Share

บทที่ 12. มือกลางวัน

last update Last Updated: 2025-04-02 22:11:22

เสียงใสเรียกเธอเอาไว้เมื่อเธอเดินผ่านล็อบบี้ด้านหน้าตรงทางเข้าออกของบริษัท นิลมณีชะงักฝีเท้าพลางกรอกตามองบนแล้วปรับสีหน้าให้ดูเรียบเฉยหันไปมองหญิงสาวที่พึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาทางเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอปฏิเสธออกไปโดยไม่รอให้ซันนี่พูดจบประโยตเลยด้วยซ้ำ

“เอ่อ...งั้นก็ขอโทษด้วย...”

“ผมก็ว่าไปไหนไวจัง มายืนรอผมที่ล็อบบี้เหรอครับ?” ซีอีโอหนุ่มเดินเข้ามาระหว่างบทสนทนาที่น่าอึดอัด แต่การที่เขาเข้ามานั้นทำให้รู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะคำพูดหยอดของเขาไม่สัมพันธ์กับหน้าที่เรียบนิ่งของเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับว่าเขาพยายามฝืนแสร้งพูดมากกว่าที่จะรู้สึกว่ามันเป็นคารม

“ใครรอคุณ? เข้าใจผิดหรือเปล่าคะ?”

“คุณไง...ไม่ใช่เหรอครับ?”

“เหอะๆ พูดเป็นเล่น...ฉันแค่...” ทันทีที่นิลมณีปรายตามองซันนี่ที่ยืนก้มหน้าทำตัวไม่ถูกอยู่นาน และไม่กล้าที่จะขัดบทสนทนาของคนทั้งสองแม้ว่าบทสนานั้นมันจะออกแปลกๆไปเสียหน่อย เพราะซันนี่ที่เป็นพนักงานที่นี่มาปีกว่าไม่เคยเห็นซีอีโอของบริษัทพูดจาแบบนี้กับพนักงานคนไหน และส่วนมากเขาจะดุและเฉยชาทิ้งระยะห่างอยู่พอสมควร หรือไม่แน่ว่าข่าวลือที่นิลมณีเป็นเด็กของซีอีโอมันคือเรื่องจริง

“มารอคุณซันนี่ไปทานข้าวพร้อมกันน่ะค่ะ” พูดพร้อมเอื้อมมือไปเกี่ยวแขนของหญิงสาวที่ยืนอยู่ระหว่างพวกเขา พายุเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ปราดสายตามองซันนี่ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองนิลมณีโดยไม่พูดอะไร

“สนิทกันขนาดนั้นเลย?”

“ค่ะ เป็นเพื่อนกัน...ตั้งแต่วันนี้”

“มีเพื่อนสนิทในที่ทำงานเร็วดีเหมือนกันนะครับ แสดงว่ามนุษย์สัมพันธ์ไม่แย่ผิดกับกิริยาท่าทางหยิ่งๆของคุณ”

...ปากหรือนั่น... นิลมณีคิดในใจ แม้ใบหน้ายิ้มแย้มแบบแสร้งทำให้เขาก็ตาม ซันนี่ที่โดนลากไปเอี่ยวด้วยถึงกับหน้าเหวอ แต่ก็ดีใจที่สาวสวยอย่างนิลมณียอมรับเธอเป็นเพื่อน ในบริษัทมีแต่คนเข้ามาเป็นเพื่อนกับเธอเพราะผลประโยชน์หรือวานให้ทำงานแทนก็เท่านั้น

“ขอบคุณนะคะ ยังไงฉันกับเพื่อนขอตัวก่อ...”

“งั้นก็ดีเลย มื้อนี้ผมเลี้ยงพวกคุณเอง...ถือว่าเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน อีกอย่างผมเองก็ต้องสนิทกับเลขาของตัวเองให้มากๆ จะได้ทำงานกันได้อย่างรู้ใจ” ดีนเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม

...เจ้าหมอนี่...ทำหน้ากวนชะมัด... นิลมณีคิดก่อนจะหันไปมองหน้าซันนี่ที่มองเธอและดีนสลับกัน แม้นิลมณีจะคิดว่าทำไมยัยนี่ถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย แต่ก็พอจะรู้สึกได้ถึงความเกรงใจในตำแหน่งของชายหนุ่มตรงหน้า ซันนี่หันจับแขนของนิลมณีก่อนจะเอียงตัวกระซิบเธอเบาๆ

“ไปเถอะค่ะคุณนิล ไม่อย่างนั้นเราจะทำงานลำบาก” ซันนี่เอ่ยด้วยสีหน้าเกรงใจซีอีโอตรงหน้า มันก็เป็นอย่างที่ซันนี่บอก หากเธอขัดใจเขามากๆตอนนี้โดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกก็ไม่ต้องสืบมันพอดี ตอนเป็นแมวแค่จะหนีออกจากห้องก็ยากแล้วเพราะมันสูงเกินไปที่จะกระโดดลงจากระเบียง บางทีเพราะความคิดยุ่งยากที่มีมากมายอาจจะทำให้เธอลืมคิดเรื่องง่ายๆอย่างเช่นเปิดประตูออกไป... แต่ถึงอย่างนั้นก็เข้าบริษัทไม่ได้อยู่ดีไม่ว่าจะในร่างแมวหรือร่างคน..

“เป็นอันว่าตกลงนะครับ สองสาวเลือกได้เลยว่าจะเลือกทานอะไร” ดีนเอ่ย

“สเต็กเนื้อ!!” ทั้งสองสาวพูดขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายก่อนจะหันไปมองหน้ากันอย่างทึ่ง ซันนี่ยิ้มออกมาไม่ต่างจากนิลมณีที่ยิ้มให้เธอเช่นกัน

...นางรสนิยมไม่เลวเลย อย่างนี้ค่อยคบกันได้ยาวหน่อย ติดตรงที่เป็นคนดีไปหน่อยไม่เหมาะกับฉันที่เป็นราชาแห่งบาปเสียเท่าไหร่...

“คงจะชอบสเต็กเนื้อกันน่าดู ได้สิครับ...เราไปกันเลยไหมผมไม่ติดราคา” ว่าแล้วก็เดินนำสองสาวไปยังรถของเขาที่มีคนขับรถเป็นชายวัยกลางคนยืนรออยู่หน้าบริษัท ท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงานคนอื่นๆที่มองไปยังทั้งสามคนและไม่พ้นคำนินทาดั่งมนุษย์ทั่วไป

...เฮอะ! รวยนักแม่จะกินให้พุงกลางเลย เนื้อแพงที่สุดต้องอยู่ในท้องของฉัน!...

นิลมณีคิดพลางก้าวขึ้นรถ Lexus คันหรู ทั้งนิลมณีและซันนี่ต่างมองภายในรถหรูนั้นที่เต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะทีวี 26 นิ้ว ตู้แช่เครื่องดื่ม สมกับรถของผู้บริหารระดับซีอีโอเสียจริง

“โห...เหมือนมันไม่เหมาะกับคนระดับเราเลยเนอะ” ซันนี่เอ่ยเสียงแผ่วนั่งตัวเกร็งหันไปกระซิบกับนิลมณี

“เฮอะ...กับอีแค่รถติดเครื่องอำนวยความสะดวกทำไมถึงต้องคิดว่าระดับไหน เป็นมนุษย์ก็นั่งได้หมดนั่นแหละ” พูดพลางปรายสายตามองดีนที่นั่งกอดอกมองพวกเธอนิ่ง

“ต้องมีระดับสิคะ รถคันนี้แพงมากเลยนะคะ” ซันนี่เอ่ยพลางทำตาโต

“เท่าไหร่?”

“หกล้านเห็นจะได้ค่ะ ซื้อสเต็กกินทุกมื้อจนเอียนเลยล่ะค่ะคุณนิล”

“หา!!!!” ได้ยินเสียงนิลมณีที่มีทีท่าตกอกตกใจอย่างลืมตัว ดีนก็ยกยิ้มขึ้นและคิดว่า...ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็แพ้เงินอยู่ดี..

               นั่งรถ Lexus คันหรูภายใต้ความเงียบอยู่นาน มีเพียงซันนี่ที่พยายามพูดเจื้อยแจ้วชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แม้นิลมณีจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่ซันนี่พูดเท่าไหร่แต่ก็ยังพอ เออ ออห่อหมกไปบ้างแล้วเบือนหน้าออกไปนอกรถแทน ทุกการกระทำของนิลมณีนั้นอยู่ในสายตาของดีน เพราะเธอรู้ว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ถึงไม่ค่อยอยากหันไป

            “ไหนว่าเป็นเพื่อน ดูไม่ค่อยจะสนใจเพื่อนที่กำลังคุยด้วยเท่าไหร่เลยนะครับคุณเลขา” อยู่ๆเขาก็พูดออกมาโต้งๆเสียอย่างนั้น นิลมณีปรายสายตาไปทางต้นเสียง เม้มริมฝีปากบางสวยไว้แน่นก่อนจะหันไปทางซันนี่ที่ทำหน้างงกับคำพูดของดีน

            “คุณซันนี่...ไม่สิ ซันนี่ ฉันต้องขอโทษด้วยนะถ้าท่าทีของฉันดูเหมือนไม่สนใจ แต่ฉันเป็นคนแบบนี้...ความจริงแล้วฉันฟังที่เธอพูดอยู่” นิลมณีหันไปจับมือของซันนี่เอาไว้ด้วยสีหน้ารู้สึกผิดถึงแม้จะแสร้งทำก็ตามที ซันนี่ยิ้มตอบรับพร้อมกับจับมือของนิลมณีเอาไว้แน่นสีหน้าดูดีใจที่นิลมณีห่วงความรู้สึกของเธอ

            “ไม่เป็นไร ฉันพอรู้ว่าคุณ...เอ่อ นิลน่าจะเป็นคนเงียบๆ เพื่อนกันต้องรับนิสัยกันได้อยู่แล้ว ฉันรู้ว่านิลไม่ใช่คนเลวร้าย”

...น้อยไปน่ะสิ... นิลมณีตอบในใจแต่สีหน้ายังคงยิ้มตอบรับอย่างแสร้งทำเช่นเดิม พลางปรายสายตามองคนที่จับจ้องเธอราวกับต้องการจับผิดอะไรบางอย่าง ก็ไม่แปลกอาจจะเพราะเธอพึ่งมาทำงานกับเขาวันแรก

ความคิดหยุดลงพร้อมกับเสียงเจื้อยแจ้วในรถที่เงียบลงเมื่อรถคันหรูเลี้ยวเข้ามายังร้านอาหารที่หรูหราร้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ไหลจากบริษัทพอสมควร ดีนโทรบอกคนขับรถไว้แล้วว่าต้องการจะไปที่ไหนเพราะวันที่เจอนิลมณีนั้นเขาแอบเห็นว่าจานสเต็กของหญิงสาวหมดเกลี้ยงแทบจะไม่เหลืออะไรเลย คงจะชอบสเต็กน่าดูถึงได้ตั้งใจจะพามากินร้านนี้

 ถึงแม้ว่าเธอไม่รับคำชวนของงเขา ดีนก็คิดว่าจะเดินตามเธอไปแล้วใช้ความบังเอิญบังหน้าเพื่อได้ทานมื้อกลางวันกับเลขาคนสวยแล้วค่อยโทรยกเลิกกับคนขับทีหลัง แต่โชคดีตรงที่เขามาทันพอดีกับที่เธอกำลังยืนคุยกับพนักงานหน้าล็อบบี้ที่เขาแทบไม่ได้สนใจมองเลยสักวัน ต่อจากนี้คงจะต้องคุยกับพนักงานหน้าล็อบบี้บ่อยๆบ้างแล้วหากต้องการรู้เรื่องของนิลมณี

คนทั้งสามเดินลงจากรถหลังจากที่คนขับเปิดประตูอัตโนมัติให้ ร้านอาหารที่ถูกตกแต่งตัวร้านราวกับอยู่ในเรือนกระจกสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ภายในดูหรูหรา จากเมนูด้านหน้าแล้วราคาไม่เบาเลย ซันนี่ได้แต่เดินเกาะแขนนิลมณีเข้าร้านไปอย่างเกรงใจ ดีนเดินนำไปนั่งที่ที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวและติดกระจกที่สามารถมองเห็นสวนด้านข้างของร้าน พนักงานเดินเข้ามาวางเมนูที่เป็นแฟ้มกำมะหยี่ด้านในมีเพียงสองหน้าเมนูเท่านั้น

“สั่งกันได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจ”

“ไม่คิดจะเกรงใจอยู่แล้ว ในเมื่อคุณซีอีโออุตส่าห์ออกตัวเลี้ยงมื้อนี้เอง” นิลมณีพูดพลางนั่งเอนหลัง ขาเรียวทั้งสองข้างไขว่ห้าง ไร้ความตื่นเต้นใดๆ เธอนั่งอ่านเมนูอย่างเงียบๆก่อนจะวางมันลงแล้วหันไปทางซันนี่ที่ตอนนี้ทำตาโตกับราคาเมนู

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บบที่ 54. โลกที่อันตราย

    ดีนที่สลบสไลเริ่มรู้สึกตัวขึ้น แม้ว่าเขาจะมีพญาสิงห์อดีตจอมราชาที่มีพลังเหลือล้นกว่าปีศาจและจอมราชาทั้งปวงแต่ด้วยร่างกายของดีน ภาชนะของเขาเป็นมนุษย์เมื่อหลับใหลไปก็ไม่สามารถออกตัวแสดงอิทธิฤทธิ์ใดๆได้ นอกเสียจากว่าขาดสติแต่ยังคงลืมตาอยู่ถึงจะสามารถปกป้องได้ เขามองไปรอบๆตัวช่างเป็นที่ที่น่ากลัวและดูสกปรกไม่น้อย มองยังไงก็ไม่ใช่โลกที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่แน่นอน รู้ตัวอีกทีก็หันไปมองมือของตนเองที่ไขว้หลังอยู่ ไม่ว่าจะพยายมขยับแค่ไหนก็ไม่สามารถขยับแขนของตนได้ มีบางอย่างรัดข้อมือของเขาเอาไว้แน่น รวมถึงช่วงลำตัวของเขาเช่นกัน “เปล่าประโยชน์...ยิ่งเจ้าขยับ หางของข้าก็จะรัดเจ้าแน่นกว่าเดิม”เสียงที่คุ้นหูเหมือนกับเสียงที่เอ่ยทักทายเขาก่อนจะสลบไปเรียกให้เขาเงยหน้าขึ้นมองข้างกายก็พบว่ามันเป็นบัลลังก์กระโหลกเก่าๆ พร้อมกับหญิงสาวในชุดที่แปลกตานั่งไขว่ห้างอยู่และปรายสายต

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 53. โลกที่ไม่รู้จัก

    ดีนนั่งเงียบตลอดทางหลังจากขึ้นรถ ในหัวคิดแต่เรื่องของนิลมณีทั้งที่ยังดีๆอยู่เลยแล้วจู่ๆเธอก็เปลี่ยนไปราวกับมีเรื่องอะไรในใจที่พึ่งฉุกคิดได้อย่างไรอย่างนั้น ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับเขาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเธอตคงไม่มีท่าทีแบบนั้นกับเขา...คิดไปพลางขวดคิ้วมองออกไปภายนอกรถ ...มันน่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือผู้ติดตามของเขาที่ตอนนี้เอาแต่เงียบกริบไม่พูดไม่จาอะไร เป็นปกติต้องแซวเขาแล้ว แต่วันนี้กลับนิ่งเงียบไปจนดีนต้องหันไปมองผู้ติดตามของตนผ่านกระจก ถึงอย่างนั้นก็ยังดูปกติหรือว่าเขาคิดมากไปเอง “วันนี้ไม่แซว?” “.....” สิ่งที่ได้หลังจากถามออกไปก็ยังคงเป็นความเงียบ ไม่แม้แต่จะเห็นรอยยิ้มของเพิ่มพูนผ่านกระจกเลย เขาดูขับรถอย่างตั้งใจมากเกินไปจนเหมือนหุ่นยนต์ และที่สำคัญ...เพิ่มพูนหรือลุงเพิ่มไม่เคยไม่ตอบคำถามเขาผู้ซึ่งเป็นเจ้านายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ประธานหนุ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนไปของบรรยากาศในรถ เขาเหลียวมองออกไปนอกรถอีกครั้งแต่ครั้งกลับไม่ใช่ทางที่จะบริษัท บรรยากาศราวกับหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่งทั้งที่ไม่คิดว่าจะถนนแบบนี้หรือบรรยากาศแบบ

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 52. ความสัมพันธ์กับทางเลือก

    ร่างกายที่อ่อนล้าค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ความปวดร้าวเมื่อยล้าแล่นเข้าสู่ร่างกายจนเธอถึงกับกัดฟันแน่น เขาไม่ปล่อยให้เธอได้พักเลยทั้งคืนจึงเป็นเหตุทำให้เธอปวดร้าวตามร่างกายแบบนี้ นิลมณีอดไม่ได้ที่จะหันไปมองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆตาขวาง “เอาแรงมากจากไหนนักนะ” เธอพึมพำเบาๆพลางเบือนใบหน้าที่ร้อนผ่าวไปทางอื่นโดยไม่ทันสังเกตคนที่นอนอยู่ข้างๆที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดิบพอดี “ยังมีแรงเหลืออีกเยอะนะ จะต่อรอบเช้าด้วยเลยไหมล่ะครับคุณเลขา” เสียงทุ้มที่ตอบกลับเธอมาทำให้เธอหันหน้าไปทางเขาทันทีพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบังร่างกายที่เปลือยเปล่านั้น ดีนหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพลางบิดขี้เกียจไปมาโดยไม่สนใจว่าผ้าห่มมันร่นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว อีกนิดเดียวก็จะเห็นของลับของหวงอยู่แล้วแท้ๆ นิลมณีรีบเบือนหน้

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 51. ห้ามใจไม่ได้[NC+]

    ริมฝีปากหยักได้รูปไม่รอช้ารีบประกบริมฝีปากกระจับนั้น เรียวลิ้นหนาเริ่มรุกล้ำเข้าไปในโพรงแม้ในตอนแรกจะปิดแน่นสนิท นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่มีความรู้เรื่องนี้ ครั้งก่อนเธอมึนเมาและถูกปลุกเร้าด้วยฤทธิ์บางอย่าง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป.. “อือ!” เสียงครางหวานเล็ดลอดผ่านลำคอเพราะตอนนี้ภายในร่างกายของเธอรู้สึกแปลก ตอบสนองรสจูบของเขาอย่างห้ามไม่ได้ อีกทั้งลิ้นเรียวเล็กของเธอถูกดูดกลืนราวกับกำลังจะถูกเขาครอบงำ...ยากที่จะปฏิเสธมัน รสจูบที่จาบจ้องและรุนแรงทำให้เธอแทบหายใจไม่ทัน “อื้อ...” เสียงค้านดังขึ้นผ่านลำคอเมื่อรู้สึกถึงมือหนาที่ค่อยลูบไล้ปลดเปลื้องเสื้ออาภรณ์ของเธอ ทุกการสัมผัสของเขาราวกับมีมนต์สะกด ความรู้

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 50. ความรู้สึกของเขา

    “ยังไงคุณก็จะไม่บอกผมใช่ไหมครับว่าคุยเรื่องอะไรกัน?” เมื่อเท้าก้าวเข้าบ้านมาดีนก็เอ่ยถามนิลมณีทันทีเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเดินนำเตรียมจะขึ้นไปห้องของตัวเองที่ชั้นสอง นิลมณีชะงักฝีเท้าเธอหันกลับไปมองเขาด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้า ที่รู้สึกเหนื่อยเพราะเธอคิดเรื่องทางเลือกที่อัคคีให้มาไม่หยุดไม่ว่าจะมองหาทางไหนก็มืดมันแปดด้านจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วและอยากอยู่เงียบๆกับตัวเองสักพัก “บอสคะ คุณมีคฤหาสน์หลังใหญ่ให้อยู่ มีผู้ติดตามตลอด มีลูกน้องมีคนขับรถ...ทำไมบอสไม่กลับไปอยู่บ้านของตัวเองล่ะคะ” “หืม? ก็เพราะแมว...คุณชวนผมมาอยู่ที่นี่เองไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้จะไล่กันแล้วว่างั้น?” “ลองคิดดูนะคะ ถ้าเกิดวันนี้ซันนี่มาเที่ยวที่บ้านจริงเธอก็ต้องรู้...นั่นหมายถึงคนในบริษัทรู้ ถึงวันนี้

  • My Demon Cat Boss นางแมวจอมมารของท่านประธาน   บทที่ 49. ครุ่นคิด

    'ข้าจักให้เวลาเจ้าได้คิดเสียหน่อย...แล้วค่อยกลับมาให้คำตอบ'คำพูดของอัคคียังคงก้องอยู่ในหูของเธอ จากที่ได้คุยกับอัคคีแล้วนั้นหากต้องการพลังของเธอคืนเพื่อจะช่วยพวกพ้องเหล่าภูติผีปีศาจก็ต้องดึงดวงจิตของพญาสิงห์ อดีตจอมราชาองค์ก่อนแยกออกจากร่างของดีน แต่ขณะเดียวกันนั้น.... ...ร่างของดีนก็อาศัยดวงจิตของพญาสิงห์เพื่อดำรงชีวิตอยู่เช่นกัน... ...ด้วยสัญญาแลกเปลี่ยนที่มีให้กัน....เพราะเหตุนี้หากทำพิธีดึงดวงจิตออกมาดีนก็จะต้องตาย...แต่ทำไมเธอถึงได้ลังเลกันล่ะ ในเมื่อต่อให้เขาตายก็ไม่มีผลกับเธอ แถมยังดีกับด้วยซ้ำ...ไม่มีผลกับเธอจริงๆน่ะหรือ? ยิ่งคิดใบหน้าสวยก็ยิ่งเคร่งเครียด ความเจ็บปวดแผ่ซ่านเข้าที่หัวใจจนแทบหายใจไม่ออก...แค่คิดว่าเขาจะหายไปตลอดกาล..."คุยเรื่องอะไรกันถึงทำให้เลขาจอมเย็นชาของผมทำหน้าเคร่งเครียดแบบนี้ได้" เสียงของดีนเรียกให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิด เธอหันไปมองเขาที่ตอนนี้นั่งไขว้ห้างเท้าแขนกับกระจก มือท้าวคางจ้องมองเธอราวกับกำลังสนุกที่เห็นสีหน้าของเธอเป็นแบบนี้...เขาผู้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย..."ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ"นิลมณีตอบพลางสะบัดหน้าหนีสายตาคมของเขา ท่าทางของคนทั้ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status