ผู้ใดจะคิดเล่าว่าบุรุษผู้นั้นจะไม่รู้นักเหน็ดเหนื่อยเคี่ยวกรำนางอยู่หลายชั่วยามทำราวกับว่าอดยากไม่ได้แสบสมกับสตรีมาเนินนานเป็นปีกว่าชุนฟางชินจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็พลันถึงยามรุ่งสางของวันใหม่แล้ว
ทว่านางปิดเปลือกตานอนหลับไปไม่ทันไรก็พลันมีสาวใช้เคาะประตูเข้ามาปลุกเสียแล้วใบหน้าคนงามยามนี้จึงดูหม่นหมองและบูดบึ้งอยู่มาก ชุนฟางชินอ้าปากห้าวครั้งแล้วครั้งเล่า “รีบๆ หน่อยเสียมารดาอยากจะกลับไปนอนแล้ว” “พี่หญิง…” เผ่ยเหยียนซือถอนหายฮึดฮัดออกมา “คิดว่าเจ้าเหนื่อยเป็นแต่เพียงผู้เดียวรึไร ไม่เห็นหรือว่านางต้องตื่นแต่เช้าตรู่กว่าเจ้าเมื่อมายกน้ำชาให้” พอบุรุษผู้นี้พูดออกหน้าให้เช่นนี้ถิงเฟยพลันแอบลอบยิ้มกรุ่มกนิ่มอย่างสะใจ เหอะ! นางหรือจะอยากเป็นภรรยารอง! รอก่อนเถิด..อีกไม่นานนางจะเขี่ยสตรีผู้นี้ออกไปให้พ้นมาง ถิงเฟยปรายสายตามองเผ่ยเหยียนซืออย่างอ่อนโยน “ช่างเถอะเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าเข้าใจได้ว่าพี่หญิงรงเหน็ดเหนื่อยอีกทั้งยังไม่ยอมรับชา” น้ำเสียงหวานที่เอ่ยออกมาล้วนเต็มไปด้วยความน้อยใจทั้งสิ้น มีหรือเขาจะสู้มารยาหญิงได้! นางกำลังดูบทละครที่โรงน้ำชาอยู่งั้นหรือ…ชุนฟางชินกลอกสายตาไปมองด้วยความเบื่อหน่าย นางกระแอมไอทีหนึ่งก่อนเถอะ “ข้ากำลังดูละครอยู่งั้นรึ” “ชุนฟางชิน” เผ่ยเหยียนซือขึ้นเสียง ว่าจาที่ออกจากอีกฝ่ายล้วนเต็มไปด้วยความเหน็บแนมเสียดทออีกฝ่ายไม่น้อย เขาพอจะเข้าใจได้ว่านสงไม่พอใจที่เข้าแต่งภรรยาอีกคนทว่านางได้เป็นถึงภรรยาเองแล้วยังไม่พอใจอีกหรือไร ไฉนไม่ใจกว้างให้มากหน่อย สายตาคมกริบเพ่งมองชุนฟางชินด้วยความดูแคลน “ท่านพี่ใจเย็นๆ ก่อนเถอะเจ้าค่ะ” ผิงเฟยเอ่ยปรามก่อนจะยกรินน้ำชาใส่จอกให้แก่อีกฝ่าย “ผิงเฟยคารวะพี่หญิง…นับจากนี้จะเป็นภรรยาอีกคนช่วยพี่หญิงปรนนิบัติท่านพี่เจ้าค่ะ” ช่วยดูแลงั้นรึ! เหอะ! นางแย่งสามีของเจ้าของร่างจนตรอมใจตายไปแล้ว ชุนฟางชินระบายยิ้มจางๆ สายตาปรายมองสตรีตรงหน้า ดูแล้วหน้าตาก็หาได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างว่า.. “เผ่ยเหยียนซือรึ” “…..” “หากอยากได้ก็เอาได้เถอะ” พอสิ้นสุดประโยคนางพลันลุกขึ้นพรวดโดยไม่สนใจสตรีตรงหน้าหรือแม้แต่เกรงกลัวบุรุษผู้นั้นเลยด้วยซ้ำ ยามนี้ในความคิดของนางพลันมีเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาแล่นเข้ามาในหัวซ้ำๆ เอาแต่นึกถึงคนผู้นั้น นางคงถูกเขาปรยเปรอจนสติเลอะเลือนไปแล้วแน่ๆ เผ่ยเหยียนซือกัดฟัน จู่ๆ ก็พลันเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาทันที “เจ้าทำกับถิงเฟยเกินไปแล้ว” ชุนฟางชินชะงักก่อนจะเหลียวหันกลับไปมอง นางยกมือขึ้นกอดอกเลิกคิ้วถาม “ข้าทำอันใดนางงั้นหรือเผ่ยเหยียนซือ” มองดูแวบเดียวนางก็กระจ่างแจ้งรู้แล้วว่าบุรุษผู้นี้กำลังลุ่มหลงเล่ห์ของสตรีผู้นั้นไม่น้อย “ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ” “เจ้าจะไม่เป็นไรได้อย่างไรกัน” เผ่ยเหยียนซือหันไปมองภรรยาอีกคนน้ำเสียงทุ้มพลันโอนอ่อนลงช่างแตกต่างกลับที่พูดกับชุนฟางชินอย่างเห็นได้ชัด “ทำเช่นนี้มิต่างกับหยามเกียรติเจ้า” หยามเกียรติ!?? หน้าหนากลายเป็นเมียน้อยของสามีผู้อื่นยังจะมีเกียรติและศักดิ์หลงเหลือยู่งั้นหรือ ไม่ว่าอย่างไรแล้วเขาย่อมเข้าข้างนาง ถิงเฟยพลันซบหน้าลงบนอกแกร่งราวกับกำลังออดอ้อน ชุนฟางชินมองเห็นแล้วส่ายหน้าเอือมละอา “ดูท่าแล้วเจ้าคงดูแลเขาให้มีความสุขได้มากกว่าข้าเช่นนั้น…เอาเถอะ บุรุษเช่นนี้มารดายกให้และจะไม่ทวงคืน” ช่างน่าเสียดาย…นางนับว่าเป็นสตรีที่มีรูปโฉมงามไม่น้อยแต่กลับมาแย่งสามีผู้อื่นเช่นนี้ นับว่าคิดน้อยไปหน่อย เผ่ยเหยียนซือมีอันใดดีงั้นหรือ…เมื่อเทียบกับ “ชุนฟางชิน!” ยิ่งพอนางได้ยินเช่นนี้อารมณ์ของเขายิ่งเดือดปุดๆ เผ่ยเหยียนซือไม่ชอบให้นางเย็นชาและห่างเหินเช่นนี้ เมื่อไม่กี่วันก่อนจะแต่งถิงเฟยเข้าจวน ชุนฟางชินถึงขั้นลงอาบน้ำขัดผิวอยากจะร่วมเตียงเอาใจให้เขาหยุดควรคิดมีสตรีอื่นเสีย แต่ไฉนพอมาวันนี่กลายเป็นคนละคนไปเสียแล้ว น้ำเสียงทุ้มตะโกนดังก้อง “ข้าเป็นสามีของเจ้า!” “อืม” ชุนฟางชินพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะยกมือชี้ไปยังสตรีที่ยังคงเกาะติดอยู่ข้างกายเผ่ยเหยียนซือ “เป็นสามีของนางด้วย” พอแล้ว! นางไม่กลับไปกินน้ำพริกถ้วยเดิมแน่ ในเมื่อน้ำพริกถ้วยใหม่ทั้งแซ่บและเด็ดกว่า “ช่างเถอะ…หากนับจากนี่จะมีเมียกี่คนก็ตามใจ” ชุนฟางชินเอ่ยออกมาราวกับไม่ใส่ใจก่อนจะหันกลับหมุนตัวเดินไปยังเรือนนอนทั้งมี นางกำลังคิดถึงเตียงนุ่มๆ และคิดถึงคนผู้นั้นเช่นกัน.. นางเผลอนอนหลับไปไม่ทันไรพอตื่นขึ้นมาอีกทีเขาก็หาย ไปแล้ว หากนี่เป็นแค่ความฝันแล้งเหตุใดร่างกายของนางถึงได้ปวดเมื่อยนักมิหนำซ้ำส่วนนั้นยังเจ็บแสบไม่น้อย เฟิ่งอี้! ท่านต่างหากที่ลืมข้าไม่ลง! ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าไปหอคณิการหาสตรีบำเรอเพียงชั่วค่ำคืนเดียวเขาก็พลันกลายเป็นชายชู้ที่ร่วมรักกับภรรยาคนอื่นเสียแล้ว พรืดดด…! “เจ้าว่าอย่างนะเฟิ่งอี้!” หวังต้ายกจอกน้ำชากระดกยกดื่มไปอึกใหญ่ทว่าเพียงแต่ชั่วพริบตาเดียวนั้นเป็นอันต้องพ่นออกมาเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ ไป๋เฟิ่งอี้เอ่ย “ตกใจอันใดเพียงนั้น” “เพ่ย! นี่เจ้ากำลังเป็นชายชั่วอยู่มิใช่หรือเฟิ่งอี้” ไป๋เฟิ่งอี้ยักไหล่ท่าทางไม่ใส่ใจ “แล้วอย่างไร” หวังต้าถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ดวงตาคมกริบเบิกโพลงกว้างเต็มไปด้วยตวามตกใจ “สตรีผู้นั้นคือฮูหยินบ้านใดเล่า” เกรงว่าหากเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นมาเกรงว่าคนผู้นี้คงไม่ถูกสามีของนางบุกมาทำร้ายเอาหรอกหรือ “ข้าไม่รู้” !!!! “เจ้าเมามายจนไร้สติเพียงนั้นเลยหรือเฟิ่งอี้” ไป๋เฟิ่งอี้เงียบไม่ตอบอันใด เขาเพียงยกน้ำชาขึ้นจิบอย่างละเมียดละไมท่าทางไร้ความสังวล นัยน์ตาคมกริบดูลุ่มลึกเกินกว่าจะคาดเดาได้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ เรือนร่างอรชรผอมเพรียวมีส่วนโค้งเว้า น้ำเสียงหวานครวญครางไพเราะราวกับเสียงนกร้อง ผิวพรรณขาวเนียนไม่ว่าจะจับตรงใดก็นุ่มนิ่มไปหมดทุกส่วน อืม…นับว่าเป็นสตรีที่หาได้ยาก หวังต้าหรี่สายตาลงคล้ายกับกำลังจ้องจับผิดอีกฝ่ายอยู่ ไม่ปาน “เพ่ย! เจ้าร่วมรักกับนางอยู่หลายชั่วยามแต่กลับไม่รู้แม้แต่ชื่อแซ่งั้นหรือ” “ข้าจำเป็นต้องรู้ด้วยงั้นรึ” ไป๋เฟิ่งอี้เลิกคิ้วถามกลับทว่ายามที่น้ำเสียงหวานส่งเสียวครวญครางชื่อเขาครั้งแล้วครั้งเล่านั้นไพเราะราวกับเสียงนกร้องจริงๆ “เห้อ! เจ้านี่มันไร้สติเกินไปแล้วไป๋เฟิ่งอี้” นับว่าช่วงเวลาที่อดทนรอคอยมาไม่เสียเปล่าไปจริงๆ น้ำเสียงหวานร้องครวญครางแหบพร่าคล้ายใจจะขาดดังสนั่นหวั่ยไหวปนกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อยามที่แก่นกายใหญ่ถ฿กรูสวาทกลืนกินเข้าไปจนมิดลำ ว่ากันตามตรงแล้วเผ่ยเหยียนซือนับเป็นคุณชายรูปโฉมงดงามทั้งยังมีเรือนร่างกำยำสมชายฉกรรจ์ ทว่าราวกับสวรรค์กลั่นแม้จะมีดีเพียงแคทหน้าตาแต่ฐานะกลับต่ำต้อยมีหรือเหล่าคุณหนูและสตาอื่นจะปรายสายตาเหลียว จนกระทั่งเขมพลันไปถูกใจต้องตาชุนฟางชินเข้า นางนับได้ว่าเป็นคุณหนูตระกูลร่ำรวยมีอันจะกินแต่ดันตามอดมองเศษก้อนกรอดกลายเป็นเพชรขึ้นมาได้ “อ่าาๆ…อาาส์! อร๊าส!” เรือนร่างอรชรของถิง้ฟยสั่นคลอนตามแรงขยับสะโพกของบุรุษตรงหน้า ใบหน้าคนงามพลันบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวซ่าน ตั่บๆๆๆ ตั่บ! “คิดถึงผู้ใดอ๊ะะ!..อยู่หรือเจ้าค่ะท่านพี่อร๊างงส์!” ตั่บบบๆๆ ตั่บ! เผ่ยเหยียนซือเอาแต่โหมออกแรงขยับใส่สตรีใต้ร่างไม่ยั้งแรงทว่าในห้วงของความคิดนั้นกลับเอาแต่คิดถึงสตรีอีกคนแทน “…..” พอเห็นท่าทางของเขาเป็นเช่นนี้นางรู้สคกไม่ชอบใจนัก ตั่บบ! ตั่บ!!! “หยุดเจ้าค่ะ!” !!!! เผ่ยเหยียนซือพลันได้สติก่อนที่จะเลิกคิ้วเอ่ยตถามอีกฝ่ายด้วยความงุนงง “ว่าอย่างไรหรือถิงเฟย” ถิงเฟยระบายยิ้มกว้าง “ท่านพี่รอคอยข้าให้พ้นพิธีปักปิ่นมาตั้งหลายเดือน..ยามนี้ให้ถิงเฟยปรนเปรอปรนนิบัติท่านพี่ให้คุ้มค่าเถิดเจ้าค่ะ” น้ำเสียงว่าราวกับกำลังออดอ้อน นัยน์ตาเมล็ดซิ่งเงยจ้องสบตากับบุรุษตรงหน้าตาหวานเยิ้ม บุรุษผู้นี้ต้องเป็นของนางแต่เพียงผู้เดียว! “เจ้าจะทำอันใดหรือ” เผ่ยเหยียนซือมองด้วยความไม่เข้าใจนัก ได้แต่มองนางถอดแก่นกายออกจากรูสวามก่อนที่เขาจะถูกผลักให้เป็นฝ่ายล้มลงนอนนายไปกลับเตียงเอง จู่ๆ หัวใจแกร่งพลันเต้นกระหนำขึ้นมา เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “ทำให้ท่านพี่พึงพอใจในตัวข้า” ถิงเฟยจดจ้องลำอวบของเขาไม่วางตา นางพลันกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ใหญ่โตยิ่ง! สองมือนุ่มนิ่มค่อยๆ ยกเลื่อนมือไปกอบกุมเอาไว้จนแทบไม่มิดลำ ทันใดนั้นสัมผัสเย็นเฉียบแตะลงที่ใจกลางบุรุษพลันทำเอาเผ่ยเหยียนซือสะดุ้งจนต้องกัดฟัสกรอด “ซี๊ดดส์…อาา” นางคิดจะทำให้เขาคลั่งงั้นหรือ!? “นี่พึ่งเริ่มเองนะเจ้าค่ะ” “อาา..มือของเจ้านุ่มนิ่มเกินไปแล้ว” ถิงเฟยพลันหัวเราะคิกคักออกมาอย่างอารมณ์ดีอีกครั้งเมื่อดึงสติเรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่ายได้ นางทั้งและเด็ดกว่ามีหรือชุนฟางชินจะสู้ได้ “ท่านพี่จะให้ข้าทำอย่างไรกับมันดีเจ้าค่ะ” ถ้อยคำไร้เดียงสาเช่นนี้พลันทำให้บทรักสวาทในครานี้ดูตื่นเต้นเร่าร้อนไม่น้อย เผ่ยเหยียนซือหอบหายใจถี่ สายตาคมกริบจ้องมองเอ็นอวบที่กระตุกสั่นระริกในมือของนาง น้ำเสียงทุ้มเอ่ยแหบพร่า “ใช้ปากของเจ้ากลืนกินมันซะ”เป็นเพราะว่านางพูดจายั่วยุโทสะเขาหรือไป๋เฟิ่งอี้เห็นนางอยู่กับบุรุษอื่นถึงได้แสดงท่าทางเกรี้ยวกราดออกมาเช่นนี้ตุบ!ชุนฟางชินงอตัวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ จู่ๆ ระหว่างทางมานั้นนางพลันมีปากเสียงกระบุรุษผู้นี้จนถูกอุ้มขึ้นยกพาดบ่ามายังที่ที่หนึ่งก่อนจะถูกโยนเตียงอย่างแรง“โอ๊ย..! มารดามันเถอะ” นางหันมองอีกฝ่ายตาขวาง“เจ็บเป็นด้วยงั้นหรือ”เพ่ย! เหตุใดถึงถามเช่นนี้“ท่านเห็นข้าเป็นตุ๊กตาผ้ารึ”ไป๋เฟิ่งอี้เพียงแค่นเสียงฮึดฮัดออกมาเท่านั้น สายตาคมกริบยามนี้ดูแข็งกร้าวและเจ้าเล่ห์ในคราเดียวกัน เขาพลางถอดอาภรณ์กระตุกผ้าคาดเอวออกมาอย่างรวดเร็วก่อนที่เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าของนางชุนฟางชินไม่เข้าใจ “ท่านจะทำอันใดกันแน่เฟิ่งอี้”“แม่นางโง่งมหรือตาบอดมองไม่เห็นงั้นรึ”“เฟิ่งอี้! ข้าถามดีๆ ไฉนถึงได้ยอกย้อนประชดประชัน”ยามนี้ชุนฟางชินงุนงงไม่น้อย บุรุษผู้นี้เป็นอันใดไปแล้ว.…เหตุใดถึงได้ทำตัวเสมือนคนไร้สติเช่นนี้“ปรนเปรอสตรีร่าอย่างไร”!!!!“กรี๊ดดด…ปล่อยข้า!” ชุนฟางชินหวีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจ จู่ๆ แขนทั้งสองข้างของนางพลันถูกรวบขึ้นเหนือหังก่อนจะถูกพันธะด้วยเศษผ้าชุนฟาง
ชุนฟางชินหาได้รู้สึกกระด้างปากหรือเขินอายใดๆ ทั้งสิ้น ยามนี้นั้นนางหื่นกระหายจนเกินกว่าจะรู้สึกเช่นนั้นดวงตาคมกริบขยายใหญ่โตขึ้นด้วยความตกใจและตื่นเต้น มุมปากหนาโค้งยกขึ้นคล้ายยิ้มแต่ไม่ถึงกับยิ้ม เกรงว่าเขาคงไม่ได้หูฝาดได้ยินผิดเพี้ยนไปกระมัง“เช่นนั้นรีบขึ้นมาควบขี่มันเถอะ”ไป๋เฟิ่งอี้หาได้ชักช้ารีรอให้เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์เขาพลางล้มตัวนอนลงเตียงที่ว่างข้างๆ ทั้งยังจับแก่นกายชักรูดให้ตื่นตัวแข็งทื่อพร้อมให้นางได้นั่งทาบทับ ดวงใจพลางเต้นกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ“ใจร้อนนัก” น้ำเสียงหวานบ่นอุบอิบ“จะให้ข้าชักช้าได้อย่างไรหากถูกจับได้เล่า”เหอะ! กับผีน่ะ!ในตอนที่นางกำลังสุขสมร่วมรักสวาทสวมหมวดเขียวให้เผ่ยเยียนซืออยู่นั้น..คนผู้นั้นก็คงกำลังร่วมรักสุขสมกับสตรีอีกคนเช่นนั้นชุนฟางชินหัวเราะร่อออกมา นางค่อยๆ ขยับขึ้นคร่อม ดวงตาคู่งามหวานเยิ้มจ้องสบตาอีกฝ่าย “อ๊าา..อาส์..อ๊า!” น้ำเสียงหงานครางแหบพร่าเพียงแค่เอ็นอวบสัมผัสถูกไถรู้สวาทนางก็พลันรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง“ซี๊ดดส์.!” ไป๋เฟิ่งอี้กัดฟันกรอดอดกลั้น เขาอยากจะกดสะโพกนางลงแล้วกระแทกเด้งสวนขึ้นไปสุดโคนจริงๆ ลมหายใจพลันหอบถี่ขึ้น
ปั่กๆๆ ปั่ก! ปั่ก!!ตั่บๆๆ! ตั่บ!“ซี๊ดส์..ส์ อาาา”“อื้อ! เฟิ่งอี้! อ๊าาา..ข้าเสียว”เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นสนั่นพร้อมกับเสียงร้องครวญครางของบุรุษและสตรี ไป๋เฟิ่งอี้ออกแรงโหมสะโพกกระแทกใส่สตรีใต้ร่างไม่ยั้งตามห้วงอารมณ์หื่นกระหายที่พุ่งทะยานขึ้นสูงเรื่อยๆดีเหลือเกิน!เขารู้สึกดีไม่น้อย!แม้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเขาจะร่วมากสวาทกับนางอยู่หลาย ชั่วยามจนถึงรุ่งสางของวันใหม่แล้วอย่างไรกันทว่าไป๋เฟิ่งอี้กับรู้สึกหื่นกระหายต้องการนางอยู่ดีเรือนร่างอรชรของนางสั่นคลอนตามแรกงกนะแทกกระทั้นหน้าอกอวบอิ่มพลันกระเพื่อมสั่นไหว ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน “เฟิ่งอี้อ๊าา..! อร๊างงส์ๆ!”ภายในช่องท้องของนางคับแน่นจนต้องจุกและต้องหดเกร็ง ลมหายมจพลันหอบถี่ปั่กกกๆๆ! ปั่ก!ปลั่กกกๆๆๆ!ไป๋เฟิ่งอี้โหมออกแรงกระแทกไม่ยั้งเสมือนกลานเป็นคนไร้สติไปแล้ว “อ่าา..ส์ ผ่อนคลายเสีย”ปั่กก!ๆๆๆตั่บบ!!!“อื้มมม! จะให้ข้าอ๊าาม! ผ่อนคลายอย่างไรอ๊ะ!”ฝ่ามือหนายึดสะโพกนางเอาไว้แน่นพลันออกแรงกระแทกถี่ๆ ด้วยความหื่นกระหายและไปราคะในกายที่ลุกโชน ยิ่งได้ยินน้ำเสียงหวานครางกระเส่าเขาก็เพิ่มแรงกระแทกใส่รูสวาทเน้นๆ ลึ
ยามนี้จวนสกุลเผ่ยตาลปัตรวุ่นวายไม่น้อย เกรงว่าไม่ช้าก็แล้วคงได้เกิดเรื่องใหญ่แน่นายท่านเผ่ยเอาแต่คลุกตัวอยู่ในเรือนกับฮูหยินรองทั้งวี่ทั้งวันหากไม่ถึงมื้ออาหารก็ไม่เห็นโผล่หน้าออกมา มิหนำซ้ำเสียงร้องครวญครางกระเส่าที่ดังออกมาทุกชั่วยามนั้นแม่แต่พวกนางที่เป็นเพียงบ่าวไพร่ยังปวดใจแทนนายหญิงไม่น้อยนี่อันใดกัน…แต่งภรรยารองยังไม่ทันพ้นวันก็พลันลุ่มหลงอีกฝ่ายจนไม่เห็นหัวภรรยาเอกแล้วทว่ายิ่งกว่านั้นวันก่อนนายท่านเผ่ยแต่งสตรีเข้าจวนและพอมาวันนี้นั้นกลับมีบุรุษรูปร่างกำยำใบหน้าหล่อเหล่ามาหานายหญิงถึงจวน!นับว่าไป๋เฟิ่งอี้เป็นบุรุษผู้แรกที่บุกมาหานางถึงจวนและยิ่งกว่านั้นคือชุนฟางชินเป็นฝ่ายจับจูงพาเข้าเรือนพร้อมทั้งปิดประตูลงกลอนหนาแน่นท่ามกลางเสียงซุบซินของบ่าวรับใช่ที่พบเห็นแล้วไฉนชุนฟางชินต้องสนใจด้วยเล่า…นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋เฟิ่งอี้เห็นใบหน้าคนงามขัดๆ ดวงตากลมโตดูแข็งกร้าวและโอนอ่อนในคราเดียว คิ้วโกงดุจลำไผ่…ริมฝีปากอวบอิ่มคล้ายผลอิงเถาน้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้น “จ้องมองใบหน้าข้านานปานนี้มีอันใดผิดแปลกงั้นหรือ”ไป๋เฟิ่งอี้ได้สติ เขาค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าคล้ายกับกำลังไล่ต้อนอีกฝ่ายอยู่ ม
นางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบาก ใบหน้าคนงามพลันระบายยิ้มกว้างออกมา น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างเย้ายวน “เช่นนี้ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ”สองมือของนางประคองกอบกุมเอ็นอวบเอาไว้แทบไม่รอบจากนั้นจึงค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้ปากครอบงำส่วนหัวเห็ดบานแดงกำเอาไว้ ส่วนรอยแยกพลันมีน้ำเมือกสีใสปริ่มออกมาด้วยความเสียวซ่าน “อือมม..อื้ม!”อ่า…เอ็นอวบของเขาใหญ่เกินไปแล้วจ๊วบบ…จ๊าบบ! จ๊วบ!เผ่ยเหยียนซือสะดุ้งพลางกัดฟันกรอดจนขึ้นเป็นสันกราม“อาา…ส์” น้ำเสียงทุ้มคำรามแหบพร่าภายในโพลงปากของนางทั้งร้อนและอุ่นไม่น้อยสายตาคมกริบเพ่งมองการกระทำของนางด้วยความหื่นกระหาย เลือดในกายพลันแล่นพล่าน “อาา…กลืนกินมันเข้าไปทั้งลำเถอะเมียข้า”นางกำลังจงใจทำให้เขาคลั่งงั้นรึยิ่งได้ยินน้ำเสียงทุ้มครางกระเส่าปานใจจะขาดเช่นนี้ นางยิ่งได้ใจอยากจะกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้สยบใต้เรือนร่างถิงเฟยดูดเลียส่วนหัวอย่างเมามัน สองมือของนางประคองชักรูดแท่นเอ็นอวบขึ้นลงช้าๆ เป็นจังหวะ “อ่ก! อื้มม”“อ่าาส์…ซี๊ดด”ยามนี้เผ่ยเหยียนซือรู้สึกเสียวซ่านไม่น้อยจนต้องเด้งสะโพกกระแทกสวนขึ้นไป“ซี๊ดดส์..อาถิงเฟย”เผ่ยเหยียนซือรู้สึกเสียวซ่านจนขนลุกซู่ สา
ผู้ใดจะคิดเล่าว่าบุรุษผู้นั้นจะไม่รู้นักเหน็ดเหนื่อยเคี่ยวกรำนางอยู่หลายชั่วยามทำราวกับว่าอดยากไม่ได้แสบสมกับสตรีมาเนินนานเป็นปีกว่าชุนฟางชินจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็พลันถึงยามรุ่งสางของวันใหม่แล้วทว่านางปิดเปลือกตานอนหลับไปไม่ทันไรก็พลันมีสาวใช้เคาะประตูเข้ามาปลุกเสียแล้วใบหน้าคนงามยามนี้จึงดูหม่นหมองและบูดบึ้งอยู่มาก ชุนฟางชินอ้าปากห้าวครั้งแล้วครั้งเล่า “รีบๆ หน่อยเสียมารดาอยากจะกลับไปนอนแล้ว”“พี่หญิง…”เผ่ยเหยียนซือถอนหายฮึดฮัดออกมา “คิดว่าเจ้าเหนื่อยเป็นแต่เพียงผู้เดียวรึไร ไม่เห็นหรือว่านางต้องตื่นแต่เช้าตรู่กว่าเจ้าเมื่อมายกน้ำชาให้”พอบุรุษผู้นี้พูดออกหน้าให้เช่นนี้ถิงเฟยพลันแอบลอบยิ้มกรุ่มกนิ่มอย่างสะใจเหอะ! นางหรือจะอยากเป็นภรรยารอง!รอก่อนเถิด..อีกไม่นานนางจะเขี่ยสตรีผู้นี้ออกไปให้พ้นมางถิงเฟยปรายสายตามองเผ่ยเหยียนซืออย่างอ่อนโยน “ช่างเถอะเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าเข้าใจได้ว่าพี่หญิงรงเหน็ดเหนื่อยอีกทั้งยังไม่ยอมรับชา” น้ำเสียงหวานที่เอ่ยออกมาล้วนเต็มไปด้วยความน้อยใจทั้งสิ้นมีหรือเขาจะสู้มารยาหญิงได้!นางกำลังดูบทละครที่โรงน้ำชาอยู่งั้นหรือ…ชุนฟางชินกลอกสายตาไปมองด้วยความเบ