ด้านหน้าบริษัท
รถยนต์สปอร์ตสีขาวรุ่นล่าสุดจอดอยู่ด้านหน้าบริษัท ชายหนุ่มร่างสูงวัยยี่สิบกลาง ๆ ยืนพิงประตูรถอยู่ด้านนอก ทันทีที่มุกดาเดินพ้นประตูด้านหน้าบริษัททั้งสองก็โผเข้ากอดกันท่ามกลางสายตาของพนักงานที่กำลังจะออกไปทานมื้อเที่ยงข้างนอก หลังจากนั้นทั้งสองก็ขึ้นรถขับออกไป
“หึ..ยืนกอดกันในที่สาธารณะ ลืมไปแล้วหรือไงว่าที่นี่เมืองไทย” ธาราที่ยืนมองจากหน้าต่างชั้นบนสุดของตึก ก่อนจะรีบปิดม่านและกลับมานั่งทำงานต่อที่โต๊ะ
ครืด ~ ครืด ~ ครืด ~
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
“ครับนาย”
“มาแดกข้าว” เสียงชาร์วีดังมาด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่
“กูไม่หิว”
แอ๊ด ~
“ไม่หิวก็ต้องทานค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะ” เสียงหวานพูดขึ้นพร้อมกับร่างอรชรในชุดเดรสสีฟ้าน่ารักเดินเข้ามาในห้อง
“ครับ วันนี้ทำอะไรมาให้พี่ทานครับคนสวย” เสียงทุ้มอบอุ่นถามกลับต่างจากน้ำเสียงที่ตอบกลับชาร์วีเมื่อกี้
“ต้มข่า ใส่พริกทอดเยอะ ๆ ของโปรดพี่ธาราค่ะ”
“ต้องให้ไปตามกว่าจะเสด็จมาได้” ชาร์วีที่นั่งรอทานข้าวอยู่ที่โซฟาพูดขึ้นน้ำเสียงไม่พอใจ
“ปากไม่ได้ติดกัน ทีหลังไม่ต้องเสือกรอ”
ทั้งสามนั่งทานข้าวจนเสร็จ มื้อนี้ธาราทานข้าวเยอะเป็นพิเศษรวมทั้งชาร์วีเองด้วย ผลไม้สีสันสดใสที่ถูกจัดใส่จานมาอย่างเป็นระเบียบถูกแกะพลาสติกที่ห่อมาวางลงหลังจากทานของคาวเสร็จ
“ทานผลไม้ด้วยนะคะ หนูแวะซื้อมาสด ๆ เลยนะคะ” หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากสามีของเธอเมื่อตอนเก้าโมงว่าอยากให้เธอมาทานมื้อเที่ยงที่บริษัทด้วย เธอก็รีบเข้าครัวทำอาหารและแวะซื้อผลไม้ที่ซูเปอร์มาเกตมาด้วย
“แล้วลอนดอนล่ะครับ ไม่เอามาด้วย”
“ตอนหนูออกมาลอนดอนยังไม่ตื่นเลยค่ะ เลยฝากป้าณีกับพี่แขช่วยดูให้”
“หนูลืมไปเลยค่ะ วันนี้มุกดามาทำงานไหมคะเมื่อกี้เข้าไปในห้องไม่เจอเลย หรือว่าย้ายไปเรียนรู้งานที่แผนกอื่นแล้ว”
“มาครับ แต่ตอนเที่ยงเธอออกไปทานข้าวกับแฟน”
“แฟน มุกดาน่ะเหรอคะ ออกไปทานข้าวกับแฟน”
“ครับ เห็นมารับแล้วยืนกอดกันอยู่หน้าบริษัท”
“ไม่น่าใช่นะคะ มุกดาบอกหนูว่าตอนนี้กำลังตามจีบคนคนหนึ่งอยู่ค่ะ”
“ตอนบ่ายมีประชุม พี่ขอตัวไปเตรียมตัวเข้าประชุมก่อนนะครับ” ธาราเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือก็เอ่ยขึ้นทันทีเมื่อตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายโมงครึ่งแล้ว
“โอเคค่ะ”
“มุกดากลับมาหรือยังครับ”
“กลับมาแล้วค่ะ”
“เที่ยงห้าสิบห้านาทีค่ะ ฉันกลับมาถึงโต๊ะทำงานตอนเที่ยงห้าสิบห้า” หญิงสาวพูดขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้อง ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปากถาม
“ภาพลักษณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ที่นี่เมืองไทยไม่ใช่เมืองนอก จะแสดงความรักก็ควรอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว”
“หึ..ตอนนี้มันยุค2023แล้วนะคะ สังคมยังตำหนิเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอ แค่ชายหญิงกอดทักทายกันก็มองเป็นเรื่องเสื่อมเสียแล้วเหรอคะ มันก็แค่เพื่อนต่างเพศทักทายกันตามปกติ ฉันไม่เห็นว่ามันจะดูไม่ดีตรงไหน” มุกดาชี้แจงในมุมมองของเธอ
“เตรียมตัวเข้าประชุมด้วย”
“ฮึ! ไอ้ผู้ชายหัวโบราณ ชอบตัดสินคนอื่นแค่ภายนอก” มุกดาบ่นอุบอิบกับตัวเอง ขณะที่มือก็กดเมาส์ตรวจสอบไฟล์งานที่จะใช้ประชุมบ่ายนี้ไปด้วย
ห้องประชุม
มุกดานั่งลงเก้าอี้ข้าง ๆ ชายหนุ่ม โดยมีชาร์วีนั่งเป็นประธานการประชุมอยู่หัวโต๊ะและอุษาผู้ช่วยเลขาสาวนั่งเก้าอี้ถัดจากเธอ
“โครงการบ้านหรูแบบนี้ก็เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเราควรที่จะสร้างบ้านให้มีความแตกต่าง และทุกวันนี้สภาพอากาศเมืองไทยร้อนขึ้นทุกวัน ผมคิดว่าเราควรที่จะปรับผนังของบ้านเป็นสองชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนจากแสงแดดผ่านเข้าไปถึงด้านใน และภายในตัวบ้านก็จะเย็นกว่าบ้านอื่นปกติ ฝากให้ทีมวิศวกรช่วยคำนวณโครงสร้างและเปรียบเทียบอุณหภูมิที่แตกต่างกันส่งให้ผมดูด้วยนะครับ”
“รับทราบครับ ไอเดียนี้ถือว่าเป็นการสร้างจุดเด่นของโครงการของเรา และยังไม่มีใครทำด้วยนะครับ” หัวหน้าแผนกออกแบบกล่าวชื่นชมชาร์วี และทุกคนต่างชื่นชมในความสามารถของมาเฟียหนุ่มที่ตอนนี้สวมบทบาทประธานบริษัท
“คุณชาร์วีเก่งมากเลยนะคะ หน้าตาหล่อแล้วยังทำงานเก่งมาก ๆ อีก มุกอยากเก่งได้ครึ่งหนึ่งของคุณชาร์วีบ้างจัง ต้องเรียนรู้งานอีกกี่ปีถึงจะเก่งแบบนี้นะคะ”
“คุณธารากับคุณชาร์วีเก่งมากจริง ๆ ค่ะ ษาเองทำงานที่นี่มาหลายปี ทุกวันนี้ยังทึ่งกับความสามารถของเจ้านายเลยค่ะ” อุษาและมุกดายืนคุยกันอยู่หน้าห้อง ระหว่างนั้นธาราก็เดินมาพอดี
“ศีลธรรมการรู้จัก ผิด ชอบ ชั่วดี ควรมีอยู่ในมนุษย์ทุกคน”
“คุณว่าฉันเหรอคะ”
“ชาร์วีเป็นสามีของพลอยใส”
“ค่ะ ฉันรู้ค่ะว่าคุณชาร์วีเป็นสามีของเพื่อนฉัน ฮึ! คุณคงได้ยินฉันคุยเล่นกับคุณษาเมื่อกี้สินะคะ ฉันจะบอกคุณให้นะคะว่าการชื่นชมคนอื่น “ไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมอะไร” แต่การตำหนิผู้อื่นทั้งที่ไม่รู้จักตัวตนเขามากพอเป็นเรื่องที่ “ไร้มารยาท” ค่ะ”
“ท้องได้สามสัปดาห์แล้ว พรุ่งนี้ก่อนแปดโมงเช้าตัวอย่างเลือดต้องถึงโรงพยาบาลที่สิงคโปร์แล้วมึงก็ต้องเป็นคนไปจัดการด้วยตัวเอง” ธาราพูดจบก็ลุกจากโซฟาเดินขึ้นห้องทันที“อะไรของเขาวะ แค่อยากรู้เพศลูกถึงขั้นต้องเอาเครื่องบินส่วนตัวบินไปส่งเองเลยหรือไง ทาโรงพยาบาลก็จัดการเรื่องนี้ได้ไม่ใช่หรือไง”“แจ้งสถาปนิกมาพบฉันด้วยพรุ่งนี้เช้า” ใบหน้าคมเข้มหันกลับมาสั่งอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป“มึงจะเรียกสถาปนิกมาทำไม” ไม่เพียงลุคค์ที่กำลังงงชาร์วีเองก็งงไม่แพ้กัน“ทำห้องไว้สำหรับลูก”เช้าวันต่อมา“พี่ลุคค์ไปไหนแต่เช้าคะ” พลอยใสถามขึ้นเมื่อมื้อเช้าขาดสมาชิกร่วมโต๊ะไปหนึ่งคน“ไปสิงคโปร์ตั้งแต่เช้ามืดแล้ว” ชาร์วีเป็นคนตอบคำถาม“ไปทำไมคะ มีงานด่วนที่นั่นเหรอคะ” พลอยใสถามกลับอีกครั้งเพราะฮาร์เปอร์ไม่ได้มีธุรกิจที่นั่น“งานด่วนไอ้ธารา”“งานด่วนพี่ธารา?”“มุกดาท้องได้สามสัปดาห์แล้ว ลุคค์กำลังนำตัวอย่างเลือดไปตรวจที่สิงคโปร์ว่าได้ผู้ชายหรือผู้หญิง”“จริงเหรอคะ ดีใจด้วยนะคะ ดีใจด้วยนะมุกดาในที่สุดลอนดอนก็มีน้องแล้ว” มือเล็กยื่นไปกุมมือว่าที่คุณแม่มือใหม่ บนโต๊ะอาหารมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุข บ้านฮาร์เปอร์เริ่ม
“เอ่อ..ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ หมอว่าเราไปนั่งคุยกันตรงโต๊ะทำงานหมอดีกว่าค่ะ”“จากผลอัลตร้าซาวด์เด็กจะคลอดประมาณเดือนมกราคมปีหน้าค่ะ ส่วนเรื่องเพศนั้นหมอยังตอบไม่ได้ต้องส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจที่สิงคโปร์ถึงจะสามารถรู้เพศเด็กได้ หรือไม่ก็ต้องรออายุครรภ์ประมาณห้าเดือนถึงจะอัลตร้าซาวด์ดูเพศได้ค่ะ”“เร็วกว่านั้นได้ไหมครับ” ธาราถามขึ้นท่าทางร้อนใจ“ไม่ได้ค่ะ เราต้องส่งตัวอย่างเลือดไปทางเครื่องบินต้องรอส่งตามรอบค่ะ แต่หมอจะติดตามผลให้เร็วที่สุดแล้วจะแจ้งผลให้ทราบค่ะ”“ทางเราสามารถส่งตัวอย่างเลือดไปเองได้ไหมครับ” อยู่ ๆ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว“ส่งเอง แต่ตัวอย่างเลือดต้องเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมนะคะ คุณจะถือขึ้นเครื่องไปแบบธรรมดาไม่ได้ค่ะ”“ผมจะให้แพทย์เป็นคนนำตัวอย่างเลือดไปส่งที่โรงพยาบาลโดยไม่ให้ตัวอย่างเลือดเสียหายโดยเครื่องบินส่วนตัวของเรา ตัวอย่างเลือดจะถึงสิงคโปร์ไม่เกินแปดโมงเช้าวันพรุ่งนี้ รบกวนคุณหมอติดต่อโรงพยาบาลปลายทางแล้วแจ้งรายละเอียดให้ทางเราทราบโดยด่วนด้วยนะครับ” เสียงเรียบบอกรายละเอียดทั้งหมดออกไป มุกดาได้แต่นั่งอึ้งไม่คิดว่าคนเป็นสามีจะตื่นเต้นแล้วทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดน
หลังจากเสร็จกิจกรรมตอนเช้าและกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง มุกดาสีหน้าอ่อนแรงผลพวงจากกิจกรรมรักเมื่อคืนที่ผ่านมาและต่ออีกครั้งในตอนเช้า“ค่อยไปวันหลังไม่ได้เหรอคะ ฉันเหนื่อยมากเลยขอนอนพักก่อนได้ไหม” มุกดาพยายามต่อรองธาราอยู่หลายครั้งแต่ชายหนุ่มก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเขานั้นได้นัดหมอสูตินรีแพทย์ที่เก่งที่สุดไว้แล้ว“ไม่ได้ผมนัดหมอไว้แล้ว แล้วอีกอย่างคุณจำเป็นต้องรีบตรวจร่างกายโดยเร็ว มีอะไรจะได้รีบแก้ไขทัน”“ร่างกายคนนะคะ ไม่ใช่เครื่องจักรที่พอเจอปัญหาแล้วสามารถเปลี่ยนอะไหล่แล้วแก้ไขได้”“แต่งตัวเสร็จแล้วใช่ไหม ผมนัดหมอไว้ตอนบ่ายโมงพอดี” ไม่เพียงจะไม่ตอบคำถามแต่เขาทำเมินเฉยต่อคำขอร้องของเธอ“ฉันไม่ไปค่ะ ฉันเหนื่อยจนไม่มีแรงจะเดินแล้ว เมื่อเช้าฉันบอกว่าไม่ให้ทำคุณก็ยังจะทำอยู่นั่นแหละ” หย่อนสะโพกนั่งลงกับเตียงใบหน้าง้ำงอ“ไม่ได้มุกดา ผมนัดหมอไว้”“อ้ะ!” วงแขนแกร่งช้อนร่างอรชรขึ้นจากเตียงในท่าเจ้าสาวเปิดประตูห้องพาเธอเดินลงไปด้านล่าง โดยไม่ลืมหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กของหญิงสาวไปด้วย“นี่คุณปล่อยฉันลงนะ ฉันเดินเองได้” สายตาดุมองหน้าชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงไม่พอใจ“เมื่อกี้บอกเห
“เซ็กซีฉิบ ต่อไปอย่าหวังจะเอานมไปโชว์ใครอีก”“อึก..อย่าบีบ” ฝ่ามือหนาบีบเคล้นอกอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะโยกของช่วงล่างปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!“อือ..อ่าส์ คุณฉัน..ฉันไม่ไหว อื้อ..อ่าส์” เสียงร้องระงมดังไปทั่วห้องเมื่อสะโพกสอบเด้งกระแทกสวนขึ้นมาจนปลายชนเข้ากับท้องน้อย ความเสียวปนจุกจนมุกดาร้องครวญครางออกมาเพื่อระบาย“แรง ๆ มุกดาผมใกล้แล้ว” สะโพกสอบกระแทกสวนขณะที่มือหนาสองข้างจับอยู่ที่เอวคอดช่วยประคองจังหวะขึ้นลงตามที่ตัวเองต้องการ“อึก! คุณมันเสียว ฉันไม่ไหว”“อดทนอีกหน่อย”“อือ..อ่าส์” ปากสวยอ้าค้างสั่นระริกเมื่อปลายแก่นกายไซซ์เกินมาตรฐานกระแทกชนปากมดลูกด้านในจนจุก บวกกับความเสียวแปร๊บตรงท้องน้อย“อ่าส์..” ใบหน้าหล่อเหลาแสดงความร้ายกาจออกมาผ่านสายตา ธาราช้อนขาพับจับหญิงสาวพลิกลงด้านล่างเปลี่ยนตัวเองขึ้นมาเป็นคนคุมเกมรักร้อนแรงนี้ต่อปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!“อ้ะ! อ้า..ไม่ไหวแล้ว” หัวใจคนร้องเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่งแข่งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงครางของธาราบ่งบอกถึงอารมณ์เร่าร้อนเป็นอย่างดีเพียะ!“อร๊าย..กรี๊ด..” เสียงร้องตามมาด้วยเสียงกรี๊ดทันทีที่ธาราฟาดมือหนักลงแก้มก้นระคนมันเขี้ยว เม็
“ถ้าคุณเผลอครางออกมาแสดงว่าฉันทำให้คุณพอใจ ตกลงตามนี้นะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กผละออกจากอกแกร่ง เงยหน้าขึ้นจ้องดวงตาคมเข้ม“ตกลง”“คุณเตรียมบอกฝันดีฉันได้เลยค่ะ” มือเรียวเล็กคว้าแท่งเนื้อที่ตั้งโด่ขึ้นมารูดขึ้นรูดลง ปลายดอกเห็ดสีแดงก่ำตอนนี้มีน้ำสีใสไหลซึมออกมา เส้นเลือดปูดด้านข้างลำแท่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโดนสัมผัสจากมือนุ่ม“อ่าส์..มุกดา” ธาราเผลอร้องครางออกมาเมื่อปากอุ่นนุ่มกลืนกินแท่งเนื้อของเขาเข้าไปจนสุดความยาวในคราเดียว จากนั้นใช้ปลายลิ้นตวัดเลียส่วนปลายที่บานเป็นดอกเห็ดสลับกับเส้นเอ็นตรงปลายด้านข้าง“ไม่ชอบเหรอคะ จ๊วบ!” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียและกลืนกิน รสชาติแปลกใหม่ที่เธอได้สัมผัสสร้างความตื่นเต้นให้เธอไม่น้อยจ๊วบ ~ จ๊วบ ~ จ๊วบ ~“อ่าส์..อย่ากัด” เสียงแหบพร่าบอกออกไปเมื่อฟันคมโดนเนื้อขณะที่รูดเข้ารูดออกเพราะขนาดที่ใหญ่เกินมาตรฐานที่ปากเล็กจะกลืนกินเข้าไปได้มาก รู้สึกเจ็บแปลบ ทว่าก็ชวนรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา ดวงตาคมเข้มก้มมองหน้าหญิงสาวที่กำลังปรนเปรอ ฝ่ามือหนากดศีรษะเล็กแช่ไว้บางครั้งขณะที่ปากเล็กกลืนแท่งเนื้อเข้าไปจนสุดจนเขารู้สึกเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว“อ่าส์..ปากนุ่มเป็
ร่างบางอ่อนปวกเปียกราวคนหมดแรงถูกอุ้มในท่าเจ้าสาวพาไปยังห้องนอน ก่อนจะค่อย ๆ วางลงบนฟูกหนาอย่างเบามือ ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาเช็ดเหงื่อพอลวก ๆ แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ หญิงสาว“ดูคุณมั่นใจจังนะว่าเขาจะมาเกิดคืนนี้” นานนับนาทีหลังจากพักหายใจเมื่อภารกิจสำคัญเสร็จสิ้นลง มุกดาหันไปถามคนเป็นสามี“ทำเองกับมือ” คำตอบสั้น ๆ บวกกับสีหน้าท่าทางที่มั่นใจ มุกดาเห็นจึงอดหมั่นไส้ไม่ได้“น้ำเชื้อคุณ มันจะใช้ได้จริง ๆ หรือคะ ไม่ใช่เสื่อมสภาพไปหมดแล้ว” ปากอวบอิ่มเบ้เล็กน้อย“คุณเตรียมตั้งชื่อลูกของเราว่ามังกรได้เลย เพราะเขาจะต้องเกิดราศีมังกรเท่านั้น” ไม่พูดเปล่าฝ่ามือยื่นมาลูบไล้หน้าท้องแบนราบอย่างเบามือราวกับว่าข้างในนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าลูกอาศัยอยู่“แต่งานวิจัยเขาบอกว่าคนที่ทำงานหนักและพักผ่อนน้อย น้ำเชื้อจะไม่ค่อยแข็งแรง เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าอีกนานกว่าลูกของคุณจะมาเกิด” มุกดาว่ากลับอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ท่าทีของชายหนุ่มแต่อิงความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย“ผมตรวจแล้วน้ำเชื้อผมแข็งแรงดี ปล่อยเข้าร่องของคุณแล้วลูกของเราวิ่งเข้าไปในมดลูกคุณ รับรองลูกของเรามาเกิดวันนี้แน่”“คุณไปตรวจตอนไหนคะ” ร่า