บริษัทเอมม่าคอสเมติกส์ เป็นบริษัทเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีชื่อดังของประเทศไทย มีการจัดเลี้ยงเปิดสาขาที่เชียงใหม่ ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่อัญชิสาได้เจอกับ แทนไท แฟนหนุ่มคนปัจจุบันของเธอ แถมเขายังพ่วงดีกรีเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดสำนักงานใหญ่มาร่วมในงานเลี้ยง
เขาปิ๊งเธอ-เธอปิ๊งเขา
ทุกอย่างดูลงตัวและก็น่าจะจบแบบหวานเจี๊ยบแต่ไม่ใช่ เพราะหลังจากโทรจีบกันได้กี่เดือน อัญชิสาตกลงยอมเลื่อนสถานะจากคนคุย มาเป็นแฟน แต่ทว่าที่ผ่านมาตอนคบกัน ส่วนใหญ่ถ้าไม่คุยกันทางมือถือ ไม่จะมีแค่วิดีโอคอลหากันบ้างตามประสาคู่รักที่อยู่ห่างไกลกันคนละจังหวัด
แต่ในเมื่อโลกก็หมุนมาให้คนสองคนเจอกัน อัญชิสาเลยคิดว่าเหมือนโลกทั้งโลกเธอมีเขาแค่สองคน
มือเคยจับ กอดเคยมี แต่ที่แน่ๆ เซ็กส์ยังไม่เคย เพราะอัญชิสาตั้งใจว่าแต่แรกถ้าคบกันถึงปีแล้วจะให้
และเที่ยงคืนของวันคริสต์มาสนี้ก็ครบวันนั้น วันที่เธอตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์แล้วให้สิ่งที่หวงแหนกับแฟนหนุ่ม!
อุตส่าห์ลงทุนไปขัดน้ำแร่แช่น้ำนม แว็กซ์ขนทุกส่วนสัดเนียนกริบ ทำทุกอย่างเพื่อคืนพิเศษในคืนนี้
แต่ทุกอย่างพังไปหมด!
เพราะภาพที่เห็นตรงหน้า!
อัญชิสายืนกัดฟันกรอด มองดูภาพหญิงชายคู่นั้นกำลังยืนเต้นในท่าทางที่โอบกอดเอวอยู่ตรงหน้า ท่ามกลางเสียงเพลงดังกระหึ่ม ผู้หญิงสวยในชุดรัดรูปสีแดงแข่งกับเธอ กำลังเต้นโยกย้ายบดสะโพกกลมมนขยี้ยั่วอยู่หว่างขาของแทนไท
ถ้าเอากันได้สองคนนี้คงเอากันแล้วอยู่ตรงนั้น
แม่งเอ๊ย!
อัญชิสาคว้าแก้วแชมเปญสีเข้มจากบริกรที่เดินถือถาดเสิร์ฟอยู่ภายในงาน ก่อนเดินตรงไปหาชายร้ายหญิงเลวคู่นั้น แล้วสาดแชมเปญลงไป!!
โครม!!
“ว้าย”
ไม่ใช่เสียงร้องของชายหญิงคู่นั้น แต่เป็นเสียงร้องของอัญชิสาเองที่ยืนเหม่อ จินตนาการไปไกลว่าเมื่อครู่เธอกำลังสวมบทนางเอกมาจับกิ๊ก! สาดน้ำใส่คนทั้งคู่ไปแล้ว
แต่เปล่าเลย เธอเพิ่งถูกคนที่เดินเต้นไปมาถอยหลังมาชนจนเดินเซเสียเกือบล้ม
“ขอโทษนะคะ เจ็บไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เจ็บ” อัญชิสาโน้มศีรษะเพราะเธอเองก็ทันได้ระวัง อีกอย่างถึงจะเจ็บก็เจ็บแค่นอกกาย เพราะตรงที่ใจเจ็บกว่าเยอะ และเมื่อคนเดินชนขอโทษขอโพยแล้วเดินจากไป แต่อัญชิสายังยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บใจอยู่ที่เดิม
ก่อนหน้านี้ยี่สิบสี่ชั่วโมงของเมื่อวาน แฟนหนุ่มเพิ่งโทรหาเธอชวนเธอมางานเลี้ยง แต่พอเธอปฏิเสธว่าไม่มา แค่ชั่วข้ามคืนเขาก็หาคนใหม่มาแทนเธอได้รวดเร็ว
ไม่สิ …บางทีเขาอาจจะมีคนของเขาอยู่ก่อนแล้ว และบางทีเธอเองนั่นแหละ ที่อาจเป็นมือที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ที่หก
โว้ยยยยย…นั่นมันทศกัณฐ์ค่ะ!
ส่วนเมื่อวานก่อนที่เขาโทรมาหา ก็อาจจะแค่เป็นการโทรเช็กว่าเธอมางานด้วยหรือเปล่าก็เท่านั้น!
....
(“บี๋ครับ บี๋ขึ้นมางานเลี้ยงบริษัทด้วยไหมครับ เค้าอยากเจอบี๋ …คิดถึง”)
อัญชิสานึกถึงประโยคหวานเจี๊ยบจากแฟนหนุ่มหน้าตี๋ทำเสียงอ้อนมาตามสาย
“คงไม่ได้ไปคะตัวเอง พอดีเค้าต้องไปงานแต่งงานของเพื่อน เพื่อนเค้าแต่งงานเอาวันคริสต์มาสพอดีเลย”
(“แต่เค้าอยากเจอหน้า อยากกอดบี๋นี่นา ไหนบี๋สัญญากับเค้าว่าไงน้าาาา”)
“ว่า...ถ้าถึงวันวันคริสต์มาสเค้าจะเป็นของตัวเองไง”
งุ้ยยยยย …
ว่าแล้วอัญชิสาก็นั่งเขินตัวบิด
“แต่...เค้าไปงานเลี้ยงบริษัทไม่ได้จริง ๆ เค้าต้องไปงานแต่งงานเพื่อน”
บางทีก็จำเป็นต้องเล่นตัวเป็นพิธี เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองบ้างนิดหน่อย
(“เสียดายจัง งั้นเอาไว้เค้าจะหาวันลาพักร้อน แล้วขึ้นไปหาบี๋นะ”)
“ค่าไว้เจอกัน จุ๊ป!”
อัญชิสาวางสายจากแฟนหนุ่ม แต่ใบหน้าหวานยิ้มกริ่ม เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเซอร์ไพรส์อย่างอารมณ์ดี
“อัญแกแน่ใจเหรอจะไปหาพี่แทนที่กรุงเทพ”
เสียงเพื่อนรักชื่อวีนา เธอเป็นพยาบาลประจำห้องพยาบาลบริษัท และเป็นรูมเมทที่พักห้องเดียวกันเอ่ยขึ้น
วีนาเหมือนรู้อะไรดี ๆ มา แต่ไม่กล้าบอกอัญชิสา และที่ไม่กล้าบอกก็เพราะกลัวจะหอน เพื่อนตัวเองดูรักแฟนมากแค่ไหน ข้อนี้วีนาเองก็รู้ดี
“อื้อใช่ ทำไมเหรอ ว่าแต่แกไม่ไปด้วยกันเหรอ”
งานเลี้ยงบริษัทใครจะไปหรือไม่ไปก็ได้ บริษัทไม่ซีเรียส ยังไงก็หยุดยาวเป็นอาทิตย์ตั้งแต่วันคริสต์มาสยันวันปีใหม่
“ฉันไม่ชอบออกงานแกก็รู้”
“ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่แกติดนอนย่ะ” อัญชิสาบ่นให้เพื่อนรักอย่างมีนา
วีนาเป็นมนุษย์ introvert โลกส่วนตัวสูงปรี๊ด จริง ๆ อัญชิสาก็เหมือนกันแต่โลกส่วนตัวไม่เท่า ส่วนครั้งนี้เธอก็แค่ตั้งใจไปเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่มก็เท่านั้น
“อืม แกเผื่อใจไว้บ้างก็ดี เผื่อพี่แทนของแกมีครอบครัวแล้ว” วีนาเอ่ยอ้อม ๆ เพื่อรักษาน้ำใจเพื่อน
“บ้า ถ้าเขาคนมีครอบครัวแล้ว แล้วเขาจะเอาเวลาไหนโทรหาฉันได้ทุกวี่วัน”
“แล้วแกอยู่กับเขายี่สิบสี่ชั่วโมงหรือเปล่าละ?”
“เปล่า แต่แกเค้าดีกับฉันมากเลยนะ” อัญชิสายังยืนยันความคิดของตัวเอง
“งั้นโอเคเพื่อน แกลองไปงานเลี้ยงที่กรุงเทพดู ไปพิสูจน์ด้วยตา แล้วถ้ามีอะไรที่แกไม่สบายใจให้แกโทรหาฉัน”
นั่นคือสิ่งที่วีนาบอกกับอัญชิสาก่อนจะมา
และ...
พอความจริงปรากฏแก่สายตา อัญชิสาเลยนึกถึงสิ่งที่เพื่อนรักเตือน เธอยกมือถือก่อนกดสายหาเพื่อนสาวทันที
“ฉันได้เห็นกับตาแล้วอะวีนา”
(“เออ เห็นแล้วใช่ปะ นั่นแหละที่ฉันไม่กล้าบอกแก อยากให้แกเห็นด้วยตาตัวเองมากกว่า ลองถ้าฉันบอกไปถ้าแกไม่เชื่อฉัน เผลอๆ แกโกรธฉันอีก”)
ก็จริง…เรื่องบางเรื่องต้องได้เห็นกับตาของตัวเอง อัญชิสาไม่โกรธเพื่อน …เธอเข้าใจ ที่ผ่านมาเธอก็คลั่งพี่แทนไทจนไม่สนโลกอยู่เหมือนกัน
(“แกโอเคไหมยัยอัญ”) ปลายสายถามอัญชิสาเมื่อฟังดูเงียบ ๆ ไป
“โอเคดิ ไม่เป็นไรเลย ดีแล้วที่ได้เห็นก่อนที่ฉันจะยอมตกเป็นของผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น” อัญชิสาคิดบวก พอ ๆ กับอยากเดินไปบวกผู้ชายคนตรงหน้า แต่ฮึบไว้
(“ความจริงที่ฉันอยากจะบอกคือ พี่แทนของแกมีครอบครัวแล้ว ละก็มีลูกด้วยกันเกือบสามขวบ เขาเจ้าชู้มากนะแก แล้วที่แกเห็นวันนี้อาจเป็นกิ๊กเขาอีกคน”)
“หึ” อัญชิสาแค่นหัวเราะ นึกสมเพชกับตัวเองที่เกือบกลายเป็นตัวเลือกของแฟนหนุ่ม
“ทำไมผู้ชายต้องมีสิทธิ์เลือกฝ่ายเดียววะ แม่งจะมั่วกี่คนก็ได้”
(“มันไม่เหมือนกันยัยอัญ ก็นั่นมันผู้ชาย”)
วีนาถอนหายใจพยายามเตือนสติเพื่อนตัวเองแต่ไม่รู้ว่าเพื่อนจะฟังแล้วเข้าใจด้วยหรือเปล่า
“อืม…แค่นี้นะแก ขอบใจมาก ฉันจะกลับไปนอนล่ะ”
(“แล้วพวกคนอื่นที่มาด้วยกันกับแกล่ะ”)
“ก็นั่งดื่มกันอยู่ กำลังสนุกมั้ง” อัญชิสาหมายถึงเพื่อนพนักงานประจำสาขาเชียงใหม่ที่มาพร้อมกับเธอนับสิบคน แต่เมื่อครู่อัญชิสาเพิ่งขอตัวเดินแยกออกมาเพื่อจะมาหาแทนไทแฟนหนุ่ม …แฟนที่คงนึกไม่ถึงว่าเธอจะมาร่วมงานในวันนี้
(“อืม ดูแลตัวเองดีๆ”)
“โอเคเพื่อน” อัญชิสาวางสาย
บอกตัวเองว่าโอเค บอกตัวเองว่าไม่อยากลดตัวไปตบตีเพื่อแย่งผู้ชาย เขาไม่ได้มีค่าพอที่จะให้เธอไปแย่งชิง แต่ทำไมวะ! ผู้หญิงเราต้องแคร์ผู้ชายมากขนาดนั้น!
อัญชิสาเดินออกจากงานอย่างขุ่นมัว เธอยกมือถือพิมพ์ส่งข้อความไปในไลน์ บอกเพื่อนร่วมงานที่มาด้วยกันว่าปวดหัวจะกลับขึ้นไปนอน ระหว่างทางเดินไปที่ลิฟต์เพื่อจะขึ้นไปชั้นบน เธอแวะเข้าห้องน้ำ พลันได้ยินเสียงหญิงสาวคุยกันเรื่องหนุ่มโฮสต์
“ฉันนัดโฮสต์คนใหม่มา โคตรหล่อ”
“ฉันก็นัดมาเหมือนกัน คนนี้เอวดีมาก”
“ดีเนอะ ที่แกแนะนำคนหล่อๆ มาให้ฉัน”
“ก็แน่สิ ผู้หญิงอย่างเรามีสิทธิ์เลือกนิ หล่อ รวย อวยใหญ่ เอาใจเก่ง จะเลือกเอาใครก็ได้”
อัญชิสาฟังแล้วตาลุกวาว อารมณ์อยากประชดปะทุขึ้นมาในสมอง ไหน ๆ ตัวเองก็ตั้งใจมาทำเรื่องแบบว่ากับแฟนหนุ่มนั่นอยู่แล้ว และเธอเองก็ควรมีสิทธิ์เลือกจะนอนกับใครก็ย่อมได้!
“ร้องไห้ทำไมครับ?”เสียงทุ้มจากคนตรงหน้าเอ่ยถาม ทำเอาอัญชิสาชะงักไปนิด เพราะอย่าว่าแต่แผ่นหลังคนตรงหน้าเหมือนคริสโตเฟอร์เลย ขนาดเสียงก็ยังเหมือนเหมือนมาก…นี้เธอคิดถึงเขามากจน…อ๊ะ!! หรือว่า!!อัญชิสาค่อย ๆ เงยหน้ามองเห็นรองเท้าหนังสีดำมันวับที่คุ้นตา ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปอีก เห็นคนตรงหน้ากำลังนั่งลงชันเข่ามองจ้องเธอ“คุณคริส!”“ร้องไห้ทำไม หรือยังโกรธที่เห็นหน้าผมอีก” สีหน้าคริสโตเฟอร์สลดลง แต่ก็เข้าประคองอัญชิสาให้ยืนขึ้นฮรึก…“ยังโกรธผมอยู่อีกเหรอ?”“ฮรึก…โกรธ…”อัญชิสาตอบสะอึกสะอื้นเป็นเด็ก ๆ ถึงตอนนี้พอจะรับรู้ถึงสายตาหลายคู่ที่มองมาที่เธอกับคริสโตเฟอร์ก็ไม่สนคนจะร้องไห้อะ?ห้ามได้ไหมล่ะ…ก็ไม่ได้“ผมขอโทษที่มาให้เห็นหน้า แต่ว่าผม…”“ฉันโกรธ โกรธที่คุณหายไปไหนตั้งหลายวัน ฮรึก”กลายเป็นเขาสินะที่ผิดทั้งขึ้นทั้งล่อง เธอโกรธจนไล่เขาเพราะไม่อยากเห็นหน้า แต่ตอนนี้เธอดันโกรธที่เขาหายไปจริง ๆคริสโตเฟอร์คลายยิ้มออกมา ที่อย่างน้อยก็รู้ว่าความโกรธอันหลังของเธอมาจากความคิดถึง“คิดถึงผมเหรอ”“ฉันไม่ได้คิดถึง!” เธอแหวเสียงเข้าใส่ สองมือป้ายปาดน้ำตาไปด้วย พร้อมกับมองคนตัดหน้าด้วยแววตาต
“พักนี้ทำไมเหม่อบ่อยจังเลยคะ คิดถึงใครหรือเปล่าเอ่ย?”เป็นคำถามจากคนตรงหน้าที่ทำให้คนที่กำลังเขี่ยจานอาหารไปมารีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วฉีกยิ้ม“เปล่านี่คะ อัญไม่ได้คิดถึงใคร”แต่ก็ยังไม่วายโกหกตาใสเหมือนเดิม“เอ ไอย์ว่าคุณอัญต้องคิดถึงคุณคริสแน่เลย เห็นว่าช่วงนี้เขายุ่ง ๆ นิดหน่อยค่ะ แต่ถึงยุ่งยังไงก็ยังขอให้ไอรดามาอยู่เป็นเพื่อนคุณเพราะเขากลัวคุณจะหนีจากเขาไปไหนอีก”“กลัวหนีแต่ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็น” อัญชิสาลืมตัวบ่นพึมพำ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าหลุดพูดอะไรออกมา เธอรีบส่ายหน้าทันที“อ่า…เปล่านะคะ อัญหมายความว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้าเลยก็ได้ จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากเห็นหน้าเท่าไหร่”ไอรดามองหน้าอัญชิสาแล้วอมยิ้มเพราะคนตรงหน้าเหมือนเธอไม่มีผิด“เอาเถอะค่ะ ไอย์เคยเป็นแบบคุณมาก่อน เคยพูดแบบคุณ เคยรู้สึกแบบคุณ ไม่ยอมรับตัวเอง จนเกือบจะเสียคุณไทเกอร์ไปเหมือนกัน เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะไอย์ไม่รู้ใจตัวเองว่าจริง ๆ แล้วไอย์หลงรักเขาไปตั้งแต่ตอนไหน”“…”“กับความรักบางทีความรักมันก็ไม่มีเหตุผลหรอกนะคะว่าจะเกิดขึ้นช้าหรือไว บทมันจะรักก็คือรัก แต่ถ้ารักแล้วต้องรู้ตัวให้ไวก่อนจะเสียเขาไปให้คนอื่น คุณอัญคิดดูสิ คุณค
-ที่คอนโด-หลังจากกลับมาถึงที่พัก อัญชิสาตรงเข้าไปในห้องนอนทันที เธอยังคงเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จากับ คริสโตเฟอร์เหมือนเดิม แถมเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องของเธออีกต่างหากเดือดร้อนถึงคนที่ไม่เคยมีเมียอย่างคริสโตเฟอร์ต้องโทรไปปรึกษาพาทิศเพื่อนซี้ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมเอดิลอสและกำลังจะแต่งงานกับไอรดาดาราสาวชื่อดังเร็ววันนี้....“ไทเกอร์ มึงทำยังไงวะผู้หญิงถึงยอมแต่งงานด้วย” น้ำเสียงติดจริงจังเอ่ยถาม แต่ปลายสายกลับตอบมาด้วยเสียงหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลก(สัส โทรมาหากูด้วยเรื่องแค่นี้)“แค่นี้เรื่องไร เรื่องซีเรียสเว้ย”(ซีเรียสไรวะ อย่างมึงต้องมียิงเปรี้ยงปร้าง หรือโดนลอบฆ่าโน้นถึงจะเรียกว่าซีเรียส)“เอาดี ๆ กูจริงจัง”(ครับ ๆ คุณเพื่อน แต่เอาจริงนะคนระดับมึงแค่จับผู้หญิงมาแล้วบังคับให้แต่งงานด้วย ง่ายนิดเดียว)“ง่ายพ่อง ถ้าง่ายกูจะโทรมาปรึกษาเสือผู้หญิงอย่างมึงไหม” คริสโตเฟอร์ถอนหายใจหนักอีก เพราะการขอผู้หญิงแต่งงานหรือการมีความรักมันค่อนข้างอยู่นอกสารบบเขาไปหน่อย(สัสครับคุณคริส กรุณาพูดจาดี ๆ ใครเป็นเสือ ถึงกูจะชื่อไทเกอร์ แต่กับเมียกูกูเชื่องเป็นแมวนะครับ)“มึงจะจริงจังกี่โมง?
-ที่โรงพยาบาล-ร่างสูงของมาเฟียหนุ่มยังคงเดินหงุดหงิดงุ่นงานไปมาที่หน้าห้องตรวจ มองนาฬิกาข้อมืออย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งคุณหมอผลักประตูออกมา เขาจึงรีบถลาเข้าไปถามอาการ“เออ...เธอเป็นอย่างไงบ้างครับ”“คุณเป็นญาติของเธอหรือเปล่าครับ”หมอชะงักมองหน้าก่อนจะเป็นถามย้อนกลับ เล่นเอาคริสโตเฟอร์อึ้ง…พูดไม่ออกใช่…เมื่อวานก่อนอัญชิสาก็ถามเขาแบบนี้ และเขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าสถานะที่ให้เธอคืออะไร?แค่..ชอบที่มีดีเธออยู่ใกล้ ๆชอบตอนที่ได้มีอะไรด้วยกันแทบทุกวันมันเหมือนทั้งร่างกายและหัวใจมันได้รับการปลดปล่อย จากงานและหลาย ๆ สิ่งที่หนักหน่วงใช่…เธอคือแบตเตอรี่ของเขา!นึกย้อนถึงตอนที่แม่บ้านโทรมารายงานว่าอัญชิสาเขียนจดหมายลาและทิ้งเงินสดแปดหมื่นไว้ในซองสีน้ำตาลบนหัวนอนหัวใจของเขาก็กระตุกแกว่งขึ้นทันที!เขารีบหยิบไอแพดไล่เปิดเช็กดูกล้องวงจรปิด ทุกจุดที่ชวนให้เขาสงสัย ไล่เหตุการณ์ย้อนหลังไปถึงสาเหตุที่ทำให้อัญชิสาตัดสินใจหลบหนี ก่อนจะพบว่า…เมื่อวันก่อนเธอไปบริษัท ได้เข้าไปคุยอะไรกับเอมม่าบางอย่าง และเธอได้กลับออกมาพร้อมซองสีน้ำตาลที่คาดว่าจะเป็นเงินสด!ทั้งภาพทั้งเสียงพอจับใจความได้ว่าอะไรเป
หน้าท้องแบบราบกระตุกเกร็ง สัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นร้อนที่ถูกปลดปล่อยเข้าภายใน ลมหายใจทั้งสองหอบกระเส่า“ครับ” เป็นครั้งแรกที่เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยเอ่ยตอบ ส่งผลให้คนใต้ร่างร้องไห้อย่างหนัก“คนเลว…ฮรึก...คุณปลอดภัยใช่ไหมคะ ฮือ…”ทั้งโกรธ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงคริสโตเฟอร์ค่อย ๆ ดึงผ้าปิดตาออก มองอัญขิสาที่ร้องไห้จนน้ำตาอาบแก้มไปหมด“ฮรึก คุณปลอดภัยแล้วจริง ๆ ด้วย”“ครับ ขอโทษ” เขาจูบลงที่หน้าผากเธออีกครั้ง“ฉันกลัว กลัวคุณจะตาย ฮรึก ฮือ”“ทำไมถึงกลัวผมจะตาย”“ก็…” อัญชิสาเลือกที่จะเม้มริมฝีปากแทนการที่จะพูดต่อ ดวงตาคู่หวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาฉายแววเต็มไปด้วยตัดพ้อ เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาแกล้งให้เธอกลัว!“ผมสิเพิ่งรู้ตัวว่าจะตายถ้าขาดคุณ”“แต่ ครั้งนี้คุณทำเกินไปมาก!”“อะไรนะ ทำถึงมาก?” คริสโตเฟอร์ยิ้มล้อ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ยิ้มและไม่ได้เล่นด้วยใช่! ต่อให้ยอมรับว่าลึก ๆ เธอหลงชอบคริสโตเฟอร์มากแค่ไหน แต่ครั้งนี้เขาทำเกินไปจริงๆเธอกลัวมาก…“ฉันไม่เล่น ฉันจะกลับ!”“งั้นอาบน้ำกันก่อน” คริสโตเฟอร์แตะหลังมือ แต่โดนอัญชิสาสะบัดมือทิ้งทันที“ไม่ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วทะ
สองมือที่ได้รับอิสระรีบไขว่คว้าหมายจะดึงผ้าปิดตาออก แต่กลับถูกฝ่ามือหนารวบข้อมือเธอเอาไว้ แล้วตรึงสองแขน ก่อนจะดันร่างบางลงไปกับเตียงนอนนุ่ม“ดะเดี๋ยวค่ะ เขาไม่ได้รับอันตรายใช่ไหม คุณแน่ใจว่าปล่อยเขาไปแล้วจริงๆ”เธอยังละล่ำละลักถามชายตรงหน้าอีกครั้ง ทั้งที่ตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่รอมร่อ แต่เธอกลับห่วงคริสโตเฟอร์มากกว่า“อืม...” เขาตอบอีกครั้ง“ฮรึก...ขอบคุณที่ไว้ชีวิตเขา”อัญชิสาโล่งอก แต่กลับร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างหนัก เมื่อรู้ว่าอะไรจะเกิดกับตัวเองในนาทีข้างหน้าเธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างยอมรับชะตากรรม…ในความมืดมิดของผ้าปิดตาที่มองอะไรไม่เห็นกลับรู้สึกได้ถึงฝ่ามือแกร่งของชายแปลกหน้าคนนั้น เข้าสอดประสานเข้าที่เรียวนิ้วทั้งห้าของเธอไว้และ…เขากำลังยกตัวขึ้นคร่อม!ร่างบางไม่ได้ดิ้นรนหรือขัดขืน เพราะนี้เป็นสิ่งที่เธอต้องรับปากชายคนนั้นไว้แล้วว่าต้องแลก!เขา...คลายมืออัญชิสาออกข้างหนึ่ง เมื่อเห็นเธอสงบนิ่ง ก่อนเคลื่อนมือค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของอัญชิสาทีละเม็ด ทีละเม็ด จนความเย็นกระทบร่าง สาบเสื้อเผยแยกออกจากกันเผยให้เห็นเนินหน้าอกภายใต้บราเซียร์ขนาดใหญ่เธอเบือนหน้าหนีร้อ