เมื่ออ้นได้ยินเสียงเคาะประตูเขารีบเดินออกมาเปิดประตูห้องทันที เพียงได้เห็นหน้าของเอเขายิ้มอย่างอ่อนละมุนให้เอ แต่เขากลับได้รีบความนิ่งเฉยที่ใบหน้าของเอ
“เป็นอะไรเหรอ”อ้นถามด้วยความแปลกใจอย่างมาก เพราะสีหน้าและท่าทางนั้นได้แตกต่างจากเมื่อตอนหัวค่ำอย่างมาก
“กูมาเก็บเสื้อผ้าจะกลับบ้านแล้ว”เอพูดด้วยเสียงราบเรียบ
“ทำไมรีบกลับไหนบอกว่าจะอยู่อีกหลายวันล่ะ”
“ก็มึงนั่นแหละที่ทำตัวเอง”
“ทำอะไร”อ้นมีสีหน้าที่สงสัย
“มึงเอารูปที่กูถ่ายคู่กับมึงลงในโซเซียลทำไม”เอมีสีหน้าที่บึ้งตึ่ง
“ก็คือเรา”อ้นอ่ำอึ้ง
“มึงต้องพูดอะไร เรื่องราวระหว่างมันจบแล้ว”เอเดินไปเกี่ยวเสื้อผ้าใส่กระเป่าของเขา
“เอ เราขอโทษเดี๋ยวเราลบรูปก็ได้”
“มันสายเกินไป เราคงไปกันไม่ได้หรอก อีกอย่างถึงเราจะไม่จากกันวันนี้ ต่อไปเราก็ต้องจากกันอยู่ดี สู้เราจากกันตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่าอีกเหรอ”
“เรารักนายนะ”อ้นพูดขึ้นมาจากใจจริง
“แต่เราไม่ได้รักนายนี่”
“แล้วที่นายทำดีกับเราล่ะ”
“เราขอบใจนายมากนะที่นายดีกับเรา ช่วยเหลือเราทุกอย่าง แต่เราคงไม่มีเงินใช้หนี้นายหรอก แต่เราก็ให้ตัวนายแล้วไง”
“เอนายคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ ทำไมนายใจร้ายกับเรามากเลย”อ้นน้ำตาร่วงทันที
“อย่าพูดอะไรเยอะเลย เราไปแล้วนะ”เอเดินไปที่ประตูกำลังจะก้าวออกไป แต่อ้นวิ่งเข้ามากอดที่ร่างของเอไว้ในทันที
“ปล่อยเราไปตามทางของเราเถอะ เราก็ไม่ใช่คนดีอะไรนี่ นายก็น่าจะรู้ดีอย่ามารักคนอย่างเราเลย”เอแกะมืออ้นออกจากเอวของเขา
เมื่อเอแกะมืออ้นออกจากเอวแล้วเขาก็รีบเดินลงไปข้างล่างทันที เพื่อลงไปหาเจนที่นั่งรออยู่ข้างล่าง
“เอ นายอย่าไปนะ”อ้นรีบลงตามไป
เอเดินอย่างเร่งรีบจนไปถึงที่รถของมอเตอร์ไซค์ของเจนจอดรออยู่ เจนก็รู้งานรีบสตาร์ทเครื่องรอทันที เมื่อเอมาถึงจึงรีบขึ้นรถในทันใด ส่วนอ้นรีบวิ่งมาแต่ไม่ทันแล้วเพราะเจนได้ขับพาอ้นออกจากหอของเขาไปไกลพอสมควร
อ้นเดินกลับห้องอย่างคอตก และใจที่ปวดร้าวสุดจะทานทน เขาพยายามปาดน้ำตาทิ้งแต่ก็ยังไหลไม่หยุด เมื่ออ้นมาถึงในห้องของเขา อ้นจึงรีบโทรหาจีจี้เพื่อนสาวของเขาในทันที
“ฮัลโหลว่าไง”
“จีจี้ เอเขาทิ้งเราไปแล้ว”
“อ้าวก็ยังเห็นดีดีกันอยู่นี่”จีจี้มีสีหน้าที่ตกใจ
“เอ โกรธเราเรื่องที่ลงรูปที่กับเขาในโซเซียลน่ะ”
“นั่นก็เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขามีเหตุผลรองรับ เพราะแท้ที่จริงแล้วเขาก็คงอยากจะเลิกกันอ้นนั่นแหละ”
“พูดอะไรไม่เข้าใจเลย”
“แหมทีเรื่องฉลาดแต่พอเรื่องนี้ช่างไร้เดียงสา”
“ก็เอไม่ได้ชอบอ้นหรอก เขาแค่มาหลอกให้อ้นเลี้ยงดูเขาแค่นั้นแหละ พอหมดประโยชน์ก็จากไป ส่วนรุปถ่ายก็แค่ส่วนประกอบให้มีเหตุผลในการจากไหแค่นั้นเอง”
“ไม่จริง”
“จะโง่ไปถึงไหน ฉันไม่ปลอบเธอหรอกนะ ฉันจะตอกย้ำให้เธอหลาบจำ”
“จีจี้เธอต้องปลอบใจเราซิ”
“ถึงเวลาที่เธอต้องเข้มแข็งแล้วนะอ้น หลังจากนี้ลืมเขาซะตั้งหน้าตั้งตาเรียนต่อจนจบปริญญา หลังจากนั้นหางานทำเดี๋ยวผู้ชายก็เข้ามาหาเองนั่นแหละ รับรองมีให้เลือกมากมายก่ายกอง”
“จีจี้”
“เรียกทำไมเตือนแล้วไม่ฟังก็ต้องรับผลของมันนี่แหละ”
“ก็ได้พรุ่งนี้เราจะกลับบ้าน”
“ดีมากแล้วค่อยเจอที่มหาวิทยาลัยนะ”
“ฮือ”
อ้นกดวางมือถือแล้วล้มตัวลงนอนอย่างใจสลาย ค่ำคืนที่เขาได้วาดฝันได้พังทลายจนหมดสิ้น ไม่มีเหลือแม้แต่ความหวังนิดหน่อยให้ชโลมใจ เพราะเอได้ไปแบบขาดเยื่อใยไร้ให้สานสัมพันธ์ต่อในอนาคต
เมื่อเจนพาเอมาถึงที่ห้องเช่าของเขา ซึ่งใหญ่กว่าอ้นมากนักเพราะบ้านของเจนค่อนข้างมีฐานะพอสมควร
“ห้องนายใหญ่มากเลยนะ”เอนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียงนอน
“ไม่ใหญ่หรอก ว่าแต่นายพรุ่งนี้กลับบ้านแน่ใช่ไหม”
“แน่ กลับไปบ้านสักพักหลังจากนั้นก็ไปหางานทำ นายคงไปเรียนใช่ไหม”
“ใช่พ่อเราหาที่เรียนไว้ให้แล้วแหละ”
“ที่ไหนล่ะ”
“กรุงเทพ”
พอเอได้ยินว่าไปเรียนกรุงเทพเขาก็คิดถึงอ้นในทันที เพราะหลังจากนี้อ้นก็จะไปเรียนที่กรุงเทพเหมือนกัน แต่เขาก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เพราะเอไม่อยากจะคิดอะไรเกี่ยวกับอ้นอีกไม่อยากให้ความคิดนั้นมากวนจิตใจของเขาที่กำลังห่อเหี่ยว ที่อ้นได้เผยแพร่รูปภาพของเขาให้สาธารณชนได้เห็นกันหมดเมื่อชั่วเวลาที่ผ่านมา
“นายเป็นอะไรนิ่งไปเลย หรือว่าคิดถึงน้องอ้น ถ้าคิดถึงกูไปส่งมึงได้นะ”เจนปากกับใจไม่ตรงกัน เพราะเขาอยากหยุดเวลาค่ำคืนนี้ไว้ให้นานที่สุด เท่าที่จะนานได้ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีใดก็ตามที
“ปากมึงยังเหมือนเดิมนะ เลิกพูดเรื่องคนอื่นได้แล้ว จะพูดดีดีกับกูไม่ได้เลยเหรอวะ”
“กูขอโทษ ก็ได้กูจะไม่พูดถึงน้องอ้นของมึงแล้วก เพราะถ้าพูดถึงน้องอ้นของมึงเดี๋ยวมึงจะไม่สบายใจ กูจะไม่พูดถึงน้องอ้นอีก น้องอ้นก็เหลือเกินทำอะไรไม่รู้จักคิด ทำให้เอได้ไม่สบอารมณ์ ใช้ไม่ได้จริงๆน้องอ้นคนนี้นี่”
“ไอ้เจนมึงหยุดซะทีได้ไหม ไอ้นี่มึงจะเอาอย่างไงกับกูวะ บอกมาเลยอย่ามาพูดจาประชดประชันแดกดันกูอยู่ได้”
“กูล้อเล่น กูรักมึงเลยหยอกหน่อยนะ เพื่อที่มึงจะได้ไม่คิดอะไรมาก”
“มึงเล่นแบบนี้กูไม่ชอบเลย พอเหอะกูจะนอนมึนๆอยู่เหมือนกัน มึงก็เหมือนกันนอนได้แล้ว ปากจะได้หุบซะทีมีปากก็สักแต่พูดไม่รู้จักไว้ทำอย่างอื่นบ้าง”
“เอ่อก็ได้นอนก็นอน”
ด้วยที่เอนั้นง่วงนอนอย่างมากเขาเลยหลับสนิททันที เมื่อเอได้ล้มตัวลงนอนบนที่นอนของเจน ซึ่งห้องของเจนนั้นเย็นสบาย เพราะมีแอร์ที่เจนเปิดทิ้งไว้ให้อ้นจะได้หลับสบาย ซึ่งเจนก็เช่นเดียวกันด้วยความเมาจึงทำให้เขาหลับลงไปอย่างง่ายดาย
ยามเช้าตรู่เจนได้ตื่นก่อนเอ เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็หันร่างตะแครงไปที่เอที่กำลังหลับอย่างสบายใต้ผาห่มผืนใหญ่ ด้วยใจที่ชอบเอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เจนจึงตัดสินใจกระทำบางอย่างที่ใจของเขาปราถนา เจนค่อยๆเปิดผ้าห่มออกจนถึงปลายเท้า และเขาได้เห็นส่วนกลางลำตัวของเอพองนูน เขาจึงอยากสัมผัสสิ่งนั้น ที่เขาเคยเฝ้าปรารถนามานานตั้งแต่เขาเรียนวันแรก
เอค่อยดึงกางเกงบ๊อกเซอร์ออกทีละน้อยจนเผยเห็นท่อนเอ็นของเอ ที่ชูชันผงาดชี้ฟ้าเจนเห็นแล้วอดใจไม่ไหวเขาจึงเผลอใจลิ้มรส เพียงชั่วอึดใจท่อนเอ็นของเอก็เข้าไปภายในปากพาเลินของเจน หลังจากนั้นเจนตวัดลิ้นรูดขึ้นรูดลง ในห้วงความรู้สึกตอนนี้เอได้รู้สึกตัว แต่เขาไม่ลืมตาเพราะในใจนั้นคิดว่าเป็นอ้น เขาจึงปล่อยกายปล่อยใจให้เพลิดเพลินซ่านสยืวกับรสสัมผัสของเจน
ด้วยเวลาไม่นานนักเอก็ใกล้ถึงจุดหมายปลายทางที่สุขสม เพียงชั่วอึดใจแค่นั้นเอก็พ่นน้ำในกายออกมาอย่างทะลัก จนเจนตั้งรับไม่ทันเขาจึงคายท่อนเอ็นออกในทันใด ในความรู้สึกของเอนั้นคิดว่าอ้นเปลื่ยนไป เพราะถ้าอ้นจะกลืนกินจนหมดไม่เหลือคราบ แต่เหตุไฉนในครั้งนี้ เอจึงลืมตาขึ้นและสิ่งที่เขาเห็นคือเจนกำลังเช็ดริมฝืปากที่เปื้อนคราบสวาท เมื่อเขาเห็นเช่นนั้นจึงลุกขึ้นถีบเจนจนตกเตียง
“ไอ้เจนมึงเป็นบ้าอะไรของมึงมาอมของกูทำไม”
“คือกู ลองดู มึงก็ไม่ขัดขืนนี่หว่าจะโทษกูฝ่ายเดียวก็ไม่ได้”
“มึงพูดมาได้อย่างไงก็มึงลักหลับกูนี่หว่า ถ้ากูรู้กูยันมึงตกเตียงก่อนหน้านี้แล้ว”
“ทีน้องอ้นมึงยังให้อมได้เลยนี่หว่าไอ้เอ”
“กูไม่ได้ให้อมเลย”เสียงของเอแผ่วลง
“อมอะไรมาพูดก็ไม่เชื่อ”
“แต่มึงก็ไม่มีสิทธิ์มีลักหลับกู”
“กูขอโทษก็แล้วกัน มึงก็ไม่เสียหายอะไรนี่หว่า ก็สนุกกันทั้งสองฝ่ายนี่”เจนลุกขึ้นยืน
“มึงนี่มันเกินคนจริงๆ มันเป็นอะไรของมึงทำไมมาทำกับกูอย่างนี้”
“ก็กูอยากลองดูอย่างที่บอกเมื่อกี้นี้แหละ”
“มึงจะมาลองกับกูทำไมผู้ชายเหมือนกันหรือว่ามึงเป็นแบบไอ้อ้น”
“ไหนบอกว่าไม่มีอะไรกันนี่ แล้วไอ้อ้นเป็นแบบไหนล่ะ”
“ก็แบบมึงนั่นแหละ”เอรู้สึกเครียดกับเจนที่มาลักหลับเขา
“เอ่อน่า ฟิวเพื่อนกันมันก็สนุกดี ทำให้นายคลายความอัดอั้นด้วยนี่ไม่ใช่เหรอ”เจนนั่งลงบนเตียงนอน
เอนั่งคิดหนักกับพฤติกรรมของเจน เขาก็โกรธเจนมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นห้องนอนของเจน และเอก็ไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ที่เอทำกับเขา กับอ้นเขาไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนี้ถึงจะไม่ชอบอ้น แต่เขาก็ชอบความสัมพันธ์ทางกายที่มีอะไรกัน แต่กับเจนเขาไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้ในทันทีทันใด
“ก็ได้ ครั้งนี้กูให้อภัยมึงแต่อย่าให้มีอีกนะโว้ย เพราะกูอยากรักษาความเป็นเพื่อนไว้ให้เหมือนเดิม”
“มึงก็อย่าคิดมากซิวะเรื่องแค่นี้เอง ทำตัวเหมือนไม่มีอไรเกิดขึ้นแค่นี้ก็จบ”
“มึงไม่ใช่คนเสียหายก็พูดได้น่ะซิ”
“เอาน่าอย่าไปซีเรียล ว่าแต่ทำไมมึงเสร็จเร็วจังวะ”เจนอมยิ้ม
“ไอ้เจน มึงอยากโดนถีบอีกครั้งเหรอวะ ไอ้นี่พูดไม่รู้จักจบจักสิ้น”
“ก็อยากจบนั่นแหละ แต่มันยังไม่จบนะซิ”เจนอมยิ้ม
“มึงต้องการอะไรพูดมาตรงๆเลย อย่ามาอ้อมค้อมให้กูรำคาญ”
“มึงไม่อยากต่อให้จบเหรอวะ”
“มึงไม่ต้องมาพูดเลยแค่นี้แหละถือว่าค่าห้องหนึ่งคืนก็แล้วกัน”
“ก็ได้”เจนรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย
เอนั้นนั่งมองหน้าเจนอยู่พัก เขาก็ไม่เข้าใจในตัวเจนเหมือนกันทำไมถึงทำเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่อยากถามอะไรให้
พงศกรมองหน้าเอด้วยความไม่พอใจยิ่งนัก เพราะเอดูไม่เรียบร้อยห่ามเถื่อนจนเกินไป เขาชอบผู้ชายที่ดูสุภาพอย่างจ๊อบ “ไอ้อ้น มึงพาแฟนกลับไปด้วยเลย กูไม่อยากเห็นหน้ามัน” “พ่อแฟนอ้นนะ” “กูรู้แล้วว่าแฟนมึงกูก็ไม่ได้ห้ามว่ามึงอย่ามีแฟนนี่ แต่ให้หาที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ไม่เหรอ เอาผีบ้าผีบอจากที่ไหนมาเนี่ย” “ผมไม่ใช่ผีบ้าผีบอนะครับ ผมเป็นคนเหมือนพ่อนั่นแหละ วันนี้เดี๋ยวผมจะทำกับข้าว ซักผ้าถูกบ้านให้เอง เอ่อ เดี๋ยวจะไปถางหญ้าหวดทีทำทุกอย่างให้สะอาดเลย พ่อรออยู่นี่แหล่ะ” “อ้นคุยกับพ่อแม่ไปนะ เดี๋ยวเราจะไปทำงานบ้านและนอกบ้าน” เมื่ออ้นพูดเสร็จเขาก็เข้าไปในครัวทำกับข้าว ที่เขาซื้อเตรียมพร้อมไว้ เพราะเขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องชนะใจพ่อตาให้ได้ ส่วนแม่ยายเอ้นคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร “ไอ้อ้น แฟนเองมันเพี้ยนแม่ว่า” “แม่ เอก็แบบนี้แหละ แต่เขาดูแลอ้นดีมากเลย ข้อสำคัญเขามีเวลาอยู่กับอ้นตลอด” “มีเวลาไม่มีประโยชน์ดูมึงดำไปมากเลย ไปอยู่กลางไร่กลางนามาแน่เลย” “ครับพ่อ” “นั่นไง กูเลี้ยงของกูไม
อ้นและเอใช้ชีวิตอยู่บ้านไร่มาร่วมเดือน จนพ่อแม่ของเอเกิดความสงสัย เพราะพ่อแม่ของเอแค่นึกว่าอ้นมาเที่ยวหา แต่นี่อยู่ร่วมเดือนยังไม่กลับไป ทั้งสองจึงอยากเห็นหน้าและพูดคุย ด้วย พ่อแม่ของเอไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาทั้งสองไปอยู่กับพี่สาวคนโตในจังหวัดอื่น และอีกอย่างที่ทั้งสองมาเพราะคิดถึงลูกชายคนเดียวของพวกเขา เมื่ออำพลกับบังอรมาถึงเขาก็เห็นภาพอันบาดตา เป็นภาพที่เขาทั้งสองไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น เพราะเป็นภาพที่เอนอนบนตักของอ้น และที่หนักไปกว่านั่นเขาจับมือของอ้นมาดมและหอมอตลอดเวลา “ไอ้เอมึงทำอะไรของมึง”กำพลเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่ง “เอ หรือว่าลูกเป็น เอ่อ”บังอรใช้มือทาบอกด้วยความตกใจ เอรีบกระดกตัวลุกขึ้นทันที เขามีสีหน้าที่ไม่สู้ดีทันที ส่วนอ้นยังไม่เท่าไรแค่แปลกใจ ทำไมพ่อแม่ของเอมาไม่บอกล่วงหน้าแค่นั้น “พ่อแม่”เอลุกขึ้นยืนนิ่ง “สวัสดีครับพ่อแม่”อ้นยกมือไหว้ทันที “พวกเอ็งเป็นอะไรกันถึงมานอนหนุนตักหอมไม้หอมมือกัน อย่างกับเป็นคู่รักกันอย่างนั้นแหละ” “คือว่า พ่อกับแม่ คือผม เอ่อ อา อือ อู คือ
วันนี้อ้นแกล้งตื่นสาย เพราะอยากรู้ว่าเอจะอยู่บ้านหรือว่าแอบไปไหนหรือเปล่า เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จจึงลงมาข้างล่าง แล้วสิ่งที่อ้นเห็นนั้นทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก เพราะภาพตรงหน้าเอกำลังนั่งโซฟาคุยกับนิน มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้งสอง อ้นถึงกับของขึ้นอารมณ์ฉุนเฉียวมาทันที เขารีบเดินลงบันไดแล้วเดินไปหาเอ “คุยอะไรกัน”อ้นเอ่ยขึ้น “คุยเรื่องสมัยเรียนตอนมัธยม คิดถึงวันนั้นมากเลย เอชอบแกล้งเรานะ ไม่คิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนละคน”นินยิ้มให้เอ “ใช่ โตแล้ว มีแฟนแล้วด้วย ยืนอยู่ตรงนี้”อ้นยืนกอดอก “เหรอ แฟนเอใช่ไหม” “เอ่อ ใช่ แฟนเราเอง”เอตอบอย่างหนักแน่น “เอ”นินอ้าปากค้างตาโต เพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนี้ ถึงแม้เขาจะรู้ระแคะระคายมาบ้างนิดหน่อย แต่นินยังไม่เชื่อจนได้ยินจากปากของเอ เขาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม”อ้นนั่งลงข้างๆเอพร้อมยิ้มให้นิน “ได้ยินแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนเอนี่ จะไปหามาหาสู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” “แปลกซิ ถ้านายเป็นแบบนิก เราไม่ว่าอะไรหรอก แต่นี่นายเหมือนเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้น
เอรีบเข้าไปอุ้มร่างของอ้นทันที ส่วนอ้นยังทุบหน้าอกของเอไม่ยั้ง แต่แบบออมแรงไม่ทุบแรงอย่างครั้งแรก และก็ดิ้นให้น้อยลงนิดหน่อย เออดทนรีบพาอ้นเข้าไปในรถยนต์ของเขา เมื่ออ้นเข้าไปในรถแล้ว เขาก็นั่งนิ่งๆไม่มีท่าทีจะไปไหน พอเอขึ้นรถมาเท่านั้นแหละ อ้นหันหน้าไปทางอื่นแล้วอมยิ้ม แต่อ้นอารมร์ดีได้ไม่นานเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของเอดังขึ้น เอจึงรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมารับทันที “ว่าไง” “ตามอ้นเจอไหม” “เจอแล้วอยู่บ้านนิก” “เราขอโทษนายด้วยนะที่ทำให้ผิดใจกับอ้น”น้ำเสียงของนินบ่งบอกถึงความผิดหวัง “ไม่เป็นไรแค่นี้นะ” “ฮือ” เอกดวางมือถือแล้วหันมามองหน้าอ้น ที่กำลังบึ้งตึงอีกครั้ง เพราะอ้นคาดเดาได้ว่าเป็นเสียงของนินโทรมา “เป็นอะไรอีกล่ะ” “ไปส่งเราที่ขนส่งด้วยเราจะกลับกรุงเทพ” “กลับไปหาไอ้บอสของมึงเหรอ”เอเริ่มรู้สึกโมโหที่อ้นเอาแต่ใจมากขึ้น “ใช่” “ไอ้อ้น มึงอยากโดนอีกใช่ไหม” “โดนอะไร” “กระท่อมปลายไร่ ไปอยู่ในนั้นอีกครั้งไหม”
อ้นนั่งๆนอนอยู่บ้านเฉยๆจึงเกิดความเบื่อหน่าย และเป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงเขาจึงตักข้าวใส่ปิ่นโต พร้อมกับข้าวสามขนมหนึ่ง หลังจากนั้นอ้นจึงเดินออกไปไร่ข้าวโพดเพื่อไปหาเอแฟนหนุ่ม อ้นพอจำทางได้บ้างเมื่อครั้งโดนเอจับมาไว้ที่บ้านปลายไร่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนเห็นไร่ข้าวโพด อ้นมองเห็นร่างผู้ชายสองคนอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ท้ายไร่ อ้นจึงเดินต่อไปเพราะเขาจำร่างของเอได้ ยิ่งอ้นเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นเอ แต่ผู้ชายอีกคนอ้นคิดว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่อ้นคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเอ อ้นจึงไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงรีบเดินไปให้ถึงต้นไม้ใหญ่ไวๆ เพราะแดดค่อนข้างร้อนพอสมควร ถึงเขาจะใส่หมวกมาก็ตามที ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เมื่ออ้นเดินไปถึง สิ่งที่เขาเห็น เอกำลังนั่งกินข้าวหัวเราะต่อกระซิบกับชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่ได้สนใจอะไรนึกแค่ว่าเพื่อน “คุยอะไรกันสนุกเชียว”อ้นยืนอยู่ข้างหลังเอ “อ้าวมาได้ไง”เอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย “ใครเหรอ”ชายหนุ่มเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้น “อ้นเพื่อนกูเอง”เอหันมามองชายหนุ่ม “นี่นินเพื่อนกูสมัยเรียนอนุบาล”เ
อ้นตื่นนอนมาเขาก็ไม่เห็นเอนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเข้าไปอาบน้ำและแต่งตัวลงมาด้านล่าง เพียงแค่ลงมาเขาก็เห็นอาหารวางไว้เต็มโต๊ะ อ้นเดินเข้าไปดูซึ่งเป็นอาหารดีๆทั้งนั้น เขายืนยิ้มในความเอาใจใส่ของเอ “น่ากินทั้งนั้นเลย”อ้นตักข้าวใส่จานและนั่งลง อ้นค่อยๆกินข้าวอย่างช้าๆพร้อมกับคิดถึงเอตอนทำกับข้าว เขาถึงกับหัวเราะเบาๆจากหนุ่มห่ามกลายมาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน อ้นกินข้าวจนอิ่มถึงสองจานเพราะรสมือของเอนั้นเลิศรสยิ่งนัก เมื่ออ้นกินข้าวอิ่มเขาจึงเดินออกไปนอกบ้าน มองไปรอบๆซึ่งมีแต่ไร้ข้าวโพด เขายังจำวันที่เอลากไปช่วยหักข้าวโพดได้ อ้นถึงกับยิ้มออกมา “ยิ้มอะไรครับ”เพื่อนของเอที่เคยไปช่วยอ้นในป่า เดินเข้ามาใกล้ๆอ้น “คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเลยยิ้ม มาหาเอเหรอ สงสัยไปที่ไร่น่ะ” “ใช่ครับมาหาเอ ผมนิกจำผมได้ไหม”นิกยิ้มจนเห็นไรฟัน “ทำไมจะจำไม่ได้คนที่เคยใช้อ้นไว้ไงที่กลางป่า” “ดีจังที่จำผมได้ ผมก็นึกว่าอ้นลืมผมซะแล้ว” “จะลืมผู้มีพระคุณได้ไง”อ้นยิ้มหวานให้นิกเพื่อนของเอ “แล้วมาหาเอมีธุระอะไรหรือเปล่า”