แชร์

05 เป็นคนแบบไหน?

ผู้เขียน: เมิ่งอี้ซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-18 18:00:34

ประตูห้องคอนโดปิดลง เสียงคลิกของลูกบิดเป็นดั่งสัญญาณที่ตัดเธอออกจากโลกภายนอกอันแสนวุ่นวายโดยสมบูรณ์

ในที่สุดก็ได้อยู่คนเดียว

ลินินทิ้งกระเป๋าลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี สองเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่ม ๆ ทั้งชุดทำงาน ร่างกายของเธอหนักอึ้งราวกับมีหินถ่วงไว้ทุกส่วน พลังงานที่เคยมีมอดดับไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความเหนื่อยล้าที่กัดกินลึกลงไปถึงกระดูก

เธอนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ปล่อยให้ความเงียบและความมืดในห้องค่อย ๆ โอบกอดและปลอบประโลมจิตใจที่บอบช้ำ สภาพของเธอในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับนักรบที่เพิ่งกลับจากสงคราม ที่แม้จะบาดเจ็บ อ่อนล้า แต่ก็รอดชีวิตมาได้

หลังจากฝืนสังขารไปอาบน้ำอุ่น ๆ เพื่อชะล้างความเหนื่อยล้าออกไปได้บ้าง ลินินก็กลับมานั่งซึมอยู่บนเตียงในชุดนอนผ้าฝ้ายตัวโปรด สายตาของเธอเหลือบไปเห็นขวดน้ำแร่พลาสติกที่ว่างเปล่า ซึ่งเธอเผลอวางมันไว้บนโต๊ะข้างเตียง

ขวดน้ำแร่จากเขา

เพียงแค่มองมัน สมองที่พยายามจะพักผ่อนก็กลับเริ่มต้นทำงานอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่

ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ ?

ในตอนแรก ภาพของเขาในหัวเธอนั้นชัดเจน เขาคือจอมเผด็จการ คือซาตานในคราบเทพบุตรผู้มีความสุขกับการทรมานคนอื่นด้วยมาตรฐานอันสูงลิ่วของตัวเอง คือพายุร้ายที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

แต่การกระทำในช่วงหลังของเขามันเริ่มทำให้ภาพที่เคยชัดเจนนั้นพร่าเลือน

การอนุมัติไอเดีย Rebirth ของเธอมันอาจเป็นเพราะงานดีจริง ๆ ไม่ใช่เพราะตัวเธอ แต่การที่เขาสังเกตเห็นว่าเธอไม่สบาย กับการหยิบยื่นขวดน้ำแร่เย็น ๆ ให้โดยไม่พูดอะไรสักคำ

การกระทำเล็ก ๆ ที่ไร้ซึ่งคำอธิบายนั้น มันคืออะไรกันแน่ ?

‘บ้าเอ๊ย ! จะไปคิดถึงเขาทำไม !’ ลินินสลัดหัวอย่างแรง ไล่ความคิดที่น่ารำคาญออกไป ผู้ชายคนนั้นเกือบจะทำให้เธอประสาทกินตายอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอต้องไปพยายามทำความเข้าใจเขา

ติ๊ง !

เสียงแจ้งเตือนข้อความจากแอปพลิเคชันไลน์ดังขึ้น ทำลายภวังค์ของเธอ หญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างเกียจคร้าน ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้หัวใจที่กำลังสับสนของเธอรู้สึกสงบลงอย่างน่าประหลาด

Thyme: ถึงบ้านรึยังครับคุณลินิน ? พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ วันนี้คุณสุดยอดมากจริง ๆ

ข้อความสั้น ๆ ที่ตรงไปตรงมาและเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย มันเป็นเหมือนสายลมอ่อน ๆ ที่พัดเข้ามาในห้องที่เคยอบอ้าว ลินินเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

Linin: ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณธาม :)

Thyme: ผมเป็นห่วง เห็นคุณดูเหนื่อย ๆ ถ้าเจ้านายคุณโหดเกินไป บอกผมได้นะ ผมช่วยคุยให้ได้ ;)

ข้อความติดตลกของเขาทำให้เธอหัวเราะออกมาเบา ๆ ธามคือขั้วตรงข้ามของธันวาทุกอย่าง

Linin: ไม่เป็นไรเลยค่ะ สบายมากค่ะ 555555

เธอเลือกที่จะโกหกเพื่อรักษาภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ

Thyme: โอเคครับ งั้นไม่กวนแล้ว แต่ผมไม่ลืมเรื่องมื้อเที่ยงของเรานะ ;) ฝันดีครับ

ลินินวางโทรศัพท์ลงข้างตัว รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้า ความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับจากธามเป็นเหมือนยาชูกำลังชั้นเลิศ

แต่แล้วสายตาของเธอก็เลื่อนกลับไปจับจ้องที่ขวดน้ำแร่ว่างเปล่าบนโต๊ะอีกครั้ง

รอยยิ้มค่อย ๆ จางหายไป

เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ลินินเองก็อธิบายไม่ถูก เธอนอนหลับเต็มอิ่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน แต่จิตใจกลับไม่ได้ปลอดโปร่งอย่างที่ควรจะเป็น ภาพของขวดน้ำแร่เย็นเฉียบ และข้อความแสนอบอุ่นจากธามยังคงสลับกันไปมาในหัวราวกับภาพยนตร์คนละม้วนที่ถูกฉายทับกัน

เมื่อก้าวเข้าสู่ออฟฟิศ บรรยากาศก็ดูเหมือนจะปกติ แต่ลินินกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป เธอมองไปยังห้องทำงานกระจกใสของธันวา เห็นเขานั่งทำงานนิ่งสงบอยู่เช่นเคย เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอ การกระทำเมื่อวานอาจเป็นเพียงความฝัน หรือแค่ความผิดปกติชั่วครั้งชั่วคราวของระบบสุริยะที่ทำให้เจ้านายปีศาจของเธอเกิดอาการผิดเพี้ยน

‘ก็ดีแล้ว กลับมาเป็นเหมือนเดิมน่ะดีที่สุดแล้ว’ เธอพยายามบอกตัวเอง

แต่แล้ว ข้อความสั้น ๆ ก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอ

Thanwa: ห้องประชุมเล็กด่วน

หัวใจของลินินหล่นวูบ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนเคย แต่เป็นความระแวดระวังและความสงสัยที่เข้ามาแทนที่

เธอเดินเข้าไปในห้องประชุมเล็กที่ว่างเปล่า ทว่า เขากลับนั่งรออยู่ก่อนแล้วที่ตรงหัวโต๊ะ

แต่ที่น่าแปลกใจคือ เขาไม่ได้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่กลับเว้นที่ว่างข้าง ๆ ตัวเองไว้ แล้วพยักพเยิดหน้าให้เธอนั่งลงตรงนั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่ระยะห่างระหว่างเธอกับเขาลดลงจนเกือบจะเท่าเทียม

“Rebirth” เขาเปิดประเด็นทันทีที่เธอนั่งลง “เราต้องเริ่มจากสิ่งที่แหลมคมที่สุด แท็กไลน์ เธอลองเสนอมา”

ลินินสูดลมหายใจเข้าลึก

“เอ่อ ปลดปล่อยตัวตน แล้วค้นพบชีวิตใหม่” เธอเสนอไอเดียแรก

“ซ้ำซาก” เขาตอบกลับทันที “เหมือนสโลแกนขายบ้านจัดสรร”

“งั้น… ให้รางวัลชีวิตด้วยการเกิดใหม่อีกครั้ง’“

“น้ำเน่า” คำวิจารณ์ของเขายังคงคมกริบเหมือนเดิม “เราไม่ได้ขายละครหลังข่าว”

ลินินเม้มปาก เริ่มรู้สึกหงุดหงิด แต่แล้วเธอก็นึกถึงแก่นของมัน ความรู้สึกของการได้หายใจเต็มปอดอีกครั้ง “แค่หายใจ” เธอพูดออกมาเบา ๆ “The Oasis หายใจให้เต็มปอดอีกครั้ง”

ธันวาชะงักไปเล็กน้อย เขามองหน้าเธอตรง ๆ นิ่งไปนานจนลินินเริ่มใจคอไม่ดี

“คำว่าหายใจงั้นเหรอ ไม่เลวนิ” ในที่สุดเขาก็พูดออกมา “แต่ที่เหลือโยนทิ้งไปให้หมด แล้วลองเริ่มใหม่จากคำนี้”

ลินินเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้ปัดตกไอเดียของเธอทั้งหมด แต่เขากำลังต่อยอดมัน

ราวกับมีประตูบานใหม่ที่มองไม่เห็นถูกเปิดออก

ทั้งสองคนย้ายสมรภูมิรบไปยังไวท์บอร์ดขนาดใหญ่ ธันวาเริ่มร่างภาพสตอรี่บอร์ดคร่าว ๆ ส่วนลินินก็เริ่มเขียนคำต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับคำว่าหายใจ

โดยที่ความคิดของพวกเขาทะเลาะกันบ้าง ปะทะกันบ้าง แต่ก็มีบางจังหวะที่มันวิ่งมาบรรจบกันราวกับถูกจัดวางไว้

บ่าของพวกเขาอยู่ใกล้กันจนแทบจะสัมผัสได้ ลินินได้กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ของเขาอีกครั้ง มันเป็นกลิ่นที่เคยทำให้เธอรู้สึกกดดัน แต่ตอนนี้มันกลับทำให้เธอใจสั่นอย่างน่าประหลาด

“ผมว่าภาพควรจะเริ่มจากใต้น้ำ ที่เต็มไปด้วยความอึดอัด เหมือนกำลังจะหมดลม” เขาพูดขณะที่มือยังคงวาดเส้นสายบนบอร์ด

“แล้วค่อย ๆ พุ่งทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำ แล้วก็...” เธอพูดต่อ ก่อนจะหันไปสบตาเขาเพื่ออธิบายต่อ แล้วคำพูดทั้งหมดก็พลันหายไปจากหัว

ใบหน้าของพวกเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ใกล้จนมองเห็นเงาของตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาสีนิลของเขา

เวลาคล้ายจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ...

ก่อนที่ทั้งสองจะรีบผินหน้าหนีพร้อมกันราวกับถูกของร้อน ความเงียบที่น่าอึดอัดโรยตัวลงมาอีกครั้ง

จากด้านนอกออฟฟิศ แพรวายืนมองภาพนั้นผ่านผนังกระจกใสด้วยแววตาที่ลุกเป็นไฟ ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ภาพของคนสองคนที่ทำงานร่วมกันอย่างเข้าขา มันช่างบาดตาบาดใจเธอยิ่งกว่าการเห็นลินินได้รับชัยชนะเสียอีก

“โอเค พอแค่นี้ก่อนสำหรับวันนี้” ธันวาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ เขาหยิบแปรงลบไวท์บอร์ดขึ้นมาลบกระดาน “ผมคุยกับคุณธามแล้ว เขาค่อนข้างสนใจโลเคชั่นที่เป็นทะเล เพื่อสื่อถึงแนวคิด Rebirth ที่เป็นจุดกำเนิดของชีวิต”

เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ “พรุ่งนี้เช้าเราจะบินไปภูเก็ตเพื่อดูโลเคชั่น และไปกันแค่สองคน”

ลินินยืนนิ่งอึ้ง สมองประมวลผลไม่ทัน

“ผมต้องการมุมมองของคนที่สร้างคอนเซ็ปต์นี้ขึ้นมากับมือ ไปสัมผัสบรรยากาศจริง” เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามปกติ “เจอกันที่สนามบินเจ็ดโมงเช้า เตรียมตัวให้พร้อม”

เดินทางไปภูเก็ตพรุ่งนี้เช้า ไปกับเขาแค่สองคน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บรีฟรักเดิมพันใจ   17 เผชิญหน้า

    รุ่งเช้าในป้อมปราการของธันวานั้นเงียบสงบ แต่เป็นความสงบก่อนพายุจะเข้าอย่างแท้จริงพวกเขาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของกันและกัน ไม่มีความปรารถนาทางกายหลงเหลืออยู่แล้ว มีเพียงความแน่วแน่และมุ่งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง ทั้งสองคนต่างรู้ดีว่าสิ่งที่ทำลงไปเมื่อคืน มันคือการจุดระเบิดเวลาที่นับถอยหลังสู่หายนะทางอาชีพพวกเขาอาบน้ำแต่งตัว สวมใส่เสื้อผ้าชุดทำงานที่เปรียบเสมือนชุดเกราะสำหรับออกรบแล้วโทรศัพท์ของธันวาก็ดังขึ้น ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอคือ ‘พี่เจต’ธันวากดรับแล้วเปิดลำโพง ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยคำทักทาย เสียงที่เหมือนเสียงคำรามของพยัคฆ์บาดเจ็บก็ดังลั่นออกมาจากปลายสาย“พวกแกสองคนอยู่ที่ไหนกันหา?! รีบเข้ามาที่ออฟฟิศ!!!! เดี๋ยว!!!! นี้!!!!”ตู๊ด...สายถูกตัดไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบและคำตัดสินที่ชัดเจน“ได้เวลาแล้วสินะ” ธันวาพูดเสียงเรียบ แต่แววตากลับแน่วแน่“ค่ะ” ลินินตอบกลับไป เอื้อมมือไปกุมมือของเขาไว้แน่น “ลินพร้อมแล้ว”

  • บรีฟรักเดิมพันใจ   16 หน้ากากที่ถูกฉีก

    เวลาในห้องนั้นคล้ายจะหยุดเดิน...ริมฝีปากของลินินสัมผัสเข้ากับขอบแก้วที่เย็นเฉียบ เสียงของธันวาที่เคยเตือนไว้ดังก้องอยู่ในหัว‘ห้ามรับเครื่องดื่มจากใครก็ตามที่ไม่ใช่ผม’ภาพรอยยิ้มที่เหมือนผู้ชนะของเสี่ยวิวัฒน์ แววตาสะใจของแพรวา รวมถึงสายตากังวลของธันวาที่มองมาจากอีกฟากของห้อง ทุกอย่างประดังเข้ามาในเสี้ยววินาทีเธอต้องทำอะไรสักอย่าง!ในจังหวะที่ลินินกำลังจะแกล้งทำเป็นสะดุดเพื่อสาดแชมเปญในแก้วทิ้ง...“ลินิน! อย่า!”เสียงตะโกนที่ดังลั่นราวกับเสียงคำรามของราชสีห์ ทำให้ทุกคนในห้องหันไปมองเป็นตาเดียวธันวาทิ้งโทรศัพท์ในมืออย่างไร้ค่า ก้าวพรวด ๆ ฝ่าวงล้อมของแขกเหรื่อตรงมาที่เธอด้วยความเร็วที่น่าตกใจทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ก่อนที่ลินินจะได้ทันตั้งตัว มือแข็งแรงของเขาก็เอื้อมมาคว้าแก้วแชมเปญไปจากมือของเธออย่างแรงจนแชมเปญหกกระเซ็นไปเล็กน้อยทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน เงียบเสียจนได้ยินเสียงฟองอากาศที่แตกตัวในแก้วแชมเปญของคนอื่น ๆหน้ากากของธันวาได้ถูกฉีกอ

  • บรีฟรักเดิมพันใจ   15 กับดักในงานเลี้ยง

    การแสดงละครตบตาในออฟฟิศยังคงดำเนินต่อไป แต่ฉากรักร้อนแรงหลังม่านยังคงถูกจุดไฟให้ลุกโชนขึ้นทุกครั้งที่มีโอกาส ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่แสนอันตรายนี้กลายเป็นสิ่งเสพติดสำหรับคนทั้งสองไปเสียแล้ว...แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของตนเองนั้น กำลังตกอยู่ในสายตาของอสรพิษสองตัวที่เฝ้ารอจังหวะตะครุบเหยื่อความสงสัยที่ถูกจุดขึ้นในงานเลี้ยงคืนนั้น กลายเป็นเปลวไฟที่เผาไหม้จิตใจของแพรวา เธอเริ่มสืบเสาะหาความจริงอย่างเงียบ ๆ ราวกับนักสืบเอกชนเธอย้อนดูใบเบิกค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทริปภูเก็ต ตรวจสอบเวลาการจองตั๋วเครื่องบิน เวลาเช็กอินเข้าโรงแรม ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับคนที่จับจ้องหาความผิดปกติอย่างเธอแล้ว มันมีช่องโหว่เล็ก ๆ อยู่‘ทำไมต้องจองตั๋วแยกกัน แต่กลับได้ที่นั่งติดกัน?’‘ทำไมถึงเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมช้ากว่ากำหนดการเดิมไปหลายชั่วโมง?’มันยังไม่ใช่หลักฐานที่มัดตัวได้ แต่สำหรับแพรวาแล้ว มันคือเส้นด้ายเล็ก ๆ ที่เธอพร้อมจะสาวไปให้ถึงต้นตอ***ชายแก่เจ้าเล่ห์ที่ถูกหักหน้าอย่างรุนแรง

  • บรีฟรักเดิมพันใจ   14 สงครามบนโต๊ะอาหาร

    ลินินกลับมาถึงห้องพักในสภาพที่จิตใจห่อเหี่ยวราวกับดอกไม้ที่ขาดน้ำ สัมผัสที่น่ารังเกียจของเสี่ยวิวัฒน์และสายตาที่ราวกับจะเปลื้องผ้าของเขายังคงติดตรึงอยู่ในความรู้สึกจนน่าขยะแขยง เธอพยายามจะนั่งทำงานต่อ แต่ก็ไม่มีสมาธิเลยแม้แต่น้อย ภาพใบหน้าเลื่อมใสของเขายังคงตามมาหลอกหลอนก๊อก... ก๊อก...เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว หัวใจเต้นระรัวด้วยความหวาดระแวง แต่แล้วเสียงทุ้มที่คุ้นเคยก็ดังลอดเข้ามา“ลิน... ผมเอง”เธอรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ภาพที่เห็นคือธันวาในสภาพที่ดูอิดโรยและเคร่งเครียดไม่แพ้กัน เขาก้าวเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลง ก่อนจะดึงร่างของเธอเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งอย่างแนบแน่นโดยไม่พูดอะไรสักคำอ้อมกอดของเขาเป็นที่หลบภัยที่ดีที่สุดในโลก“คุณโอเคไหม?” เขากระซิบถาม เสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างแท้จริงลินินส่ายหน้าช้า ๆ พลางซบใบหน้าลงกับแผงอกของเขา ปล่อยให้น้ำตาที่อัดอั้นไว้ตลอดทั้งวันไหลรินออกมาอย่างเงียบ ๆ เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

  • บรีฟรักเดิมพันใจ   13 คำสารภาพ

    หลังจากบทร่วมรักอันน่าพิศวาสได้จบสิ้นลง เหลือทิ้งไว้เพียงสองร่างที่เปลือยเปล่าและอ่อนล้าอยู่บนโซฟาธันวายังคงกอดเธอไว้แน่น ซบใบหน้าอยู่กับซอกคอของเธอราวกับเด็กที่หลงทางและเพิ่งจะหาทางกลับบ้านเจอ คำขอโทษของเขายังคงวนเวียนอยู่ในอากาศที่หนักอึ้ง แต่สำหรับลินินแล้ว บาดแผลครั้งนี้มันลึกเกินกว่าที่คำขอโทษจะเยียวยาได้ในทันทีเธอค่อย ๆ ดันตัวเขาออกอย่างแผ่วเบา แล้วเผชิญหน้ากับเขาในความเงียบ ดวงตาของเธอยังคงแดงก่ำ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว“มันไม่ใช่แค่ความโกรธหริกค่ะ พี่คิน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแต่ก็หนักแน่น “แต่มันคือคำพูดของพี่ที่ว่าลินใช้ร่างกายเพื่อให้ได้งาน ที่พี่ไม่ไว้ใจลินเลยแม้แต่นิดเดียว”คำพูดของเธอเหมือนมีดที่กรีดซ้ำลงไปบนแผลในใจของเขา ธันวาหลบสายตาเธอเป็นครั้งแรก แววตาเต็มไปด้วยความละอายใจอย่างปิดไม่มิด“ผม... ผมมันเลวเอง” เขาพูดเสียงแผ่ว “มันไม่ใช่ความผิดของคุณเลยลินิน มันเป็นปมของผมเอง”เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวที่เขาไม่เคยบอกใครมาก่อน เรื่องราวของความรักในอดีตท

  • บรีฟรักเดิมพันใจ   12 พิศวาส

    “เรา... เราต้องบ้ากันไปแล้วแน่ ๆ” ลินินหัวเราะออกมาเบา ๆ ขณะที่พยายามจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของตัวเองให้เข้าที่บนโต๊ะทำงานที่เคยศักดิ์สิทธิ์ของเขาธันวาช่วยเธอจัดปกเสื้อเบลาส์ให้เข้าที่อย่างอ่อนโยน ปลายนิ้วของเขาสัมผัสผิวเนื้อบริเวณลำคอของเธอแผ่วเบา เป็นสัมผัสที่ทำให้หัวใจของเธอกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง“บ้าที่สุด แต่ก็ดีที่สุด” เขากระซิบตอบ ก่อนจะขโมยจูบจากเธอไปอีกหนึ่งฟอดเป็นการทิ้งท้ายพวกเขาช่วยกันเก็บกวาดสนามรบอย่างรวดเร็ว จัดเอกสารที่กระจัดกระจายให้กลับเข้าที่ ทุกการกระทำเต็มไปด้วยความใกล้ชิดและความลับที่อบอวลอยู่รอบตัว ราวกับคู่รักที่กำลังทำเรื่องผิดศีลธรรมที่น่าตื่นเต้นคืนนั้น หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้าน ลินินนอนหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มและร่างกายที่ยังคงอุ่นซ่านจากสัมผัสของเขาเช้าวันต่อมา ธันวาก็กลับไปสวมหน้ากากเจ้านายจอมโหดได้อย่างแนบเนียน เขายังคงวิจารณ์งานเธออย่างเผ็ดร้อน สั่งแก้ไขโปรเจกต์อย่างไม่หยุดหย่อน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือแววตาของเขาในทุกครั้งที่สายตาของพวกเขาประสานกันกลางที่ประชุม หรือเดิน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status