Share

3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-19 13:41:37

“ใช่... ข้าจำได้ว่าโรงปรุงยามีทหารองครักษ์มาคุ้มกัน คอยให้ความช่วยเหลือ วันใดข้าต้มยาสมุนไพรให้เสนาบดีและบุคคลสำคัญในราชสำนัก ทหารผู้รับหน้าที่ดูแลยาจะนำไปให้นักโทษชิม ก่อนที่ผู้ดื่มยาจริงจะได้ดื่ม ระหว่างนั้นก็รอเฝ้าดูอาการว่าไม่มีสิ่งใดผิดปรกติ ไม่น้อยกว่าสิบเค่อหรือมากกว่า นักโทษบางรายยังมีการเฝ้าติดตามอาการในระยะยาว...”

กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน ท่านหมอหลวงเสียหน้าไม่น้อย กว่าจะยอมให้บุตรสาวชิมสมุนไพรบำรุงได้ เขากังวลว่ามันอาจเป็นพิษอีก เขาอธิบายเรื่องนี้กับลูกสาวเพราะคิดว่านางควรรู้ กระทั่งหม้อต้มยาสุกหอมเกือบทั้งหมด ดันนึกเรื่องสำคัญที่จำต้องสั่งสอนบุตรสาว

“ลูกสาว เจ้าดูแลบ่าวรับใช้ดี ๆ อย่าใช้คำพูดที่ทำร้ายจิตใจพวกเขา ทุกวันนี้ไม่มีใครไปยุ่งวุ่นวายกับเจ้าแล้ว ไม่ควรออกปากลงโทษใครโดยไร้เหตุผล”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ ต่อไปนี้ข้าจะทำตัวดี ๆ ราวกับว่าไม่ใช่ลูกสาวคนเดิมของท่านพ่อทีเดียว ข้าจะเป็นเยว่ฉีคนใหม่”

“ให้มันจริงเถอะ หากข้าเป็นพวกเขา คงขอลาออกไปทำงานที่อื่น ไม่รู้อะไรทำให้พวกเขายอมดูแลคุณหนูคุ้มดีคุ้มร้ายอย่างเจ้ามานาน”

“เงินเจ้าค่ะ! เงิน ๆ ระบบทุนนิยมคงอยู่ในทุกสมัย ข้าให้พวกเขาเซ็นสัญญาทาสไปแล้วด้วย ใครไม่อยู่ก็ขายทิ้งไป”

“ระบบทุนนิยม? เซ็น...” บิดาเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ลูกสาวกลับส่งเสียงหัวเราะร่าเริงราวไม่ใช่ตัวนาง

บิดาสงสัยนางจริง ๆ เหตุใดนิสัยนางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ก็คิดในแง่ดี...

“เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าอารมณ์เข้าที่เข้าทาง จะได้คุยเรื่องสำคัญกันเสียที”

“เรื่องอะไรเจ้าคะ?”

“พี่สาวเจ้าออกเรือนไปสามปีแล้ว คุณชายหลิวคบหาดูใจกับเจ้ามาจนสมควรแก่เวลา ทั้งเรื่องฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงาน อุปนิสัยของคุณชายก็เข้ากันได้ดีกับตระกูลเรา...”

“ข้าไม่รีบร้อน เรื่องรักใคร่ระหว่างหนุ่มสาว ขอให้เป็นเรื่องอนาคต”

“อาทิตย์ก่อนเจ้าบอกข้าว่าพร้อมจะออกเรือน ให้หาฤกษ์งามยามดี ไยกลับไปกลับมาเยี่ยงนี้? ข้าจำเป็นต้องให้คำตอบผู้ใหญ่นะลูกสาว”

“ข้าเปลี่ยนใจกะทันหัน ด้วยเล็งเห็นประโยชน์ของบ้านเมืองสำคัญกว่า หากข้าออกเรือนไป ใครจะช่วยท่านพ่อปรุงยา ท่านจะเสียแรงงานสำคัญไปหนึ่ง ข้ายังไม่อยากแต่งงานเจ้าค่ะ”

ครั้นบิดาจะอ้าปากถามนางก็ขัดอย่างเสียมารยาท ด้วยนิสัยเอาแต่ใจของนาง “ลูกน้องท่านน่ะ ฝีมือสู้ข้าไม่ได้สักเสี้ยวส่วน มีข้าคนเดียวในเรือนเท่ากับมีหมอยาสักสิบ ข้ายินดีรับใช้บ้านเมือง ยินดีรับใช้ฮ่องเต้ ข้าไม่ควรออกเรือนไปรับใช้สามีตอนนี้”

“ลูกสาว... ข้าว่า...”

“บ้านเมืองย่อมสำคัญกว่า เรื่องมีทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูลขอให้เป็นหน้าที่ของพี่ใหญ่ ท่านพ่ออย่าบังคับข้า ได้โปรดคำนึงถึงความสุขของลูกสาวเถิด”

บิดาชะงักนิ่งไป ไม่กล้าต่อความกับลูกสาวที่สรรหาถ้อยคำมาถกเถียงจนชนะเขาได้

“ท่าทางเจ้าคุ้มดีคุ้มร้ายเสียจริง ล่าสุดข้าแลเห็นว่าที่บุตรเขยในอนาคตอันใกล้ ดูรักใคร่กลมเกลียว คุณชายสามเข้ามาพูดคุยด้วยว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้ ทำไมลูกสาวถึงไม่ยอมแต่งงานนะ?” บิดายกมือแตะคางอย่างครุ่นคิด หรี่ตามองบุตรสาวด้วยแววตาจับพิรุธ ก่อนจะว่า “เห็นทีข้าคงต้องปรุงยาตำรับใหม่ให้เจ้าโดยเฉพาะ”

“ท่านพ่อจัดยามาได้เลย ข้าพร้อมเป็นหนูลองยา”

“หนูลองยารึ!” บิดาหน้าตาขุ่นเคือง คว้าสมุนไพรอบแห้งหยิบมือหนึ่งจากตู้ไม้แล้วกลับไปหน้าเตาต้มยา ส่วนบุตรสาวเดินหัวเราะออกไปจากโรงปรุงยา...

------------

คุณหนูเมายาต้มแต่หัววัน พวกเจ้าระวังตัวด้วย อย่าได้ขัดใจนางเด็ดขาด’

บ่าวรับใช้กระซิบต่อกันไป จนได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ กระแทกบนพื้นไม้ บ่าวหญิงชายห้าคนบนระเบียงเรือนสะดุ้ง ก้มหน้าเนื้อตัวสั่นเทา ไม่มีใครกล้าสบตาคุณหนู โชคดีที่นางแค่เดินผ่านไปไว ๆ

ไม่มีใครในวงสนทนาโดนระบบสุ่ม! นำตัวไปขังในห้องใต้ดิน ให้อดข้าวอดน้ำสักสามวัน โทษฐานนินทาเจ้านาย

‘เยว่ฉี’ นางเอกนิยายเรื่องนี้แสนร้ายกาจ ทว่าโดยปกติวิสัยของนาง ร้ายก็ต่อเมื่อใครขัดใจนาง ส่วนใหญ่นางใช้ชีวิตหกมุ่นอยู่กับการปรุงยาและวิชาแพทย์ นางรับใช้ราชสำนึกอย่างขยันขันแข็ง โดยเฉพาะพวกผู้ดีมีเงิน กระทั่งนางได้พบชายผู้เป็นที่รักอย่างคุณชายหลิว

คุณชายสามตระกูลจางสุขุมเยือกเย็น สติปัญญาฉลาดหลักแหลม ว่าที่บุตรเขยอันดับหนึ่งของท่านหมอหลวง อาวุโสตระกูลหยางเป็นแม่สื่อให้ทั้งสองได้พบกัน ในภายหลังคุณชายสามสอบข้าราชการ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการ บรรดาผู้ใหญ่ย่อมอยากจะให้ลูกหลานตบแต่งกันในเร็ววัน

เมื่อเช้านี้ระหว่างที่นางขลุกอยู่ในโรงปรุงยากับบิดา นางหยิบตำราจากชั้นวางตำราทำจากไม้ไผ่มานั่งอ่านทบทวน หน้าโรงปรุงยาในยามเซิน[1] บ่าวผู้จงรักภักดีวิ่งแจ้นมาแจ้งข่าวเรื่องบุตรชายเสนาบดีคนสำคัญแห่งราชสำนักต้าเหลียงเข้าเมืองมาแล้ว นางนั่งขมวดคิ้วนึกอยู่นานว่าใคร

“คุณหนูรอง ท่านผู้ตรวจการมาถึงแล้วเจ้าค่ะ ท่านหมอหลวงขอเจรจากับเขาสักประเดี๋ยว”

‘เรื่องข้าแน่ล่ะ’

เหม่ยฉีอึดอัดใจ ไม่รู้บิดาบอกเรื่องนางเปลี่ยนใจจะไม่แต่งงานกับคุณชายแล้วหรือไม่ ในเมื่อซูหนี่ว์ปลุกนางตั้งแต่รุ่งเช้าให้แต่งตัว เกล้าผมมัดแกละน่ารัก เครื่องประดับเต็มยศทั้งต่างหู แหวน ปิ่นปักผมอย่างผู้ดี แต่นางเชื่อว่าบิดาจะตามใจนาง ที่ผ่านมาบิดาไม่เคยขัดใจบุตรสาวสักเรื่อง

[1] ยามเซิน 申 15.00 – 16.59 น.

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   33

    มารดาหลอกเด็กน้อยเพื่อไม่ให้พวกเขาแตกกลุ่ม เด็ก ๆ กอดกันตัวกลมในอ้อมแขนผู้เฒ่าชรา ในกระท่อมมืดแคบท่ามกลางกองฝุ่นควันอันที่จริงมนุษย์น่ากลัวกว่าปีศาจเสียอีก...เมื่อค่ำวานนี้สมรภูมิเลือดในหนานไห่ หัวหน้ากลุ่มโจรหัวรุนแรงอาวุธครบมือถูกจับกุมแล้วส่งตัวถวายต่อองค์ฮ่องเต้เพื่อรับโทษทัณฑ์ หลังจากที่แม่ทัพเจี้ยนหยู่เข้าช่วยเหลือชาวหนานไห่อย่างทันท่วงที แต่เขายังคงมีคำถามในใจ...ไยผู้เฒ่าชราแต่งนิทานหลอกเด็กน้อย ใครเป็นผู้กุเรื่องภูตผีปีศาจเป็นคนแรกน่าขันสิ้นดี! เวลาปีศาจสูบวิญญาณจากเหยื่อน่ะ เหลือเพียงหนังติดกระดูก เบ้าตากลวงโบ๋ ไม่เสียเวลาฉีกแขนขาเพื่อความบันเทิงหรอกพลทหารใต้บังคับบัญชาไม่มีผู้ใดกล้ามองครึ่งอสรพิษสูบวิญญาณจากเหยื่อ แม้แต่ทหารคนสนิทของท่านแม่ทัพตงฟาง ทหารหนุ่มอายุสามสิบห้าปี มู่หยางอายุสี่สิบกว่าปี ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาไม่เคยเชื่อเรื่องปีศาจอสรพิษที่ฮ่องเต้องค์ก่อนกักขังเอาไว้ทำศึก กระทั่งได้พบด้วยสองตาตนในวันผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน‘...มายืนจ้องข้ากินอาหาร จะกินอิ่มท้องหรือไม่?’เจี้ยนหยู่เคยเอ่ยไล่ทหารผู้อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง จากนั้นทั้

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   32

    ณ เมืองหนานไห่ เสียงดินปืนดังสนั่นสร้างความโกลาหล ประชาชนแตกตื่นวิ่งไปคนละทิศทาง เมื่อชนเผ่าเร่ร่อนบุกปล้นสังหารกลางตลาดร้านค้าอย่างไร้ความกลัวเกรง โจรชั่วครอบครองอาวุธและกระทำการอุกอาจกลางวันแสก ๆ แม้รู้ดีกว่าเมืองหนานไห่เป็นหนึ่งในเขตการปกครองของต้าเหลียงหญิงสาวถูกลากพาตัวไปด้วยเงื้อมมืออมนุษย์ กระชากดึงผ้าโพกศีรษะมามัดมืออุดปากพวกนาง ใช้กำลังเข้าข่มเหงจนไร้หนทางสู้ในกระท่อมคับแคบอัตคัดทางการหนานไห่และต้าเหลียงสืบทราบมาว่าไม่ใช่ชนเผ่าเร่ร่อนทั่วไป เป็นกลุ่มนักโทษฉกรรจ์อาวุธครบมือทั้งปืนใหญ่และระเบิด มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองที่เพิ่งสิ้นสุดไปไม่นานจากแคว้นสวี ชายฉกรรจ์นับร้อยไปเข้าพรรคพวกกับกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าเจิ้นจู้[1]โจรชั่วช้าสามานย์เจ็ดคนส่งเสียงหัวเราะ พวกมันใช้มือสกปรกกดศีรษะบุรุษร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีครามให้คุกเข่าลงเจ้าเมืองถูกจับเป็นตัวประกัน ‘รุ่ยยี่เหยา’ ถูกปลายกระบี่พาดคอรอให้ยอมจำนน ทว่าเขากลับเสียงหัวเราะ เหลือกตามองผู้บุกรุกอย่างเคียดแค้น “มีโอกาสให้หนี ก็รีบไป พวกเจ้าเอาชีวิตมาทิ้งเปล่า ๆ”“โอ้... ใครช่างแต่งนิทานหลอกเด็ก ในกลุ่มของพวกข้า ปล้นฆ่ามานับ

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   31

    เดินเลาะเรือนทิศอุดรถัดจากโรงปรุงยาไปก็ถึงเรือนหลังใหญ่ร่มรื่น รายล้อมด้วยต้นไม้สูงตระหง่าน แม้เล็กกว่าเรือนท่านหมอหลวง ทว่าแบ่งแยกเป็นสัดส่วนเหม่ยฉีเดินตามเสียงชื่นชม ‘น่ารักน่าชัง’ เข้าไปถึงด้านในเรือนไม้กว้างขวาง ครอบครัวใหญ่อาศัยร่วมกัน ช่วยเหลือจุนเจือกัน เสียงทารกหัวเราะให้ความรู้สึกกระชุ่มกระชวย นางเข้าไปในห้องนอนซึ่งกลายเป็นสถานที่คลอดบุตร“น่ารักจริง ๆ ขอให้เจ้าเป็นเด็กเลี้ยงง่าย อวี้ซือ อวี้ซิน” นางเอ่ยชมทารกอวบอ้วน ผิวขาวผุดผ่องดั่งหยก หยอกล้อทารกน้อยฝาแฝด ใช้ปลายนิ้วจิ้มแก้มป่อง ๆ ของทั้งสองเล่นทีละคนสายตาเอ็นดูนับสิบคู่จ้องมองเด็กน้อย หันไปถามเยว่ฉีเมื่อไรจะมีบุตรให้บิดาอุ้ม นางตอบพวกเขา “ว่าแต่ข้าเมื่อไรจะมีบุตร ข้ายังไม่มีสามีเลยเจ้าค่ะ”ตามด้วยเสียงหัวเราะขบขันของครอบครัว พวกเขาพูดกับนางอย่างจริงจัง ไยไม่แต่งงานกับท่านผู้ตรวจการไปเสีย บุตรของนางและเขาจะต้องหน้าตาดีเหมือนบิดามารดาแน่นอน นางรีบบ่ายเบี่ยงประเด็นไป ส่งตะกร้ายาบำรุงผ่านมือบ่าวรับใช้“เยว่ฉี ข้าสามารถแนะนำผู้ดีให้เจ้า ลองออกไปเปิดหูเปิดตาในเมืองบ้าง เทพผู้เฒ่าจันทรามิอาจผูกด้ายแดงให้เจ้าได้ สามีเจ้าคงจะอยู

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   30

    บิดาเรียกบุตรสาวเหม่ยฉี หากมีใครถามขึ้นมา เขาเพียงแก้ตัวว่าเป็นนามใหม่ ขนาดผู้คนในเมืองยังตั้งสมญานามผู้อื่นได้ พวกเขาเรียกสกุลหยางว่า ‘หยางเย่าฟาง’ [杨药坊][1] ยกให้เป็นห้องยาแห่งต้าเหลียง บิดาจะเปลี่ยนชื่อให้บุตรสาวบ้างจะเป็นไรไป อย่างไรเสียนางก็เป็นบุตรีของเขาอยู่วันยังค่ำท่านหมอไท่ซือจิ่วย้อนถามคนรอบกายว่า เหม่ยฉี เยว่ฉี มีความหมายถึงคำว่างาม ลูกสาวของเขาก็งามดุจนางฟ้านางสวรรค์จริงไหมเล่า?“ข้ามีเรื่องจะถามท่านพ่อ...” ร่างบางในชุดขาวนั่งอยู่ข้างบิดาหน้าเตาปรุงยา นางเอาถั่วมานั่งกินหนึ่งหยิบมือ “เรื่องตำราผสานจิตใจ ท่านพอจะรู้หรือไม่? ข้าจำไม่ได้ชัดเจนนัก”“ไม่รู้”บิดาไม่บอกนางต่างหาก! เหม่ยฉีมองค้อนเสื้อขาวสะอาดผ่านแผ่นหลังกว้างไป บิดาลุกขึ้นหนีนางไปหยิบสมุนไพรตากแดดด้านหลังมาหย่อนใส่หม้อต้ม มือพัดควันพวยพุ่งขึ้นฟ้าเปิดโล่ง“เจ้าจะจับผิดอะไรข้าอีก เหม่ยฉี ข้าบอกไม่รู้ก็คือไม่รู้” เขาเอ่ยพลางชำเลืองมองบุตรสาว นางเปิดประตูเข้า ๆ ออก ๆ ชะโงกหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด บิดาทำเมินเฉยกับบุตรสาวราวกับว่านางไม่มีตัวตน‘คอยดูเถิด ข้าต้องรู้ความจริงให้ได้!’ นางหรี่ตาเล็กจนเป็นเส้นตรง เด

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   29

    สตรีผู้เดียวในต้าเหลียง สำคัญที่สุดสำหรับแม่ทัพเจี้ยนหยู่คือคุณหนูเยว่ นางเป็นจุดอ่อนของเขา การมีอยู่ของเขาในฐานะแม่ทัพก็เพื่อปกป้องนาง แต่ดูเข้าสิ... ท่านแม่ทัพจะมาจะไป นางเคยสนใจเสียที่ไหน“ตอนเล็ก ๆ ข้าเคยพูดว่าจะตามติดเขาไปทุกที่เป็นวิญญาณร้าย ถ้าหากว่าเขาหนีข้าไป ดังนั้นข้าย่อมสำคัญที่สุด แม่ทัพเจี้ยนหยู่เป็นคนของข้า ข้าก็เป็นคนของเขาน่ะสิ” คุณหนูเอ่ยเรื่องในวันวานอย่างที่นางไม่เคยเปิดเผยกับใคร นางหัวเราะเสียงดังไปถึงข้างนอก บ่าวในเรือนสะดุ้ง เว้นเพียงซูหนี่ว์ซึ่งได้รับความเอ็นดู เพราะนางประจบประแจงเก่ง“ขอบใจเจ้าที่กล้าพูดออกมา ซูหนี่ว์ เด็กดี ข้าจะไม่ทำโทษเจ้า ข้าไว้ใจเจ้าที่สุดรู้ไหม? พวกเจ้าก็เอาอย่างซูหนี่ว์ อย่าขัดใจข้านะซิงอี ซีซวน”“เจ้าค่ะ!” สาวน้อยทั้งสองตอบอย่างพร้อมเพรียง ซูหนี่ว์ขยับมาใกล้ ๆ คุณหนู“คุณหนูรองไว้ใจข้าแล้วต้องกินข้าวกินยาด้วยนะเจ้าคะ พวกข้าไม่อยากโดนท่านแม่ทัพดุ”“กินสิ...”อย่างไรนางก็ต้องกิน เพราะถ้านางไม่กินข้าวครบมื้อ ทั้งซูหนี่ว์และบ่าวรับใช้บ้านนี้คงถูกแม่ทัพคนดีตามมาเอาเรื่อง หลังจากที่เขาเสร็จธุระแน่นับตั้งแต่วันที่ออกจากบ้านเด็กกำพร้า นางก็ปา

  • นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ   28

    กว่าเยว่ฉีจะรู้ตัวว่าหลงกลพวกงูลิ้นสองแฉกเข้าแล้ว คมกระบี่เย็บวาบพาดลงบนลำคอ บุรุษร่างกำยำที่นั่งอยู่ใต้แสงเทียนสลัวตะคอกนาง ‘ยาอะไร!?’การสังหารเด็กไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแม่ทัพปีศาจ หากไม่ติดว่าเขาดันนึกขึ้นได้ นางเป็นคนคนเดียวกับที่เคยพบในหอไท่หยาง เขาพอรู้ว่าเมื่อไรที่บิดาเลี้ยงเดี่ยวเข้ามาทำธุระในวังหลวง เด็กสาวตัวน้อยจะมุดช่องส่งอาหารเข้ามา นำขนมและยาสมุนไพรมาให้เขา นางเป็นบุตรีแพทย์หลวงผู้หนึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ เหตุใดแม่ทัพเจี้ยนหยู่ยอมให้เยว่ฉีจดบันทึกอาการโดยละเอียด แถมยอมดื่มยาต้มสมุนไพรผสมฝิ่น เป็นผู้ป่วยในความดูแลของนางอย่างว่าง่าย ฮ่องเต้อำมหิตก็เช่นกัน พอรู้ว่าคุณหนูเยว่ฉี บุตรีหมอหลวงกระทำผิดมหันต์ กลับถามความสมัครใจของนางว่าจะรับหน้าที่นี้หรือไม่อาการผู้ป่วยเสพติดฝิ่นมักง่วงซึม สุขภาพร่างกายทรุดโทรม ตัวซีดเหลือง ซูบผอม ดวงตาเหม่อลอย แต่เมื่อครึ่งปีศาจเสพติดสมุนไพรให้โทษเหล่านี้ กลับกลายเป็นกระปรี้กระเปร่า มีบ้างที่เขาจะปิดตานอนเกียจคร้าน ปวดหัวปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ปากซีดมือสั่น เขาอารมณ์แปรปรวนอย่างมนุษย์ กินอาหารมากขึ้น ช่วงนี้เขาก็มีอาการเช่นนั้น‘ระหว่างที่ข้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status