Share

บทที่ 0002

ลู่จิ่งโม่สูญเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิงแล้วในเวลานี้

วันนี้ในวงสังสรรค์ไม่รู้ว่าอาหารหรือเหล้าเบียร์กันแน่ที่มีปัญหา

เขาในตอนนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงปรารถนา และยากที่จะควบคุมอารมณ์ส่วนนั้นเอาไว้ได้

เมื่อสัมผัสไปโดนความนุ่มละมุนของหญิงสาวที่อยู่บนเตียง

ความปรารถนานั้นของเขาก็ราวกับลูกศรที่จำเป็นต้องพุ่งทะยานออกไปอย่างหยุดเอาไว้ไม่อยู่

ด้วยการตอบสนองที่เขินอายและการร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารแบบนั้น มันยิ่งทำให้เขาแทบจะบ้าคลั่งไปแล้ว

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม

ในที่สุดชายหนุ่มก็อิ่มหนำสำราญและผล็อยหลับไป

เย่เจียเหอรู้สึกเหมือนกับผ่านการบดขยี้มา มันเจ็บปวดจนถึงกระดูกเลยทีเดียว

เธอประคองร่างกายที่ปวดเมื่อย รีบสวมกระโปรง และออกไปจากห้องท่ามกลางความมืดมิด

จากนั้นก็เข้าไปในลิฟต์อย่างลุกลี้ลุกลน แต่กลับชนกับหญิงสาวคนหนึ่งเข้าพอดี

"ขอโทษค่ะ"

เย่เจียเหอใบหน้าซีดเผือด รีบเดินเข้าไปในลิฟต์ และกดปุ่มปิดประตูทันที

วังโหรวออกจากลิฟต์ และหันกลับไปมองทันที

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ จึงแอบอยู่ซอกลิฟต์และมองไปที่เย่เจียเหอ

นี่ใช่ภรรยาของลู่จิ่งโม่หรือเปล่า? ผู้หญิงที่แย่งตำแหน่งของเธอไปคนนั้น!

ชั้นบนสุดนี้มีห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทเพียงห้องเดียว ดังนั้นเมื่อกี้เย่เจียเหอวิ่งออกมาจากห้องของลู่จิ่งโม่อย่างนั้นเหรอ?

พวกเขา...

ทำแบบนั้นกันแล้วเหรอ?

ความอิจฉาที่พลุ่งพล่านอบอวลอยู่ในหัวใจของวังโหรว

เธอใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ติดสินบนคนในวงสังสรรค์ของค่ำคืนนี้ นับเวลาและปริมาณยา แต่กลับปล่อยให้เย่เจียเหอขึ้นมาก่อนได้หรือนี่!

เธอเดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว

ในความมืดมิด มีเพียงเสียงหายใจของลู่จิ่งโม่ที่กำลังหลับอยู่

จากนั้นวังโหรวจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเบาๆออกมาได้

เธอกระตุกรอยยิ้มอย่างเย็นชาออกมา ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด และนอนอยู่ข้างๆเขา

……

เย่เจียเหอเดินออกมาจากสโมสร และไม่กล้ากลับไปที่วิลล่าของเธอกับลู่จิ่งโม่

เพราะเธอกลัวว่าลู่จิ่งโม่หรือคนรับใช้ในวิลล่าจะมาเห็นเธอในสภาพแบบนี้

ท้ายที่สุดแล้ว ในช่วงสองปีของการแต่งงาน ลู่จิ่งโม่ไม่เคยแตะต้องตัวเธอแม้แต่ปลายนิ้ว

แต่ตอนนี้ เธอกลับถูกชายแปลกหน้าพรากความบริสุทธิ์ไปเสียนี่

เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ สมองของเย่เจียเหอก็ว่างเปล่า และกระสับกระส่ายภายในจิตใจเอาเสียมากๆ

เธอจึงวางแผนที่จะเรียกรถแท็กซี่ เพราะกลับไปที่บ้านของตระกูลเย่เสียก่อน

โดยที่อย่างน้อยเธอต้องอาบน้ำ และเปลี่ยนชุดใหม่เสียก่อน

เมื่อเธอกลับถึงบ้าน ก็พบว่าสองแม่ลูกเย่เป่าจูกำลังสายโทรศัพท์ของผู้กำกับจ้าวอยู่ที่ห้องรับแขกชั้นล่าง

"แม่คะ แม่คิดว่าตอนนี้ เย่เจียเหอกำลังถูกผู้กำกับจ้าว...หนูร้อนใจจะตายอยู่แล้วนะคะ ทําไมผู้กํากับจ้าวถึงยังไม่โทรหาเราอีกล่ะคะ? ตำแหน่งนักแสดงหญิงรองของหนู เขาคงจะไม่กลับคำหรอกใช่ไหมคะ?"

ดวงตาของเย่เป่าจูเต็มไปด้วยความโลภ

หลัวเจวียนหรี่ตาแล้วพูดว่า "ร้อนใจไปทำไมกัน นี่ห้าทุ่มกว่าๆเองไม่ใช่เหรอ? ผู้กำกับจ้าวชอบเล่นแบบนี้จนชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั้งวงการ แล้วจะปล่อยเย่เจียเหอไปง่ายได้อย่างไรกันล่ะ?"

ขณะที่แม่และลูกสาวกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เย่เจียเหอก็เดินเข้าประตูมาด้วยสีหน้าที่ดำสนิท

"เย่... เย่เจียเหอ?"

เย่เป่าจูตกใจจนพูดตะกุกตะกัก "เธอกลับมาได้ยังไง?"

เย่เจียเหอยิ้มอย่างเย็นชา และถามกลับออกมาว่า "หรือว่าฉันไม่ควรกลับมาตอนนี้?"

ส่วนหลัวเจวียนก็ตื่นตระหนก และพูดออกมาอย่างทื่อๆเช่นกัน "เจียเหอ คืนนี้เธอวิ่งออกมาจากงานเลี้ยงแซยิดของคุณย่าเธอดื้อๆแบบนี้ได้ยังไง? ไม่บอกไม่กล่าวกับเราสักคำ จู่ๆเธอก็ออกไปแบบนี้ รู้หรือเปล่าว่าคุณย่าไม่พอใจมากเลยนะ! "

เย่เจียเหอเดินมาหาพวกเธอทีละก้าวๆ

เมื่อท่าทางแบบนี้ของสองแม่ลูกแล้ว เธอก็เข้าได้อย่างชัดเจนแล้วว่า วันนี้ใครเป็นคนที่ส่งเธอไปสโมสรอวิ๋นตวนแบบนั้นกันแน่?

และเมื่อคิดถึงการที่ตัวเองต้องมาสูญเสียความบริสุทธิ์ไปอย่างไม่รู้ตัวแบบนั้น เย่เจียเหอก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาทันที

"เพี้ยะ" เธอตบไปที่หน้าของหลัวเจวียนอย่างเต็มแรง

และเย่เป่าจู่ก็ตะโกนร้องด้วยความโกรธออกมาว่า "เย่เจียเหอ เธอกล้าดียังไงมาตบแม่ของฉัน? ฉันจะไปเรียกคุณย่าและคุณพ่อให้ลงมา เธอคอยดูนะ!"

เย่เจียเหอคว้าข้อมือของเย่เป่าจูเอาไว้ และดึงเธอกลับมา

นัยน์ตาดำขลับส่องแสงที่มืดครึ้มออกมา และเย่เจียเหอก็พูดคำต่อคำออกมาว่า "เธอไปเรียกทุกคนลงมาเลยก็ได้ เรื่องของคืนนี้ สามารถดึงกล้องวงจรปิดของสโมสรอวิ๋นตวนมาดูได้ หากคุณพ่อรู้เรื่องของคืนนี้แล้วละก็ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เขาจะถลกหนังของเธอหรือไม่!"

สีหน้าของหลัวเจวียนและเย่จูเป่าเปลี่ยนไปทันที ซึ่งพวกเธอก็กลัวว่าเรื่องพวกนี้จะไปถึงเย่เฉาหมิงด้วยเช่นกัน

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในตอนที่เย่เฉาหมิงและภรรยาคนก่อนหย่าร้างกันนั้น เย่เจียเหอยังเล็กอยู่ โดยได้ยินมาว่าตอนที่สอบปลายภาคของชั้นประถมนั้นก็ถูกรังแกจากเพื่อนที่โรงเรียน จนกลายเป็นอาการของโรคซึมเศร้าอีกด้วย

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดกับลูกสาวคนนั้นมาตั้งแต่เด็ก และก็ลำเอียงรักมากกว่าอีกด้วย

แล้วอีกอย่าง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแต่อย่างใด

และหากเรื่องนี้บานปลายขึ้นมาจริงๆ เธอและลูกสาวก็คงจะเดือดร้อนอย่างแน่นอน!

เย่เจียเหอสามารถมองเห็นความประหม่าและความตื่นตระหนกของสองแม่ลูกได้

เธอสะบัดเย่เป่าจูออกไปอย่างรุนแรง ผลักเธอลงบนพื้น ส่วนตัวเองก็ลากร่างที่เหนื่อยล้าขึ้นไปชั้นบน

หลัวเจวียนรีบพยุงลูกสาวขึ้นมา และจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของเย่เจอเหอ

เย่เป่าจูถามอย่างกระวนกระวายขึ้นมาว่า "แม่คะ ทำไมเย่เจียเหอถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้? เธอกับผู้กำกับจ้าวมีอะไรกันหรือเปล่า?..."

"มีแน่นอน"

หลัวเจวียนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วพูดว่า "เมื่อกี้ลูกไม่เห็นที่คอของเย่เจียเหอเหรอ มันมีรอยมากแค่ไหน? ดูแล้ว ผู้กำกับจ้าวลงมือไม่เบาเลยนะ!"

จู่ๆ เย่เป่าจูก็ถามอย่างเป็นกังวลว่า "เย่เจียเหอคนนั้นต้องเกลียดเราเข้ากระดูกดําแน่ๆ เธอจะไปดึงเอากล้องวงจรปิดมา และบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อหรือเปล่าคะ? คุณแม่ก็เห็นท่าทางของเธอเมื่อกี้นี้ เหมือนกับจะฆ่าพวกเราได้เลยนะคะ!"

และหลัวเจวียนก็พูดอย่างไม่เร่งรีบว่า "กลัวอะไร? เย่เจียเหอเป็นสะใภ้ตระกูลลู่เลยนะ เธอจะกล้าพูดเรื่องนี้ออกไปได้อย่างไรกัน? หากพูดออกไปแล้ว เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะ?"

หลังจากนั้นเย่เป่าจูถึงสบายใจ แล้วพูดกับแม่ของตัวเองว่า "แม่คะ งั้นคุณแม่ก็รีบโทรหาผู้กำกับจ้าวสิคะ ถามดูว่าเมื่อไปหนูถึงจะไปที่กองถ่ายทำได้?"

หลัวเจวียนจึงโทรหาผู้กำกับจ้าว และถามอย่างประจบเอาใจว่า "ผู้กำกับจ้าวคะ วันนี้เจียเหอของเราดูแลท่านดีหรือเปล่าคะ?"

"อย่าพูดเลย ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทที่ผมจองไว้เมื่อคืนถูกตัดหน้าเอาไปแล้ว ได้ยินว่าเป็นคนใหญ่คนโตอยู่นะ"

ผู้กํากับจ้าวพูดอย่างหงุดหงิดว่า "สาวน้อยที่พวกคุณส่งมา ผมไม่เห็นหน้าเสียด้วยซ้ำ"

สีหน้าของหลัวเจวียนเปลี่ยนไปทันที "อะไรนะคะ? คนใหญ่คนโต? นั่นก็หมายความว่า คุณไม่ได้ไปที่ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทนั่นเลย"

งั้นใครนอนล่ะที่นอนกับเย่เจียเหอ?

เมื่อกี้เย่เจียเหอมีรอยจูบมากมายที่คออย่างชัดเจนนี่นา!

"แค่นี้นะ เรื่องการออดิชั่นของลูกสาวคุณค่อยว่ากันใหม่ก็แล้วกันนะ"

ผู้กำกับจ้าวไม่ได้ลิ้มรสความหอมหวาน อารมณ์จึงไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่

เย่เป่าจูโกรธเกรี้ยวจนกระทืบเท้า นี่เป็นละครเรื่องแรกของตัวเอง หรือว่า มันจะล้มเหลวไปเสียแล้ว?

เย่เจียเหอยืนอยู่ที่มุมบันได แอบมองแม่และลูกสาวคู่นี้ที่อยู่ชั้นล่าง

จากบทสนทนาระหว่างพวกเธอ เย่เจียเหอก็รับรู้เหตุต้นผลปลายของเรื่องนี้อย่างคร่าวๆแล้ว

ดูเหมือนว่าพวกเธอคิดที่จะส่งเธอไปให้ผู้กำกับจ้าวในตอนแรก แต่เนื่องจากห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทถูกตัดหน้าไปก่อนโดยคนใหญ่คนโตคนนั้น

ซึ่งผู้กำกับจ้าวคนนี้ไม่กล้าที่จะไปรุกราน ดังนั้น เธอจึงถูกคนอีกคน...

เย่เจียเหอหลับตาแน่น ไม่กล้าที่จะคิดต่อไปอีกแล้ว

เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เธอก็แทบอยากจะกระโจนเข้าไปบีบคอสองแม่ลูกนี้เอาเสียให้ได้

แต่เธอทําแบบนี้ไม่ได้

เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหน้าตาของตระกูลเย่และตระกูลลู่ รวมถึงหน้าตาของตัวเธอเองด้วย

ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่ปล่อยตามน้ำไป และไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้อีก

เย่เจียเหอเดินเข้าไปในห้องน้ำ

ยืนใต้ฝักบัว และลูบร่องรอยตามตัวของตัวเองอย่างรุนแรง

ราวกับว่าหลังจากผ่านค่ำคืนแบบนั้นมา ร่างกายของเธอก็ไม่สะอาดอีกต่อไป

ครั้งแรกของเธอ ไม่ได้ให้กับสามีของตัวเอง แต่ดันไปให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งเสียนี่

เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เสียงร้องไห้ของเธอคละเคล้าไปกับเสียงน้ำไหล แลดูอ้างว้างเอาเสียมากๆ

……

หลังจากคิดมาทั้งคืน เย่เจียเหอก็ไม่สามารถข่มความโกรธนี้ลงไปได้จริงๆ

เธออยากรู้ว่า ผู้ชายเมื่อคืนเป็นใครกันแน่?

ดังนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นเธอจึงไปที่สโมสรอวิ๋นตวน เพื่อที่จะสามารถดึงกล้องวงจรปิดมาดูได้ หรือไม่ก็ดูข้อมูลการเข้าพักของห้องนั้นได้

เพียงแต่น่าเสียดายที่เธอได้รับคำตอบกลับมาว่า "ต้องขอโทษคุณผู้หญิงด้วยนะครับ เราจำเป็นต้องเก็บข้อมูลของลูกค้าเป็นความลับเอาไว้ แล้วอีกอย่าง ระบบกล้องวงจรปิดของสโมสรเราเมื่อคืนนี้ถูกแฮ็ก และกลายเป็นอัมพาตไปหมดแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ถึงจะซ่อมเสร็จครอบ แต่ช่วงเวลาที่เป็นอัมพาตไปนั้น ก็ไม่มีการบันทึกแล้วนะครับ"

สโมสรอวิ๋นตวนเป็นสโมสรบันเทิงระดับไฮเอนด์ที่สุดในเมืองไห่เฉิง อิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังนั้นสลับซับซ้อน แล้วเด็กสาวตัวเล็กๆอย่างเย่เจียเหอจะทําอะไรได้?

แม้กระทั่งเบาะแสเย่เจียเหอก็ไม่พบเลยแม้แต่น้อย

อีกอย่าง เมื่อคืนเธอก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้

หากเรื่องนี้ได้แพร่กระจายออกไป จนบานปลายไปทั่วเมือง เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้?

เย่เจียเหอกลับไปที่วิลล่าของลู่จิ่งโม่อย่างเหนื่อยล้า

ระหว่างทางเธอยังซื้อยาคุมฉุกเฉิน 72 ชั่วโมงมาอีกด้วย

แม้ว่าเธอจะอายุเพียง 22 ปีและไม่ได้ผ่านเรื่องแบบนั้นมาก่อน แต่สามัญสํานึกพื้นฐานแบบนี้ เธอยังคงมีอยู่

หลังจากกินยาแล้ว เธอก็เก็บกล่องยาไว้ในลิ้นชักอย่างลวกๆ

ความง่วงนอนได้ถาโถมเข้ามา เจียเหอจึงล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างมึนๆงงๆ และผล็อยหลับไปในที่สุด

เมื่อเธอตื่นขึ้นมา มันก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว

และเธอก็ประหลาดใจเมื่อพบว่า ลู่จิ่งโม่ไม่รู้ว่ากลับมาตั้งแต่ตอนไหน และกำลังนอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนแบบนั้น

เสื้อเชิ้ตสูทสีดําและเนกไทสีเทาเงินขับเขาให้ดูแพงและสง่างาม แต่ก็กลับทำให้เย็นยะเยือกเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เย่เจียเหอตกใจมาก

เมื่อคิดถึงเรื่องที่ตัวเองได้ประสบพบมาเมื่อคืน เธอก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย

แล้วอีกอย่าง ปกติเขาก็จะนอนอยู่ในห้องรับแขก โดยไม่เคยเข้ามาในห้องนอนหลักแต่อย่างใด

เขาลุกขึ้นและเดินไปหาเธอช้าๆ และพูดเบาๆว่า "เมื่อครู่ที่ผมกลับมา ได้ยินมาว่าสีหน้าของคุณดูไม่ค่อยดี ยังคิดว่าคุณป่วยอยู่เลย ผมก็เลยเข้ามาดูน่ะ"

เย่เจียเหอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่แล้วจู่ๆ กล่องยากล่องหนึ่งก็ได้โยนมาที่ใบหน้าของเธอ

"เมื่อกี้ตอนที่ผมค้นหาเทอร์โมมิเตอร์ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงของคุณ แต่พบกับกล่องนี้ มันคืออะไร?"

น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นชา แต่กลับเต็มไปด้วยความเย็นชาและการซักถาม

เมื่อเย่เจียเหอเห็นกล่องยาคุมที่ตัวเองเพิ่งจะซื้อมาในวันนี้ หัวใจก็เต้นไปถึงลิ้นปี่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status