Home / รักโบราณ / นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน / บทที่ 6 พระเอกที่ไม่ฆ่าเธออย่างที่พล็อตนิยายเคยเขียน

Share

บทที่ 6 พระเอกที่ไม่ฆ่าเธออย่างที่พล็อตนิยายเคยเขียน

โรงเตี้ยมแสงเทียนสลัว ๆ กระพริบไหวในห้องพัก ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารร้อนและไม้หอมไป๋หลินนั่งลงที่โต๊ะเล็ก ๆ ด้านมุมห้อง สั่งอาหารจากคนใช้ในโรงเตี้ยมด้วยเสียงเรียบเฉย ไม่มองหน้าใคร

“บะหมี่ซุปสามรสร้อน ๆ หนึ่งชาม” เสียงของเธอเย็นชา แต่มือกลับสั่นเล็กน้อยเมื่อรับจดหมายและของที่ขาฝากไว้เมื่อเช้า

อาหารร้อนถูกวางลงตรงหน้าไป๋หลินจ้องมองไปยังประตูไม้ที่ถูกปิดสนิท เธอพยายามกล้ำกลืนความรู้สึกที่ปะทุขึ้นในใจ

“ไม่สนใจเขา ไม่คิดถึงเขา”

เธอวางช้อนอย่างมั่นคง แล้วยกมือไปจับผ้าคลุมที่แขวนอยู่ข้างเตียง ไอร้อนในอ่างไม้ลอยฟุ้งหนาแน่น ราวกับม่านหมอก ที่บดบังเส้นแบ่งระหว่างความฝันกับความจริง น้ำเก๊กฮวยอุ่นถูกเทลงผสมน้ำจนกลิ่นหอมจาง ๆ กระจายไปทั่วห้องอาบน้ำ

แสงตะเกียงสั่นไหว ละอองไอน้ำเกาะกระจกเป็นหยด ไป๋หลินถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีรอ ฝ่ามือของนางลูบผ่านต้นคอเปลือยช้า ๆ ดวงตาเหม่อลอย สะท้อนแสงไฟเหมือนกระจกหยกปล่อยให้ความร้อนของน้ำชะล้างความเหนื่อยล้าและความคิดยุ่งเหยิงแม้ร่างกายจะเหนื่อยล้า

แต่จิตใจของเธอก็ยังคงเข้มแข็งไม่ไหวหวั่น แต่สำหรับไป๋หลินแล้วคืนนี้เธอเลือกที่จะไม่สนใจ และพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันต่อไป

แต่นางไม่รู้เลยว่าบุรุษผู้นั้นกำลังยืนมองอยู่หลังฉากไม้ตรงมุมห้อง หายใจเบาราบเรียบแต่นัยน์ตา… ไม่เหลือความเย็นชาอีกต่อไป

ตอนเขาเห็นนางเปลือยหลังในห้องน้ำไม้เก่าแห่งนี้…

ทุกอย่างในหัวเขากลับ “ขาวโพลน” ไปหมด

เส้นผมเปียกแนบลงบนแผ่นหลัง หยดน้ำไหลช้า ๆ ลงจากต้นคอ สู่แนวกระดูกสันหลัง กลีบอกยกขึ้นเล็กน้อยเวลานางเงยหน้ารับน้ำสะโพกแน่นเปลือยโผล่พ้นน้ำเพียงครึ่งร่อง

เขาขบกรามแน่นมือกำผ้าคลุมในมือเสียจนข้อนิ้วขาว

“เจ้าไม่ควร…” แล้วเขาก็… ทนไม่ไหว

เสียงไม้เปิดเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่ประตูห้องน้ำจะถูกเปิดอย่างรวดเร็ว

“—!!” เธอผงะ รีบคว้าผ้าแต่ไม่ทันเพราะเขาก้าวเข้ามาแล้ว รวบข้อมือเธอทั้งสองไว้ด้วยมือเดียว

“เซวียน!? ท่าน!?” ร่างสูงในชุดดำก้าวเข้ามาช้า ๆ ไม่เอ่ยวาจาเพียงสบตา….แล้วถอดเสื้อคลุมทิ้งลงกับพื้นไม้ โดยไร้คำอธิบาย

หัวใจนางกระตุกริมฝีปากเธอเผยอจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เขาก็เข้ามาในอ่างทันทีน้ำกระเพื่อมแรงขึ้น ร่างเปลือยเปล่าของเขาแนบชิดกับแผ่นหลังเปียกชื้นของเธอทันที

มือเขาเลื่อนจากไหล่นาง สอดลงแตะเต้านูนใต้ผิวน้ำ บีบเต็มฝ่ามืออีกมือหนึ่งเลื่อนลงกลางหว่างขา แตะกลีบกลางที่กำลังอุ่นจัดและนุ่มลื่นจากไอน้ำ นิ้วเขาลากช้า ๆ วน คลึง สอดแทรกปลายนิ้วเข้าด้านใน จนเสียงน้ำเฉอะแฉะปะทะกับเสียงสะอื้นพร่าของนาง

“อื๊อ… มะ-ไม่ไหว…”

เขาไม่พูดเพียงฝังใบหน้าไว้ที่ซอกคอ เป่าลมหายใจร้อน ใส่ใบหูแล้วใช้นิ้วดันเข้าไปอีกสอง สามข้อต่อจนสะโพกเธอกระตุกขึ้นมาตอบรับอย่างไม่รู้ตัว

มือหนึ่งของเขายังคงลูบจากหน้าอกลงไปที่หน้าท้อง

ขยี้ติ่งกลีบในน้ำ อีกมือหนึ่งขยุ้มเส้นผมเธอ กดใบหน้าเธอแนบกับไหล่เขาให้เสียงครางเธออัดแน่นอยู่ตรงหน้าอกเขาโดยไม่มีทางหนีจากนั้นเขาขยับตัวลำร้อนจัดแข็งขึงบดผ่านร่องก้นนวลจนสะโพกเธอสั่นวาบ แล้วในจังหวะเดียว เขากระแทกเข้ามาเต็มแรง

ฉึก!

“อ๊าาาาาาาาาา!!”

เสียงกระทบน้ำดังเฉาะเฉะไป๋หลินแทบชักขาขึ้นตามแรงเสียดเขากระแทกซ้ำทันที ไม่รอให้นางได้หายใจทุกแรงโถมหนักแน่น รุนแรงในอ่างที่คับแคบ

น้ำกระเซ็นล้นขอบเสียงสะโพกกระแทกบั้นท้ายนางดังก้องในห้องไม้

ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!

กลีบเนื้อเปียกชื้นบดกับลำร้อนจนเสียงเฉอะแฉะยิ่งเร้าอารมณ์เขากัดหลังคอเธอเบา ๆ แล้วกระแทกเข้าไปลึกจนเธอร้องกรีด หน้าอกเธอกระเพื่อมในน้ำ มือจิกขอบอ่างแน่นจนข้อนิ้วซีด

“ฮึก… ข้า… ข้าจะ…”

เขาเร่งจังหวะทุกแรงสั่นไหวถึงปลายประสาทเธอกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะปล่อยเสียงสุดท้ายออกมาในครางสั้นปนสะอื้นร่างสั่นสะท้าน

เขายังไม่หยุดเพียงกระแทกอีกทีแล้วหยุดนิ่ง… ฝังลึกเข้าไปจนสุดโคนร่างเขากระตุกเบา ๆ ก่อนปล่อยน้ำร้อนทะลัก ในตัวเธอมาก ลึก จนเธอรู้สึกถึงไออุ่นแทรกซึมในท้องน้อย

เธอฟุบซบกับอกเขา หอบหายใจ มือเขายังคงกอดรัดเธอแน่นจากด้านหลัง เสียงน้ำหยดจากเส้นผม เสียงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

เขายังไม่พูดอะไรเลยแต่จากสัมผัสนั้นไป๋หลินรู้ดีว่า… เขาไม่ใช่แค่ครอบครองเธอแต่ รักด้วยเนื้อ ด้วยตัวและด้วยใจ ดิบเถื่อนที่เอาเธอไปทั้งตัวในค่ำคืนนี้

เสียงน้ำที่ล้นอ่างหยดลงพื้นไม้ทีละหยาด เบาบาง แต่ชัดเจนในห้วงที่ลมหายใจเธอขาดห้วง ร่างของไป๋หลินอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนเขา ใบหน้าซุกแนบอกกว้าง กลีบปากเผยอครางแผ่ว ร่างเปลือยเปียกชุ่มพาดอยู่บนตักเขา ขณะความร้อนรุ่มจากภายในยังไม่ทันจางหาย

เขายังไม่ขยับ ยังฝังแน่นในกายเธอ ไออุ่นของน้ำแรกยังคั่งคลออยู่ภายในจนเธอสั่น ระริกไม่หยุด

แล้วเขาก็ก้มกระซิบข้างหู เสียงต่ำพร่ากระทบติ่งหูนางอย่างจงใจ

“เจ้า… ตอบคำถามของข้าแล้ว”

เธอสะท้านวาบใบหน้าร้อนวูบขึ้นมา ทั้งที่ไอน้ำรอบตัวก็ยังร้อน

เขาถอนกายออกช้า ๆ เสียงเนื้อหลุดจากกัน เฉาะ ดังจนเธอหลับตาแน่นของเหลวขุ่นไหลย้อนล้นจากร่อง กลีบเนื้อยังเต้นตุบ ๆ อย่างไม่ยอมหยุด

ไม่ปล่อยให้นางได้พัก มือหนาสอดช้อนร่างนางขึ้นจากอ่างในคราวเดียวร่างเปลือยชุ่มน้ำของไป๋หลินแนบอกเขา ขาขาวยาวแกว่งอย่างหมดแรงเขาก้าวไปยังเตียงไม้ในห้องข้างใน… แสงไฟวูบไหวตามแรงก้าวราวกับกลัวจะดับไปเพราะเพลิง ที่เขาหอบเข้ามา

เขาวางร่างนางลงช้า ๆ บนผ้าปูที่นุ่มกว่าอะไรทั้งปวง ในค่ำคืนนี้แล้วค่อย ๆ คลานขึ้นตามดวงตาเขา… ไม่ใช่เพียงคนที่ต้องการเสพอีกครั้งแต่มันเหมือนดวงตาของใครบางคน… ที่จะกลืนเธอไว้จนหมดโลก

“เจ้ารู้หรือไม่…” เขากระซิบ ขณะปลายนิ้วลากผ่านแนวท้องลงไปกลางต้นขา

“…กลีบดอกไม้ของเจ้าร้องหาข้าแม้แต่ตอนเจ้าฝืนปฏิเสธ…”

เขาจูบหน้าท้องเธอ แล้วลากปลายลิ้นต่ำลง เธอสั่นสะท้าน มือกำผ้าปูแน่น “มันหวาน… กว่าทุกโอสถที่ข้าเคยชิม”

ปลายลิ้นของเขาแตะเข้ากลางกลีบนุ่มแล้วลากยาว ช้า จนนางสะบัดขาขึ้นเองโดยไม่รู้ตัวเสียง ชึ่บ จากการดูดเนื้อกลางหว่างขาดังชัดลิ้นของเขาแลบเข้าไปในร่องที่ยังเต็มไปด้วยน้ำรักขุ่นของเขาเอง

“ฮ้าาา… อื้อออ…!” เสียงนางครางสั่น ขาเบียดหัวเขาไว้แน่นแต่เขากลับจับมันแยกกว้างออกกว่าเดิม

“ข้าอยากให้เจ้าจดจำ… ว่าคืนนี้ ไม่มีอ่าง ไม่มีเตียง ไม่มีแม้แต่ลมหายใจเจ้าที่รอดจากข้าไปได้”

ลิ้นเขารัวเร็ว แล้วลากขึ้นขยี้ตรงกลางเสียงดูด จ๊วบ จ๊วบ ดังชัดในห้องเขาซุกหน้าลงไปอีก กินกลีบเธอราวกับกำลังสูดดมหัวใจนางเข้าไปทั้งดวง

“น้ำเจ้า… ไหลอีกแล้ว” เสียงเขาขาดเป็นช่วงเพราะยังคงเลียไม่หยุดปลายนิ้วสอดเข้า—งอขึ้นแตะจุดลึก

“ตรงนี้… สั่นขนาดนี้ ยังจะกล้าบอกข้าว่าเจ้าไม่ต้องการข้าอีกหรือไป๋หลิน…”

ร่างของเธอกระตุก สะโพกยกขึ้นรับ เสียงในลำคอขาดห้วง ขณะเขาทั้งดูด ทั้งล้วง ทั้งซอกไซ้จนกระทั่ง—กลีบเนื้อบีบรัดนิ้วเขาแน่นน้ำหลั่งพรั่งพรูแตกเต็มปากเขาอีกครั้ง

ไป๋หลินครางชื่อใครไม่ได้นอกจากคำเดียว…

“อ๊าาา…! ได้โปรด… อย่า…”

เขาเชิดหน้าขึ้น ริมฝีปากเปื้อนน้ำเธอลิ้นเลียคราบไปช้า ๆ

“…เจ้าตอบคำถามข้าอีกครั้งแล้ว ไป๋หลิน”

 

ฝนหลังเที่ยงคืนยังคงพรำ เสียงหยดน้ำตกกระทบหลังคาไม้ไผ่ดังสม่ำเสมอ กลบเสียงบางอย่างไว้ได้เพียงบางส่วน... บางส่วนที่ควรจะเป็นความลับระหว่างผนังห้อง แต่กลับถูกปล่อยให้เร่าร้อนสะท้อนออกมากับเสียงเตียงไม้ที่ครางลั่นทุกครั้งที่สะโพกของเขากระแทกลงอย่างไม่ปรานี

ไป๋หลินแนบอกกับเตียง ร่างเปลือยเปล่าสั่นระริกจนเตียงแทบลั่นเป็นชิ้น เธอครางเสียงพร่า ฝ่ามือซีดจากการจิกปลอกหมอนแน่นจนเส้นเอ็นขึ้น มือของหยางเซวียนจับที่สะโพกขาวนวลแล้วกระแทกสวนเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

“อึก… อ๊าาา…! ข้า… ข้าไม่ไหว…!”

เสียงเธอสั่นไหวในลำคอ กลีบกลางของเธอกระตุกรัวตอดแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหลุดออกมา ลำร้อนของเขาทะลวงลึกจนแตะมดลูกไม่หยาบ ไม่รีบ แต่จงใจ ตอกลึกลงในความจำ จนร่างเธอจะจำความรู้สึกนี้ไปตลอดชีวิต

เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบเสียงต่ำข้างใบหู ริมฝีปากแทบแนบผิว “หากเจ้ากล้าหนีข้าอีกครั้ง…” เสียงเขานิ่ง ราบเรียบ แต่ลึกถึงกระดูก “เจ้าจะรู้ผลของมัน... ใช่หรือไม่”

ไป๋หลินสะอื้นฮึกเบา ๆ ขณะเขาจับเธอพลิกหงายขึ้น มือหนาสอดใต้ขาพาดบนไหล่ ร่างเธอแอ่นขึ้นอ้าโล่งรับการกระแทกจากเบื้องหน้าอีกครั้ง

ฉึก!

เสียงลำเนื้อกระแทกทะลวงเนื้อในเธอดังชัด กลีบเนื้อดูดกลืนเขาเข้าไปจนสุด แรงเสียดสีร้อนฉ่าแต่หวานลึก เขาขยับเอวด้วยจังหวะที่หนัก ลึก ดิบ ทุกแรงกระแทกคือคำลงโทษ ทุกเสียงเฉาะเฉะคือการประทับตรา

เธอแทบจะขาดใจขณะลมหายใจขาดห้วง และก่อนที่สติจะดับวูบลงไป… เขากระชากเธอขึ้นจากเตียงในอ้อมแขนแน่นหนาไป๋หลินครางแผ่ว ใบหน้าแดงจัด ร่างเปลือยชุ่มเหงื่อแนบซบอกเขา เธอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่ง…

“ไม่ ไม่เอา! หยางเซวียน! ท่านจะ… จะพาข้าไปไหน!”

เขาไม่ตอบ แค่เปิดประตูออกตรงระเบียงด้านข้าง

ลมกลางดึกปะทะผิวร้อนของเธอจนทั้งร่างสะท้าน ฝนซาแล้ว เหลือเพียงอากาศเย็นชื้นและแสงตะเกียงจากลานเบื้องล่างที่ยังสว่างอยู่… และโต๊ะที่มีคนเร่ร่อนนั่งดื่มเหล้าอยู่ห่างออกไป

ไป๋หลินดิ้น “ตรงนี้ไม่ได้… จะมีคนเห็น!”

หยางเซวียนวางเธอลงตรงขอบหน้าต่าง ร่างบางพิงไม้เย็นเยียบเขาแยกขาเธอพาดบนขอบวงกบ จับโพรงกลางของเธอแหกอ้า แล้วฝังตัวเข้ามาอีกครั้ง ลึกที่สุด เสียงกระแทกแรกดังก้องเต็มระเบียง

ฉึก!! “อ๊าาาาาาา!!”

เธอครางลั่น พยายามจะดันเขาออก แต่กลับยิ่งตอดแรงกว่าเดิมโพรงกลางบีบตัวรัดแน่นยิ่งกว่าเคย เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ ขณะสะโพกกระแทกถี่ขึ้น

ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!

“ยิ่งกลัว... เจ้าก็ยิ่งตอดแรงแบบนี้รึ?”

เสียงครางของเธอสั่นเครือ ผสมเสียงลมหายใจหอบถี่ จังหวะเดียวกันนั้นเอง…เสียงฝีเท้าดังจากลานเบื้องล่าง… คนหนึ่งกำลังเดินมาใกล้เงยหน้าขึ้นจะมอง

“ข้า…ข้าแตกแล้ว หยางเซวียน!” เธอกรีดร้องขณะร่างกระตุก “อ๊าาาาา!!” เขากระแทกเข้าอีกครั้ง ลึกสุด โถมแรงทะลวงร่างเธอในจังหวะที่คนนั้นเงยหน้าขึ้นพอดี

แต่ทันก่อนที่สายตาจะเห็นเขา รวบเธอเข้ากอดแน่น! คลุมร่างเธอด้วยผ้าคลุมสีดำ ผวาถอยกลับเข้าห้องในจังหวะเดียวราวกับหมาป่าที่โฉบเหยื่อเข้าถ้ำ หวงแหนจนยอมให้ใครเห็นไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

ประตูระเบียงปิดลงเหลือเพียงเงาไฟวูบไหว และเสียงหอบของหญิงสาวที่สั่นเทาในอ้อมแขนชายผู้หนึ่งที่กลืนกินเธอ จนหมดทั้งกายใจ เขาวางเธอลงบนเตียงอีกครั้ง แล้วสอดตัวเข้าผ้าห่มตาม ห่มทับร่างบางที่ยังเปียกเหงื่อและน้ำรักทั้งของเธอและเขา

ไป๋หลินซบอกเขาอย่างหมดแรงร่างยังเต้นตุบ ๆ ภายใน เธอรู้สึกถึงหยดสุดท้ายที่ไหลย้อนอยู่ในโพรงกลาง

เขากอดเธอแน่น ลูบผมของเธอเบา ๆ แล้วกระซิบใกล้หูเธออย่างอ่อนโยน… ทว่าทุกถ้อยคำ คือคำเตือน

“ถ้ากล้าหนีข้าอีก…”

“คราวหน้า ข้าจะให้เจ้าเสร็จกลางตลาด”

ริมฝีปากของเธอสั่นระริก กัดปากไม่ให้ครางออกมาอีกแล้วเธอก็เงียบ ซบแน่นกับอกเขา ไม่พูด ไม่ขยับ และไม่กล้าแม้แต่จะคิดหนีอีก…เพราะหัวใจเธอรู้ดี ต่อให้โลกทั้งใบหลบพ้นมือเขาได้ แต่เธอ… ไม่มีทาง.

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 50 ราตรีแห่งพันธะคำสาปกับโลหิตแรก

    เปลวเทียนล้อมร่างนางทั้งสี่ทิศ กลิ่นกำยานดำล่องลอย คล้ายกระชากสติให้หลุดจากโลกความจริงฝ่ามือของโม่อวี้วางบนหน้าผากนางแต่เขาไม่ใช่คนที่จะเริ่มพิธีนี้ตรงกลางเรือน กลางเสื่อปูรองศักดิ์สิทธิ์ที่โรยด้วยกลีบบัวสีชาด เขากำลังถอดเสื้อคลุมเผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง รอยแผลเก่าเป็นทางยาวไม่ใช่จากศึก แต่จากอดีตที่เขาตัดออกจากตัวเองไม่ได้ไป๋หลินนอนนิ่ง เรือนผมหล่นกระจายบนหมอนดอกไม้แห้งใบหน้าซีด แต่ผิวเริ่มอุ่นขึ้นเพราะปราณที่หล่อเลี้ยงจากมือของ บุรุษผู้หนึ่ง “ฮั่นซู” เขานั่งข้างนาง นิ่ง ราวกับไม่มีสิ่งใดในโลกนอกจากชีพจรของนางแล้วค่อย ๆ หยิบมีดเล่มเล็ก ปลายคมสะท้อนแสงเทียน เขากรีดปลายนิ้วของตนเองอย่างเรียบ เงียบ ไม่หวั่นไหว หยดเลือดแรก แดง สด ไหลออกช้า ๆ เขยิบเข้ามา ประคองใบหน้านางด้วยมือเดียวจรดนิ้วนั้นที่ริมฝีปากนางเบา ๆ เสียงเขาต่ำ… เกือบกลืนกับลมหายใจของพิธี“เจ้าหลับอยู่…แต่ข้ารู้ว่าเจ้าจะได้ยิน…” “…นี่คือเลือดของข้า คืนแรก…ของเจ็ดคืนแห่งพันธะ” เขาแตะนิ้วนั้นที่ริมฝ

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 49 สามราตรีสุดท้าย ก่อนโลกจะลืมชื่อเธอ

    ค่ำคืนหลังการเฉลิมฉลอง ทั่วทั้งวังหลวงถูกห่มด้วยแสงตะเกียงและเสียงหัวเราะเหล่าขุนนางชูจอกสุรา เสียงดนตรีดังก้อง แคว้นเว้ยเพิ่งเปลี่ยนบัลลังก์ แต่ผู้คนเชื่อว่าชัยชนะนั้นมั่นคงไม่มีใครรู้เลยว่า เธอ หญิงที่เปลี่ยนชะตานิยายทั้งเรื่องกำลังจะตายกลางสวนหลังตำหนัก ใต้เงาจันทร์จาง ร่างของไป๋หลินเอนพิงต้นหลิว มือข้างหนึ่งกำแน่นกับอก ริมฝีปากขาวซีด ลมหายใจสั้นเหมือนเทียนที่ใกล้ดับพิษภายในกายกำลังกัดกินเส้นลมปราณ คำสาปที่ไม่เคยหาย กลับมาครั้งสุดท้าย เพื่อทำหน้าที่ของมัน“พิษ ยังไม่จบ” เธอกระซิบแทบไร้เสียง “พวกเขา ไม่ควรเห็นฉันตาย” และก่อนที่สติจะหลุดร่างหนึ่งในชุดนักพรตสีเงาหมอกก็ปรากฏตรงหน้าเธอเงียบ เร็ว เหมือนรู้มาก่อนโม่อวี้ ผู้ที่ไม่อยู่ในงานเลี้ยง ผู้ที่ไม่เคยต้องถามใคร ผู้ที่รู้ด้วย “ญาณ” ว่าหญิงที่เขาเฝ้ามองในทุกภพชาติ กำลังจะตายตรงนี้เขาคุกเข่าลงข้างเธอ วางฝ่ามือกลางหลังนาง กระแสจิตแทรกเข้าสำรวจ และเมื่อเจอเส้นพิษ ดวงตาเขาปิดลงช้า ๆ “เหลือเวลาสามราตรี”ไม่มีเสียงหวีดร้อง ไม่

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 48 เพียงห่วงฝันตื่นหนึ่ง…พร้อมหัวใจที่แตกสลาย

    คนผู้นั้นไม่กล้าเดินผ่าน เขาเห็นร่างของนางในท่ากึ่งเปลือย สะโพกขาวโค้งรอรับลิ้น เห็นใบหน้าของหยางเซวียน แนบแน่นกับหว่างขา จับต้นขาเธอไว้แน่นจนร่องรักปลิ้นขึ้นทุกที ที่เขาดุนลิ้นเข้าไป“เสร็จให้ข้าอีกครั้ง... ครั้งนี้ต่อหน้าข้า” เขากระซิบ ทั้งที่ลิ้นยังวนไม่หยุด เสียงครางแผ่วของเธอหลุดจากปาก กลั้นไม่ได้ มือจิกหิน เล็บเกร็งแน่น สะโพกเธอกระตุกพรืดแล้วกระตุกอีกซู่… เสียงน้ำตกกลบแทบไม่ทันเสียงครางในลำคอเธอแตกตรงนั้น แตกบนปลายลิ้นของเขา น้ำเธอไหลซึมเข้าปากเขาเต็ม ๆ พร้อมเสียงหอบพร่าอีกฟากของม่านน้ำตก เงาร่างที่หลบมองถึงกับเบือนหน้าไปหัวใจเต้นแรงเหมือนจะระเบิด…แต่ขาเขายังไม่กล้าขยับ เพราะภาพนั้น… ยังฝังอยู่ในหัวเธอกำลังเสร็จ ไม่ใช่คนธรรมดาที่พาเธอถึง แต่คือ หยางเซวียน ผู้ที่เลียกลีบของเธอด้วยความรัก... และสายตาที่เธอไม่ยอมให้ใครนอกจากเขาม่านน้ำตกยังซัดกระแทกผนังหินไม่หยุด แต่เสียงมันเบากว่าเสียงหอบถี่ของเธอในตอนนี้ ร่างเธอเปลือยครึ่งท่อน ขาทั้งสองถูกจับแยกออก มือยังสั่นระริกแม้จะไร้เชือก

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 47 นางยืนอยู่ที่นี่ ข้างบัลลังก์อันสูงส่ง ทว่าไม่ใช่ในฐานะจักรพรรดินี

    ข้างม่านไหมบางสีงาช้าง หญิงสาวในชุดผ้าไหมสีอ่อนยืนอยู่เงียบงันอาภรณ์ของนางพลิ้วไหวเมื่อสายลมพัดผ่าน เป็นชุดกระโปรงยาวลากพื้น สีชมพูอ่อนเจือกลีบบัว ปักลายบุปผางามด้วยดิ้นทองละเอียดประณีตดอกโบตั๋นบานสะพรั่งกระจายไปตามสาบเสื้อและชายกระโปรง ดุจสวนดอกไม้ที่เบ่งบานใต้แสงจันทร์แขนเสื้อกว้างแบบหรูหรา ปักลายเถาไม้เลื้อยทอดตัวอ่อนช้อยจนสุดชายผ้าเอวคอดถูกรัดด้วยสายรัดผ้าไหมปักดิ้นเงิน แทรกด้วยลูกปัดหยกเล็กละเอียด เส้นผมถูกรวบครึ่งศีรษะด้วยปิ่นหยกขาวรูปกลีบดอกไม้ ทิ้งปลายผมดำขลับยาวสลวยลงมาแม้จะไม่ประดับมากนัก ทว่าทุกอย่างบนเรือนร่างล้วนบรรจงประดับด้วยความละเมียดละไม งามอย่างมีสง่า... ราวภาพในฝันนางกำลังยืนเงียบอยู่ในกลุ่มข้าหลวงนางใน ไร้ตำแหน่ง ไร้ฐานะ แต่ในสายพระเนตรขององค์จักรพรรดิกลับมองนาง… ราวกับอัญมณีเพียงหนึ่งเดียวที่ทั้งโลกมิอาจหาใดเทียบเคียงนางยืนอยู่ที่นี่ ข้างบัลลังก์อันสูงส่ง ทว่าไม่ใช่ในฐานะจักรพรรดินี นางเพียงมายืน ณ ที่แห่งนี้…เพราะคำขอสุดท้ายจากเขาคำขอที่เปลี่ยนฉากสุดท้ายของเรื่องราว ให้ไม่ใช่เพียงการจากลาแต่เป็นบทส่งท้าย...ของหัวใจสอ

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 46 เจ้าคือดวงใจที่กลับมา…หรือเป็นภาพลวงตาในความฝัน

    เสียงใบไผ่เสียดสีกันในสายลมเย็นยาวราวเสียงกระซิบจากอดีต... หยาดน้ำค้างเกาะบนผิวโลกเหมือนน้ำตาที่ไม่มีใครยอมปล่อยให้ไหลอวี้หลัน หรือ ไป๋หลิน นางเหม่อมองแสงจันทร์ที่สาดผ่านช่องไม้ผุพาดลงมาบนฝ่ามือตนเอง สีผิวซีดขาวเหมือนไข่มุกเย็น แขนเรียวไร้แรงเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ถูกพรากเลือดมาครึ่งร่างแล้วนางเงียบอยู่นาน ก่อนจะกระซิบกับตัวเอง“ใช่... ข้าลืมไปได้ยังไง…”อีกไม่กี่วัน…ก็จะครบวันที่ข้าจะได้พักแล้วซินะ…พิษในร่างจะไม่ใช่แค่ระอุเงียบ ๆ ใต้ผิวหนังอีกต่อไป มันจะลุกขึ้น กลืนกินเส้นเลือด กล้ามเนื้อ ทุกความทรงจำ และท้ายที่สุด—ชีวิตแต่นางกลับนั่งอยู่นี่… รอดูพระจันทร์แทนที่จะเร่งหลบหนี เพราะสิ่งหนึ่งเดียวที่นางไม่มีวันหนีพ้นคือคำขอสุดท้ายของเขา“เจ้าจะอยู่กับข้า...ในวันขึ้นครองบัลลังก์ ใช่หรือไม่?”คำขอของอวี้เหวินเจี๋ย สั่นไหวในหัวใจนางยิ่งกว่าเสียงกลองสงคราม ไม่ใช่เพราะความหวาน หรือเพราะสายตาที่เขามองมาเหมือนนางคือทั้งโลกของเขา แต่เพราะนางรู้… ว่านี่คือคำขอครั

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 45 เจ้าทำสิ่งใดกับนาง?

    เขาอุ้มนางขึ้นแนบอก ก้าวออกจากเรือไม้ไปสู่ท่าน้ำที่อยู่ไม่ไกล ลำเรือไม้ลายพยัคเทียบท่าอย่างเงียบงัน คบเพลิงสว่างเพียงพอให้มองเห็น…โม่อวี้ ผู้ได้รู้..นางถูกลักพาตัวออกจากจวน มาด้วยความรีบร้อน แต่เมื่อเขามองเห็นอวี้เหวินเจี๋ยก้าวลงมาจากรถม้าพร้อมหญิงสาวในอ้อมแขน สิ่งหนึ่งบีบรัดในอกแน่นอวี้หลันในอ้อมแขนเขา…ดูราวกับสตรีที่เพิ่งถูกรักจนสลบ“เจ้าทำสิ่งใดกับนาง?” เสียงโม่อวี้เรียบ แต่อากาศรอบตัวกลับตึงเครียดเหมือนจะฟาดฟันอวี้เหวินเจี๋ยมองเขานิ่ง… ก่อนก้มลงกระซิบข้างหูนางที่ยังหลับสนิท “ข้าจะรอ…จนกว่าเจ้าจะตื่น แล้วตัดสินข้าด้วยปากของเจ้าเอง”แล้วจึงส่งตัวนางให้โม่เหยี่ยนโดยไม่กล่าวคำใดต่อ ราวกับยอมยกดาบทิ่มอกให้ชายตรงหน้า—ด้วยยิ้มอ่อนที่อาบเลือดไว้ภายในโม่เหยี่ยนรับร่างนางไว้แนบอก ความเปียกชื้นใต้ชายผ้าทำให้เขาชะงักเพียงชั่วลมหายใจ แต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา พลางสั่งให้สาวใช้ใกล้ชิดช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าและดูแลเรื่องราวระหว่างเขากับนาง...ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ไม่มีแม้แต่เงาข

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status