บทที่ 12 พามาบ้านแล้วววว
“คุณเข้าไปแล้วเงียบ ๆ นะ ไม่ต้องพูดมาก”
เสียงหวานนุ่มกำชับหนุ่มอิตาลีเมื่อเดินใกล้ถึงหน้าอาคารพาณิชย์ขายของ ก่อนหยุดแล้วหันมาจับคอปกเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาให้เรียบร้อย
“ก็คุณพูดเองว่าพ่อกับแม่ของคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วผมจะสื่อสารกับพวกท่านได้ยังไง”
หน้าแกร่งก้มมองสาวร่างสูงโปร่งแต่เตี้ยกว่าเขาพอสมควรกำลังปัดฝุ่นตรงบ่าตรวจความเรียบร้อยก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เรียกขวัญกำลังใจ เงยหน้าจ้องเขาใช้นิ้วชี้ยกขึ้นชี้หน้า
“อย่าทำให้เสียเรื่อง ฉันต้องรอดจากการจับคู่ ไม่งั้นฉันจะล้มดีล”
ว่าแล้วใบหน้าหวานซึ้งก็สะบัดแล้วเดินนำเขาไปยังหน้าตึกสามชั้นแล้วหันกลับมาขยับมือกวักเรียกตรงข้างตัวดั่งกลัวว่าใครจะเห็น
อาเดรียโนยิ้มกว้างขำขันลักษณะของบรรณารักษ์สาว แต่สาวเท้าตามเธอเข้าไปในตึกขายของจิปาถะจำพวกรถยนต์ เสียงทักทายดังขึ้นเมื่อเห็นณิชมาถึง
“โกวนิดมาแล้ว โกวนิดมาแล้ว”
ณิชโน้มร่างลงลูบตัวหลานชายแต่ไม่อุ้มเหมือนทุกครั้งเพราะเกรงใจคนร่างโตที่มาด้วย เธอเอี้ยวหน้าส่งสัญญาณให้อาเดรียโนเข้ามาใกล้ แล้วจับมือเขาไว้จูงให้เดินเข้าไปยังหลังร้าน
“นี่ม๊า และโน้นป๊า”
ชายชาวอิตาลียกมือไหว้เก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่ค่อยไหว้ตามมารยาทคนไทย เขาเห็นผู้ชายอีกคนนั่งยิ้มกว้างหน้าเด็กกว่า
“อ้อ นั่นน้องชายฉันเอง นี่อาเดรียโน โดริอา เป็นคนอิตาลี”
เขาเอี้ยวหน้ามองหญิงสาวเมื่อเธอพูดภาษาอังกฤษปนภาษาไทย แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรก็มีมือนุ่มอวบยุ่นแบบคนสูงวัยมาดึงเขาไปนั่งที่โต๊ะ พูดภาษาไทยใส่เขาจนอาเดรียโนมึนงง
“ม๊าบอกให้คุณนั่งตรงนี้”
ณิชชี้ไปยังเก้าอี้โต๊ะทานข้าวประจำของที่บ้าน แล้วจึงนั่งลงตามข้างกัน หยิบจานส่งให้อาเดรียโนพร้อมกับช้อนส้อม เธอยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าฉงนยามมองพ่อกับแม่ของเธอใช้ตะเกียบกินข้าว
“คุณใช้ตะเกียบไม่ได้หรอก ใช้ช้อนส้อมเถอะ”
“เจ้ นี่แฟนจริงเปล่า”
เธอหันกลับมาหาณภัทรเมื่อเขาเอ่ยถามขึ้น แล้วยิ้มกว้างพยักหน้ารับ เห็นป๊ายังจ้องอาเดรียโนไม่วางตาทั้งที่มือจับจับตะเกียบคีบของเข้าปากคาไว้
“ป๊า กินข้าวสิ มีอะไรก็ถามเดี๋ยวหนูตอบให้”
ชายสูงวัยเบือนหน้าออกมาจากชายร่างสูงมองเห็นลูกสาวยิ้มกว้างกว่าปกติใบหน้าเปล่งปลั่ง
“ลื้อเป็นแฟนกันจริงหรือเปล่า อาผู้ชายคนนี้หล่อเกินไป จ้างมาเท่าไร”
“ป๊า!! ไม่ได้จ้าง”
“งั้นลื้อพิสูจน์สิ”
“พิสูจน์ไงป๊า เนี่ยก็พามาบ้านแล้วเนี่ย”
“ลื้อก็ลองคิดดูว่าจะทำยังไงให้พวกอั๊วเชื่อ”
หลังจากพูดจบพ่อก็ก้มหน้าคีบปลานึ่งซีอิ้วจากจานกลางขึ้นมา เธอเหลือบมองอาเดรียโนที่มองตามมือของพ่อเธอด้วยความทึ่ง
“ผมอยากลองตะเกียบบ้าง”
อาเดรียโนเอี้ยวหน้ามาหาหญิงสาว เขาเห็นข้าวเม็ดหนึ่งติดมุมปากซึ่งเป็นลักษณะนิสัยรักความสะอาดทำให้ทนไม่ได้ต้องใช้มือหยิบออกมา แต่สาวร่างสูงกลับสะดุ้งหันมองหน้าเขา มีเสียงฮือฮาเบา ๆ รอบโต๊ะ อาเดรียโนจึงมองไปโดยรอบเห็นรอยยิ้มกว้างสดใสกว่าเดิมจึงเอียงหน้าถามคนด้านข้าง
“ไม่มีอะไรหรอก เฉย ๆ ไว้อาเดรียโน ทุกอย่างกำลังไปได้ดี”
แต่เขาไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวเจ้าเล่ห์ปากจัด เธอบอกเขาอย่างอารมณ์ดีและชักชวนเขาทานโน้นนี่บนโต๊ะ เสียงพูดคุยสนทนาด้วยภาษาไทยยังดำเนินต่อไปโดยที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วม
นั่นทำให้เขามีเวลาสำรวจคนในโต๊ะ พ่อของณิชเป็นชายวัยกลางคนรวมเสื้อกล้ามสีขาวอย่างที่เขาเคยเห็นคนจีนในประเทศไทยชอบสวมใส่อยู่บ้าน รูปร่างสูงผอมผิวขาวและใบหน้ามีรอยย่นร่องรอยของการหัวเราะ ส่วนแม่ของณิชเป็นสาวร่างเล็กกว่าแต่ท้วมอย่างหญิงวัยกลางคน เธอมักทำโน้นนี่ตลอดเวลาไม่ค่อยนั่งที่โต๊ะเท่าไร
เขามองกลับไปยังน้องชายและเด็กตัวเล็กคงเป็นลูกชายของเขา เพราะพวกเขาทั้งคู่นั่งใกล้กันและน้องชายของณิชคอยดูแลเรื่องอาหารให้ตลอด มือแกร่งตักอาหารรสมือของแม่ณิชเข้าปากนอกจากอร่อยมากแล้วยังให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่ง อาเดรียโนนึกไปถึงแม่ที่อิตาลี
ระหว่างมื้ออาหารเย็นแสนวุ่นวายและบรรยากาศอบอุ่น แม้มีเสียงดังต่อว่า เสียงกระเง้ากระงอด แต่เขาสัมผัสถึงความรักที่มีให้กันของครอบครัวของณิช ชายหนุ่มเอี้ยวหน้ามองใบหน้าหวานที่บางครั้งหัวเราะจนตาหยี บางครั้งก็พูดออกมาทั้ง ๆ ที่ข้าวยังเต็มปากจนทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา
“ถึงเวลากลับแล้ว ไปกันเถอะ”
“เออ ผมต้องบอกลาพ่อกับแม่ของคุณเป็นภาษาไทยยังไง”
ณิชยกคิ้วโก่งขึ้นยิ้มกว้างพาเขาลุกจากเก้าอี้ทานข้าวแล้วจับหันไปทางพ่อกับแม่ที่ยังนั่งอยู่ เธอทำท่ายกมือไหว้แล้วใช้ข้อศอกกระทุ้งให้อาเดรียโนทำตาม ร่างสูงแกร่งค่อยยกแขนกำยำขึ้นท่าเดียวกับณิชแล้วก้มศีรษะลง
“สวัสดีครับพ่อ แม่”
“สะ สาหวัดดีกรับ พ่อ แม่”
เขาเหลือบตามองผ่านมือที่พนมอยู่เห็นชายหญิงสูงวัยยิ้มแก้มปริลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเข้ามากอดเขาจนแน่น
“แล้วมาใหม่นะ แม่กับพ่อยินดีต้อนรับ”
หลังจากนั้นก็โดนดันหลังให้กลับออกไปและเมื่อเหลียวกลับไปดูอีกครั้งยังเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของท่านทั้งสอง
“ป๊าว่าไง”
ทันทีที่ทั้งสองลับตาแม่ของณิชก็เอ่ยขึ้นขณะเก็บจานบนโต๊ะโดยมีน้องชายของณิชเป็นผู้ช่วย เสียงพ่องึมงำ
“ก็ดีนะ ดูรักกันดี”
“ม๊าว่ายิ่งกว่ารัก ดูหมอนั่นจะหลงลูกสาวเรา มองตาเชื่อมตลอด”
“ม๊าก็พูดเกินไป”
“ไม่หรอก ม๊าอาบน้ำร้อนมา แค่มองก็รู้ เราเตรียมหาฤกษ์แต่งงานได้เลย”
เสียงหัวเราะอย่างสดใสของแม่ทำให้ณภัทรขนลุก มองหน้าพ่อที่เงยหน้าขึ้นสบตาเขาพอดีแล้วจึงส่ายหน้าระอาใจ นึกไปถึงพี่เขยในอนาคต อย่าได้เข็ดขยาดกับบ้านนี้เสียก่อนแล้วกัน
ติ๊ง!
เสียงลิฟต์ลงมายังชั้นหนึ่งทำให้ณิชใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอยืนกระสับกระส่ายเหลียวมองชายหนุ่มด้านข้าง พยายามคิดหาคำพูดเพื่อเลี่ยงเพราะอันที่จริงเธอไม่พร้อมเลยสักนิด
เขาเดินนำเข้าไปแล้วหันกลับมายืนรอ จ้องเธอด้วยความปรารถนาที่ไม่ปกปิดเลยแม้แต่น้อย เธอจึงต้องจำใจพาร่างสูงโปร่งของตัวเองตามเขาเข้าไป
ขณะเอื้อมมือกดเลขชั้น มือแกร่งยื่นออกมาจับมือเล็กเรียวของเธอไว้กุมแน่น ดึงนิ้วของเธอให้กดลงบนชั้นสี่สิบ ก่อนดึงร่างเธอให้ถอยหลังแนบไปกายแกร่งด้านหลัง
หัวใจดวงเล็กของคนร่างระหงเต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน ทั้งเขาและเธอต่างเงียบงัน ปล่อยให้ความร้อนแรงไฟพิศวาสไหลวนภายในลิฟต์จนร้อนเร่า
ไม่กี่นาทีภายในลิฟต์ระหว่างขึ้นมายังชั้นบน เธอพลันเกิดความรู้สึกหน่วงในช่องท้อง มือใหญ่ทาบบนหน้าท้องเรียบแบนของเธอ เขากางออกดันแน่นอย่างเป็นเจ้าของ มีเพียงลมหายใจกระชั้นด้านหลังเธอจึงรู้ว่าเขาเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้เธอ
บทที่ 22 ผมคิดว่าผมลืมของไว้ จบบริบูรณ์“เจ้ เจ้ เจจจจจจ้!!!”เสียงเรียกเอะอะของณภัทรที่วิ่งปรูดเข้ามาด้านในหลังบ้านทำเธอตกใจสะดุ้งลุกพรวดขึ้นนั่งบนตั่งไม้“อะไร!! จะเสียงดังทำไม!”“เจ้ต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ว่าใครมา”ณิชนิ่วหน้าหันมองม๊ากับป๊าที่นั่งหน้าฉงนมองตรงไปยังประตูทางเข้าเมื่อจู่ ๆ แสงสว่างด้านนอกก็พลันมืดลงเป็นเงาเยามคนร่างสูงใหญ่เดินลอดผ่านเข้ามา ใบหน้าคมเข้มมีเคราขึ้นครึ้ม และดวงตาสีน้ำตาลดุจเหยี่ยวคู่นั้นมองตรงมาทางเธอ“อาเดรียโน!”“ลูกเขย!!”ณิชไม่มีเวลาหันกลับไปบอกแม่ว่าให้เงียบเสียงเพราะอาเดรียโนยังเดินตรงมาทางเธอแล้ว ร่างระหงรู้สึกมือไม้ยาวเก้งก้างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหน และที่สำคัญเธอยังสวมชุดนอนของเมื่อคืนทั้ง ๆ ที่มันบ่ายสามเข้าไปแล้ว!“ผมขอคุยกับนิดตามลำพังได้ไหมครับ”ณิชยังไม่ทันอ้าปากบอกพ่อกับแม่ ก็ดูเหมือนพ่อกับแม่ของเธอฟังภาษาอังกฤษออกภายในชั่ววินาทีนั่น ทั้งหมดหายวับไปด้านนอกทันที ทิ้งเธอให้นั่งบนตั่งไม้และอาเดรียโนที่ยืนค้ำเธออยู่“ฮะ แฮ่ม ๆ คุณกลับมาแล้ว”หน้าหวานแหงนมองร่างสูงคอตั้งบ่า พยายามหาเสียงของตัวเอง กระแอ่มเรียกสติที่กระเจิดไปนานแล้วตั้งแต่มองเ
บทที่ 21 เขาจะกลับไปหาเธอตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!เสียงเคาะเหล็กและเสียงอ็อกเชื่อมภายในอู่ต่อเรือดังเช่นนี้เสมอด้วยความคุ้นชินตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวมหมวกนิรภัยในชุดรัดกุมถือแผ่นชาร์ตในมือเพื่อตรวจลำดับขั้นตอน หน้าคมเข้มแหงนมองขึ้นไปด้านบนของลำเรือสูงใหญ่ซึ่งคาดว่ากว่าจะประกอบเสร็จเรียบร้อยคงอีกนานหลายเดือนอาเดรียโนกลับมาที่เจนัวร์ ประเทศอิตาลีได้ราวสามเดือนแล้ว แม้งานคืบหน้าไปบ้างแต่ยังมีข้อติดขัดจนล่าช้ากว่ากำหนด“อาเดรียโน!”เสียงตะโกนเรียกทำให้เขาละความสนใจจากงานตรงหน้ามองไปยังผู้เป็นพ่อ ชายขาวอิตาลีหุ่นใหญ่ผมสีเข้มที่ร่วงหล่นไปมากจนศีรษะล้านไปครึ่ง เขายิ้มแย้มอารมณ์ดีกวักมือให้ลูกชายเพียงคนเดียวเดินเข้าไปหา“แกกลับมาเที่ยวนี้ตามใจแม่เขาหน่อยสิ”“เรื่องอะไรครับ”อาเดรียโนถอดหมวกนิรภัยออกเมื่อเข้ามาส่วนสำนักงานที่ต่ออย่างง่าย ๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์มือสองที่ปรับปรุงทำสีใหม่จนสะอาด แล้วเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นยกดื่ม“ก็เรื่องสาว ๆ นั่นแหล่ะ ผู้หญิงอิตาลีมักเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ตามใจแม่เขาหน่อย ไปกินข้าวกับพวกสาว ๆ ที่แม่แกนัดไว้ พ่อจะได้สบายหู”เขาหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยินพร้อมส่งเสียง ‘ฮึ
บทที่ 20**NC“อือ อาเดรียโน ยังเช้าอยู่เลย”“อืมมม อีกรอบก่อนไปทำงานไงคาร่า คุณจะได้คิดถึงผมมาก ๆ”เขาดันลำแขนของเธอให้โอบรอบท้ายทอยเขาไว้ โน้มศีรษะลงบรรจงโหมไฟยามเช้า มือค่อยลูบลงไปยังสะโพกผายกอบกุมช้อนก้นงามก่อนจะวกมาด้านหน้าล้วงลึกเข้าสู่เนินงามกลางหว่างขา“แฉะแล้วคนสวย อืมม และหวาน”ถ้าเปรียบอาหารเช้าแบบเร่งรีบของคนเมืองคงไม่เหมือนการร่วมรักของอาเดรียโนในเช้าวันนี้เท่าไร เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจนเธออ่อนระทวยด้วยไฟพิศวาส มือวาดไปทั่วลำตัวไม่เว้นแม้ตารางนิ้วเดียว เขาพรมจูบลงไปยังข้อเท้าเล็กตวัดลิ้นลากเป็นทางถึงหัวแม่เท้าพร้อมดูดกินจนเธอสะท้าน ได้แต่นอนมองเสียวซ่าน ลิ้นร้อนเลื่อนกลับไปยังข้อพับใต้เข่าขึ้นสู่ต้นขามุ่งตรงเข้าหุบเขาไร้ขนเนียนงาม เปิดแย้มซอกหลึบออกก่อนที่ปลายลิ้นสากไล้ลากตวัดเอาน้ำหวานขึ้นมาร่างสูงของคนด้านบนไถลตัวเลื่อนขึ้นเพื่อส่งจูบร้อนแรงปะปนน้ำหวานของตัวเธอเอง ส่งลิ้นถลำลึกล้วงกวาดจนเธอแอ่นรับกอดกระหวัดรัดแล้วพลิกตัวจนเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน“ควบขับผมคาร่า ทำให้ผมดูสิว่าคุณคิดถึงผมแค่ไหนระหว่างที่ผมไม่อยู่”ณิชยันกายขึ้นแล้วค่อยขยับจนกระทั่งร่องสาวเปียกชื้นพอดีก
บทที่ 19 คิดถึง“อาเดรียโนไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”“ไปทำงานม๊า”เนี่ยเห็นไหม เธอยังไม่ทันนั่งเสียงคาดคั้นของม๊าก็ดังขึ้น เธอทำได้แค่ลอบถอนหายใจ มองอาเจ็กกับซ้อที่แม่เชิญมา แม่คงอยากจะอวดเขยใหม่แต่หารู้ไม่?“ลื้อหลอกพวกอั๊วใช่ไหมอานิด”“เปล๊า!! เขาไปทำงานจริง ๆ”“ให้มันจริงนะ ม๊าไปหาหลวงพ่อที่วัดมาแล้ว เขาบอกอย่าให้เกินสิ้นปีนี้ ไม่งั้นดวงลื้อจะพลาดไปอีกสองปี”“ห๊า!! ม๊า!! ทำไมต้องไปทำอะไรแบบนี้ด้วย นี่เราเพิ่งจะเป็นแฟนเองนะ เรายังไม่ทันได้ตกลงด้วยเลย”“เออ!! รีบหาไว้ก่อน เพื่อได้ใช้ขึ้นมาจะไม่มีฤกษ์ อ้อ ม๊าดูของชำร่วยไว้แล้วไม่อยากได้ตะเกียบมันเชย เอาเป็นตุ๊กตาคู่ดีกว่า”“ม๊า!! ป๊าก็ช่วยพูดให้ม๊าเข้าใจหน่อยสิ มันยังไม่ถึงเวลา”“เออ ป๊าก็ไปดูชุดไว้แล้ว ว่าจะเตรียมเงินจัดงานให้ลื้อสักก้อน โต๊ะจีนก็สักร้อยโต๊ะก็พอไม่ต้องใหญ่มาก”“ป๊า!!”ณิชหันมองน้องชายที่นั่งหัวเราะตัวงอ ยังได้ยินเสียงม๊าและป๊าหันไปปรึกษาหารือกับอาเจ็กเรื่องสถานที่ว่าจะจัดที่ไหนถึงจะสะดวก เธอจึงได้แต่นั่งฟังไม่ออกความคิดเห็นอาเดรียโนคุณจะรู้บ้างไหมว่าพ่อกับแม่ฉันอยากได้คุณเป็นเขยขนาดไหนติ๊ด ติ๊ด!ตายยากเสียจริง!“ม๊า ป๊า
บทที่ 18 ชอบเขาเข้าให้แล้ว!เขาจูงมือจนกระทั่งเธอเดินมาถึงโต๊ะอาหารจึงปล่อยให้ร่างบอบบางนั่งลงเอง ส่วนเขานั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน“หอมจังเลย น่าเสียดายที่มองเห็นข้างเดียว”อาเดรียโนยิ้มกว้างโบกช้อนตรงหน้าไปมาเพื่อทดสอบว่าเธอมองเห็นจริงไหม ณิชยกมือขึ้นมาปัดแต่ไม่โดนสองสามรอบยิ่งทำให้อาเดรียโนหัวเราะออกมาเสียงดัง“อย่าเพิ่งแกล้งกันสิ เดี๋ยวจะโมโหหิว”เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้มองหญิงสาวตรงหน้าที่พยายามจิ้มเนื้อมีทบอลแต่ยังไม่โดน พลาดซ้ายบ้างขวาบ้าง หน้าหวานซึ้งบึ้งตึงเม้มปากไม่พอใจที่ตัวเองทำไม่สำเร็จสักที อาเดรียโนยกมือขึ้นจับมือบางเรียวไว้“เดี๋ยวผมทำให้”น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้เธอเงยหน้าขึ้นจากจานสปาเกตตี้กระทั่งเนื้อมีทบอลมาจ่อปากจึงนั่งอ้าปากกว้างรอรับแต่โดยดี“อร่อยไหมคนสวย”“อือม อร่อยมากอาเดรียโน ทำไมคุณถึงทำอาหารได้อร่อยแบบนี้นะ”“แม่ผมเป็นคนสอน ผมมักต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องอยู่คนเดียว เลยชอบทำอาหารทานเองบ่อย ๆ อีกอย่างผู้ชายอิตาลีต้องทำอาหารเป็น”“ทำไมล่ะ”อาเดรียโนลอบยิ้มหลุบตาขึ้นมองหน้าหวานยังอมยิ้มในปากเคี้ยวมีทบอลจนซอสเลอะขอบปาก“เพราะผู้ชายอิตาลีต้องเลี้ยงผู้หญิงให้อิ่ม
บทที่ 17**NC“อ่า โอ๊ย! อ่า อาเดรียโน! เดี๋ยวหยุดก่อน อื้อ”มือเล็กดันอกแกร่งไว้เมื่อเอ็นเนื้อท่อนใหญ่แหวกผ่านปราการแสนบางเข้ามา ความรู้สึกถูกชำแรกแยกออกกว้าง รู้สึกอึดอัดยามลำยักษ์อยู่ในโพรงสาว“ซี้ดดด อ่า เจ็บไหม อีกนิด รออีกนิด”คนร่างโตพยายามอยู่นิ่งให้สาวใต้ร่างคุ้นเคยกับความใหญ่โตที่เสียดแทรกภายใน จากนั้นจึงเริ่มขยับไหวถอนออกรูดเกือบสุดแล้วดันเข้า เขาทำซ้ำอีกครั้งเชื่องช้า และมันช่างแสนทรมาน ปลายหัวป้านสัมผัสภายในอันอ่อนนุ่มแสนหวาน ทั้งแคบและตอดรัด“อา อื้อ ฉันไม่เจ็บแล้ว อาเดรียโน เร่งอีกนิดไม่ได้เหรอคะ”ร่างสูงใหญ่ข้างบนเปลี่ยนท่าทางเท้าฝ่ามือซ้ายข้างลำตัวสาวงาม อีกข้างจับข้อพับใต้หัวเข่าณิชไว้ดันจนชิดหน้าอกอวบอิ่ม แล้วขยับเคลื่อนไหวอีกครั้ง“แบบนี้ไหมคาร่า แรงพอหรือยัง”ตับ ตับ ตับเธอแทบกรีดร้องเมื่อร่างแกร่งโหมลงโถมแรงด้วยสะโพกสอบ ร่างเธอสั่นสะเทือนไปทั้งกาย มือไขว่คว้าบ่ากำยำไว้จิกแน่น ยามท่อนยาวรูดผ่านร่องรักตามลำยาวให้ความรู้สึกเสียวสะท้าน ปลายหัวดันจุดอ่อนไหวข้างในเป็นจังหวะอาเดรียโนขยับเปลี่ยนท่าอีกครั้ง ยืดกายตั้งตรงนั่งคุกเข่าจับข้อเท้าบอบบางดึงกระทั่งร่างของเธอขยับ