“หนูขอโทษค่ะคุณแม่ คุณพ่อ หนูผิดไปแล้ว” หญิงสาวก้มลงกราบแทบเท้าบุพการีพร้อมกับน้ำตา
“คราวหน้าอย่าทำอีกก็แล้วกัน คราวนี้แม่จะยอมยกโทษให้ก็ได้”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” เธอคลานเข้าไปโอบกอดมารดา ยิ้มทั้งน้ำตาที่ยังมีโอกาสให้แก้ตัว “ขอบคุณคุณพ่อด้วยนะคะที่เข้าใจนุ่ม”
“คุณพ่อคุณแม่ครับ ได้โปรดสนใจผมบ้างสิครับ” ไบรอันรู้ว่าการกระทำของตัวเองเป็นเรื่องที่เสียมารยาทสำหรับคนไทย แต่เขาคุกเข่าจนขาชาไปหมดแล้วก็ยังไม่ได้ยินพวกท่านเอ่ยถึงเรื่องที่เขาร้อนใจสักที “กรุณาช่วยตามหาโรสให้ผมด้วยครับคุณพ่อ”
โชติมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ที่ขนาดคุกเข่าอยู่กับพื้นยังสูงเกือบข่มคนที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างตนเกือบมิด
“อยากให้ช่วยจริง ๆ เหรอไบรอัน”
“จริงสิครับคุณพ่อ ผมร้อนใจมากนะครับ”
“ได้สิไบรอัน พ่อจะช่วยตามหาโรสให้นะ” เห็นสายตาอ้อนวอนของเขาแล้วโชติก็ทำใจโกรธเกลียดไม่ลง
ฮ่องกง
เกือบห้าโมงเย็นวันต่อมา ไบรอันก็เดินทางถึงฮ่องกงอย่างราบรื่น
“มีคนมองเห็นความน่ารักของฉันด้วยเหรอคะ ฉันนึกว่ามันหมองไปหมดตั้งแต่มาอยู่กับคุณแล้วซะอีก” เธอโน้มไปใกล้ ๆ “เพราะคุณน่ารักกว่าฉันมาก” เธอไม่ได้ยกยอแต่รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ สำหรับเธอแล้วซูซี่เป็นอาหมวยที่หน้าตาน่ารักมาก แถมนิสัยก็ดีอีกต่างหาก“สาวหมวยเต็มตัวอย่างฉันจะน่ารักเหมือนสาวลูกผสมได้อย่างไรกัน แต่ฉันก็ยินดีรับคำชมนะ” เจ้าของร้านหัวเราะเบา ๆ หลังจากนั้นก็บอกให้ลูกจ้างสาวเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมกับเธอ เพราะเธอต้องแวะไปหาเพื่อนย่านนั้นพอดี“ไม่เป็นไรค่ะซูซี่ เดี๋ยวฉันกลับเองก็ได้”“กลับด้วยกันนี่แหละค่ะ จะได้ไม่ต้องเปลืองค่ารถ” เธอไม่รู้หรอกว่าลูกจ้างสาวพักอยู่ตรงไหนของย่านที่เธอจะผ่านไป แต่เมื่อไปแล้วก็อยากให้เธอกลับด้วยเพื่อความสะดวกสบาย“ก็ได้ค่ะ รอฉันไม่เกินห้านาทีค่ะ” แล้วเธอก็รีบเดินไปเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็วด้วยความเกรงใจคนที่ต้องรอประมาณสิบนาทีต่อมาโชติรสก็มาถึงปากทางเข้าหอพัก เธอลงจากรถของเจ้านายผู้ใจดีแล้วกล่าวขอบคุณ“คุณแน่ใจนะว่าจะเดินเข้าไปเอง”
“ที่นี่มีคนไทยมาเที่ยวเยอะไหมครับ”“สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ รับอะไรดีคะ กาแฟอร่อยไหมคะ มาเที่ยวอีกนะคะ” หญิงสาวพูดภาษาไทยให้อีกฝ่ายฟัง “ร้านกาแฟของฉันต้องรับพนักงานคนไทยเอาไว้ ก็เพราะคนไทยมาที่นี่เยอะมากค่ะ ก่อนที่คุณจะเดินเข้ามาพนักงานคนไทยของฉันเพิ่งจะกลับไปเอง เธอน่ารักมาก ถ้ามีโอกาสแวะมาที่นี่อีกคุณก็ลองมาคุยกับเธอดูสิคะ” หญิงสาวเจ้าของร้านคุยอวดอีกฝ่าย เพราะเข้าใจว่าเขาน่าจะชอบความเป็นไทยไบรอันคิดจะหยิบรูปของโชติรสออกมาสอบถามเธอ แต่เมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงเปลี่ยนใจ เก็บเอาไว้ถามกับพนักงานคนไทยของเธอน่าจะได้คำตอบที่ดีกว่า“ถ้ามีโอกาสผมจะแวะมาใหม่ ขอบคุณมากนะครับ” เขาจิบกาแฟดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืน มองผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเดินผ่านไปมาอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง จึงลุกจากไปตามเส้นทางเดิมที่เดินมาเขากลับถึงโรงแรมที่อยู่ห่างจากย่านนั้นประมาณสิบห้านาที อาบน้ำเรียบร้อยแล้วจึงโทรศัพท์ถึงมารดาเลี้ยงที่แคนาดา(เจอโรสหรือยังไบรอัน) มารดาของเขาถามถึงหญิงสาวทันทีที่รับสาย“ยังเลยครับ”(แม
“ใช่ค่ะ ร้านนี้เป็นร้านของฉันเองค่ะ เพิ่งเปิดมาได้หกเดือนเท่านั้น” เจ้าของร้านตอบอย่างภาคภูมิใจ“หน้าตาคุณยังดูเด็กมากเลยค่ะ เหมือนนักศึกษามากกว่า”“ใช่ค่ะ ฉันเป็นนักศึกษาเรียนอยู่ปีสุดท้าย บังเอิญว่าเจ้าของร้านคนเก่าเขาต้องการขายที่นี่เพราะจะย้ายไปอยู่กับสามีที่ต่างประเทศ ฉันเองก็เป็นลูกค้าประจำของเขาอยู่แล้ว พอรู้เรื่องก็สนใจมาก ๆ เพราะคิดอยู่ว่าถ้าเรียนจบอยากจะทำธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ก็เลยเจียดเวลาจากการเรียนไปเรียนบาริสต้า และเรียนทำขนม แล้วก็มาเปิดร้านนี่แหละค่ะ”“น่าอิจฉาจังเลยค่ะ มีธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วทำไมคุณถึงใส่ชุดพนักงานล่ะคะ” โชติรสรู้สึกพอใจกับนิสัยที่เป็นกันเองของอีกฝ่ายมาก“เพราะพนักงานของฉันลาออกกะทันหันค่ะ ฉันก็เลยต้องมาทำหน้าที่นี้จนกว่าจะหาคนใหม่ได้ ถ้าคุณมีเพื่อนสนใจงานพาร์ตไทม์ก็แนะนำมาที่ร้านนี้นะคะ ทำงานตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงสี่ทุ่ม ค่าแรงชั่วโมงละสี่สิบดอลลาร์ฮ่องกง ถ้าเป็นช่วงเทศกาลจ่ายให้ชั่วโมงหกสิบดอลลาร์ฮ่องกง”“ฉันสนใจค่ะ ฉันทำได
“หนูขอโทษค่ะคุณแม่ คุณพ่อ หนูผิดไปแล้ว” หญิงสาวก้มลงกราบแทบเท้าบุพการีพร้อมกับน้ำตา“คราวหน้าอย่าทำอีกก็แล้วกัน คราวนี้แม่จะยอมยกโทษให้ก็ได้”“ขอบคุณค่ะคุณแม่” เธอคลานเข้าไปโอบกอดมารดา ยิ้มทั้งน้ำตาที่ยังมีโอกาสให้แก้ตัว “ขอบคุณคุณพ่อด้วยนะคะที่เข้าใจนุ่ม”“คุณพ่อคุณแม่ครับ ได้โปรดสนใจผมบ้างสิครับ” ไบรอันรู้ว่าการกระทำของตัวเองเป็นเรื่องที่เสียมารยาทสำหรับคนไทย แต่เขาคุกเข่าจนขาชาไปหมดแล้วก็ยังไม่ได้ยินพวกท่านเอ่ยถึงเรื่องที่เขาร้อนใจสักที “กรุณาช่วยตามหาโรสให้ผมด้วยครับคุณพ่อ”โชติมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ที่ขนาดคุกเข่าอยู่กับพื้นยังสูงเกือบข่มคนที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างตนเกือบมิด“อยากให้ช่วยจริง ๆ เหรอไบรอัน”“จริงสิครับคุณพ่อ ผมร้อนใจมากนะครับ”“ได้สิไบรอัน พ่อจะช่วยตามหาโรสให้นะ” เห็นสายตาอ้อนวอนของเขาแล้วโชติก็ทำใจโกรธเกลียดไม่ลงฮ่องกงเกือบห้าโมงเย็นวันต่อมา ไบรอันก็เดินทางถึงฮ่องกงอย่างราบรื่น
นวพลเด้งก้นขึ้นจากโซฟา มองหน้าชายหนุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่กว่า “สรุปว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องจริงเหรอครับ”“ถ้าไม่จริงฉันจะมาเสนอหน้าอยู่ตรงนี้เหรอแฟรงค์”“ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ผมยังคิดมาตลอดว่าคนที่แต่งงานคือพี่นุ่ม” ก็เพื่อนเขาบอกอย่างนั้น หรือว่าวันนั้นเธอไปขอเปลี่ยนตัวเป็นเจ้าสาวเสียเอง“นายเข้าใจผิดแล้วแฟรงค์ กรุณาทำความเข้าใจเสียใหม่ด้วยนะ” เขาพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ไม่ต้องการอธิบายเรื่องราวที่แสนยุ่งเหยิงให้กับคนนอกครอบครัวรับรู้ “ทีนี้นายก็ช่วยบอกฉันหน่อยว่าภรรยาของฉันพูดอะไรกับนายบ้าง ฉันขอเน้น ๆ เนื้อ ๆ นะแฟรงค์” เขาดักคอเอาไว้ก่อน“บอกเราเถอะแฟรงค์ ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้วนะ เรามีปัญหาที่ใหญ่กว่ารออยู่ นายก็เห็นแล้วนี่ ถ้าเกิดนิ่มได้เห็นข่าววันนี้ด้วย มันอาจจะแย่มากไปกว่านี้อีกหลายเท่านะ” โชติกาพยายามโน้มน้าวจิตใจของชายหนุ่มรุ่นน้อง“โรสเขาบอกกับผมว่าอกหักเพราะรักคนที่ไม่มีสิทธิ์จะรัก ก็เลยจะไปจากเมืองไทยสักพัก ให้ทุกอย่างมันดีขึ้นแล้วค่อยกลับมา” เขาเล่าเ
“พี่มาตามหนูนิ่มกลับบ้าน” โชติกาบอกจุดประสงค์ เธอเองก็ร้อนใจจนไม่เป็นอันนอนพักฟื้น เพราะน้องสาวสุดที่รักไม่ยอมกลับบ้าน และติดต่อไม่ได้เลยตั้งแต่เมื่อวาน จึงต้องฝืนสังขารมาหาถึงที่นี่ “คืนนี้คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่จะกลับมาแล้ว พี่ก็เลยต้องมาตามเขากลับเพราะว่าติดต่อเขาไม่ได้”“นิ่มไม่ได้อยู่กับผมนะครับพี่นุ่ม”“แน่ใจเหรอแฟรงค์” เพราะกลัวอยู่แล้วว่าเขาจะพูดแบบนี้ถ้าโทรศัพท์มาสอบถาม เธอจึงต้องมาดูให้เห็นกับตา“จริง ๆ ครับ ถ้าไม่เชื่อก็ขึ้นไปดูที่ห้องผมก็ได้ เชิญครับ”“ก็ดีเหมือนกัน เพราะเราคงต้องคุยกันอีกยาว”นวพลครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาทันทีกับสายตาจ้องจับผิดของพี่สาวเพื่อน แต่ก็ยังวางตัวได้ดีไม่มีพิรุธ เขากล่าวเชื้อเชิญหญิงสาวและชายหนุ่มอีกคนแล้วเดินนำหน้าเข้าไปในลิฟต์ แล้วพาไปที่ห้องของตน“พี่นุ่มไม่สบายเหรอครับ” เขาสงสัยเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่บึกบึนคอยระวังให้เธอตลอดเวลา“พี่เพิ่งผ่าตัดซีสต์มาได้สามวันเองจ้ะ”“จริงเหรอครั