หวังอิ่นจางรีบคุกเข่าลงทันที เมื่อท่านอ๋องทรงตรัสออกมาด้วยความสงสัย แม้แต่จางซีหรูก็ทรุดกายลงข้าง ๆ นางด้วยเช่นกัน“ระ เรื่องนี้หม่อมฉันไม่ทราบจริง ๆ เพคะ อีกอย่างแม่นางหลี่มักจะแยกตัวอยู่กับสาวใช้ของนางเพียงลำพัง ส่วนหม่อมฉันกับซีหรูอยู่แยกอีกห้องหนึ่ง จึงไม่ค่อยรู้ว่านางทำอะไรเพคะ”อิ่นจางเอ่ยขึ้น พร้อมกับมองพักตร์ที่นิ่งดุจแผ่นน้ำแข็งของท่านอ๋อง สายตาดุจพญาอินทรีนั้น ไม่บ่งบอกเลยว่าเขาเชื่อนางหรือไม่ รู้แต่ว่าไม่ใช่สายตาที่ชื่นชมเป็นแน่“พวกเจ้าออกไปได้แล้ว”""เพคะท่านอ๋อง""อิ่นจางพยุงซีหรูเดินออกไปเป็นคนสุดท้าย ปิงเยว่ยังคงนิ่งอยู่กับที่ ไม่คิดว่าจะต้องมาเห็นการลงโทษที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ นี่สินะ “พยัคฆ์ไร้หัวใจ” ของฉินโจวที่เลื่องชื่อ เขาสั่งลงโทษผู้กระทำผิด แม้ว่าหลี่เอ้อเหนียงที่เป็นสตรีก็มิอาจละเว้น เหมือนกับตัวนาง ที่ถูกเขาลงโทษอยู่ในตอนนี้“ปิงเยว่”นางสะดุ้งสุดตัว เมื่อท่านอ๋องเอื้อมมือมาจับไหล่ ปิงเยว่รีบลุกขึ้นและพยายามทรงตัวให้อยู่“หม่อมฉันรู้สึกเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนเพคะ”“เช่นนั้นข้าพาเจ้าไปเอง”“อย่าเลยเพคะ วันนี้พระองค์เองก็ทรงเหน็ดเหนื่อยมากแล้ว หม่อมฉันอยากไปนอ
“เจ้าเป็นแค่สาวใช้ หากไม่มีผู้สั่งการ มีหรือจะกล้าทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ได้”สายตาทุกคู่หันไปมองหลี่เอ้อเหนียงในทันที นางได้แต่อึกอักและหันไปมองสาวใช้“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันเป็นผู้ทำเองจริง ๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลยเพคะ”“ข้ากับเจ้าไม่เคยพบหน้ากัน เจ้ามีความแค้นอะไรกับข้า ถึงคิดจะทำร้ายข้าเช่นนั้น”ปิงเยว่เอ่ยถามขึ้นมา สาวใช้หันไปมองหน้าขององค์หญิง นางเองก็ไม่สามารถหาคำตอบได้“ข้า... ข้า...”“ข้ากับเจ้าก็พึ่งจะเคยพบวันนี้เองใช่หรือไม่ เช่นนั้นจะให้ข้าเชื่อได้เช่นไรว่า เจ้าอยากทำร้ายข้า แม่นางหลี่เจ้าคิดว่าอย่างไร”หลี่เอ้อเหนียงยังนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นและไม่ยอมรับ ไม่นานทหารองครักษ์ของท่านอ๋องก็พาชายคนหนึ่งเข้ามา เมื่อสาวใช้ของเอ้อเหนียงเห็นก็ตกใจทันที ราวกับว่าพวกนางรู้จักกัน“ทูลท่านอ๋อง เขาก็คือเจ้าของร้านขายยา "เติ้งเสี่ยว" เขาสารภาพว่าหลายวันก่อนได้ขายยาพิษนี้ ให้กับสาวใช้ของแม่นางหลี่พ่ะย่ะค่ะ"“ทะ ท่านอ๋องได้โปรดอภัย กระหม่อมเพียงแค่ขายของตามที่ลูกค้าสั่ง ไม่ทราบว่าพวกนางจะเอามาทำสิ่งใด ระ เรื่องนี้กระหม่อมไม่ผิดนะพ่ะย่ะค่ะ”เถ้าแก่ร้านขายยาตัวสั่น เมื่อเห็นท่านอ๋องกำหม
ทั้งจวนเริ่มวุ่นวาย เมื่อองค์หญิงเป็นลมหมดสติลงไป อี้ฝูและจางซีหรูยืนเฝ้าอยู่ในห้องโดยที่ไม่ออกไปไหน ท่านอ๋องที่พึ่งกลับจากวังหลวงรีบวิ่งมาที่ห้องของนางทันที“เกิดอะไรขึ้น!”“ทูลท่านอ๋อง องค์หญิงถูกวางยาพิษพ่ะย่ะค่ะ”"ว่าอย่างไรนะ!"อี้ฝูและซีหรูหน้าซีดลง และคนรอบ ๆ เริ่มตื่นกลัวเมื่อท่านอ๋องประกาศขึ้นมา“สั่งปิดประตูจวนทุกด้าน อย่าพึ่งให้เรื่องนี้แพร่ออกไป ห้ามให้ผู้ใดหนีออกไปได้แม้แต่คนเดียว”“พ่ะย่ะค่ะ”“วันนี้มีผู้ใดยกอะไรมาให้นางบ้าง”“หมะ หม่อมฉันยกน้ำมาให้องค์หญิง และรีบไปเตรียมน้ำเพื่อจะให้องค์หญิงอาบเพคะ”“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ เฝ้านางเอาไว้ ท่านหมอตามข้ามาที่ห้องหนังสือ”“พ่ะย่ะค่ะ”ห้องหนังสือเมื่อท่านอ๋องเดินเข้ามา ก็รีบหันมาสอบถามท่านหมอทันที“องค์หญิงถูกพิษอะไร”“ทูลท่านอ๋อง ที่จริงพิษดังกล่าวมิได้ร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิต เพียงแต่ว่าองค์หญิงได้รับพิษในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ดังนั้นร่างกายจึงมีปฏิกิริยากับยาชนิดนี้ มากเป็นพิเศษพ่ะย่ะค่ะ”“ยาอะไรกัน”“ยาชนิดนี้เรียกว่า “ยาเถาเหริน” เป็นยาที่ทำให้เลือดลมเดินผิดปกติ หากได้รับปริมาณมาก จะทำให้ธาตุไฟในกายแตกซ่าน และทำให้แท้งบ
เมื่อคำสั่งออกไป ทุกคนต่างก็แปลกใจเมื่อเห็นท่านอ๋องกลับคำ แม้แต่ฟ่านปิงเยว่เองก็รู้สึกได้ แต่ตอนนี้นางป่วยเพราะอาการของสตรีที่มีทุกเดือน แต่ดูเหมือนว่าเดือนนี้จะหนักกว่าทุกครั้งวันถัดมา“องค์หญิง ท่านลุกไหวหรือไม่เพคะ”“ไม่เป็นไร ได้เวลาที่เขาจะต้องอาบน้ำแล้ว”“ไม่ได้เพคะ ข้าจะไปบอกมู่ไป๋ว่าท่านป่วยจนลุกไม่ไหว อีกอย่างเป็นเช่นนี้แล้วห้ามออกจากห้องเป็นอันขาด”“ข้า…”“ท่านอ๋องเสด็จ!”เมื่อท่านอ๋องเดินเข้ามา ก็เห็นว่านางนอนป่วยอยู่ สาวใช้ของนางรีบวิ่งออกมาขวางเอาไว้“ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ ตอนนี้เยี่ยมองค์หญิงไม่ได้นะเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น นี่นางจะโกรธข้าข้ามวันเลยงั้นหรือ”“มิใช่เพคะ เพียงแต่ว่าตอนนี้องค์หญิงป่วยมาก และไม่สามารถดูแลพระองค์ได้ชั่วคราว หม่อมฉันขอร้องล่ะเพคะ ให้องค์หญิงได้พักผ่อนก่อนเถิด”“ข้ามิได้จะมาฆ่านางเสียหน่อย มู่ไป๋”"พ่ะย่ะค่ะ"“สั่งหมอหลวงให้รีบมาดูอาการให้นาง”“พ่ะย่ะค่ะ”อี้ฝูได้แต่รับคำสั่ง แม้จะรู้ว่าอาการนี้ไม่จำเป็นจะต้องใช้หมอก็ตาม แต่อย่างน้อยก็จะทำให้ท่านอ๋องได้ทราบว่า เวลานี้ควรให้องค์หญิงของนางได้พักเสียบ้าง หลังจากเขาจับนางมาก็ทรมานไม่เคยหยุดพักเลยสักคืน
เมื่อท่านอ๋องกลับเข้ามาในจวนก่อนจะเที่ยงวัน เขาก็หันไปเห็นสตรีสามคนที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องโถงกลาง จึงได้หันมาถามหมัวมัวที่เดินมา“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดให้พวกนางคุกเข่าเช่นนั้น”“คือเรื่องนี้ เป็นคำสั่งขององค์หญิงเพคะ”“นางหรือ หึ แม่กวางป่าน้อยผู้นี่เริ่มตีคนเป็นแล้วสินะ ไม่เลว แล้วพวกนางถูกสั่งให้คุกเข่าทำไม่กัน”“พวกนางไม่เคารพองค์หญิงเพคะ จึงถูกสั่งให้ออกมาคุกเข่าที่หน้าลาน เดิมทีคุณหนูสกุลหวังมิได้ถูกลงโทษด้วย แต่ว่านางเห็นว่าพวกนางมาด้วยกันจึงขอคุกเข่าพร้อมกับคุณหนูอีกสองคน”“งั้นหรือ น่าสนใจดีนี่ แล้วตอนนี้องค์หญิงอยู่ที่ใด”“ยังอยู่ในห้องโถงเพคะ”“นับว่าใจโหดใช้ได้เลยนี่ฟ่านปิงเยว่ นั่งมองคนที่ลงโทษเองด้วยงั้นหรือ มู่ไป๋เจ้าว่า…”"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นว่าองค์หญิงโหดเหี้ยมพอ ๆ กับพระองค์เลยพ่ะย่ะค่ะ"ท่านอ๋องหันไปมององครักษ์ข้างกายทันที แม้แต่มู่ไป๋ยังคิดเช่นนี้ เมื่อมองหมัวมัวที่พยายามหุบยิ้มอยู่เขาก็นึกพอใจ‘หึ คิดไม่ถึงเลยว่าจะซ่อนคมเล็บเอาไว้เช่นนี้ นี่สินะตัวจริงขององค์หญิงอย่างเจ้า ฟ่านปิงเยว่’ท่านอ๋องเดินไปยังห้องโถง พวกนางสามคนก็รีบคำนับอีกครั้ง""ถวายบังคมท่านอ๋องเพค
“ตอนนี้เจ้านอนพักไปก่อนเถอะเอ้อเหนียง หากมีอะไรข้ากับซีหรูจะมาบอกเจ้าเอง”“ขอบใจพวกเจ้ามาก”ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องของหลี่เอ้อเหนียง แม้จะไม่อยากคุยกับนางเพราะหลี่เอ้อเหนียงผู้นี้เป็นคนถือตัวว่า ตนเองเป็นถึงบุตรท่านเจ้ากรมพิธีการ จึงไม่สนพวกนาง ที่เป็นเพียงบุตรของขุนนาง“ดูความเย่อหยิ่งของนางเถิด เจ็บตัวขนาดนี้ยังจะคิดจะไปตบตีกับอีกฝ่ายอีก”“อย่าพูดเสียงดังไป ในบรรดาพวกเรามีเพียงนางที่ได้รับอนุญาตให้พาสาวใช้เข้ามาที่นี่นะ”“นั่นแหละที่ข้าไม่ค่อยพอใจ นางเห็นว่าเราสองคนอยู่คนละชั้นกับนาง แต่ดูเอาเถิด ช่างน่าสมเพชนัก อยากจะเสนอหน้าไปรับใช้ท่านอ๋อง สุดท้ายถูกผลักตกน้ำ โดนถีบออกมาจากห้อง แล้วยังถูกโบยให้น่าอับอายอีก”“เอาเถอะ ๆ เราไปพักกันก่อน พรุ่งนี้ยังมีเรื่องให้ทำอีก”“อิ่นจางเจ้านี่ก็พูดน้อยเกินไปนะ แต่อย่างไรแล้ววันนี้หากไม่ได้เจ้าพูด พวกเราก็คงถูกส่งกลับออกไปแล้วล่ะ ข้าไปนอนก่อนละนะ เจ้าก็รีบพักเถอะ”“ไปเถอะ”วันถัดมาปิงเยว่รีบแต่งตัวชุดทางการให้ท่านอ๋องเพื่อเข้าวัง พระองค์ทรงบอกกล่าวเรื่องเกี่ยวกับสาวใช้คนใหม่อีกสามคนที่จะมารับใช้นาง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผู้ที่ถูกเขาสั่งโบยไปเมื่อวา