ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นอีกรอบและคนที่โทรเข้ามานั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชาร์วี
{ครับนาย}
{พาพลอยใสกลับบ้านเดี๋ยวนี้} เสียงทรงอำนาจสั่งออกไป
{ผมบอกนายแล้วนี่ครับว่าจะพาพลอยใสไปซื้อของที่ซูเปอร์มาเกตแล้วจะแวะทานข้าวข้างนอกด้วย}
{กูบอกให้พาพลอยใสกลับบ้านเดี๋ยวนี้}
{มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอชาร์ กูบอกว่าจะพาพลอยใสไปซื้อของแล้วจะแวะทานข้าวก่อน มึงจะขังเธอไว้ในบ้านทุกวันไม่ได้} สรรพนามเริ่มเปลี่ยนไปเมื่ออีกฝ่ายเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง
{แต่มึงทำเมียกูร้องไห้ เมียกูกำลังร้องไห้}
{มึงว่าอะไรนะ? } ธาราชะงักทันทีสายตาคมมองหาเครื่องดักฟังภายในรถแต่ไม่เจอ ฝ่ามือหนาคลำหาบริเวณที่คิดว่าจะสามารถติดได้และได้ยินเสียงชัดเจน
{ไอ้ชาร์มันเกินไปแล้วนะ ขนาดในรถกูมึงยังให้คนมาติดเครื่องดักฟังนี่อีก} ธาราว่ากลับอย่างหัวเสีย
{ก็เมียกูไปกับมึง}
{ปกติพลอยใสก็ไปไหนมาไหนกับกูตลอด มึงจะหวงแบบไม่มีเหตุผลไม่ได้ เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำตัวเป็นเด็กสักที}
{ไอ้ธารา}
{มึงหุบปากไปเลยชาร์ พรึบ! ซา..บรื๊น!!} ธารากดตัดสายทันทีด้วยความโมโหพร้อมกับโยนเครื่องดักฟังที่ติดอยู่ใต้คอนโซลรถฝั่งคนขับออกนอกรถ โดยไม่สนใจว่าเครื่องดักฟังขนาดจิ๋วนั้นจะมูลค่าเท่าไหร่
“ไปเที่ยวทะเลไหมครับ ไปรับอากาศดี ๆ สักวันสองวันค่อยกลับ ปล่อยให้ไอ้บ้านั่นมันบ้าอยู่ที่บ้านคนเดียว” พลอยใสเอี้ยวคอมองบอดี้การ์ดหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม
“พี่ธาราจะไปจริง ๆ เหรอคะ จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นเพื่อความมั่นใจว่าถ้าเธอและบอดี้การ์ดหนุ่มทำแบบนี้จะไม่เกิดเรื่องร้ายแรงตามมาทีหลัง
“อย่างมากมันแค่อาละวาด หรือไม่ก็บินตามไป แต่คนอย่างมันต้องโดนเอาคืนเพื่อเตือนสติซะบ้าง ชักจะเหิมเกริมบ้าคลั่งขึ้นทุกวัน” ธาราบอกให้พลอยใสคลายกังวล
“หนูไปก็ได้ค่ะ อยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์เหมือนกัน แล้วเราจะไปที่ไหนคะ”
“ภูเก็ตครับ”
ภูเก็ต
ธาราและพลอยใสเดินทางมาถึงภูเก็ตในช่วงบ่าย ทั้งสองพักที่บ้านพักของธาราที่เคยซื้อไว้เมื่อหลายปีก่อนโดยที่ชาร์วีไม่รู้
“นี่บ้านใครคะ สวยจัง” ทันทีที่รถจอดสนิทพลอยใสก็เปิดประตูลงจากรถทันที พร้อมกวาดสายตาสำรวจบริเวณรอบ ๆ บ้านพักที่อยู่ติดกับทะเล
“บ้านพี่เองครับ ซื้อไว้นานแล้วไม่ค่อยได้มาพักแต่มีคนคอยทำความสะอาดตลอด”
“ว้าวดีจัง พี่ธารามีบ้านพักติดทะเลแบบนี้ แถมเป็นส่วนตัวด้วย อย่างนี้หนูก็มาเที่ยวบ่อย ๆ ได้สิคะ”
“เอาไว้มีโอกาสหนีไอ้ชาร์ได้เมื่อไหร่พี่จะพามาเที่ยวอีก แต่ตอนนี้เข้าไปข้างในก่อนครับตอนนี้แดดแรงมากจะไม่สบายเอา”
คฤหาสน์ฮาร์เปอร์
แอ๊ด..ปั้ง!
ลุคค์ที่กำลังนั่งทำบัญชีอยู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ มาเฟียหนุ่มก็เปิดประตูเข้ามา
“ลุคค์ มึงตามหาสัญญาณรถไอ้ธาราหน่อย มันพาพลอยใสไปไหนป่านนี้แล้วยังไม่กลับเข้าบ้าน” มาเฟียหนุ่มหัวเสียเดินเข้ามาสั่งงานมือซ้ายคนสนิทคนที่จะช่วยตามหาเมียเขาได้ในตอนนี้
“พี่ธาราพานายหญิงไปส่งเพื่อนที่สนามบินไม่ใช่เหรอครับ” ลุคค์ถามกลับเมื่อค้นพบสัญญาณ GPS รถของธาราจอดอยู่ที่สนามบิน
“เครื่องออกตั้งแต่แปดโมงเช้า ป่านนี้บ่ายสามมันยังไม่พาพลอยใสกลับมาเลย”
“สักครู่ครับนาย” ลุคค์เช็กสัญญาณอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“รถพี่ธาราจอดอยู่ที่สนามบินครับนาย ไฟล์ทเลื่อนหรือเปล่าครับ” เมื่อแน่ใจตำแหน่งรถของธาราที่จอดอยู่จึงสันนิษฐานว่าไฟล์ทบินน่าจะเลื่อน
“มันบอกกลับมาแล้วตั้งแต่เช้าและจะแวะซื้อของและทานข้าว แล้วทำไมรถมันถึงไปจอดอยู่ที่สนามบิน”
“สักครู่ครับนาย”
“พี่ธาราและนายหญิงเดินทางไปภูเก็ตไฟล์ทบ่ายโมงตอนนี้น่าจะถึงภูเก็ตแล้วครับ” ลุคค์รายงานมาเฟียหนุ่มอีกครั้งเมื่อค้นเจอข้อมูลการเดินทางของบอดี้การ์ดรุ่นพี่และนายหญิงของฮาร์เปอร์
“กรอด..ไอ้ธารา! เตรียมเฮลิคอปเตอร์กูจะไปภูเก็ต” เสียงกัดฟันดังกรอดจนเห็นสันกรามเด่นชัด ตามมาด้วยเสียงตะโกนสั่งดังลั่นบ้าน
“นายครับ นักบินเราป่วยครับ อีกคนก็ลากลับต่างจังหวัดครับ” ลุคค์วิ่งหน้าตื่นเข้ามารายงานชาร์วีหลังจากแจ้งไปยังฝ่ายการบินของฮาร์เปอร์ว่าให้นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบิน และได้รับคำตอบกลับมาว่าไม่มีนักบินที่สามารถขับเฮลิคอปเตอร์ได้เลยเพราะคนหนึ่งป่วยอีกคนก็ลากลับต่างจังหวัดตั้งแต่สองวันก่อน
“กูขับเอง ประสานการบินพลเรือนว่าเราจะนำเครื่องขึ้นบินในอีกครึ่งชั่วโมง” มาเฟียหนุ่มตะโกนบอกดังลั่น ในบ้านฮาร์เปอร์ตอนนี้คงเหลือแค่ชาร์วีและลุคค์สองคนเท่านั้นที่จะสามารถทำหน้าที่นักบินที่หนึ่งและนักบินที่สองได้
“ครับนาย”
ทางด้านธาราและพลอยใส
“แดดอ่อนแล้วพลอยเล่นน้ำได้เลยนะ” ธาราที่ดูนาฬิกาและคำนวณเวลาอะไรสักอย่างก่อนจะหันไปบอกหญิงสาวที่นั่งมองวิวทะเลอยู่ริมระเบียงหน้าบ้าน
“งั้นหนูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ” พลอยใสหยิบถุงกระดาษใบใหญ่ที่ข้างในมีเสื้อผ้าอยู่สามสี่ชุดที่ธาราพาแวะซื้อที่สนามบินเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเปลี่ยนชุดสำหรับเล่นน้ำ
“พี่ให้เล่นได้แค่หนึ่งชั่วโมงนะครับ” ธาราบอกกับพลอยใสเมื่อหญิงสาวเดินกลับมาในชุดที่พร้อมสำหรับลงเล่นน้ำ
“รับทราบค่ะ เขาจะเดินทางมาถึงเราเมื่อไหร่คะ” พลอยใสรับปากอย่างว่าง่าย พร้อมถามกลับเพราะรู้จักนิสัยสามีเป็นอย่างดี
“น่าจะไม่เกินสามชั่วโมงครับ หรือเร็วกว่านั้น”
“คุณจะดุพี่ธาราทำไมคะ ก็คุณทำนิสัยไม่ดีกับพี่ธาราก่อน คุณโดนแบบนี้ก็ถูกต้องแล้วนี่คะ” พลอยใสที่เห็นด้วยและเข้าข้างธาราตั้งแต่แรกหันไปว่าให้คนเป็นสามีที่ชอบทำอะไรโดยไม่นึกถึงจิตใจคนอื่น“พลอยใส ใครเป็นผัวเธอกันแน่ ทำไมถึงเข้าข้างไอ้ธาราตลอด” ชาร์วีที่โมโหและน้อยใจที่เมียตัวน้อยไม่เคยเข้าข้างตัวเองเลย แทบทุกครั้งที่มีเรื่องทะเลาะกับธารา“อย่ามาถามคำถามโง่ ๆ กับหนูแบบนี้นะคะ ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสามีใครก็กลับบ้านไปค่ะ อย่ามาโวยวายแถวนี้” คำพูดประชดประชันที่พลอยใสไม่ชอบเอาซะเลยถึงว่าสวนกลับไป มือบางเสยผมเปียกที่เริ่มแห้งหลังจากโดนลมมาสักพักพัดปลิวปกคลุมใบหน้าออกพอลวก ๆ ถอนลมหายใจพรืดยาวกระทืบเท้าเดินผ่านหน้ามาเฟียหนุ่มไป“พลอยใส จะเดินหนีฉันแบบนี้ไม่ได้นะ กลับมาคุยกันก่อน” ชาร์วีตะโกนตามหลังหญิงสาวที่เดินดุ่ม ๆ เข้าบ้านไปไม่ฟังเสียงเรียกของคนเป็นสามี“สงบสติอารมณ์แล้วค่อยมาคุยกันค่ะ หนูเหนียวตัวหนูจะไปอาบน้ำ” เสียงเล็กตะโกนตอบกลับแต่ไม่หันหน้ากลับมาเพียงนิด ไม่นานร่างอรชรก็เดินเข้าไปภายในบ้านหลังเล็กที่อยู่ไม่ไกล“ใครอนุญาตมึงให้เข้าบ้านกู” ทันทีที่ชาร์วีและลุคค์เดินเข้ามาภายในบ้าน ธาราเ
ตอนที่7 อารมณ์คลุมเครือเท้าเปลือยเปล่าสัมผัสความนุ่มของทรายเม็ดละเอียดสีขาว ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าและท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ใบหน้าและเส้นผมถูกสายลมปะทะ กอปรกับหูฟังเสียงเกลียวคลื่นม้วนตัวเข้าหาฝั่ง เท้าเล็กยืนอยู่ระหว่างเส้นแบ่ง ผืนทรายที่แห้งสนิท กับผืนทรายที่เปียกชุ่มเพราะถูกน้ำทะเลซัดสาดอยู่เป็นระยะ“เย็นสบายจัง” ร่างอรชรที่หน้าท้องเคยแบนราบตอนนี้เริ่มมีพุงน้อย ๆ โผล่ออกมาให้เห็น กำลังเดินหยอกล้อกับเกลียวคลื่นที่ซัดสาดเข้ามาที่ชายฝั่ง คนตัวเล็กก้มลงแบมือไปสัมผัสกับสายน้ำที่เย็นสบาย กลิ่นอายท้องทะเลที่เธอโหยหาสูดหายใจเข้าเต็มปอดช่วยให้สดชื่นขึ้น“ลงเล่นน้ำได้นะ แต่อย่าลงไปลึกเกินพี่จะนั่งเป็นเพื่อนอยู่ตรงนี้ พลอยเล่นน้ำตามสบายเลย” ธารายืนมองรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าหญิงสาว รอยยิ้มแห่งความสุขที่ฉายแววออกมาจากด้านใน“หนูเล่นได้เหรอคะ จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ด้วยความที่เธอเป็นว่าที่คุณแม่มือใหม่จึงกังวลไปหมดว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้อง“เล่นได้ครับ อย่ากังวลไปเลย เล่นให้สนุกอีกนานนะถึงจะมีโอกาสได้มาเล่นน้ำแบบนี้อีก ต้องรอตัวเล็กคลอดออกมาแล้วต้องรอเขาโตก่อนถึงจะพามาแบบนี้ได้”“งั้นหนูลงไปเล่นน้ำ
ครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นอีกรอบและคนที่โทรเข้ามานั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชาร์วี{ครับนาย}{พาพลอยใสกลับบ้านเดี๋ยวนี้} เสียงทรงอำนาจสั่งออกไป{ผมบอกนายแล้วนี่ครับว่าจะพาพลอยใสไปซื้อของที่ซูเปอร์มาเกตแล้วจะแวะทานข้าวข้างนอกด้วย}{กูบอกให้พาพลอยใสกลับบ้านเดี๋ยวนี้}{มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอชาร์ กูบอกว่าจะพาพลอยใสไปซื้อของแล้วจะแวะทานข้าวก่อน มึงจะขังเธอไว้ในบ้านทุกวันไม่ได้} สรรพนามเริ่มเปลี่ยนไปเมื่ออีกฝ่ายเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง{แต่มึงทำเมียกูร้องไห้ เมียกูกำลังร้องไห้}{มึงว่าอะไรนะ? } ธาราชะงักทันทีสายตาคมมองหาเครื่องดักฟังภายในรถแต่ไม่เจอ ฝ่ามือหนาคลำหาบริเวณที่คิดว่าจะสามารถติดได้และได้ยินเสียงชัดเจน{ไอ้ชาร์มันเกินไปแล้วนะ ขนาดในรถกูมึงยังให้คนมาติดเครื่องดักฟังนี่อีก} ธาราว่ากลับอย่างหัวเสีย{ก็เมียกูไปกับมึง}{ปกติพลอยใสก็ไปไหนมาไหนกับกูตลอด มึงจะหวงแบบไม่มีเหตุผลไม่ได้ เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำตัวเป็นเด็กสักที}{ไอ้ธารา}{มึงหุบปากไปเลยชาร์ พรึบ! ซา..บรื๊น!!} ธารากดตัดสายทันทีด้วยความโมโหพร้อมกับโยนเครื่องดักฟังที่ติดอยู่ใต้คอนโซลรถฝั่งคนขับออกนอกรถ โดยไม่สนใจว่าเ
ตอนที่5 หนีเครื่องบินลำใหญ่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า กลุ่มเมฆสีขาวลอยเต็มท้องฟ้า ฝ่ามือเรียวเล็กกางสัมผัสแนบกับหน้าต่าง“จนนาทีสุดท้ายคุณก็ยังเย็นชากับฉัน” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเมื่อนึกถึงคำพูดและท่าทางรังเกียจของชายหนุ่มเจ้าของแจ็กเกตบนรถ“จะแวะที่ไหนก่อนไหมครับ หรือกลับบ้านเลย” ธาราเอ่ยถามเมื่อทั้งสองขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยโดยมีธาราทำหน้าที่เป็นคนขับ“หนูว่าจะแวะห้างซื้อของที่ซูเปอร์มาเกตหน่อยค่ะ ช่วงนี้พี่ธาราทำแต่งานไม่ค่อยได้ทานข้าวที่บ้านเลย” พลอยใสที่รักธาราเหมือนพี่ชายจะคอยเอาใจใส่และห่วงใยตลอด“เดี๋ยวไอ้ชาร์มันก็อิจฉาพี่อีกหรอกที่พลอยทำกับข้าวให้พี่ทาน พี่ขี้เกียจฟังมันบ่น” ธาราพูดติดตลกเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากว่าที่คุณแม่มือใหม่ที่กำลังอุ้มท้องทายาทมาเฟียตัวน้อยอยู่“ช่างเขาเถอะค่ะ นับวันยิ่งทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ” พลอยใสได้แต่ส่ายหัวเมื่อพูดถึงคนเป็นสามี ที่ทุกวันนี้ทิ้งการทิ้งงานให้ธาราและลุคค์ดูแล ส่วนตัวเขานั้นเอาแต่ตามติดเธอแทบจะสิงร่างเธออยู่แล้ว“หึ! มันกำลังหลงเมียหลงลูก พี่ก็ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะรักคนอื่นเป็น ตอนแรกพี่ก็แอบกลัวเหมือนกันที่รู้ว่ามันสนใจพลอย”“พี่ธาราร
คฤหาสน์ฮาร์เปอร์“ฉันตัดสินใจแล้วนะว่าจะไปเรียนต่อที่อังกฤษสักสองปี”“เพราะพี่ธาราใช่ไหมที่เธอตัดสินใจไปครั้งนี้ ตอนแรกเธอบอกว่าจะเรียนรู้งานแล้วเข้าไปช่วยงานที่บริษัทพ่อเธอไม่ใช่เหรอมุกดา” พลอยใสที่เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาในเวลาเดียวกันเอ่ยถามเหตุผลถึงการเปลี่ยนใจกะทันหันในครั้งนี้“จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็คงไม่ได้ แต่ที่ฉันตัดสินใจครั้งนี้ก็เพื่ออนาคตตัวฉันเองด้วย ความรู้ที่มีอยู่ตอนนี้ก็ช่วยพ่อและบริษัทได้ไม่มาก ฉันอยากไปเรียนรู้และหาประสบการณ์สักปีสองปีก่อน” มุกดาตอบกลับไปตามความจริง“ฉันสนับสนุนการตัดสินใจของเธอนะมุกดา ฉันจะรอวันที่เธอเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสุขในแบบที่เธอต้องการ ฉันหวังว่าการเดินทางไปเจอโลกใบใหม่ครั้งนี้เธอจะพบเจอผู้คนดี ๆ ที่ทำให้เธอยิ้มได้อย่างมีความสุขทุกวัน” พลอยใสแสดงความปรารถนาดีต่อเพื่อนก่อนที่ทั้งสองจะโอบกอดลากันก่อนที่มุกดาจะเดินทางในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น“พี่ธาราหนูขอคุยด้วยหน่อยค่ะ” พลอยใสที่มานั่งรอธาราตั้งแต่ช่วงเย็นเพื่อจะแจ้งข่าวสำคัญกับบอดี้การ์ดหนุ่ม“ครับ”“มุกดาจะเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษพรุ่งนี้นะคะ บินไฟล์ทแปดโมงเช้าพรุ่งนี้” พลอยใสไม่อ้อมค้อ
ตอนที่3 หลบหน้าเช้าวันต่อมามุกดาตื่นมาตอนเช้าอีกวันในสภาพหัวหนักอึ้งผลจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเมื่อคืน บวกกับที่เธอสำลักน้ำตอนจมน้ำด้วย เหตุการณ์เมื่อคืนไหลวนเข้ามาในหัว เรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเธอจำได้ตั้งแต่ต้นจนจบเพราะเธอเป็นคนเริ่มเองทั้งหมด สุดท้ายเขาก็ไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อยก๊อก ก๊อก ก๊อก“คุณมุกดาคะ? คุณพลอยใสให้มาตามไปทานข้าวเช้าค่ะ” เสียงแม่บ้านเรียกหญิงสาวเมื่อตอนนี้ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว“รอสักครู่นะคะฉันขออาบน้ำสักครู่ ฝากบอกพลอยใสว่าเดี๋ยวฉันตามไปค่ะ” มุกดาเปิดประตูออกมาบอกกับแม่บ้านด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ได้ค่ะ”มุกดาเดินไปยังห้องอาหารหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่พลอยใสเตรียมไว้ให้ ระหว่างทางเดินก็กวาดสายตามองบริเวณรอบ ๆ บ้านเผื่อจะเจอคนที่เธออยากเจอ แต่ไร้วี่แววบนโต๊ะอาหารมีเพียงชาร์วีและพลอยใสกำลังนั่งรับประทานอาหารไร้เงาบอดี้การ์ดหนุ่มคนที่ปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดีเมื่อคืน ดวงตากลมโตกวาดสายตามองบริเวณรอบ ๆ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของบอดี้การ์ดหนุ่ม“เธอมองหาใครเหรอมุกดา ถ้ามองหาพี่ธาราพี่เขาออกไปพบลูกค้าตั้งแต่เช้าแล้ว เธอมีธุระอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า”“อ