพลางเต้นกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ“ใจร้อนนัก” น้ำเสียงหวานบ่นอุบอิบ“จะให้ข้าชักช้าได้อย่างไรหากถูกจับได้เล่า”เหอะ! กับผีน่ะ!ในตอนที่นางกำลังสุขสมร่วมรักสวาทสวมหมวดเขียวให้เผ่ยเยียนซืออยู่นั้น..คนผู้นั้นก็คงกำลังร่วมรักสุขสมกับสตรีอีกคนเช่นนั้นชุนฟางชินหัวเราะร่อออกมา นางค่อยๆ ขยับขึ้นคร่อม ดวงตาคู่งามหวานเยิ้มจ้องสบตาอีกฝ่าย “อ๊าา..อาส์..อ๊า!” น้ำเสียงหงานครางแหบพร่าเพียงแค่เอ็นอวบสัมผัสถูกไถรู้สวาทนางก็พลันรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง“ซี๊ดดส์.!” ไป๋เฟิ่งอี้กัดฟันกรอดอดกลั้น เขาอยากจะกดสะโพกนางลงแล้วกระแทกเด้งสวนขึ้นไปสุดโคนจริงๆ ลมหายใจพลันหอบถี่ขึ้น
ปั่กๆๆ ปั่ก! ปั่ก!!ตั่บๆๆ! ตั่บ!“ซี๊ดส์..ส์ อาาา”“อื้อ! เฟิ่งอี้! อ๊าาา..ข้าเสียว”เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นสนั่นพร้อมกับเสียงร้องครวญครางของบุรุษและสตรี ไป๋เฟิ่งอี้ออกแรงโหมสะโพกกระแทกใส่สตรีใต้ร่างไม่ยั้งตามห้วงอารมณ์หื่นกระหายที่พุ่งทะยานขึ้นสูงเรื่อยๆดีเหลือเกิน!เขารู้สึกดีไม่น้อย!แม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเขาจะร่วมากสวาทกับนางอยู่หลาย ชั่วยามจนถึงรุ่งสางของวันใหม่แล้วอย่างไรกันทว่าไป๋เฟิ่งอี้กับรู้สึกหื่นกระหายต้องการนางอยู่ดีเรือนร่างอรชรของนางสั่นคลอนตามแรกงกนะแทกกระทั้นหน้าอกอวบอิ่มพลันกระเพื่อมสั่นไหว ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน “เฟิ่งอี้อ๊าา..! อร๊างงส์ๆ!”ภายในช่องท้องของนางคับแน่นจนต้องจุกและต้องหดเกร็ง ลมหายมจพลันหอบถี่ปั่กกกๆๆ! ปั่ก!ปลั่กกกๆๆๆ!ไป๋เฟิ่งอี้โหมออกแรงกระแทกไม่ยั้งเสมือนกลานเป็นคนไร้สติไปแล้ว “อ่าา..ส์ ผ่อนคลายเสีย”ปั่กก!ๆๆๆตั่บบ!!!“อื้มมม! จะให้ข้าอ๊าาม! ผ่อนคลายอย่างไรอ๊ะ!”ฝ่ามือหนายึดสะโพกนางเอาไว้แน่นพลันออกแรงกระแทกถี่ๆ ด้วยความหื่นกระหายและไปราคะในกายที่ลุกโชน ยิ่งได้ยินน้ำเสียงหวานครางกระเส่าเขาก็เพิ่มแรงกระแทกใส่รูสวาทเน้นๆ ลึ
ยามนี้จวนสกุลเผ่ยตาลปัตรวุ่นวายไม่น้อย เกรงว่าไม่ช้าก็แล้วคงได้เกิดเรื่องใหญ่แน่นายท่านเผ่ยเอาแต่คลุกตัวอยู่ในเรือนกับฮูหยินรองทั้งวี่ทั้งวันหากไม่ถึงมื้ออาหารก็ไม่เห็นโผล่หน้าออกมา มิหนำซ้ำเสียงร้องครวญครางกระเส่าที่ดังออกมาทุกชั่วยามนั้นแม่แต่พวกนางที่เป็นเพียงบ่าวไพร่ยังปวดใจแทนนายหญิงไม่น้อยนี่อันใดกัน…แต่งภรรยารองยังไม่ทันพ้นวันก็พลันลุ่มหลงอีกฝ่ายจนไม่เห็นหัวภรรยาเอกแล้วทว่ายิ่งกว่านั้นวันก่อนนายท่านเผ่ยแต่งสตรีเข้าจวนและพอมาวันนี้นั้นกลับมีบุรุษรูปร่างกำยำใบหน้าหล่อเหล่ามาหานายหญิงถึงจวน!นับว่าไป๋เฟิ่งอี้เป็นบุรุษผู้แรกที่บุกมาหานางถึงจวนและยิ่งกว่านั้นคือชุนฟางชินเป็นฝ่ายจับจูงพาเข้าเรือนพร้อมทั้งปิดประตูลงกลอนหนาแน่นท่ามกลางเสียงซุบซินของบ่าวรับใช่ที่พบเห็นแล้วไฉนชุนฟางชินต้องสนใจด้วยเล่า…นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋เฟิ่งอี้เห็นใบหน้าคนงามขัดๆ ดวงตากลมโตดูแข็งกร้าวและโอนอ่อนในคราเดียว คิ้วโกงดุจลำไผ่…ริมฝีปากอวบอิ่มคล้ายผลอิงเถาน้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้น “จ้องมองใบหน้าข้านานปานนี้มีอันใดผิดแปลกงั้นหรือ”ไป๋เฟิ่งอี้ได้สติ เขาค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าคล้ายกับกำลังไล่ต้อนอีกฝ่ายอยู่ ม
นางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบาก ใบหน้าคนงามพลันระบายยิ้มกว้างออกมา น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างเย้ายวน “เช่นนี้ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ”สองมือของนางประคองกอบกุมเอ็นอวบเอาไว้แทบไม่รอบจากนั้นจึงค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้ปากครอบงำส่วนหัวเห็ดบานแดงกำเอาไว้ ส่วนรอยแยกพลันมีน้ำเมือกสีใสปริ่มออกมาด้วยความเสียวซ่าน “อือมม..อื้ม!”อ่า…เอ็นอวบของเขาใหญ่เกินไปแล้วจ๊วบบ…จ๊าบบ! จ๊วบ!เผ่ยเหยียนซือสะดุ้งพลางกัดฟันกรอดจนขึ้นเป็นสันกราม“อาา…ส์” น้ำเสียงทุ้มคำรามแหบพร่าภายในโพลงปากของนางทั้งร้อนและอุ่นไม่น้อยสายตาคมกริบเพ่งมองการกระทำของนางด้วยความหื่นกระหาย เลือดในกายพลันแล่นพล่าน “อาา…กลืนกินมันเข้าไปทั้งลำเถอะเมียข้า”นางกำลังจงใจทำให้เขาคลั่งงั้นรึยิ่งได้ยินน้ำเสียงทุ้มครางกระเส่าปานใจจะขาดเช่นนี้ นางยิ่งได้ใจอยากจะกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้สยบใต้เรือนร่างถิงเฟยดูดเลียส่วนหัวอย่างเมามัน สองมือของนางประคองชักรูดแท่นเอ็นอวบขึ้นลงช้าๆ เป็นจังหวะ “อ่ก! อื้มม”“อ่าาส์…ซี๊ดด”ยามนี้เผ่ยเหยียนซือรู้สึกเสียวซ่านไม่น้อยจนต้องเด้งสะโพกกระแทกสวนขึ้นไป“ซี๊ดดส์..อาถิงเฟย”เผ่ยเหยียนซือรู้สึกเสียวซ่านจนขนลุกซู่ สา
ผู้ใดจะคิดเล่าว่าบุรุษผู้นั้นจะไม่รู้นักเหน็ดเหนื่อยเคี่ยวกรำนางอยู่หลายชั่วยามทำราวกับว่าอดยากไม่ได้แสบสมกับสตรีมาเนินนานเป็นปีกว่าชุนฟางชินจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็พลันถึงยามรุ่งสางของวันใหม่แล้วทว่านางปิดเปลือกตานอนหลับไปไม่ทันไรก็พลันมีสาวใช้เคาะประตูเข้ามาปลุกเสียแล้วใบหน้าคนงามยามนี้จึงดูหม่นหมองและบูดบึ้งอยู่มาก ชุนฟางชินอ้าปากห้าวครั้งแล้วครั้งเล่า “รีบๆ หน่อยเสียมารดาอยากจะกลับไปนอนแล้ว”“พี่หญิง…”เผ่ยเหยียนซือถอนหายฮึดฮัดออกมา “คิดว่าเจ้าเหนื่อยเป็นแต่เพียงผู้เดียวรึไร ไม่เห็นหรือว่านางต้องตื่นแต่เช้าตรู่กว่าเจ้าเมื่อมายกน้ำชาให้”พอบุรุษผู้นี้พูดออกหน้าให้เช่นนี้ถิงเฟยพลันแอบลอบยิ้มกรุ่มกนิ่มอย่างสะใจเหอะ! นางหรือจะอยากเป็นภรรยารอง!รอก่อนเถิด..อีกไม่นานนางจะเขี่ยสตรีผู้นี้ออกไปให้พ้นมางถิงเฟยปรายสายตามองเผ่ยเหยียนซืออย่างอ่อนโยน “ช่างเถอะเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าเข้าใจได้ว่าพี่หญิงรงเหน็ดเหนื่อยอีกทั้งยังไม่ยอมรับชา” น้ำเสียงหวานที่เอ่ยออกมาล้วนเต็มไปด้วยความน้อยใจทั้งสิ้นมีหรือเขาจะสู้มารยาหญิงได้!นางกำลังดูบทละครที่โรงน้ำชาอยู่งั้นหรือ…ชุนฟางชินกลอกสายตาไปมองด้วยความเบ