Share

05

last update Last Updated: 2025-07-22 13:41:21

“เอ่อ! พี่ริชาร์ดคะ ขอพวกเราปรึกษากันสักครู่ได้ไหมคะ” แคทเทอรีนหันไปขอความเห็น เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าให้ เธอจึงหันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนทั้งสองคนทันที

               “เอาไงกันดีอ่ะ กลับไปตั้งหลักแล้วยอมให้พี่เขาหาคนอื่นไปก่อนดีไหม พวกแกว่าไง” แคทเทอรีนอดทำหน้าเครียดไม่ได้ ด้วยรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญกับชมพูแพรมากแค่ไหน

               “ไม่ได้นะ โอกาสมาถึงขนาดนี้แล้ว แกจะให้ฉันยอมปล่อยมันไปง่ายๆ เหรอ มันต้องมีทางอื่นที่ดีกว่านี้สิ” ชมพูแพรพยายามคิดหาทาง เพื่อให้ตัวเองได้เข้าไปทำงานในบริษัทนั้นให้ได้

               “ทางน่ะจะว่ามีก็มีอยู่หรอกนะ แต่อยู่ที่ว่าจะมีคนยอมเดินไปด้วยรึเปล่านั่นแหละ” แคทเทอรีนว่าแล้วก็เหลือบไปมองจัสมินที่นั่งเงียบอยู่

“เฮ้ย! อย่ามามองกันแบบนี้นะ พวกแกก็รู้นี่ว่าฉันต้องกลับไปช่วยที่บ้านทำงาน นี่ก็ใกล้วันกลับของฉันแล้วด้วย” จัสมินรีบบอก เมื่อกำลังถูกคุกคามด้วยสายตาจากเพื่อนทั้งสองคนตอนนี้

“ถ้าอย่างนั้นแกก็คงต้องยอมถอยแล้วล่ะ ออกมาตั้งหลักกันก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีกันอีกทีว่าจะเอายังไง” แคทเทอรีนหันไปบอกชมพูแพรอย่างจนใจ ซึ่งอีกฝ่ายได้แต่ส่ายหน้าหวือไม่ยอมท่าเดียว

“ไม่ แกก็รู้นี่ว่าฉันรอวันนี้มานานแค่ไหน พอมีโอกาสแกจะปล่อยให้ฉันทิ้งมันไปง่ายๆ ได้ยังไง ลืมไปแล้วเหรอว่าที่ฉันอุตส่าห์บากบั่นดั้นด้นจนสอบชิงทุนมาเรียนไกลถึงนี่เพราะอะไร” ชมพูแพรบอกเสียงขื่น เมื่อนึกย้อนไปถึงสาเหตุที่ทำให้เธอดั้นด้นมาเรียนไกลถึงที่นี่ ทั้งๆ ที่ฐานะทางบ้านของเธอก็ไม่ได้อำนวยเลยด้วยซ้ำ

“แล้วแกจะให้ทำยังไง ในเมื่อพี่ริชาร์ดเขาก็บอกชัดเจนแบบนั้นแล้ว นอกจากว่าพวกเราสามคนจะต้องอยู่ทำงานที่นี่ด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมินเองก็กำลังจะกลับเมืองไทยในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว บอกตามตรงว่าฉันเองก็จนปัญญา จะให้ฉันไปบังคับให้เขารับเราสองคนเข้าทำงาน ฉันก็คงทำไม่ได้ ถึงแม้ฉันจะเป็นญาติกับเขา แต่เราก็เป็นแค่ญาติห่างๆ กันเท่านั้นนะ ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลที่จะไปบังคับใครเขาได้หรอก” แคทเทอรีนบอกอย่างจนใจ ถึงแม้จะอยากช่วยเพื่อนมากแค่ไหน แต่ก็คงทำได้ดีที่สุดแค่นี้

“ฮือๆๆ นี่ฉันจะต้องกลับบ้านมือเปล่า ทั้งๆ ที่ฉันอุตส่าห์อดทนรอมาตั้งหลายปี แต่พอมีโอกาสจริงๆ ฉันกลับทำอะไรไม่ได้เลย ทำไมๆๆ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย ฮือๆๆ” จู่ๆ ชมพูแพรก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดัง ทำเอาริชาร์ดที่นั่งอยู่ไม่ไกลพลอยตกใจไปด้วย

“โอ๊ย! สรุปเรื่องนี้ฉันเป็นคนผิดใช่ไหมเนี่ย” จัสมินกุมขมับปวดหัวจี๊ดด้วยไม่รู้จะหาทางออกยังไง

“ไม่ แกไม่ผิด คนที่ผิดคือฉัน ฉันมันไม่ได้เรื่อง ทำอะไรเองไม่ได้สักอย่าง ฉันมันโง่ ฉันมันแย่” ยิ่งเห็นชมพูแพรเอาแต่โทษตัวเองแบบนี้ จัสมินก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี ด้วยรู้ดีว่าเรื่องนี้สำคัญกับเพื่อนมากแค่ไหน

“เอาล่ะๆ แกเลิกฟูมฟายให้ฉันรู้สึกผิดซะทีเหอะ เพราะแกทำสำเร็จแล้ว เอาเป็นว่าฉันจะยอมอยู่ทำงานกับพวกแกต่ออีกสักระยะก็แล้วกัน แต่ไม่รับปากนะว่าจะได้นานแค่ไหน พวกแกก็รู้นี่ว่าครอบครัวฉันก็รอให้ฉันกลับไปเหมือนกัน” รู้หรอกว่าไอ้อาการร้องไห้ฟูมฟายของเพื่อนเมื่อกี้นี้ส่วนหนึ่งมันก็มาจากความรู้สึกจริงๆ แต่อีกส่วนหนึ่งนี่สิ ถ้าไม่ใช่เพื่อนที่คบกันมานานคงจะดูไม่ออกว่ามันเป็นการแสดง

“เย้! แกน่ารักที่สุดเลยมะลิ เพื่อนรักของฉัน” ชมพูแพรเข้ามากอดจัสมินเอาไว้แน่นทันทีที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายยอมอยู่ต่อเพื่อเธอ

“ให้ตายสิ! ฉันน่าจะยกรางวัลนักแสดงดีเด่นให้แกไปเลย แล้วก็บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกฉันว่ามะลิ มันเชย” จัสมินเอ็ดเพื่อนเสียงเขียว แต่ใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นเพื่อนยิ้มออกได้แบบนี้

“เอ่อ! พี่ริชาร์ดคะ สรุปว่าพวกเราทั้งสามคนจะขอทำงานกับพี่ค่ะ ไม่ทราบว่าพี่ยังยินดีต้อนรับพวกเราอยู่รึเปล่าคะ” เมื่อเห็นว่าเพื่อนตกลงกันได้แล้ว แคทเทอรีนจึงรับหน้าที่ประสานงานทั้งหมดต่อ

“ด้วยความยินดี แบรนเดอร์ โกลเบอร์ คอนสตรัคชั่นยินดีต้องรับพนักงานใหม่ทั้งสามคนครับ หวังว่าเราจะร่วมงานด้วยกันได้เป็นอย่างดีนะครับ” ริชาร์ดยิ้มกริ่มพร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้า ซึ่งตรงกับตำแหน่งของจัสมินพอดิบพอดี แต่แทนที่เธอจะยื่นมือกลับมาเพื่อเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ ในการแสดงมิตรภาพที่มีต่ออีกฝ่าย เธอกลับยกมือขึ้นไหว้อีกฝ่ายแทน ทำเอาริชาร์ดถึงกับหัวเราะชอบใจออกมากับความพยศของเธอทันที

หลังจากที่ทั้งสามสามได้เซ็นสัญญาการเป็นพนักงานของบริษัทเป็นที่เรียบร้อย พวกเธอถึงได้รู้ว่า ความจริงแล้วพวกเธอไม่ได้ทำงานด้วยกันอย่างที่ริชาร์ดบอกเอาไว้ตั้งแต่แรก ทีมเวิร์กที่ว่าไม่ได้มีอยู่จริง เพราะหลังเซ็นสัญญาพวกเธอก็ถูกแยกให้ไปทำงานกันคนละฝ่าย ทำเอาจัสมินถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองโดนหลอก

               “ใจเย็นๆ ก่อนนะมิน ฉันว่าบางทีมันอาจจะมีข้อผิดพลาดอะไรก็ได้ หรือบางทีพี่ริชาร์ดอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้ ฉันว่าเราลองไปถามพี่ริชาร์ดก่อนดีกว่า แกอย่าเพิ่งโมโหเลยนะ” แคทเทอรีนพยามกล่อมเพื่อน ด้วยรู้ว่าเพื่อนกำลังไม่พอใจ

               “จะไม่ให้ฉันโมโหได้ยังไง เพราะเหตุผลงี่เง่าของผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้ฉันไม่ได้กลับบ้าน เพราะคำว่าทีมเวิร์กไม่ใช่รึไงที่ทำให้ฉันต้องอยู่ที่นี่ แล้วไหนล่ะทีมเวิร์กที่เขาว่า แบบนี้มันหลอกกันชัดๆ ไม่รู้ล่ะในเมื่อเขาไม่ทำตามกติกา ฉันก็ไม่เห็นต้องสนใจ ฉันจะลาออก ฉันจะกลับบ้าน” จัสมินกระฟัดกระเฟียดและตั้งใจจะเดินออกไปจากบริษัท แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำตามอย่างที่ตั้งใจ คนที่ทำให้เธอโกรธก็เข้ามาซะก่อน

               “สงสัยคุณคงยังไม่ได้อ่านรายละเอียดในสัญญาสินะว่า...ถ้าหากคุณทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย คุณจะต้องจ่ายค่าชดใช้ให้กับบริษัท ซึ่งแน่น่อนว่าการที่คุณเป็นคนขาดความรับผิดชอบ เห็นบริษัทเป็นสนามเด็กเล่น ที่คิดจะมาจะไปเมื่อไหร่ก็ทำได้แบบนี้ มันทำให้บริษัทผมเสียชื่อแล้วก็ทำให้บริษัทเสียหาย เพราะทางเราจะต้องเสียงบประมาณในการเปิดรับสมัครพนักงานใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าคุณยังยืนยันที่จะไป ผมก็พอจะเข้าใจคุณนะมะลิ” จัสมินหันขวับมามองอีกฝ่ายตาเขียวปั๊ด ด้วยไม่เคยถูกใครกล่าวหาแบบนี้มาก่อน

               “มันจะมากไปแล้วนะ มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันขาดความรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่คุณก็ไม่ได้มีดีสักเท่าไหร่” จัสมินหันมาต่อกรอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยมั่นใจว่าสิ่งที่พูดเป็นสิ่งที่ไม่ผิด

               “งั้นเรามาพิสูจน์กันไหมล่ะว่าระหว่างคุณกับผมใครมีดีกว่ากัน แล้วใครที่ชอบทำตัวเป็นเด็กๆ” ได้ยินริชาร์ดท้ามาแบบนี้ จัสมินถึงกับกัดฟันกรอด

               “ได้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ฉันจะทำให้คุณถอนคำพูดที่ว่าฉันวันนี้ให้ได้  ไหนล่ะงานที่จะให้ฉันทำ เอามาสิคะท่านรองประธานบริษัท” ริชาร์ดยิ้มกริ่มชอบใจ เมื่ออีกฝ่ายตกลงยอมอยู่ต่อแบบนี้

               “ใจเย็นๆ สิมะลิ อยู่กับผมน่ะ รับรองว่าคุณได้ทำงานสมใจแน่” ริชาร์ดบอกอย่างอารมณ์ดี แต่คนฟังนี่สิ ถ้าไม่ติดว่าที่นี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย แล้วเธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพนักงานคนหนึ่งของเขาแบบนี้ล่ะก็ เธอคงได้อาละวาด โทษฐานที่เขาเรียกชื่อต้องห้ามของเธอสองครั้งสองคราแบบนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   115

    “เฮ้ย!” แล้วทั้งสามก็อุทานออกมาพร้อมกันอีก เมื่อตอนนี้เหล่ามนุษย์เมียนั่งอยู่ในร้านเดียวกับพวกเขา แต่เป็นคนละมุม ซึ่งแน่นอนว่าทางฝั่งนั้นมองไม่เห็นพวกเขาที่อยู่ทางฝั่งนี้ แต่ทางฝั่งนี้นี่เห็นเต็มสองตา ที่สำคัญไม่ได้เห็นแค่พวกเธอเท่านั้น แต่ยังเห็นหนุ่มๆ ที่จ้องจะขายขนมจีบให้เมียพวกเขาด้วย “ตายแน่มึง” ริคาโด้คำรามในลำคอ ตั้งใจจะไปจัดการกับผู้ชายพวกนั้นที่บังอาจมาเจ๊าะแจ๊ะกับเมียสุดที่รักของเขา แต่กลับถูกมาคัสห้ามเอาไว้ซะก่อน “เฮ้ย! ใจเย็นก่อน แกอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าทำไมมนุษย์เมียพวกนี้ถึงยังไม่ท้องสักที ทำไมเราไม่ใช้โอกาสนี้ไปแอบฟังว่าพวกนั้นมีเกราะป้องกันอย่างที่แกว่ารึเปล่าล่ะ” มาคัสบอกอย่างมีแผนการ ในขณะที่อีกสองคนร่ำๆ จะทนไม่ไหวซะให้ได้ “แล้วแกจะปล่อยให้ไอ้หน้าละอ่อนพวกนั้นก้อร่อก้อติกกับเมียพวกเราแบบนั้นเหรอวะ” ริคาโด้ร่ำๆ จะหมดความอดทนซะให้ได้ ใครๆ ก็รู้นี่ว่าเขาหวงเมียยิ่งกว่าอะไรดี แล้วต้องมาทนดูภาพแบบนี้ (เอิ่ม! ความจริงก็แค่มีผู้ชายเข้ามาคุยกับพวกเธอเฉยๆ เองนะ ทำท่าอย่างกับมีใครจะมาแย่งเมียไปอย่างนั้นแหละ นี่ล่ะนะความรัก ทำให้ประสิทธ

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   114

    “ก็ถ้าไม่ไหว ทำไมแกไม่บอกเขาไปตรงๆ วะ” มาคัสรู้สึกสาร เมื่อได้ฟังเรื่องเล่าสุดรันทดของอีกฝ่าย “บอกไปก็เสียเชิงชายสิครับคุณมาคัส มันจะได้หาว่าผมไม่มีน้ำยา เรื่องแบบนี้มันเป็นศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ต่อให้ต้องตายคาอก ไอ้เคนคนนี้ก็จะไม่ยอมปริปากบ่นสักคำ” เคนบอกเสียงหนักแน่น “เออ! งั้นก็ขอให้แกตายในหน้าที่สมใจแล้วกัน เฮ้อ! นี่ตกลงเราคุยกันเรื่องอะไรวะ ทำไมถึงได้มาจบที่ฟ้าเหลืองของแกได้วะ ให้ตายสิ! เรื่องของแกมันไม่จรรโลงใจสำหรับคนรักเมียอย่างฉันเลยว่ะ” ริคาโด้ส่ายหน้าเอือมๆ “ใครไม่เป็นผมก็พูดได้สิ ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ มนุษย์เมียน่ากลัวเท่าไหร่ หนึ่งคืนกี่ครั้งยังจำไม่ได้ แต่แล้วสุดท้ายมันยังไม่พอ มันหมดไปแล้วทุกความรู้สึก ให้คึกทั้งคืนคงทำไม่ไหว เธอช่วยหยุดหื่นสักที เมื่อฟ้าเหลืองนั้นมีอยู่จริง” (โปรดใส่ทำนองเพลงไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ ของฟิล์มบงกชเข้าไป) เป็นเพราะอยากให้ทุกคนเข้าใจถึงหัวอก เคนจึงพยายามอธิบายออกมาเป็นเพลง แต่มันกลับทำให้ทุกคนต้องเบือนหน้าหนีเพราะเสียงร้องสั่นประสาทของเคน และก่อนที่พวกเขาจะสูญเสียระบบประสาท

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   113

    หลายเดือนต่อมา หลังจากที่ทั้งสามคู่พากันทยอยแต่งงานไปตามๆ กัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเคนและโคดี้ก็มีคู่กับเขาเช่นกัน วันนี้หนุ่มๆ จึงนัดสังสรรค์กันตามประสาคนมีเมีย ส่วนเรื่องที่คุยกันน่ะเหรอ ก็เรื่องชีวิตหลังความโสดของแต่ละคนยังไงล่ะ “อืม...! พวกแกว่าความรักเหมือนอะไรวะ” จู่ๆ ริคาโด้ก็ถามขึ้น “คิดยังไงถึงถามเรื่องนี้ครับพี่ แล้วดูพี่ทำหน้าเข้าสิ อย่างกับพวกที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความรักอย่างนั้นแหละ นี่ก็แต่งงานกันมาตั้งหลายเดือนแล้ว ยังไม่เลิกหวานกันอีกเหรอครับ” ริชาร์ดอดล้อเลียนพี่ชายไม่ได้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกครั้งที่พูดถึงศรีภรรยา “หรือแกเลิกแล้ว ถึงเมียฉันจะซุ่มซ่าม แล้วก็ชอบทำอะไรแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องซ้อมกระต่าย แต่ฉันก็รักของฉันโว้ย แกเองก็เถอะอย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่าแกก็หลงเมียหัวปักหัวปำเหมือนกัน” ริชาร์ดยักไหล่เมื่อถูกพี่ชายตอกกลับ “ก็ผมยังรู้สึกเหมือนเราเพิ่งรักกันเมื่อวานนี้เองนี่ครับ แล้วผมก็หลงรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเธอ ไม่ว่าจะทำอะไรเมียผมก็น่ารักที่สุดในสายตาผมเสมอ” ทุกคนถึงกับเบ้หน้าเมื่

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   112

    “ถ้าอย่างนั้นพ่อกับแม่ไปอยู่กับหนูที่เยอรมันนะจ๊ะ” และนี่เป็นอีกอย่างที่เธอหวังเอาไว้ ด้วยไม่อยากทิ้งให้ท่านอยู่ที่นี่กันตามลำพัง ยังไงท่านก็แก่ตัวลงทุกวัน ไม่มีเธอสักคนแล้วใครจะดูแลพวกท่านล่ะ “ถ้าให้ไปเที่ยวข้ายังพอไหว แต่ถ้าให้ไปอยู่เลยข้าไม่เอาหรอก ข้ากลัวหนาวข้ากลัวหิมะ คนบ้านนอกอย่างข้าชอบจับจอบจับเสียม ทำไร่ทำนาไม่ชอบอยู่ว่างๆ อยู่โน่นเอ็งมีนามีไร่ให้ทำ มีควายให้ข้าเลี้ยงไหมล่ะ ที่สำคัญบ้านข้าอยู่นี่ สมบัติข้าก็อยู่นี่ ถึงมันจะไม่ได้มากมาย แต่มันก็เป็นความภูมิใจของข้า” คนเป็นพ่อบอก “แล้วใครจะเป็นดูแลพ่อกับแม่ตอนที่หนูไม่อยู่ล่ะจ๊ะ หนูไม่อยากทิ้งพ่อกับแม่ไว้ที่นี่ตามลำพังนี่จ๊ะ” เธอบอกพลางร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม “โธ่เอ๊ย! นังเด็กขี้แย โตจนจะมีผัวอยู่แล้ว ยังร้องไห้เป็นเด็กๆ อีก พ่อกับแม่ก็ไม่ได้แก่ถึงขั้นดูแลตัวเองไม่ได้สักหน่อย อีกอย่างเอ็งลืมเจ้าเอกมันแล้วหรือไง มีเจ้านั่นอยู่ด้วยทั้งคน เอ็งก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว” นางแช่มช้อยพูดไปถึงหลานชายที่พวกท่านเอามาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็กๆ หวังได้ฝากผีฝากไข้กันตอนแก่ แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นลูกอย่างชมพูแ

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   111

    “โธ่! แม่มึง เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมเอ็งถึงไม่รู้วะ เดี๋ยวข้าอธิบายให้ฟัง บอย แปลว่าเด็กผู้ชาย ส่วนเฟรนด์ ก็แปลว่าเพื่อน พอรวมกันก็หมายถึง เด็กผู้ชายเพื่อนไง” ผู้ใหญ่ชอบทำหน้าภูมิอกภูมิใจกับความสามารถของตัวเอง ในขณะที่ริคาโด้กลับทำหน้างงๆ เพราะฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง “แล้วไอ้เด็กผู้ชายเพื่อนนี่มันคืออะไรล่ะพ่อมึง” ฝ่ายสามีถึงกับหันขวับมามองหน้าภรรยา เพราะตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน “เออ! นั่นสิ หรือมันจะบอกว่ามันเป็นเด็กผู้ชาย ข้าว่าต้องใช่แน่ๆ เลย คำคำนี้ข้าเรียนมาแล้ว มันแปลว่าเด็กผู้ชายแน่นอน ข้ามั่นใจ” ถึงจะงง แต่ผู้ใหญ่ชอบก็ยังมั่นใจในความรู้ของตัวเอง “แล้วเด็กผู้ชายที่ไหนมันจะตัวเท่าควายอย่างนี้ล่ะพ่อมึง ฉันว่าฉันถามมันดีกว่าว่ามันหมายถึงอะไร” ว่าแล้วนางแช่มช้อยก็หันไปถามแขกที่นั่งทำหน้าแหยๆ เพราะไม่ค่อยเข้าใจที่อีกฝ่ายกำลังคุยกันสักเท่าไหร่ “นี่ๆ ยูบัฟฟาโร่ เอ่อ...! วาย? อะบอยอีกวะ” ความจริงนางอยากถามว่า ตัวใหญ่อย่างกับควายขนาดนี้ ทำไมถึงยังคิดว่าตัวเองเด็กผู้ชายอีก แต่ให้ตายเถอะ! ภาษาที่นางพยายามจะสื่อออกมาฟังไ

  • บทเรียนลับคลับชั้นสูง   110

    “อะเอ่อ...มะเมื่อกี้พี่ว่าถามว่าอะไรนะ ผมฟังไม่ค่อยชัด สงสัยสัญญาณไม่ค่อยดี” เมื่อเห็นว่าริชาร์ดพยายามหักห้ามไม่ให้ตัวเองส่งเสียงครางออกมา จัสมินจึงต้องเริ่มมาตรการต่อไป เธอค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปจนกระทั่งใบหน้างดงามจดจ้องอยู่ที่กายแกร่งของเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นสายตาคาดโทษของเขา เธอใจกล้าขึ้นมาซะเฉยๆ ราวกับอยากจะท้าทาย ก็คนอย่างจัสมินเป็นพวกประเภทยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุนี่ ในเมื่อเขาห้าม เธอก็จะทำ “โอว...!” ริชาร์ดครางเสียงพร่าอย่างลืมตัว เมื่อกายแกร่งของเขาถูกครอบครองด้วยปากและลิ้นของเธอ (ไอ้ริชาร์ดนี่แกทำอะไรอยู่กันแน่วะ) ริคาโด้เริ่มสงสัย ในขณะที่ริชาร์ดกำลังพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายความเสียดเสียวที่เธอเป็นคนก่อ “เอ่อ...คือผมกำลัง.....โอว.....! อา....! อืม....! ซีด...!” สุดท้ายเสียงครางคงเป็นคำตอบที่อธิบายได้ดีที่สุดในเวลานี้ ด้วยสมองที่มึนเบลอจากการถูกจู่โจมแบบไม่คาดคิดของเธอ คงทำให้เขาคิดหาคำตอบดีๆ ให้พี่ชายไม่ได้แล้วล่ะ สิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้ก็คือ เขาจะจัดการกับแม่สาวช่างยั่วคนนี้ยังไงดี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status