Share

บทที่ 479

Author: ชวินเป่ยอี๋
นี่เป็นแผนที่เขาสร้างขึ้นตามเงื่อนไขพื้นฐานของหวังหยวน เรียกได้ว่าครอบคลุมและรัดกุมแล้ว!

แต่กลับถูกบอกว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการก่อกบฏเลยสักนิด เขารับไม่ได้หรอก!

หวังหยวนกล่าวว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าสำหรับราชวงศ์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมั่นคง เงื่อนไขที่จำเป็นอันดับแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้คืออะไร"

พวกโจรทั้งหมดตกใจ!

พวกเขาเป็นโจร แค่กล้าก่อกบฏก็พอแล้ว เงื่อนไขที่จำเป็นมันคืออะไรจำเป็นด้วยรึ?

"..."

จ้าวป๋อเซียวสะอึกอีกครั้ง และกำมือคารวะขั้น "เสนาธิการทหารได้โปรดชี้แนะด้วย!"

หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม "สำหรับราชวงศ์ที่มีอำนาจค่อนข้างมั่นคง เงื่อนไขแรกสำหรับการก่อกบฏที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องเป็นปีหายนะครั้งใหญ่ของช่วงปลายราชวงศ์!"

ในการกระจายข้อมูลของคนรุ่นต่อไป มีคนจำนวนมากมานนับไม่ถ้วนที่พูดถึงเกี่ยวกับการกบฏในสมัยโบราณ

เขาเคยเห็นมาบ้างเหมือนกัน

อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ต่างครุ่นคิด หลังจากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย!

หงเยี่ย, เถียนชี, เสี่ยวไท่ซุ่ย และเฮยเมี่ยนจินกังต่างสับสนไปหมด!

“เสนาธิการทหารยอดเยี่ยมจริงๆ!”

จ้าวป๋อเซียวยกนิ้วให้และกล่าวว่า "ในช่ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
ตอนช่วงแรกๆของนิยายนางเอกเล่าให้พระเอกฟังว่าซินแสมาทำนายเธอมีดวงชะตาของนางหงส์พ่อางเอกเลยให้ไปร่ำเรียนความรู้ในวัง มาตอนนี้เริ่มเชื่อมโยงแล้วพระเอกคงได้เป็นฮ่องเต้ราชวงศ์ใหม่ บ้านเมืองในเรื่องเละเทะอย่างที่เห็นคงได้วุ่นวายเร็วๆนี้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 480

    ประโยคนี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่สาดลงมาดับไฟความทะเยอทะยานของทุกคน!ดูเหมือนเป็นเช่นนั้น สุดท้ายแล้วพวกที่ก่อกบฏก็ถูกราชสำนักกวาดล้างทั้งนั้น!ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว เมื่อมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ทางตอนใต้ อ๋องฝูซานก่อกบฏ และยึดครองทั้งสามเมือง และในท้ายที่สุดก็ถูกราชสำนักกวาดล้างไปในที่สุดจ้าวป๋อเซียวผู้คุ้นเคยการศึกษาประวัติศาสตร์ และรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ในช่วงที่ผ่านมา เขาพยักหน้าและถอนหายใจออกมา "แม้ในตอนท้ายของราชวงศ์ คนรวยผู้มีอำนาจลำบากยังไงก็สบายกว่าคนจน หากราชวงศ์ยังพอมีอำนาจอยู่บ้าง ก็ยังสามารถรวบรวมกำลังขึ้นมาได้ กองกำลังเหล่านี้สามารถกวาดล้างผู้ที่ก่อกบฏขึ้นมาก่อน กบฏกลุ่มแรกเหล่านี้ล้วนเป็นมังกรปลอมที่เปิดทางให้มังกรตัวจริง”"ใช่แล้ว!"“คนเราเมื่อมีชื่อเสียงแล้วก็จะนำพาความเดือนร้อนมาสู่ตนเอง!”“คนอยู่ข้างหน้าต้องตายก่อน!”“ต้นไม้ใหญ่โดนลมโค่นหัก!”“มีชื่อเสียงมากไปย่อมดึงดูดความโชคร้าย!”"บังคับให้คนอื่นฝืนใจทำชัด ๆ!"พวกโจรก็มีความคิดเห็นของตัวเองเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดล้วนคิดเหมือนกันกว่าใครออกหน้าก่อนตายก่อน!จ้าวป๋อเซียวกำหมัดของเขาคารวะอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 481

    หูเมิ่งอิ๋งตกตะลึงนิ่งอยู่กับที่ เมื่อเห็นเหลิ่งอวิ๋นผู้อาฆาตแค้น หัวใจของนางก็รู้สึกเหมือนถูกบีบ ในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกเศร้าที่จะไม่ได้เจอคุณชายอีก!ฉึก!ในช่วงเวลาวิกฤติ ลูกธนูหน้าไม้ก็พุ่งเข้ามาปักทะลุหัวใจของเหลิ่งอวิ๋น!ฟึ่บ!เหลิ่งอวิ๋นล้มลงกับพื้น มองปลายลูกศรที่แทงทะลุใจ เลือดสีแดงฉานไหลออกมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวังหูเมิ่งอิ๋งทนไม่ไหว อยากจะก้าวเข้าไปโดยสัญชาตญาณ แต่ถูกทหารผ่านศึกเกราะทมิฬรีบออกมาห้ามไว้ “คุณหนูหู นายท่านสั่งให้พวกข้าแอบปกป้องท่าน เขาบ้าไปแล้ว ท่านจะตกอยู่ในอันตรายหากเข้าใกล้เขา!”หูเมิ่งอิ๋งสะดุ้ง รีบถอยออกไป!สำหรับเหลิ่งอวิ๋น นางทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เป็นหนี้ติดค้างแต่อย่างใดแล้วโดยเฉพาะก่อนที่เหลิ่งอวิ๋นจะตาย เขาต้องการรั้งนางไว้ ซึ่งทำให้หัวใจของนางแทบจะแตกสลาย“เมิ่งอิ๋ง อย่าจากไปเลย ช่วย ช่วยข้าด้วย!”เลือดยังคงไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกลัวตาย เหลิ่งอวิ๋นยื่นมือออกไปไปหาฟางเส้นเดียวที่จะช่วยชีวิตเขาได้หูเมิ่งอิ๋งไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่มองทหารผ่านศึกเกราะทมิฬแล้วพูดว่า “ช่วยเขาได้หรือไม่?”“ปกติแล้วคนจะไม่รอดจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 482

    “อู่จั้งโหว!”เหลิ่งอวิ๋นกัดฟันพูด “เจ้าหลอกลวงข้าอย่างชั่วร้าย!”“สหายชิงเมี่ยนโช่ว ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด!”อู่จั้งโหวถอนหายใจ “หากเจ้าขัดแย้งกับนายท่าน นี่ก็คือชะตากรรมของเจ้า แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้!”เหลิ่งอวิ๋นพูดด้วยความโกรธว่า “ข้าแค่ไว้ใจเจ้า ไม่เช่นนั้นด้วยกำลังทหารของข้า ข้าจะกลัวคนหลอกลวงที่ทำได้แค่เขียนบทกวีไร้สาระได้อย่างไร!”อู่จั้งโหวมองเหลิ่งอวิ๋นที่ยังคงดื้อรั้น แล้วส่ายหน้า!หงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ใหญ่เหลิ่งอวิ๋น เขาไม่ใช่คนหลอกลวง เขาเป็นเสนาธิการทหารที่เอาชนะชาวหวงได้ ร้อยละแปดสิบของชัยชนะในศึกทางตอนเหนือเป็นเพราะเขา แม้แต่แม่ทัพหนุ่มก็ต้องฟังเขา การที่ท่านพ่ายแพ้เขาก็ไม่ใช่เรื่องอยุติธรรม เลิกมั่นใจในตัวเองได้แล้ว!”“อะไรนะ?”เหลิ่งอวิ๋นจ้องมองด้วยความไม่เชื่อปากเล็ก ๆ ของหงเยี่ยเล่าถึงสงครามในเมืองจิ่วซานคร่าว ๆ แล้วถามว่า “ตอนนี้ท่านยังไม่พอใจอะไรอยู่อีก?”“...”เหลิ่งอวิ๋นทรุดตัวลงบนพื้น ความภาคภูมิใจเล็ก ๆ น้อย ๆ หายไปจนสิ้น น้ำตาก็ไหลพรากไม่น่าแปลกใจที่คุณหนูใหญ่เลือกเขา กลับกลายเป็นว่าเขาแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าตัวเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 483

    ดวงตาของหงเยี่ยเป็นประกาย “เช่นนั้นท่านก็หมายความว่า เขาเองก็กำลังเตรียมจะกบฏด้วย!”จ้าวป๋อเซี่ยวหัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้า!หงเยี่ยขมวดคิ้วพูดว่า “แต่เมื่อกี้นี้ เหตุใดเขาถึงพยายามโน้มน้าวเราไม่ให้กบฏ!”“นั่นไม่ใช่การโน้มน้าวใจ นั่นเป็นการบอกเป็นนัย!”จ้าวป๋อเซี่ยวมีท่าทางมั่นใจ ขณะพูดว่า “บัณฑิตอย่างพวกข้ามักไม่พูดตรงไปตรงมา มีความหมายซ่อนเร้นอยู่ในคำพูด สามารถเดาได้ก็ต่อเมื่อพยายามอย่างหนัก จึงจะคิดออก!”“ใช่!”หงเยี่ยที่รู้สึกแบบเดียวกันก็พยักหน้าอย่างแรง “เขาไม่เคยทำอะไรตรงไปตรงมาเลย!”จ้าวป๋อเซี่ยวกล่าวว่า “เสนาธิการทหารกล่าวว่าเขาไม่ต้องการให้เรากบฏ เนื่องจากยังไม่ถึงเวลา แต่เขาก็ยังบอกความลับของการกบฏมากมายแก่เรา หากเขาไม่เคยคิดเรื่องการกบฏ เขาจะคิดออกได้อย่างไร”ดวงตาของกลุ่มโจรเป็นประกาย!จ้าวป๋อเซี่ยวพ่นลมหายใจ “ข้าทุ่มเทให้กับการกบฏมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ความรู้ของข้าก็ยังไม่ดีเท่ากับเสนาธิการทหาร เขายังอายุน้อย แต่เข้าใจความลับของการกบฏจากหนังสือประวัติศาสตร์ เขาต้องเป็นมังกรสวรรค์ที่จะเปลี่ยนแปลงราชวงศ์แน่นอน การกบฏเป็นเรื่องของเวลา”กลุ่มโจรพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 484

    ด้วยร่างอันอ่อนนุ่มและมีกลิ่นหอมในอ้อมแขน และคำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผลดังกล่าว หวังหยวนรู้สึกใจอ่อนลงเล็กน้อย เมื่อเห็นใบหน้างามที่น่าสงสาร แต่ยังคงหันหน้ามองไปที่อื่นด้วยความยากลำบาก “เจ้าเจอหลายเรื่องมามากเกินไป พักผ่อนให้เต็มที่ รอจนกว่าเจ้าจะสงบลงก่อน ค่อยคุยกันอีกครั้ง!”“คุณชาย ท่านคิดว่าข้ามีมลทิน เพราะแต่งงานสามครั้งหรือเปล่า?”คำปฏิเสธนั้นส่งผลให้ร่างกายนุ่มนิ่มของหูเมิ่งอิ๋งสั่นสะท้าน น้ำตาไหลอาบแก้ม ใบหน้างามของนางเป็นดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝน “ข้า ข้า... ฮือฮือ!”เมื่อเป็นเช่นนี้ หวังหยวนก็ทนไม่ไหว เขาก้มศีรษะลงจุมพิตนางเขาไม่ได้เกลียดหูเมิ่งอิ๋งเลย หลังจากเข้าใจการเติบโตและนิสัยของนางแล้ว เขาก็ชอบความมีน้ำใจ และยิ่งสนิทกับนางมากยิ่งขึ้นเขาแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้ควรหารือกับหลี่ซื่อหานก่อน จึงตัดสินใจเลื่อนออกไป และไม่กล้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์“อืม อืม...”“ฮือฮือ...”ทั้งสองโอบกอดแนบชิด!จิตใจกำลังว้าวุ่น ในช่วงเวลาวิกฤติ จู่ ๆ ก็มีคนมาเคาะประตู “พี่หยวน คนจากหุบเขาชิงหลงกำลังจะไปแล้ว พวกเขามาที่นี่เพื่อบอกลาท่าน!”“ก๊อก ก๊อก!”หวังหยวนอ้าปากค้าง หยุดเคลื่อนไหว “บอก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 485

    จ้าวป๋อเซี่ยว อาจารย์จ้าวหลังค่อมกำประสานมือคำนับด้วยความตื้นตันเซี่ยซานหู่ อู่จั้งโหว เถียนชี เสี่ยวไท่ซุ่ย และเฮยเมี่ยนจินกัง ก็ค่อนข้างตื้นตันเช่นกันเดินทางยามค่ำคืนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หมายถึงความยากลำบากในการกบฏ ต้องระวังตัวให้ดี ก็คือบอกให้พวกเขาดำเนินการด้วยความระมัดระวังตราบใดที่เดินทางยามค่ำคืนเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ย่อมจะเป็นวันที่แตกต่างออกไป!คำแนะนำของเสนาธิการทหารคือการให้กำลังใจพวกเขา!หวังหยวนโบกมือ แค่พูดอะไรบางอย่างที่สุดแสนจะธรรมดา เพื่อเตือนให้พวกเขาระวังตัว เหตุใดคนพวกนี้ถึงมีท่าทีแปลกนักทั้งหกคนหันหลังเตรียมเดินจากไป แต่หงเยี่ยยังคงยืนอยู่ข้างหลัง ทำให้เสี่ยวไท่ซุ่ยและเฮยเมี่ยนจินกังหันกลับไปมองบ่อย ๆ จากนั้นจ้าวป๋อเซี่ยว อาจารย์หลังค่อมก็มาลากนางออกไปหวังหยวนมองหงเยี่ยที่เหมือนลังเลที่จะพูด “เจ้ามีอะไรหรือเปล่า?”หงเยี่ยกัดฟันตอบว่า “ข้าได้ยินชิงเหอบอกว่าท่านรักภรรยาของท่านมาก และได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง แล้วเหตุใดท่านถึงทำอย่างนี้กับคุณหนูหู?”นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ จึงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวบางอย่างในห้อง!ความสัมพันธ์ระ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 486

    หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง “วันนี้หากได้สัมผัสกับหิมะด้วยกัน ชาตินี้จะได้อยู่กันไปจนแก่เฒ่า!”ดวงตาคู่งามของหูเมิ่งอิ๋งเป็นประกาย นางซุกตัวแนบชิดเข้าไปในอ้อมแขนของหวังหยวน “เช่นนั้นคุณชายโปรดพาข้าไปยืนท่ามกลางหิมะสักพักเถอะ!”หวังหยวนจับมือเล็กของนาง แล้วพูดว่า “หากผมขาวดั่งหิมะไปด้วยกันได้ โลกนี้จะมีคนทุกข์ได้อย่างไร!”หูเมิ่งอิ๋งหลับตา ขนตางอนยาวของนางสั่นเทา “ด้วยคำพูดนี้จากคุณชาย แม้ว่าเมิ่งอิ๋งจะต้องตายเดี๋ยวนี้ ชีวิตนี้ก็คุ้มค่าแล้ว!”หิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าอย่างหนัก ปกคลุมทั่วทั้งเมืองฝูและอาณาจักรจนขาวโพลนไปหมด!ชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางหิมะตกหนัก ในไม่ช้าพวกเขาก็กลายเป็นเหมือนตุ๊กตาหิมะสองตัว!ผมดำขลับถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว หอมหวานปานน้ำผึ้ง...“พี่ชาย เหตุใดต้องลากข้าออกมา ข้ายังพูดไม่จบ!”เมื่อทั้งกลุ่มออกจากเมืองฝู หิมะก็เริ่มตกหนัก หงเยี่ยเริ่มบ่น“ยายตัวแสบ ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ เจ้ามีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องส่วนตัวของเสนาธิการทหารหรือ! เจ้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเสนาธิการทหารในฐานะอะไร”อู่จั้งโหวที่คอยดูน้องสาวอยู่เสมอพูดอย่างเคร่งขรึม “อย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 487

    “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเป็นคนที่แต่งงานแล้ว จะไปพบปะกับผู้ชายคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร!”หลี่ซื่อหานพูดด้วยความไม่พอใจ “ต่อไปท่านไม่จำเป็นต้องถามข้าเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้อีก แค่ปฏิเสธไปเลย!”เมื่อมาที่เมืองโจว แล้วไม่ได้เจอสามีเลย นางก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย!พี่สะใภ้ใหญ่จัดงานเลี้ยงน้ำชาให้กับหญิงสาว บอกว่าสำหรับคุณหนูจากครอบครัวชนชั้นสูง ใครอยากไปก็เข้าไปร่วมได้ตั้งแต่นั้นมา หลายคนก็ยังคงเชิญนางไปจุดธูปที่วัด จัดชุมนุมกวีนิพนธ์สำหรับสตรี ท่องบทกวี และเพลิดเพลินกับหิมะนางตระหนักดีถึงความคิดของผู้ชายเหล่านั้น นางย่อมไม่มองพวกเขาในทางที่ดี“ซื่อหาน พี่สะใภ้ใหญ่เพียงแค่ชวนเจ้าไปในฐานะเด็ก เหตุใดเจ้าถึงคิดมากนัก”พี่สะใภ้ใหญ่ที่อายุประมาณสามสิบปี มีรูปโฉมงดงาม ดวงตาฉายแววเย่อหยิ่ง “เจ้าคิดว่าเขาจะมาที่เมืองโจวเพื่อตามหาเจ้าจริงหรือ เมืองฝูถึงเมืองโจวอยู่ห่างกันตั้งสี่ร้อยลี้ ระหว่างทางมีโจรขโมยนับไม่ถ้วน เขาอาจเกิดอุบัติเหตุกลางทางได้ แม้ว่าเขาจะมาได้ ครอบครัวของเราก็ยังไม่ยอมรับเขาอยู่ดี”ใบหน้างามของหลี่ซื่อหานกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “สามีของข้ามีความสามารถ เขาได้เขียนบทกวีมีชื

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status